ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 319 ครึกครื้น (กลาง)

ตอนที่ 319 ครึกครื้น (กลาง)

คำพูด​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ใน​ครั้งนี้​มีเหตุผล​เป็นอย่างมาก

แต่​สิ่ง​ที่​สือ​อี​เหนียง​เป็นห่วง​มาก​ที่สุด​คือ​สาวใช้​ที่​อายุ​มากกว่า​คุณชาย​น้อย​สกุล​หวัง​สาม​ปี​คน​นั้น​…​แน่นอน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​อยาก​ที่จะ​ให้​สถานการณ์​ตอน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่ง​เข้าไป​นั้น​เรียบง่าย​ไม่มีปัญหา​ซับซ้อน

“​แต่​ท่าน​โหว​รู้สึก​ว่า​คุณชาย​คนโต​ของ​จวน​สกุลจัว​ไม่​ค่อย​ปราดเปรียว​ว่องไว​เท่าไร​นัก​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่จริง​จัง​ว่า​ ​“​ไม่​ค่อย​คู่ควร​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้สึก​ได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ได้รับ​ฟัง​เหตุผล​ของ​นาง​จริงๆ​ ​จึง​รู้สึก​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​“​เป็น​คนซื่อ​ตรง​ก็ดี​สิ​เจ้า​คะ​!​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​คุณหนู​ใหญ่​ของ​เรา​ก็​เป็น​คนที​่​ซื่อสัตย์​และ​จิตใจ​ดี​ ​หาก​ได้​คนที​่​เย่อหยิ่ง​ความคิด​สลับซับซ้อน​มา​เป็น​สามี​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ต้อง​เจอ​กับ​เหตุการณ์​ที่​น้อยเนื้อต่ำใจ​เป็นแน่​ ​คุณชาย​หวัง​ผู้​นั้น​เป็น​บุตรชาย​คนเดียว​ของ​ตระกูล​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​คุณหนู​ใหญ่​ของ​เรา​แต่งงาน​เข้า​จวน​ไป​แล้วก็​มีบุ​ตร​ชาย​ทันที​ ​มิเช่นนั้น​…​เกรง​ว่า​จะ​…​”​ ​เมื่อ​พูด​จนถึง​ท้าย​ประโยค​ ​น้ำเสียง​ก็​เต็มไปด้วย​ความทุกข์​และ​ความกังวลใจ

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​สัมผัส​หน้าผาก​เบา​ๆ

เวลา​นั้น​เอง​ ​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ก็​เต็มไปด้วย​ความ​เงียบสงัด

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​ท่าน​โหว​มีสติปัญญา​ที่​ล้ำเลิศ​ ​ส่วนฮู​หยิน​มีความรู้​และ​ประสบการณ์​ที่​กว้างขวาง​ ​ข้า​ก็​เพียงแค่​เป็นกังวล​ใจมาก​ไป​ก็​เท่านั้น​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​นี่​ก็​ไม่​เช้า​แล้ว​ ​ท่าน​จะ​รับประทาน​อาหาร​เลย​หรือไม่​ ​จะ​ได้​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​เร็ว​ขึ้น​หน่อย​!​”

ในขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​รายงาน​ผ่าน​ผ้าม่าน​ว่า​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​มา​เจ้าค่ะ​!​”

ใช่​ว่า​จะ​ต้อง​เลือก​แค่​หนึ่ง​ใน​สอง​ตระกูล​นี้​เสียหน่อย

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ให้​สาวใช้​น้อย​เชิญ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา

เมื่อ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา​ก็​เห็น​ใน​เรือน​มี​แค่​สือ​อี​เหนียง​และ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​บรรยากาศ​ค่อนข้าง​เงียบสงัด​ ​นาง​จึง​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย

อย่า​ว่าแต่​ดวงชะตา​ที่​ยัง​ไม่​สมพงศ์​กัน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​หมั้น​หมาย​เสร็จสรรพ​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​ไม่​ควรจะ​บอก​เรื่อง​นี้​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​โดย​ฐานะ​บุคคลที่สาม

ทั้งคู่​จึง​ตัดสินใจ​เงียบ​อย่าง​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​คน​หนึ่ง​เดิน​ออกมา​เรียก​ ​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​”​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​ส่วน​อีก​คน​ก็​เดิน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​ที่​ประหลาดใจ​ ​จากนั้น​ก็ได้​หันไป​กล่าว​ทักทาย​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ได้มา​หา​พอดี

รอ​ให้​เฉียว​เหลียน​ฝัง​คารวะ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ให้​อี๋​เหนียง​ทั้งสอง​กลับ​ไป​ ​เหลือ​เด็ก​ๆ​ ​อยู่​ทานอาหาร​เช้า​ด้วยกัน​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​เดินทาง​ไป​เล่อ​อาน​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​…​ให้​คน​ติดตาม​ไป​ปรนนิบัติ​รับใช้​มาก​ไป​จะ​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​หาก​เจ้า​รู้สึก​ว่า​คน​ไหน​ทำงาน​ได้​คล่อง​เป็นพิเศษ​ ​ก็​ไป​บอก​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​ให้​เขา​ช่วย​จัดเตรียม​ให้​เจ้า​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่​ค่อย​มี​ความคิด​กับ​เรื่อง​เหล่านี้​ ​เขา​โค้ง​ตัว​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ถอย​ออกจาก​ห้อง​ไป

สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ยัง​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ของ​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ ​อากาศ​ยิ่ง​อยู่​ก็​ยิ่ง​ร้อน​ ​ที่นั่น​ถือเป็น​ที่​ที่​ร่มเย็น​ที่สุด​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้​ตั้ง​ห้อง​เย็บปักถักร้อย​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไว้​ที่นั่น

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คนที​่​มี​ความเอาใจใส่​เสมอมา​ ​ถึงแม้ว่า​ฝี​เข็ม​จะ​ยัง​ไม่​ค่อย​มี​ความชำนาญ​เท่าไร​นัก​ ​แต่กลับ​ตั้งใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ฝึก​ฝี​เข็ม​ตาม​คำ​ชี้แนะ​ของ​สือ​อี​เหนียง​อย่างเข้มงวด

พอสื​ออี​เหนียง​นึกถึง​ว่าวั​นนี​้​ตน​ต้อง​ไป​ดื่ม​สุรา​มงคล​ที่​จวน​สกุล​เฉิน​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เงียบ​ขึ้น​มา​อย่าง​ไม่​อาจ​เลี่ยง​ได้

การ​เย็บปักถักร้อย​ของ​เหล่า​สตรี​ไม่ได้​เป็น​เพียงแค่​การ​ปัก​ผ้า​เท่านั้น​ ​ยัง​รวมไปถึง​การ​ตัดเย็บ​เสื้อผ้าอาภรณ์​อีกด้วย

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความ​เป็นกังวล​ใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​เป็น​เพราะ​ข้า​ปัก​ไม่​ถูก​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​!​”

“​ไม่ใช่​หรอก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​นี่​ก็ดี​มาก​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​ ​นาง​จึง​พูด​ขึ้น​ต่อว่า​ ​“​ข้า​กำลัง​คิด​…​ดู​จาก​ฝีมือ​ของ​เจ้า​ใน​ตอนนี้​ ​พรุ่งนี้​ก็​สามารถ​เริ่ม​เรียน​การ​ตัดเย็บ​เสื้อผ้า​ได้​แล้ว​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​เม้มปาก​ยิ้ม​ขึ้น​ด้วย​ความดีใจ

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​แล้วก็​ยิ้ม​ตาม​ไป​ด้วย

จากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ส่งมอบ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ให้​กับ​สะใภ้​หนาน​หย่ง​ ​แล้ว​คอย​ชี้แนะ​จุดสำคัญ​ที่​ต้อง​ระวัง​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่​หลาย​จุด​ ​เสร็จ​แล้วก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

ระหว่างทาง​ ​นาง​ก็ได้​สั่ง​กับ​จู๋​เซียง​ว่า​ ​“​เจ้า​ไปหา​ปินจ​วี​๋​ที​ ​บอกว่า​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​นาง​ ​ให้​นาง​มาหา​ข้า​ใน​วันพรุ่งนี้​!​”

จู๋​เซียง​ขานรับ​แล้วไป​ทันที

เมื่อ​ไป​ถึงที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ก็​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​หน้านิ่วคิ้วขมวด​และ​ถาม​อะไร​บางอย่าง​กับ​ป้า​สือ​อยู่

ป้า​ตู้​จึง​ได้​เข้าไป​กระซิบ​ข้าง​หู​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ป่วย​อีกแล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​กังวลใจ​ขึ้น​มา

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ถูก​เลี้ยงดู​เป็น​อย่างดี​ ​ไม่เคย​ให้​โดน​ลม​โดน​ฝน​เลย​แม้แต่​นิด​ ​แต่​ความสามารถ​ทางการแพทย์​ของ​สมัยนี้​ค่อนข้าง​ต่ำ​ ​อาการ​หวัด​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ก็​อาจจะ​อันตราย​ถึง​จนถึง​ขั้น​เสียชีวิต​ได้​…

นาง​กำลังจะ​ไถ่ถาม​อาการ​ ​แต่​ก็​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ลุกขึ้น​มา​พอดี​ ​“​ข้า​ไปดู​เสียหน่อย​!​”​ ​พอ​เงยหน้า​ก็​เห็น​เข้ากับ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ไม่​รอ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ทัน​พูด​อะไร​ ​นาง​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​เอง​ก็​ขอ​ไปดู​กับ​ท่าน​ด้วย​”

ไท่ฮู​หยิน​จึง​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ทั้งคู่​ก็​พากัน​ไป​ยัง​เรือน​ของฮู​หยิน​ห้า

เห็น​บอกว่า​เมื่อวาน​ตอนเย็น​ได้​อุ้ม​ออก​ไป​เดินเล่น​ข้างนอก​ ​พอต​กก​ลาง​คืน​ก็​เริ่ม​มี​อาการไอ​…

ใบหน้า​ของ​เด็กน้อย​แดง​ระเรื่อ​นอน​ซุก​ตัว​อยู่​ภายใต้​ผ้านวม​ที่​ปัก​ด้วย​ลาย​หงส์​ทะยาน​สู่​ดวงอาทิตย์​สีแดง​สด​ ​ละเมอ​คราง​ออกมา​เป็นครั้งคราว

ประตู​เก๋อ​ซ่าน​ถูก​ปิด​สนิท​ ​บรรยากาศ​ภายใน​ตลบอบอวล​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​กรุ่น​ของ​ดอกไม้

ใบหน้า​ของฮู​หยิน​ห้า​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​หยาดน้ำ​ตา​ ​กุมมือ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​แน่น​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ให้​ป้า​รับใช้​ที่​มีประสบการณ์​มา​ให้​ข้า​สัก​คน​เถอะ​เจ้าค่ะ​!​”

ป้า​สือ​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ได้ยิน​แล้วก็​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ

ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​รับปาก​ ​แต่กลับ​ถามถึง​อาการ​ของ​เด็ก​ขึ้น​มา​แทน​ ​“​หมอ​หลวง​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

ฮู​หยิน​ห้า​จึง​รีบ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​บอกว่า​ความร้อน​และ​ความ​เย็น​ใน​ร่างกาย​ไม่​สมดุล​กัน​ ​จึง​สั่ง​ยาหม้อ​ไฉ​หู​ให้ทาน​เจ้าค่ะ​”

“​นำ​ใบสั่งยา​มา​ให้​ข้า​ดู​หน่อย​!​”

ป้า​สือ​จึง​รีบ​ไป​นำ​ใบสั่งยา​มาทัน​ที

สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนอ่าน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​ ​“​ไฉ​หู​เก้า​ส่วน​ ​หวง​ฉิน​ก้าว​ส่วน​ ​ขิง​สด​เก้า​ส่วน​ ​โสม​สาม​ส่วน​ ​จื้อ​กาน​ฉ่าว​หก​ส่วน​ ​พุทรา​ตากแห้ง​หนึ่ง​หยิบ​มือ​”

“​หมอ​หลวง​คน​ไหน​เป็น​คนเขียน​ใบสั่งยา​ ​ปริมาณ​เยอะ​เกินไป​หรือเปล่า​”

“​หมอ​หลวง​อู๋​เป็น​คนเขียน​ใบสั่งยา​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​สือ​ตอบกลับ​ ​“​ทาน​ไป​สาม​ชุด​ ​ตอนนี้​ให้​ลด​ขนาด​ลง​เหลือ​เพียง​ครึ่ง​เดียว​”

ไท่ฮู​หยิน​ไตร่ตรอง​ใบสั่งยา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​มาถึง​พอดี

“​ได้ยิน​มา​ว่า​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่​ค่อย​สบาย​ ​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความกังวลใจ

“​พี่สะใภ้​สอง​”​ ฮู​หยิน​ห้า​กุมมือ​ของฮู​หยิน​สอง​ไว้​ ​“​บอกว่า​เป็น​เพราะ​ความร้อน​และ​ความ​เย็น​ใน​ร่างกาย​ไม่​สมดุล​กัน​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​อาการป่วย​ของ​เด็ก​ขึ้น​มา​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​ยื่น​ใบสั่งยา​ให้​นาง​ดู​ ​“​เจ้า​ลองดู​หน่อย​ว่า​เหมาะสม​หรือไม่​”

จากนั้น​ก็ได้​ให้​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​ที่อยู่​ปรนนิบัติ​ถอย​ออก​ไป​จน​หมด

ทุกคน​จึง​ค่อย​เริ่ม​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ขึ้น​มา

ที่​หน้า​ประตู​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​ชะเง้อ​หน้า​เข้ามา​ดู

ฮู​หยิน​สอง​จำได้​ว่านาง​เป็นสาว​ใช้​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​โถง​บุปผา​ ​จึง​ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ที่นี่​มีท​่าน​แม่​และ​ข้า​อยู่​ด้วย​ ​น้อง​สะใภ้​สี่​เจ้า​รีบ​ไป​ทำ​ธุระ​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่ได้​เกรงใจ

เพราะ​ตอนนี้​เป็นช่วง​ปลายเดือน​ ​จะ​ต้อง​ตรวจทาน​บัญชี​ของ​เรือน​ชั้นใน​และ​เรือน​ชั้นนอก​ ​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​ผู้ดูแล​กำลัง​รอ​แค่​การอนุญาต​จาก​สือ​อี​เหนียง​เพื่อ​จะ​นำ​หนังสือ​บัญชี​ส่ง​ไป​ยัง​ห้อง​บัญชี​ที่​เรือน​ชั้นนอก​เพื่อ​เพิ่ม​รายการ​บัญชี​ส่วนกลาง

สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​ขอตัว​ลากับ​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ ​จากนั้น​ก็​ตรง​ไป​ยัง​โถง​บุปผา

เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​ต่าง​พากัน​ยืน​รอ​อยู่​ที่​ใต้​ชายคา​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​ใน​เรือน​ก็​เงียบ​ลง​ทันที

สือ​อี​เหนียง​หันไป​มอง​หนังสือ​บัญชี​ที่​กอง​ตั้ง​สูง​ร่วม​หนึ่ง​ฉื่อ​เห็นจะ​ได้​ ​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​วันนี้​ข้า​จะ​ต้อง​ไป​ดื่ม​สุรา​มงคล​ที่​จวน​ของ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ ​รอ​เช้า​วันพรุ่งนี้​ค่อย​มาป​รึก​ษา​หารือ​ก็แล้วกัน​!​”

เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​จึง​พากั​นก​้​มห​น้า​ลง​ต่ำ​ ​และ​ถอย​ออก​ไป​อย่างนอบน้อม

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​หันไป​สั่ง​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ยก​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​”

หู่​พั่ว​ก็​หันไป​มอง​แสงแดด​ที่อยู่​ด้านนอก​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เวลา​ไม่​เช้า​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​แค่​ต้อง​ไป​ให้​ทัน​ก่อน​พิธี​เริ่ม​ก็​พอ​ ​แต่​หาก​ไป​สาย​จน​เกินไป​ ​ก็​จะ​เสียมารยาท​เอา​ได้​เจ้าค่ะ​”

“​ข้า​รู้​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เจ้า​ทำตาม​คำสั่ง​ข้า​ก็​พอ​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​เยี​่​ยน​หรง​ว่า​ ​“​ไป​เชิญ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ให้​มาที​่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​หน่อย​”

เยี​่​ยน​หรง​ขานรับ​และ​ถอย​ออก​ไป​ทันที

หู่​พั่ว​จึง​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ไม่เข้าใจ​ ​พลาง​ยก​หนังสือ​บันทึก​รายการ​บัญชี​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ

เพิ่งจะ​ถึง​เรือน​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็ตาม​หลัง​มาติด​ๆ

“ฮู​หยิน​เรียก​ข้ามา​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​เชิญ​นาง​ไป​นั่ง​ที่​เก้าอี้​ดินเผา​ที่อยู่​ตรงข้าม​กับ​เตียง​เตา​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ยัง​หนังสือ​บัญชี​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ของ​เตียง​เตา​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ดื่ม​สุรา​มงคล​ที่​จวน​สกุล​เฉิน​ ​เจ้า​และ​หู่​พั่ว​ช่วยกัน​ตรวจทาน​บัญชี​เหล่านี้​หน่อย​”

คนที​่​อยู่​ใน​ห้อง​ต่าง​ก็​พากั​นอึ​้ง​ไป​หมด

“​นี่​มัน​…​”​ ​บน​หน้าผาก​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เริ่ม​ผุด​เม็ด​เหงื่อ​เล็ก​ๆ​ ​ขึ้น​มา

“​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​อยาก​เจอ​หน้า​หลาน​ถิง​ ​ทาง​ฝั่ง​ของ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ข้า​ก็​คงจะ​ให้​ฝ่าย​รายงาน​ไป​แทน​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​ข้า​สาย​มาก​แล้ว​ประเดี๋ยว​จะ​ไม่ทันการ​เอา​ ​ทาง​นี้​ก็​ฝาก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ดูแล​ก็แล้วกัน​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​กัดฟัน​แน่น​พร้อมกับ​ขานรับ​ทันที​ ​“ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​ ​ข้า​จะ​ช่วย​หู่​พั่ว​ตรวจทาน​บัญชี​ให้​ดีเจ​้า​ค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​ทาน​ของว่าง​ไป​นิดหน่อย​ ​แล้วจึง​ค่อย​เดินทาง​ไป​ยัง​จวน​เฉิน​เก๋อ​เหล่า

เยี​่​ยน​จิง​เป็น​เมือง​ใหญ่​ ​การ​ใช้ชีวิต​จึง​ใช่​ว่า​จะ​ง่ายดาย

เฉิน​เก๋อ​เหล่า​อาศัย​อยู่​ที่​ตรอก​หู​หลู​ทาง​แม่น้ำ​ทิศตะวันตก​ของ​เมือง​ ​ทางเข้า​ตรอก​ค่อนข้าง​คับแคบ​ ​รถม้า​จอด​ลง​ที่​หน้า​ปากทาง​เข้า​ ​ถึงแม้​จะ​อาศัย​ชื่อเสียงเรียงนาม​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​เพื่อให้​ผู้คน​ขยับ​และ​หลีกทาง​ให้​ ​แต่​ก็​ใช้เวลา​ไปราว​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​กว่า​จะเข้า​มาถึง​ประตู​หน้า​ลาน​ของ​จวน​เฉิน​เก๋อ​เหล่า

โจวฮู​หยิน​ ​หลี​่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก็​อยู่​ด้านใน​หมด​แล้ว​ ​ทุกคน​จึง​พากัน​เข้ามา​กล่าว​ทักทาย​สือ​อี​เหนียง​ ​หญิง​วัยกลางคน​ท่าน​อื่นๆ​ ​ที่มา​ร่วมงาน​ส่วนใหญ่​เป็น​คนที​่​สือ​อี​เหนียง​ไม่​คุ้นหน้า​คุ้นตา​เลย​ ​โจวฮู​หยิน​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ล้วน​เป็น​ญาติ​ผู้หญิง​ของ​ตระกูล​เหล่า​ขุนนาง​หก​กรม​ ​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​จัก​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​รับรู้​เบา​ๆ​ ​ก็​เห็น​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของ​กานฮู​หยิน​เข้า​พอดี​ ฮู​หยิน​ของ​หัวหน้า​ท่าน​เจ้ากรม​การทูต​ภายใน​ผู้​นั้น

นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​กล่าว​ทักทาย

พี่สะใภ้​ของ​กานฮู​หยิน​ก็​เดิน​เข้ามา​ต้อนรับ​สือ​อี​เหนียง​รวมไปถึง​เหล่า​บรรดาฮู​หยิน​ของ​รอง​ท่าน​เจ้ากรม​และ​บัณฑิต​ต่างๆ

ส่วนใหญ่​แล้ว​อายุ​จะ​เยอะ​กว่านาง​ ​แต่​ระดับ​ตำแหน่ง​ของ​สามี​พวก​นาง​กลับ​ต่ำกว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋

ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​ยิ้ม​และ​พยักหน้า​ให้​นาง​ด้วย​ท่าที​ที่​สงบเสงี่ยม

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ก้ม​ศีรษะ​เพื่อ​ทำความเคารพ​ตอบ​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​ชวน​พี่สะใภ้​ของ​กานฮู​หยิน​คุย​เล่น​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​หลาน​ถิง​เลย​”

“​เห็น​บอกว่า​เหลียงฮู​หยิน​ไม่สบาย​นิดหน่อย​”​ ​พี่สะใภ้​ของ​การฮู​หยิน​ตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ไม่ได้​มาทั​้ง​แม่​สามี​และ​ลูกสะใภ้​!​”

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ผิดหวัง​ ​จึง​พูด​ออก​ไป​อย่าง​ไม่​ปิดบัง​ว่า​ ​“​ข้า​ตั้งใจ​จะ​มาคุย​เล่น​กับ​หลาน​ถิง​โดยเฉพาะ​เชียว​”

พี่สะใภ้​ของ​กานฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ได้​ส่งสายตา​บอกเป็นนัย​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง

ทั้งสอง​จึง​พากัน​ไปหา​ที่​ยืน​คุย​ใน​ที่​เงียบสงบ

พี่สะใภ้​ของ​กานฮู​หยิน​จึง​ค่อย​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​สอง​วันก่อน​ใต้เท้า​เฉิน​และ​ใต้เท้า​เหลียง​ทะเลาะ​กันต​่อ​หน้า​ฝ่า​บาท​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

พี่สะใภ้​ของ​กานฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แผ่วเบา​กว่า​เดิม​ ​“​เห็น​ว่า​ทะเลาะ​กัน​เรื่อง​การ​ยกเลิก​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​!​”​ ​พูด​ขึ้น​พลาง​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ได้ยิน​ว่า​ครอบครัว​ของ​เจี​้​ยน​อาน​ก็​มีส่วนร่วม​ด้วย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ถวาย​สาส์น​ให้​ฝ่า​บาท​ด้วย​ ​เพื่อ​ยืนยัน​ว่าการ​ยกเลิก​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​นั้น​มี​ความ​อันตราย​ ​หวัง​แค่​ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​ไม่เกี่ยว​ข้อง​ไป​ถึง​เฉา​เอ๋อร​์​ก็​พอ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​เป็นเพื่อน​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​เชื้อเชิญ​ทุกคน​ไป​จิบ​น้ำชา​และ​ทานอาหาร​ว่าง​ที่​โถง​บุปผา

ทุกคน​จึง​พากัน​ทยอย​ไป​ยัง​โถง​บุปผา

สือ​อี​เหนียง​ ​โจวฮู​หยิน​ ​หลี​่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​นั่ง​อยู่​โต๊ะ​เดียวกัน

ทั้งสอง​ตั้งใจ​จะ​สู่ขอ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทั้งคู่​ ​นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​กัน​ ​แน่นอน​ว่า​คงจะ​ไม่​สะดวก​ที่จะ​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้​ ​จึง​พากัน​หลีกเลี่ยง​ที่จะ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ทั้งคู่​ ​และ​พากัน​ไป​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​อื่น​ที่​ไม่มี​ความเกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้​แทน​ ​เมื่อ​สบโอกาส​ ​ก็​สลับ​กัน​ถามไถ่​ถึง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ขึ้น​มา

“​ตอนนี้​นาง​กำลัง​ฝึกงาน​เย็บปักถักร้อย​กับ​ข้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​ข้า​และ​ไท่ฮู​หยิน​ต่าง​ก็​คิด​ว่า​ถึง​เวลา​ที่จะ​หาคู่​หมั้น​ให้​นาง​แล้ว​ ​แต่​ท่าน​โหวก​ลับ​รู้สึก​ว่า​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยัง​เด็ก​เกินไป​ ​ตอนนี้​จึง​ทำได้​แค่​เตรียมตัว​ไป​ก่อน​”

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วแต่​กลับ​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​มีบ​้าน​ไหน​บ้าง​ที่​หมั้น​เสร็จสรรพ​ใน​คราว​เดียว​ ​กว่า​สาม​สื่อ​หก​พิธี​จะ​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​ก็​ล้วน​ต้อง​ใช้เวลา​สาม​ถึง​สี่​ปี​ทั้งนั้น​ ​รีบ​เกลี้ยกล่อม​ท่าน​โหว​อย่า​ชักช้า​อยู่​เลย​”

หลี​่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ของ​บางอย่าง​นั้น​มีค่า​และ​หายาก​ยิ่ง​ ​คุณหนู​ใหญ่​เป็น​บุตรสาว​คนเดียว​ของ​ท่าน​โหว​ ​ก็​ช่วยไม่ได้​ที่​ท่าน​โหว​จะ​รัก​และ​หวง​ ​ทำใจ​ให้​แต่งงาน​ออกเรือน​ไม่ได้​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็นจริง​เช่นนั้น​ ​ท่าน​รอง​เจ้ากรมจัว​เอง​ก็ได้​มาทา​บทา​มด​้วย​ ​แต่​ถูก​ท่าน​โหว​ปฏิเสธ​อย่าง​นิ่มนวล​กลับ​ไป​”

หลี​่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้ว​แววตา​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​มา​ ​“​ใต้เท้าจัว​เอง​ก็​มี​ความสนใจ​ด้วย​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใต้เท้าจัว​และ​ท่าน​โหว​รู้จัก​กัน​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​บุตรชายคนโต​ของ​เขา​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​อายุ​ไล่เลี่ยกัน​พอดี​ ​จึง​ต้อง​มี​การ​พูดถึง​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​”

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​นั้น​ ​ก็​มี​คน​เข้ามา​แจ้ง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​ด้านนอก​จะ​มี​การ​ส่ง​เกี้ยว​เจ้าสาว​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

จากนั้น​เหล่า​บรรดา​ญาติ​ที่​เป็น​สตรี​ต่าง​ก็​พากั​นอ​อก​ไปดู​ ​ใน​เรือน​จึง​เต็มไปด้วย​เสียงดัง​เจี๊ยวจ๊าว​ ​หาก​พูดจา​เสียง​เบา​ก็​จะ​ฟัง​ไม่​ค่อย​ชัดเจน​เท่าไร​นัก​ ​ทั้งคู่​จึง​หันมา​สบตา​พร้อมกับ​ยิ้ม​ให้​กันและกัน​ ​และ​ได้​หยุด​บทสนทนา​นี้​ไป​ ​จากนั้น​ก็​พากัน​เดิน​ออก​ไป​ยัง​ด้านนอก

โจวฮู​หยิน​ที่​พากั​นพูด​คุย​กระซิบ​ข้าง​หู​เมื่อครู่นี้​ก็ได้​เดิน​เข้ามา​จูงมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ไป​ ​พวกเรา​ก็​ไปดู​กัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​ส่งสายตา​ให้​นาง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เจื่อน​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​นาง​ไป​ยัง​โถง​บุปผา

โจวฮู​หยิน​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ตรงหน้า​ประตู​โถง​บุปผา​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​หลี​่ฮู​หยิน​ก็​อยาก​จะ​สู่ขอ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ปิดบัง​นาง​ ​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่ใช่​แค่​จวน​สกุล​หลี​่​เท่านั้น​ จัวฮู​หยิน​ที่​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​เมื่อคราว​ก่อน​ก็​มี​เจตนา​อย่างนี้​ด้วย​เช่นกัน​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท