ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 358 สำหรับผมเงินเป็นแค่ของนอกกายเท่านั้น (1)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 358 สำหรับผมเงินเป็นแค่ของนอกกายเท่านั้น (1)

ห้องประชุมใหญ่ตึกอาจารย์

ตอนที่ฟางผิงมาถึง พวกหลัวอี้ชวนและถังเฟิงอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว

เห็นฟางผิงมา หลัวอี้ชวนก็เอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้พวกเราแจ้งข่าวออกไปแล้ว อาจารย์มาสมัครไม่น้อย พวกเราคัดกรองกันจำกัดจำนวนไม่เกินสามสิบคนเท่านั้น ตอนนี้รวมฉันแล้ว มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสี่คน ขั้นห้าสิบสองคน ขั้นสี่สิบสองคน รวมทั้งหมดยี่สิบแปดคน”

ฟางผิงฟังจบก็เอ่ยทันที “สมาคมผู้ฝึกยุทธ์มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่เจ็ดคน ขั้นสามตอนปลายขึ้นไปอีกยี่สิบสี่คน”

หลัวอี้ชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ถังเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเช่นกัน “จะเสี่ยงไปอยู่บ้างหรือเปล่า?”

นักศึกษาขั้นสามตอนปลายออกไปกว่าครึ่งหนึ่ง!

“ความคิดของผมคือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่เคลื่อนไหวตามทีมใหญ่ ค่อยเข้าไปช่วงหลังอีกที ยังคงมีความปลอดภัยอยู่ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่และขั้นห้าขั้นหกส่วนหนึ่งสามารถเคลื่อนไหวตามลำพัง ทั้งสามารถรวมทีมเคลื่อนไหวได้ สถานการณ์หลักๆ รอไปถึงที่นั่นค่อยว่ากันอีกที”

“ครั้งนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้รวมกับผู้เฒ่าหลิวแล้ว ระดับสูงเคลื่อนไหวหนึ่งคน ระดับกลางสามสิบห้าคน ขั้นสามตอนปลายขึ้นไปยี่สิบสี่คน นับว่าเพื่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าผมมีความเห็นแก่ตัวบ้างอยู่แล้ว เรื่องนี้ถือว่าเพื่อส่วนรวมครึ่งหนึ่งส่วนตัวครึ่งหนึ่ง ก่อนที่ผมจะกลับมาได้ติดต่อกับทางหนานเจียงอยู่เล็กน้อย ตอนนี้สภาพการเงินของหนานเจียงตึงเครียดเช่นกัน แต่ยินดีจุนเจือเงินสดให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้สามร้อยล้าน ใช้ซื้อหยูกยาและอาวุธ ส่วนผมจะออกอีกสามร้อยล้าน รวมให้ครบหกร้อยล้านเพื่อเตรียมพร้อมซื้อของจำเป็นให้อาจารย์และพวกนักศึกษาบางส่วน…”

ถังเฟิงอดมองฟางผิงไม่ได้ ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยว่า “นายไม่ต้องหรอก ทุกคนต้องการไปหนานเจียงเหมือนกัน ไม่ได้…”

ฟางผิงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ถังอย่าพูดแบบนี้เลยครับ ไปหนานเจียงมีโอกาส แต่ความเสี่ยงมันมากกว่า ทีแรกทุกคนจะไม่ไปก็ได้ แต่เพราะผมขอแรงสนับสนุน มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ถึงได้ส่งคนไปหนานเจียงเยอะขนาดนี้ สามร้อยล้านไม่ถือว่ามาก ทรัพย์สินเงินทองเป็นของนอกกาย ขอแค่พอใช้ก็เพียงพอแล้ว”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลัวอี้ชวนและถังเฟิงต่างอดเปลี่ยนมุมมองต่อฟางผิงใหม่ไม่ได้!

ไม่เหมือนเลยจริงๆ!

ฟางผิงในอดีตไม่ใช่แบบนี้ รู้จักแต่กอบโกยร้องขอ นี่ทำให้ถังเฟิงเกิดความไม่พอใจต่อเขาอยู่หลายครั้ง

ทว่าตั้งแต่ฟางผิงเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง!

ระหว่างการแข่งขันแลกเปลี่ยน ช่วงชิงโลหะผสมมาได้ก็มอบให้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมด

เขาเป็นผู้ควบคุมการจัดแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ กำไรที่ได้ยังตกเป็นของมหาวิทยาลัย

ตอนนี้ยังเจียดเอาเงินทุนก้อนใหญ่ของตัวเองออกมาจุนเจือให้กับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เสียสละส่วนตัวเพื่อส่วนรวม…นี่ทำให้ถังเฟิงตกตะลึงอยู่บ้าง นึกไม่ถึงว่าคนจะเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้!

ตอนนี้หลัวอี้ชวนรู้สึกซับซ้อนในใจเช่นกัน แม้จะเป็นเขา ให้ตัวเองจุนเจือมหาวิทยาลัยสามร้อยล้าน…เขาอาจควักออกมาไม่ได้เสมอไป ยากที่จะทำถึงขั้นนั้นจริงๆ

ฟางผิงเป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่ง ทั้งเงินพวกนี้ก็เป็นเงินที่เขาช่วงชิงหามาเอง

อาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไปหนานเจียง ไม่ใช่เพราะสาเหตุจากฟางผิงเพียงอย่างเดียว แม้ฟางผิงจะไม่ออกเงินก็ไม่มีใครว่าอะไร

แต่ตอนนี้เขากลับออกเงินให้ แถมเป็นเงินก้อนใหญ่ด้วยซ้ำ!

หลัวอี้ชวนตบไหล่ฟางผิงเบาๆ คลี่ยิ้มว่า “อัจฉริยะมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เห็นเธอแล้วกลับทำให้ฉันนึกถึงอธิการเฒ่า”

นั่นเป็นยอดฝีมือที่ได้รับความเคารพอย่างมาก!

ไม่ใช่แค่ความสามารถ!

ในสายตานักศึกษาและอาจารย์ของเซี่ยงไฮ้ อธิการแทบจะไม่มีใครสามารถแทนที่ได้

แต่ฟางผิงในวันนี้เหมือนจะกำลังเดินตามทางของอธิการเฒ่า เห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน มุ่งมั่นเพื่อมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ อัจฉริยะเช่นนี้ปรากฏตัวในเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นความโชคดีของเซี่ยงไฮ้แล้ว!

ฟางผิงถ่อมตัวว่า “คณบดีหลัวอย่าอำผมเล่นสิครับ ผมเทียบกับอธิการเฒ่าได้ที่ไหน แค่ออกแรงเพียงน้อยนิดเท่านั้น”

เงินทองเป็นของนอกกายจริงๆ!

ตอนนี้ฟางผิงมีเงินใช้เหลือเฟือ หลังจากออกมาจากถ้ำใต้ดินครั้งก่อน คราวเดียวได้ถึงหกร้อยล้าน!

ช่วงหลังก็ลงทุนให้บริษัทไปไม่น้อย ตอนนี้หยวนฟางต่างขยับขยายไปทั่วประเทศ

แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ก็ลงทุนไม่ถึงสองร้อยล้านเท่านั้น ในมือเขายังมีเงินสดเหลือกว่าสี่ร้อยล้าน

อันที่จริงฟางผิงไม่ได้ใช้เงินพวกนี้ด้วยซ้ำ หลักๆ เขาจะใช้ค่าทรัพย์สินมากกว่า

ครั้งนี้จ่ายออกไปสามร้อยล้าน คาดว่าอาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงจะเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่ต่อเขา!

คนอื่นไม่พูดถึง ตอนนี้ถังเฟิงและหลัวอี้ชวน ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดทั้งสองคนต่างเป็นมิตรกับเขามากขึ้น

มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มียอดฝีมือขั้นหกสูงสุดทั้งหมดเจ็ดคน รวมหลู่เฟิ่งโหรวและตาเฒ่าหลี่แล้ว ฟางผิงคิดว่าอย่างน้อยตอนนี้เขาน่าจะซื้อตัวได้สี่คนแล้ว

อีกสามคน อยู่ในถ้ำใต้ดินหนึ่งคน เป็นคณบดีอีกสองคน

สองคนนี้ฟางผิงคิดว่าตัวเองคว้าพวกเขาไว้ไม่ใช่เรื่องยาก หลังจากเขาเป็นประธานสมาคมก็ช่วงชิงสวัสดิการให้สาขาสังคมและสาขาศึกษาวิจัยไม่น้อย

นอกจากปรมาจารย์สามคน ก็มีขั้นหกสูงสุดที่เป็นเสาหลักของมหาวิทยาลัย ฟางผิงคิดว่าตัวเองซื้อตัวไว้เกือบหมดแล้ว

นี่หากจะคิดแย่งชิงตำแหน่ง…

ช่างเถอะ เขากลัวว่าจะถูกตีตาย แต่ปูพื้นฐานไว้แล้ว รอเขากลายเป็นปรมาจารย์ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะเป็นของใครไปได้อีก?

ใช้เงินไม่กี่ล้านซื้อใจคนของเซี่ยงไฮ้…เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแล้ว!

“เป็นตัวอย่างที่ดี!”

หลัวอี้ชวนถอนหายใจอีกครั้ง เอ่ยว่า “ฉันให้หลัวเซิงเข้ามาเรียนที่เซี่ยงไฮ้ นับว่าตัดสินใจถูกแล้ว ทั้งยังทันโอกาส คว้าตำแหน่งมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับหนึ่งได้ เงินจัดสรรเพิ่มขึ้น ได้คะแนนง่ายขึ้น…เทียบกับเวลานั้น มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ในตอนนี้รุ่งเรืองยิ่งกว่า!”

ถังเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน รู้สึกพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด

ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พัฒนาไวมากจริงๆ นี่ทำให้ถังเฟิงรู้สึกชื่นใจและโทษตัวเองในเวลาเดียวกัน รุ่นของพวกเขาเหมือนจะไม่ได้นำพาความเปลี่ยนแปลงมาให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เลย

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผมยังต้องรออาจารย์ทั้งสองทะลวงถึงขั้นปรมาจารย์ ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของพวกเราดีทุกอย่างแล้ว ขาดแค่สองอย่าง อย่างแรกปรมาจารย์ไม่มากพอ อย่างที่สองไม่มีขั้นเก้านั่งรักษาการณ์ ตอนนี้ผมลงแรงเยอะหน่อย หวังว่าอธิการอู๋จะสามารถมีเวลาฝึกวิชามากขึ้น เป็นแบบนี้หากอธิการอู๋เข้าสู่ขั้นเก้า มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของเราก็จะมีชื่อเสียงสมอันดับหนึ่งแล้ว! รออีกหลายปี หนึ่งมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้สยบหนึ่งถ้ำใต้ดินก็อาจไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ อีกต่อไป”

“ปรมาจารย์…” หลัวอี้ชวนหัวเราะเบาๆ “ฉันยังขาดไปอยู่บ้าง แต่เหล่าถังใกล้แล้ว อาจารย์ของเธอ ฉันว่าก็อีกไม่นานเหมือนกัน คิดดูแล้วทำให้คนตื่นเต้นไม่น้อย หากมีปรมาจารย์ห้าคนจริงๆ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของเรา…”

ฟางผิงหัวเราะตัดบทว่า “อาจไม่ใช่แค่ห้าคน ถ้าผมสามารถตามหาพ่อของอาจารย์ได้ ผมทะลวงอีกคน คุณและอาจารย์หลี่ก็ทะลวง…งั้นมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของพวกเราอาจจะแข็งแกร่งจนสยบทุกมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จริงๆ ก็ได้!”

“คณบดีหลี่…”

หลัวอี้ชวนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หยุดไป ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยว่า “อาการบาดเจ็บของอาจารย์หลี่ ร้ายแรงมากเหรอครับ?”

ก่อนหน้านี้หวงจิ่งเคยพูดว่าตาเฒ่าหลี่มีบาดแผลรุมเร้า หลายปีไม่อาจรักษาหายสนิท

หลัวอี้ชวนถอนหายใจเบาๆ “ไม่รบกวนการฝึกวิชาในชีวิตประจำวัน ประเด็นหลักอยู่ที่พลังจิตใจได้รับความเสียหาย บาดเจ็บถึงรากฐาน ไม่อาจรักษาหายมาโดยตลอด พลังจิตใจปลดปล่อยไม่ได้ ไร้หวังจะเป็นปรมาจารย์ เฮ้อ น่าเสียดาย!”

“พลังจิตใจได้รับความเสียหาย?”

ถังเฟิงที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าเช่นกัน “ใช่ อันที่จริงเรื่องนี้เธอน่าจะรู้แล้ว เวลานั้นอธิการอู๋นำทีม…”

“ครั้งที่ลูกสาวอาจารย์ตายในสนามรบ?”

“อืม ครั้งนั้นแหละ เจ้าเมืองเทียนเหมินโจมตีอย่างกะทันหัน เวลานั้นหลายคนตายในสนามรบ คนที่ไม่ตายนั้นพลังจิตใจเสียหายอย่างหนักเพราะถูกพลังจิตใจอีกฝ่ายสั่นสะเทือน บางส่วนไม่ได้ตายในถ้ำใต้ดิน แต่หลังจากกลับออกมา เพราะควบคุมอาการบาดเจ็บไม่อยู่จึงทยอยลาโลกไปเช่นกัน ตอนนี้…คนที่ยังมีชีวิตรอดมีแค่อธิการอู๋และคณบดีหลี่เท่านั้น อธิการอู๋นั้นเพราะเป็นปรมาจารย์จึงสามารถรักษาอาการบาดเจ็บ หายสนิทไปนานแล้ว แต่อาการบาดเจ็บของคณบดีหลี่ ลากยาวมาจนถึงตอนนี้”

ฟางผิงขมวดคิ้วว่า “ไร้ทางรักษาเหรอครับ?”

ถังเฟิงถอนหายใจ “ไร้ทางรักษา ยอดฝีมือขั้นเก้าเคยรักษาเขา แต่พลังจิตใจของเขากระจัดกระจายไปหมด เดิมทีก็ไม่อาจรวบรวมเข้าด้วยกันได้ พลังจิตใจอยู่สะเปะสะปะถึงขั้นปลดปล่อยออกข้างนอกไม่ได้ หากปลดปล่อยได้จริงๆ นั่นยังดีอยู่บ้าง เขาอาจจะสามารถลองทะลวงด่าน ฟื้นฟูด้วยร่างกายตัวเองได้ น่าเสียดายที่ทำไม่ได้ หลายปีมานี้คณบดีหลี่จึงยอมแพ้ไป”

ระหว่างที่พูด ถังเฟิงก็เอ่ยว่า “ครั้งนี้ไปหนานเจียง คณบดีหลี่ทุ่มสุดตัวเดิมพันเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน เฮ้อ…”

“เขาไปหนานเจียงแล้ว?” ฟางผิงตัดบทสนทนาทันที

“ไปแล้ว ไปตั้งหลายวันก่อนแล้ว”

———————-

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์ รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา ฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปี ผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง! หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่ เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้ แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้น แม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตาม เรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท