มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake – บทที่ 1613

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1613

ภายใต้การแผดเผาของเปลวเพลิงทำให้ปริภูมิบิดเบี้ยวถูกทำลาย เงาดาบปริภูมิที่หลัวซิวฟันออกมา ก็ได้ถูกแผดเผาสลายไป

“น่าสนใจแฮะ พลังอมตะเพลิงอัคคีของตระกูลจู้ไม่เลวเลย”

หลัวซิวยกมือขึ้นแล้วซัดออกไปหนึ่งฝ่ามือ ในฝ่ามือแฝงไว้ด้วยกฎความตาย ภายใต้การกดทับของพลังฝ่ามือสีดำ ได้ทำให้เปลวเพลิงทั้งหมดสลายไปอย่างไร้ร่องรอย

พลังอมตะถูกทำลายไป สีหน้าของนักยุทธ์ตระกูลจู้ซีดเซียวลงไปทันที เลือดไหลออกมาที่มุมปาก ร่างก้าวถอยหลัง เมื่อมองไปหาหลัวซิวอีกครั้ง ในสายตาแฝงไปด้วยความหวั่นgกรงและตะลึงกลัว

“กฎความตายขั้นสี่?”

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า คนผู้นี้จะสามารถฝึกฝนกฎทั้งสองชนิดให้มาถึงระดับที่สี่ในเวลาเดียวกัน

ทว่าเขากลับไม่รู้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความสามารถส่วนหนึ่งของหลัวซิวเท่านั้น สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาก็คือผลการฝึกตนเวทย์ในแดนเทพมารก็สามารถทัดเทียมได้กับราชาเทพ รวมทั้งร่างยุทธ์ร่างเนื้อที่สามารถทัดเทียมราชาแห่งศัสตราวุธได้!

“ผู้เพื่อนยุทธ์ท่านนี้มีผลการฝึกตนลึกล้ำ ข้าน้อยจู้ซิง คราวหน้าหากมีโอกาสค่อยขอคำชี้แนะกับผู้เพื่อนยุทธ์อีกครั้ง ขอลา!”

ชายวัยกลางคนกำหมดโค้งคารวะ จากนั้นร่างกายก็ก้าวถอยหลังไป สายตากลับจับจ้องหลัวซิว ระวังไม่ให้เขาลงมือ

“ข้าให้เจ้าไปได้แล้วหรือ?” ไอสังหารปรากฏขึ้นมาในดวงตาของหลัวซิว คนผู้นี้ได้ลอบทำร้ายตนก่อน กลับคิดจากไปเมื่อพบว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตน แบบนี้มันได้ด้วยหรือ?

“ผู้เพื่อนยุทธ์หมายความเยี่ยงไร? หรือว่าคิดจะเป็นศัตรูกับตระกูลจู้ของข้าอย่างนั้นหรือ?” จู้ซิงทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา กล่าว: “แม้ว่ากฎที่เจ้าควบคุมอยู่นั้นจะร้ายกาจ ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ถ้าหากคิกหนี เจ้าเองก็รั้งข้าไว้ไม่ได้ แต่หลังจากออกไปจากตำหนักโบราณแห่งนี้ เจ้าจะต้องเผชิญกับการไล่ล่าจากตระกูลจู้ของข้า!”

“ต่อให้เป็นอาจารย์มกุฎเทพของตระกูลจู้ของเจ้ามาที่นี่ ก็ต้องมีจุดจบเพียงว่าถูกข้าต่อยตายเท่านั้น!”

หลัวซิวมีท่าทางเย้ยหยัน วินาทีที่เขาก้าวเท้าเดินออกไปข้างหน้า ภายใต้การขับเคลื่อนผลการฝึกตนของเขา พลังแห่งค่ายดาราสิบแปดดวงได้ระเบิดออกมา เวทย์มหึมารวมตัวกันเป็นกระแสพลังมหึมา ทรงพลังอย่างสุดขีด สะเทือนไปทั่วสารทิศ

“เจ้า……เป็นไปไม่ได้!”

ชายวัยกลางคนที่นามว่าจู้ซิงตกตะลึงหน้าถอดสี รัศมีพลังที่อีกฝ่ายแสดงออกมานั้นเห็นได้ชัดว่าสามารถทัดเทียมกับราชาเทพได้ อยู่ในตำหนักโบราณแห่งนี้ทุกคนต่างต้องถูกกดให้อยู่ในเทพมาร หรือว่าเขาไม่ถูกกดเลยอย่างนั้นหรือ?

“หรือว่า เดิมทีเขาก็อยู่แดนเทพมารดังนั้นจึงไม่ถูกกด แต่พลังของเขากลับสามารถทัดเทียมได้กับราชาเทพ?”

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ ภายในใจของจู้ซิงหวาดผวาจนถึงขีดสุด ต่อให้เป็นยอดอัจฉริยะจากสามสำนักหกตระกูล ก็เป็นไปไม่ได้ที่แดนเทพมารจะสามารถทัดเทียมกับแดนราชาเทพได้ คนผู้นี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่?

“หากเจ้าสามารถรับพลังอมตะของข้าโดยที่ไม่ตายได้ ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป”

พลังเวทย์ของทั้งร่างถูกเปิดออกมาทั้งหมด หลัวซิวยกมือวาดมือแสดงเคล็ดวิชา ซัดลำแสงที่มีรูปขวานอันสว่างไสวออกมา

ตราเปิดฟ้า!

ในแสงขวานแฝงไว้ด้วยปรากฏการณ์ตรีภพเปิดทาง ในเสี้ยวความเป็นตาย จู้ซิงตวาดออกมาหนึ่งครั้ง อ้าปากสูด กลืนกินมังกรอัคคีที่รายล้อมอยู่รอบแขนเข้าไป เกล็ดมังกรปรากฏขึ้นมาบนร่างกาย กลายเป็นครึ่งคนครึ่งมังกร ขณะเดียวกันนั้นก็ได้ล้วงเอาหอกรบอัคคีเล่มหนึ่งออกมา ซึ่งเป็นของขลังระดับราชาแห่งศัสตราวุธชิ้นหนึ่ง

เสียงร้องคำรามสั่นสะท้านไปทุกทิศทุกทาง เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากปากของจู้ซิง ร่างกายของเขาสะท้าน ถูกแสงขวานที่เกิดจากการรวมตัวของตราเปิดฟ้าฟันออกเป็นสองท่อน เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจำนวนมาก ร่างกายไร้วิญญาณที่ชำรุดร่วงหล่นลงมากลางอากาศ

หากผลการฝึกตนของเขาไม่ได้ถูกกดบังคับ บางทีเขาอาจจะทนรับพลังอมตะนี้ของหลัวซิวเอาไว้ได้

แต่ในที่แห่งนี้ อย่างมากเขาก็แสดงพลังที่ทัดเทียมกับเทพฟ้าออกมาได้เท่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าหลัวซิว ก็เป็นเหมือนดั่งมดเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง

หลัวซิวยื่นมือออกไปคว้า เก็บเอาแหวนเก็บของและหอกรบอัคคีของอีกฝ่ายมา จากนั้นก็ดีดนิ้วมือ ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกไป ฟันร่างไร้วิญญาณของคนผู้นั้น เพื่อเก็บเอาช่องจิต

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท