ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 219 อวยพรตรุษจีน(ปลาย)

ตอนที่ 219 อวยพรตรุษจีน(ปลาย)

“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​ดื่ม​มากเกินไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​

แม้ว่า​จะ​อาบน้ำ​แล้วแต่​ก็​ยัง​ไม่​สร่าง​เมา

สือ​อี​เหนียง​ถูก​เขา​กอด​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ทั้งที่​ยัง​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​อยู่​จึง​ทำให้​รู้สึก​ไม่สบาย​ตัว​เป็นอย่างมาก​ ​พยายาม​จะ​ลุกขึ้น​นั่ง

“​สุรา​ไม่ได้​ทำให้​คนเมา​ ​คน​นั้น​มัวเมา​เอง​ต่างหาก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ​่ม​แล้ว​ยื่นมือ​ไป​กอด​นาง​ไว้

สือ​อี​เหนียง​เห็น​การ​หยอกล้อ​ใน​แววตา​ของ​เขา​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เขา​ชอบ​หยอกล้อ​ตัวเอง​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​จึง​ปล่อยไป​ตามน้ำ​ ​แต่​ใบหน้า​กลับ​ร้อนผ่าว​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​จึง​ซุก​หน้า​ลง​บน​หมอน​ใบ​ใหญ่

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​หู​ของ​นาง​แดง​ระเรื่อ​ก็​เริ่ม​รู้สึก​สนุก​จึง​กระซิบกระซาบ​ข้าง​หู​นาง​เบา​ๆ​

สือ​อี​เหนียง​ทำตัว​ไม่​ถูก

ก่อนหน้านี้​มี​ช่วงเวลา​ที่​ทำตัว​ไม่​ถูก​ค่อนข้าง​มาก​ ​แต่​ตน​ก็​ไม่ได้​สนใจ​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​หยอกล้อ​นาง​เช่นนี้​ ​เหมือนกับ​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​ที่​เดินทาง​ไป​โรงเรียน​แล้ว​เจอ​เด็กผู้ชาย​ผิวปาก​แซว​นาง​ ​ถึงแม้ว่า​พอ​โต​ขึ้น​แล้ว​จะ​รู้​ว่านั​่น​เป็น​พฤติกรรม​ที่​เด็กผู้ชาย​แสดงถึง​ความชื่นชอบ​ ​แต่​ตอนนั้น​กลับ​รู้สึก​อึดอัด​ใจ​เป็นอย่างมาก

นาง​เงยหน้า​แล้ว​ถลึงตา​ใส่​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่าง​อด​ไม่ได้

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​เพียง​ว่า​คนที​่​อยู่​ตรงหน้า​ราวกับ​แสงอาทิตย์​ใน​ยามเช้า​ ​ดวงตา​คู่​งาม​สาดส่อง​ราวกับ​สายน้ำ​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​งดงาม​และ​อ่อนโยน​เป็น​ที่สุด​ ​ใน​ใจ​พลัน​หวั่นไหว​ ​ท่าทาง​ที่​เดิมที​เหมือน​เพียงแค่​อยาก​จะ​เล่น​สนุก​ใน​ตอนแรก​เปลี่ยนเป็น​นุ่มนวล​มากขึ้น

“​สือ​อี​เหนียง​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​อู้อี้​แล้ว​จูบ​ลง​บน​ไหล่​ของ​นาง

ไม่รู้​ว่า​เป็นเพราะว่า​สือ​อี​เหนียง​รู้​เจตนา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หรือ​เป็น​เพราะ​ความ​เย็นยะเยือก​ของ​อากาศ​ ​สือ​อี​เหนียง​ตัวสั่น​เล็กน้อย​ ​รู้สึก​หนาว​จน​ร่างกาย​แข็งทื่อ​ไป​หมด

จะ​ปล่อย​ให้​เป็น​แบบนี้​ไม่ได้​!

ไม่ว่า​ด้าน​ไหน​ตน​ก็​ไม่​สามารถ​ปฏิเสธ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ใน​เรื่อง​นี้​ได้​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ก็​ทำได้​เพียง​หาวิ​ธี​แก้ไข​ ​การหลีก​เลี่ยง​ปัญหา​ไม่ใช่​หลักการ​ของ​นาง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ตอนนี้​ตัวเอง​เป็น​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​ควรจะ​ใช้ชีวิต​ต่อไป​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​สือ​อี​เหนียง​…​เย็บปักถักร้อย​ถือเป็น​งาน​ของ​สตรี​ ​ก่อนหน้านี้​ก็​ทำ​มัน​ได้ดี​ไม่ใช่​หรือ​…​นอกจากนี้​เรื่อง​ที่ว่า​ผู้หญิง​ใน​ยุค​นี้​จะ​แต่งงาน​ตั้งแต่​อายุ​สิบ​สามสิบ​สี่​ปี​ ​ก็​ไม่ใช่​ว่า​ทุกคน​จะ​เป็น​เหมือน​นาง​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​การ​ที่​เป็น​มั่ว​เหยี​ยน​นั้น​มี​เวลา​มากกว่า​…

นาง​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​ ​แต่​มือ​ของ​นาง​กลับ​จับ​ผ้าห่ม​ไว้​แน่น​โดยไม่รู้ตัว

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เจ็บ​ไหล่​เล็กน้อย​ ​จึง​ผลัก​เขา​ออก​โดย​ไม่ได้ตั้งใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกใจ​จึง​เริ่ม​รู้สึกตัว

บน​ไหล่​มีด​อก​ไม้แดง​บานสะพรั่ง​ ​ราวกับ​ดอกไม้​ที่​ตกลง​มาบน​หิมะ​ขาว​…​ช่าง​เย้ายวนใจ​เหลือเกิน

เขา​กอด​และ​จูบ​แก้ม​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ทำ​เจ้า​เจ็บ​หรือ​”​ ​แต่​แขน​กลับ​กอด​นาง​ไว้​แน่น

สวี​ลิ่ง​อี๋​มี​ไอ​ร้อน​พร้อมกับ​กลิ่น​สุรา​ที่​ค่อนข้าง​แรง​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่สบาย​ตัว

ถ้า​เป็น​เมื่อก่อน​นาง​ก็​จะ​อดทน​แล้ว​เกลี่ย​กล่อม​ให้​เขา​ปล่อยมือ​ ​แต่​อย่างไรก็ตาม​ในเมื่อ​ตัดสินใจ​ที่จะ​แก้ปัญหา​นี้​ ​เช่นนั้น​การสื่อสาร​จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​จำเป็น​อย่างมาก

นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​หลับตา​ลง​แล้ว​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​มีกลิ่น​สุรา​ติด​เต็มตัว​ไป​หมด​…​ข้า​จึง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สบาย​…​”​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ถึงแม้​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​แต่​ถึงอย่างไร​นี่​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​สามีภรรยา​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​จะ​รับได้​หรือไม่​ ​ดวงตา​ของ​นาง​เหลือบมอง​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชะงัก​ไป​ชั่วครู่

เขา​คิดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​ใช้​เหตุผล​นี้​ ​เห็น​ว่านาง​ไม่กล้า​สบตา​กับ​ตน​ ​สีหน้า​ยัง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความหวาดกลัว​ ​ราวกับ​เด็กสาว​ที่​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​เขา​ตำหนิ​…​ทันใดนั้น​เขา​ก็​นึกถึง​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​ตอนที่​สวี​ลิ่ง​ควน​ยัง​เด็ก​เวลา​เจอ​เขา​ก็​จะ​มีท​่า​ทาง​เช่นนี้​ ​จากนั้น​เวลา​ที่สอง​พี่น้อง​พูดถึง​เรื่อง​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ว่า​สวี​ลิ่ง​ควน​ชอบ​เอาเรื่อง​ของ​เขา​มา​พูด​ ​รู้สึก​ไม่สบอารมณ์​ ​ทำตัว​เหมือน​เป็น​เด็กผู้หญิง​ ​ดังนั้น​เมื่อ​เห็น​สวี​ลิ่ง​ควน​เขา​จึง​มักจะ​ขมวดคิ้ว​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​ควน​กลับ​บอกว่า​อยาก​จะ​ใกล้ชิด​เขา​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​แต่​ทุกครั้งที่​เห็น​เขา​ขมวดคิ้ว​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี.​..​หรือว่า​สือ​อี​เหนียง​ก็​เป็น​เช่นกัน

อยาก​จะ​ใกล้ชิด​กับ​เขา​แต่​ก็​กลัว​ท่าทาง​เคร่งขรึม​ของ​เขา​!

เมื่อ​นึกถึง​หลาย​วัน​มานี​้​ที่​เพียงแค่​กอด​นาง​แล้ว​นอนหลับ​ไป​ ​นาง​ก็​มีท​่า​ทาง​เชื่อฟัง​ ​แล้ว​ครั้งนั้น​ที่​หยอกล้อ​นาง​ ​สุดท้าย​ตัวเอง​ก็​ถลำลึก​ลง​ไป​…​ท่าทาง​ของ​นาง​ที่​โอนอ่อน​ตาม​…

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​เบา​ๆ​

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​เห็น​คิ้ว​ของ​เขา​เลิก​ขึ้น​สูง​ ​“​เพราะ​อย่างนี้​เอง​หรือ​”

แน่นอน​ว่า​มัน​ไม่ใช่​แค่นั้น

ทาน​คำ​เดียว​ไม่​สามารถ​ทำให้​อ้วน​ได้​ ​มีบา​งคำ​ที่​ต้อง​ค่อยๆ​ ​พูด​จึง​จะเข้า​ใจ

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พยักหน้า​เล็กน้อย

ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​มอง​ริมฝีปาก​แดง​ระเรื่อ​ของ​นาง​ ​แล้ว​ก้มลง​จูบ​ริมฝีปาก​ของ​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม

คนรัก​กัน​เท่านั้น​จึง​จะ​จูบ​กันได​้​…

สือ​อี​เหนียง​เบี่ยง​หน้า​หลบ​จูบ​ของ​เขา​โดยไม่รู้ตัว

“​สือ​อี​เหนียง​…​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​ด้วย​ความประหลาดใจ

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้ว​อด​ถอนหายใจ​ไม่ได้

พึ่ง​จะ​ตัดสินใจ​ไป​แล้ว​เมื่อ​ครู่​ ​แต่​ทำไม​…

นาง​ทำได้​เพียง​วัวหายล้อมคอก

ผลัก​เขา​ออก​แล้ว​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​กลิ่น​สุรา​เต็มตัว​ไป​หมด​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็นท่า​ทาง​ออดอ้อน​ของ​เด็กน้อย​เมื่อ​ครู่​ ​ความ​ไม่สบอารมณ์​ที่​ผุด​ขึ้น​มา​เมื่อครู่นี้​ก็​ราวกับ​น้ำแข็ง​ที่​เจอ​กับ​แสงอาทิตย์​จน​ละลาย​กลายเป็น​น้ำ​ทันที

“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​”​ ​เขา​ลูบ​ผม​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​กอด​นาง​ไว้​ใน​อ้อมแขน​อย่าง​แนบแน่น​ ​“​รีบ​นอน​เถิด​!​”

ท่าทาง​ดู​หยาบกระด้าง​เล็กน้อย​ ​แต่กลับ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ที่​ตัว​แนบชิด​อยู่​กับ​เขา​สามารถ​สัมผัส​ได้​ถึง​การเปลี่ยนแปลง​ของ​ร่างกาย​ของ​เขา​ได้​อย่างชัดเจน

นอน​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ​หรือ​…

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ

จากนั้น​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​มือ​กว้าง​อัน​อบอุ่น​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลูบ​ไปมา​ที่​เอว​ของ​นาง​ไม่​หยุด​ ​ก่อนที่​ร่างกาย​จะ​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง

ทันใดนั้น​นาง​ก็​รู้สึก​กระวนกระวายใจ​

หาก​ไม่มี​ความทรงจำ​ของ​มั่ว​เหยี​ยน​ ​นาง​จะ​คิด​ว่า​เขา​เป็น​สามี​ที่​ดี​หรือไม่

ถึงแม้ว่า​จะ​มี​ความทรงจำ​ของ​มั่ว​เหยี​ยน​อยู่​ ​แต่​เขา​ก็​ถือว่า​เป็น​คนรัก​ที่​ดี.​..

นาง​หันหน้า​ออก​ไป

ด้านนอก​มุ้ง​ผ้าแพร​สีเหลือง​ขมิ้น​ปัก​ลาย​ค้างคาว​สีฟ้า​ ​เมื่อ​แสงสว่าง​สีขาว​ส่อง​เข้ามา​ ​ทำให้​รู้สึก​เหมือน​แสง​ที่​สาดส่อง​ใน​ความมืด​มิด

สือ​อี​เหนียง​กัด​ริมฝีปาก​แล้ว​พลิกตัว​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​มือ​บาง​เอื้อม​ไป​กอด​ที่​เอว​หนา​เบา​ๆ​

“​ท่าน​โหว​…​”​ ​น้ำเสียง​ใส​กังวาน​ของ​นาง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความลังเล​ ​ปลายนิ้ว​ของ​นาง​ไล่​ผ่าน​ผ้าแพร​ที่​อ่อนนุ่ม​อย่าง​มีเลศนัย​ ​ค่อยๆ​ ​หยุด​อยู่​บน​ผิว​ที่​ร้อนระอุ​ของ​เขา

จู่ๆ​ ​มือ​ของ​นาง​ก็​ถูกจับ​ไว้

“​รีบ​นอน​เถิด​!​”​ ​น้ำเสียง​แหบ​พร่า​ ​“​พรุ่งนี้​ต้อง​ตื่น​แต่เช้า​!​”

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ

จากนั้น​ก็​รู้สึก​ร้อนผ่าว​บน​ใบหน้า

ถูก​ปฏิเสธ​อย่างนั้น​หรือ​…

“​ข้า​ดื่ม​สุรา​มา​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ฟัง​ดู​หม่นหมอง

เป็น​เพราะ​ที่​ถูก​ปฏิเสธ​ก่อนหน้านี้​หรือ

สือ​อี​เหนียง​เขินอาย​จน​ยาก​ที่จะ​ทน​ได้​ ​จึง​พลิกตัว​หันหลัง​ให้​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​แต่​ก็​เข้าใจ​ได้​ในทันที​จึง​อด​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​ไม่ได้

“​ข้า​ไม่​อยาก​ต้อง​หยุดกลางคัน​เหมือน​ครั้ง​ที่แล้ว​…​”

เขา​จูบ​เบา​ๆ​ ​ที่​หลัง​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​พลัน​ตัว​แข็งทื่อ

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ถึง​ความเปลี่ยนแปลง​ของ​นาง​จึง​หัวเราะ​เสียงดัง​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ฟัง​ดู​มีความสุข​อย่างชัดเจน

จริงๆ​ ​เลย​…​หน้า​อาย​เสีย​จริง​…

สือ​อี​เหนียง​ใช้​ผ้าห่ม​คลุม​หัว​แต่กลับ​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดึง​มาก​อด

“​มั่ว​เหยี​ยน​…​”​ ​เขา​จูบ​แก้ม​นาง​ ​น้ำเสียง​มีความสุข​ ​“​รีบ​โต​เร็ว​เข้า​!​”

******

สะใภ้​หนาน​หย่ง​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่นั่ง​อยู่​หน้า​กระจก​อย่างระมัดระวัง​ ​พลาง​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​เอนกาย​อยู่​บน​เตียง​ ​ก่อนที่จะ​นำ​ปิ่นปักผม​สีทอง​ประดับ​ไข่มุก​มาปั​กต​รง​มวยผม​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ถาม​เสียง​กระซิบ​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​ว่า​เป็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​คนใน​กระจก

ไก่​งาม​เพราะ​ขน​ ​คน​งาม​เพราะ​แต่ง​จริงๆ​ ​ด้วย

มวยผม​ทรง​ดอกบัว​ตั๋น​ยก​สูง​ ​สวม​เสื้อ​ปัก​ลาย​ดอกไม้​สีแดง​ลูก​พลับ​ที่​ปัก​เย็บ​อย่างสวยงาม​ ​ปัด​แก้ม​บาง​ๆ​ ​คิ้ว​ดำขลับ​ที่​วาด​อย่างประณีต​ ​การ​แต่งกาย​ดู​สง่างาม​กว่า​ปกติ

นาง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ให้​สะใภ้​หนาน​หย่ง​ ​หยิบ​ถุงเงิน​สอง​ถุง​ใน​กล่อง​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะเครื่องแป้ง​มาม​อบ​ให้​ ​“​อัน​หนึ่ง​ให้​เจ้า​ ​อีก​อัน​หนึ่ง​ให้​เป็นอั​่ง​เปา​แก่​บุตรสาว​ของ​เจ้า​”

สะใภ้​หนาน​หย่ง​รีบ​ย่อเข่า​คำนับ​ขอบคุณ​ ​ก้มหน้า​แล้ว​ถอยหลัง​ไป​จนถึง​ห้องโถง​ทางเดิน​ ​ก่อน​จะ​ยืดตัว​ตรง​แล้ว​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​

วันนี้​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น

ฮู​หยิน​ที่​ปกติ​ยิ้มแย้มแจ่มใส​กลับ​ทำ​หน้าบึ้ง​ตึง​ ​แต่​ท่าน​โหว​ที่​ปกติ​ทำ​หน้าบึ้ง​ตึง​กลับ​ยิ้มแย้มแจ่มใส​…​ซ้ำ​ยัง​นอน​อยู่​บน​เตียง​มองดูฮู​หยิน​แต่งตัว​…​ช่าง​แปลก​เสีย​จริง

ขณะที่​นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​จู่ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​คน​เอ่ย​เรียก​นาง​ว่า​ ​“​พี่​หนาน​ ​พี่​จะ​เริ่ม​ทำงาน​ที่​เรือน​คุณชาย​น้อย​ห้า​เมื่อใด​หรือ​เจ้า​คะ​”

สะใภ้​หนาน​หย่ง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เมื่อ​หันไป​ก็​เห็น​ซวง​อวี​้​ที่​อายุ​เพียง​สิบ​ขวบ​กำลัง​ถือน้ำ​ร้อน​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​เรือน

ซวง​อวี​้​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ป้า​เถา​บอกว่า​พี่​หนาน​จะ​มารับ​ใช้​อยู่​ใน​เรือน​คุณชาย​น้อย​ห้า​หลังจาก​ตรุษจีน​ ​ข้า​เอง​ก็​เป็น​คนที​่ฮู​หยิน​ให้​มารับ​ใช้​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​ต่อไปนี้​ก็​จะ​ได้​อยู่​เรือน​เดียวกัน​กับ​พี่​หนาน​แล้ว​”

สะใภ้​หนาน​หย่ง​ประหลาดใจ

สือ​อี​เหนียง​ถาม​สะใภ้​หนาน​หย่ง​ว่า​อยาก​ทำงาน​รับใช้​คุณชาย​น้อย​ห้า​หรือไม่​ ​นาง​กลับ​ไป​ปรึกษา​กับ​หนาน​หย่ง​ ​แต่กลับ​ถูก​ด่า​มาชุด​ใหญ่​ ​“​ที่ฮู​หยิน​ถาม​เจ้า​ก็​เพื่อให้​เกียรติ​เจ้า​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ไร้เดียงสา​มาป​รึก​ษา​กับ​ข้า​ก่อน​จริงๆ​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เจ้า​เป็น​ใคร​ ​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​ขอบคุณฮู​หยิน​อีก​”

ตอนนั้น​นาง​กระวนกระวาย​ไป​หมด​ ​“​ข้า​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​ดูแล​คุณชาย​น้อย​ห้า​ได้​ไม่ดี​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​เกิด​และ​เติบโต​นอก​จวน​ ​เลี้ยง​มา​จน​อายุ​สาม​ขวบ​จึง​ได้​เข้า​จวน​มา​ ​มีสาย​ตา​หลาย​คู่​คอย​จ้องมอง​มาที​่​เขา​ ​หาก​เข้มงวด​ไป​ก็​กลัว​ว่า​คุณชาย​น้อย​ห้า​จะ​ไม่​ชอบ​ ​หาก​ไม่​เข้มงวด​จน​ไม่รู้​จัก​กฏ​ใน​เรือน​ก็​จะ​รู้สึก​ผิด​ต่อฮู​หยิน​ ​ข้า​จะ​กล้า​รับ​งาน​นี้​ได้​อย่างไร​!​”

“​เจ้า​โง่​ ​ยัง​จะ​พูดเหลวไหล​อยู่​อีก​”​ ​หนาน​หย่ง​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​โมโห​ดั่ง​สายฟ้า​ฟาด​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​กล้า​ปฏิเสธฮู​หยิน​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​ดุด่า​ไป​พลาง​ผลัก​นาง​ออก​ไปนอก​ประตู​ ​จะ​พานาง​ไป​ขอขมา​กับ​สือ​อี​เหนียง

ยังดี​ที่​ภรรยา​ของ​ผู้ดูแล​จ้าว​ที่อยู่​ห้อง​ข้างๆ​ ​มา​ห้าม​หนาน​หย่ง​เอาไว้​ ​“​เจ้า​ทำ​อะไร​ ฮู​หยิน​ก็​เพียงแค่​ชอบ​ที่​ภรรยา​ของ​เจ้า​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​เจ้า​เลิก​เข้ามา​แทรก​กลาง​ได้​แล้ว​ ​ก็​แค่​ให้​ภรรยา​ของ​เจ้า​ไป​บอก​กับ​หู่​พั่ว​ก็​พอแล้ว​”

ผู้ดูแล​จ้าว​เป็น​คน​มีเกียรติ​ใน​จวน​ ​คำพูด​ของ​ภรรยา​เขา​มี​หรือ​ที่​หนาน​หย่ง​จะ​กล้า​ขัดขืน​ ​จึง​เร่ง​ให้​ภรรยา​ของ​ตน​รีบ​กลับ​ไป​ให้​คำตอบฮู​หยิน

สะใภ้​หนาน​หย่ง​ไม่กล้า​รอช​้า​ ​รีบ​กลับ​ไป​ให้​คำตอบ​กับ​หู่​พั่ว​

คิดไม่ถึง​ว่า​เวลา​ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่​กี่​วันทุ​กคน​ต่าง​ก็​รู้เรื่อง​นี้​กัน​หมด​แล้ว

นาง​ยิ้ม​ให้​ซวง​อวี​้​ ​“​ข้า​ต้อง​รอฟั​งคำ​สั่งของฮู​หยิน​ก่อน​”​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ ​“​เจ้า​ยก​น้ำ​ไป​ให้​ใคร​หรือ​ ​ระวัง​จะ​เย็น​เสียก่อน​”

“​ไม่เป็นไร​ ​นี่​เป็นน้ำ​ที่​ข้า​ยก​มา​ให้​พี่​ลี่ว​์​อวิ​๋น​”​ ​ซวง​อวี​้​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​วันนี้​พี่​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​จะ​ตามฮู​หยิน​ไป​เยี่ยม​ญาติ​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ ​พี่​หง​ซิ่ว​กำลัง​ทำงาน​อยู่​ ​ส่วน​พี่​ลี่ว​์​อวิ​๋​นกำ​ลัง​พักผ่อน​”

“​เช่นนั้น​ก็​อย่า​ปล่อย​ให้​น้ำเย็น​เสียก่อน​”​ ​สะใภ้​หนาย​หย่ง​กำชับ​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม​สอง​สาม​ประโยค​แล้ว​แยกย้าย​กัน​ไป

ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ก็​หันไป​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ยัง​ไม่​เตรียม​ลุก​จาก​เตียง​อีก​หรือ​ ​เดี๋ยว​จะ​ไป​ตรอก​กง​เสียน​สาย​นะ​เจ้า​คะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท