ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 371
รถสปอร์ตพุ่งผ่านถนนกว้าง
ในบางครั้ง ฌอน เบล จะเหลือบไปมองด้านหลังเพื่อมองไปที่โรส ลอยล์ ผู้ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลัง เขารู้สึกขบขันจึงแกล้งเธอ
“ผมควรจะพูดอะไรกับคุณดี? ผู้หญิงทุกคนในเมืองอิมพีเรียลหมดหวังที่จะพยายามและเข้าใกล้เขา ไม่ต้องพูดถึงที่ประจบเขา คุณมีโอกาสที่จะเป็นคุณนายอาเรสผู้ยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม คุณเลือกที่จะปฏิเสธเขา ผมควรจะบอกว่าคุณโง่ เขลาหรือเบาปัญญา? ”
“การเป็นคุณนายอาเรสเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากเหรอ? ถ้าฉันต้องมองใบหน้าที่ไม่พอใจนั่นอยู่เสมอ ฉันจะต้องหยุดการพัฒนาความผิดปกติของต่อมไร้ท่อหรือระบบประสาท” โรสพัฒนาความปรารถนาที่จะแก้แค้น ถ้าเธอไม่มีเขา เช่นนั้นแล้วเขาจะมีอะไรดีล่ะ?
ฌอนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “ฮิฮิ”
เมื่อรถสปอร์ตเลี้ยวเข้าสู่ถนนวงแหวนรอบกลางของเมือง อิมพีเรียล ฌอนเตือนโรสว่า “บริษัทอยู่ข้างหน้าถ้าคุณไม่ต้องการให้น้องสาวสองหน้าของผมสร้างปัญหาให้ คุณก็ควรรีบแต่งหน้าซะ ”
โรสหยิบเครื่องสำอางที่เธอมีอยู่ในกระเป๋าถืออย่างรวดเร็วและแตะแต่งหน้า
จากนั้นฌอนก็ขับรถเข้าไปในลานจอดรถของเขื่อนเปิดโล่ง หลับตาและพักผ่อนในขณะที่เขารอให้โรสจัดการแต่งหน้าของเธอ
หลังจากโรสพยายามแต่งหน้าให้เสร็จประมาณครึ่งชั่วโมง –
ร่างมืดปรากฏขึ้นและปิดกั้นแสงที่ส่องเข้ามาจากกระจกหน้ารถ ในเวลาเดียวกันทั้งโรสและฌอนก็หันไปมองร่างนั้น ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้พบกับแสงจ้าที่มีพิษของแนนซี่ เบล
“ทักษะการแต่งหน้าของเธอยอดเยี่ยมไม่ใช่เหรอโรส ลอยล์?”
โรสยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก ขณะจ้องมองไปที่ดั้งจมูกที่สูงของแนนซี่คางแหลม และใบหน้าที่ถูกฉีดด้วยไฮยาลูโรนิก “คุณหนูเบล ไม่มีหน้าปลอมในวันนี้และสมัยนี้หรอก เธอไม่เห็นด้วยเหรอ?”
“คนโกหก” แนนก็หันไปจ้องฌอนอย่างโกรธ ๆ “ไม่น่าอัศจรรย์เหรอพี่ชาย? การซ่อนศัตรูของตระกูลเบลไว้ข้าง ๆ เพื่อคุณรอจนกว่าพ่อจะได้ยินเรื่องนี้ ฉันจะไปบอกเขาตอนนี้”
เมื่อเธอพูดจบ แนนซี่ก็เปิดส้นเท้าแล้วเดินจากไป
โรสและฌอนมองหน้ากัน อย่างไรก็ตาม โรสเพียงกลับมาแต่งหน้าต่อและถือกระเป๋าเครื่องสำอางของเธอ –
“พระเจ้ากำลังลงโทษฉันที่ไม่พูดคำอธิษฐานของฉัน! โชคร้ายจัง!”
สายตาของฌอนหม่นลง “บางทีคุณควรหนีไป”
โรสยืดอกและยืดหลังให้ตรงก่อนจะถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ถ้าฉันหนีไป?”
ฌอน เบล หัวเราะและกล่าวว่า “เราไม่ได้สนิทกัน ขนาดนั้นที่จะต้องทนทุกข์ทรมานด้วยกัน”
“แต่เราสนิทกันมากพอที่จะพูดได้ว่าไม่ใช่ตัวใครตัวมัน!” โรสโกรธขึ้นอย่างตรงไปตรงมา
สำนักงานของสแตนลีย์ เบล
สามารถเห็นแนนซี่รายงานต่อประธานด้วยสีหน้าตกใจว่า “คุณพ่อคะ ผู้ช่วยตัวน้อยจอมเจ้าเล่ห์ของพี่ชายของฉันกลายเป็นโรส ลอยล์!”
ดวงตาของสแตนลีย์เบิกกว้างด้วยความโกรธ “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”
“ใช่ เป็นเช่นนั้น!”
“พวกนายไปเอาฌอนและโรสมาที่นี่เดี๋ยวนี้” สแตนลีย์โกรธมากจนกระแทกมือลงบนโต๊ะ
หลังจากนั้นไม่นานฌอนและโรสก็ถูกบอดี้การ์ดสองสามคนนำเข้ามาในห้องทำงานของประธาน
การแต่งหน้าของโรส ลอยล์ ทำได้เพียงครึ่งเดียว ด้านหนึ่งของใบหน้าเธอคือคุณโรสผู้มีเสน่ห์ อีกครึ่งหนึ่งของใบหน้าของเธอ เธอคือความงามที่ไร้เดียงสา โรส ลอยล์
สแตนลีย์มองโรสด้วยความงุนงงเล็กน้อย แต่ประทับใจในฝีมือการแต่งหน้าของเธอ
“โรส ลอยล์ เธอมีความสามารถจริง ๆ !”
โรสยิ้ม ต้องบอกว่ารอยยิ้มของเธอปรากฏความอบอุ่นและอ่อนโยนในด้านหนึ่ง แต่อีกด้านหนึ่งกลับชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์
“คุณชมฉันเกินไป ประธานเบล” โรสตอบอย่างนอบน้อม
ฌอน เบล ขมวดคิ้ว “แต่ฉันอยากรู้มาก คุณพยายามใช้กลอุบายทุกอย่างเพียงเพื่ออยู่เคียงข้างฌอน คุณมีเจตนาอะไร?”
โรสจ้องมองไปยังฌอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอและพูดอย่างเขิน ๆ ว่า “ท่านเบลเป็นคนสง่างามและสุภาพ เขายังเด็กแต่มีความสามารถ ฉันอยากอยู่กับเขาตลอดเวลา”
