ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 472

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 472

กุ้ยไท่เฟยใบหน้าแสดงถึงความจริงใจ หยดน้ำตาค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมา ส่งเสียงเรียกให้คนรู้สึกว่ามีความเสียใจจริง ๆ อยู่หลายส่วน หวงไท่โฮ่วนั้นเดิมเป็นคนที่คิดคำนึงถึงความสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อน อีกทั้งนางยังเป็นน้องสาวของตนแท้ ๆ ในขณะนั้นจึงได้เอ่ยออกมา “เป็นพี่สาวแล้วข้าจะกล่าวโทษเจ้าได้อย่างไร? ล้วนแต่ผ่านมาแล้ว ต่อไปพวกเราครอบครัวเดียวกันรวมใจกันไว้ก็พอแล้ว”

กุ้ยไท่เฟยน้ำตาไหลด้วยความสำนึกผิด “ท่านพี่ช่างใจกว้างยิ่งนัก น้องสาวในที่สุดก็ได้รู้ องค์จักรพรรดิพระองค์ก่อนทำไมถึงได้ดีต่อท่านพี่นัก น้องสาวนั้นเปรียบไม่ได้กับท่านพี่แม้แต่น้อย”

หวงไท่โฮ่วเอ่ยตำหนิออกมา “กำลังงี่เง่าอีกแล้วใช่หรือไม่? ล้วนแต่ผ่านไปแล้ว พวกเราเป็นพี่สาวน้องสาวกัน อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับใช้องค์จักรพรรดิพระองค์ก่อนด้วยกัน เป็นดั่งญาติมิตรสนิทใกล้ชิดกัน ไม่ควรที่จะไม่แยแสกัน อีกทั้งอาเจี๋ยเองก็เป็นถึงผู้สำเร็ราชการแทนองค์จักรพรรดิ เจ้าถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นกุ้ยไท่เฟย แต่ก็กลับควรค่าราวกับหวงโฮ่ว พวกเรามาพูดกันที่นี้ว่าใครผิดใครถูก ใครดีหรือใครไม่ดี ทำไมถึงไม่ลองคิดกันดูดี ๆ ว่ามีวิธีใดบ้างที่จะมาแก้ไขภัยพิบัติในครั้งนี้ ช่วยให้อาเจี๋ยได้คลายความกังวลลงได้บ้าง”

กุ้ยไท่เฟยส่งเสียงร้องออกมา ขมวดคิ้วเอ่ยออกมา “จนถึงตอนนี้จะมีวิธีอะไรได้เพคะ? ขนาดหมอหลวงเองก็บอกว่าหมดหนทางแล้ว นอกซะจากจะเป็นหมอเทวดาจากสวรรค์”

หวงไท่โฮ่วเมื่อได้ฟังประโยคนี้ ใจก็สั่นไหว “ไม่รู้ว่าทางด้านของจื่ออันจะมีวิธีอันใดบ้าง?”

กุ้ยไท่เฟยตกตะลึงไปชั่วครู่ “นาง?” ยกมือขึ้นมาโบกในทันที “ไม่ ขั้นแรกไม่พูดถึงว่านางจะมีหรือไม่มีทักษะทางการแพทย์ ต่อให้มี นางที่เป็นถึงบุตรสาวของจวนมหาเสนาบดี จะไปยังพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติโรคระบาดนี้ได้อย่างไรกัน? หากว่าเกิดการสูญเสียขึ้นมา พวกเราจะไปหาบุตรสาวจากที่ใดกันมาคือให้แก่มหาเสนาบดีเซี่ย?”

หวงไท่โฮ่วคิดแล้วคิดอีก จึงเอ่ยออกมา “ที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล อีกทั้งต้าโจวของพวกเราก็มีสำนักฮุ้ยหมิน มีหมอหลวง มีท่านหมอที่มีฝีมือมากมาย คงจะมิอาจเรียกหญิงสาวนางหนึ่งให้ไปยังพื้นที่ภัยพิบัติได้ ให้เมืองอื่นมองเห็นเข้า ก็คงจะพากันหัวเราะพวกเรา”

“จะไม่ใช่ได้อย่างไร?” กุ้ยไท่เฟยเหลือบมองมายังหมอหลวงหลิว

หมอหลวงหลิวคุกเข่าลงบนพื้น เอ่ยออกมา “หวงไท่โฮ่ว กุ้ยไท่เฟย กระหม่อมมีคำนึงที่อยากจะกราบทูล ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยหรือไม่ควรจะเอ่ยออกมาพ่ะย่ะค่ะ”

หวงไท่โฮ่วเอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์ “เรื่องมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะมีอันใดที่ไม่ควรพูดกัน? พูดออกมาก็พอแล้ว”

หมอหลวงหลิวเอ่ย “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกลับคิดว่าข้อเสนอแนะของหวงไท่โฮ่วนั้นดียิ่งนัก ถึงแม้ว่าคุณหนูใหญ่เซี่ยจะเป็นเพียงสตรี แต่ว่าทักษะทางการแพทย์นั้นทุกนต่างก็รู้กันดี ก่อนหน้านั้นที่อ๋องเหลียงเกิดโรคลมบ้าหมูขึ้นมา กระหม่อมเองกลับไม่มีวิธีการอันใด แต่คุณหนูใหญ่เซี่ยกลับใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน กลับทำให้อ๋องเหลียงฟื้นฟูดีขึ้นมา หลังจากนั้นท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นคุณหนูใหญ่เซี่ยเช่นกันที่คอยรักษา อีกทั้งยังได้ยินมาว่าตานชิงเสี้ยนจู่นั้นดวงตามืดบอด มาวันนี้กลับสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง ล้วนแล้วแต่เป็นความดีความชอบของคุณหนูใหญ่ ต้าโจวของพวกเรามีผู้ที่มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมเช่นนี้ไม่มากนัก ถึงแม้ว่าจะเอ่ยว่าไม่ควรที่จะให้หญิงสาวเข้าไปยังพื้นที่ภัยพิบัติ แต่ถ้าหากว่าคุณหนูใหญ่นั้นมีวิธีการแล้วจริง ๆ สำหรับราชวงศ์ต้าโจวแล้วก็จะส่งผลดีเป็นอย่างมากนะพ่ะย่ะค่ะ”

หวงไท่โฮ่วนั้นมีใจสั่นไหวเล็กน้อย แต่ว่านางสุดท้ายแล้วคิดว่าให้หญิงสาวคนหนึ่งไปยังพื้นที่ภัยพิบัตินั้น ไม่ค่อยจะเหมาะสมสักเท่าไหร่

“รออีกสักพักจะดีกว่า บางทีพวกเจ้าอาจจะคิดถึงวิธีการขึ้นมาได้” หวงไท่โฮ่วเอ่ยออกมา

กุ้ยไท่เฟยจึงได้เอ่ยออกมา “เพคะ รออีกสักพักเถิด หากว่าหมอหลวงคิดหาวิธีการไม่ได้แล้ว บางทีท่านหมอของสำนักฮุ้ยหมินอาจจะคิดหาวิธีการได้ก็เป็นได้? คงจะมิอาจที่จะให้หญิงสาวคนเดียวไปยังพื้นที่ภัยพิบัติได้ หากว่าแพร่ออกไปคงจะคิดกันเอาได้ว่าต้าโจวของพวกเราไม่มีคนแล้ว”

เมื่อออกมาจากตำหนักของหวงไท่โฮ่ว กุ้ยไท่เฟยได้เอ่ยสั่งอาฝูลงไป “เจ้ารีบไปนัดพบกับฮูหยินผู้เฒ่าที่ร้านจู้เสียน คืนนี้”

“ขอรับ!” อาฝูรับคำแล้วจึงได้จากไป

ภายในร้านจู้เสียน

ฮูหยินผู้เฒ่าค่ำนี้มาช้าไป ทำให้กุ้ยไท่เฟยต้องรอเป็นเวลามากกว่าครึ่งชั่วยาม

แต่ว่ากุ้ยไท่เฟยนั้นไม่ได้แสดงออกมาถึงความไม่พอใจ ในตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่ามาถึงนั้น กุ้ยไท่เฟยยังรินน้ำชาให้ด้วยตนเองอีกด้วย

“ฮูหยินผู้เฒ่าปกติแล้วไม่ได้แสดงตน แต่เมื่อแสดงออกมาแล้วกลับทำให้ผู้อื่นตกใจเสียได้!” กุ้ยไท่เฟยเอ่ยออกมายิ้ม ๆ

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 468

อีกทั้งคำสั่งนี้ก็ไม่อาจผิดพลาดได้ ต้องไปตามเส้นเลือดหลัก

“ได้ ข้าจะเริ่มแล้วนะ” จื่ออันเอ่ยออกมาทั้งยังหยิบเข็มเอาไว้ในมืออย่างมั่นคง เริ่มเข็มตั้งแต่จุดเสินถิ้งทะยานไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปยังจุดป๋ายฮุ่ย จุดเฉียงเจียน แต่ว่าเมื่อมาถึงจุดหยางป๋ายนั้น จู่ ๆ ศีรษะของหวางหยูก็หมุนไปเล็กน้อย เข็มของนางตกอยู่ที่จุดหยู่ยาว จึงทำให้เกิดการผิดพลาดของลำดับจุดฝังเข็ม เพราะว่าจะต้องมายังจุดหยางป๋ายเสียก่อนถึงจะเป็นจุดหยู่ยาว

เมื่อผ่านเข้ามาทางเส้นชีพจรแล้วจึงมิอาจที่จะถอยกลับหลังได้ นี่ก็เท่ากลับว่านางจะต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

นางเอ่ยกลับซูชิงว่า “เจ้าจะต้องทำให้เขาไม่อาจเคลื่อนไหวได้ ไม่งั้นข้าก็จะต้นเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ข้ามีโอกาสเพียงแค่สามครั้งเท่านั้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่หนึ่งแล้ว”

ซูชิงเอ่ย “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำไมจู่ ๆ ถึงได้เคลื่อนไหวขึ้นมาได้ ข้าคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเสียอีก ทำเอาข้าตกใจเสียแล้ว”

จื่ออันเอ่ย “อืม ครั้งนี้เจ้าต้องระมัดระวังไว้ให้ดี”

ซูชิงประคองส่วนศีรษะของหวางหยูเอาไว้อย่างแน่นหนา ประคองเอาไว้แน่นกว่าเดิม เพื่อที่จะให้จื่ออันได้ฝังเข็มได้โดยง่าย

ครั้งที่สองนี้ ยังคงเมื่อถึงจุดหยางป๋ายนั้น หวางหยูก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง กลับเป็นศีรษะของหวางหยูนั้นยกขึ้นมา ทำให้ซูชิงตกใจจนต้องรีบร้อนกดเอาไว้ แต่ว่าก็ทำให้พลาดโอกาสในการฝังเข็มไปแล้ว

จื่ออันรู้สึกแปลกประหลาดใจเป็นอย่างมาก หรือว่าจะเป็นเพราะจุดเฟิงซือนี้ทำให้เขาเกิดอาการตอบสนอง?

จื่ออันคิดอยู่ครู่นึง “ซูชิง เจ้ารออีกสักครู่หนึ่ง”

ซูชิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ทำไมหรือ?”

“เจ้าปล่อยให้ข้าคิดเสียหน่อย จุดฝังเข็มเฟิงซือนี้ คงจะมีอะไรผิดแปลกอยู่” จื่ออันเอ่ยออกมา

ซูชิงวางเขาลง “มีอะไรผิดแปลกหรือ?”

จื่ออันจู่ ๆ ก็นึกขึ้นว่าได้ว่าหนี่หรงเองก่อนหน้านั้นก็เคยถูกผู้อื่นกัดมาเหมือนกัน นางเอ่ยถาม “หนี่หรงเองใช่หรือไม่ใช่ว่าเคยถูกคนไข้พวกนี้กัดมาก่อน?”

“ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ว่าหนี่หรงนั้นก็เคยมายังที่นี่ เขาบอกว่ารู้สึกเหมือนบนกายของหวางหยูนั้นมีกลิ่นเหม็นที่เหมือนกับกลิ่นกายของคนในวันนั้น”

จื่ออันภายในใจมีความตื่นเต้นขึ้นมา “หากว่าสามารถยืนยันได้ว่าหนี่หรงเองก็ถูกคนไข้ประเภทนี้กัดมา ก็คงจะเป็นการดี”

“ดีหรือ?” ซูชิงในชั่วขณะนั้นยังไม่เข้าใจในคำพูดของนาง จึงได้เอ่ยออกมาด้วยความโกรธเล็กน้อย “เจ้ายังจะหวังให้หนี่หรงเองก็เกิดเรื่องขึ้นหรือ?”

“หนี่หรงตอนนี้นั้นไม่ได้เป็นอันใด ไม่มีอาการป่วยไข้” จื่ออันเงยหน้าขึ้นมามองยังนาง

ซูชิงส่งเสียงอ่าออกมา และเริ่มที่จะตื่นเต้นขึ้นมา “ใช่แล้ว หนี่หรงไม่มีอาการป่วยไข้”

จื่ออันภายในหัวนั้นเริ่มคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว เข็มทะยานเมื่อมาถึงจุดเฟิงซือก็หยุดลง จุดหยางป๋ายไม่มีทางที่จะแทงไปถึงได้ นี่ก็หมายความว่า ก่อนหน้าจุดหยางป๋ายนั้นไม่กี่จุดนั้นล้วนแต่มีผลกับเขา

“ซูชิง ข้าจะฝังเข็มเพื่อปิดเส้นชีพจรของเขาเอาไว้ เพื่อให้เขาสู่อาการนิทรา แต่ว่าก่อนที่จะเข้าสู่อาการนิทรานั้น เจ้าลองหาวิธีที่จะป้อนซุปเข้าไปให้เขา เพื่อรักษาชีวิตเขาเอาไว้” จื่ออันเอ่ยออกมา

“จริงหรือ?” ซูชิงตื่นเต้นดีใจมองมายังจื่ออันพร้อมกับเอ่ยถาม

“มีเพียงแค่เบาะแสเท่านั้น” จื่ออันไม่อยากจะให้ความหวังกับเขามากนัก โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ยังไม่มีความก้าวหน้า แต่ว่าก็สามารถมั่นใจขึ้นมาได้เล็กน้อยว่าใช้เข็มทยานเพื่อฝังเข็มให้แก่เขานั้นพอจะมีผลอยู่บ้าง เพียงแต่ยังไม่มีวิธีไปยังจุดสุดท้าย เพราะฉะนั้นแล้ว นางจะต้องกลับไปศึกษาอาการป่วยไข้นี้กับความเชื่อมโยงกันของจุดฝังเข็มเฟิงซือและจุดก่อนหน้านั้นไม่กี่จุด และเส้นทางของเส้นชีพจรเหล่านี้ด้วย

พี่สะใภ้ใหญ่หวางเมื่อได้ยินจื่ออันเอ่ยว่ามีเบาะแส ก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก

เซียวท่านำยาต้มเมื่อครู่ประคองขึ้นมา “ตอนนี้เริ่มที่จะเย็นแล้ว”

“นำไปต้มอีกสักครั้งหนึ่ง แล้วก็ต้มซุปเป่ยฉีใส่เนื้อไม่ติดมันเข้ามาด้วย ข้าจะเขียนใบสั่งยาปฏิชีวนะจากสมุนไพรให้พวกเจ้าอีกหนึ่งวัน พวกเจ้าจัดยาแล้วนั้นก็รีบนำมาให้เขาดื่มลงไป จากนั้นข้าค่อยมาฝังเข็มให้อีกครั้ง” จื่ออันเอ่ยออกมา

“อะไรคือยาปฏิชีวนะจากสมุนไพร?” ซูชิงเอ่ยถาม

จื่ออันอมยิ้ม “คือยาสมุนไพรที่ใช้รักษาอาการจากพิษไข้”

จื่ออันนำถ่านไม้ออกมาจากในกล่องยา นำตัวอักษรเขียนลงไปบนกระดาษฟาง เซียวท่าจึงได้เร่งรีบให้คนไปจัดยามา

ในช่วงระยะเวลาที่กำลังรออยู่นั้น จื่ออันก็ได้ฝึกซ้อมจุดฝังเข็มทะยานด้วยตนเองอีกหลายครั้ง สุดท้ายแล้วก็มองมายังซูชิง “เจ้ายินยอมที่จะมาให้ข้าได้ทดลองหรือไม่? เจ้าวางใจได้ ผู้ที่ร่างกายไม่ได้มีปัญหานั้น อันดับการฝังเข็มเหล่านี้ เพียงแต่ไปกระตุ้นระบบประสาทในหัวให้ดีขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีผลข้างเคียงตามหลังมา”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมาย ด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรง จากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?” “เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท