ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 546 พลังปรภพ

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 546 พลังปรภพ

บทที่ 546 พลังปรภพ

ซ่งชิงบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ มันคล้ายกับว่ามีบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาปั่นป่วนมากเกินไป! ประหนึ่งทุกการเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้การควบคุม

ซ่งชิงถ่ายทอดพลังเข้าสู่ร่างกายเพื่อเริ่มทำการสัมผัส

ชายชรามีสีหน้าตกตะลึงจนไม่มีเวลาที่จะปกปิดเอาไว้

ลู่หยวนเห็นทุกสิ่งในดวงตา แล้วสีหน้าของเขาก็ยิ่งดูแคลน

“ขยะ เหตุใดยังไม่รินชาเล่า?”

ลู่หยวนเงยหน้าก่อนจะพบว่าโลกที่นี่ถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา แรงกดดันในอาณาเขตของชายชราเข้าครอบคลุมทั่วบริเวณ!

เนื่องจากบ้านร้างพังทลาย สัตว์ร้ายที่ถอยกลับไปก็กลับมาอีกครั้ง พวกมันแผดเสียงคำรามราวกับกำลังข่มขู่ลู่หยวน!

ชายชราสะกดสีหน้าตกตะลึงเอาไว้แล้วเอ่ย “เหอะ ถ้าเจ้ารู้แล้วมันจะเป็นไร? หนึ่งในพวกเจ้าสองคนจะต้องชนะ ในเมื่อวันนี้ก็อยู่กันพร้อมหน้าแล้ว ข้าก็อยากเห็นกับตานักว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย”

“พอได้เห็นเจ้าแล้ว ลู่หยวน หากว่ากันตามความแข็งแกร่ง เจ้าก็มีโอกาสชนะมากกว่า ข้าขอบอกตามตรง หากกู้ชิงหรันไม่ฝืนก้าวออกจากที่นี่ในวันนี้ ข้าก็อาจจะเดิมพันทั้งหมดกับเจ้า แต่คาดไม่ถึงว่านางจะเข้ามาจนทำให้เหตุต้นผลกรรมกำลังจะมาเยือน! เจ้าไม่มีโอกาสชนะอีกแล้ว! นี่คือลิขิตฟ้า!”

“อย่างนั้นรึ?”

ลู่หยวนเผยรอยยิ้มอย่างเย็นชา “ลิขิตฟ้าหรือ? เจ้าสุนัขเฒ่า ลองดูว่านี่ใช่ลิขิตฟ้าหรือไม่!”

สิ้นคำ ห้วงอากาศรอบข้างลู่หยวนก็เริ่มสั่นไหว

พลังที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความผันผวน ปราณวิญญาณกำลังกลืนกินรอบข้างอย่างต่อเนื่อง!

“นี่มัน?!”

หลังจากเห็นกลิ่นอายนี้ ชายชราก็เผยสีหน้าไม่มั่นใจออกมา

พลังที่ปะทุออกมาจากร่างของลู่หยวนถึงกับมีกลิ่นอายแห่งความตายเล็กน้อย กลิ่นอายนี้ยังคงกระจายออกไป จากนั้นแผ่ขยายอย่างรวดเร็วก่อนจะปกคลุมทั่วหล้า!

วิ้ง!

เพียงพริบตา อาณาเขตที่ยากจะอธิบายก็ปรากฏขึ้นก่อนจะปกคลุมอาณาเขตของชายชราทั้งหมด!

อาณาเขตนี้มีกลิ่นอายแห่งความตายที่ไม่อาจต้านทานได้ มันกำลังกลืนกินอาณาเขตที่แผ่ออกมาจากชายชราทีละน้อย!

“ปรภพรึ?!”

ชายชราตะโกนออกมาด้วยความไม่แน่ใจ

ลู่หยวนหัวเราะ จากนั้นก็ถอยออกไปหลายสิบหมี่ทันที เขายืนเอามือไพล่หลังอยู่ในห้วงอากาศประหนึ่งราชา “เจ้าสุนัขเฒ่า เจ้ายังพอสัมผัสได้สินะ”

“เป็นไปไม่ได้!”

ชายชราเอ่ยขึ้นอีกครั้งขณะจับจ้องด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าหนู มนุษย์ควบคุมปรภพได้อย่างไร?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าพื้นที่สีเทานี้ปรากฏขึ้นตั้งแต่ที่แผ่นดินหยวนหงถือกำเนิด ซึ่งโลกดังกล่าว แม้กระทั่งมหาจักรพรรดิในแดนเซียนก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ แล้วเจ้าทำได้อย่างไร?!”

“เหอะ…”

ลู่หยวนยื่นมือขวาออกไป แล้วพลังที่เป็นของปรภพก็เคลื่อนลงมาอีกครั้งขณะถาโถมใส่อาณาเขตของชายชราเร็วยิ่งขึ้น

“ข้าบอกเมื่อไหร่ว่าตนเองเป็นผู้ควบคุมปรภพแห่งนี้?”

หลังจากลู่หยวนเอ่ยจบ เขาก็เห็นร่างหนึ่งเคลื่อนเข้ามาอย่างเนิบช้า

เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอูโจ้วผู้อยู่ในปรภพ!

ทันทีที่อูโจ้วปรากฏ เขาก็มาอยู่ข้างกายลู่หยวนด้วยสีหน้าประจบสอพลอ “นายท่าน ท่านปลดปล่อยกลิ่นอายปรภพเพียงพอแล้วหรือยัง? ท่านต้องการเพิ่มหรือไม่? ท่านอยากให้ข้าบีบนวดไหล่เพื่อคลายความเหนื่อยล้าหรือไม่?”

ลู่หยวนไม่ได้เรียกอูโจ้วมานาน ทำให้อีกฝ่ายผู้ฝึกฝนอยู่ในปรภพเพียงลำพังเบื่อหน่ายจนเจียนตาย

เขามีความสุขที่ถูกลู่หยวนเรียกในวันนี้จนถึงขั้นกระโดดสูงสามจั้ง

หากได้รับใช้ลู่หยวนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้ชิดกับการเป็นภรรยาในอนาคตมากเท่านั้น!

“เผ่าสาปมารหรือ?”

ชายชรามองอูโจ้วก่อนจะรับรู้เผ่าของอีกฝ่ายได้ทันที

ชายชราอยู่ในแผ่นดินหยวนหงมาหลายปีและใช้เคล็ดวิชาลับจนอยู่รอดมาได้ แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องทั้งหลายในแผ่นดินดังกล่าว

แน่นอนว่าชายชราทราบเรื่องเผ่าสาปมารไม่มากก็น้อย

เมื่อเผ่าสาปมารหายเข้าไปในกลีบเมฆก็ไม่มีข่าวคราวอะไรอีก แม้กระทั่งชายชราก็คิดว่าเผ่าดังกล่าวตายหมดแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะยังมีใครบางคนในเผ่าสาปมารที่รอดชีวิตมาได้จนถึงวันนี้?!

เขาถึงขั้นระดมพลังปรภพได้งั้นหรือ?!

ชายชรารู้สึกทันทีว่าเขายังคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังของลู่หยวน!

ความจริงแล้วอูโจ้วผู้นี้ไม่สามารถระดมพลังปรภพได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ภายในสถานที่พิเศษแห่งนั้นจนถึงขั้นเปิดทางเข้าออกได้ตามต้องการ

ด้วยเหตุนั้น วันนี้อูโจ้วจึงมีความสามารถมากพอที่จะเปิดเส้นทางสู่ปรภพเพื่อปลดปล่อยกลิ่นอายภายในนั้นออกมากำราบกลิ่นอายของชายชราเอาไว้

ปรภพเป็นสถานที่แตกต่างจากโลกอื่น มันทั้งเงียบสงัดและหมองหม่น ซึ่งกลิ่นอายของมันทำให้สถานที่นี้กลายเป็นพื้นที่สีเทา!

กลิ่นอายปรภพจะกลืนกินกลิ่นอายอื่นจนกว่าจะถึงแก่ความตาย!

กลิ่นอายของชายชราที่ปกคลุมทั่วท้องนภาพังทลายทีละชั้น

ลู่หยวนกุมง้าวมังกรครามแปดแดนร้างเอาไว้มั่น “ตาเฒ่าอย่างเจ้ายังทำอะไรได้อีก?”

ชายชราจ้องมองไปทางลู่หยวน ในเมื่อเขาเลือกซ่งชิงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว!

อย่าว่าแต่ย้ายข้างในตอนนี้เลย ลู่หยวนก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากเข้าแดนเซียนในภายภาคหน้าขึ้นมา อีกฝ่ายย่อมไม่ให้การช่วยเหลืออย่างแน่นอน

ตอนแรกเขาใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามเพื่อต่ออายุขัยให้ตัวเอง หากไม่สามารถคิดหาวิธีอื่นได้ ชีวิตของตนเองย่อมไม่มีทางคงอยู่ได้อีกต่อไป

นี่เป็นสาเหตุที่เขาต้องเข้ามาแทรกแซงเรื่องของลู่หยวนกับซ่งชิง

สองคนนี้ถูกกำหนดโดยลิขิตสวรรค์ ผู้ชนะจะต้องมีอนาคตสดใส หากเข้าสู่แดนเซียน เขาก็สามารถปกครองโลกได้เช่นกัน!

ขอเพียงชายชราเดิมพันถูกฝั่ง ในอนาคตเขาก็จะสามารถไปถึงจุดสูงสุดได้ด้วยความช่วยเหลือจากพลังของคนผู้นี้!

แน่นอนว่าทุกสิ่งในชีวิตมีทางออก!

ชายชราค่อยมุ่งมั่นมากขึ้น เนื่องจากเดิมพันข้างซ่งชิงตั้งแต่แรก เขาก็ต้องเดิมพันต่อไป!

ไม่ว่าลู่หยวนจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีทางเหนือกว่าผู้มาจากโลกศักดิ์สิทธิ์แดนเซียน!

เหอะ ขอเพียงกู้ชิงหรันยืนอยู่ข้างกายลู่หยวน อัตราการชนะของอีกฝ่ายก็คงไม่มากไปกว่านี้!

เพียงหนึ่งอึดใจ ชายชราก็เคลื่อนมาอยู่ข้างซ่งชิง จากนั้นส่งแหวนเก็บของพร้อมเอ่ยด้วยท่าทางสนิทสนม “เสี่ยวซ่งเอ๋ย ข้าคาดหวังในตัวเจ้าไว้มาก ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ข้าสั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต เจ้าต้องดูแลพวกมันให้ดี! ในอนาคต เจ้าจะต้องฆ่าลู่หยวนเพื่อเข้าแดนเซียนให้ได้! หลังจากนี้ข้าขอพึ่งใบบุญเจ้าหน่อยแล้วกัน!”

ซ่งชิงคิ้วขมวดเล็กน้อย เมื่อครู่ชายชรามีท่าทีสูงส่ง แต่ตอนนี้กลับทำตัวประจบสอพลอพร้อมเสนอของบางอย่างให้

เขาไม่เอ่ยคำใด แต่เมื่อใช้จิตเทวะทำการตรวจสอบก็พบว่ามีของดีมากมายอยู่ภายในแหวนเก็บของ!

แค่แหวนเก็บของวงเดียวก็มีค่าเทียบเท่าของดีทั้งหมดในซากปรักหักพังแห่งนี้!

ลู่หยวนเหลือบมองสักพัก เพียงพริบตา เขาก็หันง้าวมังกรครามแปดแดนร้างไปทางซ่งชิง!

อาณาเขตของชายชราแพ้พ่าย ส่วนอูโจ้วก็ปิดเส้นทางของปรภพเอาไว้ชั่วคราว ปราณวิญญาณจึงฉวยโอกาสเข้าเติมเต็มห้วงอากาศก่อนจะปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดินแห่งนี้!

ปราณวิญญาณในร่างของลู่หยวนรวมตัวอย่างรวดเร็ว ขณะพลังในมือยังคงเพิ่มมากขึ้น!

ร่างของเขาปรากฏตัวตรงหน้าซ่งชิงกับชายชราในพริบตา

สายตาของเขาจับจ้องไปที่แหวนเก็บของ ในเมื่อเห็นเป็ดอยู่ตรงหน้า ลู่หยวนจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร?!

———————————

บทที่ 538 คำนวณโชคชะตา ตี้อู่เหอซั่นยอมจำนน

บทที่ 538 คำนวณโชคชะตา ตี้อู่เหอซั่นยอมจำนน

ลู่หยวนมองตี้อู่เหอซั่นผู้กำลังคุกเข่า แล้วมุมปากของเขาก็ยกยิ้มอย่างเย็นชา

อู๋เต้ากับเจิ้งชิงเทียนออกมายืนอยู่ข้างกายลู่หยวนเช่นกัน พวกเขาล้วนมองตี้อู่เหอซั่นด้วยสีหน้าซับซ้อนเล็กน้อย

พวกเขาต้องการให้ตี้อู่เหอซั่นยอมจำนน สาเหตุเนื่องมาจากอีกฝ่ายเป็นผู้มาจากแดนเซียน ดังนั้นมันจึงเป็นการปูทางให้ลู่หยวนเข้าสู่แดนเซียนได้ในอนาคต

ก่อนหน้านี้ลู่หยวนย่อมคิดแบบเดียวกัน ไม่ว่าตี้อู่เหอซั่นจะยอมจำนนหรือยอมตายก็ตาม

ตามความคิดของอู๋เต้ากับเจิ้งชิงเทียน หลังจากลู่หยวนสังหารรูปลักษณ์เซียนแล้ว ตี้อู่เหอซั่นก็น่าจะยอมจำนน

ถึงตอนนั้น นางน่าจะอยู่ภายใต้คำสั่งของลู่หยวน

แต่ตอนนี้ สถานการณ์คล้ายกับต่างออกไป

สายตาที่ลู่หยวนมองตี้อู่เหอซั่นเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก

แม้พวกเขาจะยืนอยู่ข้างกายลู่หยวน แต่ส่วนลึกในใจกลับรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

ทั้งสองไม่แน่ใจว่าลู่หยวนจะตัดสินใจเช่นไร

ส่วนตี้อู่เหอซั่นก็คุกเข่าตรงหน้าเขา นางทราบดีว่าจิตสังหารยังคงซุกซ่อนอยู่ อีกฝ่ายเพียงใช้ความคิดก็สามารถปลิดชีพนางได้!

ในตอนนี้ ลู่หยวนแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้าหลายสิบเท่า!

ลู่หยวนเพียงยกมือขวาขึ้นเล็กน้อย ดาบสามคมฉิวหลงก็ถูกยกขึ้นเช่นกัน จากนั้นค่อยลดระดับจนมาพาดอยู่บนคอของตี้อู่เหอซั่น

คมดาบสัมผัสจุดอันตรายที่สุดของเศษเสี้ยววิญญาณตี้อู่เหอซั่น ขอเพียงลู่หยวนออกแรงเล็กน้อย นางก็จะหายไปจากโลกใบนี้!

ตี้อู่เหอซั่นไม่เผยความขลาดกลัวแต่อย่างใด แม้ร่างกายกำลังคุกเข่า แต่นางก็ยังคงยืนหยัดอย่างภาคภูมิ!

ลู่หยวนไม่รีบเอ่ยสิ่งใด ขณะเสียงของระบบดังขึ้นจากส่วนลึกของหัวใจ

[แจ้งเตือนจากระบบ : การลงทัณฑ์จากวิถีสวรรค์สิ้นสุดลงแล้ว! อยู่ระหว่างการคำนวณ…]

[ขอแสดงความยินดีกับท่านที่สังหารบุตรแห่งโชคชะตาได้! ค่าโชคชะตาวายร้ายของท่านเพิ่มขึ้น 5000 ค่าโชคชะตาที่เหลืออยู่ในตอนนี้ 70000]

[ขอแสดงความยินดีกับท่านที่ได้รับทักษะเทวะเคล็ดกายา : พลังสามสั่นสะเทือน ระดับปัจจุบันของพลังสามสั่นสะเทือนของท่าน : ระดับต้น]

ลู่หยวนเอ่ยถามในใจ ‘จะเกิดอะไรขึ้นหากข้าฝึกฝนจนถึงระดับสูง?’

[แจ้งเตือนจากระบบ : พลังสามสั่นสะเทือนคือหนึ่งในทักษะเทวะเคล็ดกายาขั้นสูงสุด หากท่านพัฒนาจนถึงระดับสูงก็จะได้รับพลังสั่นสะเทือนภูผา สั่นสะเทือนทะเล และสั่นสะเทือนสวรรค์]

ลู่หยวนส่งเสียงอื้มออกมา จากนั้นถามเกี่ยวกับค่าโชคชะตาวายร้ายที่จำเป็นต่อการพัฒนา

ผลที่ได้ แค่การพัฒนาจากระดับต้นไประดับกลางยังต้องใช้ค่าโชคชะตาถึงสองหมื่นแต้ม

ลู่หยวนปล่อยวางเรื่องพัฒนาพลังสามสั่นสะเทือนชั่วคราว จากนั้นจึงหันมามองตี้อู่เหอซั่น

นางจะอยู่หรือตายก็อยู่ที่ความคิดของเขาเท่านั้น

มันอยู่ที่ว่าตี้อู่เหอซั่นจะแสดงคุณค่าให้ลู่หยวนได้มากน้อยแค่ไหน!

ลู่หยวนหลุบตาขณะกลิ่นอายทั้งหมดเพ่งเล็งไปที่อีกฝ่าย

อีกฝ่ายย่อมทราบเช่นกันว่าหากต้องการให้ไว้ชีวิต มันก็ขึ้นอยู่กับว่านางสามารถเสนอผลประโยชน์เพื่อนำมาเป็นข้อแลกเปลี่ยนได้มากน้อยแค่ไหน!

ตี้อู่เหอซั่นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ย “ข้ามีทักษะพิเศษนามว่าพลังสามสั่นสะเทือน มันถูกเรียกว่าทักษะเทวะเคล็ดกายา หากท่านสนใจ ข้าสามารถมอบมันให้กับท่านได้”

เมื่อเห็นว่าลู่หยวนไม่พูดอะไรและไม่มีความผันผวนในดวงตาแม้แต่น้อย ตี้อู่เหอซั่นจึงเอ่ยต่อ

“เดิมทีแล้วพลังสามสั่นสะเทือนไม่ได้มาจากข้า แต่ข้าได้รับมันมาจากสถานการณ์สิ้นหวัง แม้ทักษะลับนี้จะเป็นเคล็ดกายา แต่ก็เต็มไปด้วยเจตจำนงวิถี หากสามารถทำความเข้าใจเจตจำนงวิถีจากพลังสามสั่นสะเทือนได้ ย่อมสามารถย้อนปราณวิญญาณในร่างกายจนเข้าถึงโลกของตัวเองได้เช่นกัน! ”

“หากไปถึงสภาพดังกล่าวได้ ต่อให้อยู่ในที่ที่ไม่มีปราณวิญญาณ ท่านก็ยังสามารถโคจรพลังวิญญาณไร้ขอบเขตในร่างกายเพื่อต่อสู้เหมือนอย่างทุกครั้งได้!”

“ทว่าท่านต้องเรียนรู้พลังสามสั่นสะเทือนก่อน จากนั้นไปสถานที่พิเศษในแดนเซียนเพื่อทำความเข้าใจ”

“โห?”

เมื่อลู่หยวนได้ยินเช่นนี้ เขาก็บังเกิดความสนใจจนคิ้วขมวด

สิ่งที่ระบบเพิ่งแนะนำไป ต่อให้พัฒนาพลังสามสั่นสะเทือนจนถึงระดับสูง มันก็ยังไม่มีสิ่งนี้!

ตอนลู่หยวนสู้กับตี้อู่เหอซั่น เขาสามารถสัมผัสถึงรูปแบบการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ของนางได้ รวมถึงจุดแข็งจุดอ่อนของเคล็ดกายาเมื่อเทียบกับวิถีธรรมดา!

แม้การพัฒนาของเคล็ดกายาใช่ว่าจะดีและมีน้อยคนนักบนแผ่นดินที่สามารถฝึกฝนได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อได้เปรียบเพียงหนึ่งเดียวก็คือเมื่อปราณวิญญาณเบาบาง ผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดดังกล่าวก็จะกลายเป็นยอดฝีมืออย่างแท้จริง!

ในฐานะผู้บ่มเพาะ พวกเขาไม่สามารถใช้พละกำลังก่อนหน้าได้ถึงครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ!

หากสิ่งที่ตี้อู่เหอซั่นพูดในวันนี้เป็นความจริง เขาสามารถกลายเปลี่ยนโลกเพื่อจัดการปราณวิญญาณไร้ขอบเขตให้ตัวเองได้ ถึงตอนนั้นไม่ว่าปราณวิญญาณจะเบาบางเพียงใด มันก็ไม่สามารถจำกัดลู่หยวนได้!

ตี้อู่เหอซั่นคิดว่าลู่หยวนไม่สนใจเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยอีกครั้ง “ข้าค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่หลายแห่งในแดนเซียน หากท่านไปถึงที่นั่นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอาวุธและชุดเกราะ ท่านสามารถขอทุกสิ่งได้จนกว่าจะพึงพอใจ”

“ต่อให้ท่านนำกลุ่มคนนับหมื่นไปที่นั่น มันก็เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของทุกคนได้!”

“หากข้าสามารถสร้างรูปลักษณ์ขึ้นใหม่และฝึกฝนอีกเสียหน่อย ข้าก็จะสามารถใช้ร่างกายเพื่อพลิกโลกใบนี้ได้! พลังต่อสู้ที่เหนือกว่าขั้นอมตยุทธ์ นั่นก็คือขั้นเทพยุทธ์!”

“ได้โปรดพาข้าไปกับท่านด้วย!”

ตี้อู่เหอซั่นเปิดเศษเสี้ยวจิตเทวะพร้อมมอบสิทธิ์ในการตัดสินใจทุกอย่างให้ลู่หยวน!

ตี้อู่เหอซั่นแทบจะเปิดเผยทุกอย่างที่มี หากไม่สามารถทำให้ลู่หยวนพึงพอใจได้ เช่นนั้นวันนี้นางก็ต้องตาย

ลู่หยวนหัวเราะแผ่วเบาพลันเอ่ย “เจ้ามาจากแดนเซียนงั้นหรือ?”

“ใช่”

ตี้อู่เหอซั่นพยักหน้าอย่างแผ่วเบา

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงลงมาที่นี่?”

“ในตอนนั้น เส้นทางระหว่างแดนเซียนกับแผ่นดินหยวนหงถูกปิดฉับพลัน ผู้คนบางส่วนจากแดนเซียนไม่มีเวลาอพยพจนต้องติดอยู่ในโลกใบนี้”

“แต่หลังจากเส้นทางปิดไปแล้ว ปราณวิญญาณของโลกใบนี้ก็เริ่มพังทลาย มันไม่มากพอที่พวกข้าจะรักษาตัวเองเอาไว้ได้ ทำให้ระดับการบ่มเพาะลดลงเช่นกัน หลังจากผู้คนในแดนเซียนหลงเหลือทายาทเอาไว้ก็พบว่าพวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา พรสวรรค์ไม่มากพอที่จะเป็นยักษ์ใหญ่ในโลกใบนี้ ดังนั้นทุกคนจึงค่อยล้มตายเพราะขาดปราณวิญญาณ แต่เป็นเพราะข้าการฝึกฝนเคล็ดกายาก็เลยสามารถอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้ได้”

เปลือกตาของลู่หยวนกระตุกเล็กน้อย “เหตุใดต้องปิดฉับพลัน?”

ตี้อู่เหอซั่นส่ายหน้า หากนางทราบก็คงรีบไปจากที่นี่แล้ว ไยต้องมาอยู่บนโลกใบนี้และไม่มีสิทธิ์กลับไปเล่า

นางทำได้เพียงสังเวยการบ่มเพาะทั้งหมดก่อนถึงแก่ความตายเพื่อได้พบกับวิถีสวรรค์ จากนั้นทำการเดิมพันกับทายาทของนางว่าจะสามารถออกจากโลกใบนี้ได้

ลู่หยวนคิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยทันที “เจ้ารู้จักเกาะสังหารเซียนหรือไม่?”

ตี้อู่เหอซั่นพยักหน้าทันที แม้แผ่นดินหยวนหงกับแดนเซียนจะแตกต่างกัน แต่นางก็อาศัยอยู่ที่นี่มาช้านาน จึงเป็นธรรมดาที่จะทราบว่าเกาะสังหารเซียนคือสถานที่ที่เคยเป็นเส้นทางระหว่างอดีตแดนเซียนกับแผ่นดินหยวนหง ซึ่งตนเองเคยไปมาหลายครั้ง!

เมื่อลู่หยวนเห็นตี้อู่เหอซั่นพยักหน้า เขาก็ถามอีกครั้ง “เจ้าทราบเส้นทางกับสถานการณ์ภายในหรือไม่?”

ตี้อู่เหอซั่นเข้าใจทันทีว่าลู่หยวนหมายความว่าอย่างไร เขาอยากไปหาบางอย่างที่นั่น แต่ยังขาดคนนำทาง!

ตี้อู่เหอซั่นประสานมือแล้วแย้มยิ้มทันที “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าคุ้นเคยกับที่นั่นเป็นอย่างดี!”

———————————

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท