ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 280 เยี่ยมชม(ปลาย)

ตอนที่ 280 เยี่ยมชม(ปลาย)

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​ได้​พอดี​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​ ​“​เจ้า​จำได้​หรือไม่​”​

“​จำได้​อยู่​แล้ว​”​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตอบ​อย่างมั่นใจ​ ​“​กระดุม​ที่สาม​เป็น​สีขาว​ที่​มีด​้า​ยสี​เขียว​ ​กระดุม​ที่​ห้ามี​สีแดง​ ​สีเหลือง​ ​สีเขียว​ ​สีทอง​สี่สี​ ​กระดุม​ที่​สิบสอง​คือ​สีแดง​ ​มีสี​เขียว​มรกต​และ​สีเหลือง​ ​กระดุม​ที่​สิบ​สี่​มี​แค่​สีดำ​และ​สีทอง​แดง​…​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​“​พวก​เจ้า​ ​พวก​เจ้า​ละเอียด​เกินไป​แล้ว​!​”

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​มีสี​หน้า​พอใจ​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​อยาก​ทำให้​มัน​เหมือนกัน​ ​มัน​ก็​ต้อง​เหมือนกัน​สิ​”​ ​จากนั้น​ก็​ทำ​เสียง​ตกใจ​แล้ว​ถาม​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เมื่อ​ครู่​ตอนที่​เจ้า​เข้ามา​เจ้า​เจอ​อา​หญิง​สี่​หรือไม่​ ​วันนี้​นาง​สวม​เสื้อผ้า​ฝ้าย​สี​ไข่ไก่​ ​กระโปรง​ผ้าไหม​สีม่วง​ ​สีม่วง​!​”

“​ข้า​เจอ​แล้ว​!​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ ​“​ตอนที่​พวก​ข้า​เข้ามา​ ​ท่าน​อา​หญิง​กำลังจะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​นาง​คาด​ดอก​โบตั๋น​ดอก​ใหญ่​สีทับทิม​ ​แวววาว​สดใส​ ​หายาก​จริงๆ​”

แต่​เมื่อ​อู่​เหนียง​เห็น​ดอก​โบตั๋น​บน​หัว​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​กลับ​ยิ้ม​ไม่​ออก​

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​อู่​เหนียง​เอาแต่​มอง​เครื่องประดับ​ของ​นาง​ ​ก็​แอบ​เสียใจ​ ​คิด​ว่าวั​นนี​้​น่าจะ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​มาก​่อน​ ​จึง​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​เรื่อง​แล้ว​สังเกต​เรือน​ของ​อู่​เหนียง​

นาง​มาที​่​นี่​เป็นครั้งแรก

อู่​เหนียง​อยู่​ใน​ลาน​ที่​มีทาง​เข้า​สอง​ทาง​ ​มี​กำแพง​สีขาว​ ​กระเบื้อง​สีเทา​ ​อิฐ​สีน้ำเงิน​และ​ประตู​สีดำ​ ​ดูแล​้ว​สะอาดสะอ้าน​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ ​ของใช้​ใน​เรือน​ล้วน​เคลือบ​เงา​ ​กระถางดอกไม้​ลายคราม​ ​ผ้าม่าน​สีฟ้า​ ​ประดับ​ด้วย​ตัวอักษร​เขียน​พู่กัน​ ​ภาพวาด​ที่​สวยงาม​เป็นพิเศษ​ ​มีกลิ่น​อาย​ของ​สกุล​นักปราชญ์​แฝง​อยู่​ทุกหน​แห่ง

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​คิด​ว่า​อู่​เหนียง​เหนื่อย​ ​จึง​ช่วย​จัด​หมอน​ ​“​พิธี​สรง​สาม​เสร็จสิ้น​ลง​แล้ว​ ​ที่นี่​ก็​ไม่มี​คนนอก​ ​เจ้า​พักผ่อน​เถิด​”

อู่​เหนียง​เม้มปาก​แล้ว​นอนลง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เหน็ดเหนื่อย

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​มองดู​เด็กทารก​ตัว​น้อย​ที่​ขาว​และ​อ้วนท้วม​ใน​อ้อมแขน​ของ​แม่นม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​…​ตั้ง​นาม​ให้​แล้ว​หรือยัง​”​

“​ยัง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​อู่​เหนียง​อธิบาย​ ​“​เด็ก​คน​นี้​คลอด​เร็ว​เกินไป​ ​จึง​ยัง​ไม่ได้​คิด​เอาไว้​”

เพราะว่า​รอคอย​ถึง​จะ​ตั้งชื่อ​ให้​ลูก​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ​เหมือนกับ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​ก่อนที่​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​คลอด​ออกมา​เขา​เขียน​ชื่อ​ทั้ง​เด็กผู้ชาย​และ​เด็กผู้หญิง​ไว้​มากกว่า​หนึ่งร้อย​ชื่อ​ ​ไม่มี​อะไร​ทำ​ก็​มักจะ​มาถาม​พวกเขา​ว่า​ชื่อ​ไหน​ดี.​..

ถึงแม้ว่า​ใน​ใจ​จะ​สับสน​ ​แต่​ก็​คิด​ว่า​สถานการณ์​ของ​แต่ละ​สกุล​ไม่​เหมือนกัน​ ​นาง​จึง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ ​สือ​อี​เหนียง​มองดู​เด็กน้อย​ ​“​หน้าตา​เหมือน​พี่เขย​ห้ามา​กก​ว่า​เจ้าค่ะ​”

คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พยักหน้า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​คิด​ว่า​เหมือน​ท่าน​เขย​ห้า​”

จื​่๋อ​หว่าน​เข้ามา​เชิญ​พวก​นาง​ไป​ที่​ห้องโถง​ ​“​สำรับ​ถูก​จัดตั้ง​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​

ทุกคน​ยิ้ม​แล้ว​พูดคุย​กับ​อู่​เหนียง​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​ก็​ไป​นั่ง​ที่​ห้องโถง​

สกุล​เฉียน​ไม่มี​ญาติพี่น้อง​อยู่​ที่นี่​ ​นอกจาก​บรรดา​สะใภ้​จาก​สกุล​ญาติ​ของ​เด็ก​แล้ว​ ​ที่​เหลือก​็​คือ​ภรรยา​ของ​สหาย​ของ​พวกเขา​สอง​สาม​คน​ ​แต่งตัว​ธรรมดา​ ​เมื่อ​พบ​หน้า​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​และ​คนอื่นๆ​ ​บางคน​ก็​มีสาย​ตา​ที่​เกรงกลัว​ ​บางคน​ก็​ไม่​หยิ่ง​ทะนง​และ​ไม่​ถ่อมตัว​ ​ท่าที​ดูใจ​กว้าง​ ​มีบา​งคน​เดิน​เข้ามา​ทักทาย​สือ​อี​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​

หมอ​ตำเ​เย​ที่​เป็น​คน​ทำพิธี​สรง​สาม​ก็​ชื่นชม​ว่า​เฉียน​หมิง​ช่าง​มี​วาสนา​ที่​ได้​แต่งงาน​กับ​อู่​เหนียง​ ​เหรียญ​ที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​และ​คนอื่นๆ​ ​โยน​ลง​ไป​ใน​อ่าง​ที่​ใช้​อาบน้ำ​ล้วนแต่​เป็น​เหรียญเงิน​ทั้งสิ้น

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ตอบรับ​อย่าง​มีมา​รยาท​ ​เมื่อ​สาวใช้​ยก​อาหาร​เข้ามา​แล้ว​ ​บรรยากาศ​ก็​สงบ​ลง​

ถึงแม้ว่า​จะ​มี​แขก​ไม่​มาก​ ​แต่งาน​เลี้ยง​ไม่ธรรมดา​ ​เชิญ​พ่อครัว​จาก​หอ​ชุน​ซี​มาทำ​ซาลาเปา​ ​อาหาร​จาน​สุดท้าย​คือ​พระ​กระโดด​ข้าม​กำแพง​ ​สือ​อี​เหนียง​ทาน​หูฉลาม​และ​หอย​เป๋าฮื้อ

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ก็​ทาน​เหมือนกัน

นาง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​เกรง​ว่า​อาหาร​มื้อ​นี้​คงจะ​แพง​ไม่น้อย​”​

สือ​อี​เหนียง​ก็​คิด​ว่า​มัน​ฟุ่มเฟือย​เกินไป

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ถาม​นาง​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​ครั้งก่อน​จะ​ทำ​กิจการ​สัก​อย่าง​กับ​เจ้า​ ​ทำ​แล้ว​หรือยัง​”

“​ไม่ได้​ทำ​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​กิจการ​บางอย่าง​ข้า​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ออกหน้า​”

คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​แล้วก็​มอง​หูฉลาม​ที่อยู่​ใน​ชาม​อย่าง​ครุ่นคิด

บรรดา​ภรรยา​ของ​สหาย​ของ​เฉียน​หมิง​ก็​พากัน​ชื่นชม​ว่างาน​เลี้ยง​ไม่ธรรมดา​ ​บอกว่า​เฉียน​หมิง​ช่าง​ใจกว้าง

หลัง​ทานอาหาร​เสร็จ​ ​บางคน​ก็​เข้าไป​ดื่ม​ชา​ข้างใน​ห้อง​กับ​คน​สกุล​หลัว​ ​บางคน​ก็​อ้างว่า​มีธุระ​ขอตัว​กลับ​ไป​ก่อน​

สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​จะ​นั่งลง​ได้​ไม่นาน​ ​นาง​ก็​บอกลา​อู่​เหนียง​ ​“​…​ที่​บ้าน​ยัง​มี​แขก​ ​ประเดี๋ยว​อีก​สอง​สาม​วัน​ค่อย​มา​เยี่ยม​ท่าน​และ​บุตรชาย​”

อู่​เหนียง​จึง​อธิบาย​ให้​คนที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​ฟัง​ ​“​จวน​หย่ง​ผิง​โหวกำ​ลัง​จัดงาน​เลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​จง​ฉินปั​๋ว​ ​จง​ซัน​โหว​และ​ลูกสะใภ้​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​เอง​ก็​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ ​นาง​ถือโอกาส​ออกมา​เยี่ยม​ข้า​”

หมอตำแย​คน​นั้น​ได้​ฟัง​ก็​ยิ้ม​กว้าง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ฮู​หยิน​ช่าง​รัก​หลานชาย​เสีย​จริง​เจ้าค่ะ​”

ข้างใน​ห้อง​ยัง​มีท​่าน​ป้า​คนอื่น​อีก​สอง​คน​…​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​หมอตำแย​คน​นี้​พูดจา​ไม่​เป็น​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​บอกกล่าว​กับ​อู่​เหนียง​ว่า​ให้​พักผ่อน​ให้​ดี​ ​จากนั้น​เฉียน​หมิง​ก็​ออกมา​ส่ง​นาง​ถึง​หน้า​ประตู​ด้วยตัวเอง​

กลับมา​ถึง​เหอฮ​วาห​ลี่​ ​งิ้ว​พึ่ง​จะ​เล่น​เสร็จ​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ไป​คารวะฮู​หยิน​ทุกท่าน​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​ซักถาม​นาง​ถึง​เรื่อง​พิธี​สรง​สาม​

“​…​หน้าตา​ดู​ว่านอนสอนง่าย​ ​ตอน​จุด​ประทัด​ก็​ไม่​ตกใจ​ตื่น​ ​นอนหลับ​ตา​พริ้ม​อย่างสงบ​เจ้าค่ะ​”

“​ช่าง​มี​วาสนา​เสีย​จริง​”​

จากนั้น​ก็​โอดครวญ​ว่า​สอง​วันนี้​ไม่ได้​เจอ​หน้า​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เด็ก​คน​นั้น​ก็ช่าง​รู้ความ​เสีย​จริง​ ​รู้​ว่า​สกุล​หย่ง​ผิง​โหว​ของ​เรา​ขาดแคลน​บุตรสาว​”

ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้มแย้ม​สดใส​ ​จากนั้น​ก็​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​โถง​บุปผา​

ที่นั่น​จัดเตรียม​สุรา​และ​อาหาร​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​โจวฮู​หยิน​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​บอกว่า​จะ​ลงโทษ​ให้​นาง​ดื่ม​สุรา

ไท่ฮู​หยิน​กลัว​ว่านาง​จะ​ดื่ม​ไม่ไหว​ ​ชี้นิ้ว​ไป​ที่​โจวฮู​หยิน​ด้วย​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ ​“​พี่​หญิง​อย่าง​เจ้า​ก็​ไม่รู้​ความ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​อ้างคำพูด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​โจวฮู​หยิน​ก็​กลัว​ว่านาง​จะ​ดื่ม​มากเกินไป​เช่นกัน​ ​ปาก​เก่ง​แต่​ไม่กล้า​ทำ​ ​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​ก็​ทำเอา​นาย​หญิง​สี่​สกุล​ถัง​ดื่ม​สุรา​จน​หน้าแดง​แทน​ ​ถังฮู​หยิน​จึง​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​บ่น​โจวฮู​หยิน​ ​“​เจ้า​นี่​ชอบ​รังแก​คนอ่อนแอ​”​ ​ทำเอา​ทุกคน​พากัน​หัวเราะ​ ​เมื่อ​ทานข้าว​และ​ร่ำ​สุรา​อย่าง​อิ่ม​ท้อง​แล้ว​ ​ก็​แยกย้าย​จากกัน​ไป​อย่าง​มีความสุข​

ฮู​หยิน​ห้า​เป็นห่วง​บุตรสาว​ ​จึง​ไป​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​สอง​ก่อน​

หู่​พั่ว​คอย​เก็บกวาด​จัดการ​สถานการณ์​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ห้อง

ระหว่างทาง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทุกคน​บอกว่า​งานเลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีนี​้​จัด​ได้ดี​กว่า​ปี​ที่​ผ่านๆ​ ​มา​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​อย่าง​ถ่อมตัว​ ​“​ก็เพราะว่า​คุณชาย​ห้า​และ​น้อง​สะใภ้​ห้ามี​หน้า​มีตา​ ​สามารถ​เชิญ​คณะ​งิ้ว​สาม​คณะ​ใหญ่​ของ​ต้า​โจว​มา​ได้​เจ้าค่ะ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​จะ​ยิ่งใหญ่​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ด้วยกัน​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​เรื่อง​ของ​อู่​เหนียง​ ​“​…​เหตุใด​ถึง​คลอด​ก่อนกำหนด​”​

“​บอกว่า​ไม่​ระวัง​หกล้ม​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รับ​ชาร้อน​จาก​มือ​ของ​สาวใช้​มายื​่น​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​โชคดี​ที่​ปลอดภัย​ทั้ง​แม่​และ​ลูก​ ​ไม่เป็นอะไร​เจ้าค่ะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​รับ​ชามา​จิบ​ ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​วันนี้​เจ้า​เหนื่อย​แล้ว​ ​รีบ​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​ ​ที่นี่​มี​เหยา​หวง​ก็​พอแล้ว​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​สายตา​ที่​แน่วแน่​ดูใจ​ดี

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​นั้น​เจตนา​ดี​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​ย่อเข่า​ตอบรับ​ ​เมื่อ​เว​่ย​จื่อ​และ​เหยา​หวง​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​เข้าไป​ใน​ห้องน้ำ​ ​นาง​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​

เยี​่​ยน​หร​งอ​อก​มาต​้อ​นรับ​ ​“​ใน​เรือน​สงบ​มาก​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​แล้ว​เข้าไป​ใน​ห้อง

สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​บน​เตียง​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​กำลัง​อ่านหนังสือ​อยู่​ใต้​แสง​ตะเกียง​ ​เมื่อ​เห็น​นาง​หน้าแดง​เดิน​เข้ามา​ ​ก็​เอ่ย​ถาม​อย่าง​สงสัย​ ​“​ดื่ม​สุรา​มา​หรือ​”

“​ดื่ม​เป็นเพื่อน​พี่​หญิง​โจว​นิดหน่อย​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​“​แต่กลับ​บอก​ข้าว​่า​ดื่ม​ไม่​เป็น​”​

“​ข้า​แค่​คอ​ไม่​แข็ง​ดื่ม​เป็นเพื่อน​ท่าน​โหว​ไม่ได้​”

สอง​คนพูด​คุย​กัน​เพียง​สอง​สาม​ประโยค​ ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ชำระร่างกาย​แล้ว​พักผ่อน​ทันที​ ​แต่กลับ​ตื่น​มาก​ลาง​ดึก​เพราะว่า​กระหายน้ำ

มี​ถ้วย​ชา​ที่​ริน​น้ำ​เตรียม​ไว้​แล้ว​ถ้วย​หนึ่ง​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ข้าง​เตียง

สือ​อี​เหนียง​ถือ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​จิบ​อย่างเงียบเชียบ

เช้า​ของ​วัน​ต่อมา​ ​ยุ่ง​กว่า​สอง​วันก่อน​มาก​ ​ต้อง​เก็บ​ภาชนะ​นำ​ออกมา​จาก​ห้องเก็บของ​ ​ต้อง​ตรวจ​ค่าใช้จ่าย​สอง​สาม​วันนี้​ ​ต้องเต​รี​ยม​เรื่อง​การ​ย้าย​เรือน​ ​จนถึง​ตอนเที่ยง​ถึง​ได้​มีโอกาส​นั่ง​พัก​หายใจ​ ​พึ่ง​จะ​นั่งลง​จิบ​ชา​ ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​เสี่ยว​หลี​ ​สาวใช้​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​พูดคุย​อยู่​กับ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​

คน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่เคย​มาหา​นาง​

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สาวใช้​เรียก​เสี่ยว​หลี​เข้ามา​

“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

เสี่ยว​หลี​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​ให้​มาดู​ว่าฮู​หยิน​จัดการ​ธุระ​เสร็จ​แล้ว​หรือยัง​ ​หาก​เสร็จ​แล้ว​ให้​บ่าว​กลับ​ไปรา​ยงาน​เจ้าค่ะ​”

ถึงแม้ว่า​อีก​ประเดี๋ยว​จะ​ต้อง​จัดการ​เรื่อง​หีบ​ของ​กับ​หู่​พั่ว​ ​แต่​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ​เรื่อง​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั้น​สำคัญ​กว่า​ ​นาง​จึง​บอก​เสี่ยว​หลี​ ​“​ไป​เชิญ​คุณหนู​ใหญ่​มา​เถิด​”

เสี่ยว​หลี​ตอบรับ​แล้ว​ออก​ไป​ด้วย​ความดีใจ​ ​แล้วไป​ตาม​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา​

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มานั​่ง​ตรงข้าม​ตัวเอง​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​สอง​วันก่อน​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​บอกว่า​ ​วันที่​เก้า​จะ​จัดงาน​เลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​จวน​เจ้าค่ะ​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง

ดีขึ้น​กว่า​เมื่อก่อน​!

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ ​เจ้า​หมายความว่า​?​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​นาง​อ่อนโยน​ ​จึง​กล้าหาญ​มากขึ้น​ ​“​ข้า​อยาก​ส่ง​ผ้าเช็ดหน้า​ที่​ปัก​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ไป​ให้​นาง​ ​แล้วก็​เด็ด​ดอกไม้​ใน​โถง​บุปผา​ไป​เล่น​กับ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ออก​ความคิดเห็น​ให้​นาง​ ​“​เป็นเรื่อง​ที่​ดีทั​้ง​สอง​เรื่อง​ ​เช่นนั้น​เจ้า​นำ​ผ้าเช็ดหน้า​ไป​ให้​นาง​ ​แล้วก็​นำ​ผ้าคลุม​พัด​ที่​ปัก​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ไป​ให้​นาง​ด้วย​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้รับ​กำลังใจ​ ​จึง​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ความในใจ​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​…​ท่าน​อา​หญิง​สกุล​หลิน​จะ​ให้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​ซัง​โจว​ ​ไม่รู้​ว่า​ต่อไป​จะ​ได้​เจอ​นาง​อีก​หรือไม่​ ​ข้า​อยาก​ปัก​สินเดิม​ให้​กับ​นาง​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

ปีก่อน​หลินฮู​หยิน​ยัง​ไป​สืบ​เรื่อง​ของ​คุณชาย​ห้า​สกุล​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​อยู่​เลย​ ​พึ่ง​ผ่าน​ไป​แค่​ปี​เดียว​ ​ทิศทาง​ลม​ก็​เปลี่ยนไป​แล้ว​

“​เจ้า​ไป​ได้ยิน​มาจาก​ใคร​กัน​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ถาม​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ตอบ​เสียง​เบา​ ​“​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คนพูด​เอง​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ข้า​ได้ยิน​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​บอกว่า​ ​หลินฮู​หยิน​ถูกใจ​คุณชาย​ห้า​ของ​สกุล​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ ​แต่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ได้ยิน​มา​ว่า​กฎเกณฑ์​ของ​สกุล​หลิน​มีมาก​เกินไป​ ​กลัว​ว่า​หาก​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่ง​เข้าไป​อยู่​ที่นั่น​แล้ว​นาง​จะ​ลำบาก​ ​แต่​ก็​ไม่กล้า​คัดค้าน​หลินฮู​หยิน​ตรงๆ​ ​จึง​บังคับ​ให้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​เรียน​เย็บปักถักร้อย​กับ​ท่าน​แม่​ ​แล้วก็​ส่ง​คน​ไปรา​ยงา​นที​่​ซัง​โจว​ ​ท่าน​ลุง​ใหญ่​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​เลือก​หลานชาย​คนโต​ของ​สกุล​เติ้ง​แห่ง​ซัง​โจว​ให้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​แล้วยัง​หาคู่​แต่งงาน​ให้​อา​หญิง​ห้า​สกุล​หลิน​ ​ครั้งนี้​คนที​่​ซัง​โจว​มา​ ​ไม่ได้​มา​เข้าร่วม​การ​สอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​อะไร​ทั้งสิ้น​ ​แต่​มาดู​คน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​เป็นครั้งแรก​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​นิสัย​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​แล้ว​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​ค่อนข้าง​น่าเชื่อถือ

นาง​ยิ้ม​ ​“​จริง​หรือ​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ซ้ำๆ​ ​“​จริง​เจ้าค่ะ​ ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ไป​สืบมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

“​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ช่าง​เก่งกาจ​เสีย​จริง​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ ​“​แล้วยัง​ฉลาด​อีก​ต่างหาก​”​ ​แล้วก็​เล่าเรื่อง​ที่นาง​หลอก​ถาม​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ตั้งใจฟัง​ตัวเอง​เล่า​ ​ท่าทาง​อดทน​และ​อ่อนโยน​ ​นาง​จึง​เปิดปาก​เล่าเรื่อง​ที่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยืม​เสื้อผ้า​ฝ้าย​ตัว​นั้น​ไป​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​อย่าง​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​“​…​ข้า​รู้​ว่า​ไม่​ควร​ทำ​เช่นนี้​ ​แต่ว่า​เรา​พึ่ง​รู้จัก​กัน​ ​ข้า​กลัว​ว่านาง​จะ​โกรธ​…​”

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ความรู้สึก​นี้​เป็น​อย่างดี

ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​ที่จะ​ได้​รู้จัก​เพื่อน​สัก​คน​ ​อยาก​จะ​คบหา​กัน​ดี​ๆ​ ​จึง​ยอม​ที่จะ​กระทำ​บางอย่าง​

“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ปลอบ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​แต่ว่า​เนื้อผ้า​ของ​เสื้อ​ตัว​นั้น​ไม่ดี​ ​เอา​ออกมา​เช่นนี้​ ​เกรง​ว่านาง​จะ​ไม่​ชอบ​”

สอง​สาม​วัน​มานี​้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอาแต่​คิด​เรื่อง​นี้​ ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ถือโทษ​โกรธ​นาง​ ​ก็​พลัน​โล่งใจ​ ​ยิ้มแย้ม​สดใส​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​“​นาง​ชื่นชอบ​เป็นอย่างมาก​เจ้าค่ะ​ ​เย็น​วันนั้น​ก็​บอก​ให้​อา​หญิง​ของ​สำนัก​เย็บปักถักร้อย​ตัด​ขึ้น​ ​แล้วยัง​จด​สี​ทั้งหมด​ของ​กระดุม​ไว้​อีกด้วย​…​”

นาง​พูดจา​ราวกับ​นกน้อย​ที่​กำลัง​โบยบิน​อย่าง​มีความสุข​ ​พูดคุย​เรื่อง​ที่​สำคัญ​สำหรับ​ตัวเอง​แต่​เป็นเรื่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ของ​คนอื่น​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​รอยยิ้ม​สดใส​ราวกับ​แสงแดด​ใน​ฤดูร้อน

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไป​ที่นาง​ตลอด​ ​จนกระทั่ง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เหลือบ​ไป​เห็น​สีหน้า​ที่​เป็นกังวล​บน​ใบหน้า​ของ​หู่​พั่ว​ ​นาง​ถึง​ได้​ตระหนัก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตัวเอง​เสียมารยาท​แล้ว

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท