ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 327 พิธีขึ้นปิ่นปักผม (ต้น)

ตอนที่ 327 พิธีขึ้นปิ่นปักผม (ต้น)

“​พี่ชาย​ลูกพี่ลูกน้อง​?​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​พี่จ​้ง​หราน​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​บอก​แค่​ว่า​เป็นคุณ​ชายน้อย​เท่านั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ขึ้น​พลาง​ตอบ​ไป​ว่า​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ใช่​พี่จ​้ง​หรา​นที​่​เจ้า​พูดถึง​หรือไม่​”

“​เช่นนั้น​ก็​ใช่​แล้ว​”​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่จ​้ง​หรา​นกั​บน​้า​ชาย​ของ​ข้า​ไม่ได้​อยู่​เรือน​เดียวกัน​ ​ดังนั้น​ก็​เลย​เรียก​เช่นนี้​แทน​ ​คนใน​บ้าน​รวมไปถึง​บ่าว​รับใช้​ต่าง​ก็​พากัน​เรียก​ตาม​ว่า​ ​‘​คุณชาย​น้อย​’​ ​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ฟัง​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​และ​พยายาม​หา​โอกาส​ที่จะ​สอบถาม​เรื่อง​รูปวาด​บน​พัด​เล่ม​นั้น​ ​เซ่าจ​้ง​หรา​นรู​้​ได้​อย่างไร​ว่า​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ต้องการ​จะ​วาดภาพ​ดอก​ปิ่น​หยก​ ​เขา​รู้​หรือไม่​ว่า​ภาพวาด​ดอก​ปิ่น​หยก​นี้​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​นำ​ไป​มอบให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​แต่​พอ​หาง​ตา​เหลือบ​ไป​เห็น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​นั่ง​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​ ​ก็​ตัดสินใจ​กลืน​คำพูด​ลงคอ​ไป​จน​หมด

เหตุใด​ถึง​ต้อง​ทำให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จดจำ​เซ่าจ​้ง​หราน​ด้วย​เล่า

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ยิน​เสียง​ของ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​พี่จ​้ง​หรา​นมา​ทำ​อะไร​กัน​ ​หรือ​เรื่อง​การ​ซื้อ​บ้าน​จะ​ไม่​ราบรื่น​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​และ​ไม่ได้​ตอบ​อะไร

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับเป็น​ฝ่าย​เริ่ม​เล่า​ให้​พวก​นาง​ฟัง​แทน​ ​“​ท่าน​น้า​ของ​ข้า​เดิมที​เวลา​เข้า​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ก็​มักจะ​มา​พัก​ที่​บ้าน​ของ​พวก​ข้า​เสมอ​ ​แต่​ครั้งนี้​คนที​่​ติดตาม​มาด​้วย​ค่อนข้าง​เยอะ​ ​ทุกคน​มา​เบียดเสียด​อยู่​ที่​เดียวกัน​ ​ท่าน​น้า​ของ​ข้า​บอกว่า​ไม่​ค่อย​สะดวก​เท่าไร​ ​จึง​เขียนจดหมาย​กลับ​ไป​บอกว่า​จะ​หา​ซื้อ​เรือน​เล็ก​ๆ​ ​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​สัก​หลัง​ ​ภายภาคหน้า​เวลา​จะ​ไป​จะ​มา​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ขอ​พัก​ที่​บ้าน​พวก​ข้า​ตลอด​ ​เดือน​ที่แล้ว​ท่าน​ตาของ​ข้า​ก็ได้​ให้​พ่อบ้าน​นำ​เงิน​จำนวน​หนึ่ง​มา​ให้​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ท่าน​น้า​และ​พี่จ​้ง​หรา​นอ​อก​ไปหา​ดู​เรือน​แทบ​ทุกวัน​เลย​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สีหน้าท่าทาง​ของ​นาง​ดู​เป็นธรรมชาติ​เป็นอย่างมาก

แต่​ในเมื่อ​ทุกคน​อยู่​อย่าง​เบียด​กัน​ไม่​ค่อย​สะดวก​ ​ทำไม​ถึง​ยัง​จะ​ซื้อ​หลัง​เล็ก​ๆ​ ​อีก

สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึกถึง​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ขึ้น​มา​ ​ครอบครัว​ตระกูล​หลิน​ ​แต่ละ​ครอบครัว​ไม่ได้​มี​ใคร​ด้อย​กว่า​ใคร​เลย​ ​แต่​ทุกคน​กลับ​จ้อง​แต่​จะ​รวบ​กิจการ​ส่วนกลาง​ของ​ตระกูล​ ​กลัว​ว่า​หาก​ย้ายออก​ไป​แล้ว​จะ​ไม่สนิท​สนม​กับ​นายท่าน​ใหญ่​เหมือนเช่น​เคย​ ​ตอนที่​นายท่าน​ใหญ่​แบ่ง​สมบัติ​จะ​เสียเปรียบ​เอา​ได้​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​แต่ละ​ครอบครัว​คงจะ​สลับซับซ้อน​เป็นอย่างมาก​ ​คนบ้าน​สกุล​เซ่า​จำนวนมาก​มา​อยู่กิน​ที่นี่​เป็น​แรมเดือน​ ​และ​ถึงแม้ว่า​จะ​จ่าย​เงิน​ ​แต่​ก็​ต้อง​ดึง​ตัว​บ่าว​รับใช้​มาป​รน​นิ​บัติ​ดูแล​อยู่ดี​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เอง​ก็​เป็น​ถึง​สะใภ้​ที่​เป็น​ผู้ดูแล​หลัก​ของ​จวน​ ​จะ​ต้อง​จัดการ​ให้​ความสัมพันธ์​ของ​ครอบครัว​สมดุล​ให้​ได้​ ​เกรง​ว่านี​่​คง​เป็นสาเหตุ​ที่​คนบ้าน​สกุล​เซ่า​ออก​ไป​ซื้อหา​เรือน​หลัง​เล็ก​อยู่​ข้างนอก

“​สามารถ​ซื้อ​เรือน​สัก​หลัง​ ​ก็​ถือว่า​เป็น​ทรัพย์สิน​สมบัติ​ชิ้น​หนึ่ง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ไป​ตามเนื้อผ้า​ ​“​หาก​วันข้างหน้า​ไม่ได้​ใช้แล้ว​ ​ก็​แค่​ขาย​ไป​ ​ไม่​ขาดทุน​แน่นอน​อยู่​แล้ว​”

ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็น​ดังที่​ท่าน​อาสะใภ้​พูด​ ​ดังนั้น​ท่าน​ตาของ​ข้า​ก็​เลย​ตัดสินใจ​ซื้อ​เรือน​สัก​หลัง​เจ้าค่ะ​”

ขณะที่​ทั้งสอง​คน​กำลัง​คุย​กัน​อยู่​นั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ที่​คอย​สังเกต​ความเคลื่อนไหว​ข้างนอก​หน้าต่าง​ด้วย​หาง​ตา​อยู่​เสมอ​ก็ได้​เห็น​ชาย​ผู้​หนึ่ง​สวม​ชุด​คลุม​เต้า​เผา​ผ้าแพร​หังโฉว​สีม่วง​น้ำเงิน​กำลัง​เดินลง​ขั้นบันได​ของ​เรือน​หลัก​ ​เดิน​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ประตู​ลาน

คงจะ​เป็น​เซ่าจ​้ง​หราน​ผู้​นั้น​สินะ

สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้า​จิบ​ชาด​้ว​ยสี​หน้าที่​เรียบ​เฉย​ ​แต่​สายตา​กลับ​จ้อง​ไป​ยัง​นอก​หน้าต่าง

อกผาย​ไหล่​พึ่ง​ ​ร่างกาย​สูงโปร่ง​ ​ผม​ดำขลับ​ถูก​มวย​ขึ้น​สูง​ ​ปัก​ด้วย​ปิ่น​ไม้

เขา​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ ​หันมา​ประสานมือ​คารวะ​ให้​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ที่​เดิน​ออกมา​ส่ง​เขา

จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​เข้าใจ​อย่างถ่องแท้​ขึ้น​มา​ว่า​เพราะอะไร​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ถึง​ได้​บอกว่า​หาก​หลานชาย​ของ​นาง​ยืน​เคียงข้าง​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​เหมาะสม​กัน​ราวกับ​กิ่งทองใบหยก​อย่างไร​อย่างนั้น

เซ่าจ​้ง​หรา​นมี​ตา​และ​คิ้ว​ที่​คมคาย​ ​เรื่อง​มีหน้า​ตา​ที่​หล่อเหลา​เอา​การก​็​ไม่จำเป็น​ต้อง​พูดถึง​แล้ว​ ​สายตา​ที่​เขา​ใช้​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ราวกับ​แสงแดด​อ่อน​ๆ​ ​ที่​กระจ่าง​ชัดเจน​ ​พลอย​ทำให้​ผู้พบเห็น​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ตาม​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ผิวขาว​สะอาด​ดุจ​หิมะ​ ​คิ้ว​เข้ม​ตากลม​ ​อิริยาบถ​สุขุม​สงบเสงี่ยม​ ​นิ่ง​สงบ​ราวกับ​ผิวน้ำ​ของ​ทะเลสาบ

ขณะที่​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เห็น​เซ่าจ​้ง​หราน​หันไป​จ้องมอง​เรือน​หลัก​ด้วย​สีหน้า​แววตา​ที่​ผิดหวัง​ ​จากนั้น​ก็​สาวเท้า​ตรง​ไป​ยัง​ประตู​ฉุยฮ​วา​อย่างรวดเร็ว​และ​หายตัว​ไป​ในที่สุด

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แปลกใจ​เล็กน้อย

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็​เปิดม่าน​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม

นาง​ได้​อธิบาย​ว่า​ ​“​น้องชาย​คนเล​็ก​ของ​ข้า​ถูกใจ​เรือน​หลัง​หนึ่ง​เข้า​ ​เจ้าของบ้าน​เอง​ก็​กำลัง​เดือดร้อน​ต้องการ​จะ​ใช้​เงิน​ ​ก็​เลย​ให้ราคา​ต่ำกว่า​ท้องตลาด​ไป​สาม​ส่วน​เห็นจะ​ได้​ ​แต่​ต้อง​ซื้อ​ก่อน​ยาม​โหย​่ว​ของ​วันนี้​ ​น้องชาย​คนเล​็ก​ของ​ข้า​กลัว​ว่า​จะ​เป็น​พวก​กลุ่มคน​อันธพาล​ที่​หลอกลวง​เงิน​ ​ก็​เลย​ให้จ​้ง​หรา​นมา​แจ้ง​ข่าว​ให้​ข้า​โดยเฉพาะ​ ​ให้​ข้า​เรียก​พ่อบ้าน​สัก​คน​ไป​ช่วย​แจ้ง​กับ​ทาง​สำนัก​ปฏิบัติการ​งาน​ราชการ​สัก​คำ​ ​ว่า​ก่อน​ยาม​โหย​่​วจะ​ทำสัญญา​ซื้อขาย​กับ​คน​ผู้​นี้​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​เซ่าจ​้ง​หรา​นที​่​เดินเหิน​อย่างเร่งรีบ​เมื่อครู่นี้​ ​นาง​จึง​พยักหน้า​เล็กน้อย​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​หาก​มี​คนรู้จัก​ช่วย​บอกกล่าว​สัก​คำ​ ​จะ​ทำ​ธุระ​อะไร​ก็​สะดวก​ขึ้น​มา​หน่อย​!​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​พลัน​รู้สึก​โล่งใจ​ขึ้น​มา

ไม่ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​เชื่อ​หรือไม่​เชื่อ​ก็ตาม​ ​แต่​อย่างน้อย​ต่าง​ฝ่าย​ก็ได้​อธิบาย​เรียบร้อย​ ​ทั้งคู่​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ทานอาหาร​เที่ยง​ที่​เรือน​ของ​หลินฮู​หยิน​ ​หลังจาก​ทานอาหาร​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กลับ​จวน​สกุล​สวี​ไป

เมื่อ​กลับ​ไป​ถึง​แล้ว​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ไม่ได้​อยู่​ที่​เรือน

“​…​เข้า​วัง​เจ้าค่ะ​”​ ​เว​่ย​จื่อ​รีบ​ตอบกลับ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​บอกว่า​งาน​วันเกิด​และ​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ต่าง​ก็​ประทาน​ของขวัญ​มา​ให้​ ​ก็​เลย​จะเข้า​วัง​เพื่อ​ไป​กล่าว​ขอบ​พระทัย​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​สอง​เป็น​หญิง​หม้าย​ ​ส่วน​ตน​ก็​ไป​ที่​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ ฮู​หยิน​ห้า​เอง​บุตรสาว​ก็​ยัง​เล็ก​…

“​ใคร​ติดตาม​ไป​ด้วย​หรือ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​เป็นห่วง​ขึ้น​มา

“​ป้า​ตู้​ติดตาม​ไป​ด้วย​เจ้าค่ะ​”​ ​เว​่ย​จื่อ​ตอบกลับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“ฮู​หยิน​ห้า​จะ​ติดตาม​ไป​ด้วย​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​อนุญาต​ให้​ไป​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ออก​ไปรั​บที​่​ประตู​ฉุยฮ​วา

“​ทำไม​เจ้า​ถึง​กลับมา​เร็ว​ขนาด​นี้​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ทั้งสอง​แล้วก็​รู้สึก​ค่อนข้าง​แปลกใจ​ ​“​ไม่ได้​อยู่​คุย​กันที่​โน่น​หรือ​”

“​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ค่อนข้าง​ยุ่ง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่​เข้า​วัง​หรือ​เจ้า​คะ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​บอก​ข้า​สัก​คำ​ ​จวน​สกุล​หลิน​ไว้​ค่อย​ไป​ตอน​ไหน​ก็ได้​นี่​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ต่อว่า​ ​“​ท่าน​แม่​เข้า​วัง​คนเดียว​ ​ไม่มี​คน​ติดตาม​ไป​ปรนนิบัติ​รับใช้​เลย​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ก็​แค่​ไป​กล่าว​ขอบ​พระทัย​ ​ไม่ได้​ไปร​่ว​มงา​นอะ​ไร​เสียหน่อย​ ​ถึงแม้​ข้า​จะ​อายุ​มาก​แล้ว​ ​แต่​ก็​ยัง​สามารถ​ทานข้าว​ได้​ตั้ง​สาม​ถ้วย​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​สีหน้า​ท่าที​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​ดูดี​ ​ก็​ค่อย​รู้สึก​โล่งใจ​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​จึง​กลับ​เข้า​เรือน​พร้อมกับ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ ​“​…​จุน​เกอ​นัดแนะ​กับ​อาจารย์​จ้าว​ว่า​จะ​ไปดู​แข่ง​เรือ​มังกร​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ​ข้า​คิด​ว่า​เด็ก​ๆ​ ​โต​ขนาด​นี้​แล้วแต่​ได้​ออก​นอกบ้าน​เพียง​ไม่​กี่​ครั้ง​ ​หาก​ปล่อย​พวกเขา​ออก​ไป​เปิดหูเปิดตา​บ้าง​ก็ดี​เหมือนกัน​”​ ​น้ำเสียง​คล้าย​กับ​กำลัง​ถาม​ความคิดเห็น​ของ​สือ​อี​เหนียง

ก่อนหน้านี้​สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ไม่เห็นด้วย​ ​พอได้​ยิน​อย่างนี้​แล้ว​นาง​ก็​ยิ้ม​พร้อม​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​จัด​คน​สัก​จำนวน​หนึ่ง​ที่​มือ​ไม้​คล่องแคล่ว​ว่องไว​หน่อย​ติดตาม​ไป​ด้วย​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​คัดค้าน​แต่อย่างใด​ ​จึง​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ทาง​อวี​้​เกอ​ ​เจ้า​ก็​ลอง​ไป​ถาม​ดู​ว่า​มี​อะไร​ให้​ทำได้​บ้าง​ ​ส่วน​เจี​้ย​เกอ​ยัง​เล็ก​เกินไป​ ​ให้​อยู่​ที่​เรือน​ก่อน​ ​ช่วง​เช้า​หลังจากที่​จัดงาน​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​เจ้า​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​มื้อ​เที่ยง​ก็​เชื้อเชิญ​แขก​ที่มา​ร่วมงาน​อยู่​ทานอาหาร​ด้วยกัน​ก่อน​ ​คาด​ว่า​ช่วง​บ่าย​ทุกคน​คงจะ​ทยอย​กลับ​จวน​กัน​หมด​แล้ว​ ​พวกเรา​ทั้ง​ครอบครัว​ก็​ค่อย​มารวม​ตัว​ร่วม​ทานอาหาร​ด้วยกัน​”

พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​เป็นเรื่อง​ของ​สตรี​ ​ย่อม​ไม่มี​แขก​ที่​เป็น​บุรุษ​อยู่​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ถามถึง​เรื่อง​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ขึ้น​มา​ ​“​…​มี​แขก​มาป​ระมาณ​กี่​คน​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ข้า​จะ​ได้​จัดการ​และ​ตระเตรียม​ถูก​”

“​เจ้า​มีเรื่อง​มากมาย​ที่​ต้อง​จัดการ​ ​เรื่อง​นี้​มอบหมาย​ให้​ป้า​ตู้​จัดการ​ดีกว่า​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ให้​นาง​นำ​รายการอาหาร​ของ​งานเลี้ยง​มา​ให้​เจ้า​ดู​ ​เจ้า​ก็​แค่​สั่งงาน​กับ​ทาง​ห้องครัว​ให้​เตรียม​อาหาร​และ​สุรา​ ​ส่วน​เรื่อง​อื่น​ให้​ป้า​ตู้​ไป​จัดการ​แทน​ ​ถึง​เวลา​นั้น​เจ้า​แค่​ต้อง​แต่งตัว​ให้​สวย​แล้วไป​ร่วมงาน​ก็​พอ​”

สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ ​“​…​ตอนที่​ข้า​กลับ​ออกมา​จากฝู​เจี​้​ยน​ ​พี่​หญิง​ห้า​ได้​เข้า​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ส่วน​ของ​พี่​หญิง​เจ็ด​ตรง​กับ​ช่วง​ไว้ทุกข์​เพื่อ​แสดง​ความกตัญญู​ต่อ​ท่าน​ปู่​พอดี​ ​คนใน​ครอบครัว​จึง​แค่​ร่วม​รับประทาน​อาหาร​เท่านั้น​ ​พอ​ถึง​ตอน​พี่​หญิง​สิบ​…​”​ ​ใน​ความทรงจำ​ของ​นาง​นั้น​สือ​เหนียง​ไม่ได้​จัด​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ ​แต่​อยู่​ต่อหน้า​ไท่ฮู​หยิน​นาง​เลย​ไม่​ค่อย​สะดวก​พูด​ออกมา​เท่าไร​นัก​ ​“​…​ตอนที่​ข้ามา​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ ​ตอนนั้น​พวก​นาง​ยัง​ไม่มีใคร​แต่งงาน​ออกเรือน​เลย​ ​ข้า​จำได้​แค่​ทุกคน​สวม​ชุด​สวย​ๆ​ ​ไม่ได้​ตกแต่ง​หรือ​ประดับ​เครื่องประดับ​อะไร​เลย​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​แค่​ช่วย​มวยผม​ทรง​เรียบๆ​ ​จากนั้น​ก็​แค่​ปักปิ่น​ให้​หนึ่ง​เล่ม​ ​ไม่รู้​ว่างา​นพิ​ธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​ข้า​จะ​มี​ความแตกต่าง​หรือไม่​”

“​ก็​ไม่ได้​แตกต่าง​เท่าไร​นัก​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​พูดคุย​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​ส่วน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​นำ​ผ้า​ปัก​ของ​เว​่ย​จื่อ​ที่​ปัก​ได้​ครึ่งหนึ่ง​มาปั​กต​่อ​เพื่อ​ฝึกฝน​ฝีมือ​ ​“​หวี​ผม​จัด​ทรง​ ​กล่าว​คำมงคล​ไม่​กี่​ประโยค​ ​ทุกคน​ร่วม​ทานอาหาร​และ​ดื่ม​สุรา​ ​เพียงแต่ว่า​เจ้า​นั้น​แต่งงาน​ออกเรือน​มา​แล้ว​ ​ข้า​จึง​เป็น​คน​จัดงาน​แทน​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​เพียงแค่​มาร​่ว​มงา​นก​็​พอ​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะเข้า​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​เสียหน่อย​ ​ไป​ถาม​ความคิดเห็น​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​อย่างไร​เสียนา​งก​็​เป็นมา​รดา​ของ​เจ้า​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ยัง​ต้อง​ปรึกษาหารือ​กับ​นาง​”

พิธีกรรม​โบราณ​นี้​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​รู้เรื่อง​เท่าไร​นัก​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​ฟัง​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​แล้ว​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​พร้อม​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​พรุ่งนี้​จะ​ให้​ข้า​กลับ​ไปเป็นเพื่อน​ท่าน​แม่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่ต้อง​หรอก​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เจ้า​แค่​ตั้งใจ​จัดงาน​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ก็​พอแล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ทุกคน​ก็​ชวน​กัน​พูดคุย​เรื่อง​ทั่วไป​ ​หลังจากที่​จุน​เกอ​เลิกเรียน​แล้ว​มารู​้​ว่า​ตน​ได้รับอนุญาต​ให้​ไปดู​แข่ง​เรือ​มังกร​กับ​อาจารย์​จ้าว​ก็ดี​ใจ​จน​กระโดดโลดเต้น​ไปมา​ ​รีบร้อน​จะ​ไป​บอกข่าว​นี้​กับ​อาจารย์​จ้าว​ทันที​ ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​แล้วก็​ยิ้ม​กว้าง​ ​และ​ได้​กำชับ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ว่า​ ​“​ต้อง​สุขุม​และ​สำรวม​หน่อย​”​ ​เขา​จึง​ค่อย​ข่มอารมณ์​ดีใจ​ไว้​ ​แต่​แล้วก็​ยัง​เดิน​วนรอบ​ห้อง​อยู่​หลาย​รอบ​ ​จึง​ค่อย​สงบ​ลง​ในที่สุด​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับ​หันมา​ถามถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​พ่อ​…​ไม่ได้​บอกว่า​จะ​กลับมา​ตอน​ไหน​หรือ​ขอรับ​”

“​คงจะ​กลับมา​ตอน​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​กระมัง​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม

สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ​สายตา​ของ​เขา​กลับ​หลุบ​ลง​ต่ำ​ ​“​ข้า​อยู่​บ้าน​อ่าน​ตำรา​ดีกว่า​!​ ​เวลา​อาจารย์​ที่​หอ​ตำรา​จิ​่น​สี​ถาม​ขึ้น​มา​จะ​ตอบ​ไม่ได้​เอา​!​”

สีหน้า​ของ​เขา​สงบ​และ​สุขุม

เด็ก​ที่​โต​แล้ว​ย่อม​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​หาก​เรา​คิด​ว่า​เขา​กำลัง​ปั้นหน้า​แสดง​ความเศร้า​ออกมา​ ​มี​แต่​จะ​รู้สึก​ว่า​เรา​ไม่ได้​ให้ความสำคัญ​กับ​ความรู้สึก​ของ​เขา​ ​สู้​เรา​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ ​รอ​ให้​เขา​เข้ามา​พูด​กับ​เรา​เอง​ ​แล้ว​ค่อย​รับฟัง​เขา​ใน​ตอนนั้น​ก็​ยัง​ไม่​สาย

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​ถึง​เวลา​นั้น​อย่า​ลืม​ว่า​ต้อง​มาร​่ว​มทา​นอา​หาร​ค่ำ​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ตอน​ยาม​โหย​่ว​ด้วย​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​“​ขอรับ​”

จากนั้น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​เข้าไป​จูงมือ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เจ้า​มา​เล่น​กับ​ข้า​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​เงยหน้า​ขึ้น​มา​จ้องมอง​พี่​หญิง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บีบ​จมูก​ของ​เขา​เบา​ๆ

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​แล้วก็​แอบ​พยักหน้า​ช้าๆ

*****

ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ก็​ถึง​วัน​ขึ้น​สาม​ค่ำ​เดือน​ห้า​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้​จัดเตรียม​งานเทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​และ​งานพิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​ทาง​ฝ่าย​รายงาน​ก็ได้​แจ้ง​ข่าว​มา​ว่า​ ​วัน​ขึ้น​สอง​ค่ำ​เดือน​ห้า​นาย​หญิง​เจียง​ได้​พา​คุณหนู​เก้า​เดินทาง​มาถึง​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​รอ​จนถึง​วัน​ขึ้น​สี่​ค่ำ​เดือน​ห้า​แต่​ทาง​จวน​สกุล​เจียง​ก็​ไม่ได้​ส่ง​คน​มาแจ้ง​ข่าว​เลย

หรือ​เป็น​เพราะ​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​ตน

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด

เมื่อ​รู้​ว่านาย​หญิง​เจียง​และ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​เดินทาง​มาถึง​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ ​อย่างไร​เสีย​ก็​ต้อง​เชื้อเชิญ​พวก​นาง​ให้​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​อยู่ดี​ ​แต่​วันนั้น​ดัน​เป็น​วันที่​ตน​จะ​ต้อง​เข้า​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ ​คำ​โบราณ​พูด​ไว้​ว่า​ ​บุตรสาว​แต่งงาน​ออกเรือน​ต้อง​เลือก​ฐานะ​ที่สูง​ส่ง​เข้า​ไว้​ ​แต่​สู่ขอ​สะใภ้​เข้า​เรือน​ต้อง​เลือก​ให้​ต่ำกว่า​ฐานะ​ตน​ ​เจอกัน​ครั้งแรก​ ​ก็​มา​ให้​นาย​หญิง​เจียง​และ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​มา​อวยพร​ก็​คงจะ​ไม่​เหมาะ​เท่าไร​นัก​!

สือ​อี​เหนียง​จึง​ไป​ปรึกษาหารือ​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ ​“​…​ข้าว​่า​ ​เรา​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ดีกว่า​กระมัง​เจ้า​คะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ได้​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ก่อน​ก็แล้วกัน​ ​รอทาง​สกุล​เจียง​ให้​คน​มาส​่ง​ข่าว​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​ ​ตอนแรก​ข้า​เอง​ก็​นึกถึง​จุดยืน​ของ​ทาง​สกุล​เจียง​เหมือนกัน​ ​ก็​เลย​ไม่ได้​เชิญ​เจียงฮู​หยิน​มางา​นพิ​ธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​เจ้า​”

“​ในเมื่อ​ไม่ได้​เชิญ​คน​จาก​สกุล​เจียง​ ​เช่นนั้น​คน​จวน​สกุล​เจียง​ก็​ไม่น่า​มี​คน​รู้เรื่อง​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​ข้า​จึง​จะ​ถูก​ ​แต่​เหตุใด​ถึง​ไม่​ส่ง​คน​มาแจ้ง​ข่าว​เลย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​“​ทาง​สกุล​เจียง​มี​อะไร​เกิดขึ้น​หรือ​อย่างไร​กัน​”

“​ทาง​นั้น​พา​เด็ก​ๆ​ ​มาถึง​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ ​จะ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ให้​เกิดขึ้น​อีก​เล่า​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ไม่ได้​คิด​เช่นนั้น​ ​“​เกรง​ว่า​ทาง​สกุล​เจียง​คงจะ​ได้ยิน​ข่าวลือ​มาบ​้าง​ ​ก็​เลย​ตั้งใจ​ไม่​บอก​กับ​ทาง​เรา​ว่า​ได้​พานาย​หญิง​เจียง​และ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​เข้า​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​มาด​้วย​”

“​ได้ยิน​ข่าวลือ​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​“​ได้ยิน​ข่าวลือ​เรื่อง​ที่​ข้า​จะ​จัด​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​หรือ​เจ้า​คะ​”

ระหว่าง​สังคม​แวดวง​ของ​สกุล​สวี​และ​สกุล​เจียง​มี​ความแตกต่าง​ ​ทั้งสอง​ตระกูล​ค่อนข้าง​ถ่อมตน​ ​โอกาส​ที่จะ​เจอ​หน้า​ไม่​ค่อย​เยอะ​เท่าไร​นัก

“​มี​อะไร​ให้​น่าแปลกใจ​กัน​เล่า​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​กว้าง​แค่​ฝ่ามือ​ ​คนที​่​ใส่ใจ​ก็​ย่อม​รู้​ได้​ทุก​เรื่อง​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท