ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 220 ฉวยโอกาส(ต้น)

ตอนที่ 220 ฉวยโอกาส(ต้น)

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ

ตั้งแต่​เมื่อวาน​จนถึง​ตอนนี้​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยัง​ทำตัว​ไม่​ถูก

ภรรยา​ที่​ปกติ​เป็น​คน​กล้าหาญ​ ​แต่​ตอนนี้​กลับ​ทำตัว​ไม่​ถูก​ต่อหน้า​ตัวเอง​ ​ทำให้​เขา​รู้สึก​สนุก​เป็นอย่างมาก

อยาก​จะ​หยอกล้อ​นาง​อีก​สักหน่อย​ ​แต่​พอนึก​ถึง​ท่าทาง​เมื่อวาน​นี้​ที่นาง​ทั้ง​โกรธ​ทั้ง​อาย​จน​หน้าแดง​ ​รู้​ว่านาง​นั้น​เขิน​ ​เกรง​ว่า​จะ​ทำให้​นาง​โมโห​ได้​ ​จึง​เรียก​ชุน​มั่ว​กับซ​ย่า​อี​เข้ามา​ปรนนิบัติ​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

คิดไม่ถึง​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​เป็น​คน​ไร้ยางอาย​ ​พูด​คำ​เหล่านั้น​ออกมา​ได้​โดย​ไม่รู้​สึก​รู้​สา​อะไร

แต่​ตน​ไม่​ชิน​จริงๆ​ ​สอง​ชาติ​นี้​ที่เกิด​มา​เป็น​คน​ ​ไม่เคย​มี​ผู้ชาย​คน​ไหน​ทำ​เช่นนี้​ต่อหน้า​นาง​มาก​่อน

ตัวเอง​ก็​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​ได้​รู้สึก​ไม่สบายใจ​แล้ว​เอื้อมมือ​เข้าไป​ใน​เสื้อ​ของ​เขา​…

อย่า​ลืม​สิว​่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เคย​ขาดแคลน​คน​ร่วม​เตียง​ ​อย่า​ว่าแต่​เขา​มี​อี๋​เหนียง​สาม​คนเลย​ ​แม้แต่​สาวใช้​ใน​จวน​นี้​ ​หาก​เขา​สนใจ​ ​ผู้ใด​จะ​ไป​สามารถ​ขัดขวาง​เขา​ได้​ ​เขา​ให้เกียรติ​นาง​มาต​ลอด​แต่​ที่จริง​แล้วก็​คือ​แผนที่​วาง​เอาไว้​ ​แต่​ที่​ทำ​เช่นนี้​ก็​เพื่อ​แสดง​ความเคารพ​ภรรยา​ ​ไม่อย่างนั้น​ ​เหตุใด​เฉียว​เหลียง​ฝัง​ถึง​ไม่เห็น​ฉิน​อี๋​เหนียง​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​อยู่​ใน​สายตา​เล่า​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่สน​ใจ​ท่าที​ของ​พวก​นาง​แม้แต่น้อย​ ​อย่า​ลืม​ว่า​แม้แต่​ตอนที่​นักประวัติศาสตร์​พูดถึง​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ฮ่องเต้​กับ​พระสนม​ก็​จะ​เรียงลำดับ​ตาม​สถานะ​ของ​พระสนม​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เฉียว​เหลียน​ฝัง​นั้น​ก็​เห็น​ได้​อย่างชัดเจน​อยู่​แล้ว​ ​สถานการณ์​การ​อยู่ร่วม​กัน​ระหว่าง​คน​สอง​คน

หาก​จะ​โทษ​ก็​โทษ​ตัวเอง​ที่​เมื่อวาน​นี้​ตื่นตระหนก​เทาน​ไป​ ​ทำให้​ส่วน​ที่ซ่อน​เร้น​อยู่​ภายใต้​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​ที่​เป็น​ของ​มั่ว​เหยี​ยน​ผุด​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​โดยไม่รู้ตัว

สือ​อี​เหนียง​ลูบ​ดอก​เหมย​ที่​แกะสลัก​อยู่​บน​หวี​ไม้​หวง​หยาง​ที่อยู่​ใน​มือ​พลาง​ยิ้มเยาะ​ตัวเอง

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ตัวเอง​ก็​ยัง​มี​ความดื้อ​รั้น​อยู่​บ้าง​ ​ไม่มีทาง​ที่จะ​เป็น​สือ​อี​เหนียง​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​!

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​ห้ามา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

นาง​สงบสติอารมณ์​ ​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​เปลี่ยนเป็น​สือ​อี​เหนียง​ที่​มี​รอยยิ้ม​อ่อนโยน​ ​“​ให้​คุณชาย​น้อย​ห้า​เข้ามา​เถิด​”

สาวใช้​น้อย​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

ตง​ชิง​และ​ปินจ​วี​๋​ประกบ​ข้าง​ซ้าย​ขวา​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดิน​เข้ามา

วันนี้​เขา​สวม​เสื้อผ้า​แพร​สีฟ้า​ตัวใหม่​ ​เกล้าผม​ขึ้น​ ​สี​เสื้อ​ช่วย​ขับ​เน้น​ผิว​ที่​กระจ่าง​ใส​ของ​เขา​ ​คิ้ว​ทั้งสอง​ข้าง​งดงาม​ยิ่งนัก

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​มอง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตง​ชิง​ก็​รีบ​อธิบาย​ว่า​ ​“​พวก​บ่าว​ช่วยกัน​ทำ​ชุด​รับ​ตรุษจีน​ให้​คุณชาย​น้อย​ห้า​กัน​ทั้งคืน​เจ้าค่ะ​”

“​สี​นี้​ดูดี​มาก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​ให้​ตง​ชิง​ตาม​หญิง​รับใช้​สูงวัย​ที่​เป็น​คน​รายงาน​ข่าว​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ก่อน​ ​วันนี้​เป็น​วันที่​สอง​ ​ทุกคน​ต้อง​กลับ​สกุล​เดิม​เพื่อ​ไป​อวยพร​ตรุษจีน

ตง​ชิง​ไม่ได้​อยาก​จะ​กลับ​จวน​สกุล​หลัว​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ทำท่า​ทาง​เหมือน​อยาก​ให้​พวก​นาง​ไป​พบ​กับ​สหาย​เก่า​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่​อยาก​หักหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​ยิ้ม​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ทาง​ประตู​ข้าง​ของ​จวน​สวี

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ไม่​ออกมา​จึง​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​ถาม​เขา​ว่า​ทานข้าว​เช้า​แล้ว​หรือยัง​ ​ทาน​อะไร​มาบ​้าง​ ​สิ่งใด​บ้าง​ที่​อร่อย

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​จา​อย่าง​เฉลียวฉลาด​ ​ไม่​เหมือน​เด็ก​อายุ​สาม​ขวบ​แม้แต่​นิด​ ​ค่อยๆ​ ​ตอบคำถาม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ทุก​คำถาม

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​พอดี

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ลัน​เหม่อลอย​ ​สายตา​มองตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ทัน​ได้​สังเกต​ ​เห็น​เพียง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​อุ้ม​เด็ก​หน้าตา​ขาวผ่อง​คน​หนึ่ง​ ​ดวงตา​อ่อนโยน​ ​รอยยิ้ม​สดใส​ ​มอง​แล้ว​สบาย​ตา​เป็นอย่างมาก​ ​ทำให้​อารมณ์​ของ​เขา​สงบ

“​อวี​้​เกอ​ยัง​ไม่​มา​อีก​หรือ​”​ ​เขา​ยิ้ม​พลาง​จัด​แขน​เสื้อ​ ​สื่อ​ให้​เห็น​ว่า​ชุน​มั่ว​ได้​ช่วย​เขา​สวม​เสื้อคลุม​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​จะ​ต้องเต​รี​ยม​ตัว​ออกเดินทาง​แล้ว​ ​จึง​ให้​ปินจ​วี​๋​มา​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ลุกขึ้น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ให้​ไป​อยู่​กับ​จุน​เกอ​เถิด​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​แล้ว​พาสื​ออี​เหนียง​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน

คน​ของ​เรือน​สาม​ได้มา​ลา​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​แต่เช้า​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยืน​อยู่​หน้า​ตั่ง​นั่ง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​มองดู​ไท่ฮู​หยิน​จัด​เสื้อผ้า​ให้​จุน​เกอ​พลาง​กำชับ​การปฏิบัติ​ตัว​กับ​เขา​ ​เมื่อ​เห็นท่า​นพ​่​อกั​บท​่าน​แม่​เข้ามา​ก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ ​จุน​เกอ​ตะโกนเรียก​ ​“​เจี​้ย​เกอ​”​ ​ด้วย​ความดีใจ​ ​เมื่อ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ว่า​จุน​เกอ​เรียกตัว​เอง​ก็​หันไป​ยิ้ม​ให้​จุน​เกอ

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​ทั้งสอง​สนิทสนม​กัน​ก็​หัวเราะ​ขบขัน

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ดุจุน​เกอ​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​เจี​้ย​เกอ​ใช่​ชื่อ​ที่​เจ้า​ควร​เรียก​หรือ​ ​ต้อง​เรียกว่า​น้อง​ห้า​!​”

บรรยากาศ​ตึงเครียด​ขึ้น​มาทัน​ที

จุน​เกอ​หน้าซีด​เซียว​ ​พูด​พึมพำ​กับ​สวี​ซื่อ​เจี้ยว​่า​ ​“​น้อง​ห้า​”​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำ​หน้าบึ้ง​ตึง​ก็​ตกใจ​หลบ​ไป​อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง

ไท่ฮู​หยิน​ส่ายหน้า​ ​รีบ​พูด​คลี่คลาย​สถานการณ์​ ​“​วัน​ตรุษจีน​เช่นนี้​ ​จะ​เอ่ยปาก​สั่งสอน​อะไร​เจ้า​ก็​ช่วย​หาคำ​พูด​ที่​น่าฟัง​สักหน่อย​ไม่ได้​หรือ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เหมือน​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​หยุด​ไป​ ​ทำท่า​ทาง​เหมือน​ไม่​สามารถ​ทำ​สิ่งใด​กับ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​เข้ามา​ขัด​ได้

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้วก็​ยิ้ม​พลาง​อุ้ม​จุน​เกอ​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ ​“​นี่​ก็​สาย​แล้ว​ ​พวกเรา​รีบ​ออกเดินทาง​กัน​เถิด​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​อาศัย​โอกาส​นี้​พาสื​ออี​เหนียง​กับ​เด็ก​ๆ​ ​ลุกขึ้น​แล้ว​กล่าว​ลา

พึ่ง​จะ​เดิน​ออกมา​จาก​เรือน​ก็ได้​พบ​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​และฮู​หยิน​ห้า

ทุกคน​ทักทาย​ซึ่งกันและกัน​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​กับฮู​หยิน​ห้า​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ ​ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​คนอื่นๆ​ ​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน

ด้านหน้า​ประตู​สกุล​หลัว​แขวน​โคมไฟ​สีแดง​ขนาดใหญ่​ ​บน​ประตู​มีตั​วอั​กษร​ ​’​โชคดี​มีสุข​’​ ​สีแดง​ขนาดใหญ่​ติด​อยู่​ ​ตรง​มุม​กำแพง​ ​ต้นไม้​และ​ดอกไม้​ใน​ลานบ้าน​ล้วน​ผูก​เชือก​สีแดง​ไว้​ ​บรรยากาศ​ดู​เป็น​สิริมงคล​อย่างยิ่ง

หญิง​รับใช้​สูงวัย​ที่​เป็น​คน​รายงาน​ของ​สกุล​สวี​มาถึง​ก่อน​พวกเขา​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​และ​คุณนาย​ใหญ่​มาต​้อ​นรับ​พวกเขา​ที่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​เมื่อ​เห็น​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ทั้งสอง​คน​ก็​อด​มอง​เขา​ไม่ได้

สือ​อี​เหนียง​ไม่​พูด​อะไร​ ​นาง​ให้​เด็ก​ทั้ง​สาม​คน​คำนับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​กับ​คุณนาย​ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​รับอั​่ง​เปา​จาก​ทั้งสอง​คน

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​พา​พวกเขา​ไป​คารวะ​นายท่าน​ใหญ่​และ​นาย​หญิง​ใหญ่

คุณนาย​ใหญ่​ยืน​กระซิบ​อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​อย่างไร​เด็ก​ๆ​ ​ก็​ต้อง​ออก​ไป​เรียนรู้​นอก​จวน​ ​จึง​บอก​ท่าน​แม่​อย่าง​อ้อมค้อม​ไป​แล้ว​ ​พอท​่าน​แม่​รู้​ว่า​เด็ก​ๆ​ ​ถูก​เลี้ยงดู​โดยถ​งอี​๋​เหนียง​ก็​พอใจ​เป็นอย่างมาก​”

สิ่ง​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​สนใจ​คือ​ผลประโยชน์​ของ​จุน​เกอ​ ​เมื่อ​ผลประโยชน์​ของ​จุน​เกอ​ไม่ได้​รับ​ผลกระทบ​จึง​วางใจ​ได้​!

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​ตาม​ไป​ที่​เรือน​หลัก​เพื่อ​คารวะ​นายท่าน​ใหญ่​และ​นาย​หญิง​ใหญ่

นายท่าน​ใหญ่​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​พูดคุย​ก่อน​ ​ส่วน​คุณนาย​ใหญ่​ ​สือ​อี​เหนียง​กับ​เด็ก​ๆ​ ​อยู่​ที่​เรือน​นาย​หญิง​ใหญ่

ป้า​สวี​่​มอบอั​่ง​เปา​ให้​กับ​เด็ก​ๆ​ ​แทน​นาย​หญิง​ใหญ่

เมื่อมา​ถึง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​จ้องเขม็ง​ไป​ที่​เด็กน้อย​ ​ทำเอา​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตกใจ​จน​ไม่​อยาก​ก้าว​เข้าไป

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​จึง​เดิน​ไป​จูงมือ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพา​เขา​เข้าไป​รับอั​่ง​เปา

คุณนาย​สี่​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​เห็น​แล้วก็​หัวเราะ​ ​หยิบอั​่ง​เปา​ออกมา​ยื่น​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​นี่​ของ​ป้า​หญิง​สี่​ ​มอบให้​เจ้า​”​ ​จากนั้น​ก็​ทักทาย​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​นี่​คือ​คุณชาย​น้อย​สอง​ใช่​หรือไม่​ ​รูปร่างหน้าตา​หล่อเหลา​เสีย​จริง​”​ ​พลาง​ยื่นอั​่ง​เปา​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​จุน​เกอ​คนละ​ถุง

การ​ที่นาง​ท่าทาง​ร่าเริง​เช่นนี้​ ​ทำให้​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

ดูเหมือนว่า​พี่สะใภ้​สี่​ของ​ตัวเอง​จะ​เป็น​คน​มีไหวพริบ

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้ว​แอบ​พยักหน้า​ใน​ใจ​ ​หยิบอั​่ง​เปา​ที่​เตรียม​ไว้​นาน​แล้ว​ยื่น​ให้​ซิว​เกอ

ซิว​เกอ​รับ​มา​พลาง​ยิ้ม​อย่างดี​ใจ​ ​พึ่ง​จะ​พูด​คำ​อวยพร​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​สุขสันต์​วัน​ตรุษจีน​นะ​ขอรับ​”​ ​ก็​ถูก​จุน​เกอ​ดึง​ตัว​ไป​ ​ชี้​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นี่​คือ​น้อง​ห้า​ของ​ข้า​!​”

ซิว​เกอ​มอง​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยด​้วย​ความแปลกใจ​ ​“​เขา​หน้าตา​เหมือน​สาวน้อย​เลย​”

จุน​เกอ​รีบ​อธิบาย​ทันที​ ​“​เขา​เป็น​น้องชาย​ไม่ใช่​น้องสาว​”​ ​ชี้​ไป​ที่​ซิว​เกอ​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​เจี้ยว​่า​ ​“​นี่​คือ​ญาติ​ผู้​น้อง​ ​เรียก​เขา​ว่า​ญาติ​ผู้​น้อง​สิ​”

ท่าทาง​จริงจัง​ราวกับ​ผู้ใหญ่​ตัว​น้อย​ ​ทำเอา​สตรี​ใน​ห้อง​พากัน​หัวเราะ

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​ซิว​เกอ​ไม่ใช่​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​คุณชาย​น้อย​ห้า​แต่​เป็น​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ต่างหาก​”

จุน​เกอ​พึ่ง​รู้ตัว​ว่า​ตัวเอง​พูด​ผิด​จึง​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​

แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ที่​ไม่​คุ้นเคย​ของ​คนใน​ห้อง​กลับ​ดู​หวาดกลัว​เล็กน้อย​ ​เขามอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​อย่าง​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ข้างๆ​ ​จึง​รู้สึก​สงบ​ลง

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ถึง​ความไม่สบายใจ​ของ​เขา​ ​จึง​เดิน​เข้าไป​ลูบ​หัว​เขา​ ​ยิ้ม​พลาง​ชี้​ไป​ที่​ซิว​เกอ​ ​“​นี่​คือ​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​เจ้า​”

เขา​เรียก​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ญาติ​ผู้​พี่​”

“​เสียง​ของ​ญาติ​ผู้​น้อง​ห้า​น่าฟัง​มาก​”​ ​ซิว​เกอ​เบิกตา​กว้าง

“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​”​ ​จุน​เกอ​ดูท่าทาง​ภูมิใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​เขา​เป็น​น้อง​ห้า​ของ​ข้า​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ที่​เรือน​เจ้า​มี​ขนม​แป้ง​แผ่น​ทอด​หรือไม่​ ​เขา​ชอบ​ทาน​ขนม​แป้ง​แผ่น​ทอดที่​สุด​!​”

“​ไม่มี​!​”​ ​ซิว​เกอ​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ ​“​แต่ว่า​ที่​จวน​เรา​มี​ขนม​ถั่ว​ ​ขนม​เกาลัด​ ​และ​ลูกกวาด​รังนก​ ​อร่อย​ทุกอย่าง​โดยเฉพาะ​ขนม​เกาลัด​ที่​ทำ​ขึ้น​โดย​จวน​เรา​เอง​”​ ​พูด​พลาง​ยืด​อก​ ​“​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​ก็​ชอบ​ทาน​เป็นอย่างมาก​ตอน​อยู่​ที่​จวน​นี้​”​ ​จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​อย่างใจจดใจจ่อ​ ​ราวกับว่า​กำลัง​ขอกา​รส​นับ​สนุน​จาก​นาง​

สือ​อี​เหนียง​จะ​ทำลาย​ความนับถือ​ที่​เด็กน้อย​มีต​่อ​ตน​ได้​อย่างไร​ ​รีบ​พยักหน้า​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ขนม​เกาลัด​ของ​จวน​เรา​ทั้ง​หอม​ทั้ง​หวาน​ ​อร่อย​อย่างมาก​”

เมื่อ​ซิว​เกอ​ได้ยิน​ก็​มีท​่า​ทาง​ดีใจ​เหมือน​ลูกเจี๊ยบ​ได้​ทานข้าว​ ​“​เห็น​แล้ว​ใช่ไหม​ ​ข้า​ไม่ได้​หลอก​เจ้า​ ​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​ก็​บอกว่า​อร่อย​”

เมื่อ​คุณนาย​ใหญ่​เห็น​ก็​หัวเราะ​ ​พลัน​รู้สึก​ว่านาย​หญิง​ใหญ่​กำลัง​ป่วย​ ​หาก​เด็ก​ๆ​ ​พากั​นอยู​่​ที่นี่​นาน​จะ​ไม่ดี​ ​จึง​เรียก​ป้า​หัง​มา​ ​“​พา​คุณชาย​น้อย​ไป​ทาน​ของว่าง​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​”

ป้า​หัง​ยิ้ม​พลาง​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แต่​ซิว​เกอ​กลับ​พูดเสี​ยง​ดัง​ว่า​ ​“​ไม่ได้​ ​ไม่ได้​ ​ท่าน​น้า​หญิง​ห้า​ยัง​ไม่​มา​เลย​ ​พวกเรา​ยัง​ไม่ได้​รับอั​่ง​เปา​จาก​ท่าน​น้า​หญิง​ห้า​เลย​!​”

ทุกคน​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ ​“​บุตร​เขย​ห้า​กับ​คุณหนู​ห้ามา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

เมื่อ​ทุกคน​ได้​ฟัง​ก็​หัวเราะ​ดัง​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​ทำเอา​เฉียน​หมิง​กับ​อู่​เหนียง​ที่​เดิน​เข้ามา​จึง​หัวเราะ​อย่าง​งง​ๆ​ ​ตาม​ไป​ด้วย

คุณนาย​สี่​อธิบาย​ให้​ฟัง​ว่า​ ​“​ซิว​เกอ​ของ​พวกเรา​กลัว​ว่า​จะ​ไม่ได้​รับอั​่ง​เปา​จาก​น้องเขย​ห้า​กับ​น้อง​หญิง​ห้า​”

เมื่อ​เฉียน​หมิง​ได้​ฟัง​ก็​หัวเราะ​ ​หยิบอั​่ง​เปา​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ทันที​ ​“​รับ​ไป​คนละ​หนึ่ง​ถุง​!​”

ซิว​เกอ​เดิน​เข้าไป​รับ​อย่าง​เบิกบานใจ

จุน​เกอ​กลับ​มีท​่า​ทาง​ระมัดระวัง​เล็กน้อย

ซิว​เกอ​กระซิบ​ข้าง​หู​เขา​ว่า​ ​“​ท่าน​อา​เขย​ห้า​ใจดี​ที่สุด​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​กลัว​”

จุน​เกอ​จึง​เดิน​เข้าไป​รับ​แล้ว​กล่าว​ขอบคุณ​เฉียน​หมิง​เบา​ๆ​

เฉียน​หมิง​มอง​ดวงตา​ที่​อ่อนโยน​ของ​เขา​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เหตุใด​จึง​ไม่เห็น​ท่าน​โหว​”

จุน​เกอ​ยก​สอง​มือขึ้น​มาคำ​นับ​อย่างนอบน้อม​ ​“​ท่าน​พ่อ​กำลัง​พูดคุย​อยู่​กับ​ท่าน​ตา​ใน​ห้อง​หนังสือ​ขอรับ​”

เฉียน​หมิง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​แล้ว​ส่งอั​่ง​เปา​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

สวี​ซื่อ​อวี​้​กล่าว​ขอบคุณ​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​วิ่ง​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ยื่นอั​่ง​เปา​ให้​นาง

อู่​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เด็ก​คน​นี้​ช่าง​มี​วาสนา​กับ​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​เสีย​จริง​”

เฉียน​หมิง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​กระแอม​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ที่อยู่​ด้านหน้า​เตียง​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​ไถ่ถาม​ถึง​ความเป็นอยู่​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่

นาย​หญิง​ใหญ่​ผอม​ลง​อย่างมาก​ ​ท่าทาง​ไม่​ค่อย​สบายดี​เช่น​เดิม​ ​เมื่อ​เห็น​เฉียน​หมิง​ซักถาม​ด้วย​ความห่วงใย​ก็​น้ำตา​ซึม​ ​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​ส่วน​ป้า​สวี​่​ที่​คอย​ตอบคำถาม​แทน​นาย​หญิง​ใหญ่​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​น้ำตา​ซึม​เช่นกัน​ ​ท่าทาง​ที่​มีต​่อ​เฉียน​หมิง​ดู​ให้​ความเคารพ​มากกว่า​เมื่อ​ครู่​ที่​ปฏิบัติ​ต่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ซิว​เกอ​พา​จุน​เกอ​ไปรั​บอั​่ง​เปา​จาก​อู่​เหนียง

อู่​เหนียง​ได้​เตรียม​ไว้​นาน​แล้ว​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​หยิบอั​่ง​เปา​ออกมา​ ​ขณะที่​แจกอั​่ง​เปา​ก็​พูด​หยอกล้อ​คุณนาย​ใหญ่​ ​“​ตอนที่​คุณนาย​ใหญ่​ตั้งท้อง​ซิว​เกอ​ ​ใน​ห้อง​ท่าน​ได้​บูชา​เทพเจ้า​แห่ง​โชคลาภ​ไว้​ใช่​หรือไม่​”

คุณนาย​ใหญ่​หน้าแดง​ ​“​เด็ก​คน​นี้​ถูก​ข้า​ตามใจ​จน​เสียคน​แล้ว​”

อู่​เหนียง​ปิดปาก​หัวเราะ

มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คุณหนู​สิบสอง​ ​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​และ​อี๋​เหนียง​หก​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

เมื่อ​เฉียน​หมิง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา

นาย​หญิง​ใหญ่​มอง​เขา​แล้ว​พยายาม​พูดว่า​ ​“​มา​อีก​”​ ​อย่าง​ยากลำบาก​ ​จากนั้น​ก็​ส่งสัญญาณ​ให้​ป้า​สวี​่​ไป​ส่ง​เขา

เฉียน​หมิง​โน้มตัว​ลง​พูด​กับ​นาย​หญิง​ใหญ่​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ป้า​สวี​่​ก็​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​เขา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท