ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 386 เขาเขียว (กลาง)

ตอนที่ 386 เขาเขียว (กลาง)

หลังจากที่​กลับ​ไป​ถึง​เหอฮ​วาห​ลี่​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ก่อน

ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​เอน​ตัว​อยู่​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​พลาง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ดู​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยนำ​ผล​ผิง​กั่ว​หยอกล้อ​สวี​ซื่อ​ซิน​ที่​กำลัง​ฝึก​เดิน​ ​บรรยากาศ​ใน​เรือน​จึง​เต็มไปด้วย​เสียงหัวเราะ​ ​ครึกครื้น​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​แปลกใจ

ที่ผ่านมาฮู​หยิน​ห้า​ไม่​ชอบ​ให้​สวี​ซื่อ​ซิน​เล่น​กับ​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​โดยตลอด​ ​วันนี้​ทำไม​ถึง​…

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​วิ่ง​พรวด​เข้ามา​หา​สือ​อี​เหนียง​ทันที​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​รีบ​สลัด​ความคิด​นี้​ออก​ไป​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​เขา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​เงยหน้า​ขึ้น​มา​พร้อมกับ​หันไป​กล่าว​ทักทาย​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​”

“​กลับมา​แล้ว​หรือ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​ลุกขึ้น​นั่ง​ตัวตรง

สวี​ซื่อ​จุน​เอง​ก็ได้​ทิ้ง​สวี​ซื่อ​ซิน​ไว้​พร้อมกับ​วิ่ง​มาหา​นาง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​เหตุใด​ท่าน​ถึง​ได้​กลับมา​ดึก​เช่นนี้​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เต็มไปด้วย​ความ​ออดอ้อน​ ​“​วันนี้​ท่าน​แม่​ไม่ได้​อยู่​ฟัง​ข้า​เป่าขลุ่ย​ไม้​ไผ่​ ​พวก​ข้า​ฝึก​บทเพลง​ใหม่​กับ​อาจารย์​จ้าว​ด้วย​ขอรับ​”

“​จริง​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​โน้มตัว​ลงมา​ ​จากนั้น​ก็​จ้องมอง​สวี​ซื่อ​จุน​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้า​ขอโทษ​เจ้า​ก็แล้วกัน​ ​วันนี้​ข้า​ไป​เยี่ยม​กาน​ไท่ฮู​หยิน​มา​ ​ก็​เลย​ไม่ได้​ฟัง​เจ้า​เป่า​บทเพลง​ใหม่​ ​เอาอย่าง​นี้​ดี​หรือไม่​ ​พรุ่งนี้​เช้า​พวก​เจ้า​มา​เป่า​ให้​ข้า​ฟัง​อีก​รอบ​”

สวี​ซื่อ​จุน​อยาก​ที่จะ​เป่า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ตอนนี้​เลย​ ​เมื่อ​ได้ยิน​แล้วก็​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยนั​้น​เห็นดีเห็นงาม​กับ​สือ​อี​เหนียง​เสีย​ทุก​เรื่อง​ ​เขา​รีบ​ปรบมือ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ดี​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​จึง​ไม่ได้​ดันทุรัง​ต่อ​แต่อย่างใด​ ​ฝืนยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ

ส่วน​สวี​ซื่อ​ซิน​ที่​เมื่อครู่นี้​ถูก​รายล้อม​เต็มไปหมด​ ​แต่​จู่ๆ​ ​บรรยากาศ​ก็​เงียบเชียบ​ขึ้น​มา​ ​นาง​จึง​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เริ่ม​เอียง​คอ​หันมา​มอง​สือ​อี​เหนียง​และ​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​รอยยิ้ม​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​หันกลับ​ไป​มอง​แม่นม​ที่​กำลัง​ยืน​อย่างนอบน้อม​ ​สุดท้าย​สายตา​ของ​นาง​ก็​มา​หยุด​ลง​ตรง​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​กำลัง​ล้อมรอบ​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ ​แล้ว​จู่ๆ​ ​ก็​ร้องไห้​เสียงดัง​ออกมา​ด้วย​ความเสียใจ

ทุกคน​ต่าง​พากั​นอึ​้ง​ไป​ชั่วขณะ

แม่นม​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​รีบ​สาวเท้า​เข้ามา​อุ้ม​นาง​ทันที​ ​“​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เจี่ย​เอ๋อร​์​…​”​ ​แม่นม​โอ๋​นาง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน

สือ​อี​เหนียง​จึง​เพิ่ง​สังเกตเห็น​ว่าฮู​หยิน​ห้า​และ​ป้า​สือ​ต่าง​ก็​ไม่อยู่​ทั้งคู่

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​บุตร​คน​แรก​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​บวก​กับ​สุขภาพ​ร่างกาย​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​ไม่​ค่อย​แข็งแรง​เท่าไร​นัก​ ฮู​หยิน​ห้า​จึง​ดูแล​นาง​อย่างเคร่งครัด​ ​ปกติ​จะ​ดูแล​อย่างใกล้ชิด​ไม่​ห่าง​เลย​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ​หาก​มีธุระ​ที่​ไม่​สามารถ​ดูแล​ข้าง​กาย​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้​ ​ก็​จะ​ให้​ป้า​สือ​อยู่​ปรนนิบัติ​รับใช้​และ​ดูแล​แทน​เสมอ​…

มิน่าเล่า​เด็ก​สาม​คน​นี้​ถึง​ได้​เล่น​ด้วยกัน​ได้

ว่าแต่ฮู​หยิน​ห้ามี​เรื่อง​เร่งด่วน​อะไร​กัน

ขณะที่​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็ได้​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่ชาย​”​ ​พร้อมกับ​แสดง​สีหน้า​ท่าที​ต้องการ​จะ​ให้​เล่น​ด้วย​อย่างไร​อย่างนั้น

สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​แล้วก็​รีบ​วิ่ง​เข้าไป​จูงมือ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทันที

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​ค่อยๆ​ ​หยุด​ร้อง​ไป​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ซบ​ลง​บน​ไหล่​ของ​แม่นม​ ​เปลี่ยนเป็น​เสียงสะอื้น​เบา​ๆ​ ​แทน

“​ที่แท้​แล้ว​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​เรา​ก็​ชอบ​คุณชาย​น้อย​สี่​ที่สุด​นี่เอง​!​”​ ​แม่นม​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ยิ้มแย้ม​และ​น้ำเสียง​ที่​แฝง​ไป​ด้วย​ความ​ประจบประแจง

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​แล้วก็​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา​ ​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ความ​เก้อเขิน

ทุกคน​จึง​พากัน​หัวเราะ​เสียงดัง​ออกมา

สือ​อี​เหนียง​จึง​เดิน​เข้าไป​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ไท่ฮู​หยิน

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​ชี้​ไป​ยัง​ที่นั่ง​ที่อยู่​ตรงข้าม​เชื้อเชิญ​ให้​นาง​นั่ง​ ​“ฝู​เจิน​ยัง​สบายดี​หรือไม่​”

“​สบายดี​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ ​จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​ยก​น้ำชา​เข้ามา​ให้​ ​“​แม้ว่า​จะ​ดู​เศร้า​อยู่​บ้าง​ ​แต่​สีหน้า​ดีขึ้น​มาก​แล้ว​”

“​นางอายุ​ยังน้อย​ ​หนทาง​ของ​วันข้างหน้า​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​ตามลำดับ​ได้​เช่นนี้​ก็ดี​แล้ว​”

ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็​เป็น​หญิง​ม่าย​ ​ย่อม​เข้าใจ​ความรู้สึก​ดี​อยู่​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​จะ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​เสียใจ​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เปลี่ยน​เรื่อง​คุย​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​น้อง​สะใภ้​ห้า​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​นาง​เป็นไข้​นิดหน่อย​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​กลัว​ว่า​ไข้​จะ​ไป​ติด​เด็ก​เข้า​ ​ก็​เลย​ส่ง​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มา​อยู่​ที่​เรือน​ข้า​สัก​สอง​สาม​วัน​”

มิน่าเล่า​เด็ก​ๆ​ ​ถึง​เล่น​ด้วยกัน​ได้

การแพทย์​ใน​สมัยโบราณ​ค่อนข้าง​ล้าหลัง​ ​อาการ​ไข้หวัด​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ก็​สามารถ​คร่าชีวิต​คน​ได้

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความเป็นห่วง​ว่า​ ​“​หมอ​ว่า​อย่างไรบ้าง​ ​ร้ายแรง​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ท่าน​หมอ​หลิว​บอกว่า​ทาน​ยาสัก​สอง​สาม​ชุด​ก็ดี​ขึ้น​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ตอบ​ไป​ว่า​ ​“​ข้า​ให้​ป้า​ตู้​ไปดู​อาการ​ ​เห็น​ว่า​ทาน​ยาเสร็จ​ก็​เหงื่อ​ออก​ทั้งตัว​ ​เพิ่งจะ​หลับ​ไป​”

“​เช่นนั้น​ข้า​ไปดู​นาง​เสียหน่อย​ดีกว่า​!​”

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​นั้น​ ​ก็​มีเสียง​หัวเราะ​ของ​เด็ก​ๆ​ ​ดัง​ขึ้นรา​วกับ​เสียง​กระดิ่ง

สือ​อี​เหนียง​และ​ไท่ฮู​หยิน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันไป​ดู​ ​ก็​เห็น​ศีรษะ​น้อย​ๆ​ ​ทั้ง​สาม​ศีรษะ​กำลัง​มุง​ดู​ของเล่น​ที่​เป็น​ลูก​ไก่​กำลัง​จิก​กิน​เมล็ดข้าว​อย่างสนุกสนาน

เมื่อ​เห็น​รอยยิ้ม​ที่​บริสุทธิ์​และ​ไร้เดียงสา​ของ​เด็ก​ๆ​ ​ทั้งคู่​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ตาม

ไท่ฮู​หยิน​หันมา​กุมมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​เอาไว้​ ​“​ตอนนี้​ข้า​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ข้า​เพียงแค่​อยาก​จะ​เล่น​กับ​หลาน​ๆ​ ​ใช้ชีวิต​ที่​เหลือ​อย่าง​มีความสุข​ ​วันข้างหน้า​หาก​ที่​เรือน​มี​แขก​มา​เยือน​ ​นอกจาก​พี่น้อง​เก่าแก่​เช่น​หวงฮู​หยิน​แล้ว​ ​คนอื่นๆ​ ​เจ้า​ช่วย​ข้า​รับหน้า​ไว้​ก็​พอ​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​พามา​หา​ข้า​ถึงที่​นี่​”

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

นาง​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​อยาก​พบ​หน้า​คน​สกุล​หยาง​ ​แต่​อย่างไร​เสีย​ไท​เฮา​ก็​ยัง​ทรง​ครองตำแหน่ง​อยู่​ ​จวน​สกุล​หยาง​และ​จวน​สกุล​สวี​ยังอยู่​ใน​แวดวง​เดียวกัน​ ​วันนี้​ไม่​เจอ​ ​วันหน้า​ก็​ยัง​ต้อง​เจอ​อยู่ดี​ ​ส่วนหน้า​ตาก​็​ยัง​ต้อง​รักษา​ไว้​ ​นี่​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​เหตุผล​ที่นาง​หลบเลี่ยง​การ​เจอ​หน้า​กับ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ ​นาง​ต้องการ​จะ​ใช้​วิธี​นี้​เพื่อ​บอกเป็นนัย​กับ​ทาง​จวน​สกุล​หยาง​ ​แต่​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​มอบหมาย​อำนาจ​ตัดสินใจ​เรื่อง​ต้อนรับขับสู้​แขก​ที่มา​เยือน​ทั้งหมด​ให้​กับ​นางใน​เวลา​เช่นนี้​ ​นี่​ไม่ใช่​แค่​การ​ไว้วางใจ​เท่านั้น​ ​แต่​ถือเป็น​การ​สนับสนุน​อย่างหนึ่ง

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กุมมือ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ตอบ

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​ขึ้น​พร้อมกับ​ตบมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​พอแล้ว​ ​พอแล้ว​ ​เรา​ไม่​คุย​เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​ ​เจ้า​ไป​อยู่​ที่​เรือน​ของฝู​เจิน​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​คุย​อะไร​กัน​บ้าง​ ​ตอนนี้​สถานการณ์​ของ​ทาง​จวน​สกุล​กาน​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​ ​นายท่าน​และ​นาย​หญิง​สกุล​เดิม​ให้​คน​มาส​่ง​เทียบ​เชิญ​ให้​ข้า​แต่เช้า​ตรู่​ ​เชิญ​ข้า​ไปดู​การแสดง​งิ้ว​เนื่องใน​โอกาส​ขึ้น​บ้าน​ใหม่​ด้วย​!​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​แต่อย่างใด​ ​นาง​เก็บ​เจตนา​ดี​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เอาไว้​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​เลือก​เอาเรื่อง​ที่​ค่อนข้าง​สนุก​มา​เล่า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง

เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ว่า​กานฮู​หยิน​ต้องการ​ที่จะ​มาคา​รวะ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ทุก​เช้า​ค่ำ​ ​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เวลา​ที่​เรา​กตัญญู​กับ​ผู้อาวุโส​ของ​ตน​ ​ก็​ไม่​ควร​ลืม​ผู้อาวุโส​ที่​ไม่ได้​เป็น​สายเลือด​ของ​ตน​ ​เวลา​ที่​เรา​อบรม​สอนสั่ง​ลูกหลาน​ของ​ตน​ก็​ไม่​ควร​ลืม​ลูกหลาน​ที่​ไม่ใช่​สายเลือด​ของ​ตน​ ​หากว่า​นาง​สามารถ​ผลักดัน​ตนเอง​และ​ผู้อื่น​ได้​ ​พูด​ได้​ก็​จะ​ควรจะ​ทำได้​เช่นกัน​ ​ใช่​ว่า​จวน​สกุล​กาน​จะ​พ่ายแพ้​และ​ล้มเหลว​จน​ไม่​หลงเหลือ​อะไร​เลย​เสียหน่อย​”​ ​และ​ตอนที่​ได้​ฟัง​เรื่อง​ที่ว่า​มี​คน​ตามมา​ให้​ช่วย​ปัก​เย็บ​ซ่อมแซม​เสื้อผ้า​ถึงที่​ร้าน​ ​ก็​พลอย​รู้สึก​ดีใจ​ยิ่งกว่า​สือ​อี​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​ ​เสียอีก​ ​“​…​ต้อง​ขอบคุณ​ซุ่น​อ๋อง​ดี​ๆ​ ​ถึง​จะ​ถูก​ ​จากนั้น​ค่อย​ฝากฝัง​กับ​เขา​ ​ว่ายั​งมี​การค้าขาย​เช่นนี้​อีก​หรือไม่​ ​ภายภาคหน้า​ขอ​ฝากเนื้อฝากตัว​ด้วย​ ​ช่วงเวลา​ที่​ยาก​ที่สุด​สำหรับ​การค้าขาย​ก็​คือ​ช่วง​สอง​ปี​แรก​ ​หาก​ผ่านพ้น​สอง​ปีนี​้​ได้​ ​ทุกอย่าง​ก็​จะ​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​เป็นลำดับ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ขานรับ​เบา​ๆ​ ​หันไป​มอง​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​หัวเราะ​พลาง​หาว​ไป​พร้อม​ๆ​ ​กัน​ ​กลัว​ว่า​เด็ก​ๆ​ ​จะ​เล่น​จน​สนุกสนาน​เกินไป​ ​เวลานอน​จะ​สะดุ้งตื่น​หรือ​ละเมอ​เอา​ได้​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​เอ่ย​ขอตัว​ลา

ไท่ฮู​หยิน​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่านาง​ไป​เป็น​แขก​ของ​เรือน​คนอื่น​อยู่​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​ก็​เลย​ไม่​รั้ง​ให้​นาง​อยู่​ต่อ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ให้​ป้า​ตู้​ออก​ไป​ส่ง​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

เมื่อ​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​อาบน้ำ​และ​เตรียมตัว​พักผ่อน​แล้ว​ ​ตอนนี้​เขา​กำลัง​เอน​ตัว​นอนตะแคง​อ่านหนังสือ​ตำรา​อยู่​บน​เตียง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่านา​งก​ลับ​มา​แล้ว​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ไป​คุย​กับ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ทั้งวัน​ ​อารมณ์​จิตใจ​ดีขึ้น​บ้าง​หรือไม่​”

ทำ​อย่าง​กับ​ว่านาง​ไป​ด้วย​อารมณ์​จิตใจ​ที่​คับแค้นใจ​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ฉุนเฉียว​ขึ้น​มา​ ​แต่​นาง​กลับ​ยิ้ม​พร้อมกับ​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​มิตรสหาย​คือ​หนึ่ง​ใน​ความสัมพันธ์​ทั้ง​ห้า​ ​ขงจื๊อ​เคย​กล่าว​ไว้​ว่า​ ​มิตร​ที่​ดีมี​อยู่​สาม​ประเภท​ ​และมิตร​ที่​เลว​ก็​มีอยู่​สาม​ประเภท​เช่นเดียวกัน​ ​ความสัมพันธ์​ของ​ชั่วชีวิต​ ​ไม่​ควร​ละเลย​และ​มองข้าม​ ​ข้า​ก็​แค่​ทำตาม​คำสอน​ของ​นักปราชญ์​ ​ก็​เลย​ไปหา​มิตรสหาย​ที่​นิสัยใจคอ​ซื่อตรง​และ​สนิทสนม​กัน​ ​ย่อม​อารมณ์ดี​ขึ้น​เป็นธรรมดา​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ​ออกมา​เสียงดัง

สือ​อี​เหนียง​ออก​ไป​ล้างหน้า​ล้าง​ตัว​ไม่สน​ใจ​เขา

ตอน​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ชำระ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยิ้ม​ให้​นาง​แต่​นาง​กลับ​แกล้งทำ​เป็น​ไม่เห็น​ ​หันไป​เป่า​ตะเกียง​ไฟ​แล้วก็​เอน​ตัว​ลงนอน​ ​แต่​แล้วก็​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​คว้า​ตัว​เข้ามา​กอด​ใน​อ้อมแขน​ทันที

“​มั่ว​เหยี​ยน​”​ ​เขา​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​เด็ก​โง่​เอ๋ย​ ​คราวหน้าคราวหลัง​ก็​อย่า​ไปหา​เรื่อง​ใส่​ตัว​อีก​”

ตน​ก็​แค่​ถือโอกาส​นี้​เจอ​สหาย​ไป​ใน​ตัว​ ​จะ​เป็นการ​หาเรื่อง​ใส่​ตัว​ได้​อย่างไร​กัน

สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ​ความหมาย​ที่​เขา​สื่อ

ผ่าน​ไป​สอง​วัน​ ​โจวฮู​หยิน​ก็ได้​มาหา​แบบ​ไม่ทัน​ตั้งตัว

“​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​มา​ขอ​พบ​ข้า​”​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ที่​เย้ยหยัน​ ​“​ข้า​อ้างว่า​วันนี้​ได้​นัดแนะ​กับ​เจ้า​ไปดู​ของ​ที่​ร้าน​ ​เพื่อ​เลือก​ของ​ให้​กับ​องค์​หญิง​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​รู้สึก​แปลกใจ​แต่อย่างใด

หาก​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​มาหา​ตน​ ​ตน​ก็​คงจะ​อ้างว่า​ไปหา​โจวฮู​หยิน​เหมือนกัน

เมื่อ​โจวฮู​หยิน​เห็น​สีหน้า​ที่​เรียบ​เฉย​ของ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ ​ก็​เข้าใจ​ได้​ในทันที​ ​“​นาง​ก็​มาหา​เจ้า​ด้วย​หรือ​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​ตอบกลับ​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ทำ​เช่น​ท่าน​ ​หลบหน้า​ไป​!​”

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​สบถ​ออกมา​ด้วย​ความ​ฉุนเฉียว​ ​“​นาง​นึก​ว่า​ตน​เป็น​ใคร​กัน​!​ ​วิ่ง​วุ่น​ไป​ทั่ว​ ​ข้า​จะ​คอย​ดู​ว่านาง​จะ​ทำ​ไป​ได้​สัก​กี่​น้ำ​”

ฟัง​จาก​น้ำเสียง​คำพูดคำจา​แล้ว​ ​ราวกับ​อยาก​จะ​พูด​ให้​องค์​หญิง​ฟัง​อย่างไร​อย่างนั้น

แต่​อย่างไร​เสียนี​่​ก็​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ส่วนตัว​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​จะ​ก้าวก่าย​จน​เกินไป​ ​จึง​ถาม​โจวฮู​หยิน​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​จะ​ยัง​ไปดู​ของ​ที่​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​หรือไม่​”

“​ข้า​ตั้งใจ​จะ​มาช​วน​เจ้า​ไป​ซื้อของ​จริงๆ​”​ ​โจวฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​บทสนทนา​ก็​เบา​ลง​ ​“​ข้ามี​สาวใช้​ข้าง​กาย​คนสนิท​อยู่​สอง​คน​ ​ถูกใจ​ข้า​เป็นอย่างมาก​ ​ตอนนี้​ทั้งสอง​จะ​แต่งงาน​ออกเรือน​แล้ว​ ​ข้า​ก็​เลย​ตั้งใจ​จะ​เตรียม​สินเดิม​ให้​พวก​นาง​สัก​ชุด​ ​อย่างน้อย​พวก​นาง​ก็ได้​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้า​อย่างตั้งใจ​มาช​่​วง​เวลา​หนึ่ง​”

คำพูด​ของ​นาง​พลอย​ทำให้​หัวใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​สั่น​ไหว​ขึ้น​มา​ ​แล้วจึง​ค่อยๆ​ ​มี​ความคิด​หนึ่ง​ผุด​ขึ้น​ใน​หัว

หาก​สาวใช้​ของ​แต่ละ​จวน​ที่จะ​แต่งงาน​ออกเรือน​สามารถ​สั่งทำ​สินเดิม​ที่​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​คนละ​หนึ่ง​ชุด​เพื่อ​เป็นเกียรติ​ให้​กับ​ตน​ ​เช่นนั้น​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​ของ​พวก​นาง​ก็​จะ​เป็น​ที่​เลื่องชื่อ​และ​สามารถ​สร้าง​จุดขาย​ของ​ตัวเอง​ได้

ยิ่ง​คิด​นาง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​สามารถ​ทำได้​ ​จึง​คิด​วางแผน​หา​เวลา​ไป​เจอ​กับ​อาจารย์​เจี่ยน​เพื่อที่จะ​ปรึกษาหารือ​กัน​ ​พลาง​ล้างหน้าล้างตา​แต่งตัว​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​โจวฮู​หยิน​ ​แล้วก็​พากัน​ไป​ที่​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส

โจวฮู​หยิน​อยู่​ที่นั่น​ราว​สอง​ชั่ว​ยาม​ ​นาง​ไม่เพียงแต่​เลือก​ซื้อ​สินเดิม​ไป​สอง​ชุด​เท่านั้น​ ​ยัง​ได้​ซื้อ​ผ้าเช็ดหน้า​ให้​ตัวเอง​อีก​หลาย​ผืน​ด้วย​ ​ดูออก​ว่านาง​ชอบ​และ​ถูกใจ​สินค้า​ที่​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​เป็นอย่างมาก

หลังจาก​ออกจาก​ประตู​ไป​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​นึก​ว่านาง​จะ​กลับ​ไป​ที่​จวน​องค์​หญิง​เลย​ ​แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​กอด​แขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​เอาไว้​ ​“​อย่างไร​เสีย​ก็​ยืม​ชื่อเสียงเรียงนาม​ของ​เจ้า​แล้ว​ ​ก็​ถือโอกาส​นี้​ไปร​บก​วน​เจ้า​หน่อย​ก็แล้วกัน​ ​ไป​ทานอาหาร​ค่ำ​ที่​เรือน​เจ้า​!​”

ซื้อของ​ ​บ่น​เรื่อยเปื่อย​ตามประสา​หรือ​ปล่อยตัวปล่อยใจ​ไป​ตามอารมณ์​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็น​สิ่ง​ที่สามา​รถ​ลด​ความเครียด​และ​ความกังวลใจ​ใน​จิตใจ​ลง​ได้

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ใน​อารมณ์​ความรู้สึก​ของ​นาง​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​ไม่ต้อง​พูด​ข้า​ก็​ตั้งใจ​จะ​ลาก​ท่าน​กลับ​ไป​ทานอาหาร​ค่ำ​กับ​ข้า​อยู่​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

“​เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะ​ไม่​เกรงใจ​แล้ว​!​”​ ​โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​พากั​นก​ลับ​ไป​ยัง​เหอฮ​วาห​ลี่​พร้อมกับ​สือ​อี​เหนียง

ทั้งสอง​ลงรถ​ม้า​ตรงหน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เห็น​บ่าว​รับใช้​ชาย​ที่​ติดตาม​โจวฮู​หยิน​เดิน​ปรี่​เข้ามา​หา​อย่างรวดเร็ว

“ฮู​หยิน​ ​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​กลับ​ไป​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​เขา​หายใจฟึด​ฟัด​ด้วย​ความไม่พอใจ​ ​“​องค์​หญิง​ต้อนรับ​ญาติพี่น้อง​ตาม​ขนบธรรมเนียม​ดั้งเดิม​ ​ให้​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​ยืน​รอ​อยู่​ที่​ลาน​สวน​ของ​ตำหนัก​กลาง​”​ ​บ่าว​รับใช้​ชายเล​่า​ถึง​เหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ที่​สะใจ​ ​“​เจี​้​ยน​หนิง​โหวฮู​หยิน​โกรธ​จน​ใบหน้า​แดงก่ำ​ไป​หมด​…​อา​หญิง​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ของ​องค์​หญิง​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​ญาติพี่น้อง​ใน​บ้าน​ล้วน​ปฏิบัติ​เช่นนี้​มาช​้า​นาน​ ​องค์​หญิง​คงจะ​ไม่​ทำลาย​กฎเกณฑ์​เพียง​เพื่อ​คน​ๆ​ ​เดียว​หรอก​กระมัง​ขอรับ​!​”

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ขึ้น​มาทัน​ที

นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ภาคภูมิใจ​ ​“​เรือน​ข้า​เป็น​ถึง​จวน​องค์​หญิง​ ​การ​ต้อนรับขับสู้​โหวฮู​หยิน​ก็​มี​กฎระเบียบ​ที่​ต้อง​ทำตาม​ตาม​ความเหมาะสม​ ​วิธีการ​ต้อนรับ​ญาติพี่น้อง​ก็​มี​กฎระเบียบ​ต่างหาก​ ​นาง​ไม่ยอม​เป็น​โหวฮู​หยิน​ ​แต่​เลือก​ที่จะ​เป็น​ญาติ​ของ​องค์​หญิง​แทน​ ​แน่นอน​ว่า​จะ​ต้อง​ใช้การ​ต้อนรับขับสู้​แบบ​ญาติ​อยู่​แล้ว​”

เวลานี้​สือ​อี​เหนียง​จึง​เพิ่ง​เข้าใจ​ถึง​เจตนา​ของ​องค์​หญิงฝู​เฉิง

องค์​หญิง​ดุจ​กิ่งทองใบหยก​ ​เป็น​เชื้อพระวงศ์​ที่สูง​ส่ง​ ​แม้แต่​ท่าน​ราชบุตร​เขย​ยัง​ต้อง​ก้ม​กราบ​ ​นับประสา​อะไร​กับ​ญาติ​เล่า​!

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท