ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 356 ไว้ทุกข์(กลาง)

ตอนที่ 356 ไว้ทุกข์(กลาง)

ยืม​ชื่อ​ของ​พ่อบ้าน​ไป๋​อย่างนั้น​หรือ

สุภาษิต​กล่าว​ไว้​ว่า​ ​‘​ผู้พิทักษ์​ของ​ขุนนาง​ชั้นสูง​เปรียบ​ดั่ง​ขุนนาง​ชั้น​เจ็ด​ใน​ราชสำนัก​’​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​เป็น​พ่อบ้าน​ใหญ่​ของ​สกุล​สวี​ ​ต่อให้​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ประจำ​ชายแดน​ก็​ยัง​ต้อง​ไว้หน้า​อยู่​บ้าง​ ​จะ​เหมือนกับ​การ​ใช้​คน​ไม่เหมาะสม​กับ​งาน​หรือไม่​

สือ​อี​เหนียง​คิด​จะ​ปฏิเสธ​ ​แต่​พอนึก​ถึง​สีหน้า​เมื่อ​ครู่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​นาง​กลับ​พูด​ออกมา​ว่า​ ​“​การ​มีพ​่​อบ​้าน​ไป๋​ออกหน้า​ให้​ ​ย่อม​เป็น​ออกแรง​น้อย​แต่​ได้ผล​ประโยชน์​มาก​”

ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​มา​พบ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​เขา​เข้ามา​ ​สาวใช้​นำ​เก้าอี้​เล็ก​มา​วาง​ไว้​ที่​หน้า​ประตู​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​บอก​เหตุผล​ที่​เรียก​เขา​มา​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​เอ่ยถึง​เรื่อง​เงิน

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

นาง​ไม่​อยาก​ให้​สินเดิม​ของ​นาง​มาปะ​ปน​กับ​กิจการ​ของ​จวน​โหว​ ​เพื่อ​ไม่​ให้​มี​ข่าว​ว่า​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​เป็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​มอบให้​นาง

เมื่อ​พ่อบ้าน​ไป๋​รู้​จุดประสงค์​ที่มา​ ​แม้ว่า​สีหน้า​ของ​เขา​จะ​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความประหลาดใจ​อย่าง​ไม่​อาจ​ปกปิด​ได้​ ​แต่​ไม่นาน​เขา​ก็​เผย​รอยยิ้ม​อย่างจริงใจ​ออกมา​ ​“​ถือว่า​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​ให้เกียรติ​ข้า​ ​เมื่อ​ร้าน​ของฮู​หยิน​มี​กำหนดการ​เปิด​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ไป​ช่วย​พูด​กับ​คน​ของ​ศาล​ว่าการ​และ​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ให้​ ​เพื่อ​รับรอง​ว่า​จะ​ไม่มีใคร​มาส​ร้าง​ปัญหา​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​จากนั้น​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​ถอย​ออก​ไป

เฉียว​เหลียน​ฝัง​มา​พบ

“​สอง​วัน​มานี​้​อากาศ​ค่อนข้าง​แห้ง​ ​ข้า​เลย​ทำ​น้ำแกง​ลูก​ท้อ​มา​ให้ฮู​หยิน​ดื่ม​ดับ​กระหาย​ด้วยตัวเอง​”​ ​นาง​พูด​พลาง​หันไป​นำ​เครื่องลายคราม​สีขาว​จาก​ถาดทอง​ลาย​ดอก​เหมย​ที่​ซิ่ว​หยวน​ถือ​อยู่​มา​วาง​ตรงหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ข้า​ทำเป็น​ครั้งแรก​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ถูกปากฮู​หยิน​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​ก็​เปิด​ฝา​ถ้วย​ออก​แล้ว​ใช้​ช้อน​ยาว​ลาย​ดอก​ซิ่งฮ​วาที​่​ทำ​จาก​เงิน​มาคน​เบา​ๆ​ ​“ฮู​หยิน​ลอง​ชิม​ดู​สักหน่อย​เถิด​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​สายตา​ที่​กระตือรือร้น​ของ​นาง​ ​พลัน​พูดไม่ออก​อยู่​ครู่ใหญ่

เหตุใด​จู่ๆ​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ถึง​ได้​กลายเป็น​คน​กระตือรือร้น​เช่นนี้​

นาง​ชำเลือง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นั่ง​อยู่​ฝั่ง​ตรงข้าม​ ​พบ​ว่า​แววตา​ของ​เขา​ฉายแวว​ประหลาดใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง

“​เมื่อ​ครู่​พึ่ง​ดื่ม​ชากั​บอา​จารย์​เจี่ยน​ไป​สอง​สาม​ถ้วย​ ​แล้วก็​ดื่ม​กับ​ท่าน​โหว​อีก​หนึ่ง​ถ้วย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เรียก​หู่​พั่ว​ ​“​นำ​ไป​เก็บ​ที่​ห้องครัว​ก่อน​ ​รอ​อีก​สักหน่อย​ค่อย​นำมา​ให้​ข้า​ดื่ม​”

หู่​พั่ว​ตอบรับ​ ​รับ​ถ้วย​น้ำแกง​มา​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

เฉียว​เหลียน​ฝัง​หย่อน​กาย​นั่งลง​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง

“​ฝีมือ​เย็บ​ปัก​ของฮู​หยิน​ดี​ขนาด​นี้​ก็​ยัง​หา​เวลา​มาเรียน​เย็บ​ปัก​กับ​อาจารย์​เจี่ยน​ทุกวัน​ ฮู​หยิน​ ​หาก​ท่าน​ไม่รังเกียจ​ว่า​ข้า​โง่​ ​ตอน​ท่าน​ไป​ช่วย​พา​ข้า​ไป​ด้วย​ได้​หรือไม่​ ​ข้า​เอง​ก็​อยาก​จะ​ถือโอกาส​นี้​เรียน​งาน​เย็บ​ปัก​จาก​อาจารย์​เจี่ยน​เช่นกัน​”

“​รอ​อีก​สักหน่อย​เถิด​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​อาจารย์​เจี่ย​นอาจ​จะ​ยุ่ง​อยู่เล็ก​น้อย​”

และ​ใน​ภายภาคหน้า​นาง​ก็​จะ​ยุ่ง​มากกว่า​เดิม​ ​เดา​ว่า​คง​ไม่มีเวลา​มาสอน​เจ้า​แล้ว​!

นาง​บ่น​อยู่​ใน​ใจ

เฉียว​เหลียน​ฝัง​มีสี​หน้า​ผิดหวัง​ ​“​ไม่รู้​ว่า​เมื่อไร​ถึง​จะ​ได้​คำแนะนำ​จาก​อาจารย์​เจี่ยน​ ​ข้า​กะ​ว่า​จะ​ทำ​เสื้อ​ให้ฮู​หยิน​”

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​เหงื่อ​แตก​พลั่ก​ ​“​อาจารย์​เจี่ยน​ไม่ได้​จะ​ไป​เร็ว​ๆ​ ​นี้​ ​ต่อไป​ถ้า​มีโอกาส​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

ขณะที่​พวก​นาง​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​เดิน​เข้ามา

นาง​เห็น​ความประหลาดใจ​บน​ใบหน้า​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ก้มหน้า​ลง​ ​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่างนอบน้อม​ ​นำ​ห่อ​ผ้า​จาก​มือ​ของ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ส่ง​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋​นที​่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​รองเท้า​หก​คู่​กับ​กระโปรง​หนึ่ง​ตัว​ที่​ข้า​ทำให้ฮู​หยิน​เมื่อ​หลาย​วัน​มานี​้​”​ ​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​เสียง​เบา​เหมือนกับ​ยุง​ ​ดู​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​เป็นอย่างมาก

“​ขอบคุณ​ฉิน​อี๋​เหนียง​มาก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ส่งสัญญาณ​ให้​สาวใช้​ยก​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​มา​ให้​นาง

นาง​คำนับ​ขอบคุณ​แล้ว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​อย่างระมัดระวัง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เดิน​เข้ามา

เมื่อ​เห็น​คน​เต็ม​ห้อง​ก็​ตะลึง​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​วันนี้​เรือนฮู​หยิน​ช่าง​ครึกครื้น​เสีย​จริง​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​สาวใช้​ที่อยู่​ด้านหลัง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ถือ​เตาผิง​พกพา​ที่​ทำ​จาก​ไม้​ไผ่​เซียง​เฟ​ยอยู​่​ใน​มือ​ ​ให้​คน​ยก​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​มา​ให้​นาง​นั่ง​แล้ว​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​ถึง​ได้​ถือ​เตาผิง​พกพา​มาด​้วย​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รีบ​วาง​เตา​ลง​บน​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​ดู​สิว​่า​งานฝีมือ​นี้​เป็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

เป็น​รูปไข่​ ​ขนาดเล็ก​กว่า​ชาม​ลายคราม​ ​มี​การเคลือบ​เงา​ ​สามารถ​มองเห็น​จุด​สีม่วง​ได้​อย่างชัดเจน​ ​ขนาดเล็ก​กะทัดรัด​ ​ดู​น่ารัก​เป็นอย่างมาก

“​ไม่เลว​เลย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​นาง​อย่าง​ไม่เข้าใจ

การ​ซื้อ​เตาผิง​พกพา​หรือ​อะไร​ทำนอง​นั้น​ล้วน​เป็นความ​รับผิดชอบ​ของ​ผู้ดูแล​เรือน​นอก​ ​เรือน​ใน​เพียงแค่​รายงาน​จำนวน​ที่​ต้องการ​ก็​พอแล้ว​ ​ทางเรือ​นน​อก​จะ​นำ​เตาผิง​พกพา​มา​เติมเต็ม​ให้​ครบ​ตาม​จำนวน​ก่อน​และ​หลัง​ฤดูหนาว

“​นี่​คือ​รูปแบบ​ใหม่​ของ​หลี​่​จี้​ใน​ปีนี​้​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ข้า​อยาก​ซื้อ​ให้​คุณหนู​ใหญ่​หนึ่ง​คู่​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​บุตร​เขย​จะ​คิด​ว่า​ดู​ไม่สมฐานะ​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​นำ​มัน​มา​ให้ท่าน​ดูก่อน​ ​ท่าน​มี​ความคิดเห็น​อย่างไรบ้าง​”

“​ถึงอย่างไร​เตาผิง​พกพา​ก็​ต้อง​มี​หลาย​เตา​ ​เจ้า​ช่วย​เตรียม​ให้​นาง​หลาย​ๆ​ ​แบบ​ก็​พอแล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ไม้​ไผ่​หมายถึง​สุภาพบุรุษ​ที่​รู้หนังสือ​ ​ไม่แน่​บุตร​เขย​อาจจะ​รู้สึก​ว่า​สง่างาม​”

​“ฮู​หยิน​กล่าว​เช่นนี้​ข้า​ก็​สบายใจ​แล้ว​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ใบหน้า​ก็​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​ซื้อ​สัก​ห้า​เตา​ ​แล้ว​ให้​หลี​่​จี้​แกะสลัก​อักษร​ ​‘ฝู​ลู่​โซ่ว​ฉี่​กุ้ย​’​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไม่เคย​ลืม​คำมงคล​เลย​แม้แต่​นาที​เดียว​!

สือ​อี​เหนียง​พยายาม​กลั้น​หัวเราะ​ ​“​ข้าว​่า​แบบนี้​ก็ดี​มาก​แล้ว​…​”

แต่ก่อน​ที่นาง​จะ​พูด​จบ​ใน​ห้อง​ก็​มี​คน​หลุด​ขำ​ออกมา

ทุกคน​มอง​ไป​ตาม​เสียง​ก็​เห็น​เฉียว​เหลียน​ฝัง​เอา​มือ​ปิดปาก​ด้วย​ใบหน้า​แดงก่ำ

“​ข้า​ ​ข้า​…​”​ ​นาง​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ​เมื่อ​เห็น​สายตา​ของ​ทุกคน​ ​ก็

มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่าง​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​ ​แต่กลับ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​ถือ​เตาผิง​พกพา​ไม้​ไผ่​เซียง​เฟย​ขึ้น​มาดู

“​นี่​เป็น​รูปแบบ​ใหม่​ของ​หลี​่​จี้​ใน​ปีนี​้​หรือ​”​ ​เขา​เงยหน้า​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พวกเรา​ก็​สั่ง​สัก​สอง​สาม​เตา​เถิด​”​ ​เขา​ไม่ได้​ใส่ใจ​คนอื่นๆ​ ​มาก​นัก

สือ​อี​เหนียง​รับคำ

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ว่า​ ​“​ไม้​ไผ่​ดี​ๆ​ ​จะ​ไป​แกะสลัก​ตัวอักษร​ทำไม​ ​แค่นี้​ก็​พอแล้ว​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​ว่า​แม้​คำพูด​ของ​เขา​จะ​ดู​ไม่พอใจ​ ​แต่​น้ำเสียง​ดู​เรียบ​เฉย​ ​และ​เป็นการ​ตัดสินใจ​เรื่อง​สินสอดทองหมั้น​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​รีบ​ตอบรับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​ทิ้ง​เตา​นั้น​ไว้​ที่​เรือน​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เตา​นี้ฮู​หยิน​เก็บ​ไว้​ใช้​เถิด​ ​ในเมื่อ​ท่าน​โหว​บอกว่า​จวน​เรา​ก็​ต้อง​ซื้อ​มา​ไว้​หลาย​ๆ​ ​เตา​ ​เตา​นี้​ก็​ถือ​เสียว​่า​เอา​ไป​ให้​ลอง​ใช้​ดูก่อน​ว่า​จะ​ใช้​ดี​หรือไม่​”

ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​เงิน​ของ​ส่วนกลาง​ ​ไม่ได้​ลดราคา​ ​แต่​คนที​่​ไป​สั่งของ​จะ​ได้​ของแถม​มา​หนึ่ง​อัน

ไม่​เสียแรง​ที่​ทำ​กิจการ​ ​นับว่า​เข้าใจ​กลอุบาย​ที่​คน​ทำ​กิจการ​ใช้​กัน​เป็นประจำ

สือ​อี​เหนียง​อด​ยิ้ม​ไม่ได้

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​กำชับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​อย่า​ลืม​นำ​เงิน​ค่า​เตา​หลอม​นี้​ไป​คำนวณ​รวม​ให้​หลี​่​จี้​ด้วย​”

รอยยิ้ม​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แข็งทื่อ​ ​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ก็​หยุดชะงัก​ไป​เช่นกัน

ตี​คน​ไม่​ตบหน้า​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ไว้หน้า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เลย​สักนิด

สือ​อี​เหนียง​ลอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ​ ​พูด​แก้ต่าง​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​ท่าน​โหว​ไม่​อยาก​แสวงหาผลประโยชน์​จาก​ประชาชน​ ​แต่ว่า​พวกเรา​อยาก​จะ​สั่งของ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จาก​หลี​่​จี้​ ​หาก​หลี​่​จี้​รู้​เข้า​ก็​ต้อง​แถม​ให้​หนึ่ง​ชิ้น​อยู่ดี​ ​พวกเรา​ไม่​ตอบ​ตกลง​ได้​อย่างไร​ ​พวกเขา​เอง​ก็​มอบให้​ด้วย​ความจริงใจ​ ​ดังนั้น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จึง​ต้อง​อาศัย​สถานการณ์​นี้​เพื่อ​เติมเต็ม​มิตรภาพ​ของ​พวกเขา​ ​แต่​ในเมื่อ​ท่าน​โหว​พูด​เช่นนี้​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​พวกเรา​จะ​คำนวณ​เงิน​ค่า​เตาผิง​พกพา​นี้​ให้​หลี​่​จี้​อย่างชัดเจน​เจ้าค่ะ​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พึ่ง​ได้สติ​กลับมา​ ​ฝืนยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ใช่​แล้ว​เจ้าค่ะ​ท่าน​โหว​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​เรา​จะ​คำนวณ​เงิน​ค่า​เตาผิง​พกพา​นี้​ให้​หลี​่​จี้​อย่างชัดเจน​”​ ​แต่​สายตา​กลับ​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความ​ซาบซึ้งใจ​เป็นอย่างมาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​กำชับ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นว​่า​ ​“​เจ้า​ไปดู​กับ​อี๋​เหนียง​ว่า​พวกเรา​ต้อง​สั่ง​เตา​พกพา​กัน​กี่​เตา​ ​ถึง​เวลา​นั้น​จะ​ได้​ไป​บอก​กับ​ผู้ดูแล​เรือน​นอก​”

“​แค่​ซื้อ​ให้ท่าน​แม่​ ​เจ้า​ ​แล้วก็​น้อง​สะใภ้​ห้า​ก็​พอแล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​เตาผิง​พกพา​แบบนี้​พอใช้​แก้ขัด​ได้​อยู่​ ​แต่​หาก​พูด​เรื่อง​ความอบอุ่น​ ​เป็น​เตา​กระเบื้องเคลือบ​จะ​ดีกว่า​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ที่นั่ง​อยู่​เงียบๆ​ ​เหมือน​คน​ล่องลอย​ ​เมื่อ​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​เงยหน้า​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความหวาดกลัว​ ​แล้ว​รีบ​ก้มหน้า​ลง

ไม่มีใคร​ใน​ห้อง​สังเกตเห็น​ความผิดปกติ​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​สับสน​กับ​การ​เปลี่ยนไป​เปลี่ยน​มา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

วันนี้​เป็น​อะไร​ไป​ ​ตอนแรก​ก็​หักหน้า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​หักหน้า​ตน​…

แต่​นาง​กลับ​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลุกขึ้น​ ​“​ข้า​ยัง​มีธุระ​ ​ต้อง​ออก​ไป​ข้างนอก​”

สือ​อี​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​ ​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ย่อเข่า​คำนับ​ส่ง​เขา​ออก​ไป

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​เล็ก​ๆ​ ​หลัง​ห้อง​หนังสือ​เรือน​นอก​ ​ให้​บ่าว​รับใช้​ใน​ห้อง​ออก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​กล่อง​ไม้จันทน์​สีแดง​ออกมา​จาก​ช่อง​ลับแล​้ว​หยิบ​ตั๋วเงิน​ออกมา​สิบ​ใบ

ทันใดนั้น​ใน​สมอง​ของ​เขา​ก็​ปรากฏ​ให้​เห็น​ดวงตา​ที่​เปล่งประกาย​เหมือน​ดวงดาว​ใน​ยาม​พลบค่ำ

อะไร​ที่หมาย​ความ​ว่า​อย่างไร​เสีย​หลี​่​จี้​ก็​ต้อง​แถม​ของ​ให้​หนึ่ง​ชิ้น​ ​อะไร​คือ​การ​ที่​อาศัย​โอกาส​เพื่อ​เติมเต็ม​มิตรภาพ​ของ​พวกเขา​ ​นี่​มัน​เหลวไหล​ชัดๆ​!

แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​พอ​เขา​นึกถึง​ตอนที่​นาง​พูดจา​เหลวไหล​อย่างจริงจัง​ ​มุม​ปาก​ก็​ยกขึ้น​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​โดยไม่รู้ตัว

สวี​ลิ่ง​อี๋​นำ​ตั๋วเงิน​ออกมา​อีก​สิบ​ใบ​ ​จากนั้น​ก็​นำ​กล่อง​วาง​กลับ​ไป​ที่​เดิม​ ​หา​ถุงเงิน​มา​ใส่​ตั๋วเงิน​ ​แล้ว​หยิบ​หนังสือ​มานอ​นอ​่า​นบน​เก้าอี้​จุ้ย​เวิง

นอน​อ่านหนังสือ​บน​เก้าอี้​จุ้ย​เวิง​จะ​ทำให้​ตาลาย​…​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ไม่ได้​จะ​อ่านหนังสือ​แต่​กำลัง​ครุ่นคิด​บางอย่าง​อยู่​ใน​ใจ

หลิน​ปัว​ที่​เข้ามา​ปรนนิบัติ​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้วไป​ยก​ชาต​้า​หง​เผา​มา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋

สวี​ลิ่ง​อี๋​ลุกขึ้น​มาดื​่ม​ชา

หลิน​ปัว​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ยิ้ม​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​จะ​เปิดร้าน​หรือ​ขอรับ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ว่า​ ​“​อืม​!​”

หลิน​ปัว​เห็น​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดู​อ่อนโยน​และ​สบาย​ๆ​ ​ใจ​ของ​เขา​ก็​เต้น​ระรัว​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่​ช่วยฮู​หยิน​หรือ​ขอรับ​ ​ตอน​คุณชาย​เฉียน​หมิง​ ​ผู้บัญชาการ​ฟั่น​ก็​มาถา​มท​่าน​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ท่าน​บอกว่า​คุณชาย​เฉียน​หมิง​มีทรัพย์​สิน​น้อย​ ​ขอ​เพียงแค่​ไม่​คิด​ทำ​กิจการ​ก็​พอแล้ว​ ​มิเช่นนั้น​ผู้บัญชาการ​ฟั่น​จะ​ช่วย​ยก​เงิน​ค่าภาษี​ให้​คุณชาย​เฉียน​หมิง​ได้​อย่างไร​ ​ตอนนี้ฮู​หยิน​จะ​เปิดร้าน​แล้ว​ ​แล้วยัง​เป็น​เพียง​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​เล็ก​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​เหตุใด​ท่าน​โหว​ไม่​…​”

“​พูดจา​เหลวไหล​อะไร​!​”​ ​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แหลมคม​ราวกับ​ลูกธนู​ ​หลิน​ปัว​หวาดกลัว​จน​ตัวสั่น​สะท้าน​ไป​ทั้งตัว​ ​“ฮู​หยิน​ดูแล​สินเดิม​ของ​ตัวเอง​ ​ข้า​จะเข้า​ไป​ยุ่งเกี่ยว​ได้​อย่างไร​”

หน้าผาก​ของ​หลิน​ปัว​เต็มไปด้วย​เม็ด​เหงื่อ​ ​รีบ​คุกเข่า​ลง​เสียงดัง​ตรงหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​ ​เป็น​บ่าว​ที่​คิด​ไม่​รอบคอบ​ไป​ชั่วขณะ​ ​ต่อไป​ไม่กล้า​แล้ว​ขอรับ​!​”

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หม่นหมอง​ลง​เล็กน้อย​ ​“​เจ้า​ออก​ไป​เถิด​”

หลิน​ปัว​เดิน​ถอย​ออก​ไป​ด้วย​ความ​สั่น​กลัว

สวี​ลิ่ง​อี๋​นอน​โยก​เก้าอี้​จุ้ย​เวิ​งอยู​่​นาน​ ​เห็น​ว่า​ล่วงเลย​เวลา​มามาก​แล้วจึง​ค่อยๆ​ ​เดิน​กลับ​เรือน​หลัก

สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ปัก​งาน​เย็บ​ปัก​ที่​ปัก​มาค​รึ​่ง​ปี​แล้วก็​ยัง​ไม่เสร็จ​อยู่​บน​เตียง​เตา

“​ทุกคน​ไป​แล้ว​หรือ​”​ ​เขา​พูด​พลาง​นั่งลง​บน​เตียง​นั่ง

สือ​อี​เหนียง​วาง​เข็ม​กับ​ด้าย​ลง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือ​”​ ​จากนั้น​ก็​ให้​สาวใช้​น้อย​มา​เก็บ​อุปกรณ์​เย็บ​ปัก​ไป​ไว้​ที่​ชั้นวางของ​ ​ริน​น้ำชา​ให้​เขา​ ​เมื่อ​เด็ก​ๆ​ ​พากั​นมา​คารวะ​แล้วก็​ไป​ทานอาหาร​เย็น​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน​ ​เขา​ยัด​ถุงเงิน​ที่​ใส่​ตั๋วเงิน​ไว้​ใต้​หมอน​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ไป​ล้างหน้าล้างตา

เช้า​วันรุ่งขึ้น​เมื่อ​ตื่น​มา​เขา​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้าวาง​ถุงเงิน​ไว้​ใต้​หมอน​ของ​เจ้า​”​ ​แล้วก็​ไป​ที่​เรือน​นอก​ทันที

สือ​อี​เหนียง​เปิด​ถุงเงิน​ดู​ ​ข้างใน​มีตั​๋ว​เงิน​มูลค่า​สอง​หมื่น​ตำลึง

นาง​เหงื่อ​แตก​พลั่ก​ ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ไป​ชั่วขณะ

มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ ​“​สะใภ้​หลิว​หยวน​รุ่ย​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​หยุด​ความคิด​แล้ว​ลุกขึ้น​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันตก​ ​เมื่อ​บอก​ถึง​จุดประสงค์​ที่​เรียก​นาง​มา​ ​สะใภ้​หลิว​หยวน​รุ่ย​ก็ดี​ใจ​เป็นอย่างมาก

“ฮู​หยิน​ ​คนใน​ครอบครัว​เรา​ล้วน​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​ให้​เขา​ช่วย​ขับรถ​ม้า​ให้​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​เมื่อถึง​เวลา​ก็​จะ​ได้​ช่วย​ทำงาน​ที่​ต้อง​ใช้​แรงงาน​ได้​ ​สำหรับ​เรือน​ที่อยู่​ทาง​ด้านลั​่ว​เย​่ว​์​ก็​สามารถ​ให้​เซิ​่ง​ชุน​บุตรชาย​คน​รอง​ของ​เรา​ช่วย​ดู​ให้​ได้​ ​เขา​เป็น​เด็ก​ซื่อสัตย์​ ​ไม่​เดิน​ไป​ทั่ว​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”

หลังจาก​ปีใหม่​ ​เจียง​ปิ​่ง​เจิ​้​งก​็​มาลา​สือ​อี​เหนียง​ ​บอกว่า​อยาก​กลับ​ไป​เยี่ยม​อวี​๋​หัง​ ​แต่​ความจริง​แล้ว​เป็น​เพราะ​สือ​อี​เหนียง​ให้เงิน​น้อย​ ​และ​มักจะ​กำชับ​ให้​เขา​ทำ​โน่น​ทำ​นี่​อยู่​บ่อยๆ​ ​เขา​คิดไปคิดมา​จึง​ตัดสินใจ​ลาออก​จาก​งาน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​แล้ว​ตั้งใจ​ไป​เป็น​เถ้าแก่​ร้าน​ผ้าไหม

สือ​อี​เหนียง​ทำเป็น​ไม่รู้​ ​ให้เงิน​เขา​ยี่สิบ​ตำลึง​ ​บอกว่า​เป็น​ค่าเดินทาง​ ​เขา​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เรือน​ที่นั่น​อยู่​ค่อนข้าง​ไกล​ ​จึง​ให้​หลิว​หยวน​รุ่ย​ช่วย​ดู​เรือน​ที่นั่น​ให้

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท