ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 304 โจมตีกลับ [รีไรท์]

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนที่ 304 โจมตีกลับ [รีไรท์]

ค่ายกลผนึกสวรรค์แตกสลายไปแล้ว

พลังต่อต้านอันใหญ่ยักษ์ของผู้อาวุโส และอาจารย์หลายท่านก็พากันร่วงหล่นลงมา!

แม้แต่เยี่ยจือถิงก็ยังต้องก้าวถอยหลัง

หอคอยจิ่วโยวในตอนนั้นถูกลำแสงนับไม่ถ้วนปกคลุมอยู่ทำให้ทุกคนตาลายไปหมด

แต่เมื่อคนที่อยู่ในที่ตรงนั้นเห็นท่าทีแบบนี้แล้วก็รู้สึกกลหวาดกลัวทันที

ค่ายกลผนึกสวรรค์แตกสลายแล้ว ถ้าอย่างงั้นก็คงไม่สามารถจัดการอสูรร้ายในหอคอยตัวนั้นได้อีกต่อไปแล้ว

“ท่านอาจารย์ลุง ตอนนี้ควรทำเช่นไรดี!”

ซุนจ้งเหยียนรีบเอ่ยปากถาม

เยี่ยจือถิงกลืนน้ำลายที่มีกลิ่นคาวเลือดลงไป

“เร็วเข้า รีบฟื้นฟูค่ายกลผนึกสวรรค์!”

ภายในหอคอยจิ่วโยว

ฉู่หลิวเยว่ได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันก็เห็นลำแสงนั้นฝ่าลงมาอย่างรุนแรงลงมาบนยอดหอคอยอย่างจัง

บนผนังของหอคอยก็มีลำแสงนับไม่ถ้วนเกิดขึ้น ก่อนจะพุ่งเข้าไปในหม้อยาสีใสใบนั้น

ไม่นานตำแหน่งตรงกลางของหม้อยาใสใบนั้นก็ปรากฏรูปอย่างชัดเจน

ฉู่หลิวเยว่นิ่งไป

ตัวหนังสือตัวนี้…

อ๊าก!

ทันใดนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องแสบแก้วหูเกิดขึ้นจากร่างวิญญาณสีดำที่อยู่ในหม้อยาใสใบนั้น

ต่อมา มันก็กระพือปีกแล้วพุ่งมายังฉู่หลิวเยว่ ถวนจื่อรีบกันอยู่ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่ทันที ปีกอันใหญ่ยักษ์ก็พัดผ่านไปแล้วพลังอันน่ากลัวก็บินมากระทบถวนจื่อ

ฉู่หลิวเยว่รีบกอดถวนจื่อเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด จากนั้นจึงโบกมือ

จากนั้นก็มีผนังกั้นโปร่งใสปรากฏขึ้นตรงหน้าทันที

ตูม!

เปลวไฟสีดำนั้นกระทบเข้ากับกระจกในอย่างจัง

ครั้งนี้เหมือนว่าเปลวไฟสีดำจะมีพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น

ทั้งสองฝ่ายชะงักไปสักพัก ก็มีรอยร้าวเกิดขึ้นบนกระจกใส

ดวงตาของนกอินทรีสีดำยักษ์เต็มไปด้วยแววตาที่อาฆาต และบ้าคลั่งจึงใช้กรงเล็บอันแหลมคมตบตามมาอย่างดุเดือด

เพล้ง!

กระจกใสแตกกระจายทันที ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้น กรงเล็บที่แหลมคมจ่ออยู่ตรงหน้า และกำลังจะข่วนลงมาฉีกร่างของนาง!

นางถอยหลังอย่างไม่ลังเล ก่อนจะโบกอีกครั้ง

เปลวไฟสีแดงลูกหนึ่งจึงปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของนาง จากนั้นก็หลอมรวมกลายเป็นผนังป้องกันใหญ่ยักษ์อย่างรวดเร็ว!

ตูม ตูม!

เปลวไฟมั้งสองก็ปะทะเข้าด้วยกันทันที!

เกิดประกายไฟกระจายไปทั่ว!

คลื่นพลังที่น่ากลัวแพร่กระจายออกไป ฉู่หลิวเยว่ก็กระเด็นออกไปชนกับกำแพงจนเกิดเสียงดัง

“ตึง!”

นางนิ่งไปสักพักก็รู้สึกว่าอวัยวะภายในของนางบวมช้ำไปหมดแล้ว และกำลังจะระเบิดออกมา!

ในขณะเดียวกัน หรงซิวที่อยู่ในหอคอยจิ่วโยวเหมือนกับนางก็กำลังขึ้นจากชั้นที่หกมายังชั้นที่เจ็ดแล้ว

เมื่อเห็นรั้วกั้นของชั้นที่เจ็ดแตกกระจายอยู่ ในแววตาของหรงซิวก็เหมือนรู้ทันทีว่าใครเป็นคนทำเรื่องที่ดีนี้ไว้

เปลวไฟสีดำรอบๆ เริ่มลุกลามมายังชั้นที่เจ็ด

เพียงแต่ตอนนั้นตอนที่หรงซิวผ่านมา เปลวไฟเหล่านั้นกลับพากันหลีกทาง

หรงซิวจึงยกเท่าขึ้น และกำลังจะขึ้นไปข้างบนต่อ

ทันใดนั้นก็มีลำแสงนับไม่ถ้วนส่องลงมา และเริ่มซ่อมแซมกำแพงกั้นอย่างรวดเร็วทันตาเห็น

เพียงพริบตาเดียว รั้วกั้นนั้นก็เสร็จสมบูรณ์ทันที แววตาของหรงซิวนิ่งไป แต่มุมปากกลับมีรอยยิ้มที่เย้ยหยันเผยออกมา

“เจ้าคิดจะห้ามข้ารึ?”

ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ มีเพียงเปลวไฟสีดำที่ค่อยๆ เข้าปกคลุม ซึ่งแบบนี้ก็หมายความว่าไม่อยากหรงซิวขึ้นไปยังชั้นที่เจ็ด แววตาของหรงซิวจึงเกิดความอาฆาตขึ้นมา เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นก่อนจะชี้นิ้วออกไป แล้วพลังข่มขู่อันน่ากลัวก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

จากนั้นขณะที่มือของเขากำลังลดลงไปยังรั้วกั้น จู่ๆ เขาก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

เขาหลับตาลง เหมือนกำลังตั้งใจฟังอันใดสักอย่าง

ต่อมา เขาลืมตาขึ้นก่อนที่คิ้วจะกระตุกแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่คึกคะนองทันที

“ที่จริงแล้ว…ก็เป็นแบบนี้นี่เอง…”

เขาค่อยๆ ขยับฝ่ามือแล้วพลังจิตของเขาก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

จากนั้นพลังเหล่านี้ก็แข็งตัวดันอยู่นอกรั้วกั้นนั้นอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ก่อตัวกลายเป็นกระบอกลำแสงที่หนาเท่าลำแขนของคน

เมื่อมองออกไปข้างนอก ก็เหมือนประตูกรงขนาดใหญ่ที่ปิดชั้นเจ็ดจนหมด

มุมริมฝีปากสีแดงของเขาค่อยๆ ยกขึ้น ราวกับว่ากำลังรอชมการแสดงสนุกบางอย่างอยู่

ภายในชั้นที่เจ็ด

ฉู่หลิวเยว่นวดไหล่ของตัวเองเบาๆ

เพราะตอนที่นางชนเข้ากับกำแพงเมื่อครู่นี้ เหมือนว่ากระดูกหัวไหล่ของนางได้แตกไป

แต่ยังดีเปลวไฟสีแดงได้ก่อรั้วกั้นเอาไว้ สามารถกันเปลวไฟสีดำนั้นได้จริงๆ

นางมองไปยังพลังดำแดงที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด พลางครุ่นคิดหาวิธีจัดการอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วย

จากนั้นนางก็เหลือบมองหม้อยาใสใบนั้นด้วยหางตาของนาง ไม่รู้เหตุใดนางถึงรู้สึกว่าความมืดมิดในหม้อยาใสใบนั้นเหมือนกำลังเรียกชื่อของตัวเองอยู่

ตอนแรกความรู้สึกนั้นยังอ่อนแอมาก แต่ตอนนี้กลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้นางไม่สามารถปล่อยผ่านได้

อสูรร้ายตัวนี้ไม่มีเนื้อหนัง มีเพียงวิญญาณเท่านั้น

สามารถอยู่มาได้ถึงพันปีแบบนี้ ต้องเกี่ยวข้องกับถ้ำเทียนหยวนฝูแน่นอน

นางไม่รู้ว่าอสูรร้ายนั้นถูกขังอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่ดูจากรอยแกะสลักที่อยู่บนประตูใหญ่ของหอคอยแล้วก็สามารถเดาได้ว่า หอคอยจิ่วโยวนี้ต้องมีไว้เพื่อขังอสูรร้ายแน่นอน

เปลวไฟสีดำที่เผาไหม้ในหม้อยาใสก็ไหลเวียนอย่างสม่ำเสมอ

ถ้าอย่างนั้น…

หม้อยาใสใบนั้นต้องมีความลับมากมายซ่อนอยู่แน่นอน

เมื่อนึกแบบนี้แล้ว ฉู่หลิวเยว่จึงตัดสินใจเดินไปที่หม้อยาใสใบนั้น

วิญญาณร้ายสีดำเห็นท่าทางของฉู่หลิวเยว่แล้วก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะกับความโง่เขลาของฉู่หลิวเยว่อยู่ หม้อยานั่นเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ฉู่หลิวเยว่จะสัมผัสได้อย่างใด!

คนที่มีวิชาต่อสู้เพียงแค่ระดับสอง เท่านั้น ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็เตรียมตัวตายได้แล้ว!

แววตาแดงก่ำคู่นั้นก็กำลังจ้องมองพลางเย้ยหยันฉู่หลิวเยว่อยู่ และขณะที่มันกำลังจะกลืนกินฉู่หลิวเยว่ ก็นึกไม่ถึงว่า นางจะปิดประตูไปเอง ฉู่หลิวเยว่เดินไปอยู่ตรงหน้าหม้อยา จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือตบไปทันที!

ส่วนตัว: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ส่วนตัว: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Status: Ongoing
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท