ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 332 กลับมาพบหน้า(ปลาย)

ตอนที่ 332 กลับมาพบหน้า(ปลาย)

“​อย่า​ร้องไห้​ไป​เลย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ให้​นาง​ซับ​น้ำตา​ ​“​ท่าน​บอกว่า​ไม่มี​ลูก​ไม่ใช่​ความผิด​ของ​ผู้หญิง​ทั้งหมด​ไม่ใช่​หรือ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​พวก​ท่าน​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​กัน​ ​มีตั​้ง​หลาย​คนที​่​แต่งงาน​กันตั​้ง​หลาย​ปีก​ว่า​จะ​มีลูก​ไม่ใช่​หรือ​ ​ดู​อย่าง​ข้า​สิ​ ​ข้า​ก็​ไม่มี​ไม่ใช่​หรือ​”

ชี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รับ​ผ้าเช็ดหน้า​มา​เช็ดน้ำ​ตา​ตัวเอง​ ​“​เจ้า​ไม่​เหมือน​ข้า​”​ ​นาง​เบะ​ปาก​ ​“​ท่าน​โหว​มีทั​้​งบุ​ตร​ชาย​และ​บุตรสาว​ ​แต่​จู​อาน​ผิง​เป็น​ลูก​คนเดียว​ของ​ตระกูล​…​”​ ​นาง​พูด​อย่าง​เสียใจ

“​เช่นนั้น​ท่าน​ไม่​ควร​หนี​ออกมา​แบบนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่านาง​แค่​โมโห​ ​“​หนี​ออกมา​เช่นนี้​ ​หาก​พี่เขย​เจ็ด​รับ​อนุภรรยา​มา​ไว้​ใน​เรือน​ของ​ตัวเอง​เพราะ​ความโมโห​ ​เช่นนั้น​มัน​ไม่น่า​โมโห​มากกว่า​หรือ​”

ชี​เหนียง​ลุกขึ้น​มานั​่ง​ ​กัด​ปาก​ตัวเอง​พลาง​บิด​ผ้าเช็ดหน้า​แล้ว​ครุ่นคิด

สือ​อี​เหนียง​ถือโอกาส​หาทาง​ออก​ให้​นาง​ ​“​ท่าน​มา​อยู่​กับ​ข้า​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​ให้​พี่เขย​เจ็ด​กระวนกระวาย​สักหน่อย​ ​เมื่อ​พี่เขย​เจ็ด​มาตา​มหา​ท่าน​ ​ท่าน​ก็​ค่อย​กลับ​ไป​กับ​เขา​อย่าง​มีความสุข​ ​แต่​ครั้งหน้า​หาก​ไม่สบายใจ​เรื่อง​ใด​ก็​ต้อง​บอก​เขา​ ​ซาน​ตง​ไม่​ไกล​จาก​เยี​่​ยน​จิง​เท่าไร​ ​มา​พักผ่อน​ที่​จวน​ข้า​ ​หรือ​ไป​พักผ่อน​ที่​จวน​ของ​พี่​หญิง​สี่​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​อย่า​ทำให้​ตัวเอง​ลำบากใจ​เลย​เจ้าค่ะ​”

ชี​เหนียง​ไม่พูดไม่จา​ ​แต่​สีหน้า​ของ​นาง​ดีขึ้น​ไม่น้อย

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​กำลังจะ​เร่ง​ให้​นาง​รีบ​นอน​ ​ป้า​ซ่ง​ก็​กลับมา​พอดี

“​ท่าน​โหว​บอกว่า​เขา​จะ​นอน​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​เจ้าค่ะ​”​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​ชี​เหนียง​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​หัวเราะ​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ถือว่า​เขา​ฉลาด​”​ ​ราวกับ​กำลัง​เยาะเย้ย​สวี​ลิ่ง​อี๋

ถึงแม้ว่า​ชี​เหนียง​จะ​อ่อนแอ​ ​แต่​นาง​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ตามใจ​ตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ดึง​ผ้าห่ม​นอนลง​ ​“​พวก​ท่าน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ปิดบัง​ข้า​ใช่​หรือไม่​”

ดูเหมือนว่า​ ​เรื่อง​ซื้อ​ม้า​ ​ยัง​มี​เงื่อนงำ​บางอย่าง​หลงเหลือ​อยู่

“​เจ้า​ไม่ต้อง​สนใจ​หรอก​!​”​ ​ชี​เหนียง​พูด​อย่าง​เดือดดาล​ ​“​ข้า​ไม่​เรียก​เขา​ว่าน​้​อง​เขย​ ​ก็​ถือว่า​ไว้หน้า​เขา​มาก​พอแล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ลูบ​หน้าผาก​ของ​ตัวเอง

ชี​เหนียง​คน​นี้​…​เพราะว่า​ความสัมพันธ์​ของ​หยวน​เหนียง​และ​นาง​ ​สกุล​หลัว​จึง​เรียก​เขา​ว่า​ท่าน​โหว

นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​พูด​เรื่อง​ที่จะ​ไปหา​ซื่อ​เหนียง​พรุ่งนี้​แทน

ชี​เหนียง​อาจจะ​เดินทาง​มา​เหนื่อย​ ​พึ่ง​พูด​ได้​สอง​สาม​ประโยค​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​แล้ว

เช้า​วัน​ต่อมา​ ​ผ้าห่ม​ของ​ชี​เหนียง​ถูก​เตะ​ออก​ไป​อยู่​ข้างๆ​ ​เช้าตรู่​ของ​ฤดูร้อน​ยังคง​หนาวเย็น​ ​นาง​ขยับ​เข้ามา​หา​สือ​อี​เหนียง​ ​เบะ​ปาก​แล้ว​หลับ​ไปรา​วกับ​เด็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ห่ม​ผ้า​ให้​นาง​ ​ลุกขึ้น​เบา​ๆ​ ​แล้ว​บอก​สาวใช้​ว่า​อย่า​รบกวน​นาง​ ​บอก​ให้​ป้า​ซ่ง​ไป​จัด​อาหารเช้า​ที่​เรือน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ตัวเอง​ล้างหน้าล้างตา​แล้วก็​ไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น

“​คุณหนู​เจ็ด​ยัง​โกรธ​อยู่​อีก​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สวม​เสื้อผ้า​ไหม​สีเขียว​ ​พักผ่อน​ไป​คืนหนึ่ง​ทำให้​เขา​ดู​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​ท่ามกลาง​แสงแดด​ยามเช้า​ ​เขา​ดู​สดชื่น​แจ่มใส

สือ​อี​เหนียง​ยก​ข้าวต้ม​ที่​ต้ม​ด้วย​ลูกเดือย​ใน​เดือน​หก​มา​วาง​ไว้​ข้างหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ​ดู​ไม่​ค่อย​มีความสุข​อยู่​ตลอด​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำ​สีหน้า​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​เรื่อง​นี้​เดิมที​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​ ​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่านาง​ชอบ​อะไร​ ​หรือว่า​อยากได้​อะไร​ก็​ซื้อ​ให้​นาง​เถิด​ ​ถือว่า​เป็น​ค่าตอบแทน​จาก​ข้า​”​ ​แต่​ก็​ยัง​ไม่​พูดว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​สอง​คน​นี้​พูดจา​คลุมเครือ​ต่อหน้า​ตัวเอง​ ​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​แต่​นาง​ยังคง​รู้สึก​สบายใจ​

นาง​ไม่​เค้น​ถาม​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

สวี​ลิ่ง​อี๋​ทาน​บะหมี่​ถั่ว​ช้าๆ​ ​ฟัง​สือ​อี​เหนียง​เล่า​สถานการณ์​ของ​สอง​สาม​สกุล​นั้น

“​…​เมื่อวาน​ตอนที่​ท่าน​กลับมา​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กำลัง​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ข้า​ ​จึง​กลับ​ไป​ช้า​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พูด​พึมพำ​ ​“​หาก​เป็น​สกุล​เซ่า​ ​ดี​แน่นอน​ ​สกุล​ของ​พวกเขา​เป็น​สกุล​ใหญ่​สกุล​โตมา​กว่า​ร้อย​ปี​ ​ล้วน​มี​แต่​คน​มี​ความสามารถ​ ​แต่ว่า​สกุล​ของ​พวกเขา​มี​กฎเกณฑ์​ที่​แปลก​ๆ​ ​อยู่​หนึ่ง​กฎ​ ​คือ​บุตรชายคนโต​จะ​ต้อง​เป็น​คนดู​แลกิ​จการ​ของ​ตระกูล​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่มีทาง​ออกมา​จาก​ซัง​โจว​ ​หาก​เป็น​บุตรชาย​คน​รอง​ก็​คงดี​กว่า​…​ ​”

เป็นปัญหา​เดียว​กับ​ที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กังวล​ไม่มี​ผิด

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​พัด​ ​จะ​ได้​ไม่มีปัญหา​อะไร​อีก

“​ดู​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​ก่อน​ดีกว่า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​หาก​ไม่สำเร็จ​ค่อย​ว่า​กัน​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​ทานข้าว​ต้ม​หนึ่ง​ชาม​เป็นเพื่อน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เมื่อ​นาง​กลับ​ไป​ชี​เหนียง​ยังคง​นอนหลับ​อยู่​ ​ป้า​ตู้​ก็​กำลัง​รอนา​งอยู​่​ที่​ห้องโถง

รู้​ว่า​ชี​เหนียง​ยัง​ไม่​ตื่น​ ​นาง​จึง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​บอกว่า​ ​ให้ท่าน​ไปหา​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​เรื่อง​อะไร​ ​บอก​ให้​สาวใช้​ไป​เรียก​มู่ฝู​มารับ​ใช้​ชี​เหนียง​ตื่นนอน​ ​ส่วนตัว​เอง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​ป้า​ตู้

“​ชี​เหนียง​ทะเลาะ​กับ​สามี​ใช่​หรือไม่​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด

“​สายตา​ของ​ท่าน​ช่าง​เฉียบแหลม​จริงๆ​!​ ​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

“​ข้า​เคย​เจอ​มา​เยอะ​แล้ว​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​พลาง​หัวเราะ​ ​“​ข้า​คิด​ว่านิ​สัย​ของ​ชี​เหนียง​ ​นาง​ไม่มีทาง​ยอมรับ​ความอยุติธรรม​แน่นอน​ ​ในเมื่อ​นาง​มา​หลบ​อยู่​กับ​เจ้า​ ​เจ้า​ก็​ทำเป็น​ไม่รู้​ ​ปล่อย​ให้​นาง​พัก​อยู่​ที่​จวน​เถิด​ ​นาง​จะ​ได้​ไม่​คิด​ว่า​พึ่ง​เจ้า​ไม่ได้​แล้ว​หนี​ไป​ที่อื่น​ ​ทำให้เกิด​เรื่อง​ขึ้น​มา​อีก​ ​แต่​สามีภรรยา​ทะเลาะ​กัน​หัว​เตียง​ ​คืนดีกัน​ปลาย​เตียง​ ​ทาง​ฝั่ง​มณฑล​เกา​ชิง​ ​เจ้า​ต้อง​ส่ง​คน​ไปรา​ยงาน​ ​สอง​สาม​วันนี้​เจ้า​ก็​ออก​ไป​เดินเล่น​ ​ไป​พักผ่อน​เป็นเพื่อน​นาง​ ​เมื่อ​ฝั่ง​นั้น​ส่ง​คน​มารับ​ ​สามีภรรยา​เจอกัน​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​ค่อย​เกลี้ยกล่อม​นาง​ ​เห็นแก่​ความรัก​ที่ผ่านมา​ ​นาง​ก็​คงจะ​หายโกรธ​แล้ว​กลับ​ไป​มณฑล​เกา​ชิง​อย่าง​มีความสุข​”

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​สอน​นาง​ว่า​ต้อง​วางตัว​อย่างไร

นาง​พยักหน้า​ซ้ำๆ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่​หญิง​สี่​ไม่สบาย​ ​พี่​หญิง​เจ็ด​ให้​ข้า​ไป​เยี่ยม​พี่​หญิง​สี่​กับ​นาง​วันนี้​ ​ข้า​คิด​ว่า​ทานข้าว​เที่ยง​เสร็จ​แล้วก็​จะ​ไป​เจ้าค่ะ​ ​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​ปรึกษา​กับ​พี่​หญิง​สี่​ ​ดู​ว่า​จะ​รายงาน​ฝั่ง​ซาน​ตง​เช่นไร​”

“​เป็น​วิธี​ที่​ดี​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ชื่นชม​แล้ว​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​พวก​นาง​เป็น​พี่น้อง​แม่​เดียวกัน​ ​คุณหนู​สี่​ถือเป็น​พี่​หญิง​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​นาง​พูด​ได้​ ​เจ้า​พูด​ไม่ได้​ ​นาง​ทำได้​ ​แต่​เจ้า​ทำไม​่​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​ชี​เหนียง​ก็​มา​พอดี

ไท่ฮู​หยิน​กวักมือ​เรียก​ชี​เหนียง​ ​“​รอ​เจ้า​มาทา​นข​้าว​เช้า​ด้วยกัน​อยู่​”

ชี​เหนียง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​ข้า​จะ​ตื่น​สาย​”

“​ไม่​สาย​ ​ไม่​สาย​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ ​“​น้อง​หญิง​ของ​เจ้า​มีเรื่อง​ที่​ต้อง​จัดการ​มากมาย​ ​จึง​ตื่น​เช้า​กว่า​พวกเรา​ทุกคน​”​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​สาวใช้​ยก​อาหาร​เข้ามา​ ​สือ​อี​เหนียง​ทานข้าว​ต้ม​อีก​ชาม

ฮู​หยิน​ห้า​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา​พอดี

เจ้าตัว​เล็ก​นั้น​ตั้ง​คอ​เอง​ได้​แล้ว​ ​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ดู​น่ารัก​เป็นอย่างมาก

ชี​เหนียง​มองดู​ด้วย​สายตา​ที่​อิจฉา

เมื่อวาน​นาง​มอบ​สร้อยคอ​ทองคำ​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​ของขวัญ​ ​สือ​อี​เหนียง​ดูแล​้ว​ ​เกรง​ว่าน​่า​จะ​สิบ​กว่า​เหรียญ

ไท่ฮู​หยิน​บอก​ให้​ชี​เหนียง​อยู่​คุย​เป็นเพื่อน​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ปลีกตัว​ไป​จัดการ​เรื่อง​ของ​จวน​ที่​โถง​บุปผา​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​หลังจาก​กลับมา​ทานข้าว​เที่ยง​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​ซื่อ​เหนียง​กับ​ชี​เหนียง

ซื่อ​เหนียง​ดูดี​ขึ้น​กว่า​ครั้งก่อน​ไม่น้อย​ ​แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​เมื่อก่อน​ ​กลับ​รู้สึก​ว่านาง​แก่​ขึ้น​เจ็ด​แปด​ปี​ ​แตกต่าง​จาก​ภาพ​พี่​หญิง​ที่อยู่​ใน​ความทรงจำ​ของ​ชี​เหนียง​ไม่น้อย​ ​ทาง​ฝั่ง​ซื่อ​เหนียง​ที่​เห็น​ว่าน​้​อง​หญิง​ของ​ตัวเอง​ที่​เห็น​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​จู่ๆ​ ​ก็​มา​เยี่ยมเยียน​ ​นาง​ก็​ซาบซึ้ง​เป็นอย่างมาก​ ​พี่น้อง​สอง​คน​กอด​กัน​ร้องไห้​อยู่นาน​จากนั้น​ก็​เริ่ม​คุย​กัน

รู้​ว่า​อาการป่วย​ของ​ซื่อ​เหนียง​แค่​ทาน​ยาก​็​สามารถ​รักษา​ให้หาย​ได้​ ​แล้วก็​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​คน​มาถาม​ถึง​อาการป่วย​ของ​ซื่อ​เหนียง​อยู่​ตลอด​ ​ชี​เหนียง​ก็​รู้สึก​ซาบซึ้ง​ ​พูด​ขึ้น​อย่างใจ​กว้าง​ ​“​เรื่อง​ของ​ท่าน​โหวก​็​ช่างมัน​เถิด​ ​ข้า​ไม่​คิดเล็กคิดน้อย​แล้วก็​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เหงื่อ​ตก

ซื่อ​เหนียง​เค้น​ถาม​นาง​ว่า​มัน​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่

“​ไม่มี​อะไร​ ​ไม่มี​อะไร​”​ ​ชี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ซื้อ​ม้า​ของ​นาง​ให้​ซื่อ​เหนียง​ฟัง​ ​“​…​แล้วยัง​เป็น​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​ ​ข้า​จึง​ไป​ที่​จวน​สกุล​สวี​ก่อน​ ​ไท่ฮู​หยิน​เชิญ​อยู่​ทานข้าว​เย็น​ ​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ข้า​จึง​พัก​อยู่​ที่นั่น​”

ซื่อ​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​แปลกใจ​ ​แต่กลับ​ไม่​ถาม​อะไร​ต่อ​ ​ฟัง​ชี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​น่าสนใจ​ของ​มณฑล​เกา​ชิง​และ​เรื่อง​ที่นาง​เจอ​ระหว่าง​การ​เดินทาง​อย่าง​มีความสุข​

เมื่อ​อวี​๋​อี๋​ชิง​ ​พี่เขย​สี่​กลับมา​ ​ตอนที่​ชี​เหนียง​พูดคุย​กับ​เขา​ ​ซื่อ​เหนียง​ก็​ลอบ​ถาม​สือ​อี​เหนียง​เสียง​เบา​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ราว​ให้​นาง​ฟัง​อย่าง​กระชับ

ซื่อ​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​พูด​เหมือนกัน​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​…​เจ้า​ดูแล​นาง​ให้​ดี​ ​ฝั่ง​ท่าน​แม่​และ​น้อง​สาม​ ​ข้า​จะ​ไปรา​ยงาน​เอง​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​รู้สึก​โล่งใจ​ ​ทานข้าว​เย็น​ที่​เรือน​ของ​ซื่อ​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เหอฮ​วาห​ลี่​กับ​ชี​เหนียง

ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​หลังจากนั้น​ชี​เหนียง​ก็​บอกว่า​อยาก​จะ​ไปดู​เรือน​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง

เป็นช่วง​ต้น​ฤดูร้อน​ ​เรือน​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​ติดกับ​ภูเขา​และ​แม่น้ำ​ ​ดอกไม้​ต้นไม้​เขียวขจี​ ​เรือน​หลัก​ห้า​ห้อง​ ​ข้างหน้า​คือ​ท่าเทียบเรือ​ ​ข้างหลัง​คือ​ที่พัก​ ​ข้าวของ​ที่นาง​นำมา​ถูก​จัดวาง​ตามที่​นาง​ชอบ​ ​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้ายื​นอยู​่​ใต้​ชายคา​ด้วย​ความเคารพ​ ​นาง​พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​วางแผน​ว่า​จะ​ไป​ทาน​ไส้กรอก​ข้าว​ที่​วัดฮู​่กั​๋ว

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​คน​ไปรา​ยงา​นพ​่​อบ​้าน​ไป๋​ลาน​ข้างนอก​ ​บอก​ให้​เขา​จัดการ​เรื่อง​ออกเดินทาง​ใน​วันพรุ่งนี้

ชี​เหนียง​ยิ้ม​ ​รีบ​ไล่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไป​ ​“​…​ประเดี๋ยว​เขา​จะ​ไป​นอน​ที่​เรือน​ของ​อนุภรรยา​จริงๆ​ ​เจ้า​จะ​มาคิ​ดบัญ​ชี​กับ​ข้า​”

“​พูด​อะไร​เช่นนี้​เล่า​พี่​หญิง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​ค้อน​ใส่​นาง​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่อยู่​ที่​เรือน​ ​แต่กลับ​ให้​หลิน​ปัว​มาร​อนาง

“​ท่าน​โหว​บอกว่า​ ​เชิญ​ท่าน​ไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ขอรับ​”​ ​แต่​สายตา​กลับ​มอง​ไป​ข้างหลัง​นาง​ ​ราวกับ​กำลัง​ดู​ว่า​ชี​เหนียง​ตามมา​ด้วย​หรือไม่

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้วไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ทันที

สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​ ​กำลัง​ถือ​กระดาษ​ ​ทันทีที่​เห็น​นาง​เข้ามา​ ​เขา​ก็​เอ่ย​เรียก​นาง

“​ข้า​ขอให้​โอว​หยาง​หมิง​ช่วย​ข้า​สืบ​”​ ​เขา​ยื่น​กระดาษ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หลี​่​จี้​คน​นี้​ไม่ธรรมดา​ ​เจ้า​ลองดู​สิ​!​”

สือ​อี​เหนียง​รับ​กระดาษ​มา

ล้วนแต่​เป็นเรื่อง​ของ​หลี​่​จี้​ ​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​ ​ตั้งแต่​เขา​เกิด​จนถึง​ตอนนี้​ ​สืบ​ได้​ละเอียด​มาก​ ​แม้แต่​เรื่อง​ที่​เขา​พยายาม​ฝึกฝน​ศิลปะ​การต่อสู้​ตอน​เด็ก​ ​เพราะว่า​หน้าตา​ที่​สวยงาม​ของ​ตัวเอง​ ​จึง​มักจะ​ถูก​ล้อ​ว่า​เป็นคุณ​หนู​สอง​สกุล​หลี​่​ก็​เขียน​ไว้​อย่างชัดเจน

“​เช่นนั้น​ท่าน​โหว​คิดเห็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

“​หลี​่​จี้​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​เด็ก​คน​นี้​มี​อนาคต​”

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​สายตา​ที่​ผิดหวัง​ของ​เซ่าจ​้ง​หราน​ ​“​แล้ว​คุณชาย​สกุล​เซ่า​ล่ะ​เจ้า​คะ​”

“​หาก​พูดถึง​เรื่อง​ของ​สกุล​ ​แน่นอน​ว่า​คุณชาย​เซ่า​เหมาะสม​ที่สุด​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​แต่​ไม่มีใคร​ได้รับ​ตำแหน่ง​ตั้งแต่​เกิด​ ​เป็น​มังกร​หรือว่า​เป็น​หงส์​ ​ขึ้นอยู่กับ​ความสามารถ​ของ​พวกเขา​เอง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​คุณชาย​เซ่า​อยู่​ที่​ซัง​โจว​”​ ​ยังคง​ยืนกราน​ปฏิเสธ​ที่จะ​แต่งงาน​กับ​สกุล​เซ่า​ ​“​ช่วงนี้​ข้า​จะ​หา​เวลา​ไป​สังเกต​คุณชาย​สกุล​หลี​่​คน​นั้น​อย่างละเอียด​ ​ดู​ว่า​เขา​ฉลาดเฉลียว​และ​มี​ความสามารถ​อย่างที่​ทุกคน​พูด​หรือไม่​ ​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​ค่อย​ไป​เจอ​กับ​หลี​่ฮู​หยิน​ ​ดูกัน​ไป​ก่อน​ก็​ไม่​สาย​”

ตัวเอง​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​จะ​เทียบ​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​มีบ​ริวาร​ ​มี​ช่องทาง​ใน​การ​สืบ​ภูมิหลัง​ ​นิสัย​และ​ความรู้​ของ​คนที​่​มาสู่​ขอ​ได้​อย่างไร

นาง​จึง​พยักหน้า​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยัด​กาย​ยืน​ขึ้น​ ​“​ไป​กัน​เถิด​ ​เรา​ไปหา​ท่าน​แม่​ ​ไป​เล่าเรื่อง​นี้​ให้ท่าน​แม่​ฟัง​ ​ให้ท่าน​แม่​ช่วย​ออก​ความคิดเห็น​”

เขา​มี​ข้อสรุป​ใน​ใจอยู่​แล้ว​ ​ไป​เล่า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​ ​ก็​แค่​เป็นการ​แสดง​ความเคารพ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​รับ​แล้วไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​

ไท่ฮู​หยิน​อ่าน​กระดาษ​พวก​นั้น​อย่างละเอียด​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หน้าตา​ของ​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​เป็น​เช่นไร​”

“​ยัง​ไม่เคย​เจอ​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​แต่ว่า​ผู้บัญชาการ​หลี​่​หน้าตา​หล่อเหลา​ ​คิด​ว่า​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​ก็​คงจะ​ไม่​ต่างกัน​เท่าไร​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เห็น​คุณชาย​สอง​สกุล​หลี​่​คน​นี้​ ​ทำให้​ข้า​นึกถึง​เจ้า​ตอน​เด็ก​ๆ​ ​ซน​จน​ทำให้​คน​ปวดหัว​ ​แต่​เมื่อ​ทำ​อะไร​จริงจัง​ขึ้น​มาก​็​ไม่เคย​ผิดพลาด​”

ได้ยิน​คำชม​จาก​ท่าน​แม่​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​รู้สึก​เขินอาย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท