ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 942 งั้นก็เลือกสิ

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนที่ 942 งั้นก็เลือกสิ

เมื่อสิ้นเสียงนั้น หมิงเหยารู้สึกว่าอากาศรอบกายเย็นลงทันที! มันหนาวจัดถึงขั้วกระดูก!

ในตอนนั้นเองสัมผัสที่หกที่เฉียบแหลมเกือบจะทำให้เขาขาอ่อนและคุกเข่าลงไปทันที!

แต่ลมปราณที่เยือกเย็นนั้นก็หายไปราวกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

หมิงเหยาที่ตัวสั่นเทาก็รีบเงยหน้าขึ้นมามอง เขาเห็นเพียงแต่สายตาที่เย็นชาของหรงซิว มองไม่ออกว่าเขานั้นกำลังคิดอันใดอยู่

เขารีบเบี่ยงสายตาออกไปทันที จากนั้นก็ก้มหน้า ในใจเต็มไปด้วยความวิตก

มีใครไม่รู้บ้างว่าโอรสสวรรค์พระองค์นี้ไม่เข้าใกล้ผู้หญิงเลย ตั้งแต่เขาได้รับตำแหน่งจนถึงตอนนี้ เวลาก็หลายปีที่ผ่านมา มีคนไม่รู้ตั้งกี่คนแล้วที่พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา

แต่ว่าทุกครั้งก็จะโดนเขาปฏิเสธอยู่ตลอด

จนมีครั้งหนึ่งผู้อาวุโสท่านหนึ่งทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงจัดหาผู้หญิงสองคนมาปรนนิบัติด้วยตนเอง

หรงซิวไม่ชอบสิ่งนี้มาก แต่ทว่าก็ไม่ต้องการที่จะหักหน้าผู้อาวุโส ดังนั้นเขาจึงส่งผู้หญิงทั้งสองคนนั้นไปทำงานจิปาถะทั้งหลายแหล่

ความจริงแล้วเรื่องราวเหล่านี้มันไม่มีอันใด แต่ว่าแม้กระทั่งประตูท้องพระโรงผู้หญิงทั้งสองคนนั้นยังไม่สามารถเข้าไปได้ ในใจจึงรู้สึกไม่ยินยอมอย่างมาก คาดไม่ถึงว่าพวกนางจะลอบวางยาลงไปในน้ำชาของหรงซิว ใช้วิธีนี้แอบอิงบัลลังก์มังกร

แต่ผู้หญิงทั้งสองคนนั้นก็คิดไม่ถึงว่าหรงซิวจะมีความเชี่ยวชาญเรื่องโอสถ ดังนั้นจึงปาถ้วยชาแตกเป็นเสี่ยงๆ

อีกทั้งผู้หญิงทั้งสองคนนั้นยังถูกจับโยนออกไปแล้วถูกเฆี่ยนจนตายต่อหน้าธารกำนัล

ประเด็นที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ตอนนั้นหรงซิวได้เชิญผู้อาวุโสคนนั้นออกมารับชมด้วยตนเองอีกด้วย

ผู้อาวุโสท่านนั้นได้รับรู้ถึงความผิดของตนเอง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพูดอันใด และเรื่องก็เลยจบลงเช่นนั้น

เหตุการณ์นี้ได้แพร่กระจายออกไปจนทั่ว ทุกคนต่างรู้ว่าหรงซิวนั้นโหดเหี้ยมไร้ความปรานี แม้กระทั่งกับผู้หญิงก็ไม่มีความอ่อนโยนให้เลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาจึงยกเลิกความคิดนี้ไป

หลังจากนั้นเรื่องราวของหรงซิวก็เงียบหายไปนาน

คนที่อยู่เบื้องล่างต่างร้อนใจ แต่ก็ไม่กล้าทำเรื่องอันใดที่ซี้ซั้วออกมาอีกแล้ว

เมื่อเวลาผ่านไป หรงซิวก็ขึ้นครองราชย์มาได้หลายปีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างใดเขาก็ไม่ยอมคัดเลือกพระชายาเสียที ในที่สุดทุกคนก็กลับมาพูดเรื่องนี้กันอีกครั้ง

…ตำแหน่งพระชายาเป็นตำแหน่งที่น่าดึงดูดใจขนาดนี้ ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากครอบครอง?

ลูกสาวตระกูลไหนสามารถแต่งเป็นพระชายาให้กับหรงซิวได้ ทั้งตระกูลนั้นจะต้องได้ขึ้นสวรรค์อย่างแน่นอน

ผลประโยชน์ที่มีนั้นมากกว่าที่พวกเขาสามารถคาดการณ์เอาไว้ ดังนั้นผู้คนจึงมีความกล้าหาญและแรงจูงใจเพิ่มขึ้น

ที่หมิงเหยากล้าเข้ามาหาในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งต้องเป็นเพราะแรงสนับสนุนของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ส่วนอีกด้านหนึ่ง เพราะเหตุผลนี้มันชอบด้วยกฎหมายมากเกินไป เดิมทีก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้อยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้หรงซิวปฏิเสธที่จะแต่งงาน บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเพิ่งครองราชย์ การปกครองจึงยังไม่มั่นคง ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการทำเรื่องวู่วาม

แต่ทว่าตอนนี้ตำแหน่งของเขานั้นมั่นคงแล้ว เขาไม่สามารถที่ยืนกรานไม่ยอมแต่งงานต่อไปอีกได้แล้ว

“ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสหมิงเหยาและคนอื่นๆ จะเป็นห่วงเรื่องงานแต่งงานของข้าจริงนะ”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หรงซิวก็พูดขึ้นมาเสียงเรียบ

เมื่อได้ยินดังนั้น หมิงเหยาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก

ไม่ได้โมโห ไม่ได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด หรือว่า…มีหวัง!?

เขารีบโค้งคำนับ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า

“ฝ่าบาทเป็นหัวใจสำคัญของทุกตระกูล เรื่องพระชายาของท่านยังคงต้องรอการจัดการต่อไป ตอนนี้ทุกคนจึงรู้สึกพะวักพะวนเป็นอย่างมาก ที่หมิงเหยามาที่นี่ในครั้งนี้ หมิงเหยาไม่ได้มาที่นี่เพื่อท่านคนเดียวเท่านั้น แต่เพื่อตระกูลทุกตระกูลด้วย!”

หรงซิวได้ยินดังนั้น ก็ถามขึ้นมาอย่างสนใจโนเวล-พีดีเอฟ

“อ่า? ได้ยินเช่นนี้แล้ว หมายความว่าผู้อาวุโสหมิงเหยาคงจะมีแผนอยู่ในใจแล้วใช่หรือไม่?”

หมิงเหยาได้ยินเช่นนั้นก็มีกำลังใจเพิ่มขึ้นมา จากนั้นก็รีบพูดขึ้นมาว่า

“ฝ่าบาท หม่อมฉันขอพูดตามตรง แม้ว่าท่านจะไม่เคยครุ่นคิดถึงเรื่องเหล่านี้มาก่อน แต่ข้าต้องพิจารณาเรื่องนี้เพื่อท่าน หม่อมฉันได้คัดเลือกสาวงามจากตระกูลทั้งหลายเอาไว้แล้ว ขอเพียงท่านพยักหน้า ในคืนวันคล้ายพระราชสมภพ ข้าจะให้นางมาพบท่าน ท่านสามารถเลือกคนที่พึงพอใจจากจำนวนนั้นได้”

หรงซิวหัวเราะออกมาอย่างปฏิเสธไม่ได้

“ไม่ทราบว่ามีตระกูลอันใดบ้าง? ก่อนหน้านี้นั้นข้าไม่ได้สนใจกับมันเลยแม้แต่น้อย”

หมิงเหยาพูดทวนชื่อเผ่าออกมาหนึ่งรอบ

นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีตระกูลอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์อันดีอีกด้วย

หรงซิวฟังต่อไปอย่างอดทน และถามขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า

“เหมือนว่าพวกท่านจะเตรียมการมานานมากแล้วสินะ เหตุใดข้าถึงไม่ได้ยินผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดถึงเรื่องนี้เลยเล่า?”

หมิงเหยารู้สึกละอายใจครู่หนึ่ง จากนั้นแววตาของเขาก็เปล่งประกาย พร้อมหัวเราะเสียงดัง

“คือว่า…ปกติผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเป็นคนที่หาตัวจับยากอยู่แล้ว หม่อมฉันจะกล้านำเรื่องเหล่านี้ไปรบกวนเขาได้อย่างใด?”

ความจริงแล้ว ก่อนหน้านี้เขาไปพบกับผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก เขาก็เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว แต่กลับโดนผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกปฏิเสธออกมาโดยทันที อีกทั้งยังเตือนไม่ให้เขาคิดเรื่องเหล่านี้อีกต่างหาก

หรงซิวมีตำแหน่งเป็นโอรสสวรรค์ เรื่องราวเหล่านี้ต้องให้อีกฝ่ายเป็นคนตัดสินใจเอง

ใครก็ตามที่กล้าเข้ามายุ่งเรื่องเหล่านี้ก็เท่ากับว่าต้องการรนหาที่ตาย

แต่หลังจากหมิงเหยาและคนอื่นกลับไปแล้ว เขาก็ได้ครุ่นคิดแล้วคิดอีก และยังไม่อยากจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยออกไป

ถ้าหรงซิวเลือกหญิงสาวจากในตระกูลของพวกเขาล่ะ?

ตระกูลของพวกเขาอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ล้วนเป็นเพราะผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก

แต่ท้ายที่สุดเขาก็แก่แล้ว อีกทั้งสถานการณ์ในส่วนใหญ่นั้น เขาก็ไม่สามารถออกหน้าช่วยพูดอันใดได้ หรือหลีกเลี่ยงการระแวงใดๆ ได้

เรื่องเหล่านี้ทำให้ในใจของพวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก และรู้สึกว่าที่ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกทำเช่นนี้ เพื่อเป็นการรักษาตำแหน่งของตัวเอง และรับความไว้วางใจจากองค์โอรสสวรรค์เท่านั้น

แทนที่จะปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้นตลอดไป ถ้าเช่นนั้นก็ยอมปล่อยมือเสียดีกว่า!

ดังนั้นหลังจากที่พวกเขาร่วมมือกับคนอื่นและทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ

อีกทั้งในครั้งนี้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็ไม่อยู่ด้วย ดังนั้นเขาจึงเริ่มลงมือ

หรงซิวพยักหน้าเบาๆ

“เป็นเช่นนี้นี่เอง…”

ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย

น่าเสียดายจริงๆ

ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกตรากตรำทำงานอย่างหนักมาเป็นเวลาหลายปี เพื่ออยากให้ตระกูลของตนเองมั่นคงปลอดภัย ไร้ปัญหาต่างๆ นานา

แต่ไม่ว่าจะป้องกันอย่างใดก็ไม่สามารถป้องกันได้

เมื่อคนหนึ่งเกิดความโลภขึ้นมาแล้ว ก็เกิดการขาดสติได้อย่างง่ายดาย

แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของหรงซิว หมงเหยาก็ไม่รู้สึกถึงอันตรายที่คืบคลานเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ทางตรงข้ามเขาลอบดีใจขึ้นมาด้วย คิดว่าแผนการครั้งนี้สามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่นแล้ว

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเช่นนั้นก็เชิญตระกูลอื่นเข้ามาพร้อมกันเลยด้วยสิ”

หรงซิวพูดเสียงเรียบ

“ได้ อะ—อันใดนะพ่ะย่ะค่ะ”

หมิงเหยาเกือบลิ้นจะพันกันแล้ว เขามองหน้าหรงซิวอย่างตกใจ นึกว่าตัวเองได้ยินอันใดผิดไปหรือเปล่า?

“ตระกูล…ตระกูลอื่น?”

“กว่าจะถึงวันเกิดของข้านั้นยังเหลือเวลาอีกตั้งสองเดือน เมื่อถึงตอนนั้นทุกตระกูลก็จะมาเฉลิมฉลองโดยพร้อมเพรียง ถ้าจะให้ทุกตระกูลมาพร้อมกันมันจะสะดวกกว่าหรือไม่?”

เมื่อดูจากท่าทางของหรงซิวแล้ว ไม่เหมือนว่ากำลังล้อเล่นอยู่ ในตอนนั้นเองหมิงเหยาก็รู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างจะอยู่เหนือความควบคุมของเขาแล้ว

“แต่…แต่ว่า”

แต่ว่านี่เป็นสิ่งที่เขาคุยกับตระกูลต่างๆ เอาไว้เรียบร้อยแล้ว!

ถ้าถึงตอนนั้นแล้วทุกตระกูลมาเข้าร่วมพร้อมกัน แล้วพวกเขาจะได้ประโยชน์อันใดเล่า!

ตระกูลต่างๆ มีตั้งมากมาย ใครจะรู้เล่าว่าสุดท้ายแล้วหรงซิวจะเลือกใคร!?

ต้องบอกก่อนว่าคนที่อยากจะแต่งงานเป็นผู้หญิงของหรงซิวนั้นมีจำนวนนับไม่ถ้วน!

ก่อนหน้านี้เพราะว่าเขาไม่เคยสนใจเรื่องเช่นนี้มาก่อน ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอันใดมากมาย

แต่หากเขาพูดว่าต้องการคัดเลือกพระชายา…ไม่รู้ว่าการแข่งขันจะดุเดือดมากขนาดไหนกัน!

หากสุดท้ายแล้วเขาก็ยังเลือกคนอื่น ดังนั้นที่เขามาที่นี่ในวันนี้เท่ากับว่ามาเสียเที่ยวแล้ว

หมิงเหยาต้องการจะเอ่ยปากคัดค้าน แต่ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นคือโอรสสวรรค์ที่มีเกียรติประวัติมากที่สุด

แล้วเขาจะกล้าพูดว่า ‘ไม่’ ออกไปได้อย่างใด?

สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องกัดฟันแล้วตอบตกลงไป

“ทั้งหมด..จะเป็นไปตามที่ฝ่าบาทบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”

ส่วนตัว: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ส่วนตัว: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

Status: Ongoing
กล่าวได้ว่าชีวิตของ ฉู่หลิวเยว่ นั้นช่างแสนอาภัพ แม้เป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่แต่กลับเป็นผู้ที่มีชีพจรไร้สามารถ ไม่อาจฝึกพลังใดได้จึงทำให้ถูกคนรังแกมาตั้งแต่เล็ก แม้แต่องค์รัชายาทที่เป็นคู่หมั้นก็ยังไม่เคยมาดูแลและคิดแต่จะถอนหมั้นกับนาง ชีวิตของฉู่หลิวเยว่คงดำเนินต่อไปเช่นนั้น หากน้องสาวคนดีของนางไม่ส่งนักฆ่ามาเพื่อสังหารนางทำให้ดวงวิญญาณแค้นของ ซั่งกวนเยว่ ได้เข้ามาครอบครองร่างนี้แทน คนไร้ค่าอย่างนั้นรึ นางที่เป็นอดีตองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้แตกฉานด้านการแพทย์และเป็นผู้มากพรสวรรค์แห่งแคว้นย่อมไม่อาจยอมรับคำสบประมาทนี้ได้จริงๆ! ในเมื่อพวกเขาล้วนดูถูกผู้อ่อนแอ นางก็จะแสดงให้เห็นว่าคนอ่อนแอผู้นี้แหละจะเหยียบพวกเขาให้จมดินได้อย่างไร! ควบคุมสัตว์เทพอสูร หลอมรวมพลัง เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และยาพิษ เพื่อยื้อชีวิตเหล่ามนุษย์และทวยเทพ! นางขอสาบาน นางจะทำให้คนที่เคยทรยศเหยียดหยามนางพวกนั้นได้รับกรรมอย่างสาสมเป็นร้อยเท่าพันทวี! ตอนแรกทุกคนเตือนเขาว่า “ท่านหลีอ๋อง บุตรสาวที่ตระกูลฉู่ทอดทิ้งผู้นั้นไม่คู่ควรกับพระองค์!” ต่อมาทุกคนกลับเย้ยหยัน “องค์ชายผู้อ่อนแอ ไม่คู่ควรกับองค์หญิงลิขิตสวรรค์ผู้สูงส่ง!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท