ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 404 ข่าว(กลาง)

ตอนที่ 404 ข่าว(กลาง)

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ล่วงรู้​ความคิด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เลย​แม้แต่​นิดเดียว

หลังจาก​วันที่​สอง​เดือน​สอง​ก็ได้​เรียก​ฉัง​จิ​่ว​เห​อมา​ถาม​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ที่​หมู่บ้าน​ ​จากนั้น​ก็​เรียกว่า​นอี​้​จง​มาถาม​เกี่ยวกับ​เรื่อง​สวนผลไม้

เมื่อ​คุย​เรื่องสำคัญ​เสร็จ​แล้ว​ ​ว่าน​อี้​จง​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เจียง​ปิ​่ง​เจิ​้ง​ไป​เป็น​เถ้าแก่​ที่​ร้าน​อื่น​ ​หลิว​หยวน​หรุ​่ย​และ​ภรรยา​มักจะ​ช่วย​งาน​อยู่​ที่​ร้าน​มงคลสมรส​ ​ที่​สวนผลไม้​นอกเหนือจาก​งาน​ที่​มี​ใน​ช่วง​เก็บเกี่ยว​ผลผลิต​แล้ว​ ​ปกติ​ก็​ไม่มี​อะไร​ให้​ทำ​ ​หากฮู​หยิน​เห็น​แวว​ ​ไม่​สู้​ให้​เอ้อร​์​เสี่ยน​ของ​พวกเรา​ไป​ช่วย​ท่าน​ดูแล​เรือน​ดี​หรือไม่​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​กังวล​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​อยู่​พอดี

เรือน​สอง​หลัง​ที่​เป็น​สินเดิม​ค่อนข้าง​เก่า​แล้ว​ ​ไม่ได้​รับ​การ​ดูแล​ ​ค่อยๆ​ ​ทรุดโทรม​ลง​ทุกวัน​ ​ฤดูหนาว​ปี​ที่แล้ว​หิมะ​ก็​ไม่ได้​ตก​แรง​มาก​ ​แต่​หลังคา​ของ​ห้อง​ปีก​ตะวันออก​กลับ​พัง​ลงมา

“​เรื่อง​นี้​รอ​ให้​ผ่าน​ไป​สัก​สอง​สาม​วันก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​ให้​ว่าน​อี้​จง​ออก​ไป​ ​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ก็​ปรึกษา​กับ​เขา​ ​“​…​อยาก​จะ​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ช่วย​ขาย​เรือน​ที่​เป็น​สินเดิม​สอง​หลัง​นั้น​ ​แล้ว​นำ​เงิน​มารว​มกัน​ซื้อ​เรือน​ดี​ๆ​ ​สัก​หลัง​หนึ่ง​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​เรือน​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ก็​ไม่เลว​เลย​ ​ใน​ตรอก​ทั้ง​กว้างขวาง​และ​เงียบสงบ​ ​ข้าว​่า​ไม่​สู้​ขาย​เรือน​หนึ่ง​ไป​แล้ว​นำ​เงิน​มาซ​่​อม​แซม​เรือน​ที่อยู่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ให้​ดี​ ​คุ้มค่า​กว่า​ที่จะ​ซื้อ​ใหม่​เสียอีก​”

ตอนนี้​นาง​เป็น​คน​สกุล​สวี​และ​สกุล​หลัว​ ​แม้ว่า​อยาก​จะ​ไป​พักผ่อนหย่อนใจ​อยู่​ที่​เรือน​นอก​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​แต่กระนั้น​สกุล​สวี​เอง​ก็​มีเรือน​นอก​อยู่​เหมือนกัน​ ​ถึงอย่างไร​ก็​คง​ไม่ได้​ไป​พัก​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ ​หาก​ไม่​พิจารณา​ถึง​เรื่อง​ระยะทาง​ ​แน่นอน​ว่าที่​นั่น​เป็น​สถานที่​ที่​ดี​ ​บวก​กับ​ตอนนี้​ที่​สะใภ้​หลิว​หยวน​หรุ​่ย​ได้​ทำงาน​เพิ่ม​คือ​เฝ้า​เวร​ยาม​ที่​ร้าน​มงคลสมรส​ ​ทำให้​ที่นั่น​ไม่มี​คน​ไป​พัก

“​เช่นนั้น​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​บอก​พ่อบ้าน​ไป๋​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​ต้อง​ซ่อม​เรือน​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ให้​เสร็จ​ก่อนที่จะ​ถึง​ฤดูร้อน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​พูดถึง​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​สอง​พี่น้อง​ ​“​…​นับวัน​ดูแล​้ว​ ​อย่าง​ช้า​ก็​คงจะ​มาถึง​ใน​กลางเดือน​สาม​ ​ทั้งสอง​คน​ก็​โต​แล้ว​ ​ไม่​สามารถ​อาศัย​อยู่​ใน​จวน​ได้​ ​ข้า​ให้​คน​เก็บกวาด​เรือน​หย่วน​เซียง​ที่อยู่​เรือน​นอก​ไว้​ให้​พวกเขา​อยู่​ ​และ​เรียนหนังสือ​กับ​อาจารย์​จ้าว​ไป​พร้อมกัน​กับ​จุน​เกอ​และ​เจี​้ย​เกอ​ชั่วคราว​”

“​จุน​เกอ​พึ่ง​จะ​สำเร็จการศึกษา​ไป​ขั้น​หนึ่ง​ ​เจี​้ย​เกอ​ก็​เพียงแค่​ตาม​ไป​เรียน​ด้วย​เท่านั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​แต่​ฉิน​เกอ​กับ​เจี่ยน​เกอ​ไม่​เหมือนกัน​ ​ทั้งสอง​คน​ได้​เรียนรู้​วรรณกรรม​แปด​แขนง​จาก​อาจารย์​สำนัก​ศึกษา​ชาติวงศ์​ ​เกรง​ว่า​เรื่อง​นี้​ท่าน​โหว​จะ​ต้อง​ปรึกษา​กับ​คุณชาย​สาม​ให้​ดี​จึง​จะ​ถูก​ ​ดู​ว่า​คุณชาย​สาม​มีแผน​จัดการ​อย่างไร​สำหรับ​เด็ก​สอง​คน​นี้​ ​หาก​เตรียม​จะ​ให้​สอบ​จอ​หงวน​แล้ว​ให้​เรียนหนังสือ​กับ​อาจารย์​จ้าว​เกรง​ว่า​จะ​เป็นการ​เสียเวลา​ ​ไม่​สู้​ตาม​ไป​เรียน​ที่​สำนัก​ศึกษา​จิ​่น​สี​กับ​อวี​้​เกอ​ดีกว่า​ ​แต่​หาก​จะ​ให้​รับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ด้วย​การสืบทอด​ตำแหน่ง​เส้นสาย​ ​เช่นนั้น​ก็​ไม่เป็นไร​”

“​ข้า​ก็​คิด​เช่นนั้น​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​“​เพียงแต่ว่า​พี่​สาม​ยังคง​คลุมเครือ​ ​ตัดสินใจ​ไม่ชัด​เจน​ ​ข้า​จึง​ทำได้​เพียง​จัดการ​วางแผน​ให้​เด็ก​ๆ​ ​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​”

ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​อยู่นาน​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ใน​ครอบครัว​ก่อนที่จะ​ดับไฟ​แล้ว​พักผ่อน

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​บรรยากาศ​ก็​เริ่ม​เป็นใจ​ขึ้น​เรื่อยๆ​…​แต่​สือ​อี​เหนียง​…​กลับ​ไม่​รอ​โดน​จู่โจม​เหมือน​เมื่อก่อน​…​นางอาย​จน​รู้สึก​โกรธ​ ​สลัด​ผ้าห่ม​ออกจะ​กระโดด​ลง​จาก​เตียง

สวี​ลิ่ง​อี๋​โอบกอด​นาง​จาก​ด้านหลัง

“​เป็น​อะไร​ไป​ ​เหตุใด​ถึง​โมโห​ขนาด​นี้​”​ ​ยิ้ม​พลาง​กอด​นาง​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​แล้ว​เอา​ใบหน้า​แนบ​กับ​หน้านา​งอย​่าง​รักใคร่

สือ​อี​เหนียง​เบือนหน้า​หนี​ไม่สน​ใจ​เขา

“​เอาเถิด​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จูบ​ไรผม​ ​หน้าผาก​ ​แล้ว​เลื่อน​ลงมา​ที่​ปากของ​นาง​…​เคลื่อนไหว​อย่าง​นุ่มนวล​ ​จู่โจม​ด้วย​ความระมัดระวัง​ ​“​อย่า​โกรธ​เลย​”

เมื่อ​เขา​ให้​ทางลง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ได้​รู้สึก​ดีขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​แต่​ก็​อด​พูด​ด้วย​ความหงุดหงิด​ไม่ได้​ ​“​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​แกล้ง​ข้า​เช่นนี้​สนุก​มาก​อย่างนั้น​หรือ​”

ราวกับ​เด็ก​ที่​น้อยใจ

เมื่อ​คิดได้​เช่นนั้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ใจอ่อน​ยวบ​ไป​หมด

“​เด็ก​โง่​”​ ​น้ำเสียง​อ่อนโยน​เต็มไปด้วย​ความ​เอ็นดู​ที่​แม้แต่​ตัวเอง​ก็​คาดไม่ถึง​ ​“​เพราะ​ชอบ​เจ้า​ถึง​ได้​แกล้ง​เจ้า​!​”

ราวกับ​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก​่อน​ ​ทั้งสอง​คน​ต่าง​ก็​ตกใจ​กับ​คำพูด​นี้

ใน​ห้อง​พลัน​เงียบเสียง​ไป​ชั่วขณะหนึ่ง​ ​จนกระทั่ง​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ลมหายใจ

ท่ามกลาง​ความไม่สบายใจ​และ​ความ​อึดอัด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​คลาย​อ้อมแขน​ที่​กอด​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​ก็​ชะงัก​ไป​เพราะ​กลัว​ว่า​จะ​ดู​เย็นชา​เกินไป​ ​จึง​รีบ​พูด​อย่างลำบาก​ใจ​ว่า​ ​“​นี่​ก็​ดึก​มาก​แล้ว​ ​เจ้า​เอง​ก็​มี​อาการ​ง่วง​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​รีบ​พักผ่อน​เถิด​”

ใน​ใจ​สือ​อี​เหนียง​สับสนวุ่นวาย​ ​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ถาม​คำถาม​ที่​ตอบ​ยาก​ ​จึง​ตอบ​เพียง​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​รีบ​หลับตา

ใน​ห้อง​กลับมา​เงียบสงบ​อีกครั้ง​ ​ต่าง​คน​ต่าง​ได้ยิน​ลมหายใจ​แผ่วเบา​ของ​กันและกัน

ทั้งสอง​คน​พลิกตัว​นอนตะแคง​หันหลัง​ใส่​กัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย

ไม่นาน​ก็​รู้สึก​ถึง​ลม​ที่​หนาวเหน็บ​มาก​ระ​ทบ​หลัง

สือ​อี​เหนียง​กำ​มุม​ผ้าห่ม​ไว้​แน่น​ ​นับ​ลูก​แกะ​อยู่​ใน​ใจ​ไม่​หยุด

…​หนึ่ง​พัน​สอง​ร้อยแปด​สิบ​สี่​…​ไม่​สิ​ ​ควรจะเป็น​หนึ่ง​พัน​สาม​ร้อยแปด​สิบ​สี่​…​ไม่​สิ​ ​ควรจะเป็น​หนึ่ง​พัน​สอง​ร้อยแปด​สิบ​สี่​ ​ไม่นาน​มานี​้​เพิ่งจะ​นับ​ถึง​หนึ่ง​พัน​หนึ่งร้อย​แปดสิบ​สี่​ ​ต่อมา​ควรจะเป็น​หนึ่ง​พัน​สอง​ร้อยแปด​สิบ​สี่​จึง​จะ​ถูก​…

สมอง​ของ​นาง​พลัน​สับสน​ไป​หมด

ก่อนที่จะ​ตัดสินใจ​เริ่ม​นับ​ใหม่

เพิ่งจะ​นับ​ถึง​สี่​สิบ​แปด​ ​แผ่น​หลัง​ก็​รู้สึก​อุ่น​ขึ้น

สวี​ลิ่ง​อี๋​ขยับ​เข้ามา​ใกล้​แล้ว​!

เมื่อ​ความคิด​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัว​ ​ร่างกาย​ที่​แข็งทื่อ​ก็​ค่อยๆ​ ​อ่อนตัว​ลง

สือ​อี​เหนียง​ลืมตา​ขึ้น​มา​ ​มองดู​ถุง​หอม​อัน​เลือนราง​ที่​แขวน​อยู่​นอก​มุ้ง​ ​ไม่รู้​ว่า​ตัวเอง​หลับ​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไร

******

ไม่​กี่​วัน​ต่อมา​ ​แม้ว่า​ทั้งสอง​คน​จะ​ยัง​พูด​ไป​ยิ้ม​ไป​เหมือน​แต่ก่อน​ ​แล้วยัง​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​ที่จะ​ขาย​เรือน​ที่​เป็น​สินเดิม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​สั่งซื้อ​ไม้​และ​ก้อนอิฐ​ ​แล้วยัง​เชิญ​ผู้เชี่ยวชาญ​มาช​่ว​ยดู​ให้​ ​เลือก​วันที่​สิบ​หก​เดือน​สี่​เป็น​วัน​เริ่ม​ซ่อมแซม​ ​พอต​กก​ลาง​คืน​เมื่อ​ทั้งสอง​นอน​พักผ่อน​อยู่​บน​เตียง​ด้วยกัน​ ​ต่าง​ก็​รู้สึก​อึดอัด​จึง​พยายาม​หา​หัวข้อ​สนทนา​ไป​เรื่อย​หรือไม่ก็​พูดคุย​เรื่อง​ที่​ช่วงนี้​สวี​ซื่อ​อวี​้​เอาแต่​อ่านหนังสือ​อยู่​ใน​ห้อง​มา​หลาย​วัน​ ​คิด​ว่าการ​สอบ​ใน​ครั้งนี้​จะ​ต้อง​ผ่าน​ไป​ได้​อย่างแน่นอน​ ​หรือไม่ก็​พูดถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​จะ​กลับมา​หาก​สวี​ซื่อ​จุน​รู้​แล้ว​จะ​ดีใจ​แค่ไหน​ ​หรือไม่ก็​คุย​เรื่อง​ที่จะ​เพิ่มค่า​สอน​ให้​อาจารย์​จ้าว​…​เมื่อ​พูด​จน​เหนื่อย​ก็​จะ​หลับ​ไป​เอง​ ​เมื่อ​ตื่นขึ้น​มา​ใน​วันรุ่งขึ้น​ ​บางที​สือ​อี​เหนียง​ก็​เหวี่ยง​หมอน​ไป​ไว้​ด้าน​ข้าง​แล้ว​เอน​ศีรษะ​ไป​หนุน​ไหล่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​บางที​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​นอนตะแคง​ข้าง​แล้ว​เอา​แขน​วาง​ไว้​บน​ตัว​ของ​สือ​อี​เหนียง

ทุกครั้งที่​เป็น​เช่นนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อยาก​จะ​พูด​หยอกล้อ​นาง​เหมือนกับ​เมื่อก่อน

เพียงแต่ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั้น​อ่อนไหว​เป็นพิเศษ​ ​เพียงแค่​เขา​ขยับ​นาง​ก็​ตื่น​แล้ว​ ​ถาม​ว่า​ ​“​ยาม​ไหน​แล้ว​”​จากนั้น​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​มา​อาบน้ำ​แต่งตัว​แล้วไป​พูดคุย​กับ​บรรดา​อี๋​เหนียง​และ​เด็ก​ๆ​ ​ที่มา​คารวะ​ ​จากนั้น​ก็​ปรนนิบัติ​เขา​ทานอาหาร​เช้า​ ​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แล้วก็​ไป​ห้องโถง​ใหญ่​เพื่อ​จัดการ​งาน​กับ​บรรดา​ผู้ดูแล​…​ไม่มีเวลา​ได้​หยุดพัก​ ​แล้วยัง​ส่ง​ว่าน​เอ้อร​์​เสี่ยน​ไป​ช่วย​นาง​ซ่อมแซม​เรือน​ที่อยู่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ ​ช่วย​หู่​พั่ว​กับ​จู๋​เซียง​ออกแบบ​ตำแหน่ง​ของ​เรือน​ ​ไป​ที่​คลัง​สินเดิม​ของ​นาง​เพื่อ​เปิด​หีบ​ค้นหา​เครื่องลายคราม​และ​ม่าน​กั้น​ ​เรียก​สะใภ้​จี้​ถิ​งมา​ถาม​ว่า​ตรงหน้า​ประตู​เรือน​หลัก​ควรจะ​ปลูก​ต้นกล้วย​ไม้​หยก​หรือ​ต้น​จื่อ​เถิง​ดี.​..​แล้ว​อู่​เหนียง​ก็​ยัง​ส่ง​เทียบ​เชิญ​มา​เชิญ​นาง​ไป​ทาน​บะหมี่​อายุ​ยืน​ฉลอง​วันเกิด​ซิน​เกอ​ที่​ตรอก​ซื่อ​เซี่ยง​ ​ช่วงนี้​ก็​ช่วย​เป็น​แม่สื่อ​ให้​หลานสาว​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​และ​อวี​๋​เฉิง​บุตรชายคนโต​ของ​ซื่อ​เหนียง​ ​ยุ่ง​จน​ไม่ได้​หยุด​ได้​หย่อน

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ทุกวัน​จะ​ไป​ที่​เรือน​นอก​เพื่อ​จัดการ​ธุระ​บางอย่าง​ ​บางครั้ง​ก็​ออก​ไป​สังสรรค์​กับ​สหาย​เก่า​ ​มี​เวลา​อยู่​เรือน​น้อยลง​เรื่อยๆ​

คนอื่น​ยัง​ดู​ไม่​ออก​ ​แต่​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​ที่​ปรนนิบัติ​ดูแล​อย่างใกล้ชิด​ล้วน​รู้สึก​ถึง​การ​เปลี่ยนไป​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ทำห​้​พลอย​รู้สึก​กังวล​เล็กน้อย​ ​ทุกวัน​ที่​ปรนนิบัติ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทานอาหาร​เช้า​ก็​มีท​่า​ทาง​ตัวสั่น​ด้วย​ความหวาดกลัว​อยู่​บ้าง​

สือ​อี​เหนียง​มองออก​ ​ทันใดนั้น​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​ไม่ดี​ขึ้น​มา

สิ่ง​ที่​เรียกว่า​ ​‘​ชอบ​’​ ​มัน​ก็​แค่​เท่านั้น​แหละ​!

นาง​ก้มหน้าก้มตา​ทานอาหาร​เช้า​อย่าง​เงียบๆ​ ​คำพูด​ก็​ยิ่ง​น้อยลง​เรื่อยๆ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​สีหน้า​ของ​นาง​หม่นหมอง​ ​ตัก​โจ๊ก​เข้า​ปาก​ตั้ง​นาน​กว่า​จะ​กลืน​ลง​ไป​ ​หาก​ตัวเอง​ไม่​คุย​กับ​นาง​ ​ ​นาง​ก็​จะ​ไม่​เริ่ม​พูดคุย​ก่อน​อย่างแน่นอน​ ​เหมือนกับ​ว่า​กำลัง​งอน​ตน​อยู่​ ​เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​จิตใจ​ที่​แข็งกระด้าง​ก็ได้​อ่อน​ลง​ ​พลัน​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ใจแคบ​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​แอบ​ถอนหายใจ​อยู่​ใน​ใจ​ ​เขา​เอา​จาน​ยำ​แตงกวา​สด​ไป​วาง​ไว้​ตรงหน้า​นาง​ ​“​ปกติ​ชอบ​ทาน​มาก​ที่สุด​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​วันนี้​เจ้า​ไม่เห็น​แตะ​เลย​”

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​ก็​เห็น​สีหน้า​ที่​หมดปัญญา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แฝง​ไว้​ด้วย​รอยยิ้ม

“​รีบ​ทาน​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วย​นาง​คีบ​แตงกวา​ไป​วาง​ไว้​ใน​จาน​เล็ก​ ​“​อีกสักครู่​ยัง​จะ​ต้อง​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​อีก​”

สือ​อี​เหนียง​แอบ​รู้สึก​ดี​อยู่​ใน​ใจ​ ​ตอบ​เพียงแค่​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​คีบ​แตงกวา​ใส่​ปาก

แตงกวา​นั้น​สด​ใหม่​ ​เมื่อ​คลุก​กับ​น้ำส้มสายชู​ทำให้​ทั้ง​เปรี้ยว​ทั้ง​หวาน​ ​ทาน​แล้วจึง​รู้สึก​สดชื่น​ ​นาง​ทาน​ติดต่อกัน​อีก​หลาย​ชิ้น

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ส่ายหน้า

จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​ ​ผู้ดูแล​จ้าว​ที่อยู่​เรือน​นอก​ให้​บ่าว​รับใช้​มาถาม​ว่างาน​เลี้ยง​ฤดูใบไม้ผลิ​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ปีนี​้​จะ​ยังคง​จัด​ตาม​รายการ​งานเลี้ยง​ของ​ปี​ที่แล้ว​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

เหมือน​มา​เร่ง​สือ​อี​เหนียง​อ้อม​ๆ​

สือ​อี​เหนียง​ใบหน้า​ร้อนผ่าว

หลาย​วัน​มานี​้​เอาแต่​เป็น​แม่สื่อ​ให้​อวี​๋​เฉิง​จน​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​ได้

สือ​อี​เหนียง​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​ข้า​จะ​เอา​รายการ​งานเลี้ยง​ให้​เขา​ประเดี๋ยวนี้​!​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ก็​รู้สึก​เวียน​ศีรษะ​ไป​หมด​ ​จากนั้น​สายตา​ก็​เริ่ม​พร่ามัว

“​เป็น​อะไร​ไป​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่านาง​พยุง​ตัวเอง​ไม่อยู่​ ​สีหน้า​พลัน​ซีด​ขาว​ราวกับ​กระดาษ​ก็​ไม่​ปาน​ ​มือ​คว้า​ไป​จับ​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา​เพื่อ​พยุง​ตัวเอง​ ​รู้​ว่านาง​ไม่สบาย​จึง​รีบ​ลุก​มาช​่ว​ยพ​ยุง​นาง

สือ​อี​เหนียง​หลับตา​ลง​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​กว่านาง​จะ​ค่อยๆ​ ​ลืมตา​ขึ้น

“​ไม่เป็นอะไร​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​อัน​ซีดเซียว​ ​“​อาจจะ​เป็น​เพราะ​รีบ​ลุก​เร็ว​เกินไป​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ใจหาย

ต้อง​เป็น​คนที​่​อ่อนแอ​มาก​ๆ​ ​ถึง​จะ​รู้สึก​ไม่สบาย​ตัว​เวลา​ลุกขึ้น​เร็ว​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่านา​งกำ​ลัง​งอน​ตัวเอง​อยู่​ ​แต่​ก็​สนใจ​อะไร​มาก​ไม่ได้​จึง​รีบ​อุ้ม​สือ​อี​เหนียง​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​ร้อง​ด้วย​ความตกใจ​ ​จากนั้น​ก็​มี​อาการ​เวียนหัว​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​รู้สึก​ว่า​ร่างกาย​จู่ๆ​ ​ก็​ไม่มีแรง​ ​จึง​กอด​คอ​เขา​ไว้​แล้ว​ซุก​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา

บ่าว​รับใช้​ใน​เรือน​รีบ​พากัน​ทยอย​ออก​ไป

“​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ใจ​ตื่นตระหนก​เล็กน้อย​ ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​ขี้อาย​ ​หาก​เป็นปกติ​คง​ไม่ยอม​ซุก​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง​แน่นอน​ ​ใน​ตอนนี้​เกรง​ว่านาง​จะ​รู้สึก​ไม่สบาย​เป็นอย่างมาก​ ​“​เจ้า​ไม่สบาย​ตรงไหน​”​ไม่​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ได้​ตอบ​ก็​ตะโกนเรียก​หู่​พั่ว​ ​“​รีบ​ไป​เอา​โสมมา​!​”​ ​แล้ว​หันไป​กำชับ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นว​่า​ ​“​รีบ​ไป​เชิญ​หมอ​มา​เร็ว​เข้า​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​วาง​สือ​อี​เหนียง​ลง​บน​เตียง​อย่างระมัดระวัง​ ​เอา​มือ​ไป​อัง​ที่​หน้าผาก​แล้ว​ถาม​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เจ้า​ไม่สบาย​ตรงไหน​”

ไม่สบาย​ไป​ทั้งตัว

สือ​อี​เหนียง​นอน​บน​เตียง​อย่างไร​้​เรี่ยวแรง​ ​ไม่ได้​ตอบคำถาม​ของ​เขา​แต่กลับ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​ให้​เยี​่​ยน​หรง​เข้ามา​ช่วย​ข้า​ถอด​เสื้อกั๊ก​ที​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ทั้ง​โมโห​ทั้ง​รู้สึก​ขบขัน​ใน​คราว​เดียวกัน​ ​“​เวลานี้​แล้ว​เจ้า​ยัง​จะ​มัว​เขินอาย​อยู่​อีก​”​ ​พูด​พลาง​ช่วย​ถอด​เสื้อกั๊ก​ให้​นาง​แล้ว​ห่ม​ผ้าห่ม​บาง​ๆ​ ​ให้

หู่​พั่ว​นำ​โสม​เข้ามา

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยุง​สือ​อี​เหนียง​ขึ้น​มา​ ​“​เจ้า​อม​โสม​ไว้​ก่อน​ ​อีกสักครู่​เมื่อ​หมอ​หลวง​มา​แล้วก็​จะ​ดีขึ้น​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​อม​โสม​ไว้​ใน​ปาก​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​นอนลง​ก็​ผลัก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​แล้ว​หมอบ​ตัว​อาเจียน​อยู่​ข้าง​เตียง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท