ฉากตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้สีหน้ามั่นอกมั่นใจแต่เดิมของทายาทเศรษฐีทั้งแปดเปลี่ยนไปในพริบตา!
เจียงเส้าชื่อโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว ในเวลานี้โสงจ่านก้าวไปข้างหน้าและตะโกนว่า “พวกแกจะยืนซื่ออีกทำไมเนี่ย!”
“อย่างไรก็ตามพวกแกก็ถือเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงอยู่ ต่อให้ฝั่งตรงข้ามเพิ่มไอ้ขี้เมาเข้าไปอีกคน พวกแกก็ยังมีอีกตั้งหกคน ยังไม่สามารถเอาชนะสองคนนั้นได้หรือ?”
“ใช่! ไปอัดมันให้เละไปเลย!”
เสียงที่แหลมคมของหูคางดังขึ้น “หากใครสามารถจับตัวเซี่ยงเส้าหลงได้ ข้าจะเพิ่มเงินรางวัลให้อีกห้าแสนหยวน!”
ไอ้ขี้เมาปล่อยเซี่ยงเส้าหลง จากนั้นก็ค่อยๆ กวาดมองรอบข้างแล้วซดเหล้าอึกหนึ่ง และเหยียดนิ้วเรียกพวกเขาในขณะที่ร่างกายโซเซไปมา “เข้ามาได้เลย ไอ้ขี้เมาคนนี้จะประลองฝีมือกับพวกแกเอง!”
ปรากฏว่า ในหกคนนั้นไม่มีใครกล้าขยับเลยสักคน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ ทั้งๆ ที่พวกเขายืนอยู่บนพื้นสังเวียนอันเยือกเย็น!
พวกเขามองหน้ากันและกัน ในนั้นมีคนหนึ่งรับแรงกดดันไม่ไว้จึงยกมือคารวะไอ้ขี้เมาและหันหลังเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ!
เมื่อเห็นเขาทำเช่นนี้ คนอื่นๆ ก็ทำตาม ฉากนี้ทำให้ทายาทเศรษฐีทั้งแปดตกตะลึงอย่างมาก!
“เฮ้! พวกแกทำอะไร! เราจ่ายตังค์ไปแล้วนะ!”
ยอดฝีมือคนหนึ่งมองดูพวกเขาอย่างเย็นชา “คุณชายทุกท่านครับ เราสามารถคืนเงินทั้งหมดให้กับพวกท่านได้ แต่ชีวิตของพวกเรามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!”
ปึง!
มือของเจียงเส้าชื่อตบลงบนเก้าอี้อย่างหนัก และด่าอย่างระอุว่า “ก็แค่ทหารกระจอกๆ คนหนึ่งก็สามารถทำให้พวกแกกลัวขนาดนี้ได้ พวกแกเป็นยอดฝีมือห่าอะไรวะ!”
ดวงตาของชายคนนั้นฉายแววเย็นชาทันที เขามองไปที่เจียงเส้าชื่อด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร “คุณเจียงครับ ก่อนที่เราจะมาไม่มีใครบอกเราว่าฝ่ายตรงข้ามยังมีไอ้ขี้เมาอีกคนนี่นา!”
เมื่อเอ่ยถึงชื่อของไอ้ขี้เมาคนนี้ แม้แต่ยอดฝีมือที่โด่งดังระดับโลกอย่างเขายังแสดงสีหน้าหวาดกลัวอย่างเก็บซ่อนไม่อยู่เลย “คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์จะไม่มีวันรู้จักความน่ากลัวของไอ้ขี้เมาหรอก!”
“เหล้าลมจัดหนึ่งถัง ส่งเจ้าลงนรก!”
“พวกเราไม่อยากดื่มเหล้าจัดที่มาจากนรกหรอก!”
หลังจากนั้นเขาก็มองดูพวกเขาด้วยความสงสาร “คุณชายทุกท่านครับ ต่อจากนี้ไปขอให้พวกท่านโชคดีด้วยนะ!”
บรรยากาศประหลาดขึ้นอีกครั้ง และทายาทเศรษฐีทั้งแปดไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสถานการณ์จะมีพัฒนาการที่น่าทึ่งเช่นนี้!
หลังจากที่ช่วยชีวิตทั้งเจ็ดคนได้ ไอ้ขี้เมาพูดอย่างราบเรียบด้วยทีท่าที่คล้ายคนง่วงนอน “คนพวกนี้ คุณต้องการให้พวกเขาตายด้วยวิธีไหน?”
คำพูดเดียวของเขาส่งผลให้ทายาทเศรษฐีทั้งแปดเย็นชาไปทั้งตัว!
พวกเขาเป็นทายาทของมหาเศรษฐีทั้งแปดของเมืองหลวง พูดได้ว่าครอบครัวของทั้งแปดรวมตัวกันก็สามารถที่จะค้ำชูท้องฟ้าครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงได้แล้ว!
แต่ในสายตาของไอ้ขี้เมา พวกเขาก็เป็นเหมือนลูกแพะที่กำลังจะถูกเชือด ขอแค่เซี่ยงเส้าหลงพูดมาคำเดียว ไอ้ขี้เมาก็จะส่งพวกเขาไปลงนรกโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย!
คุณชายทั้งแปดเย็นชาไปทั้งตัว มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงขยับขึ้นเล็กน้อย และกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าฉันก็อยากจะส่งพวกเขาไปลงนรกเช่นกัน แต่พวกเขามีฐานะทางสังคมที่ไม่ธรรมดา หากเราฆ่าพวกเขาอาจทำให้เกิดปัญหามากมายตามมาได้”
พวกเขาเพิ่งจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้ไม่นาน แต่แล้วเสียงของเซี่ยงเส้าหลงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “อย่างไรก็ตาม ในเมื่อพวกเขาบังอาจมาหาเรื่องฉัน หากฉันไม่สร้างความประทับใจให้กับพวกเขาสักหน่อย แล้วฉันจะขอบคุณพวกเขาที่‘พยายาม’ให้ความบันเทิงแก่ฉันขนาดนี้ได้อย่างไรล่ะ! ”
เมื่อเห็นไอ้ขี้เมาเดินโซเซเข้ามาหาพวกเขา เจียงเส้าชื่อและคนอื่นๆ ก็ก้าวถอยหลังไปสองก้าวโดยอัตโนมัติ และพูดอย่างแข็งนอกอ่อนใน “คุณ…คุณจะทำอะไร? รู้ไว้ด้วยว่าเราเป็นทายาทเศรษฐีทั้งแปด …”
“โอ๊ย! ขาฉัน!”
ไอ้ขี้เมาจับเจียงเส้าชื่อด้วยมือเดียว เขาดึงขาเทียมที่ต่อด้วยเหล็กกล้าไร้สนิมออกโดยไม่มีความปรานีใดๆ ส่งผลให้แผลฉีกขาดและเลือดพุ่งออกมาไม่หยุด!
หลังจากนั้นเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชก็ดังไปทั่วพื้นที่ใต้ดินที่ไม่มีแห่งนี้ เซี่ยงเส้าหลงมองทั้งแปดคนที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยสายตาเย็นชา “คราวหน้า อย่าท้าทายฟางเส้นสุดท้ายของฉันอีกเด็ดขาด มิฉะนั้น บทเรียนที่พวกแกจะได้รับจะไม่ใช่เพียงเท่านี้แน่!”
เจียงเส้าชื่อหิ้วขาเทียมที่ถูกไอ้ขี้เมาฉีกออกจากบาดแผลและดิ้นรนที่จะยืนขึ้น เลือดหยดลงบนพ้น เส้นเลือดใต้ผิวหนังพองโตอย่างเห็นได้ชัด และใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!
เขามองด้านหลังของทั้งสองในขณะที่พวกเขากำลังเดินจากไป เสียงคำรามก็ดังก้องไปทั่วพื้นที่ “เซี่ยงเส้าหลง! ฉันจะฆ่าแก!!!”
จูปินที่ใบหน้าบวมปูดยืนขึ้นจากพื้น และพูดขึ้นกะทันหันว่า “ฉันมีวิธี!”
“วิธี? วิธีอะไร? อย่าได้ไม่คุ้มเสียเหมือนคราวนี้อีกแล้วกัน!”
ความหวาดกลัวที่แฝงอยู่ในใจฉายผ่านดวงตาของหูคาง!
เซี่ยงเส้าหลงก็เป็นเหมือนปีศาจร้ายตัวหนึ่ง เขาโดนซ้อมจนกลัวแล้วจริงๆ !
ความเกลียดชังอย่างรุนแรงฉายผ่านใบหน้าของจูปิน “เซี่ยงเส้าหลงมีลูกสาวคนหนึ่ง พวกนายรู้หรือไม่?”
ทุกคนต่างตกตะลึง
“นายหมายความว่า…”
จูปินพูดวิธีการของเขาออกมาอย่างละเอียด เมื่อฟังเขาพูดจบสีหน้าของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป
“ทำเรื่องแบบนี้ ถ้าหากโดนจับได้ขึ้นมา เกรงว่าแม้แต่คนในครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังของเราก็ไม่อาจปกป้องเราได้หรอก…”
“เชอะ! หากเราทำอย่างลับๆ จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน อีกอย่างระดับความเกลียดชังเซี่ยงเส้าหลงของคนที่ปฏิบัติภารกิจนี้ก็คงไม่น้อยไปกว่าพวกเราหรอก!”
ในขณะที่ทุกคนยังคงลังเลอยู่นั้น เจียงเส้าชื่อก็พูดอย่างไร้ความปรานีว่า “ตกลงตามนี้!”
“ทุกคน! ความเกลียดชังระหว่างเรากับเซี่ยงเส้าหลงได้มาถึงจุดที่มีแต่เลือดเท่านั้นที่สามารถล้างมันออกได้!”
“เมื่อห้าปีก่อน เขาเป็นเพียงทหารกระจอกๆ คนหนึ่งเท่านั้น ห้าปีต่อมา เขาเป็นถึงนายพลน้อยที่ถือตราประทับผู้บัญชาการไว้ในมือแล้ว ถ้าขืนปล่อยให้เขาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรายังจะมีโอกาสที่จะแก้แค้นมันอีกหรือ?”
ทุกคนมองหน้ากันแล้วพยักหน้าอย่างดุเดือด!
จะสู้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง!
จากนี้เป็นต้นไประหว่างนายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือกับทายาทเศรษฐีทั้งแปด จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น!
แต่ในเวลานี้ ที่ริมแม่น้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตึกกุ้ยปิน สายลมยามค่ำคืนมีความเย็นเล็กน้อย มองดูไอ้ขี้เมานอนซดเหล้าไปอึกใหญ่บนพื้นอย่างเกียจคร้าน ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงฉายแววเศร้าโศก “พี่สาม ทำ…ทำไมคุณถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?”
ไอ้ขี้เมาหยุดดื่มไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่นในขณะที่ดื่มเหล้าไปอึกใหญ่ “แบบนี้? เป็นแบบนี้มันไม่ดีตรงไหนล่ะ?”
“เมาแล้ว ก็จะลืมทุกอย่างได้ แต่เสียดายตรงที่ไม่ว่าฉันจะดื่มหนักแค่ไหนฉันก็ไม่เมาอยู่ดี…”
“พี่สาม! คุณไม่ควรเป็นแบบนี้! หากพี่รองเห็น…”
“อย่าพูดถึงพี่รองกับฉัน!”
ไอ้ขี้เมาขัดจังหวะเขาอย่างกะทันหัน มันเป็นครั้งแรกที่น้ำเสียงของเขาชัดเจนขนาดนี้ “ปีนั้น! คนที่สมควรตายคือฉัน มันควรเป็นฉัน!
“ถ้าไม่ใช่เพราะขยะไร้ประโยชน์อย่างฉันละก็! พี่รองจะตายได้ยังไง!”
น้ำตาที่ขุ่นมัวหลั่งไหลออกมาจากดวงตาของเทพสังหารที่ทำให้โลกหวาดกลัวคนนี้ “หลายปีมานี้ ฉันเดินทางไปทุกมุมโลก มองหาผู้คนนับไม่ถ้วนและฆ่าคนตายนับไม่ถ้วน แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหนก็ไม่พบไอ้พวกสารเลวนั้นเลย!”
เขาหยุดพูดอย่างกะทันหัน จากนั้นดวงตาก็แดงก่ำทันที “วันเดียวหาไม่เจอ! ฉันก็ฆ่าต่อไป! ต่อให้ฉันต้องตกนรกไร้ขอบเขต ฉันก็ไม่กลัว!”
“ในเมื่อพวกมันอ้างว่าเป็นราชาแห่งราตรี ถ้าอย่างนั้นฉันจะฉีกท้องฟ้ายามค่ำคืนอันไร้ขอบเขตนี้ออกด้วยมือฉันเอง!”
เซี่ยงเส้าหลงรู้สึกปวดใจแวบๆ เมื่อหลายปีก่อนพี่น้องทั้งห้าร่วมเป็นร่วมตายกัน ในระหว่างที่พวกเขากำลังปฏิบัติภารกิจ กองกำลังลึกลับก็ปรากฏตัวขึ้น เพื่อปกป้องพี่น้องคนอื่นๆ พี่รองเสียชีวิตใน สถานที่เกิดเหตุอย่างน่าสลดใจ ตั้งแต่นั้นมา อีกสี่คนที่เหลือก็ต่างแยกกันไปคนละทิศละทาง
พี่ใหญ่กลายเป็นนักธุรกิจ และพี่สามกลายเป็นนักฆ่า แต่เขารู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำไปก็เพื่อเป้าหมายหนึ่งเดียวที่ซ่อนไว้ในใจทั้งนั้น!
การที่บรรลุอุตสาหกรรมของตัวเองให้ดีที่สุด ก็จะมีโอกาสที่จะรู้จักกับกองกำลังอื่นๆ อีกมากมายได้ และสักวันหนึ่ง พวกเขาจะลากตัวพวกกองกำลังลึกลับออกมาเพื่อล้างแค้นให้กับพี่รองอย่างแน่นอน!
รู้ตัวอีกทีเขาก็ตระหนักได้ว่าไอ้ขี้เมาได้ลุกขึ้นและเดินโซเซไปไกลแล้ว เซี่ยงเส้าหลงรีบตะโกนว่า “พี่สาม พี่จะไปทำอะไร?”
ไอ้ขี้เมาไม่ได้หันกลับมา “ฉันเป็นแค่ไอ้ขี้เมาคนหนึ่งเท่านั้น ท้องฟ้าคือบ้านของฉัน และถนนคือเตียงของฉัน นายกลับไปเถอะ!”
เซี่ยงเส้าหลงยืนมองดูเขาค่อยๆ เดินหายไปจากสายตาด้วยความหนักใจ สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจและหันหลังเดินจากไป
ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป ไอ้ขี้เมาก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง มองไปยังทิศทางที่เขาเดินจากไปด้วยแววตาที่แจ่มใสเป็นประวัติการณ์
พึมพำเสียงเบาว่า “เพื่อนรักของฉัน เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น…”
“เส้าหลง! พี่รองได้จากเราไปแล้ว ต่อให้พี่สามต้องตายพี่ก็จะไม่ปล่อยให้นายถูกทำร้ายแม้แต่นิดเดียวอย่างแน่นอน!”
กลับไปที่บ้านของท่านฉิน เมื่อเห็นว่าเซี่ยงเส้าหลงกำลังหมกมุ่นอยู่กับความกังวล อวิ๋นเสว่เหยนจึงไม่จู้จี้ถามเขาอย่างเอาอกเอาใจ ดังนั้นทั้งสองจึงไม่มีการพูดคุยใดทั้งคืนจนถึงในเช้าวันถัดไป อวิ๋นเยนเอ๋องอแงจะไปเที่ยวที่สวนสนุก
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเซี่ยงเส้าหลงอีกครั้ง เขาทิ้งความกังวลเหล่านั้นไว้ข้างหลัง และครอบครัวพ่อแม่สามคนจึงมาถึงที่ Happy Valley ซึ่งเป็นสวนสนุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองหลวง
อวิ๋นเยนเอ๋อที่เพิ่งจะได้มาสวนสนุกเป็นครั้งแรกในครั้งแรกในชีวิต เล่นอย่างเต็มที่ราวกับนกน้อยที่ได้ออกจากกรง
เยนเอ๋อมีช่วงเวลาที่ดีในการเล่นร่วมกับเด็กหลายคนในวัยเดียวกับเธอ สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของเซี่ยงเส้าหลงที่เพิ่งจะประสบความเจ็บปวดจากการจากลาเมื่อวานนี้มีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย!
เวลาใกล้เที่ยง หลังจากที่เที่ยวเล่นมาทั้งวันพวกเขาก็หาที่พักผ่อนได้พอดี กะจะพักผ่อนก่อนแล้วค่อยไปหาอะไรกินในร้านอาหาร
ทั้งสามเบียดเสียดกันนั่งรอบโต๊ะเดียวกัน ส่วนเซี่ยงเส้าหลงก็เล่นกับเยนเอ๋อและดูการแสดงของตัวการ์ตูนที่มีให้เห็นได้ทุกที่ไปด้วย
เมื่อมองไปที่อวิ๋นเยนเอ๋อที่พยายามจะวิ่งออกไปเล่นในขณะที่นั่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา เซี่ยงเส้าหลงเสยผมสั้นเรียบลื่นให้กับเธอด้วยความรักใคร่ จู่ๆ ก็มีเสียงถอนหายใจดังขึ้น “เฮ้อ ……คุณดูสิอวิ๋นเยนเอ๋อของฉันน่ารักตั้งแต่อายุยังน้อย โตขึ้นเธอต้องเป็นสาวสวยแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าใครจะเป็นไอ้หนุ่มที่โชคดีคนนั้น นึกถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ก็อดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้”
อวิ๋นเยนเอ๋อหัวเราะทันที “ทำไมเหรอคะ? แม่อยากให้เยนเอ๋ออยู่เคียงข้างแม่ตลอดไปเหรอคะ?”
เซี่ยงเส้าหลงถอนหายใจและพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันอยากให้เธออยู่เคียงข้างฉันตลอดไป แต่พ่อแม่ทุกคนไม่สามารถที่จะเก็บลูกสาวที่โตเป็นสาวให้อยู่เคียงข้างพวกเขาตลอดไปได้หรอก สักวันหนึ่งก็ต้องมอบพวกเธอให้กับคนอื่นอยู่ดี แต่ฉันต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ ถ้าใครบังอาจทำให้เยนเอ๋อต้องเสียใจฉันจะไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด!”
อวิ๋นเสว่เหยนส่ายหัวอย่างไร้กำลัง และกล่าวอย่างขี้เล่นว่า “เยนเอ๋อมีพ่ออย่างคุณ เกรงว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะแต่งงานในอนาคต!”
อวิ๋นเยนเอ๋อที่กำลังเฝ้าดูอย่างมีความสุขก็พุ่งขึ้นมากอดคอเซี่ยงเส้าหลง และเบ้ปากน้อยแล้วพูดว่า “เยนเอ๋อจะไม่ไปไหน เยนเอ๋อจะอยู่กับพ่อตลอดไป”
“ฮ่าฮ่า…” เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะเสียงดัง และจูบลงที่ใบหน้าของอวิ๋นเยนเอ๋อแรงๆ ทีหนึ่ง “เห็นไหม เจ้าหญิงน้อยของฉันน่ารักขนาดไหน เธอช่างเป็นแก้วตาดวงใจตัวจิ๋วของพ่อจริงๆ!”
หลังจากนั้น เซี่ยงเส้าหลงก็บีบจมูกเล็กๆของอวิ๋นเยนเอ๋อด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว หนูอยากทานอะไรเดี๋ยวพ่อพาไป”
“หนูอยากกิน…อืม มิกกี้เมาส์…”
เด็กน้อยที่กำลังเอียงศีรษะพิจารณาอย่างจริงจังกรีดร้องอย่างกะทันหัน จากนั้นเธอก็กระโดดลงจากตักของเซี่ยงเส้าหลง และวิ่งไปที่กลุ่มการ์ตูน-มาสคอตที่กำลังแห่ขบวนมาทางพวกเขา
เซี่ยงเส้าหลงรีบตะโกนด้วยความตกใจ “อย่าวิ่งไปไกลนะ!”
จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว “เมื่อกี้นี้อย่างหวานแหววกันอยู่เลย แค่มาสคอตตัวเดียวก็ถูกลักพาตัวไปซะแล้ว”
อวิ๋นเสว่เหยนมองดูมาสคอทนาดใหญ่แปดหรือเก้าตัวที่รายล้อมไปด้วยเด็กกลุ่มใหญ่ และพูดด้วยรอยยิ้ม “เยนเอ๋อชอบการ์ตูน-มาสคอตเหล่านี้ตั้งแต่เธอยังเด็ก เพียงแต่เมื่อก่อน…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ดวงตาของเธอก็ฉายแววเศร้าโศก และเซี่ยงเส้าหลงก็รับรู้โดยธรรมชาติ รู้ว่าในวันที่ไม่มีเขาอวิ๋นเสว่เหยนและเยนเอ๋อได้รับความเดือดร้อนมามากมายแค่ไหน เขาถอนหายใจเบาๆ และยกมือไปกอดอวิ๋นเสว่เหยน ร่างกายของอวิ๋นเสว่เหยนสั่นสะท้านเล็กน้อย เธอไม่ได้ขัดขืนเพียงแค่ซุกหัวลงที่ไหล่ของเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“เหยนเหยน หลังจากที่เรากลับไป ฉันจะพาคุณไปพบครอบครัวของฉัน ดีไหม?”
ใจของอวิ๋นเสว่เหยนสั่นไหวแวบๆ เซี่ยงเส้าหลงไม่เคยบอกเธอว่าเขามีสมาชิกในครอบครัว เขาพูดขึ้นมากะทันหันแบบนี้ แสดงว่า…
ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็แดงดั่งก้อนเมฆยามเย็นและอ่อนโยนดั่งสายน้ำ เธอพยักหน้าอย่างแผ่วเบา “โอเค!”
ในขณะที่เซี่ยงเส้าหลงกำลังจะพูดอะไรที่หวานแหววกว่านี้ การ์ตูนตัวหนึ่งในขบวนการ์ตูน-มาสคอตอยู่รอบตัวเขาสะดุดล้มอย่างกะทันหัน และฝูงชนที่อัดแน่นอยู่แล้วก็เกิดจลาจลทันที
ทันใดนั้นผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนก็เบียดเสียดกันไปมา และเสียงกรีดร้องก็ดังสนั่นไปทั่ว สีหน้าของเซี่ยงเส้าหลงเปลี่ยนไปทันที เขาลุกขึ้นยืนทันที ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบๆด้วยความวิตกกังวล
อวิ๋นเสว่เหยนยืนขึ้นอย่างสงสัย “คุณมองหาอะ …”
ทันใดนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปราวกับว่าเธอตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างได้ “เยนเอ๋อ? เยนเอ๋ออยู่ที่ไหน!”