ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 365 เรื่องราวของฤดูใบไม้ผลิ(กลาง)

ตอนที่ 365 เรื่องราวของฤดูใบไม้ผลิ(กลาง)

“​ไม่จำเป็น​ต้อง​ใช้​ของดี​ขนาด​นั้น​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ข้า​ยัง​มี​ผ้า​ทอ​ซง​เจียง​อยู่​ใน​หีบ​ ​ใช้​ผ้า​นั้น​ทำ​ถุงเท้า​ให้​เจี​้ย​เกอ​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​ลี่ว​์​อวิ​๋​นที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​เปิด​หีบ​นำ​ส่ง​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง

ในเมื่อ​มอบให้​ไป​แล้ว​ ​ก็​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​เอา​กลับคืน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​เก็บ​ไว้​ใช้​เอง​เถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เสียหน้า​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ขอบคุณ​ ​แต่กลับ​อด​ไม่ได้​จะ​บ่น​เขา​ตัวต่อตัว​ ​“​เด็ก​ๆ​ ​โตกัน​หมด​แล้ว​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ต้อง​คิด​ให้​ดีเจ​้า​ค่ะ​ ​เช่นเดียวกับ​เมื่อ​ครู่​ ​ในเมื่อ​ท่าน​มอบให้​เจี​้ย​เกอ​แล้ว​ ​ก็​ต้อง​มอบให้​อวี​้​เกอ​และ​จุน​เกอ​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เจี​้ย​เกอ​ไม่​เหมือนกัน​ ​เขา​ยัง​เด็ก​!​”

เพราะว่า​เป็น​หลานชาย​ของ​ตัวเอง​ใช่​หรือไม่​!

สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​สาวใช้​เหล่านั้น​ ​ยกย่อง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ต่อหน้า​นาง​ ​แต่​ลับหลัง​กลับ​พากั​นนิน​ทา​พูดถึง​มารดา​แท้ๆ​ ​ของ​เขา​

นาง​พูด​อย่าง​คลุมเครือ​ ​“​บน​โลก​ใบ​นี้​กำแพงมีหูประตูมีช่อง​ ​แทนที่​ต่อไป​เขา​จะ​คิด​ว่า​เรา​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ไม่​เหมือน​คนอื่น​แล้ว​เสียใจ​ ​ไม่​สู้​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ให้​เหมือนกับ​ลูก​ของ​ตัวเอง​ ​เข้มงวด​ตอนที่​ควร​เข้มงวด​ ​ตามใจ​ตอนที่​ควร​ตามใจ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​ ​สักพัก​ก็​ถอนหายใจ​แล้ว​ตอบ​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​ปีนี​้​พี่เขย​ห้า​จะเข้า​ร่วม​การ​สอบ​ฮุ่ย​ซื่อ​ ​ข้า​อยาก​จะ​สั่ง​ชุด​เครื่องเขียน​ที่​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋อ​ไป​ให้​เขา​ ​ท่าน​คิดเห็น​เช่นไร​บ้าง​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ ​“​ตอนนี้​ไม่​นิยม​มอบ​ชุด​เครื่องเขียน​กัน​แล้ว​ ​นิยม​มอบ​ภาพ​จอ​หงวน​มากกว่า​ ​ข้า​คิด​ว่า​สั่ง​ภาพ​ของ​หอ​ชุน​ซี​ไป​ให้​เขา​จะ​ดีกว่า​”

ขณะที่​เขา​กำลัง​พูด​อยู่​ ​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ใต้เท้า​หม่ามา​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​แอบ​ตกใจ

หม่า​จั่ว​เหวิน​ทำงาน​อยู่​ที่​คณะ​ราชทูต​ ​มาหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดึก​ขนาด​นี้​ ​มัน​ไม่ใช่​เรื่องเล็ก​แน่นอน​!

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​เคร่งขรึม​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยนเสื้อ​ให้​เขา​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ส่ง​เขา​ที่​หน้า​ประตู​ลาน​เงียบๆ

เวลา​ผ่าน​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​ก้านธูป​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา

เขา​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ฮ่องเต้​ทรง​ยกเลิก​การคัดเลือก​พระสนม​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​ปีนี​้​ ​เพราะว่า​ไท​เฮา​ทรงพระ​ประชวร​ ​จะ​ประกาศ​พระราช​โองการ​พรุ่งนี้​เช้า​”

อาการ​ของ​ไท​เฮา​ไม่ดี​ขึ้น​เลย​ ​วัน​สิ้นปี​และ​เทศกาล​โคมไฟ​ใน​พระราชวัง​ก็​ไม่ได้​จุด​ดอกไม้ไฟ​ ​โคมไฟ​ของ​เทศกาล​โคมไฟ​ใน​วัน​ขึ้น​สิบห้า​ค่ำ​ของ​เดือน​หนึ่ง​ก็​ไม่​สว่างไสว​เหมือน​ปีก่อน​ๆ​

แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​ใช้​เรื่อง​นี้​เป็น​ข้ออ้าง​ยกเลิก​การคัดเลือก​พระสนม

สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ​ ​ยิ่ง​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคร่งเครียด​กับ​เรื่อง​นี้​ ​จึง​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​มี​อะไร​ผิดปกติ​หรือ​เจ้า​คะ​ ​อย่างน้อย​ไท​เฮา​ก็​รู้​ว่า​ฮ่องเต้​หมายความว่า​อะไร​ ​นาง​จะ​ได้​ไม่​หา​ข้ออ้าง​ส่ง​คน​มา​ให้​ฮ่องเต้​อีก​!​”

“​แต่​ข้า​กลับ​อยาก​ให้​นาง​ส่ง​คน​มา​ให้​ฮ่องเต้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​“​ใน​พระราชวัง​มี​ฮองเฮา​ ​มี​หวง​กุ้ย​เฟย​ ​เร็ว​ๆ​ ​นี้​ยัง​มีส​วี่​เหม่ย​เห​ริน​ที่​เป็น​ที่​โปรดปราน​…​ ​“

เป็นเรื่อง​จริง​ ​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​คือ​สามีภรรยา​กัน​ ​สกุล​โอว​สามารถ​เลื่อน​เป็น​หวง​กุ้ย​เฟย​ได้​ภายใน​เวลา​แค่​สอง​ปี​ ​และ​สกุล​สวี​่​ที่มา​ทีหลัง​แต่กลับ​เป็น​ที่​โปรดปราน​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​เกรง​ว่า​ไม่ใช่​คนที​่​รับมือ​ได้​ง่าย​ ​หาก​สกุล​หยาง​คน​นั้น​เข้ามา​แล้วก็​ใช่​ว่า​จะ​เป็น​ที่​โปรดปราน

เมื่อ​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​ตกใจ

สกุล​หยาง​ไม่​ค่อย​มีอำนาจ​ใน​ราชสำนัก​ ​หาก​ไท​เฮา​อยาก​จะ​รักษา​ความร่ำรวย​ของ​สกุล​หยาง​เอาไว้​หลังจากที่​ตัวเอง​สิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​วิธี​เดียว​ก็​คือ​แต่งงาน​กับ​เชื้อพระวงศ์​อีกครั้ง​ ​เรื่อง​นี้​ ​ไท​เฮา​ไม่มีทาง​ยอมแพ้​ ​และ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​สาม​เดือน​กว่า​แล้ว​ ​แต่กลับ​ไม่มี​ข่าวดี​อะไร​ ​ว่า​กัน​ว่า​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​องค์​หญิง​ใหญ่ฝู​เฉิง​ถึงกับ​ไป​จุด​ธูป​ขอ​ลูก​ให้​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ด้วยตัวเอง

นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ลังเล​ ​“​ท่าน​เป็นห่วง​องค์​ชาย​ใหญ่​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​“​องค์​ชาย​ใหญ่​ยัง​เด็ก​ ​หาก​ไท​เฮา​ทำสำเร็จ​ ​ข้า​เกรง​ว่า​เขา​จะ​ใจอ่อน​ ​ปล่อย​ให้​สกุล​หยาง​ตั้งครรภ์​ ​เช่นนั้น​คงจะ​วุ่นวาย​!​”

ความรัก​นั้น​มีทั​้ง​รักแรก​พบ​ ​และ​ความรัก​ที่​ก่อเกิด​จาก​การ​อยู่​ด้วยกัน​มานาน​ ​เรื่อง​แบบนี้​ ​พูด​ยาก​จริงๆ

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ค่อนข้าง​วุ่นวาย

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบายใจ​เพราะ​คำพูด​ของ​ตัวเอง​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ปลอบ​นาง​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​กังวล​ ​ข้า​ส่ง​คน​ไป​บอก​ซื่อ​เจิง​แล้ว​ ​เขา​ก็​ไม่ใช่​คนที​่​ยอม​อะไร​ง่ายๆ​ ​เพื่อ​อนาคต​ของ​สกุล​ ​เขา​จะ​ต้อง​มีแผน​การ​รับมือ​แน่นอน​”

ขอให้​เป็น​เช่นนั้น​เถิด​!

สือ​อี​เหนียง​ไม่มีความคิด​เห็น​อะไร​ ​นาง​ถอนหายใจ​แล้ว​เตรียม​ที่จะ​พักผ่อน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

แต่กลับ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​ใต้เท้า​โจว​มา​ขอรับ​!​”

พวกเขา​สอง​คน​ต่าง​ก็​ตกใจ

ทันใดนั้น​ข้างนอก​ก็​มีเสียง​รองเท้า​กระทบ​พื้น​ดัง​เข้ามา​ ​จากนั้น​ก็​มี​คน​เรียกชื่อ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ลิ่ง​อี๋​ ​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​เจ้า​!​”

เขา​คือ​โจว​ซื่อ​เจิง

สวี​ลิ่ง​อี๋​สวม​เสื้อคลุม​แล้ว​ออก​ไป​ที่​ห้องโถง

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ก็​กลับมา

“​เป็น​เช่นไร​บ้าง​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ต้อนรับ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​ซื่อ​เจิง​บอกว่า​ ​แทนที่จะ​ปล่อย​ให้​สกุล​หยาง​รับใช้​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​ไม่​สู้​เลือก​คนที​่​โดดเด่น​และ​มีนิ​สัย​อ่อนโยน​ของ​สกุล​โจว​ไปรับ​ใช้​องค์​ชาย​ใหญ่​เสียดี​กว่า​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​คิด​ว่า​…​”

“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​เข้าเฝ้า​ฮองเฮา​ ​เล่า​เจตนา​ของ​สกุล​โจว​ให้​ฮองเฮา​ได้​ฟัง​”

เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​เห็นด้วย​กับ​การตัดสินใจ​นี้

สือ​อี​เหนียง​นิ่งเงียบ

ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​ได้​สาม​เดือน​กว่า​เอง​…

วัน​ต่อมา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​พระราชวัง​ ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​เย็บปักถักร้อย​อยู่​บน​เตียง​เตา

มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​มี​จดหมาย​มาจาก​อวี​๋​หัง​เจ้าค่ะ​”

กลางเดือน​สิบสอง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ส่งจดหมาย​มา​ ​บอกว่า​พวกเขา​ถึง​อวี​๋​หัง​อย่างปลอดภัย​แล้ว​ ​นายท่าน​ใหญ่​ตั้งชื่อ​ให้​คุณชาย​เจ็ด​ว่า​ ​‘​เจิ​้น​หง​’

สือ​อี​เหนียง​กวาดล้าง​อารมณ์​หดหู่​ตั้งแต่​เมื่อคืน​ออก​ไป​ ​นาง​รีบ​เปิด​จดหมาย​ดู

ครั้งนี้​เป็น​จดหมาย​ของ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ ​เขา​บอก​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​คลอด​บุตรสาว​ใน​วัน​ขึ้น​สิบ​ค่ำ​เดือน​สิบสอง​ ​นายท่าน​ใหญ่​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ตั้งชื่อ​ให้​นาง​ด้วยตัวเอง​ว่า​ ​‘​อิง​เหนียง​’​ ​แล้วยัง​บอกว่า​คนใน​ครอบครัว​สบายดี​ ​บอก​นาง​ไม่ต้อง​เป็นห่วง

เป็น​บุตรสาว​!​ ​บุตรสาว​คนโต​ของ​สกุล​หลัว​รุ่น​นี้

สือ​อี​เหนียง​นับวัน​ดู​ ​อิง​เหนียง​คงจะ​ครบ​เดือน​แล้ว

นาง​เรียก​หู่​พั่ว​เข้ามา​ ​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​นาง​ฟัง​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ส่ง​คน​ไป​ทำ​สร้อยคอ​ทองคำ​ ​’​ขอให้​สมปรารถนา​’​ ​แล้วก็​ทำ​กำไล​ข้อเท้า​หนึ่ง​คู่​ส่ง​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​ ​เป็น​ของขวัญ​ที่​ข้าม​อบ​ให้​อิง​เหนียง​ ​แล้วก็​ไป​เปิด​หีบ​ ​นำ​ผ้า​เก๋​อปู​้​เนื้อ​ละเอียด​ที่​พระราชวัง​มอบให้​เมื่อ​ฤดูร้อน​ปีก่อน​ส่ง​ไป​ด้วย​สัก​สอง​สาม​ผืน​ ​นำ​ไป​ตัดเสื้อ​ผ้า​ให้ท่า​นพ​่อ​และ​คุณชาย​ทั้งสอง​คน​”

หู่​พั่ว​ยิ้ม​รับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

เมื่อ​รู้​ว่า​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​คลอด​บุตรสาว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พยักหน้า​พลาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ออกดอก​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ออกผล​ ​เด็ก​คน​นี้​มา​ได้เวลา​พอดี​!​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​ป้า​ตู้​นำ​เงิน​ยี่สิบ​สอง​ตำลึง​เงิน​ออกมา​มอบ​เป็น​ของขวัญ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ก็​นำ​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​ให้​ข้า​ด้วย​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ป้า​ตู้​ ​“​ไป​บอก​สะใภ้​ห้า​ด้วย​”​ ​บอก​ให้​นาง​มอบ​ของขวัญ​ด้วย​เช่นกัน

นี่​คือ​การ​เป็นหน้าเป็นตา​ให้​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ขอบคุณ​ ​ทานข้าว​กลางวัน​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​รับใช้​ไท่ฮู​หยิน​พักผ่อน​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง

ยาม​บ่าย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา

สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ต้อนรับ​ ​“​ท่าน​ทานข้าว​หรือยัง​เจ้า​คะ​”

หาก​ทาน​ใน​พระราชวัง​ ​ต้อง​ทาน​ไม่​อิ่ม​แน่นอน

“​ทาน​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอด​เสื้อคลุม​ออก​ ​“​ทาน​กับ​ซื่อ​เจิง​”

“​ฮองเฮา​ว่า​เช่นไร​บ้าง​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รับใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล้างหน้าล้างตา

“​ฮองเฮา​ทรง​บอก​กับ​ซื่อ​เจิง​ว่า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​”​ ​เขา​เช็ดหน้า​ ​“​บอกว่า​ฮ่องเต้​รู้อยู่​แล้ว​”

ฮ่องเต้​รู้อยู่​แล้ว​?​ ​รู้​อะไร

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​แตะ​จมูก​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​มัน​คือ​เรื่อง​ดี​”​ ​เขา​ดู​ไม่​เครียด​เหมือน​เมื่อวาน​ ​แต่กลับ​ดู​มีความสุข​ ​เอ่ย​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ทำไม​วันนี้​ถึง​เงียบ​เช่นนี้​ ​เจี​้ย​เกอ​และ​จุน​เกอ​เล่า​”

“​อาจารย์​จ้าว​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​จุน​เกอ​จึง​พา​เจี​้ย​เกอ​ไปหา​อาจารย์​จ้าว​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ครุ่นคิด​ ​“​เช่นนั้น​ ​ก็​ให้​เจี​้ย​เกอ​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ซวงฝู​เถิด​!​ ​เช่นนี้​พวกเขา​จะ​ได้​มี​เพื่อน​”

“​มัน​จะ​เร็ว​เกินไป​หรือไม่​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยปี​นี้​พึ่ง​จะ​สี่​ขวบ

“​ไม่ได้​คาดหวัง​ให้​เขา​เรียนรู้​อะไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​เรียน​ไป​ก่อน​สอง​ปี​แล้ว​ค่อย​เริ่ม​เรียน​จริงจัง​”

เขา​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มักจะ​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ใน​ช่วง​เทศกาล​ตรุษจีน​บ่อยๆ​ ​แล้วยัง​หอม​เขา​เป็นครั้งคราว​ ​ไม่เคย​เห็น​นาง​ตะโกน​เสียงดัง​ใส่​ลูก​ ​จึง​คิด​ว่านาง​ตามใจ​ลูก​เกินไป​ ​กลัว​เจี​้ย​เกอ​จะ​กลายเป็น​จุน​เกอ​คนที​่​สอง

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ตัดสินใจ​รอ​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​มา​แล้ว​ค่อย​ถาม​เขา​ ​ดู​ว่า​เขา​อยาก​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ของ​อาจาย​์​จ้าว​กับ​จุน​เกอ​หรือไม่​ ​แต่ว่า​ ​นาง​มีความรู้สึก​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยน​่า​จะ​ชอบ​การ​มี​เพื่อน​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เล่าเรื่อง​ที่​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​คลอด​บุตรสาว​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​

“​เช่นนั้น​เรา​ก็​ส่ง​ของขวัญ​ไป​ให้​เยอะ​หน่อย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​เจิ​้น​เซิง​ไม่ได้​มีมาก​เท่า​เจิ​้น​ซิ่ง​”

หมายความว่า​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ไม่ได้​มี​กิจการ​ใน​มือ​มาก​นัก​ใช่​หรือไม่​!

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​นาง​แอบ​นำ​เงิน​สอง​ร้อย​ตำลึง​ส่ง​ไป​ให้​เขา

เมื่อ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​มาจาก​เรือน​ซวงฝู​ยาม​บ่าย​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ถาม​เขา​ว่า​อยาก​จะ​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ของ​อาจารย์​จ้าว​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​หรือไม่​ ​เขา​ก็​พูดเสี​ยง​ดัง​ทันที​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​เรือน​ของ​อาจารย์​จ้าว​มี​ชิงช้า​ ​ม้า​ไม้​ ​แล้วยัง​มี​ขลุ่ย​ไม้​ไผ่​อีกด้วย​…​”

สือ​อี​เหนียง​หลุด​หัวเราะ​ ​“​รู้จัก​แต่​เล่น​!​”​ ​นาง​กลั้น​หัวเราะ​แล้ว​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ต้อง​ตื่น​เช้า​ทุกวัน​ ​ลมแรง​ ​ฝนตก​ ​อากาศ​หนาว​แค่ไหน​ก็​ต้อง​ไป​ ​เจ้า​ทำได้​หรือไม่​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพ​ยัก​หน้า​ซ้ำๆ​ ​“​ข้า​ฟัง​ท่าน​แม่​ขอรับ​!​”

“​ก็ได้​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ข้า​จะ​บอก​ท่าน​พ่อ​ของ​เจ้า​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​จะ​ไปหา​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​ข้า​จะ​ไป​บอก​พี่​สี่​!​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ใจร้อน

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ลูบ​หัว​เขา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ส่ง​เขา​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​รู้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่น้อง​รัก​สามัคคี​กัน​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​นั้น​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แกว่ง​ไปมา​ด้วย​ความดีใจ​ ​แล้วยัง​พูดว่า​ ​“​ข้า​จะ​มอบ​กระเป๋า​สลัก​สีแดง​สด​นั่น​ให้​เจ้า​”​ ​แล้วยัง​พูด​อีกว่า​ ​“​ดีกว่า​ของ​ข้า​เสียอีก​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอด​ไม่ได้​ที่จะ​พยักหน้า​ ​“​ได้​เลย​ ​ได้​เลย​!​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ

เรื่อง​นี้​ก็​ตกลง​ตาม​นี้

ดังนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ให้​ค่าตอบแทน​อาจารย์​จ้าว​เป็น​สองเท่า​ ​และ​อาจารย์​จ้าว​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ

สวี​ซื่อ​จุน​มาเรียก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​เรียน​ด้วยกัน​ทุก​เช้า​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​ที่​เรือน​ซวงฝู​ท่ามกลาง​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​อย่าง​ช้าๆ

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​อยาก​จะ​หัวเราะ​ออกมา

นึกถึง​ความตื่นเต้น​ของ​ตัวเอง​ตอน​เด็ก

นาง​คิด​ว่า​พวกเขา​ไม่ได้​ไป​เรียน​ ​แต่​แค่​ไป​ฆ่าเวลา

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​ฮ่องเต้​ก็​มีพ​ระ​ราชโองการ

แต่งตั้ง​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็นไท​่​จื่อ​ ​และ​แต่งตั้ง​พระ​ชายา​สกุล​โจว​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็นไท​่​จื่อ​เฟย

สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​เข้าใจ​อะไร​บางอย่าง​ ​นาง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ตอนนั้น​ฮ่องเต้​ทรง​วางแผน​ที่จะ​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​ใหญ่​เป็น​องค์​รัชทายาท​อยู่​แล้ว​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​เคย​พูด​เช่นนี้​ต่อหน้า​ฮองเฮา​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​แต่​มัน​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​หาก​ไม่​ถึง​วินาที​สุดท้าย​ ​ข้า​ก็​ไม่กล้า​พูดจา​เหลวไหล​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ข้า​จึง​บอก​เจ้า​ว่า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​ในเมื่อ​ฮ่องเต้​ไม่ยอมรับ​สกุล​หยาง​ ​ยิ่ง​ไม่มีทาง​รับ​สกุล​หยาง​ให้​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​องค์​ชาย​ใหญ่​คือ​ทายาท​ของ​ประเทศชาติ​ ​องค์​รัชทายาท​คน​ต่อไป​”

ใช่​ ​ไม่ว่า​ไท​เฮา​จะ​วางแผน​เช่นไร​ ​แต่​หาก​ฮ่องเต้​ไม่เห็นด้วย​ ​ก็​ไม่มีทาง​สำเร็จ

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​โล่งใจ​ขึ้น​มา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท