ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 676 เสื้อเกราะ

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนที่ 676 เสื้อเกราะ

หรงซิว

“เกิดอันใดขึ้น?”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเหมือนว่าท่านจะพูดผิดไปใช่หรือไม่?

ท่านเพิ่งเจอฉู่หลิวเยว่วันนี้วันแรก พูดเช่นนี้มันเหมาะสมแล้วหรือ?

เหมือนว่าสายตาของหรงซิวจะเต็มไปด้วยความคับแค้นใจและเย็นชา ในที่สุดก็เหมือนผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกจะนึกอันใดขึ้นมาได้ จึงรีบหันมามองเขาอย่างรวดเร็ว

“เฮ้! เจ้าดูสิ หรงซิวก็เป็นห่วงเจ้ามาก! ถ้าให้ข้าไปกับเจ้าด้วย เขาจะได้วางใจมากยิ่งขึ้น!”

หรงซิว “…”

แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกดีใจอย่างมากที่เขาไม่ได้ให้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเจอกับฉู่หลิวเยว่ตั้งแต่เดือนที่แล้ว

ไม่เช่นนั้นระยะเวลาระหว่างนั้น เกรงว่าพวกเขาคงจะไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังเลย

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาอย่างจนปัญญาเล็กน้อย

“เกรงว่าจะไม่ได้เจ้าค่ะผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก…”

ครั้งนี้ซั่งกวนหว่านเคลื่อนไหวยิ่งใหญ่มาก อีกทั้งเห็นได้ชัดว่านางเลือกคนอย่างเข้มงวดมาก

แปดสำนักใหญ่ต้องส่งลูกศิษย์สำนักละสิบคน

คนที่ไม่รู้เรื่องอันใดเลย ก็จะต้องคิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีแน่นอน จึงต้องแย่งชิงตำแหน่งมาอย่างยากลำบาก

และสำหรับคนเหล่านั้นก็ควบคุมอย่างเข้มงวด คนเช่นผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ไม่สามารถไปพร้อมกันได้อย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินดังนั้นใบหน้าของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็เต็มไปด้วยความเสียใจ

เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะสามารถตามไปปกป้องเสี่ยวหลิวเยว่ได้…

“แต่ว่าท่านวางใจเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะระวังตัวอย่างมาก”

ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นอีกครั้ง

“เฮ้อ เอาเถอะ”

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกถอนหายใจออกมายาวๆ จากนั้นก็เริ่มหยิบสิ่งของออกมาจากแหวนเฉียนคุนอีกครั้ง

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าเองก็ไม่สามารถช่วยเจ้าในด้านอื่นได้แล้ว จึงทำได้แค่เพียงมอบสิ่งของที่ใช้ปกป้องตนเองเท่านั้น มีสิ่งนี้ แล้วก็สิ่งนี้ อ่า และสิ่งนี้ด้วย! เอาไปให้หมด!”

ขณะที่พูดก็ส่งของมาให้นางกองใหญ่

ฉู่หลิวเยว่ “…”

ในแหวนเฉียนคุนของผู้เฒ่าคนนี้มีสมบัติมากมายขนาดไหนกัน ยากจะคาดเดาจริงๆ…

“ข้าจะไม่ทำให้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกผิดหวังโดยเด็ดขาด”

ฉู่หลิวเยว่สะบัดมือข้างหนึ่ง ทันใดนั้นของเหล่านั้นก็ย้ายไปกองอยู่ข้างเท้าของฉู่หลิวเยว่ หลังจากนั้นเขาก็หยิบสมบัติมากองไว้ให้นางอีกกอง และย้ายไปด้านหน้าของนาง

“นี่คือของที่ข้ามอบให้เจ้า”

ฉู่หลิวเยว่ “…”

เหตุใดนางสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจางๆ ล่ะ…

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเกรงใจอย่างมาก จึงปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ท้ายที่สุดสมบัติเหล่านั้นก็ย้ายมาอยู่ในแหวนเฉียนคุนของนางจนได้

ทางด้านฉู่หลิวเยว่ที่ได้รับของขวัญจนมือไม้อ่อน แต่กลับไม่รู้เลยว่าทั้งเมืองซีหลิงกำลังจะระเบิดเพราะข่าวทั้งสองนี้

องค์หญิงสามกับคุณชายใหญ่เจียงจะแต่งงานกัน!

และองค์หญิงสามยังจะนำคนไปแดนภังคะเพื่อตามหาสมุนไพรมาให้ฝ่าบาทด้วยตนเอง!

ลูกศิษย์ของสำนักใหญ่ๆ จึงรู้สึกตื่นเต้นกันอย่างมาก

นี่คือแดนภังคะเลยนะ!

แม้ว่ามันจะอันตรายอย่างมาก แต่มันก็ได้ซ่อนทรัพย์สมบัติจำนวนนับไม่ถ้วนเช่นกัน!

ถ้าหากสามารถหาสมบัติเจอ อย่างน้อย…เขาอาจจะได้รับมรดกสักอย่างจากผู้บำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่ง…นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง

ผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหมดบนโลกนี้ล้วนอยากจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นแม้จะรู้ว่าแดนภังคะจะอันตราย แต่ไม่มีทางขวางหัวใจที่ต้องการจะไปของพวกเราได้หรอก

ด้วยเหตุนี้ สำนักทั้งหลายจึงเริ่มคัดเลือกศิษย์กันแล้ว

ภูเขาเขี้ยวมังกร

“ข้าไม่ไป!”

เจี่ยนเฟิงฉือนั่งไขว่ห้างโบกพัดกระดูกในมือ ท่าทางเกียจคร้านและไม่ใส่ใจ

“ดินแดนรกร้างเช่นนั้น ใครอยากไปก็ไป!”

เจี่ยนชูเย่มองเขาอย่างไม่พอใจ

“ดินแดนรกร้างที่ใดกัน! ที่แห่งนั้นมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้น!”

“ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าข่าวนั้นเป็นข่าวปลอม และต่อให้เรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นจะมาถึงมือข้าหรือ?”

เจี่ยนเฟิงฉือพูดจาเย้ยหยัน

“อสูรศักดิ์สิทธิ์ดีขนาดนั้น แค่ทำให้มันเชื่องก็พอแล้ว!”

เจี่ยนชูเย่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นมีเหตุผล จึงไม่โต้เถียงกับเขาเรื่องนี้อีก

“ต่อให้หาอสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่เจอ แค่ได้ไปฝึกฝนบ้างก็ดี! เจ้าเติบโตมาแต่ในเมืองซีหลิง แทบจะไม่เคยออกไปด้านนอกเลย…นี่เป็นโอกาสที่หายากที่จะได้ออกไปสำรวจพอดี! แล้วอีกอย่าง ที่องค์หญิงสามไปในครั้งนี้ก็เพื่อตามหาสมุนไพรให้ฝ่าบาท เจ้าไม่สนใจอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่น่าจะสนใจสมุนไพรสินะ?”

เจี่ยนเฟิงฉือเหลือบสายตามองพ่อของตนเองอยู่ครู่หนึ่ง

“ท่านพ่อ ข้าอยู่ในซีหลิงก็สบายดี เหตุใดท่านถึงอยากให้ข้าไปนัก? ต่อให้ข้าไม่มีประสบการณ์เช่นนั้น…แต่ตอนนี้ข้ายังอยู่ดีไม่ใช่หรือ? ข้าเป็นเซียนหมอ ท่านก็เป็นเซียนหมอ แต่ท่านกลับบังคับให้ไปต่อสู้พร้อมกับกลุ่มจอมยุทธและปรมาจารย์ค่ายกลหรือ?”

เมื่อเจี่ยนชูเย่เห็นว่าไม่มีทางเกลี้ยกล่อมลูกชายคนนี้ได้

วันๆ ห่วงแต่เรื่องความสง่างามของตนเอง ไม่ว่าสิ่งใดก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ยอมรับความลำบาก

เจี่ยนเฟิงฉือมองหน้าเขา แล้วพูดต่อว่า

“แล้วอีกอย่าง ก่อนหน้านี้มู่ชิงเห่อสร้างผลงานมาจากที่นั่น ยังมีใครรู้จักแดนภังคะดีกว่าเขาอีก? รอบนี้มีเขาไปด้วยก็พอแล้ว คนอื่นไปกันเยอะแยะ ก็แค่ไปร่วมสนุกกันเท่านั้น”

แต่เขาไม่ชอบมัน

ซั่งกวนหว่านอยู่ที่นั่น เขาจึงเกรงว่าจะทำให้ตัวเองอารมณ์เสีย

ยิ่งไปกว่านั้น…

วาทศิลป์ของซั่งกวนหว่านก็มีไว้เพื่อหลอกลวงคนอื่นเท่านั้น

แท้จริงแล้วนางอยากไปทำอันใดที่นี่ มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้!

เช่นนั้นเขาอยู่ที่ซีหลิงดีกว่า ทำในเรื่องที่ควรทำ

เมื่อเจี่ยนชูเย่เห็นว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวได้เลย เขาจึงทำได้แค่ยอมแพ้

“อาจารย์ ข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ?”

ทันใดนั้นมู่หงอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เจี่ยนชูเย่ชะงักไป ก่อนจะรีบพยักหน้า

“ได้แน่นอน!”

แม้ว่าจะมีรายชื่อแค่สิบชื่อ แต่มู่หงอวี่เป็นร่างซวีหยวน กอปรกับช่วงนี้พัฒนาการก้าวหน้าขึ้นเร็วมาก หากนางอยากไปนางก็สามารถไปได้แน่นอน

ดวงตาของมู่หงอวี่เป็นประกาย

“ดีจังเลย! ขอบคุณท่านอาจารย์มากเจ้าค่ะ!”

ฟังแล้วนางก็คิดว่าที่แห่งนั้นมีเรื่องน่าสนใจอย่างมาก!

อีกทั้งถ้านางเดาไม่ผิดละก็ ฉู่หลิวเยว่ต้องเดินทางไปด้วยอย่างแน่นอน!

เจี่ยนเฟิงฉือขมวดคิ้วมุ่น ในตอนที่เขาคิดจะเอ่ยปากห้าม แต่เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจของมู่หงอวี่แล้ว จึงต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงคอให้หมด

เจี่ยนชูเย่ส่ายหน้าให้เจี่ยนเฟิงฉือเล็กน้อย

“ในเมื่อเจ้าไม่ไปเช่นนั้นก็ตามใจเจ้าเถิด! บนยอดเขายังมีลูกศิษย์อีกมากมาย พวกเขาต่างอยากไปทั้งนั้น!”

เจี่ยนเฟิงฉือนิ่งงัน จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะบิดเอวอย่างเกียจคร้าน แล้วเดินออกไปด้านนอกอย่างผ่อนคลาย

ขณะที่กำลังเดินผ่านมู่หงอวี่ จากนั้นเขาก็เคาะพัดกระดูกลงที่ศีรษะของนาง แล้วพูดเสียงเบาว่า

“เป็นผู้หญิงที่รนหาที่ตายจริงๆ”

มู่หงอวี่กะพริบตาปริบๆ แล้วขมวดคิ้วแน่น

ใครที่รนหาที่ตาย?

ตอนที่นางกำลังจะเอ่ยปากเถียง แต่เจี่ยนเฟิงฉือกลับเดินออกไปไกลแล้ว

วังหลวง ตำหนักฮวาหยาง

ซั่งกวนหว่านนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอันใดอยู่

ฉานอี้กำลังเก็บข้าวของอยู่ด้านข้าง

สามวันหลังจากนี้นางจะต้องเดินทางไปยังแดนภังคะแล้ว การเดินทางครั้งนี้ เกรงว่าจะต้องกินเวลาหนึ่งเดือนกว่าเลยทีเดียว ดังนั้นนางจึงมีของจำนวนมากที่ต้องนำติดตัวไปด้วย

แดนภังคะเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก หากเป็นเมื่อก่อนซั่งกวนหว่านยังคงมีความกล้าที่จะไปอยู่

แต่ตอนนี้…ด้วยสภาพร่างกายเช่นนี้…

นางจึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

ยังดีที่ครั้งนี้นางพาคนไปด้วยจำนวนไม่น้อย

“องค์หญิง องค์หญิงเพคะ?”

ฉานอี้ตะโกนเรียกนางอยู่สองครั้ง ซั่งกวนหว่านถึงค่อยได้สติกลับคืนมา

“มีอันใดหรือ?”

ฉานอี้เห็นสีหน้าของนาง จึงถามขึ้นอย่างสงสัยว่า

“องค์หญิงสามกำลังกังวลเรื่องใดอยู่หรือเจ้าคะ? ครั้งนี้มีรองแม่ทัพมู่นำทัพด้วยตนเอง น่าจะไม่มีปัญหาอันใดนะเพคะ”

“เขา?”

ซั่งกวนหว่านถามขึ้นเสียงเบา

“เขาไม่เชื่อฟังคำสั่งของข้าหรอก”

แม้นางจะรู้ว่ามู่ชิงเห่อเป็นคนของเจียงอวี่เฉิง แต่อาจจะเป็นเพราะเขาอยู่ข้างกายซั่งกวนเยว่มาหลายปี ดังนั้นในใจของนางจึงไม่มีทางเชื่อใจเขาได้อีกแล้ว

ถ้าครั้งนี้ไม่ได้ไปแดนภังคะที่มีเพียงมู่ชิงเห่อที่เหมาะสมที่สุด นางก็ไม่มีทางพาเขาไปด้วยหรอก

“ฝ่าบาททรงกังวลมากเกินไปแล้วนะเพคะ คุณชายใหญ่ตระกูลเจียงก็ไปด้วยไม่ใช่หรือเพคะ? ถ้าท่านกังวลใจจริงๆ ละก็…เช่นนั้นก็นำสิ่งนั้นไปด้วยสิเพคะ?”

ซั่งกวนหว่านหันหน้ากลับมามอง

“อันใด?”

ฉานอี้โค้งตัว แล้วกระซิบเสียงเบา

“ท่านลืมแล้วหรือ ชุดเกราะที่คนผู้นั้นทิ้งไว้ไงเพคะ?”

ส่วนตัว: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ส่วนตัว: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Status: Ongoing
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท