ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา – บทที่ 665 ซ่งชิงเริ่มปราบปราม

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 665 ซ่งชิงเริ่มปราบปราม

บทที่ 665 ซ่งชิงเริ่มปราบปราม

หลังจากการโจมตีครั้งนี้ พื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เนื่องจากการบิดเบี้ยวก็พังทลายลงทั้งหมด ท้องฟ้าภายนอกก็มืดลงตามไปด้วย

เกาะสังหารเซียนจมลงไปพร้อมกัน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะสังหารเซียนถูกทำลายจนหมดสิ้น

ก่อนการปะทะครั้งนี้ เซียวเทียนดูเหมือนจะรู้สึกได้ล่วงหน้าจึงดึงฮ่วนซิงไป๋ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ออกมาใช้พลังเทพที่เหลืออยู่สร้างพื้นที่ซ่อนเร้นขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเขาและฮ่วนซิงไป๋ไว้ในนั้น

พลังอันยิ่งใหญ่เช่นนี้แผ่ซ่านออกมา คลื่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ แม้แต่ที่หลบภัยที่เซียวเทียนสร้างขึ้นมาก็สั่นสะเทือนไปด้วย

เซียวเทียนใช้กระบี่ยักษ์ขวางไว้ด้านหน้าพยายามนำพลังบางส่วนที่พุ่งเข้ามาออกไปยังที่อื่น

ภายในที่หลบภัย หน้าผากของฮ่วนซิงไป๋มีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย บนใบหน้าของเขาก็มีความเจ็บปวดปรากฏขึ้นหลายส่วน

ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของเซียวเทียน

เซียวเทียนยืนถือกระบี่ดวงตาของเขามีความปั่นป่วนเล็กน้อย

เขาและฮ่วนซิงไป๋ได้สัมผัสพลังเทพนี้พร้อมกัน แต่ตอนที่รับมันมาเขากลับรู้สึกเฉย ๆ แม้จะเจ็บปวดบ้างแต่ก็เป็นเพียงเพราะร่างกายมนุษย์ไม่อาจรับพลังเทพระดับนี้ได้เท่านั้น

จากนั้นลู่หยวนก็ลงมือช่วยนำพาพลังเทพนี้ค่อย ๆ เคลื่อนไหวผสานเข้ากับพลังของตัวเขาเองจึงทำให้เซียงเทียนใช้พลังเทพได้อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้

แต่ดูเหมือนฮ่วนซิงไป๋จะไม่เป็นเช่นนั้น ตอนนั้นลู่หยวนไม่ได้นำพาพลังเทพเพื่อเป็นตัวกลางให้ฮ่วนซิงไป๋รับพลังนี้ได้ดีขึ้นแต่กลับปล่อยให้ฮ่วนซิงไป๋ย่อยสลายมันด้วยตัวเอง!

ลู่หยวนดูเหมือนจะมั่นใจว่าฮ่วนซิงไป๋ยังไม่สามารถรับพลังเทพนี้ได้ทั้งหมดในตอนนี้จึงกำชับเซียวเทียนว่าต้องรับประกันความปลอดภัยของฮ่วนซิงไป๋ให้ได้

เซียวเทียนแม้จะสู้ซ่งชิงไม่ได้และไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามระดับนี้ได้ แต่ด้วยพลังเทพที่เขามีอยู่ตอนนี้การปกป้องฮ่วนซิงไป๋ก็เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก!

เซียวเทียนละสายตาจากฮ่วนซิงไป๋แล้วหันกลับไปมองสนามรบที่อยู่ไกลออกไปอีกครั้ง

ขณะนี้ฟ้าดินมืดมิดราวกับว่าความมืดได้กลืนกินกลางวันทั้งหมด โลกจมดิ่งสู่ความมืดมิดอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ซ่งชิงยืนถือกระบี่พลังรอบกายแผ่ซ่านไปทั่ว อักขระยันต์รูปกระบี่ทองเล็ก ๆ บนหน้าผากยิ่งเปล่งประกายเจิดจ้า

ในทางกลับกัน เงาขนาดมหึมาที่อยู่ด้านหลังลู่หยวนได้สลายไปแล้ว พลังวิถีคุณธรรมและวิถีมารที่ปกป้องร่างกายก็แตกกระจาย ยากที่จะรวมตัวกันอีกครั้ง ลายม่านบนเนตรเทวะยังคงปรากฏบนหน้าผาก เปล่งประกายวิบวับ

“ลู่หยวน หากเจ้าไม่ใช้พลังเทพ เจ้าก็มีแต่ความตายเท่านั้น!”

ซ่งชิงเปล่งเสียงคำรามลั่น ทันใดนั้นร่างของเขาก็เลือนหายไปในอากาศ ปราศจากร่องรอย พลังลมปราณทั้งมวลก็มลายหายสิ้น

ลู่หยวนยืนนิ่งอยู่กับที่พลังที่ไหลเวียนอยู่รอบกายผันผวนอย่างรุนแรง แต่เขายังคงไม่ใช้พลังเทพ!

หวืด!

ทันใดนั้น ช่องว่างเบื้องหน้าของลู่หยวนก็สั่นสะเทือนพื้นที่นั้นก็ฉีกขาดออกกระบี่ยาวเล่มหนึ่งพุ่งทะยานออกมา!

ลู่หยวนเบี่ยงตัวหลบ กระบี่เล่มนั้นพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วเฉียดผ่านร่างของลู่หยวนไปก่อนจะฟาดขึ้นหมายปลิดชีพเขา!

ลู่หยวนไม่หวั่นไหวรีบยื่นหอกยาวในมือออกไปปะทะกับกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ทว่าทันทีที่เสียงนั้นเงียบลง ร่างของซ่งชิงก็หายวับไปอีกครั้งปรากฏตัวขึ้นด้านหลังลู่หยวนในพริบตา

ลู่หยวนรู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว เขาพลิกตัวกลับหันปลายหอกไปป้องกันกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามาจากด้านหลัง กระบี่ที่หมายจะสังหารเขาถูกต้านทานไว้ได้!

แม้ว่าลู่หยวนจะสามารถรับมือการโจมตีเช่นนี้ได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถต่อกรกับซ่งชิงได้โดยไม่ต้องใช้พลังเทพ

การโจมตีสองสามครั้งที่ผ่านมา ซ่งชิงเพียงแค่ทดสอบเขาเล่น ๆ เท่านั้น ยังไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริง

แม้ลู่หยวนจะต้านทานไว้ได้ แต่ไม่อาจต้านทานพลังที่ถาโถมเข้าใส่ พลังที่รวบรวมไว้ล้วนสลายไปในพริบตา เพียงต้านรับหนึ่งครั้งก็ไม่อาจรวบรวมพลังได้อีกเป็นนาน

ภายใต้การโจมตีสองครั้งนี้ ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายจะหยั่งเชิงซึ่งกันและกันได้

ซ่งชิงถอยหลังไปเล็กน้อยนิ้วมือร่ายผนึกอักขระอันแปลกประหลาดขึ้นมา ทันใดนั้นกระบี่ก็อันตรธานหายไป

“ลู่หยวน เจ้ากำลังรอสิ่งใดอยู่รึ? หรือว่าเจ้ามีสิ่งใดอีก?”

สิ้นคำ ซ่งชิงก็พลันคิดบางสิ่งออกจึงเผยรอยยิ้มมุมปากขึ้น

“วิถีสวรรค์กับวิถีโบราณล้วนมอบโอกาสให้ข้ากับเจ้าเท่าเทียมกัน ข้าได้เป็นเทพเจ้า ส่วนเจ้าเองก็สมควรได้เป็นเช่นกัน ดังนั้นเจ้าจึงรอคอยการก้าวสู่ความเป็นเทพของตนอยู่หรือ?”

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏเสียงดังก้องอย่างแผ่วเบา

ซ่งชิงเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มทั้งหมดมลายหายไปจากใบหน้า เหลือเพียงแววตาสังหารที่ทวีความรุนแรงถึงขีดสุด!

เขาจ้องมองลู่หยวนอย่างไม่วางตา

“ข้าเคยคิดว่าวิถีโบราณมอบหนทางให้เจ้าต่อกรกับข้าได้ ทว่ากลับไม่คิดเลยว่าหนทางนั้นยังมาไม่ถึง ฮ่า ๆ ๆ ลู่หยวนหากข้าพลาดโอกาสนี้ไปคงเสียทีที่ฟ้าประทานโอกาสเช่นนี้มาให้เป็นแน่!”

ซ่งชิงขยับมืออย่างรวดเร็วผนึกอักขระอันลี้ลับปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในชั่วพริบตา ขอบฟ้าเบื้องหน้าพลันบิดเบี้ยว กระแสลมปราณพัดกระหน่ำจนฟ้าดินสะท้านสะเทือนปรากฏการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ฉีกทึ้งชั้นฟ้าจนแหลกสลายกลายเป็นห้วงมิติอันบิดเบี้ยว

แม้หลุมดำจะก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อเติมเต็มช่องว่าง ทว่าภายใต้กระแสลมปราณอันบ้าคลั่งเช่นนี้ กลับไม่อาจประสานรอยแยกบนท้องฟ้าได้

“ลู่หยวนในตอนนี้แม้จะใช้พลังเทพ เจ้าก็ไม่อาจต้านทานกระบี่นี้ได้อีกต่อไป!”

ซ่งชิงหยุดมือจากร่ายอักขระอาคมเงยหน้าขึ้น ปล่อยเส้นผมสีเงินปลิวไสวตามสายลม กระบี่สั้นสีทองที่อยู่ระหว่างคิ้วพลันเลือนหายกลายเป็นประกายทองสว่างวาบในดวงตาทั้งสองข้างแทน!

เหนือฟากฟ้า เมฆถูกตัดขาดออกจากกันในพริบตา สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหนือเกาะสังหารเซียนแห่งนี้ ไร้วี่แววของเมฆหมอกราวกับว่าท้องฟ้าถูกย้อมด้วยสีทองอร่ามกระจ่างสว่างไปทั่วทั้งสามหมื่นลี้!

เหนือศีรษะของลู่หยวนกระบี่ยักษ์สีทองพุ่งลงมาจากฟากฟ้า ปลายกระบี่อันแหลมคมทะลวงผ่านแสงสีทองบีบอัดลงมา!

ทันใดนั้น แสงแห่งกระบี่ก็ปรากฏขึ้นทั่วทั้งสามพันโลก กระบี่ระดับล่างต่างแหลกสลาย ส่วนกระบี่เล่มอื่น ๆ ที่ยังคงรูปอยู่ได้นั้นล้วนได้รับการคุ้มครองจากวิญญาณแห่งกระบี่ แต่ถึงกระนั้นกระบี่เหล่านั้นก็ล้วนเสียหายพลังอ่อนล้าไม่อาจแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้อีก

เซียวเทียนผู้ยืนหยัดอยู่ห่างออกไป กระบี่ยักษ์ในมือเดิมทีเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แดนเซียนที่ลู่หยวนมอบให้ แต่ในยามนี้กลับส่งเสียงคร่ำครวญแผ่รอยร้าวเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนคมกระบี่!

กระบี่เล่มเดียวปรากฏทว่าทำลายล้างนับหมื่นเล่ม!

นิมิตเช่นนี้ หาได้ยากยิ่งนัก แม้เวลาผ่านไปนับหมื่นแสนปีก็ไม่เคยปรากฏ!

พลังกระบี่ไร้ลักษณ์บนกายซ่งชิงยังคงทวีคูณไม่หยุดยั้ง กระบี่ยาวเล่มนี้ตกลงมาพลังเทียบเทพ!

ลู่หยวนตั้งท่าจะขยับกาย ทันใดนั้นก็พบว่าสรรพสิ่งรอบกายล้วนหนืดข้นเคลื่อนไหวยากลำบาก!

เงยหน้าขึ้นมองเห็นกระบี่สีดำสนิทเก้าเล่มปักอยู่รอบกายลู่หยวนเกิดเป็นค่ายกลกักขังลู่หยวนไว้ภายใน!

เมื่อค่ายกลก่อกำเนิด บริเวณโดยรอบที่พังทลายกลับกลายเป็นโลกใหม่ โลกใบนี้เป็นของซ่งชิงแต่เพียงผู้เดียว!

“ลู่หยวน แม้ข้ายังไม่ได้รับตำแหน่งเทพ แต่ข้าก็เหนือกว่าเจ้าอยู่เสมอ แม้เจ้ามีพลังเทพก็ยังต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของข้า!”

สิ้นคำ โลกโดยรอบตัวลู่หยวนก็บิดเบี้ยวร่างของเขารู้สึกหนักอึ้งราวกับแบกสิ่งของนับหมื่นแสนชั่งกดทับจนพลังในกายเริ่มสลาย ร่างทั้งร่างถูกค่ายกลและกฎเกณฑ์ตรึงไว้กับที่!

แรงกดดันมหาศาลทำให้เลือดไหลซึมออกมาจากทุกรูขุมขนของลู่หยวน!

เบื้องบนกระบี่ทองคำขนาดมหึมาได้แหวกผ่านชั้นฟ้าทะลุมายังเบื้องล่างมุ่งตรงไปที่ลู่หยวน!

ลู่หยวนเงยหน้าขึ้นในดวงตาไร้ซึ่งความหวาดกลัว

เขาแบกรับน้ำหนักมหาศาลนับหมื่นชั่งไว้บนบ่าสองมือรวบรวมพลังลมปราณเอ่ยเสียงแผ่ว “ซ่งชิง ได้เวลาเหมาะสมแล้ว ถึงเวลาที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ต้องออกโรง”

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

Status: Ongoing
นิยายแปลเรื่อง ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา เรื่องย่อ : ลู่หยวน ชายหนุ่มผู้กลับชาติมาเกิดใหม่ในมหาแดนโชคชะตา พร้อมกับตำแหน่งคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะผู้โฉดชั่ว! ทั้งก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งลักพาตัวลูกหลานของกองกำลังอื่นมากักขังไว้นับไม่ถ้วน หนึ่งในนั้นคือสาวงามผู้กำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ์รูปหล่อตามมาช่วยชีวิต บัดซบ… ไม่ว่าจะคิดอย่างไร นี่มันบทบาทของตัวร้ายกากเดนชัด ๆ! ในระหว่างที่กำลังปวดหัวกับชีวิตใหม่อยู่นั้นเอง กล่องข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า บ่งบอกว่าการเชื่อมต่อกับระบบวายร้ายสำเร็จแล้ว! ด้วยระบบที่สามารถช่วงชิงโชคชะตาของเหล่าตัวเอกได้ ตำนานจอมวายร้ายสุดอหังการ์ผู้โค่นล้มพระเอกทั่วหล้าจึงเปิดฉากขึ้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท