ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 253 ยุ่งยาก(ต้น)

ตอนที่ 253 ยุ่งยาก(ต้น)

แสง​ยาม​เย็น​สาดส่อง​ลงมา​บน​ม่าน​เตียง​ ​อบอุ่น​และ​เงียบสงบ​ ​มีเสียง​เคาะ​กลอง​เบา​ๆ​ ​เป็นจังหวะ​ดัง​มาจาก​ระยะไกล​ ​ทำให้​บรรยากาศ​เงียบสงบ​มากขึ้น

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอียงหู​ฟัง​การเคลื่อนไหว

มี​แค่​เสียง​หายใจ​เบา​ๆ​ ​แต่กลับ​ไม่มี​เสียง​พลิก​หน้า​หนังสือ​

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เขา​ลืมตา​ขึ้น​ ​ก็​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​มอง​หนังสือ​เก้า​แคว้น​แห่ง​ต้า​โจว​อย่าง​เหม่อลอย

ถูก​คน​จาก​สกุล​เดิม​ของ​ตัวเอง​ทำร้าย​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​คนที​่​ใจกว้าง​มาก​แค่ไหน​ ​เกรง​ว่า​ก็​คงจะ​รู้สึก​เสียใจ​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​สือ​อี​เหนียง​ยัง​เด็ก​ ​นาง​ไม่เคย​เจอ​เรื่อง​อะไร​…​

เขา​พลิกตัว​เบา​ๆ​

หรือว่า​ต้อง​พูด​ปลอบประโลม​นาง​?

แต่​มัน​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ดี​อะไร​ ​หาก​ตัวเอง​พูด​แทงใจ​นาง​ ​สือ​อี​เหนียง​จะ​รู้สึก​เสียหน้า​หรือ​รู้สึก​ลำบากใจ​หรือไม่

เขา​ครุ่นคิด​แล้ว​ตัดสินใจ​ที่จะ​ไม่​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง

เรื่อง​บ้าง​เรื่อง​ ​ต้อง​ไตร่ตรอง​เอง​ ​คนอื่น​บอก​ ​อาจจะ​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ ​อย่างมาก​ตน​ก็​ต้อง​คอย​ดู​นาง​ ​คอย​ตักเตือน​นาง

เมื่อ​ตัดสินใจ​แล้ว​จิตใจ​ก็​สงบ​ลง​ ​พลัน​รู้สึก​ง่วงงุน​ขึ้น​มา​ ​ไม่นาน​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​แต่กลับ​ถูก​ปลุก​ตื่น​ ​ได้ยิน​เสียง​ตี​กลอง​ดัง​แว่ว​อยู่​ ​พอก​วาด​สายตา​ดูร​อบ​ๆ​ ​ก็​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ที่นอน​ตะแคง​ข้าง​หันหลัง​ให้​เขา​ ​ผ้าห่ม​เลื่อน​ลงมา​อยู่​ตรง​เอว​ ​ช่วง​ไหล่​ออกมา​อยู่​ข้างนอก​ผ้าห่ม​

อากาศ​หนาว​ขนาด​นี้​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลุกขึ้น​มา​ห่ม​ผ้า​ให้​นาง​

ภายใต้​แสงไฟ​ ​สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​เบา​ๆ​ ​มี​หยดน้ำ​ตา​พราว​อยู่​บน​ขน​ตา​งอน​ ​ราวกับ​น้ำค้าง​บน​ต้น​ดอก​ไห่​ถัง​ ​เต็มไปด้วย​เสน่ห์

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยุดชะงัก​ ​จ้องมอง​นาง​อยู่นาน​ ​จับมือ​ที่​ขาว​และ​เรียว​ยาว​แต่​เยือกเย็น​ราวกับ​น้ำค้าง​ที่​วาง​อยู่​บน​ผ้า​สีแดง​เบา​ๆ​ ​เอน​ตัว​ลง​ไป​กระซิบ​ข้าง​หู​ ​“​เงียบ​”​

สือ​อี​เหนียง​จิตใจ​สับสน​ ​มือถือ​หนังสือ​เก้า​แคว้น​แห่ง​ต้า​โจว​แต่กลับ​ไม่​อยาก​อ่าน​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​วาง​มัน​ลง​ ​ทำ​เพียงแค่​ถือ​ไว้​เฉยๆ​ ​ใน​มือ​ ​เพราะ​อย่างน้อย​ก็​ดู​มี​อะไร​ทำ​ ​แต่​หาก​วาง​มัน​ลง​ก็​ยิ่ง​ไม่มี​อะไร​ทำ

กำลัง​เหม่อลอย​ก็​รู้สึก​เสียใจ​ขึ้น​มา​ ​น้ำตา​ก็​ไหล​ลงมา​อย่าง​เงียบๆ​ ​สายตา​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​พร่ามัว

นาง​ไม่​อยาก​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​สังเกตเห็น​ถึง​ความผิดปกติ​ของ​ตัวเอง​ ​จึง​พลิกตัว​หันหลัง​ให้​เขา​แล้ว​หลับตา​ลง​ ​ปล่อย​ให้​น้ำตาไหล​ลง​บน​หมอน​…​รู้สึก​เวียนหัว​และ​สับสน​ไป​หมด

ทันใดนั้น​ก็​มี​คน​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง​ว่า​ ​“​เงียบ​”​

นาง​ตกใจ​แล้ว​ลุกขึ้น​นั่ง​ทันที

“​ใคร​กัน​”

จับ​เสื้อผ้า​ที่​หน้าอก​ของ​ตัวเอง​ ​มอง​ไป​ทาง​ต้นเสียง​ด้วย​ความหวาดกลัว

จากนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียงร้อง​ว่า​ ​“​โอ๊ย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับ​คาง​แล้ว​เบิกตา​กว้าง​มอง​ไป​ที่นาง

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

จากนั้น​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​

“​ท่าน​โหว​…​ท่าน​ ​ท่าน​เป็น​อะไร​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​ยื่นมือ​ออก​ไป​จับ​คาง​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ตระหนัก​ขึ้น​ได้​ว่า​เขา​ถูก​กระแทก​ตรงนั้น​ ​ตัวเอง​ไป​จับ​มัน​คง​เจ็บ​มากกว่า​เดิม​จึง​ดึง​มือ​กลับมา​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านา​งก​ระ​โดด​ขึ้น​มารา​วกั​บสัตว​์​ตัว​น้อย​ที่​หวาดกลัว​ ​สีหน้า​หวาดหวั่น​มอง​ไปร​อบ​ๆ​…​เห็น​ว่า​เป็นตัว​เอง​ ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​ยาว​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​ฝืนยิ้ม​แล้ว​ถาม​ตน​เป็น​อะไร​หรือไม่

เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​หวาดกลัว​เล่า

สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เฉียบแหลม​ ​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ตอนบ่าย​…

และ​สือ​อี​เหนียง​ถึง​รู้สึก​ถึง​ความ​เย็น​ที่​ปลายนิ้ว​ของ​ตัวเอง

เมื่อ​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​เขา​ไม่​ค่อย​พอใจ​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​

เจตนา​ดี​ห่ม​ผ้า​ให้​แต่กลับ​ถูก​กระ​แทง​คาง​ ​เป็น​ใคร​ก็​คง​โมโห​กระมัง

นาง​ยิ้ม​อย่าง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​ท่าน​โหว​…​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​คาง​ของ​เขา​ ​“​ท่าน​ ​ท่าน​เป็น​อะไร​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่เป็นอะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นอนลง​ ​“​รีบ​นอน​เถิด​”

เกิดเหตุ​การณ์​แบบนี้​ขึ้น​ ​ใคร​จะ​นอนหลับ​ลง​ ​โดยเฉพาะ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ตัว​หนาวเย็น​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​แผ่​ความร้อน​ออกมา​ราวกับ​เตาเผา​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขยับตัว​เข้าไป​ใกล้​เขา

ตัว​ที่​หนาวเย็น​ค่อยๆ​ ​ขยับ​เข้ามา​ ​นอกจาก​สือ​อี​เหนียง​แล้วยัง​จะ​มี​ใคร​อีก

ความไม่พอใจ​เมื่อ​ครู่​ก็​หายวับ​ไป​ทันที

สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​ความหวาดกลัว​ตอนที่​นาง​ตื่นขึ้น​มา​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มองหน้า​นาง​

สือ​อี​เหนียง​ตื่น​แล้ว​ ​อย่างน้อย​ตอนนี้​นาง​ก็​รู้​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ใคร

เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​มาที​่​ตัวเอง​ ​นึกถึง​พฤติกรรม​เมื่อ​ครู่​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​ให้​เขา​อย่าง​รู้สึก​ผิด

ตอนนี้​ผม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ยุ่งเหยิง​ ​ตาแดง​บวม​ช้ำ​แต่​สีหน้า​กลับ​อ่อนโยน​ ​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​สบายใจ​ ​ไม่มี​ความตกใจ​และ​หวาดกลัว​เมื่อ​ครู่​เลย​แม้แต่น้อย​

สวี​ลิ่ง​อี๋​จิตใจ​สั่น​ไหว​ ​เขา​ปัด​ผม​ที่อยู่​ตรง​แก้ม​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เมื่อ​ครู่​ทำไม​ถึง​กลัว​เล่า​”

ท่าที​ของ​เขา​อ่อนโยน​ ​มีกลิ่น​อาย​ของ​ความรัก​และ​เอ็นดู​ ​แต่​มัน​กลับ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก

นาง​คงจะ​บอกว่า​ตัวเอง​ถูก​คน​จับได้​หรือไม่

นาง​จึง​ก้มหน้า​ลง​ ​“​ไม่มี​อะไร​เจ้าค่ะ​ ​แค่​จู่ๆ​ ​ท่าน​ก็​พูด​เช่นนั้น​ ​ข้า​เลย​ตกใจ​”

ทำท่า​ที​เหมือน​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​นี้​

แล้ว​ทำไม​ถึง​ต้อง​สั่น​กลัว

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​ห้า​สบายดี​หรือไม่​”​

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

เหตุใด​จู่ๆ​ ​ก็​พูดถึง​อี๋​เหนียง​ห้า

“​สบายดี​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ ​“​ท้วม​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​สีหน้า​ก็​ดูดี​ ​เย็บปักถักร้อย​ให้​เด็ก​ใน​ท้องที่​เรือน​ทุกวัน​”​ ​แล้วก็​คิด​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ใช่​คนที​่​ไม่มี​เรื่อง​อะไร​แล้ว​หาเรื่อง​คุย​ ​นาง​หยุด​พูด​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหว​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

ดูเหมือนว่า​ตัวเอง​จะ​เดา​ผิด​แล้ว

“​อ้อ​ ​ไม่มี​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ส่ง​ๆ​ ​“​ก็​แค่นึก​ขึ้น​มา​ได้​จึง​ถาม​”​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​เจ้า​พักผ่อน​ที่​เรือน​สัก​ห้า​หก​วัน​เถิด​ ​หาก​มี​คน​ถาม​ก็​บอกว่า​เป็นหวัด​ ​โรค​นี้​จะ​แพร่เชื้อ​ติด​คนอื่น​”

เขา​เปลี่ยน​เรื่อง​เร็ว​เกินไป​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​สือ​อี​เหนียง​ถึง​ได้​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​เขา

ก็ดี​เหมือนกัน​ ​บอกว่า​ตัวเอง​เป็นหวัด​แล้ว​เอา​ไป​ติด​ตง​ชิง​ ​เหตุผล​เช่นนี้​ ​ถึงแม้ว่า​ป้า​เถา​อยาก​จะ​พูด​อะไร​ ​ก็​จะ​ได้รับ​มือ​ได้​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​ส่ง​นาง​ออก​ไป​ให้​เร็ว​ที่สุด​ตน​จะ​ได้​สบายใจ​ ​อยู่​ที่​เรือน​ของ​ตน​เช่นนี้​นั้น​ไม่สบายใจ​ราวกับ​มี​หนาม​มาทิ​่ม​แทง​ ​แล้วยัง​สามารถ​ขจัด​ความเคลือบแคลง​ใจ​ที่​มีต​่อ​ตัวเอง​ได้​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​พึ่ง​จะ​ตั้งครรภ์​ตัวเอง​ก็​ไม่สบาย​เช่นนี้​ ​คนที​่​เจตนา​ไม่ดี​ก็​จะ​ได้​ไม่​คิดมาก

นาง​ครุ่นคิด​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ข้า​อยาก​เอา​สมุด​ทาส​ของ​ตง​ชิง​คืนให้​นาง​แล้ว​ส่ง​นาง​กลับ​ไป​อวี​๋​หัง​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​แปลกใจ

เขา​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ให้​สกุล​หลัว​เป็น​คน​จัดการ​ตง​ชิง​ ​เช่นนี้​เพื่อให้​มีคำ​อธิบาย​ให้​สกุล​สวี​ ​สกุล​หลัว​ต้อง​ลงโทษ​ตง​ชิง​อย่างแรง​ ​ถึง​ตอนนั้น​ตง​ชิง​ไม่​ตาย​ก็​ต้อง​ทรมาน​ ​จุดจบ​ไม่ต้อง​คิด​ก็​รู้​ ​ในขณะเดียวกัน​ก็​สามารถ​เตือน​บรรดา​ผู้ติดตาม​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​และ​สือ​อี​เหนียง​ ​แล้วยัง​สามาถ​แก้ตัว​ให้​ตัวเอง​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ปล่อยไป​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้

คิดดู​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ยัง​ใจอ่อน​เกินไป

แต่ว่า​ ​คิด​ว่านี​่​คือ​ความต้องการ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ก็​เห็นด้วย​ ​“​เจ้า​กำหนด​วัน​แล้ว​บอก​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็ได้​ ​เขา​จะ​จัดการ​ส่ง​นาง​กลับ​ไป​ตามที่​เจ้า​บอก​”​

นี่​คือ​ความเข้าใจผิด

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​ ​ในเมื่อ​ตง​ชิง​ไม่เห็น​แก่​ความสัมพันธ์​ห้า​ปี​ของ​พวก​นาง​ ​เช่นนั้น​นาง​ก็​จะ​คิด​ว่า​ไม่เคย​มี​ห้า​ปีนั​้น​ ​ส่ง​นาง​กลับ​ไป​อยู่​กับ​ครอบครัว​ของ​นาง​อย่างปลอดภัย​ ​ต่อไป​นาง​จะ​เป็น​ตาย​ร้าย​ดี​อย่างไร​ก็​ไม่เกี่ยว​ข้อง​กับ​ตัวเอง​อีกต่อไป​!

แต่​ตอนนี้​นาง​เป็นห่วง​ฝั่ง​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ทำให้​ท่าน​แม่​เป็นห่วง​เช่นนี้​ไม่​ค่อย​ดี.​..​”​ ​นาง​ไม่สบายใจ

“​ไม่เป็นไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​มี​ข้า​อยู่​”

แต่​ใน​ใจ​กลับ​นึกถึง​รอยยิ้ม​ที่​ตกใจ​ของ​ท่าน​แม่​ตอนที่​ตัวเอง​บอกว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบาย​…​

ท่าน​แม่​คงจะ​เดา​ออก​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ป่วย​จริงๆ​ ​บางที​อาจจะ​คิด​ว่าการ​ป่วย​ของ​สือ​อี​เหนียง​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ตั้งครรภ์​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​นาง​ไม่มีทาง​บอก​ให้​ป้า​ตู้​ไป​บอก​ตาน​หยาง​ที่​กำลังจะ​คลอด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบาย​ ​แล้วยัง​พาลูก​สะใภ้​สอง​คน​มา​เยี่ยม​นาง​ ​ทำท่า​ให้กำลังใจ​และ​สนับสนุน​สือ​อี​เหนียง

คิดได้​เช่นนี้​ ​เขา​ก็​แอบ​หัวเราะ

แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ใช่​คน​ใจแคบ​เช่นนั้น​ ​ที่นาง​เสียใจ​ก็เพราะว่า​เรื่อง​ของ​ผู้ติดตาม​จาก​สกุล​เดิม​ทั้งนั้น​

สวี​ลิ่ง​อี๋​กอด​สือ​อี​เหนียง​แน่น

ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​แม่​ลูก​ ​แต่​เรื่อง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ภรรยา​ของ​ตัวเอง​ ​เรื่อง​ที่​ควรจะ​ปิดบัง​ก็​ควร​ปิดบัง​

“​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ท่าน​แม่​ชอบ​เจ้า​จะ​ตาย​!​”​ ​เขา​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​“​หาก​เจ้า​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​หายป่วย​แล้ว​ ​ก็​ไป​คารวะ​นาง​ด้วย​ท่าที​สดใส​ ​ต่อไป​กตัญญู​ต่อนา​งก​็​พอแล้ว​”​

อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่าง​อบอุ่น​ ​ขจัด​ความ​หนาวเย็น​ของ​ตัวนาง​ออก​ไป​ทีละเล็กทีละน้อย​

“​เช่นนั้น​ ​ข้า​ป่วย​วัน​เดียว​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พึมพำ​ ​“​ประเดี๋ยว​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​จะ​มาที​่​จวน​แล้ว​ ​แล้ว​ท่าน​ยัง​บอกว่า​จะ​เปลี่ยนคน​ใน​เรือน​ของ​ข้า​ ​แล้วยัง​มีเรื่อง​ของ​สือ​เหนียง​ ​อีกทั้ง​ก็​ใกล้​จะ​จัดงาน​ศพ​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​ศาล​ว่าการ​ยัง​ไม่​ตัดสินคดี​ ​แต่​ก็​ต้อง​ให้​คน​สกุล​หวัง​นำ​ศพ​กลับ​ไป​ประกอบ​พิธี​…​มีเรื่อง​อีก​ตั้ง​มากมาย​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​เช่นนั้น​ก็แล้วแต่​เจ้า​เถิด​”​ ​เขา​ก้มหน้า​ลง​จูบ​หน้าผาก​นาง​ ​รู้สึก​ว่า​คนที​่​อยู่​ใน​อ้อมกอด​อ่อนนุ่ม​ราวกับ​ต้น​หลิว​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ทำให้​ผู้คน​รักใคร่​และ​เอ็นดู​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ล้วง​เข้าไป​สัมผัส​ส่วนโค้ง​ที่​งดงาม​ภายใต้​เสื้อผ้า​ของ​นาง​ ​แล้วยัง​กัด​ใบ​หู​เย้าหยอก​นาง​ ​“​ทำให้​ตา​หาย​บวม​”

บรรยากาศ​ค่อนข้าง​คลุมเครือ

สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​ขึ้น​มาทัน​ที

รู้สึก​ว่า​มือ​ที่อยู่​บน​ตัว​ของ​นาง​ร้อน​ราวกับ​ไฟ

นาง​หลับตา​ลง​ราวกับ​กำลัง​หลบหนี

“​ข้า​…​ข้า​ไม่สบาย​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​ก้มหน้า​ไป​เห็น​ใบหน้า​สีขาว​ราวกับ​หิมะ​ที่​แดงก่ำ​ของ​นาง​ ​ขน​ตายา​วรา​วกับ​ปีก​ผีเสื้อ​ที่​สั่น​ไหว​เบา​ๆ​ ​ท่าที​หวาดกลัว​และ​เขินอาย​

เขา​ห้ามใจ​ตัวเอง​ไม่อยู่​ ​แต่​ก็​กลัว​ทำให้​นาง​ตกใจ​

“​อ๋อ​ ​ไม่สบาย​หรือ​ ​ไม่สบาย​ตรงไหน​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แหบแห้ง​ ​“​ข้า​ขอดู​หน่อย​”​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​เลื่อน​มือ​ลง​ไป​…

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ท่าน​โหว​…​”​ ​นาง​ดึง​ผ้าห่ม​ขึ้น​มา​

แต่กลับ​ไม่​ดิ้น​รั้น​และ​ไม่​ขัดขืน​ ​แค่​ดูกระ​วน​กระ​วาย​ ​เขินอาย​ ​ไม่สบายใจ

สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พลัน​ร้อนผ่าว​ขึ้นรา​วกับ​ไฟ​ทันที​

“​เงียบ​หน่อย​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เจือ​ด้วย​ความพอใจ​ที่​ตัวเอง​ก็​ยัง​ไม่​สังเกต​…

*****

เช้า​วัน​ต่อมา​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​มา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​ไป​ลาน​ข้างนอก​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​นอน​อยู่​บน​เตียง​ ​นาง​หน้าแดง​ราวกับ​มีไข้

พวก​นาง​สอง​คน​เห็น​เช่นนี้​ก็​ขยันขันแข็ง​ขึ้น​มา​ ​ทั้ง​ยก​ชา​ทั้ง​ยก​น้ำ

สือ​อี​เหนียง​รับมือ​ไป​อย่าง​ไม่มีชีวิตชีวา​สอง​สาม​ประโยค​ ​กำลังจะ​บอก​ให้​พวก​นาง​ออก​ไป​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จุน​เกอ​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​มา​เยี่ยม​นาง

เพราะ​บอก​คนอื่น​ว่า​เป็นหวัด​ ​พวก​เด็ก​ๆ​ ​จึง​แค่​ถามไถ่​อยู่​ไกลๆ​ ​สอง​สาม​ประโยค

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​จุน​เกอ​ไม่​ค่อย​เท่าไร​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ​มอง​นาง​แล้ว​เรียก​นาง​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​”

จุน​เกอ​เดิน​เข้ามา​พูด​เกลี้ยกล่อม​เขา​ ​“​ท่าน​แม่​ไม่สบาย​ ​เจ้า​อย่า​ส่งเสียง​ดัง​ ​นาง​จะ​ยิ่ง​ไม่สบาย​กว่า​เดิม​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกลั​้​นน​้ำ​ตาไว​้​แล้ว​พยักหน้า

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ผิด​ ​บอก​ให้​หู่​พั่ว​ไป​เอา​ลูกกวาด​มา​ให้​พวก​เด็ก​ๆ​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​็​มา​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ต้อง​พูด​กับ​พวกเขา​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​มี​เหล่า​สะใภ้​และ​ท่าน​ป้า​ที่​มีหน้ามีตา​มา​เยี่ยม​นาง​ ​เช้า​วันนี้​กลายเป็น​วันที่​แสน​วุ่นวาย​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​มัน​เหนื่อย​กว่า​ป่วย​จริงๆ​ ​เสียอีก

หู่​พั่ว​เห็น​ว่า​มัน​ผิดปกติ​ ​ห้าม​คนที​่​มา​เยี่ยม​ไว้​นอก​ประตู​ทั้งหมด​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ทานอาหาร​กลางวัน​ได้​อย่างสบายใจ​

นาง​กำลังจะ​งีบหลับ​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ก็​มา​พอดี​

สือ​อี​เหนียง​หันไป​มองหน้า​หู่​พั่ว

“​ข่าว​แพร่กระจาย​เร็ว​มาก​!​”

รีบ​บอก​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋น​เชิญ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​เข้ามา​

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​เข้ามา​เห็น​สือ​อี​เหนียง​นอน​อยู่​บน​เตียง​กลางวันแสกๆ​ ​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ตกใจ​ ​“​เจ้า​เป็น​อะไร​ไป​”

ดูเหมือน​นาง​จะเข้า​ใจ​ผิด

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​แล้ว​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​ใหญ่​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ถอนหายใจ​ ​“​เมื่อวาน​ยาม​เที่ยงสกุล​หวัง​นำ​ศพ​ของ​ท่าน​เขย​สิบ​กลับ​ไป​แล้ว​ ​นับวัน​แล้ว​บอกว่า​อีก​ห้าวัน​จะ​จัดงาน​ศพ​”

สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​คดี​นี้​ตัดสิน​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ยิ้ม​ขึ้น​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​บ่าว​รับใช้​ของ​สกุล​เริ​่​นค​นนั​้น​ถูก​ตัดสิน​ประหาร​หลัง​ฤดูใบไม้ร่วง​”

เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​ความพยายาม​ของ​เจียงฮู​หยิน​ไร้ประโยชน์

ถึงแม้ว่า​จะ​เป็นเรื่อง​ที่​คิด​ไว้​อยู่​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​ได้ยิน​ผลลัพธ์​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท