ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 299 เพิ่มสินเดิมให้เจ้าสาว(ต้น)

ตอนที่ 299 เพิ่มสินเดิมให้เจ้าสาว(ต้น)

ไท่ฮู​หยิน​ถามถึง​อาจารย์​เจี่ย​นว​่า​ ​“​…​เจ้า​เชิญ​นาง​มาที​่​จวน​ของ​เรา​ดี​หรือไม่​ ​ให้​นาง​สอน​คนใน​โรง​เย็บ​ปัก​ของ​เรา​ทำงาน​เย็บปักถักร้อย​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​เจ้า​มักจะ​ร่าง​ลวดลาย​แล้ว​ให้​พวก​นาง​เป็น​คน​ปัก​ ​แต่​บางครั้ง​พวก​นาง​ก็​ไม่​สามารถ​ทำได้​ ​หาก​อาจารย์​เจี่ย​นมา​ได้​ก็​จะ​ช่วย​เบาแรง​เจ้า​”

เวลา​อยู่​เรือน​ ​เสื้อผ้า​เครื่องประดับ​ของ​สือ​อี​เหนียง​นั้น​เรียบง่าย​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​เมื่อมี​แขก​มาหา​นาง​ก็​จะ​แต่งตัว​ให้​ดี​ ​หาก​ไป​เป็น​แขก​จวน​อื่น​…​ตั้งแต่​นาง​แต่ง​เข้า​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​มาก​็​ยัง​ไม่เคย​ได้​ใส่​เสื้อผ้า​ซ้ำ​กัน​เลย​สัก​ชุด​ ​นี่​เป็นนิสัย​การ​แต่งกาย​ของ​นาง​เมื่อก่อน​หน้า​นี้​ ​จะ​แบ่ง​ออก​เป็นทางการ​และ​ไม่​ทางการ​ ​ไม่​ทางการ​จะ​เน้น​ความสะดวก​สบาย​เป็นหลัก​ ​ส่วน​เวลา​เป็นทางการ​ก็​จะ​เน้น​ความหรูหรา​และ​สวยงาม

นาง​พบ​ว่า​เสื้อผ้า​ของ​สตรี​ใน​จวน​สวี​มีมาก​มาย​ ​จึง​ได้​ค่อยๆ​ ​เผย​นิสัย​ของ​ตัวเอง​ทีละน้อย​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​สังเกตเห็น

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เยี​่​ยน​จิง​อากาศ​ค่อนข้าง​หนาว​ ​ไม่รู้​ว่า​อาจารย์​เจี่ยน​จะ​มา​หรือไม่​ ​ข้า​จะ​ให้​คน​ส่งจดหมาย​ไป​ที่​หังโจว​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​“​น่าเสียดาย​ที่​บุตรสาว​และ​หลานสาว​ใน​เรือน​มีน​้อย​ ​มิเช่นนั้น​เมื่อ​อาจารย์​เจี่ย​นมา​ก็​จะ​ได้​สอน​งานเย็บปักถักร้อย​ให้​แก่​บรรดา​สตรี​ได้​”​

ความจริง​แล้ว​เรื่อง​ที่จะ​เชิญ​อาจารย์​เจี่ย​นมา​เยี​่​ยน​จิง​สือ​อี​เหนียง​ได้คิด​ไว้​อยู่​เสมอ​ ​ไม่ได้​บอกว่า​หังโจว​ไม่ดี​ ​อย่างไร​เสีย​หังโจว​ก็​เป็นบ้าน​เกิด​ของ​อาจารย์​เจี่ยน​ ​ทุกคน​มักจะ​รู้สึก​ว่า​บ้านเกิด​ของ​ตัวเอง​นั้น​ดี​ ​การ​ไป​ทำมาหากิน​ต่าง​มณฑล​ก็​เหมือนกับ​การ​หนี​ออกจาก​บ้าน​ ​อีกทั้ง​นาง​ยัง​มี​หลักแหล่ง​ที่​แน่นอน​อยู่​ที่นั่น​ ​แต่​หาก​สามารถ​มาส​ร้าง​ชื่อเสียง​ใน​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ค่อย​กลับ​ไป​ ​ชื่อเสียง​ก็​จะ​มากขึ้น​อีก​ ​ก่อนหน้านี้​ไม่มี​โอกาส​ ​แต่​ตอนนี้​เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​เช่นนี้​ ​ตน​จึง​ตัดสินใจ​ว่า​เมื่อ​กลับมา​จาก​จวน​จง​ฉินปั​๋​วก​็​จะ​ไป​ขอให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​นำ​จดหมาย​ส่ง​ไป​ให้​อาจารย์​เจี่ยน​ทันที

ไท่ฮู​หยิน​พูดถึง​เสื้อ​ซับใน​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทำให้​นาง​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ ​“​ปัก​ดอก​โบตั๋น​ได้​สวยงาม​เป็นอย่างมาก​ราวกับ​ของจริง​ ​โชคดี​ที่​ใส่​ไว้​ข้างใน​ ​หาก​ใส่​ไว้​ข้างนอก​เกรง​ว่า​จะ​ถูก​คนอื่น​จับจ้อง​เอา​!​”

“​ท่าน​ชอบ​ก็ดี​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แค่​ปัก​ดอกไม้​ไม่​กี่​ดอก​บน​แขน​เสื้อ​เท่านั้นเอง​ ​จะ​ถูกจับ​จ้อง​ได้​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

“​ต่อไป​ให้​คน​โรง​เย็บ​ปัก​เป็น​คน​ทำ​เถิด​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ต่อว่า​ ​“​ของ​แบบนี้​ต้อง​ใช้​สายตา​เยอะ​”

“​ถ้าหาก​ยุ่ง​มาก​ก็​คง​ทำให้​ท่าน​ไม่ได้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อว่า​ ​“​แต่​หลาย​วัน​มานี​้​ข้าว​่าง​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​จึง​ทำให้​ท่าน​หนึ่ง​ตัว​เจ้าค่ะ​”

ทั้งสอง​คน​คุย​ไป​หัวเราะ​ไป​จนกระทั่ง​ถึง​จวน​จง​ฉินปั​๋ว

เมื่อ​รู้​ว่า​ช่วย​มา​เพิ่มสิน​เดิม​ให้​คุณหนู​เจ็ด​ ​ฝ่าย​รายงาน​ของ​สกุล​กาน​ก็​ส่ง​คน​ไปรา​ยงา​นกานฮู​หยิน​ ​ส่ง​ผู้ดูแล​มา​เชิญ​ทั้งสอง​คน​เข้าไป​ใน​จวน​ด้วย​ความเคารพ

ทั้งสอง​สกุล​เป็น​ขุนนาง​ ​รูปแบบ​เรือน​ใน​จวน​จึง​คล้าย​กัน​ ​ไม่ได้​มีความรู้สึก​แปลกใหม่​ ​สือ​อี​เหนียง​พยุง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ห้อง​ฝั่ง​ตะวันออก​ของ​ห้องโถง​หลัก​ ​พึ่ง​จะ​เดิน​มาถึง​ประตู​เรือน​ก็​เห็น​สาวใช้​เดิน​ห้อมล้อม​กานฮู​หยิน​ออกมา

นาง​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีแดง​ ​ใบหน้า​ที่​สวยงาม​ของ​นาง​ดู​เหนื่อยล้า​เล็กน้อย​ ​ยิ้ม​ทักทาย​ไท่ฮู​หยิน​มา​แต่ไกล​ ​“​ท่าน​มา​แล้ว​!​”​ ​ต้อนรับ​ทั้งสอง​คน​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​หลัก

“​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​งานแต่ง​ของ​หลาน​ถิง​ใช่​หรือไม่​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​มอง​กานฮู​หยิน​ ​“​เจ้า​ต้อง​พักผ่อน​ให้​มาก​!​”

กานฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ก็​ยิ้ม​ขอบคุณ​ ​“​แต่​ประเด็น​คือ​ข้า​ชอบ​ทำตัว​ให้​ยุ่ง​น่ะ​สิ​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​ทักทาย​กัน​ ​สาวใช้​น้อย​ก็​ยก​น้ำชา​มา​วาง

ป้า​ซ่ง​ส่ง​รายการ​ของขวัญ​ให้​ผู้ดูแล​ที่อยู่​ข้าง​กาย​กานฮู​หยิน​ ​กานฮู​หยิน​พูด​ด้วย​ความเกรงใจ​ ​ ​ระหว่าง​นั้น​ผู้ดูแล​ได้มา​ปรึกษา​กานฮู​หยิน​เกี่ยวกับ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​หลาน​ถิง​ ​แล้วยัง​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​หย่ง​ชัง​โหวฮู​หยิน​มา​เจ้าค่ะ​!​”

“​ช่าง​บังเอิญ​เสีย​จริง​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ด้วย​ความประหลาดใจ

“​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​ช่าง​มี​วาสนา​ต่อกัน​จริงๆ​”​ ​กานฮู​หยิน​ยิ้ม​ ​แล้ว​ลุกขึ้น​ไป​ต้อนรับ​หวงฮู​หยิน​เข้ามา

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​มากับ​หวงฮู​หยิน​ด้วย​ ​ทุกคน​ทักทาย​กัน​อย่าง​ครึกครื้น​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ไปหา​หลาน​ถิง

เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​พบ​ว่า​หลาน​ถิ​งอา​ศัย​อยู่​ที่​เรือน​เล็ก​ทาง​ตะวันออก​ของ​เรือน​หลัก​ ​ใน​ใจ​ก็​แอบ​รู้สึก​ประหลาดใจ

คิดไม่ถึง​ว่าที่​ที่นา​งอา​ศัย​อยู่​จะ​เล็ก​ขนาด​นี้

ส่วน​หลาน​ถิง​ที่​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ก็​เบิกตา​กว้าง

สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ยิ้ม​ให้​นาง

หลาน​ถิง​ได้สติ​กลับมา​รีบ​เดิน​เข้าไป​คารวะ​ทุกคน

ทุกคน​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​ใน​ห้องโถง

ไท่ฮู​หยิน​จับมือ​หลาน​ถิง​ ​ส่วน​หวงฮู​หยิน​ก็​อวยพร​ความเป็นมงคล​ให้​มากมาย

แม้ว่า​หลาน​ถิง​จะ​ตั้งใจฟัง​ ​แต่​ใบหน้า​กลับ​แดง​ระเรื่อ​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้

ไท่ฮู​หยิน​มอง​แล้ว​หัวเราะ​พลาง​พูดว่า​ ​“​เอาล่ะ​ ​เอาล่ะ​ ​ข้า​ไม่​รบกวน​เจ้า​แล้ว​ ​ให้​สือ​อี​เหนียง​อยู่​พูดคุย​เป็นเพื่อน​เจ้า​เถิด​ ​พวกเรา​จะ​ไป​นั่ง​ที่​เรือน​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​!​”​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​พร้อมกับ​กานฮู​หยิน

กาน​หลาน​ถิง​ยิ้ม​พลาง​มอง​สำรวจ​สือ​อี​เหนียง​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า

“​มี​อะไร​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​สำรวจ​ตัวเอง​เช่นกัน​ ​เกรง​ว่า​จะ​มี​อะไร​ที่​ไม่เหมาะสม

“​งดงาม​มาก​!​”​ ​กาน​หลาน​ถิง​ยิ้ม

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ตอบรับ​ ​พูดถึง​เรื่อง​ก่อนหน้านี้​ ​“​ก่อนหน้านี้​ที่​เจ้า​ตั้งใจ​ส่ง​เทียบ​เชิญ​มา​เชิญ​ข้า​ไป​งานเลี้ยง​ ​เสียดาย​ที่​ข้า​ไป​ไม่ได้​ ​ใน​ใจ​ยังคง​คิดถึง​เรื่อง​นี้​มาต​ลอด​!​”

“​ไอ​๊​หยา​!​”​ ​เมื่อ​กาน​หลาน​ถิง​ได้​ฟัง​ก็​โบกไม้โบกมือ​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​“​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ก็​เพียงแค่​กิน​ดื่ม​เท่านั้น​ไม่มี​อะไร​หรอก​”​ ​จากนั้น​ก็​จูงมือ​นาง​ไป​นั่ง​ที่​ห้อง​ด้านใน​ ​“​หา​โอกาส​ได้​ยาก​ที่​เจ้า​จะ​มาหา​ข้า​ ​พวกเรา​มานั​่​งคุ​ยกัน​สักหน่อย​เถิด​”

บรรดา​สาวใช้​กำลัง​จัด​ของ​ใส่​หีบ

หลาน​ถิง​พูด​อย่าง​ถ่อมตัว​ว่า​ ​“​ห้อง​ข้า​รก​นิดหน่อย​”

สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​จวน​ของ​ข้า​ก็​กำลัง​ปลูกเรือน​ ​ยุ่งเหยิง​ยิ่งกว่า​เรือน​ของ​เจ้า​เสียอีก​”

“​คนใน​ครอบครัว​เจ้า​น้อย​ขนาด​นั้น​ยัง​ต้อง​ปลูกเรือน​เพิ่ม​อีก​หรือ​”​ ​กาน​หลาน​ถิง​นั่ง​คุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​“​ไม่​เหมือน​สกุล​เรา​ ​ช่วง​รุ่น​ที่สี่​ไม่ได้​มี​การ​แยก​จวน​จึง​อาศัย​อยู่​ด้วยกัน​ทั้งหมด​ ​จะ​เหยียด​แข้ง​เหยียด​ขาก​็​ไม่​สะดวก​”​ ​นาง​พูด​หยอกล้อ​ตัวเอง

ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​เรือน​ที่นา​งอา​ศัย​อยู่​จะ​เล็ก​ขนาด​นี้

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​หยิบ​ถุง​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​ส่ง​ให้​หลาน​ถิง​ ​“​ไข่มุก​จาก​ทางใต้​ ​หาก​มี​รูปแบบ​ที่​เหมาะสม​ ​ก็​เอา​มาทำ​เป็น​เครื่องประดับ​ได้​!​”

หลาน​ถิง​ยิ้ม​พลาง​รับ​มา​ ​พูด​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง

มีสาว​ใช้​น้อย​นำ​ชามา​วาง

หลาน​ถิง​ถามไถ่​ถึง​สือ​เหนียง​ ​“​…​ตอนนี้​นาง​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​พูดว่า​ ​“​ข้า​เคย​เจอ​นาง​ครั้ง​ที่แล้ว​ตอน​ครบรอบ​สามสิบห้า​วัน​ของ​พี่เขย​สิบ​”​ ​จากนั้น​ก็​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​บอก​ความจริง​กับ​นาง​ ​“​ตอน​พวกเรา​ยัง​เด็ก​ๆ​ ​ไม่​ค่อย​สนิท​กัน​เท่าไร​ ​นาง​จึง​ไม่​อยาก​จะ​พบ​หน้า​ข้า​”

หลาน​ถิง​พยักหน้า​อย่างจริงจัง​ ​“​ใน​งานเลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ครั้งนั้น​ข้า​เอง​ก็​ดูออก​เช่นกัน​ ​บางครั้ง​คนเรา​ก็​ต้อง​ยอมรับ​โชคชะตา​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​อ่อนโยน

สือ​อี​เหนียง​ใน​ใจ​พลัน​รู้สึก​อบอุ่น​ ​ถามถึง​กาน​เฉา​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​…​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​คุณหนู​สาม​เล่า​!​”

ทันทีที่​พูด​จบ​ ​ผ้าม่าน​ที่​ประตู​ก็​ถูก​เปิด​ ​สตรี​สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​สีแดง​นาง​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา

สือ​อี​เหนียง​หันไป​มอง​ ​ที่แท้​ก็​เป็น​เฉา​เอ๋อร​์​นี่เอง

ใน​มือ​นาง​ถือ​เสื้อผ้า​หลาย​ชุด​ ​เดิน​ไป​บ่น​ไป​ว่า​ ​“​จะ​แต่งงาน​อยู่​แล้ว​ทำไม​ไม่ใส่ใจ​เช่นนี้​ ​เสื้อผ้า​เหล่านี้​ล้วน​เป็น​ผ้าแพร​หังโจว​ชั้นดี​ ​แม้ว่า​ตัว​เจ้า​เอง​จะ​ไม่​ชอบ​ ​แต่​ก็​สามารถ​ให้​เป็น​ของรางวัล​แก่​บรรดา​สาวใช้​ได้​สวมใส่​…​”​ ​เมื่อ​เงยหน้า​มอง​ก็​พบ​ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​ ​รีบ​หยุด​บทสนทนา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​มา​แล้ว​หรือ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​ทักทาย​นาง​ ​หลาน​ถิง​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​หัวเราะ​คิกคัก​ ​“​เรียก​สือ​อี​เหนียง​เถิด​ ​เจ้า​เรียก​เช่นนี้​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​แก่นัก​!​”

เฉา​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ทำ​หน้า​เบื่อหน่าย​ ​“​เจ้า​พูดเหลวไหล​อะไร​กัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ขอโทษ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​อย่า​ได้​เก็บ​มา​ใส่ใจ​ ​น้อง​หญิง​เจ็ด​ของ​ข้า​ก็​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​เช่นนี้​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​อิจฉา​ที่​เวลา​หลาน​ถิ​งกับ​เฉา​เอ๋อร​์​ทะเลาะ​กัน​และ​ตำหนิ​กัน​ด้วย​ความ​สนิทสนม​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุณหนู​สาม​เรียก​ข้าว​่า​สือ​อี​เหนียง​เถิด​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​พวกเรา​ก็​รู้จัก​กันตั​้ง​แต่​ตอนที่​ข้า​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​”

เฉา​เอ๋อร​์​ได้​ฟัง​แล้วก็​มีสี​หน้า​ลังเล

หลาน​ถิง​หัวเราะ​ลั่น​ ​“​เจ้า​เห็น​หรือยัง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่​อยาก​ให้​เจ้า​เรียก​เช่นนั้น​”

เฉา​เอ๋อร​์​ถลึงตา​ใส่​นาง​ ​พึ่ง​จะ​อ้า​ปาก​เรียก​ ​“​สือ​อี​เหนียง​”​ ​ก็ได้​ยิน​เสียง​อึกทึก​ดัง​มาจาก​ข้างนอก​ห้อง​ ​เฉา​เอ๋อร​์​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​ ​หันไป​กำชับ​สาวใช้​ ​“​ไปดู​สิว​่า​ใคร​กำลัง​ส่งเสียง​ดัง​เอะอะโวยวาย​ ​ ​แล้ว​ให้​บรรดา​ผู้ดูแล​ไป​จัดการ​”

สาวใช้​น้อย​ตอบรับ​ตัวสั่น​เทา

เฉา​เอ๋อร​์​รีบ​อธิบาย​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ว่า​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​ใน​จวน​มีเรื่อง​มากมาย​ ​บรรดา​สาวใช้​จึง​ค่อนข้าง​ตื่นตระหนก​”

บรรดา​สาวใช้​ก็​เป็น​คน​ ​ไม่มีทาง​ที่จะ​สงบนิ่ง​ได้​ตลอดเวลา​ ​เฉา​เอ๋อร​์​อาจจะ​รู้สึก​ว่าการ​ทำให้​แขก​ต้อง​เห็นภาพ​เช่นนี้​นั้น​ทำให้​เสียหน้า

สือ​อี​เหนียง​กำลังจะ​เอ่ยปาก​พูด​ด้วย​ความเข้าใจ​ ​สาวใช้​น้อย​ผู้​นั้น​ก็​เปิดม่าน​เข้ามา

ใบหน้า​ของ​นาง​ซีด​เผือก​ ​เมื่อ​เดิน​เข้ามา​นาง​ก็​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ ​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​หยุด​ไป

สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา​ ​“​…​ข้า​แค่​อยาก​จะ​มาดู​เจ้า​ ​วันที่​เจ้า​ออกเรือน​ข้า​อาจจะ​ไป​ดื่ม​สุรา​มงคล​ที่​จวน​สกุล​เหลียง​ ​คงมา​ส่ง​เจ้า​ไม่ได้​”

เฉา​เอ๋อร​์​มอง​สาวใช้​ผู้​นั้น​ ​สีหน้า​ดู​ไม่ดี​นัก​ ​ฝืนยิ้ม​พลาง​รั้ง​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ ​“​นั่ง​ต่อ​อีก​สักหน่อย​เถิด​!​”

หลาน​ถิ​งก​ลับ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอนนี้​เจ้า​แต่งงาน​แล้ว​ ​พวกเรา​ไม่​รั้ง​เจ้า​ไว้​ดีกว่า​ ​ครั้งหน้า​หาก​ข้ามี​งานเลี้ยง​อีก​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​มา​ให้​ได้​นะ​”

“​แน่นอน​ ​แน่นอน​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​สอง​พี่น้อง​มาส​่ง​นาง​ที่​ประตู

ระหว่างทาง​ได้​เจอ​กับ​สาวใช้​สอง​คน​กำลัง​รีบ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เรือน​เล็ก​ทางทิศใต้

แม้ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​แปลกใจ​ ​แต่​อย่างไร​นี่​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​สกุล​กาน​ ​นาง​จึง​ทำเป็น​มองไม่เห็น​แล้ว​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เรือน​กานฮู​หยิน

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กำลัง​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​ทำเอา​ไท่ฮู​หยิน​กับ​หวงฮู​หยิน​หัวเราะ​กัน​ใหญ่​ ​แต่กลับ​ไม่เห็น​กานฮู​หยิน​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กลับมา​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พูดคุย​กัน​เสร็จ​เร็ว​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นาง​กำลัง​ยุ่ง​ ​ข้า​ไม่​อาจ​อยู่นาน​ได้​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เล็กน้อย

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​จับมือ​นาง​ ​“​ชุด​นี้​งาม​มาก​เลย​”

ไท่ฮู​หยิน​กลั้น​ยิ้ม​ ​ท่าทาง​ภูมิ​อก​ภูมิใจ​เป็นอย่างมาก

หวงฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เหมือนกับ​ตอน​สาว​ๆ​ ​ไม่มี​ผิด​ ​เอะอะ​ก็​แต่งตัว​ให้​คนอื่น​ถึง​จะ​มีความสุข​ ​ตัวเอง​อายุ​มาก​แล้ว​ใช้ไม่ได้​แล้ว​ ​ก็​เอา​ออกมา​ให้​ลูกสะใภ้​”

ไท่ฮู​หยิน​และ​หวงฮู​หยิน​ทำตัว​สบาย​ๆ​ ​เป็นอย่างมาก​ ​ยิ้ม​พลาง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​“​วันหลัง​เจ้า​ก็​ทำ​ชุด​ให้​สะใภ้​สาม​สกุล​หวง​บ้าง​สิ​ ​นาง​จะ​ได้​ไม่ต้อง​อิจฉา​เวลา​เห็น​ข้า​แต่งตัว​ให้​เจ้า​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ยิ้ม​พลาง​บิด​ตัว​ไปมา​อย่าง​เขินอาย​ ​“​ถังน้ำ​อย่าง​ข้า​จะ​ใส่​ชุด​อะไร​ได้​!​”

อย่า​ว่าแต่ฮู​หยิน​ทั้งสอง​เลย​ ​แม้แต่​คนที​่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ห้อง​ก็​ยัง​ปิดปาก​หัวเราะ

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กลัว​จะ​เสียบร​รยา​กาศ​ ​จึง​ถอนหายใจ​แล้ว​พูดเสี​ยง​ดัง​จน​ทุกคน​ได้ยิน​ว่า​ ​“​ก่อนหน้านี้​พี่สะใภ้​สาม​ของ​เจ้า​ก็​บอกว่า​ข้า​เหมือน​กาน้ำ​ชา​ ​แต่​นี่​ก็​เป็นเรื่อง​เมื่อ​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​แล้ว​ ​ตอนนี้​ข้า​จึง​กลายเป็น​ถังน้ำ​แล้ว​”

ทุกคน​หัวเราะ​ดังลั่น

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​มา​แล้ว

นาง​ยิ้ม​พลาง​ทักทาย​ทุกคน​ ​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความสุข​อย่าง​ปกปิด​ไม่อยู่​ ​ท่าทาง​ดีใจ​ยิ่งกว่า​กานฮู​หยิน​เสียอีก​ ​หาก​ใคร​ไม่รู้​ก็​คง​คิด​ว่าวั​นนี​้​เป็น​งานแต่ง​ของ​บุตรสาว​นาง

“​ข้า​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​ดัง​มา​แต่ไกล​ ​ใน​ใจ​ยัง​สงสัย​ว่า​ใคร​กันที่​มี​ความสามารถ​เช่นนี้​ ​ที่แท้​ก็​เป็นคุณ​นาย​สาม​สกุล​หวง​นี่เอง​”​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​เดิน​เข้ามา​ก็​ชม​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​ท่าทาง​ดู​สนิทสนม​กว่า​เมื่อก่อน​เสียอีก​ ​พูด​พลาง​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​และ​หวงฮู​หยิน​ ​“​ไม่​แปลกที่ฮู​หยิน​ทั้งสอง​เวลา​ไป​ไหน​มา​ไหน​ก็​ต้อง​พาส​องค​นนี​้​ไป​ด้วย​ ​คน​หนึ่ง​ก็​เป็น​เสียงหัวเราะ​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​งดงาม​และ​เฉลียวฉลาด​ ​ใน​เยี​่​ยน​จิง​คง​หา​แบบนี้​ไม่ได้​อีกแล้ว​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ดู​เจ้า​พูด​เข้า​สิ​ ​เดิมที​ข้า​คิด​ว่า​มี​เพียง​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ที่​พูด​เป็น​ ​ที่แท้​สกุล​กาน​ก็ได้​ซ่อน​คนพูด​เป็น​อย่าง​คุณนาย​ใหญ่​ไว้​นี่เอง​!​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​ท่าทาง​มีความสุข​เป็นอย่างมาก

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​และ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​คำนับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​เชิญ​ทั้ง​สี่​คน​ไป​ทานอาหาร​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​ท่าน​แม่​มีเรื่อง​นิดหน่อย​ ​ข้า​ขอดื​่ม​สุรา​คารวะ​แทน​ท่าน​แม่​ก็แล้วกัน​”

แม้ว่า​ที่​จวนจะ​มีบุ​ตร​สาว​ที่​ออกเรือน​ไป​แล้ว​ ​แต่​ด้านนอก​ก็​มี​ผู้ดูแล​คอย​ดูแล​ ​ส่วน​ด้านใน​ก็​มี​ผู้ดูแล​ ​แล้วยัง​มีลูก​สะใภ้​ที่​เรียก​ใช้ได้​ ​แม้ว่า​จะ​รู้สึก​แปลกใจ​เล็กน้อย​ที่​ขาด​กานฮู​หยิน​ไป​ ​แต่​ทุกคน​ก็​เคย​เป็นเจ้าภาพ​ใน​การ​จัดงาน​เลี้ยง​มา​แล้ว​ ​การ​ที่เกิดเหตุ​การณ์​เช่นนี้​ถือเป็น​เรื่อง​ปกติ​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ถาม​ให้​มากความ​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​กาน​ยิ้ม​พลาง​พาทุ​กคน​ไป​ที่​ห้องโถง​บุปผา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท