ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 425 เขามิอยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร
เฟิ่งจงฉวนตอบทันควัน “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”
ชีกุ้ยเฟยเลิกคิ้วขึ้น มองเฉินเป่าฉวนที่หมอบอยู่กับพื้นนิ่งเงียบ ลอบครุ่นคิด
ส่วนฮองเฮาเมื่อได้ยินว่าหนานชิงชิงก็ต้องเข้าวัง ก็ขมวดคิ้ว
เรื่องฉาวโฉ่เช่นนี้ไม่จำเป็นต้องเอามาเปิดเผย จะได้ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ซึ่งเฉินเป่าฉวนนี่ดูเหมือนลุแก่โทษ แต่กลับทำให้เรื่องแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
โจมตีเฉิงเซี่ยงกับพระชายาเฉิงแล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไรกัน
จู่ๆ ฮองเฮาก็คิดถึงเรื่องที่มหาบัณฑิตคือลูกพี่ลูกน้องของชีกุ้ยเฟย
นางเหลือบมองชีกุ้ยเฟยอย่างครุ่นคิด ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
หรือว่า…
มีคลื่นใต้น้ำในวัง และจวนเฉิงเซี่ยงในตอนนี้ ก็มีสถานการณ์ตึงเครียดเช่นกัน
“นายท่าน นายท่านได้โปรด ได้โปรดอย่าตีอีกเลย วันนี้หม่อมฉันสำส่อน เป็นหม่อมฉันผิดเอง แต่หม่อมฉันก็ถูกผู้อื่นปองร้ายอ๊ะ…” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงคุกเข่าอยู่บนพื้นจมูกฟกช้ำใบหน้าบวมเป่ง ใช้มือทั้งสองข้างจับแขนเสื้อหนานฉีซาน
นางยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหนานฉีซานเตะเข้าที่หน้าอกอีกครั้ง จนกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง พร้อมกับกรีดร้องออกมา
หลังหนานฉีซานรู้ว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงหลับนอนกับเฉินชิงเยี่ยน ก็โกรธจนแทบตายแล้ว พอเห็นท่าทางฮูหยินเฉิงเซี่ยงเช่นนี้ ก็ยิ่งปะทุความโกรธ หลังกลับจวน จึงเอาแต่เตะต่อยนาง
“เจ้ามันแพศยา! วันนี้ทำให้หน้าตาจวนเฉิงเซี่ยงของข้าอับอายขายหน้าหมดแล้ว! ยังจะมีหน้ามาให้ข้าไว้ชีวิตเจ้าอีกรึ สตรีต่ำต้อยเช่นเจ้า ประพฤติตัวเหมือนอีเหนียงสามคนนั้น ตายไปก็ไม่เสียดาย! ยิ่งไม่สมควรเป็นนายหญิงของจวนเฉิงเซี่ยง!”
เมื่อได้ยินหนานฉีซานพูดว่าอยากให้นางตาย ฮูหยินเฉิงเซี่ยงทนความเจ็บปวดรุนแรงทั่วร่างกาย รีบกระเกียดตะกายขึ้นจากพื้น น้ำมูกน้ำตาไหลอาบหน้า พลางเอ่ยอ้อนวอน
“ไม่ อย่านะนายท่าน! แม้หม่อมฉันจะไม่มีความดีความชอบแต่ก็มีการตรากตรำทำคุณ ขอร้อง ขอร้องท่านเห็นแก่ที่ข้าคลอดชิงชิงให้ท่าน ทั้งบุตรชายอย่างเจ้าสี่นี้ ไว้ชีวิตหม่อมฉันเถอะเจ้าค่ะ!”
“ได้โปรด! ท่านดูชิงชิงทั้งโดดเด่นและรู้ความขนาดนั้น แม้เจ้าสี่จะอายุน้อย แต่ก็มีพรสวรรค์เฉลียวฉลาด วะ วันนี้หม่อมฉันถูกคนวางกลอุบายใส่ ถึงได้เป็นเช่นนี้นะเจ้าคะ!”
หนานชิงชิงที่ยื่นอยู่ด้านข้าง มือทั้งสองข้างจับแขนเสื้อไว้แน่น
นางมองฮูหยินเฉิงเซี่ยงที่หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปมาก เสื้อผ้ายุ่งเหยิง มีรอยฟกช้ำทั่วตัว กระอักเลือดแต่ละครั้ง รู้สึกไม่สบอารมณ์ในใจอย่างมาก
แม้วันนี้มารดาของนางจะชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปแล้ว แต่ชั่วดีอย่างไรพวกนางก็เป็นแม่ลูก ฮูหยินเฉิงเซี่ยงมีของดีอะไรก็คิดถึงนางเสมอ ถึงอย่างไรนางก็ไม่อาจเบิกตามองฮูหยินเฉิงเซี่ยงตายไปได้ ยิ่งไม่อาจมองท่านแม่ของนางสูญเสียฐานะฮูหยินเฉิงเซี่ยงไปได้
สุดท้ายแล้วท่านแม่ของนาง จะเป็นอนุภรรยาสถานะต่ำต้อยได้อย่างไรกัน
ต่อให้ต้องตายจริงๆ งั้นก็ต้องเอาตำแหน่งฮูหยินเฉิงเซี่ยงฝังลงไปด้วย!
“ท่านพ่อ วันนี้ท่านแม่ทำผิดจริง ท่านจะลงโทษหนักไม่ว่าจะด้วยอารมณ์หรือมีเหตุผล แต่ท่านแม่ไม่อาจไม่ใช่นายหญิงของจวนเฉิงเซี่ยงได้ หวังว่าท่าจะมีสติหน่อย”
หนานฉีซานเดือดดาลมาก จนอยากตบบ้องหูหนานชิงชิงจริงๆ
เขาเลี้ยงดูบุตรสาวเหล่านี้ เดิมก็ทำเพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์ และเกลียดคนที่ก่อเรื่องสร้างปัญหาให้เขาที่สุด
แต่ฮูหยินเฉิงเซี่ยงโง่เขลาเบาปัญญา สร้างปัญหาให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้หนานชิงชิงก็ไม่มีความสามารถเท่าหนานหว่านเยียน ปีนขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นไม่ได้ แต่กลับกล้าชี้มือชี้ไม้ใส่เขา เขาเริ่มเกลียดแม่ลูกคู่นี้แล้ว
ทำเรื่องสำเร็จไม่ได้ แต่เรื่องล้มเหลวกลับทำได้เหลือเฟือ
เขาตวาดเสียงเย็น “วันนี้เจ้าอยู่ที่จวนกั๋วกง ทำไมไม่อยู่กับนางให้ดี ก่อปัญหาเช่นนี้ให้ข้าโดยไม่มีเหตุผล หากฝ่าบาทกับพวกขุนนางราชสํานักรู้เข้า เจ้าเข้าใจผลที่ตามมาหรือไม่!”
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงผู้สง่างามไปยุ่งกับบุตรชายของขุนนางขั้นสี่ ทั้งคนที่รู้เรื่องวันนี้ก็มากขนาดนั้น หน้าแก่ๆ ของเขาจะเอาไปไว้ที่ไหนได้!
หนานชิงชิงสูดหายใจเข้าลึก ปกป้องฮูหยินเฉิงเซี่ยงที่หายใจรวยรินอยู่ข้างหลัง
“เรื่องพวกนี้ยังไม่ถึงพระกรรณเสด็จพ่อ ท่านพ่อ ท่านแม่ดูแลจวนเฉิงเซี่ยงมาหลายปีขนาดนี้ แม้ผิดพลาดบ้างครา แต่ก็ช่วยท่านแบ่งเบาภาระภายในจวนมิใช่หรือ”
“ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงข้า ก็ควรคำนึงถึงน้องสี่ เขายังไม่รู้ความ หากไม่มีท่านแม่ตั้งแต่เล็กเช่นนี้ ท่านแข็งใจได้หรือ”
ฝ่าบาทจะไปสนใจเรื่องไม่เข้าเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร มากสุดท่านพ่อก็เป็นเพียงตัวตลกของราชสำนัก เดี๋ยวเดียวก็ผ่านไปแล้ว เรื่องสำคัญที่สุด คือต้องรักษาตำแหน่งท่านแม่ของนาง
หนานฉีซานวางมือลง ขมวดคิ้วหรี่ตาจ้องมองหนานชิงชิง
ที่จริงเขาคิดจะให้ฮูหยินเฉิงเซี่ยงกลับไปเป็นอนุภรรยา และคิดจะสั่งให้ตายโดยตรง
แต่ที่หนานชิงชิงพูดก็ไม่ผิด ไม่ว่าฮูหยินเฉิงเซี่ยงจะไร้ประโยชน์เพียงใด ก็ยังคลอดบุตรชายให้เขา ทั้งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของหนานชิงชิง
แม้จะเทียบกับโม่หวิ่นชิงตอนนั้นไม่ได้แม้แต่น้อย แต่ก็ดูแลและควบคุมได้ดี…
ดวงตาของเขาปรากฏแววทะมึน กำลังจะเอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าดังกระชั้นมาจากประตู
ต่อมาเฟิ่งกงกงก็เดินเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ เหลือบมองหนานฉีซานอย่างมีเลศนัย “ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการ…เรียกหนานเฉิงเซี่ยงฮูหยินเฉิงเซี่ยงและพระชายาเฉิงเข้าวังทันที!”
ทำไมฝ่าบาทถึงให้พวกเขาเข้าวัง!
หรือว่าฝ่าบาททรงทราบเข้าแล้ว
หนานฉีซานกับหนานชิงชิงต่างผงะเล็กน้อย
“กระหม่อมรับพระราชโองการ” หนานฉีซานคุกเข่าลงรับพระราชโองการ แล้วลุกขึ้นรีบเดินออกไป
หนานชิงชิงเหลือบมองฮูหยินเฉิงเซี่ยงสีหน้าทั้งสองต่างเคร่งขรึม
ฮูหยินเฉิงเซี่ยงน้ำตาคลอ หนานชิงชิงขมวดคิ้ว “เข้าวังไปดูกันก่อนเถอะ”
นางประคองฮูหยินเฉิงเซี่ยงที่เต็มไปด้วยรอยแผล เดินตามหนานเฉิงเซี่ยงไป แต่หน้าตากลับมีความกังวลอยู่ตลอด
มักรู้สึกว่า เรื่องราวท่าไม่ดีแล้ว…
ดวงดาราประดับประดาบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ภายในตำหนักหย่างซินแสงเทียนส่องสว่าง
ฮ่องเต้ใช้มือนวดขมับ ดวงตาของปิดเล็กน้อย สีหน้ายากจะหยั่งถึงทำให้ผู้คนมองไม่ออกว่าทรงคิดอะไรอยู่
ชีกุ้ยเฟยจิบชาช้าๆ ส่วนฮองเฮามองเฉินเป่าฉวนที่ไม่กล้าขยับตัวด้วยสีหน้าหนักอึ้ง
หลายคนต่างคนต่างคิด และไม่มีใครเอ่ยปาก รอคอยอย่างเงียบๆ
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง หนานฉีซานขมวดคิ้วเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่เห็นเฉินเป่าฉวนคุกเข่าอยู่บนพื้น ดวงตาพลันเย็นชา
หรือเขาเป็นคนบอก
เมื่อเก็บอารมณ์แล้ว เฉิงเซี่ยงก็คุกเข่าลงอย่างนอบน้อมเอ่ยกับกู้จิ่งซาน “กระหม่อม ถวายพระพรฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”
หนานชิงชิงเห็นบรรยากาศในตำหนักใหญ่ไม่ดี ก็ดึงฮูหยินเฉิงเซี่ยงคุกเข่าลงทันที “ลูกถวายพระพรเสด็จพ่อเพคะ!”
“หมะ หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ!”
กู้จิ่งซานลืมตาขึ้นทันใด พระเนตรเหมือนมีดกรีดใบหน้าที่นอบน้อมของหนานฉีซาน “หนานเฉิงเซี่ยงเจ้ามีความผิด!”
น้ำเสียงของเขาน่าเกรงขาม เสียจนทำให้อากาศสั่นสะเทือน
หนานฉีซานขมวดคิ้ว พูดด้วยใบหน้าหวาดกลัว “กระหม่อมแปลกใจมาก! ฝ่าบาท มิทราบว่า กระหม่อมทำผิดอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
กู้จิ่งซานหัวเราะเยาะ เฉินเป่าฉวนพลันมองทางหนานฉีซานด้วยความลำบากใจทันที
“หนานเฉิงเซี่ยงแม้ลูกทำให้ฮูหยินเฉิงเซี่ยงแปดเปื้อน ทำผิดครั้งใหญ่ แต่หากไม่ใช่เพราะท่านให้สัญญาก่อน กล่าวว่าขอเพียงลูกทำให้พระชายาอี้แปดเปื้อน ก็จะให้ตำแหน่งขุนนางกับลูก เขาก็คงไม่มีทางเดินทางผิดเช่นนี้!”
“หลักฐานแน่ชัดที่ฮูหยินเฉิงเซี่ยงมอบให้ หม่อมฉันก็ถวายให้ฝ่าบาทแล้ว เรื่องมาถึงจุดนี้ ท่านควรบอกความจริง หยุดปิดบังเสียที”
ร่างฮูหยินเฉิงเซี่ยงพลันอ่อนปวกเปียกทรุดตัวลงกับพื้น ส่งเสียงดังปึง มองหนานชิงชิงด้วยความหวาดกลัว
เป็นไรได้อย่างไร เฉินเป่าฉวนเอาเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยได้อย่างไร
นี่มันความผิดมหันต์เลยนะ! เขามิอยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร!
หนานชิงชิงหลั่งเหงื่อเย็นทั่วกาย คิดหามาตรการรับมืออยู่ตลอด
สีหน้าหนานเฉิงเซี่ยงเปลี่ยนเป็นดำทะมึนขึ้นมามองทางฮูหยินเฉิงเซี่ยงที่หลั่งเหงื่อเย็นอย่างดุร้าย
คิดไม่ถึงว่านางจะให้เฉินชิงเยี่ยนไปหลับนอนกับหนานหว่านเยียน?!
ทั้งยังใช้ตำแหน่งขุนนางทำสัญญา ด้วยชื่อของเขา?!
โง่เขลาเสียนี่กระไร!
นี่มันช่างไล่ต้อนเขาให้ตายจริงๆ…
