ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 378 บุปผาหอมกรุ่น (ปลาย)

ตอนที่ 378 บุปผาหอมกรุ่น (ปลาย)

กลางคืน​หลังจากที่​ส่ง​ซุ่น​อ๋อง​กลับ​ไป​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ซุ่น​อ๋อง​ผู้​นี้​ ​อาจจะ​ดู​ตลกขบขัน​ ​แต่​การกระทำ​สุขุม​และ​หนักแน่น​เป็นอย่างมาก​ ​มิเช่นนั้น​ฝ่า​บาท​คงจะ​ไม่​ให้​เขา​มาดู​แลก​รม​ราชกิจ​ภายใน​อย่างแน่นอน​ ​เขา​และ​ข้า​รู้จัก​กัน​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​และ​เขา​ก็​รู้​นิสัยใจคอ​ข้า​เป็น​อย่างดี​ ​ในเมื่อ​รู้สึก​ว่า​สามารถ​ทำการค้า​นี้​ได้​ ​ก็​คงจะ​ไม่มี​อะไร​เหลือบ่ากว่าแรง​ ​ร้าน​ของ​เจ้า​เพิ่งจะ​เปิด​ ​ได้​ค้าขาย​เช่นนี้​บ้าง​เป็นครั้งคราว​ ​จะ​มาก​จะ​น้อย​ก็​ถือว่า​ได้​ซื้อขาย​”

ความหมาย​ของ​คำพูด​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​คือ​ให้​ค้าขาย​ตาม​การ​ดูแล​ของ​ซุ่น​อ๋อง​ ​ถือว่า​สามารถ​นำมา​พิจารณา​ได้

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​รู้สึก​แปลกใจ​แต่อย่างใด

ในเมื่อ​สนิท​กันตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​ก็​คงจะ​รู้จัก​กัน​เป็น​อย่างดี​ ​ซุ่น​อ๋อง​รู้ดี​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ชอบ​ให้​คน​รอบข้าง​มี​ความเกี่ยวข้อง​กับ​กรม​ราชกิจ​ภายใน​ ​แต่​เขา​กลับ​แนะนำ​การค้านี​้​ให้​ตน​ต่อหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​คง​เพราะ​มั่นใจ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​ปฏิเสธ​อย่างแน่นอน​ ​หาก​นึก​ไป​ถึง​ช่วง​ก่อนหน้านี้​ ​ถึงแม้ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ทำงาน​อยู่​ข้างนอก​ตลอด​ ​แต่​ซุ่น​อ๋อง​กลับ​แสดงท่าที​ที่​หยอกล้อ​ออกมา​ ​ใน​ตอนนี้​ถึงแม้ว่า​จะ​ดูเหมือน​พูดน้อย​ ​แต่กลับ​แฝง​ไป​ด้วย​ความห่วงใย​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​คิด​ว่า​เขา​เอง​รู้เรื่อง​นี้​ตั้งแต่แรก​ ​และ​สงสัย​ว่าการ​ค้าขาย​ครั้งนี้​เขา​เอง​ได้​มี​การ​ช่วย​ฝากฝัง​และ​บอกกล่าว​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​ตกใจ​เป็นอย่างมาก

ทำการค้า​กับ​กรม​ราชกิจ​ภายใน​ ​สิ่ง​ที่​ต้อง​อาศัย​ก็​คือ​ความสัมพันธ์​ ​ขอ​เพียงแค่​มี​เครือข่าย​ความสัมพันธ์​ที่​กว้างขวาง​มาก​พอ​ ​ก็​จะ​สามารถ​ดำเนินการ​ค้า​ได้​อย่างราบรื่น​แน่นอน​ ​มี​คน​มากมาย​ขนาด​ไหน​ยินดี​ที่จะ​เสียเงิน​ก้อน​นี้​ยอม​ขาดทุน​ก่อน​เพื่อที่จะ​สามารถ​เบิก​เส้นทางการค้า​เล็ก​ๆ​ ​เส้น​นี้​ได้​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​ปีนป่าย​ทีละขั้น​ ​ค่อยๆ​ ​ยึดครอง​ทีละ​นิด​ทีละ​หน่อย​ ​กลายเป็น​พ่อค้า​ที่​ร่ำรวย​มั่งคั่ง​ที่สุด​ ​ตัวอย่างเช่น​หยวน​เหนียง​และ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​มี​ให้​เห็น​ ​แล้ว​เหตุใด​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ปล่อย​ให้​เรื่อง​เดิม​ๆ​ ​ผิดพลาด​อีกด้วย​เล่า

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​จึง​คิด​ว่า​ตัวเอง​คงจะ​คิดมาก​จน​เกินไป

แต่​ไม่ว่า​เรื่องจริง​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​ทั้ง​ซุ่น​อ๋อง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ล้วนแล้วแต่​มี​เจตนา​ที่​ดีทั​้ง​นั้น​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​อธิบาย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เมื่อ​รับปาก​มา​แล้ว​ ​ก็​ควร​ทำให้​เต็มที่​ที่สุด​ ​มิเช่นนั้น​ถึง​เวลา​จะ​ผิด​เจตนา​ที่หวัง​ดี​ของ​ซุ่น​อ๋อง​เอา​ได้​ ​สู้​ใช้เวลา​ไป​ใส่ใจ​รายละเอียด​ของ​สินค้า​ ​พิจารณา​ไตร่ตรอง​ให้​ละเอียด​รอบคอบ​ด้วย​ความระมัดระวัง​เสีย​ยังดี​กว่า​”

ความหมาย​ของ​นาง​ก็​คือ​ ​‘​ปฏิบัติ​ต่อกัน​ด้วย​ความซื่อสัตย์​ ​รักษา​สัจ​วาจา​ด้วย​ความจริงใจ​’​ ​กระมัง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​แล้ว​ ​ก็​หันไป​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​รอยยิ้ม

จู่ๆ​ ​ก็​นึกถึง​เหตุการณ์​ตอนที่​เจอ​กับ​สือ​อี​เหนียง​เป็นครั้งแรก

นาง​ยังคง​สุขุม​และ​นิ่ง​สงบ​เหมือน​ดังเช่น​ตอนนั้น​ไม่มี​ผิด​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ตอนนั้น​เขา​กลัว​ว่า​จะ​มี​คน​บุก​เข้ามา​ใน​เรือน​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่​สังเกตเห็น​การ​มีตัว​ตน​ของ​นาง​เสียด​้วย​ซ้ำ

เมื่อ​ลอง​ตั้งใจ​คิด​พิจารณา​ดี​ๆ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นการ​เผชิญหน้า​กับ​ความ​ไม่​ยุติธรรม​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​หรือ​จะ​เป็นความ​เห็นแก่ตัว​ของ​พี่สะใภ้​สาม​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​บ่าว​รับใช้​ที่​ขาด​คุณธรรม​หรือ​จะ​เป็น​อนุ​ที่​ทะเลาะเบาะแว้ง​ชิงดีชิงเด่น​กัน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นความ​เย็นชา​ของ​ตน​หรือ​จะ​เป็นการ​ประจบประแจง​ของ​หลี​่ฮู​หยิน​ ​รวมไปถึง​บ่าว​รับใช้​เก่าแก่​ที่​ติดตาม​หยวน​เหนียง​มาตั​้ง​แต่​สมัย​แต่งงาน​เข้า​จวน​ใหม่​ๆ

นาง​พูด​แต่​คำพูด​ที่จริง​ใจ​ ​ไม่เคย​พูดเท็จ​เกิน​จริง​เลย​แม้แต่​ครั้ง​เดียว

นาง​มี​ความคิด​ที่​เป็น​ของ​ตัวเอง​เสมอ​ ​ไม่เคย​เอนเอียง​ตาม​กระแส​ผู้อื่น​ ​ไม่​หยิ่งผยอง​ทะนง​ตน​ ​ให้ความสำคัญ​ต่อ​ขนบธรรมเนียมประเพณี​ ​ไม่​ทำตัว​สูงส่ง​หรือ​ต้อยต่ำ​จน​เกินไป​ ​ประหนึ่ง​หิน​ใหญ่​ที่อยู่​ท่ามกลาง​กระแสน้ำ​ ​ไม่ว่า​กระแสน้ำ​จะ​เชี่ยว​หรือ​รุนแรง​มาก​แค่ไหน​ก็​ไม่เคย​ไหว​หวั่น​ ​เพราะ​นาง​มี​เป้าหมาย​ที่​หนักแน่น​และ​ชัดเจน​อยู่​ใน​ใจ​แล้ว

เมื่อ​ความคิด​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันไป​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน

เส้น​ผม​ที่​ดำขลับ​ถูก​มวย​ขึ้น​ด้วย​ทรง​ที่​เรียบง่าย​ ​ปลาย​ติ่งหู​ห้อย​ด้วย​ต่างหู​ดอก​ไห่​ถัง​ที่​ทำ​จาก​ทองบริสุทธิ์​ ​สวม​เสื้อ​อ่าว​เล็ก​เข้ารูป​สีน้ำเงิน​อม​เขียว​ ​จึง​ยิ่ง​ดู​เอวบาง​เล็ก​เข้าไป​ใหญ่​ ​สามารถ​เห็น​ส่วนเว้าส่วนโค้ง​ได้​อย่างชัดเจน

จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ใจสั่น​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

สือ​อี​เหนียง​ดู​โต​ขึ้น​มาก​ ​เสื้อผ้า​เหล่านี้​จึง​ดู​เล็ก​ลง​ไป​…

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​กลอง​บอก​เวลา​ดัง​ขึ้น​ไกลๆ

พอ​เงี่ยหู​ฟัง​ดี​ๆ​ ​ก็​เข้ายาม​ไฮ​่​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ลุกขึ้น​ยืน

“​เวลา​ไม่​เช้า​แล้ว​ ​รีบ​พักผ่อน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​เรียก​ให้​สาวใช้​เข้ามา​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยน​ชุด

ตาม​หลัก​แล้ว​ ​การค้าง​เรือน​อนุ​นั้น​มี​วันดี​อยู่​สาม​วัน​ ​เมื่อวาน​นี้​เขา​ดื่ม​สุรา​จน​เมามาย​ ​ก็​เลย​นอนค้าง​อยู่​ที่นี่​ ​วันนี้​เป็น​วันที่​สอง​…​นาง​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​วางแผน​อย่างไร

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​เรียก​ชุน​มั่ว​มาช​่วย​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า

ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​เรียก​สติก​ลับ​คืน​มา​ได้

จากนั้น​ก็​ไป​ล้าง​ไม้​ล้างมือ​ด้วย​อาการ​ใจลอย​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​นอนตะแคง​อ่าน​ตำรา​อยู่​ริม​เตียง​ด้านนอก​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​เขา​กลับ​ไม่มี​ท่าที​ที่จะ​ขยับ​ทาง​ให้​เลย

สือ​อี​เหนียง​จึง​ต้อง​ปีนป่าย​ขึ้น​ทาง​ปลาย​เตียง​เพื่อ​เข้าไป​นอน​ด้านใน

“​เจ้า​เข้านอน​ก่อน​ได้​เลย​!​”​ ​ไม่รู้​ว่า​ตำรา​เล่ม​นั้น​คือ​ตำรา​อะไร​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​อ่าน​อย่างใจจดใจจ่อ​เช่นนี้​ ​เวลา​ที่​คุย​กับ​เขา​ ​เขา​กลับ​ตอบ​โดยที่​ไม่​ละสายตา​จาก​ตำรา​เล่ม​นั้น​เลย

สือ​อี​เหนียง​จึง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เอน​ตัว​ลงนอน

ร่างกาย​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สูงใหญ่​ ​สือ​อี​เหนียง​นอน​แอบ​อยู่​ใต้​เงา​ของ​เขา​ก็​ไม่ได้​ถือว่า​เกะกะ​สายตา​แต่อย่างใด​ ​แต่​พอนึก​ถึง​เรื่อง​หยาง​อี๋​เหนียง​ขึ้น​มา​ ​ก็​รู้สึก​คันไม้คันมือ​ขึ้น​มาทัน​ที

เขา​เอาแต่​คลุมเครือ​ไม่ชัด​เจน​อยู่​แบบนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่รู้​ว่า​จะ​จัดการ​ทาง​ฝั่ง​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​อย่างไร​ดี​

ตำแหน่ง​ของ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ไม่ได้​เหมือนเช่น​อนุภรรยา​ทั่วไป​ ​จวน​สกุล​สวี​ก็​ไม่เคย​มี​กรณี​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​ดังนั้น​ก็​ควรจะ​ตั้ง​กฎเกณฑ์​ใหม่​ขึ้น​มาสำ​หรับ​การ​ใช้ชีวิต​ประจำวัน​รวมไปถึง​เงิน​ค่าครองชีพ​ของ​หยาง​อี​เห​นี​๋​ยง​ถึง​จะ​ถูก​!

สือ​อี​เหนียง​เหลือบ​ไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยังคง​จ้อง​แต่​ตำรา​อย่างใจจดใจจ่อ​ ​บางครั้ง​ก็​หัวเราะ​ออกมา​เสียด​้วย​ซ้ำ

สือ​อี​เหนียง​จึง​ตัดสินใจ​เป็น​ฝ่าย​เริ่ม​ถาม​เขา​ก่อน​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ทาง​ฝั่ง​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​ท่าน​วางแผน​ไว้​อย่างไรบ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​เสียงหัวเราะ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดัง​ขึ้น

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​มาดู​ ​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลิก​กระดาษ​ไป​อีก​หนึ่ง​หน้า​ ​จากนั้น​ก็​ตั้งหน้าตั้งตา​อ่าน​เหมือนเดิม

ไม่ได้​ยิน​เสียด​้วย​ซ้ำ​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​พูด​อะไร​อยู่​!

สือ​อี​เหนียง​จึง​เอน​ตัว​ลงนอน​อย่าง​ห่อเหี่ยว​ ​และ​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​ไม่สน​ใจ​เขา​อีก​ ​จากนั้น​ก็​นอนหลับ​ไป​บน​ผ้า​ขน​แกะ

ด้านหลัง​ของ​เขา​มีเสียง​ลมหายใจ​แผ่วเบา​ที่​สม่ำเสมอ​ดัง​ขึ้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​รู้​ว่านาง​นอนหลับ​ไป​แล้ว

ราวกับ​เด็กน้อย​ไม่มี​ผิด​ ​ไม่ว่า​จะ​เจอ​เรื่องราว​ใหญ่โต​มากมาย​มา​แค่ไหน​ ​แต่​แค่​หัว​ถึง​หมอน​ก็​หลับ​ปุ๋ย

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​มุม​ด้าน​หนึ่ง​ใน​ใจ​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​ละลาย​กลายเป็น​หยดน้ำ​ ​ค่อยๆ​ ​เอ่อล้น​ไหลริน​ออกมา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​พลิกตัว​หันมา​ช้าๆ

สือ​อี​เหนียง​นอนขด​ตัว​ซุก​อยู่​ข้างๆ​ ​เขา​ ​เส้น​ผม​ที่​ดำขลับ​กอง​จน​ล้น​หมอน​สีแดง​สด​ ​แสง​ตะเกียง​ที่​สลัว​ ​ผิว​ของ​นาง​ขาว​เนียน​ละเอียด​จน​มิ​อาจ​จินตนาการ​ได้​ ​เหมือน​หยก​ขาว​หยาง​จือ​อวี​้​และ​คล้าย​กับ​เครื่องเคลือบ​กระเบื้อง​ก็​ไม่​ปาน

เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​เอื้อมมือ​ไป​ช่วย​นาง​เกลี่ย​เส้น​ผม​ที่​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ใบหน้า​ไว้​หลัง​หู​ ​จากนั้น​เขา​ก็ได้​หยัด​กาย​ลุกขึ้น​เพื่อ​ดับไฟ​ตะเกียง​ ​แล้วจึง​ค่อย​เอน​ตัว​ลงนอน​ ​แต่​หาง​ตาของ​เขา​ยังคง​เหลือบ​ไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​สีผิว​นั้น​ขาว​กระจ่าง​ราวกับ​แสง​ที่​กระทบ​บน​ผิว​หิมะ​ ​พลอย​ทำให้​ชุด​คลุม​ชั้นใน​ผ้าไหม​ซาน​เหลิง​ปู้​สีขาว​ดูหมอง​หม่น​ไป​ทีเดียว

เขา​นึกถึง​ตอนที่​นาง​สวม​ชุด​อ่าว​ตัวเล็ก​สีน้ำเงิน​อม​เขียว​ที่​ดู​อรชร​ตัว​นั้น

พอ​เงยหน้า​ขึ้น​มาก​็​เห็น​เข้ากับ​ป้าย​หยก​ที่​สือ​อี​เหนียง​ห้อย​อยู่​ตรง​ช่วง​อก

ป้าย​หยก​ชิ้น​นั้น​เขา​เป็น​คน​มอบให้​นาง​เป็น​ของขวัญ​ ​หยก​ถูก​แกะสลัก​ด้วย​ลาย​สาม​แพะ​มงคล​ ​ดูเหมือนว่า​นาง​ค่อนข้าง​ชอบ​เป็นอย่างมาก​ ​จนถึง​ขั้น​ถัก​เชือก​แดง​ลาย​ดอก​บ๊วย​เพื่อ​ห้อย​มัน​ไว้​ตรง​ช่วง​อก

ความคิด​ค่อยๆ​ ​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​เชือก​ถัก​สีแดง​สด​เด่นชัด​ใน​ตาของ​เขา​ ​ร่างกาย​ที่​สะอาดหมดจด​ไร้​ซึ่ง​ที่​ติ​…​ราวกับ​แสงแดด​แห่ง​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​มีเสน่ห์​และ​ต้องตาต้องใจ​…

“​ไร้​ซึ่ง​ที่​ติ​…​”​ ​เขา​โน้มตัว​กึ่ง​คร่อม​อยู่​บน​ตัว​ของ​นาง

สือ​อี​เหนียง​ถูก​เสียง​ของ​เขา​ทำให้​สะลึมสะลือ​ตื่นขึ้น​มา

นาง​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น

หลังจากที่​นาย​หญิง​ใหญ่​เสีย​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​พัก​ที่​เรือน​ของ​นาง​ ​แต่​ก็​ไม่เคย​…​แต่​จู่ๆ​ ​วันนี้​ทำไม​…

“​ท่าน​โหว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ใช้​มือ​ยัน​แผ่น​อก​ของ​เขา​ไว้​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความไร้เดียงสา​ ​“​ข้า​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​นะ​เจ้า​คะ​”

หลังจากที่​แต่งงาน​ออกเรือน​มา​ ​ก็​ถือว่า​เป็น​คน​ของ​เรือน​อื่น​ไป​แล้ว​ ​ดังนั้น​หาก​บิดา​มารดา​เสียชีวิต​ ​บุตรี​ที่​ยังอยู่​เรือน​จะ​ไว้ทุกข์​สาม​ปี​ ​ส่วน​บุตรี​ที่​แต่งงาน​ออกเรือน​ไป​แล้ว​จะ​ไว้ทุกข์​หนึ่ง​ปี​ ​เพราะ​การ​ใช้ชีวิต​อยู่​บ้าน​สามี​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ต้อง​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้ไม่เห็น​บ้าง​ ​แต่​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​เกิดขึ้น​ ​แล้ว​ถูก​คนอื่น​จับจุด​อ่อน​ได้​ ​จะ​กลายเป็น​เรื่อง​ที่​ทำให้​ไม่​สามารถ​โง​หัว​ขึ้น​มา​ได้​อีก​เลย

แต่​สำหรับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ ​เรื่อง​เหล่านี้​ถือว่า​เป็นเรื่อง​เล็ก​ราวกับ​มด​ที่​เขย่า​ต้นไม้​ก็​ว่า​ได้​ ​จะ​ทำให้​เขา​สะทกสะท้าน​ได้​อย่างไร​กัน

“​ข้า​รู้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จ้องมอง​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​ก็​แค่​อยาก​จะ​กอด​เจ้า​เฉยๆ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​นึก​ขึ้น​มา​ว่า​ช่วงนี้​เขา​พัก​อยู่​ที่​เรือน​ของ​นาง​เสีย​ส่วนใหญ่

สือ​อี​เหนียง​หันหน้า​หนี​ ​นาง​เม้มปาก​แน่น​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​ ​ใบหน้า​ค่อนข้าง​ซีดเผือด

“​ไม่ต้อง​กลัว​!​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​มี​ข้า​อยู่​ทั้งคน​!​”

“​สวี​ลิ่ง​อี๋​!​”​ ​ร่างกาย​ของ​นาง​แข็งทื่อ​เล็กน้อย

“​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ทั้งนั้น​”​ ​เขา​โอบกอด​สือ​อี​เหนียง​ที่อยู่​ใต้​ผ้าห่ม​ ​“​ไม่ต้อง​กลัว​ ​ยัง​มี​ข้า​อยู่​ทั้งคน​!​”

มี​เขา​น่ะ​หรือ

สือ​อี​เหนียง​หันมา​สบตา​สวี​ลิ่ง​อี๋

แววตา​ของ​เขา​ร้อนแรง​ดั่ง​เปลวไฟ​ ​แต่กลับ​ดู​จริงใจ​ ​ราวกับว่า​กำลัง​เปล่งประกาย​ทอแสง​ออกมา​อย่างไร​อย่างนั้น

นาง​นึกถึง​เหตุการณ์​ความสุข​ใน​ครั้งนั้น​ที่​ล้มเลิก​ไป​กลางคัน​ ​นึกถึง​น้ำอุ่น​ยามค่ำคืน​แก้ว​นั้น​ ​นึกถึง​ตอนนั้น​ ​เขา​ที่​กำลัง​เมามาย​และ​เม้มปาก​แน่น​…

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อยๆ​ ​หลับตา​ลง​ ​จากนั้น​ก็​โอบกอด​คอ​ของ​เขา​ไว้​ ​ส่งมอบ​การ​ริเริ่ม​ทั้งหมด​ให้​กับ​เขา

ในขณะที่​กำลัง​เคลิบเคลิ้ม​อยู่​นั้น​ ​ก็​มีเสียง​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​ว่า​ ​“​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ทั้งนั้น​ ​ที่นี่​คือ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​เจ้า​เป็น​ภรรยา​ของ​ข้า​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ผู้​นี้​”

สือ​อี​เหนียง​เบิกตา​กว้าง

นี่​มัน​หมายความว่า​อย่างไร​กัน

กำลังจะ​บอกว่า​เขา​จะ​ปกป้อง​ตน​อย่างนั้น​หรือ

หรือ​กำลังจะ​บอกว่า​นี่​คือ​สิ่ง​ที่นา​งค​วรกระ​ทำ​โดย​หน้าที่​ ​และ​นาง​ก็​ไม่​สามารถ​ที่จะ​ยื้อ​ต่อไป​ได้

ใน​ใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ตอนนี้​สับสนวุ่นวาย​ไป​หมด​ ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​ดี​ ​จึง​ทำได้​แค่​เพียง​ปล่อย​ทุกๆ​ ​อย่าง​ให้​ล่องลอย​ไป​กับ​เขา​ราวกับ​เรือ​ที่​กำลัง​ล่องแก่ง​ไป​ตาม​กระแสน้ำ​ที่​พัดพา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ปลดปล่อย​ออกมา​ใน​ช่วงเวลา​ที่​วิกฤติ​ที่สุด

ใต้​ผ้านวม​อบอวล​ไป​ด้วย​กลิ่นหอม​ของ​ดอก​เกาลัด

น้ำตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ไหล​เอ่อ

ใน​ใจ​ของ​นาง​ยัง​วนเวียน​อยู่​กับ​คำพูด​ของ​เขา​ที่ว่า​ ​‘​เจ้า​เป็น​ภรรยา​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​’

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท