ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 307 อธิบาย(ต้น)

ตอนที่ 307 อธิบาย(ต้น)

“​…​วันที่​แปด​เดือน​สี่​คือ​พิธี​พุทธศาสนา​ ​วัด​ต่างๆ​ ​จะ​แจกจ่าย​ยาหอม​ ​ผู้คน​พลุกพล่าน​คึกคัก​”​ ฮู​หยิน​สอง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มาช​้า​ๆ​ ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แต่ว่า​ทุกปี​ที่​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​ ​ก็เพราะว่า​คุณชาย​สอง​ป่วย​ตาย​กะทันหัน​ ​ท่าน​แม่​ไม่สบายใจ​ ​อยาก​จะ​ขอร้อง​เย​่า​อ๋อง​ปกป้อง​คุ้มครอง​ให้​ครอบครัว​อยู่เย็น​เป็นสุข​ ​ที่​ข้ามา​ก็​เพราะ​อยาก​จะ​มาป​รึก​ษา​ท่าน​โหว​และ​น้อง​สะใภ้​ ​หาก​ปีนี​้​ท่าน​แม่​อยาก​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​ ​ลูก​ๆ​ ​หลาน​ๆ​ ​อย่าง​พวกเรา​ก็​คงจะ​คัดค้าน​ไม่ได้​ ​แต่​หาก​จะ​ไป​วัด​อื่น​ ​ก็​ขอให้​ท่าน​โหว​และ​น้อง​สะใภ้​ช่วย​เกลี้ยกล่อม​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่ฮู​หยิน​สอง​ด้วย​ความตกใจ

นาง​กำลัง​บอก​พวกเขา​ว่า​ ​นาง​ไม่เห็นด้วย​กับ​งานแต่งงาน​ครั้งนี้​เช่นนั้น​หรือ

แต่​เมื่อก่อน​นาง​กระตือรือร้น​กับ​เรื่อง​นี้​มาก​ไม่ใช่​หรือ​ ​ทำไม​ตอนนี้​ถึง​เปลี่ยนไป

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​มีสี​หน้าปก​ติ​ ​เขา​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​พี่สะใภ้​สอง​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​แล้ว​ขอตัว​ลา​

สือ​อี​เหนียง​ส่งฮู​หยิน​สอง​ออก​ไป

เจี​๋ย​เซียง​ก็​รีบ​เดินตาม​ไป​ทันที

“ฮู​หยิน​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​โหว​ว่า​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​สอง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​นาง​เดิน​ตัวตรง​อยู่​บน​ทางเดิน​ ​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​เห็น​ต่าง​ก็​พากัน​หลีกทาง​ให้​และ​ย่อเข่า​คำนับ​นาง​ด้วย​ความเคารพ

แต่​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​หยุด​เดิน​อยู่​ตรง​ทางโค้ง​บน​ทางเดิน

“​พี่สะใภ้​ใหญ่​ทำ​เรื่อง​กลับตาลปัตร​เช่นนี้​ ​หาก​ยัง​จะ​ให้​โหรว​เน่อ​แต่ง​เข้ามา​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่ได้​รับ​ความพอใจ​จาก​ไท่ฮู​หยิน​ ​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​สี่​”​ ฮู​หยิน​สอง​มองดู​ต้น​ทับทิม​ที่​มี​ใบ​เต็ม​ก้าน​ตรงหน้า​ราวบันได​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​แทนที่จะ​ทำ​เช่นนี้​ ​ไม่​สู้​ยอมแพ้​เสียดี​กว่า​ ​มัน​อาจจะ​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​”

เจี​๋ย​เซียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​“​หาก​ตอนนั้น​คุณนาย​ใหญ่​ไป​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ก็​คงจะ​ดีนะ​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​และ​คุณหนู​สอง​จะ​ได้​ไม่​ลำบากใจ​”

“​หาก​นาง​ใจเย็น​เช่นนั้น​ได้​ ​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​ก็​คงจะ​ไม่​โมโห​นาง​ขนาด​นั้น​”​ ​ใบหน้า​ของฮู​หยิน​สอง​ไม่มี​รอยยิ้ม​เลย​แม้แต่น้อย​ ​“​เดิมที​ข้า​ยัง​อยาก​จะ​จัดการ​เรื่อง​ของ​นาง​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​พอนาง​ได้ยิน​ว่า​ข้า​จะ​กลับ​สกุล​เดิม​ก็​ส่ง​บ่าว​รับใช้​มา​ ​อ้าง​ชื่อ​ของ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​เกา​เรียก​พี่ใหญ่​กลับ​ไป​ทันที​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ทำให้​พี่ใหญ่​ลำบากใจ​ ​จึง​บอกว่า​ที่​จวน​ให้​ข้า​ช่วย​ทำพิธี​ของ​หยวน​เหนียง​ ​เช่นนี้​ถึง​ได้​เกลี้ยกล่อม​ให้​พี่ใหญ่​กลับ​ไป​สกุล​เกา​…​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​หัวเราะเยาะ​ตัวเอง​ ​“​ตอนนี้​ข้า​กลัว​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​และ​ท่าน​โหว​จะ​เห็นแก่​ข้า​แล้ว​ตกลง​กับ​การ​แต่งงาน​ครั้งนี้​ ​ตอนนี้​พูด​ชัดเจน​แล้ว​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​อยาก​จะ​ก่อเรื่อง​ก็​ให้​นาง​ก่อ​ไป​เถิด​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​เดิน​ไป​ที่​เรือน​เสา​หวา

สือ​อี​เหนียง​ลังเล​ที่จะ​พูด​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​อยาก​จะ​พูด​อะไร​”

สือ​อี​เหนียง​กลอกตา​ใส่​เขา​ ​“​ท่าน​โหว​รู้อยู่แก่ใจ​แล้วยัง​จะ​ถาม​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​เป็น​คนรัก​ษา​คำพูด​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​พูด​กลับกลอก​ไปมา​ ​เกรง​ว่า​พี่สะใภ้​สอง​จะ​ไม่ยอม​พูด​ ​แล้วยัง​เป็น​พี่สะใภ้​ของ​ตัวเอง​ ​กลัว​ว่า​เรา​จะเข้า​ใจ​ผิด​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​แสดงท่าที​ให้​พวกเรา​เห็น​อย่าง​อ้อมค้อม​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​เจ้า​กังวล​ว่า​จะ​อธิบาย​ให้ท่าน​แม่​ฟัง​เช่นไร​ไม่ใช่​หรือ​ ​ข้า​คิด​ว่า​เจ้า​ไม่​สู้​เล่า​เจตนา​ของ​พี่สะใภ้​สอง​ให้ท่าน​แม่​ฟัง​ ​ไม่มี​พี่สะใภ้​สอง​ ​ท่าน​แม่​ก็​คงจะ​สบายใจ​ขึ้น​ไม่น้อย​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​ถือโอกาส​ตอนที่​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​พักผ่อน​ยาม​บ่าย​เล่าเรื่อง​นี้​และ​ท่าที​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​มีสี​หน้า​ผิดหวัง​ ​“​ตั้งแต่​เจ้า​กลับ​ไป​ ​อี๋​เจิน​ก็​พูด​เช่นนี้​กับ​ข้า​ ​ตอนนั้น​ข้า​ยัง​ลังเล​ ​คิดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​ไปหา​พวก​เจ้า​ ​ดูเหมือนว่า​นาง​คงจะ​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ปีนี​้​ก็​ให้​คุณชาย​ห้า​ไป​วัด​เย​่า​หวัง​แทน​ข้า​เถิด​ ​ไป​พูด​กับ​สกุล​เซี่ยง​ให้​ชัดเจน​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​แล้ว​กลับ​ไปรา​ยงาน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ส่ง​คน​ไป​เรียก​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​บอก​ให้​เขา​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​แทน​ไท่ฮู​หยิน​ใน​วันที่​แปด​ ​เขา​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​นึก​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ไม่สบาย​จึง​รีบ​ไป​เยี่ยม​ไท่ฮู​หยิน​ที่​เรือน​ ​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​สบายดี​จึง​กลับ​ไป​ที่​ตรอก​หง​เติ​งด​้วย​ความ​โล่งใจ​ ​ทาง​ด้าน​นาย​หญิง​เซี่ยง​ ​เมื่อ​รู้​ว่าวั​นที​่​แปด​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ไม่​ไป​งาน​ที่​วัด​แล้ว​ ​นาง​ก็​มา​เยี่ยม​ที่​จวน​อีกครั้ง

“​ทุกปี​ยาม​นี้​ท่าน​จะ​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​ตลอด​ ​คงจะ​ไม่ใช่​เพราะว่า​ข้า​เสียมารยาท​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ ​ทำให้​ท่าน​โกรธ​ข้า​แล้ว​ไม่​ไป​งาน​ที่​วัด​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​หญิง​เซี่ยง​พูด​อย่างตรงไปตรงมา

ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​บอกว่า​ใช่​ ​นาง​พูด​อย่าง​คลุมเครือ​ ​“​เพราะว่า​ข้า​อายุ​เยอะ​แล้ว​ ​นั่ง​รถม้า​ลำบาก​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่​ไป​”

ใคร​จะ​รู้​ว่านาย​หญิง​เซี่ยง​ได้ยิน​เช่นนี้​กลับ​สีหน้า​มืดมน​ลง​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​ปลอบใจ​ข้า​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​รู้​ว่า​ทุกคน​ล้วนแต่​โทษ​ที่​ข้า​บุ่มบ่าม​ ​แม้แต่​คุณหนู​ของ​ข้า​ก็​ทำตัว​ห่างเหิน​กับ​ข้า​เพราะ​เรื่อง​นี้​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ตาแดง​ ​“​แต่​ข้า​รู้สึก​น้อยใจ​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ก็​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​แล้ว​ร้องไห้

สือ​อี​เหนียง​รีบ​ไล่​สาวใช้​ใน​ห้อง​ออก​ไป​จากนั้น​ก็​ริน​ชา​ให้​นาง

นาย​หญิง​เซี่ยง​เอ่ย​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อย่าง​สะอึกสะอื้น​ ​“​เดิมที​ข้า​คิด​ว่า​ข้ามา​ขอโทษ​ท่าน​ ​นัด​เจอ​อีกครั้ง​หนึ่ง​เรื่อง​นี้​ก็​จะ​ผ่าน​ไป​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ท่าน​โกรธ​ข้า​จริงๆ​ ​ตอนนี้​ข้า​ก็​ทำได้​แค่​เล่าเรื่อง​น่าอับอาย​เรื่อง​นั้น​ให้ท่าน​ฟัง​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​แต่​ท่าน​รู้​หรือไม่​ว่า​เหตุใด​ข้า​ถึง​ไม่​ไป​วัด​ฉือ​หยวน​”​ ​ไม่​รอ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ได้​พูด​อะไร​ ​นาง​ก็​พูดว่า​ ​“​นายท่าน​และ​คุณหนู​ของ​ข้า​ตกลง​เรื่อง​แต่งงาน​ทันที​ ​พวกเขา​ไม่​ถาม​ข้า​เลย​แม้แต่น้อย​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่นาย​หญิง​เซี่ยง​ด้วย​ความตกใจ

ทำไม​ทุกคน​ล้วนแต่​เป็น​เช่นนี้

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ

นาย​หญิง​เซี่ยง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ขึ้น​มาซั​บน​้ำ​ตา​ ​“​ข้า​คือ​สะใภ้​ของ​สกุล​เซี่ยง​ ​โหรว​เน่อ​คือ​บุตรสาว​สุดที่รัก​ที่​ข้า​ตั้งท้อง​มาก​ว่า​สิบ​เดือน​ ​เลี้ยง​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​ด้วย​ความลำบาก​ ​แต่​นายท่า​นก​ลับ​ไม่​ถาม​ข้า​เลย​แม้แต่น้อย​ก็​ตัดสินใจ​เช่นนี้​ ​ท่าน​คิด​ว่า​ข้า​จะ​ไม่​โมโห​ได้​เช่นไร​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ท่าที​โมโห​ ​“​แล้ว​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่ใช่​แค่​ครั้ง​สองครั​้ง​ ​เมื่อก่อน​ข้า​ทน​ได้​แต่​ครั้งนี้​ไม่ว่า​เช่นไร​ข้า​ก็​ทน​ไม่ได้​อีกต่อไป​ ​ข้า​จึง​พาลู​กก​ลับ​ไป​สกุล​เดิม​ด้วย​ความโมโห​”

ไท่ฮู​หยิน​นึกถึง​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วงนี้​ ​ก็​พบ​ว่า​สอดคล้องกัน​ ​จึง​พูด​ปลอบใจ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ ​“​เรื่อง​นี้​เป็นความ​ผิด​ของ​ใต้เท้า​เซี่ยง​”

“​ใช่​เจ้าค่ะ​”​ ​นาย​หญิง​เซี่ยง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ราวกับ​หา​สหาย​รู้ใจ​เจอ​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​ความ​ซาบซึ้ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หลังจาก​พี่สะใภ้​สกุล​เดิม​ข้า​รู้​แล้ว​ ​นาง​ทั้ง​หงุดหงิด​ทั้ง​โมโห​ ​แล้วยัง​ล้ม​ป่วย​ ​ใน​ใจ​ของ​ข้า​ก็​ยิ่ง​โมโห​เข้าไป​ใหญ่​ ​ข้า​ทะเลาะ​กับ​นายท่าน​ ​แม้แต่​นายท่าน​ไปรับ​ตำแหน่ง​ข้า​ก็​ไม่ได้​ไป​ส่ง​เขา​…​ไม่เช่นนั้น​ ​ครั้งก่อน​ที่​ท่าน​ถาม​เรื่อง​นายท่าน​ไปรับ​ตำแหน่ง​ ​ข้า​ทำไม​ถึง​ตอบ​ท่าน​ไม่ได้​ล่ะ​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​และ​ไท่ฮู​หยิน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เบิกตา​กว้าง

แม้กระทั่ง​ใต้เท้า​เซี่ยง​ไปรับ​ตำแหน่ง​ก็​ไม่​ไป​ส่ง​…​เช่นนี้​มัน​เกินไป​!

นาย​หญิง​เซี่ยง​มีสี​หน้า​รู้สึก​ผิด​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​ข้า​ทำเกินไป​ ​แต่ว่า​ตอนนั้น​ข้า​โมโห​จึง​ไม่​คิด​ไตร่ตรอง​ให้​ดี​ ​ต่อมา​พี่สะใภ้​ของ​ข้า​ตำหนิ​ข้า​ ​ข้า​ถึง​ได้​มีสติ​ ​รีบ​มา​ขอโทษ​ขอขมา​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ลง​เรื่อยๆ​ ​“​เพราะ​มัน​เป็นเรื่อง​ที่​น่าอับอาย​ ​ครั้งก่อน​ที่​ข้ามา​ข้า​จึง​ไม่ได้​เล่า​ให้ท่าน​ฟัง​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ปีนี​้​ท่าน​กลับ​ไม่​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​เย​่า​หวัง​…​”​ ​พูด​จบ​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​แดงก่ำ​ ​“​ล้วนแต่​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​ ​ไท่ฮู​หยิน​โปรด​เห็นแก่หน้า​ของ​คุณหนู​สกุล​ข้า​ ​ยกโทษให้​ข้า​ครั้งนี้​ ​พรุ่งนี้​ให้​ข้า​ได้​ทำอาหาร​ให้ท่าน​ ​เชิญ​ท่าน​ไป​ทาน​ที่​จวน​ข้า​เถิด​”

พูด​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​แล้ว​นาง​ยัง​เป็น​พี่สะใภ้​ของฮู​หยิน​สอง​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​ลังเล

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ยกโทษให้​นาย​หญิง​เซี่ยง​แล้ว​ ​จึง​ไม่​พูด​อะไร​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​พยักหน้า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​เบา​ๆ​ ​บอกว่า​แล้วแต่​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​สบายใจ​ขึ้น​ไม่น้อย

ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​สกุล​ญาติ​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​คิดเล็กคิดน้อย​กัน

นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นาย​หญิง​เซี่ยง​เกรงใจ​กัน​เกินไป​แล้ว​ ​แต่ว่า​ช่วงนี้​ที่​จวน​มีเรื่อง​มากมาย​ ​ข้า​คิด​ว่าวั​นอื​่น​จะ​ดีกว่า​”​ ​นาง​ไม่ได้​ตอบ​ตกลง​ทันที

คำพูด​เช่นนี้​นาย​หญิง​เซี่ยง​คุ้นเคย​เป็น​อย่างดี​ ​นาง​พูด​ด้วย​ความจริงใจ​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​กำหนด​วัน​เถิด​เจ้าค่ะ​ ​ปีนี​้​ทั้งปี​ข้า​คงอยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​”

นาง​ทำท่า​ที​ถ่อมตน​ ​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ไม่กล้า​ปฏิเสธ​ ​อีก​สาม​วัน​จะ​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​สกุล​เซี่ยง

นาย​หญิง​เซี่ยง​จึง​ขอร้อง​ไท่ฮู​หยิน​เบา​ๆ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ท่าน​ก็​เกลี้ยกล่อม​คุณหนู​ของ​ข้า​กลับมา​ด้วย​เถิด​ ​จนถึง​ตอนนี้​คุณหนู​ก็​ยัง​โกรธเคือง​ข้า​อยู่​ ​ครั้งก่อน​เจอ​หน้า​ข้า​ก็​พูดจา​เย็นชา​ ​ข้า​จึง​ไม่กล้า​ไป​เจอ​กับ​นาง​อีก​”

สายตา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​มี​ความแปลกใจ​ ​“​ขอ​แค่​เจ้า​ไม่รังเกียจ​ที่​พวกเรา​คน​เยอะ​เกินไป​ก็​พอ​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็ดี​อก​ดีใจ​ ​พูด​ซ้ำๆ​ ​ว่า​ ​“​ไม่รังเกียจ​เจ้าค่ะ​ ​ไม่รังเกียจ​เจ้าค่ะ​”

เรื่องราว​ก็​ตกลง​ตาม​นี้

ฮู​หยิน​สอง​รู้​ก็​ตกใจ​ ​“​เชิญ​ไป​ทานข้าว​ที่​จวน​หรือ​เจ้า​คะ​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​“​ข้า​เห็น​ว่านาง​จริงใจ​เป็นอย่างมาก​จึง​ตอบ​ตกลง​แทน​เจ้า​ไป​แล้ว​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เกลี้ยกล่อม

ฮู​หยิน​สอง​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง

และ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ทำ​สีหน้า​ลำบากใจ

แน่นอน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​โง่​ที่จะ​พูดถึง​เรื่อง​เก่า​ ​นาง​แค่​ถาม​เขา​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ทำ​เช่นไร

สวี​ลิ่ง​อี๋​พึมพำ​ ​“​ถึงแม้ว่า​จะ​มีแผน​การ​เช่นไร​ก็​ไม่ใช่​ตอนนี้​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​เรียบ​เฉย​ ​“​คิด​เสียว​่า​ไปหา​ญาติพี่น้อง​ก็แล้วกัน​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​จากนั้น​ก็​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน

“​ก็ดี​เหมือนกัน​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ ​“​ไป​เป็น​แขก​ตอนนี้​ดีที​่​สุด​ ​สามารถ​ไปดู​คุณหนู​สอง​ของ​สกุล​เซี่ยง​ ​แล้วก็​เพราะว่า​เรื่อง​พี่​หญิง​ของ​เจ้า​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ไม่​ควร​พูด​เรื่อง​นี้​”​ ​พูด​จบ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​ครั้งนี้​นาย​หญิง​เซี่ยง​ช่าง​จริงใจ​เสีย​จริง​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ไม่​ถาม​อะไร​ต่อ​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​พิธี​ฉลอง​ครบ​เดือน​ของ​บุตรชาย​อู่​เหนียง​ ​“​…​ตั้งชื่อ​แล้ว​หรือยัง​”

“​ตั้ง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​บอกว่า​ขาด​ธาตุทอง​ ​จึง​เรียกว่า​ซิน​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ ​“​สกุล​ของ​พวกเขา​ช่าง​ร่ำรวย​เสีย​จริง​”

“​ใช่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​เรื่อง​บุตร​ของ​อู่​เหนียง​กับ​ไท่ฮู​หยิน

ในเวลาเดียวกัน​ ​นาย​หญิง​เกา​กำลัง​ซักถาม​นาย​หญิง​เซี่ยง​ ​“​เป็น​เช่นไร​ ​เชิญ​ได้​หรือไม่​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​พยักหน้า​ ​“​ต้อง​ยอม​ก้มหัว​ให้​เจ้าค่ะ​”

นาย​หญิง​เกา​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เบิกตา​ใส่​นาง​ ​“​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เจ้า​ไม่รู้​ความ​ ​จะ​มี​วันนี้​ได้​อย่างไร​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​ยังคง​ปากแข็ง​ ​“​หรือว่า​โหรว​เน่อ​ของ​เรา​นอกจาก​คน​สกุล​สวี​แล้วก็​แต่งงาน​กับ​ใคร​ไม่ได้​แล้ว​หรือ​”

“​ได้​สิ​”​ ​นาย​หญิง​เกา​พูด​ ​“​แต่ว่า​เจ้า​พาลูก​ผิดนัด​วิ่ง​กลับ​ไป​ที่​สกุล​เดิม​ก่อน​ ​จากนั้น​ตอนที่​คุณหนู​สกุล​เจ้า​มา​เยี่ยม​ที่​จวน​ ​เจ้า​ก็​ไม่​รายงาน​ปล่อย​ให้​นาง​ยืน​รอ​อยู่​ข้างนอก​ ​ตอนที่​นาง​กลับ​ไป​สกุล​เดิม​เจ้า​ก็​อ้าง​ชื่อ​ท่าน​พ่อ​เรียก​ท่าน​เขยก​ลับ​มา​ ​ตอนที่​ท่าน​เขย​ไปรับ​ตำแหน่ง​ก็​ให้​แค่​อี้จ​ยา​ไป​ส่ง​เขา​…​เมื่อ​ท่าน​เขย​รู้​ว่า​สกุล​หย่ง​ผิง​โหว​ปฏิเสธ​งานแต่ง​ ​เกรง​ว่า​บัญชี​เหล่านี้​คงจะ​ต้อง​มาคิ​ดกับ​เจ้า​!​ ​อย่างน้อย​เขา​ก็​คงจะ​ชักสีหน้า​ใส่​เจ้า​ ​อย่างมาก​ก็​คงจะ​ทิ้ง​เจ้า​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ไม่สน​ใจ​เจ้า​อีก​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ ​การ​ที่​เจ้า​เชิญ​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​สวี​และ​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​มาทา​นข​้า​วที​่​จวน​ ​จะ​ทำให้​เจ้า​และ​ท่าน​เขยก​ลับ​มาคืน​ดีกัน​เช่นนั้น​หรือ​ ​หรือว่า​ต่อไปนี้​เจ้า​อยาก​อยู่​กับ​ลูกตา​มลำ​พัง​ที่​เยี​่​ยน​จิง​?​”

นาย​หญิง​เซี่ยง​พูดไม่ออก​!

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท