ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 289 การเผชิญหน้า(ปลาย)

ตอนที่ 289 การเผชิญหน้า(ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​ไม่พูดไม่จา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​เบื่อหน่าย​เป็นอย่างมาก

เขา​ยิ้มเยาะ​ตัวเอง​ ​ไม่มี​อารมณ์​จะ​พูดคุย​แล้วจึง​ก้มหน้า​ดื่ม​ชา

“​ท่าน​โหว​ค้นพบ​อะไร​เจ้า​คะ​”​ ​ทันใดนั้น​ใน​ห้อง​ก็ได้​ยิน​เสียง​ที่​อ่อนโยน​ดัง​ขึ้น​อย่าง​แผ่วเบา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มาม​อง​ภรรยา​ที่นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​ที่​กำลัง​ก้มหน้าก้มตา​ทำงาน​เย็บ​ปัก​ใน​มือ​อย่าง​ไม่​กะพริบตา​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เห็น​มุม​ปากของ​นาง​ยกขึ้น​เล็กน้อย​ ​เขา​คง​คิด​ว่า​ตัวเอง​หู​ฝาด​ไป​เอง

หลาย​วัน​มานี​้​นาง​ไม่​พูด​กับ​เขา​ ​แต่​ตอนนี้​จู่ๆ​ ​ก็​พูด​ขึ้น​มา​…​เป็น​เพราะ​คำพูด​ของ​เขา​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​อยากรู้​หรือว่า​ความโกรธ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้​หาย​ไป​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เพราะอะไร​นี่​ก็​เป็น​โอกาส​สำหรับ​การ​ทำลาย​น้ำแข็ง​ที่​กั้น​ระหว่าง​กัน​ ​แน่นอน​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​ปล่อย​โอกาส​นี้​ไป

ใบหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความสุข

“​สตรีที​่​ตระกูล​โอว​แนะนำ​ให้​กรม​พิธีการ​อย่างโจ่งแจ้ง​มีชื่อเสียง​ที่​ดีงาม​ ​ส่วน​สตรีที​่​แอบ​แนะนำ​ให้​กรม​พิธีการ​อย่าง​ลับ​ๆ​ ​ข้า​ได้​ส่ง​คน​ไป​สืบ​ดู​ ​ว่า​กัน​ว่า​ล้วนแต่​เป็น​สตรีที​่​มีหน้า​ตา​โดดเด่น​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อ่อนโยน​และ​สงบนิ่ง​เหมือน​เมื่อ​ครู่​ ​แต่​พูดจา​คล่องแคล่ว​กว่า​เดิม​เล็กน้อย

หลาย​วัน​มานี​้​เขา​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​กระทั่ง​ตอนนี้​ก็​ยอม​ลด​ทิฐิ​มาคุ​ยกับ​ตน​…

มือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​เคลื่อนไหว​ช้า​ลง​ ​สีหน้า​ดู​ตั้งใจฟัง​ ​ยอม​ถอย​ให้​หนึ่ง​ก้าว

การ​ที่​ทำสงคราม​เย็น​ก็​เพียง​เพื่อให้​ฝ่ายตรงข้าม​เข้าใจ​ทัศนคติ​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​การ​ที่​ทำสงคราม​เย็น​เป็นเวลา​นาน​นอกจาก​จะ​ทำให้​สามีภรรยา​ไม่ลงรอยกัน​แล้ว​ ​ยัง​ทำให้​ไม่​สามารถ​แก้ไขปัญหา​ใดๆ​ ​ได้

“​ครั้งนี้​เป็นการ​เลือก​พระสนม​ให้​องค์​ชาย​ใหญ่​ไม่ใช่​เลือก​พระสนม​ให้​ฮ่องเต้​ ​จะ​เลือก​เพียง​สนมเอก​คนเดียว​เท่านั้น​ ​คนที​่​รูปโฉม​งดงาม​จะ​เทียบ​กับ​คนที​่​สูงส่ง​ได้​อย่างไร​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​สกุล​โอว​ควร​เลือก​สตรีที​่​มีคุณ​ธรรม​โดดเด่น​มาส​ร้าง​อำนาจ​ก่อน​ ​จากนั้น​ค่อย​เลือก​สตรี​อีก​หนึ่ง​ถึง​สอง​คน​เพื่อ​เตรียมพร้อม​สำหรับ​การ​เลือก​ใน​ครั้ง​ต่อ​ๆ​ ​ไป​ ​เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​คนที​่​แนะนำ​นั้น​จะ​สามารถ​เข้าตา​ไท​เฮา​และ​ฮองเฮา​ได้​ในที่สุด​ ​แต่​สกุล​โอว​กลับ​จัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​ไม่ดี​ ​พวกเขา​ทุ่มเท​ทั้ง​เบื้องหน้า​และ​เบื้องหลัง​จน​ทำให้​คนใน​กรม​พิธีการ​ของ​สกุล​โอว​ลำบากใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ดี​ ​ทำให้​สกุล​หยาง​ได้​คะแนน​นำหน้า​”

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นาง​มีสี​หน้า​ประหลาดใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​แล้ว​ยิ้ม​ ​“​ไม่​โกรธ​แล้ว​หรือ​”

“​โกรธ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่างจริงจัง​ ​แล้ว​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​คราว​ที่แล้ว​เรื่อง​ของ​เจี​้ย​เกอ​ก็​เป็น​เช่นนี้​ ​ท่าน​โหว​ไม่​อธิบาย​อะไร​สัก​คำ​ก็​โยน​เด็ก​มา​ไว้​กับ​ข้า​ ​ทำเอา​ข้า​เป็นกังวล​ ​คราวนี้​ก็​เป็น​แบบนี้​อีกแล้ว​…​เวลา​เจอ​เรื่อง​อะไร​ก็​ไม่เคย​จะ​บอก​ข้า​สัก​คำ​ ​จะ​ไม่​ให้​ข้า​โกรธ​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​เอง​ก็​รู้​ว่า​สุภาพบุรุษ​พูด​คำ​ไหน​คำ​นั้น​ ​แม้ว่า​ท่าน​กับ​ใต้เท้า​เซี่ยง​จะ​ตกลง​กัน​ด้วย​วาจา​ ​แม้​ใน​ใจ​ของ​ข้า​จะ​ไม่เต็มใจ​เพียงใด​ ​แต่​เพื่อ​ชื่อเสียง​ของ​ท่าน​โหว​ ​ก็​ไม่​ควร​พูด​เรื่อง​ที่จะ​ไป​พบ​ตัว​คุณหนู​สกุล​เซี่ยง​ ​แต่​อย่างไร​ก็​ต้อง​จัดการ​เรื่อง​งานแต่งงาน​นี้​ให้​มีศักดิ์ศรี​และ​ยิ่งใหญ่​ ​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะเข้า​ใจ​ ​แต่​ใน​ใจ​ก็​ยาก​ที่จะ​สงบ​ลง​ได้​”

นาง​พูด​พลาง​เผย​สีหน้า​ไม่พอใจ​ ​“​ท่าน​โหว​เคย​พูด​แล้ว​ว่าการ​ที่​หมั้น​หมาย​ให้​อวี​้​เกอ​ ​ประการ​แรก​ก็​เพื่อ​อนาคต​ของ​อวี​้​เกอ​ ​ประการ​ที่สอง​ก็​เพื่อ​ความสงบ​สุข​ใน​จวน​ ​เมื่อ​พี่น้อง​ต่าง​มี​งานการ​ทำ​ก็​จะ​ไม่​คิด​แต่​เรื่อง​สมบัติ​ของ​ตระกูล​ ​ข้า​ได้​ฟัง​ก็​รู้สึก​ว่า​มีเหตุผล​เป็นอย่างมาก​ ​ท่าน​พิจารณา​เรื่อง​ต่างๆ​ ​ได้​อย่าง​รอบคอบ​ ​จัดการ​ได้​อย่างเหมาะสม​ ​แล้วยัง​ไปหา​พี่สะใภ้​สอง​ที่​เป็น​คน​เฉลียวฉลาด​มาช​่ว​ยพูด​เรื่อง​นี้​ ​หาก​ท่าน​อธิบาย​ให้​ข้า​ฟัง​อย่างละเอียด​ก่อน​ ​ต่อให้​ข้างี​่​เง่า​เพียงใด​แต่​ก็​ยัง​คิดถึง​หนทาง​ที่​ท่าน​ปู​ทาง​ให้​กับ​ลูก​ๆ​ ​คิดถึง​บุญคุณ​ของ​สกุล​เซี่ยง​ที่​มอบ​บุตรสาว​ภรรยา​เอก​ให้​มา​แต่ง​กับ​อวี​้​เกอ​ ​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ใน​น้ำใจ​ของ​สกุล​เซี่ยง​และ​พี่สะใภ้​สอง​ ​ข้า​ก็​คง​ไม่​พูดว่า​จะ​ไป​พบ​คุณหนู​สกุล​เซี่ยง​ด้วย​ความขุ่นเคือง​ ​หรือ​พูดจา​ประชดประชัน​ท่าน​ ​ใต้เท้า​เซี่ยง​ ​หรือ​พี่สะใภ้​สอง​ ​ที่​ตอนนั้น​ท่าน​โหว​ไม่​ตอบ​ตกลง​รับปาก​คงโทษ​ที่​ข้า​ทำตัว​งี่เง่า​กระมัง​”

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูดว่า​ ​‘​แม้​ใน​ใจ​ของ​ข้า​จะ​ไม่เต็มใจ​เพียงใด​ ​แต่​เพื่อ​เห็นแก่หน้า​ของ​ท่าน​โหว​ ​ก็​ต้อง​จัดการ​งานแต่ง​ของ​อวี​้​เกอ​และ​คุณหนู​รอง​สกุล​เซี่ยง​ให้​สมศักดิ์ศรี​และ​ยิ่งใหญ่​’​ ​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​และ​เมื่อ​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​บอกว่า​ ​‘​อยาก​จะ​ไป​พบ​คุณหนู​สกุล​เซี่ยง​ด้วย​ความขุ่นเคือง​’​ ​ก็​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​พูด​ไป​เพราะ​ความขุ่นเคือง​เพียง​ชั่วขณะ​ ​ใน​ใจ​พลัน​รู้สึก​ดีขึ้น​มา​ ​จนกระทั่ง​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา​ว่า​ ​‘​คงโทษ​ที่​ข้า​ทำตัว​งี่เง่า​กระมัง​’​ ​จึง​รีบ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เปล่า​ ​ไม่ใช่​อย่างนั้น​”

สือ​อี​เหนียง​ทำเป็น​ไม่ได้​ยิน​ ​“​ท่าน​ไม่รู้​หรอก​ว่า​หลาย​วัน​มานี​้​ข้า​ได้​พบ​กับ​พี่สะใภ้​สอง​แต่​ก็​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​สัก​คำ​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​คำกล่าว​ขอบคุณ​ ​หาก​มี​จิตใจ​กว้าง​ก็​คง​ไม่ถือสา​อะไร​ ​แต่​หาก​ใจแคบ​ก็​คง​แอบ​หัวเราะเยาะ​ว่า​ข้า​เป็น​คน​ไม่รู้​จัก​บุญคุณ​ ​คิด​ว่า​ตัวเอง​ได้รับ​การ​ไหว้วาน​จาก​คนอื่น​ก็​ต้อง​ทำให้​เต็มที่​แต่กลับ​ทำ​โดย​เปล่าประโยชน์​ ​ท่าน​ให้​ข้า​ได้​รู้ความ​จริง​แล้ว​ข้า​จะ​เผชิญหน้า​กับ​พี่สะใภ้​สอง​ได้​อย่างไร​ ​แล้ว​จะ​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​พี่สะใภ้​สอง​ได้​อย่างไร​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​อึดอัด​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​ไม่ใช่​คน​ใจแคบ​เช่นนั้น​…​”

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​ก็เพราะว่า​พี่สะใภ้​สอง​ไม่ใช่​คน​ใจแคบ​เช่นนั้น​ ​ท่าน​โหว​และ​ข้า​จึง​ต้อง​ยิ่ง​ปฎิบัติ​ต่อนา​งด​้วย​ความจริงใจ​และ​เคารพ​จึง​จะ​ถูก​ ​มิเช่นนั้น​ข้า​ก็​จะ​ไม่สบายใจ​อย่างนี้​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​หาก​คุณหนู​สอง​สกุล​เซี่ยง​มีนิ​สัย​อ่อนโยน​และ​เชื่อฟัง​อย่างที่​พี่สะใภ้​สอง​ว่า​จริงๆ​ ​นาง​เข้ากับ​อวี​้​เกอ​ได้​ก็​เป็นเรื่อง​ดี​ ​แม้ว่า​ข้า​จะ​เป็น​แม่เลี้ยง​ของ​เขา​ ​แต่​ก็​มีความหวัง​ดี​ต่อ​เขา​ ​หวัง​ว่า​พวกเขา​พี่น้อง​และ​บรรดา​สะใภ้​จะ​สามัคคี​กัน​ ​ทำให้​สกุล​สวี​รุ่งเรือง​ ​เรื่อง​ดี​ๆ​ ​เช่นนี้​กลับ​มีเรื่อง​ขัดแย้ง​เสีย​ได้​!​”​ ​พูด​พลาง​เหลือบมอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

เขา​มีสี​หน้า​ลำบากใจ​ ​แต่​ใน​ใจ​ยัง​กังวล​เรื่อง​ที่​สือ​อี​เหนียง​จะ​ไปดู​ตัว​คุณหนู​สกุล​เซี่ยง​จึง​ฝืนใจ​พูด​ ​“​คุณหนู​สกุล​เซี่ยง​น่ะ​หรือ​”

“​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไปดู​ตัว​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​

“​ใต้เท้า​เซี่ยง​ตกลง​ที่จะ​ให้​บุตรสาว​แต่ง​เข้ามา​ ​ข้า​ที่​เป็น​แม่​สามี​จะ​ไม่​ถามไถ่​อะไร​สัก​คำ​เลย​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อว่า​ ​“​ถึงอย่างไร​พี่สะใภ้​สอง​ก็​เป็นคุณ​หนู​จาก​สกุล​เซี่ยง​ ​หรือว่า​จะ​ให้​พี่สะใภ้​สอง​ไป​คุย​กับ​นาย​หญิง​เซี่ยง​เรื่อง​สินสอดทองหมั้น​?​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​โล่งใจ​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ควรจะ​ไปดู​เสียหน่อย​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม

สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​แล้ว​เรียก​เยี​่​ยน​หรง​เข้ามา​ช่วย​นาง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า

“​ไป​ตอนนี้​เลย​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลุกขึ้น​ ​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​“​จะ​ดูรีบ​ร้อน​เกินไป​หรือไม่​”

“​ใคร​บอกว่า​จะ​ไป​ตอนนี้​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถลึงตา​ใส่​เขา​ ​“​อย่างไร​ก็​ต้อง​รอ​ให้​ผ่าน​ช่วง​งาน​ไว้อาลัย​ไป​ก่อน​ ​ตอนนี้​ข้า​จะ​ไปหา​พี่สะใภ้​สอง​”

“​ไป​ทำ​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ประหลาดใจ​ ​สีหน้า​ตึงเครียด​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ข่าวลือ​ก่อนหน้านี้​ที่นาง​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​ความ​ไม่ลงรอย​ระหว่าง​หยวน​เหนียง​กับฮู​หยิน​สอง​…

ดูเหมือนว่า​ความขัดแย้ง​ระหว่าง​หยวน​เหนียง​กับฮู​หยิน​สอง​จะ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตี​ตน​ไป​ก่อน​ไข้

นาง​กลั้น​หัวเราะ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แน่นอน​ว่า​ข้า​จะ​ต้อง​ไป​ขอบคุณ​พี่สะใภ้​สอง​!​ ​พี่สะใภ้​สอง​ช่วย​อวี​้​เกอ​ให้​ได้​มี​คู่ครอง​ที่​ดี​เช่นนี้​ ​ทั้ง​ยัง​ช่วย​คลาย​ความกังวลใจ​ของ​ท่าน​โหว​…​ไม่รู้​ก็แล้วไป​ ​แต่​เมื่อ​รู้​แล้ว​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​ขอบคุณ​นาง​”​ ​จากนั้น​ก็​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​อยาก​ให้ท่าน​โหว​ไป​ด้วยกัน​ ​เช่นนี้​จะ​ได้​ดู​เป็นทางการ​มากขึ้น​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​โล่งใจ​ ​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความปิติยินดี​ ​“​แน่นอน​ ​ต้อง​ไป​ด้วยกัน​อยู่​แล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​เรียก​ชุน​มั่ว​เข้ามา​ช่วย​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ส่วนตัว​เอง​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ที่​ห้อง​ชำระ​ ​ใส่​เสื้อแขนยาว​สีเหลือง​ปัก​ลวดลาย​สีเขียว​ ​แล้วไป​ที่​เรือน​เสา​หวา​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ระหว่างทาง​นาง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​พระสนม​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​จะ​มาจาก​สกุล​หยาง​หรือไม่​”

“​ไม่น่า​จะ​เป็นไปได้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อว่า​ ​“​สุดท้าย​แล้ว​คนที​่​ตัดสินใจ​เรื่อง​นี้​ก็​คือ​ฝ่า​บาท​”

“​เช่นนั้น​ที่​ท่าน​โหว​บอกว่า​สกุล​โอว​มี​ความไม่ชอบมาพากล​นั้น​หมายความว่า​อย่างไร​”

เหล่า​บรรดา​สาวใช้​เดินตาม​ห่าง​ๆ​ ​อยู่​ข้างหลัง​ ​ทั้งสอง​ชะลอ​ฝีเท้า​ลง​ ​เดิน​ไป​คุย​ไป

“​จิ้ง​ไห่​โหว​มีบุ​ตร​ชาย​หก​คน​และ​บุตรสาว​สาม​คน​ ​บุตรชายคนโต​ ​คนที​่​สี่​ ​และ​คนที​่​หก​เกิด​จาก​ภรรยา​เอก​ ​ส่วน​บุตรชาย​คนอื่นๆ​ ​เกิด​จาก​อนุภรรยา​ ​หวง​กุ้ย​เฟย​เป็น​บุตร​คนที​่​สอง​ของ​เรือน​สาม​ ​บุตรชายคนโต​ถูก​แต่งตั้ง​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ตั้งแต่​สามสิบ​ปีก่อน​ ​หลาย​ปี​มานี​้​จิ้ง​ไห่​โหวก​็​อายุ​มาก​แล้ว​ ​กิจการ​ต่างๆ​ ​ใน​จวน​ล้วน​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ที่​เป็น​คนดู​แล​ ​มีบา​รมี​ใน​แถบฝู​เจี​้​ยน​ ​ปี​ที่​ฮ่องเต้​ขึ้น​ครองราชย์​บัลลังก์​เขา​เคย​มาที​่​ราชสำนัก​ ​ข้า​ได้​เจอ​เขา​สอง​สาม​ครั้ง​ ​เขา​เป็น​คนที​่​สุขุม​เป็นอย่างมาก​”​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เริ่ม​เคร่งขรึม​ขึ้น​ ​“​เรื่อง​แย่งชิง​ตำแหน่ง​ ​ผู้​ที่​ชนะ​อยู่​ใน​อำนาจ​ไม่มีใคร​กล้า​ประณาม​ ​แต่​ผู้แพ้​มัก​ถูก​คน​ตำหนิ​ ​เสี่ยง​กับ​การ​ล่มสลาย​ของ​ตระกูล​ ​หาก​ไม่มี​ความมั่นใจ​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​ ​เรื่อง​องค์​ชาย​ห้า​ ​สกุล​โอว​มีท​่า​ที​ที่​รีบร้อน​เกินไป​ ​ด้วยเหตุนี้​ข้า​จึง​แอบ​ไป​พบ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ ​ถาม​เขา​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ของ​สกุล​โอว​เพราะ​เกรง​ว่า​จะ​มีเรื่อง​บางอย่าง​ที่​ข้า​ไม่รู้​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​ดู​จริงจัง​ ​“​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​สถานการณ์​ที่หวัง​จิ​่ว​เป่า​พูด​มา​ใกล้เคียง​กับ​ที่​ข้า​รู้​มา​เกือบ​ทั้งหมด​ ​และ​ตอนนี้​ก็​มีเรื่อง​การ​แนะนำ​พระสนม​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​การ​ลงมือ​ทั้งสอง​ครั้ง​มี​วิธีการ​ที่​คล้าย​กัน​มาก​ ​แผน​รับมือ​ไม่​รอบคอบ​ ​บางครั้ง​ก็​กระทำการ​โดย​รีบร้อน​ ​บางครั้ง​ก็​ดู​คล่องแคล่ว​และ​มีประสบการณ์​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​เขา​ก็​หยุด​เดิน​แล้ว​หันมา​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ข้า​สงสัย​ว่า​จะ​เกิด​ปัญหา​ขึ้น​ภายใน​สกุล​โอว​!​”

เมื่อ​ข้องเกี่ยว​กับ​เรื่อง​การเมือง​ทุกอย่าง​ก็​จะ​ซับซ้อน​ขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ต่อให้​นาง​รู้​แต่​ก็​ช่วย​อะไร​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​ ​จึง​ถาม​ตรงๆ​ ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​เป็นผลดี​หรือ​ผลเสีย​กับ​สกุล​เรา​เจ้า​คะ​”

“​ตอนนี้​ยัง​ไม่รู้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​แล้ว​เปลี่ยน​น้ำเสียง​ ​“​แต่​ข้า​คิด​ว่าน​่า​จะ​เป็นเรื่อง​ดี​”

เป็นเรื่อง​ดี​ก็ดี​แล้ว​!

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​ข้างหน้า​กับ​เขา​ ​แล้ว​พูด​เรื่อง​อวี​้​เกอ​ขึ้น​มา​ ​“​…​ในเมื่อ​อยาก​ให้​เขา​สอบ​เข้า​ขุนนาง​ ​เช่นนั้น​การ​หา​อาจารย์​ก็​เป็นเรื่อง​เร่งด่วน​ ​ข้าว​่า​พอ​ไป​ถึง​เรือน​พี่สะใภ้​สอง​ ​ไม่​สู้​ลอง​ถาม​พี่สะใภ้​สอง​ให้​นาง​ช่วย​หา​อาจารย์​ให้​สัก​คน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อย่างไร​เสีย​พี่สะใภ้​สอง​ก็​เป็น​ม่าย​ ​ไม่ได้​ไปมาหาสู่​กับ​คนที​่​เคย​รู้จัก​แต่​เก่า​ก่อน​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​จะ​ไปร​บก​วน​นาง​ได้​อย่างไร​ ​ข้าว​่า​ส่ง​อวี​้​เกอ​ไป​เรียนหนังสือ​กับ​อาจารย์​เจียง​ที่​สำนัก​ศึกษา​ใน​เล่อ​อาน​ดีกว่า​ ​เจ้า​คิด​ว่า​อย่างไร​”

สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ

สวี​ซื่อ​อวี​้​พึ่ง​จะ​อายุ​สิบสอง​ปี​ ​ต้อง​ไป​เรียนหนังสือ​ไกล​ขนาด​นั้น​ ​เขา​จะ​ทำใจ​ได้​หรือ

“​หาก​หยก​ไม่ได้​รับ​การแกะสลัก​อย่างประณีต​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​นำไปใช้​ให้​เกิด​ประโยชน์​ได้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อว่า​ ​“​ยิ่งไปกว่านั้น​อาจารย์​เจียง​เป็น​คน​มีความรู้​และ​คุณธรรม​อย่างเห็นได้ชัด​ ​ได้​ไป​เรียนรู้​กับ​เขา​ที่นั่น​ก็​จะ​มีสาย​ตา​ที่​กว้างไกล​ ​เป็นผลดี​สำหรับ​เขา​ในอนาคต​”

“​ท่าน​โหว​คิด​เช่นนี้​ตั้งแต่​เมื่อใด​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​แต่กลับ​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​!​”

“​เป็น​เจ้า​ต่างหาก​ที่​เตือน​ข้า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​เจ้า​ไม่ได้​บอกว่า​อ่านหนังสือ​พัน​เล่ม​ก็​ไม่​สู้​เดินทาง​หมื่น​ลี้​ไม่ใช่​หรือ​ ​ในเมื่อ​ฉิน​เกอ​สามารถ​ไป​เผชิญ​ความลำบาก​กับ​พี่​สาม​ได้​ ​เช่นนั้น​อวี​้​เกอ​ก็​ควรจะ​ต้อง​ฝึกฝน​ไว้​บ้าง​จึง​จะ​ถูก​”

อาจ​ไม่ใช่​คำเตือน​ ​แต่​คง​ไป​สะกิด​โดน​เรื่อง​ที่​ท่าน​โหว​คิด​ไว้​อยู่​แล้ว​กระมัง​!

เมื่อ​รู้​ว่า​โลก​กว้างใหญ่​แค่ไหน​ก็​จะ​รู้​ว่า​ตัวเอง​เล็ก​มาก​แค่นั้น​ ​บางที​สวี​ซื่อ​อวี​้​อาจจะ​ยิ่ง​ตัดใจ​จาก​ตำแหน่ง​หย่ง​ผิง​โหว​ไม่ได้​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​หรือ​บางที​อาจ​ทำให้​เขา​รู้​ว่า​ใน​โลก​ใบ​นี้​ยัง​มีสิ​่ง​ที่​สำคัญ​กว่า​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ ​แม้ว่า​จะ​เป็น​ดาบสองคม​ ​แต่​หาก​ไม่​ลอง​แล้ว​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ผลลัพธ์​จะ​เป็น​อย่างไร​!

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แผ่วเบา​ ​พวกเขา​เดิน​มา​อยู่​ที่​หน้า​เรือน​เสา​หวา​แล้ว

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท