ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 414 ลมพัดโชย(ปลาย)

ตอนที่ 414 ลมพัดโชย(ปลาย)

อาจารย์​จ้าว​รับ​ตำรา​มา​ ​เปิด​ไป​ยัง​หน้าที่​ถูก​พับ​มุม​ไว้​ ​หลังจาก​ไตร่ตรอง​เป็นเวลา​นาน​เขา​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​เจ้า​กลับ​ไป​บอกฮู​หยิน​ว่า​ ​ผ่าน​ไป​อีก​สักหน่อย​ข้า​จะ​พูด​เรื่อง​ของ​มนุษย์​ใน​ตำรา​ปฐมวัย​ให้​ซื่อ​จื่อ​ฟัง​ ​โดยเฉพาะ​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​สิ่ง​เท็จ​จะ​กลายเป็น​จริง​ทำให้​ผู้คน​เชื่อ​ว่า​มี​เสือ​อยู่​ใน​เมือง​ ​ผู้คน​ชั่วร้าย​จะ​ปลุกระดม​กัน​จน​กลายเป็น​พลัง​ ​ก็​เปรียบ​ดั่ง​ฝูง​ยุง​ที่มา​รวมตัวกัน​ก่อให้เกิด​เสียงดัง​พอ​ๆ​ ​กับ​ฟ้าร้อง​ ​การ​ใช้​คำพูด​กล่าวเท็จ​ใส่ร้าย​ผู้อื่น​คือ​คนที​่​คอย​พูดจา​ใส่​สี​ตี​ไข่​ใน​ความผิดพลาด​เล็กน้อย​ของ​ผู้อื่น​ ​เพื่อให้​กลายเป็น​ความผิด​ที่​ยิ่งใหญ่​ ​การวางแผน​ให้ร้าย​ผู้อื่น​นั้น​เป็น​เครื่องมือ​ที่​คนชั่ว​ลอบ​ใช้​โจมตี​หรือ​ใส่ร้าย​ผู้อื่น​’​”

​หู่​พั่ว​กลับ​ไปรา​ยงาน​สือ​อี​เหนียง

​นาง​ฟัง​แล้วก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอยู​่​ที่​สวน​หลัง​จวน​ ​กำลัง​เล่น​ว่าว​อยู่​โดย​มีบร​รดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​กลุ่ม​ใหญ่​รายล้อม

​ป้า​เถา​พาสาว​ใช้​น้อย​ทั้งสอง​นำ​ชากับ​ขนม​มาส​่ง

​สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ดังนั้น​ก็​วิ่ง​มา​พร้อมกับ​เหงื่อ​ออก​ท่วมหัว

​“​ป้า​เถา​ ​ป้า​เถา​ ​ท่าน​เอา​อะไร​มาส​่ง​ให้​ข้า​!​”

​ป้า​เถา​รีบ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​มา​เช็ด​เหงื่อ​ให้​จุน​เกอ

​“​บ่าว​ทำ​ขนมฝู​หลิง​ที่​คุณชาย​น้อย​สี่​ชอบ​ทาน​ ​แล้วยัง​มี​ขนม​เปี๊ยะ​กุหลาบ​ที่​คุณชาย​น้อย​ห้า​ชอบ​ทาน​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่อยู่​ข้างหลัง​สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ส่งเสียง​ร้อง​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​มี​ของ​ข้า​ด้วย​หรือ​”

​“​มี​ของ​คุณชาย​น้อย​สี่​ก็​ย่อม​มี​ของ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ของ​พวกเรา​ด้วย​เช่นกัน​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​เถา​ปิดปาก​หัวเราะ

​สวี​ซื่อ​จุน​พาส​วี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ที่​ศาลา​ ​นั่งลง​บน​โต๊ะ​หิน​ที่​ปู​เบาะ​รอง​สีแดง​พลาง​ดื่ม​ชา​และ​ทาน​ขนม​อย่าง​เพลิดเพลิน​ใจ

​จู่ๆ​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​ช่วย​ทั้งสอง​คน​ถือว่า​วร​้​อง​ด้วย​ความตกใจ​ ​เมื่อ​หันไป​เห็น​ว่าว​ผีเสื้อ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​กำลัง​พัน​อยู่​กับ​ว่าว​ตะขาบ​ร้อย​ขา​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เป็นกังวล​ ​รีบ​ลุกขึ้น​วิ่ง​ออก​ไป​ ​บรรดา​สาวใช้​และ​หญิง​เฒ่า​ที่​คอย​รับใช้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ดังนั้น​ก็​วิ่ง​ตาม​ไป​ด้วย

​สวี​ซื่อ​จุน​กลับ​ถูก​ป้า​เถา​ดึง​เอาไว้​ ​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​มา​เช็ด​เหงื่อ​ที่​เสื้อกั๊ก​ของ​เขา​พลาง​พูด​อย่าง​เอ็นดู​ว่า​ ​“​นาย​น้อย​ของ​บ่าว​ ​ท่าน​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​ ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​คอย​ดู​ว่าว​ให้​อยู่​ ​ไม่เป็นอะไร​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​ถาม​เขา​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​ ​เรื่อง​ที่ฮู​หยิน​สี่​มอบ​ดอกไม้​ ​ป้า​ตู้​ได้​เอา​ไป​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ไม่ได้​พูด​เรื่อง​นี้​ต่อหน้า​เด็ก​ๆ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​จึง​คิด​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ไม่รู้​เรื่อง​นี้

​“​ไม่ได้​บอก​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ส่ายหน้า​ ​พลัน​นึกได้​ว่า​ป้า​เถา​ยืนยัน​ว่า​ป้า​ตู้​รู้​ว่า​อะไร​ควร​พูด​ ​อะไร​ไม่​ควร​พูด​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เป็น​อย่างที่​ป้า​เถา​พูด​ ​ท่าน​ย่า​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ท่าน​แม่​เรียก​ข้า​ไป​คุย​ด้วย​ ​ซ้ำ​ยัง​ชม​ข้า​บอกว่า​ข้า​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ที่​ดี.​..​”

​“​เช่นนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​เขา​อยาก​จะ​เล่า​ทุก​คำพูด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ให้​ป้า​เถา​ฟัง​ ​ขณะที่​กำลังจะ​อ้า​ปาก​พูด​ ​ก็​ถูก​เสียงหัวเราะ​ของ​ป้า​เถา​ตัดบท​สนทนา​แล้ว​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ยัง​เด็ก​ ​ยัง​มีบาง​เรื่อง​ที่​ไม่เข้าใจ​ ​ตอนนี้​เรื่อง​ใน​เรือน​มีฮู​หยิน​สี่​เป็น​ผู้ควบคุม​ ​จะ​ป้า​ตู้​ก็ดี​หรือ​จะ​เป็น​ฉา​เซียง​ที่​ไท่ฮู​หยิน​มอบให้​ก็ดี​ ​ต่าง​ก็​ต้อง​ไป​แบมือ​ขอ​อาหาร​จาก​นาง​ ​แต่​บ่าว​ไม่​เหมือนกัน​ ​บ่าว​เป็น​ผู้ติดตาม​มารดา​ของ​ท่าน​ ​ของกินของใช้​ก็​เป็น​สินเดิม​และ​รางวัล​ที่มา​รดา​ของ​ท่าน​มอบให้​ ​มีบา​งคำ​ที่​มี​เพียง​บ่าว​เท่านั้น​ที่สามา​รถ​พูด​ได้​ ​ถ้าหาก​บ่าว​กล้า​พูด​นะ​เจ้า​คะ​”

​หัวข้อ​สนทนา​ถูก​เปลี่ยน​อย่างรวดเร็ว​และ​คลุมเครือ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

​ป้า​เถา​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​ต้อง​จำ​เอาไว้​ว่า​ป้า​เถา​เป็น​คน​กล้าหาญ​และ​ซื่อสัตย์​ ​จะ​พูด​แต่​ความจริง​กับ​คุณชาย​น้อย​เท่านั้น​นะ​เจ้า​คะ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​นึกถึง​คำสั่ง​เสีย​ของ​มารดา​ที่​จากไป​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​พยักหน้า​ด้วย​ความ​สับสน

​ป้า​เถา​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​ไป​เล่น​เถิด​ ​บ่าว​ต้อง​กลับ​แล้ว​ ​ได้เวลา​จุด​ธูปบูชา​คุณหนู​ใหญ่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​ ​ใน​ใจ​พลัน​สับสน​อลหม่าน​ ​ไม่มี​กระ​จิตกระ​ใจมา​เล่น​อย่างสนุกสนาน​แล้ว

​ฉา​เซียง​ที่​ยืน​อยู่​ข้างนอก​ศาลา​มองดู​ป้า​เถา​ที่​ค่อยๆ​ ​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​ ​แล้ว​หันกลับ​ไป​มอง​จุน​เกอ

​******

​วันรุ่งขึ้น​ไป​เข้าเรียน​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นมี​สีหน้า​เบิกบานใจ​เล่าเรื่อง​ที่​เขา​กับ​ลูกพี่ลูกน้อง​ชาย​ของ​เขา​ไปเที่ยว​ด้านนอก​แล้ว​ได้​พบ​กับ​บัณฑิต​หัน​แห่ง​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลินย​่​วน​กำลัง​เกี้ยวพาราสี​คณิกา​หญิง​ ​อาจารย์​จ้าว​ยิ้ม​แล้ว​บอกว่า​เขา​เป็น​คนพูด​จา​เถรตรง​ ​จากนั้น​ก็​สอน​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ของ​มนุษย์​ใน​ตำรา​ปฐมวัย

​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นรู​้​สึก​ลำบากใจ​เล็กน้อย​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​ฟัง​ด้วย​ความ​สับสน

​อาจารย์​จ้าว​ถอนหายใจ​อยู่​ใน​ใจ

ไม่ว่า​จะ​เป็นความ​รู้​หรือ​ความ​เป็น​คน​ ​หาก​ขัดแย้ง​กัน​ ​ต้นกล้า​ที่​เติบโต​เช่นนี้​ ​ผลลัพธ์​จะ​ต้อง​ไม่ดี​อย่างแน่นอน

​หลังจาก​คิดทบทวน​เรื่อง​นี้​แล้วก็​ให้​บ่าว​รับใช้​ไป​บอก​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​กำลัง​สอน​ตำรา​ปฐมวัย​ ​เพียงแต่ว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​กับ​คุณชาย​น้อย​ห้า​อายุ​ยังน้อย​เกินไป​ ​เกรง​ว่ายาก​ที่จะ​เข้าใจ​สาระสำคัญ​ได้​”

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เห็น​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​จะ​เลิกเรียน​แล้ว​ ​จึง​เรียก​บรรดา​สาวใช้​น้อย​ที่พึ่ง​เข้า​จวน​มาทำ​งาน​เพื่อมา​เล่น​เกม​หนึ่ง​ ​โดย​ให้​พวก​นาง​ยืน​ห่าง​กัน​สาม​ถึง​สี่​ไม้บรรทัด​เป็นแถว​หน้า​กระดาษ​ ​หู่​พั่ว​เริ่ม​กระซิบ​บางอย่าง​กับ​สาวใช้​น้อย​ที่​ยืน​อยู่​คน​แรก​ทางซ้าย​มือ​ ​จากนั้น​ก็​ให้​สาวใช้​น้อย​กระซิบ​บอกต่อ​กับ​สาวใช้​น้อย​ที่อยู่​ถัดจาก​นาง​ ​เมื่อ​ส่งต่อ​ไป​จนถึง​คน​แรก​ทางขวามือ​ก็​ให้​นาง​พูด​ออกมา​เสียงดัง​ว่า​ได้ยิน​ประโยค​อะไร​ ​จากนั้น​ค่อย​ให้​สาวใช้​คน​แรก​ทางซ้าย​มือ​พูด​ออกมา​ว่า​หู่​พั่ว​บอก​กับ​นาง​ว่า​อะไร

​คำพูด​ของ​หู่​พั่ว​ถูก​บิดเบือน​ไป​จน​หมด​

​บรรดา​สาวใช้​น้อย​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​แต่ละคน​ต่าง​ก็​มีสี​หน้า​เปลี่ยนไป

สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เลิกเรียน​แล้ว

​เห็น​ดังนั้น​ก็​อด​แปลกใจ​ไม่ได้

​หู่​พั่ว​ยิ้ม​พลาง​เล่า​ให้​พวกเขา​ฟัง

​สวี​ซื่อ​จุน​เบิกตา​กว้าง​ ​“​เหตุใด​คำพูด​ถึง​ได้​เปลี่ยนไป​เล่า​”

​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​รอคำ​พูด​นี้​ของ​เขา​อยู่​พอดี​ ​ยิ้ม​แล้ว​ดึง​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​กอด​ ​“​หาก​ไม่เชื่อ​ ​จุน​เกอ​ก็​ลองดู​สิ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​อาสา​ที่จะ​ยืน​อยู่​คน​แรก​ทาง​ด้าน​ซ้ายมือ

​ผลสุดท้าย​เป็น​อย่างไร​ไม่ต้อง​บอก​ก็​รู้

​เขา​หัวเราะ​จน​ตัว​งอ​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เป็น​เพราะ​สาวใช้​น้อย​เหล่านี้​ไม่รู้​จัก​พูด​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เรียก​หู่​พั่ว​ ​ลี่ว​์​อวิ​๋น​และ​คนอื่นๆ​ ​มา​ ​ให้​ทุกคน​เล่น​เกม​นี้​ด้วยกัน​ใหม่​อีกครั้ง

​สุดท้าย​แล้ว​คำพูด​ก็​ถูก​บิดเบือน​เช่น​เดิม

​หู่​พั่ว​กับ​ลี่ว​์​อวิ​๋​นก​็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​สาวใช้​น้อย​ ​พากัน​หัวเราะ​จน​ตัว​งอ

​สวี​ซื่อ​จุน​เอา​มือ​กุม​ท้อง​หัวเราะ​พลาง​ทิ้งตัว​ล้ม​ลง​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ทำเอา​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​ตกใจ​ ​รีบ​ไป​ช่วย​พยุง​เขา​ลุกขึ้น​ ​“​นาย​น้อย​ของ​บ่าว​ ​ระวัง​ร่างกาย​ของฮู​หยิน​ด้วย​ ​เกรง​ว่า​จะ​รับ​แรง​กระแทก​ของ​ท่าน​ไม่ไหว​เจ้าค่ะ​”

​เขา​เช็ดน้ำ​ตา​ที่​ออกมา​เพราะ​ความขบขัน

​สือ​อี​เหนียง​สอน​บรรดา​สาวใช้​น้อย​ว่า​อย่า​ยั่วยุ​ให้​เกิด​การทะเลาะวิวาท​ ​อย่า​บิดเบือน​คำพูด​หรือ​เผยแพร่​คำ​เท็จ

​จุน​เกอ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​สะดุ้ง​ขึ้น​มา​ ​รอ​จน​สือ​อี​เหนียง​พูด​จบ​ ​ให้​บรรดา​สาวใช้​น้อย​ถอย​ออก​ไป​จด​หมด​ ​ก่อน​จะ​พูด​ด้วย​ความตื่นเต้น​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ว่าที่​อาจารย์​จ้าว​พูด​นั้น​หมายถึง​อะไร​ ​คำพูด​มักจะ​ถูก​บิดเบือน​ ​ข่าวลือ​ไม่เคย​ผ่าน​การ​วิเคราะห์​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ดังนั้น​คนฉลาด​จึง​ไม่​รีบเร่ง​ที่จะ​สรุป​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​ได้ยิน​”

​จุน​เกอ​พยักหน้า​อย่าง​เห็นด้วย

​ต่อมา​อาจารย์​จ้าว​ได้​สอน​เรื่อง​คน​สาม​คน​กลายเป็น​เสือ​และ​เรื่อง​การ​ให้ร้าย​ลับหลัง​ผู้อื่น​ ​คำพูด​ของ​ป้า​เถา​จึง​ได้​ค่อยๆ​ ​ถูก​ลืม​ไป​อย่าง​ช้าๆ

​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไม่ลืม

​เดิม​คิด​ว่า​หาก​นาง​ทำ​เพราะ​เรื่อง​พิธี​ครบรอบ​วัน​จากไป​ของ​หยวน​เหนียง​ ​ตัวเอง​นั้น​ก็​จะ​ไม่ถือสา​ ​แต่​นาง​กลับ​ยั่วยุ​จุน​เกอ​อีก​ ​เรื่อง​นี้​จึง​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​เบื่อหน่าย​อยู่​บ้าง

​สือ​อี​เหนียง​อาศัย​โอกาส​นี้​เรียก​หลู​หย่ง​กุ้​ยมา​ในขณะที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถูก​อวี​๋​อี๋​ชิง​เชิญ​ไป​ปรึกษา​เรื่อง​การ​หมั้น​หมาย​ของ​อวี​๋​เฉิง

​“​แม้ว่า​เถา​เฉิง​บุตรชาย​ของ​ป้า​เถา​จะ​เป็น​ผู้ดูแล​ที่ดิน​ใน​หมู่บ้าน​ ​แต่ว่า​ก็​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​พี่​หญิง​ใหญ่​เหมือนกับ​เจ้า​ ​พวก​เจ้า​ทั้ง​สาม​คน​ก็​คงจะ​คุ้นเคย​และ​เข้าใจ​ซึ่งกันและกัน​อยู่​บ้าง​ใช่​หรือไม่​”

​ตั้งแต่​ครั้ง​ที่แล้ว​ที่​สือ​อี​เหนียง​ได้​ให้​บ่าว​รับใช้​คอย​ติดตาม​เขา​ทุกวัน​ ​ใน​ใจ​เขา​ก็​เข้าใจ​มากขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​บอกใบ้​เขา​ว่า​หาก​ชีวิต​นี้​เขา​ทำผิด​แม้แต่​นิดเดียว​สือ​อี​เหนียง​ก็​สามารถ​ทำให้​เขา​เสียชื่อเสียง​ได้​ตลอดเวลา

​เขา​ก้มหน้า​เล็กน้อย​ ​พูด​อย่างนอบน้อม​ว่า​ ​“​ข้า​น้อย​กับ​เขา​ไปมาหาสู่​กัน​อยู่​บ้าง​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เขา​เป็น​คน​แบบ​ใด​”

​หลู​หย่ง​กุ้ย​ไตร่ตรอง​อยู่​สักพัก​ก่อนที่จะ​ตอบ​ว่า​ ​“​ที่ดิน​หมู่บ้าน​ของ​คุณหนู​ใหญ่​อยู่​ใน​มือ​เขา​ ​ทุกๆ​ ​สอง​สาม​ปี​จะ​มี​การ​ทยอย​ซื้อ​ที่ดิน​เพิ่ม​ ​หลาย​ปี​มานี​้​มีที​่​ดิน​เพิ่ม​จาก​เดิม​ประมาณ​หนึ่งร้อย​กว่า​หมู่​แล้ว​ ​บางครั้ง​ในกรณีที่​ปีนั​้น​เกิด​ภัยพิบัติ​ก็​ยัง​สามารถ​ทำให้​คนใน​หมู่บ้าน​ทาน​อิ่ม​ได้​ ​แต่​ก็​ไม่​ถึงขั้น​เปิด​ยุ้งฉาง​แจกจ่าย​เสบียง​บรรเทาทุกข์​ได้​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แสดงว่า​เขา​ก็​เป็น​คนที​่​มี​ความสามารถ​”

​หลู​หย่ง​กุ้ย​ตอบกลับ​ ​“​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​อย่าง​ไม่​เร่งรีบ​ ​เอ่ย​ถาม​เขา​อีกว่า​ ​“​ไม่รู้​ว่า​เขา​ชอบ​ทำ​อะไร​เป็นพิเศษ​หรือไม่​”

​หลู​หย่ง​กุ้​ยป​ระ​หลาด​ใจ​ ​เงยหน้า​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จะ​สบตา​กับ​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​มอง​มา​พอดี​ ​เขา​รีบ​ก้มหัว​ลง​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​“​สิ่ง​ที่​ชอบ​ทำเป็น​พิเศษ​…​ดูเหมือนว่า​จะ​ไม่มี​สิ่ง​ที่​ชอบ​ทำเป็น​พิเศษ​ขอรับ​!​”

​“​คนเรา​จะ​ไม่มี​สิ่ง​ที่​ชอบ​ทำเป็น​พิเศษ​ได้​อย่างไร​กัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ปาก​ถ้วย​ชาวน​ไปมา​ ​“​อย่างเช่น​พ่อบ้าน​หลู​ที่​ชอบ​สะสม​เหรียญทองแดง​ ​อย่างเช่น​ข้า​ที่​ชอบ​ชื่นชม​ดอกไม้​ ​เจ้า​ไม่ได้​บอกว่า​ทุกๆ​ ​สอง​สาม​ปี​เถา​เฉิง​ก็​จะ​ซื้อ​ที่ดิน​เพิ่ม​ไม่ใช่​หรือ​ ​ไม่แน่​สิ่ง​ที่​เถา​เฉิง​ชอบ​ทำเป็น​พิเศษ​คือ​การ​ซื้อ​ที่ดิน​ก็ได้​!​”

​หลู​หย่ง​กุ้ย​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ใจเต้น​แรง

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​แต่​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​ ​ใช้​ฝา​ถ้วย​เขี่ย​ใบชา​ที่​ลอย​อยู่​ใน​ถ้วย​ ​เสียง​กระทบ​กัน​ของ​เครื่องเคลือบ​ดินเผา​ดัง​ขึ้น​ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงบ​เป็นครั้งคราว​ ​เพิ่ม​ความตึงเครียด​ให้​กับ​บรรยากาศ​ที่​เดิมที​ก็​ค่อนข้าง​กดดัน​อยู่​แล้ว

​หลู​หย่ง​กุ้ย​เห็น​สถานการณ์​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​รู้​ว่า​หาก​ไม่ได้​ตาม​จุดประสงค์​สือ​อี​เหนียง​ไม่ยอม​ปล่อยไป​แน่​ ​สมอง​ของ​เขา​แล่น​อย่างรวดเร็ว

เถา​เฉิง​ก็​เป็น​เพียง​ผู้ดูแล​ตำแหน่ง​เล็ก​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​การ​ที่​สือ​อี​เหนียง​สามารถ​จดจำ​ชื่อ​เขา​ได้​ ​ต้อง​เป็น​เพราะ​ป้า​เถา​แน่นอน

​เรื่อง​ใน​เรือน​ไม่เคย​มี​ถูก​หรือ​ผิด

​หลู​หย่ง​กุ้​ยนั​้น​ไม่​อยาก​เข้าไปมีส่วนร่วม​ด้วย

​เขา​จึง​ทำเป็น​ไม่รู้​เรื่องมาก​นัก​ ​ฝืนยิ้ม​ออกมา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เถา​เฉิง​ผู้​นี้​กระทำการ​อย่างระมัดระวัง​ ​หาก​จะ​พูดถึง​สิ่ง​ที่​ชอบ​ทำเป็น​พิเศษ​ก็​คงจะ​เป็นนิสัย​ที่​ชอบ​ดื่ม​สุรา​อยู่​บ้าง​ ​แต่​น่าเสียดาย​ที่​เขา​เป็น​คน​คออ่อน​ ​ดื่ม​สิบ​ครั้ง​ก็​เมา​ไป​แล้ว​เก้า​ครั้ง​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​พ่อบ้าน​หลู​เข้าใจ​เถา​เฉิง​เช่นนี้​ ​ข้าว​่า​เรื่อง​นี้​คง​ต้อง​ขอให้​พ่อบ้าน​หลู​ช่วย​ออกหน้า​ให้​ดีกว่า​”

​หลู​หย่ง​กุ้ย​แอบ​ร้อง​ด้วย​ความขมขื่น​อยู่​ใน​ใจ​แต่​ก็​ไม่มี​วิธี​ปฏิเสธ​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เดิมทีฮู​หยิน​สี่​ก็​เป็นคุณ​หนู​ของ​สกุล​หลัว​ ​เดิมที​บ่าว​ก็​เป็น​บ่าว​รับใช้​ของ​สกุล​หลัว​ ​พู่กัน​ด้าม​เดียว​ไม่​สามารถ​เขียน​อักษร​หลัว​พร้อมกัน​สอง​ตัว​ได้​ ​หากฮู​หยิน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​บ่าว​ย่อม​ช่วย​อย่าง​สุดกำลัง​ ​เพียงแต่ว่า​บ่าว​เป็น​คนโง่​เขลา​ ​มีบา​งค​รั้ง​ที่​ไม่​รอบคอบ​ ​ขอให้ฮู​หยิน​สี่​โปรด​อภัย​ด้วย​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​นั้น​ง่าย​มาก​ ​ในเมื่อ​เถา​เฉิง​ผู้​นั้น​ชอบ​สุรา​แล้วก็​ไม่ใช่​คน​คอแข็ง​ ​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​ถ้าหาก​เขา​ดื่ม​สุรา​แล้วไป​พูดคุย​กับ​คนอื่น​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ซื้อ​ที่ดิน​ ​เขา​จะ​ถูก​หลอก​หรือไม่​!​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ยิ้ม​พลาง​มอง​หลู​หย่ง​กุ้ย​ ​“​เรื่อง​นี้​ต้อง​ขอให้​พ่อบ้าน​หลู​ช่วย​สืบ​ให้​สักหน่อย​ ​เช่นนี้​จะ​ได้​ไม่​ถูก​คนอื่น​ค้นพบ​ ​ทำให้​ต้อง​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​สกุล​หลัว​ของ​พวกเรา​”

​หลู​หย่ง​กุ้​ยสู​ดล​มหาย​ใจ​เข้า​ลึก​ ​เงียบ​ไป​ครู่ใหญ่​ก่อน​จะ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​คำสั่ง​ของฮู​หยิน​ ​บ่าว​จะ​ทำให้​ดีที​่​สุด​ขอรับ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​อย่าง​พึงพอใจ​แล้ว​ส่ง​แขก​ออก​ไป

​หลังจาก​ผ่าน​ไป​กว่า​ครึ่ง​เดือน​ ​เถา​เฉิง​ก็​เข้า​จวน​มา​พบ​มารดา​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก

​ป้า​เถา​ดึง​ไม้ขนไก่​ใน​กระถาง​มาตี​อย่าง​ไม่​หยุด​มือ

​เถา​เฉิง​เอา​มือ​กุม​หัวไว​้​ ​“​ทุ่ง​ข้าวสาลี​ใน​ที่ดิน​สาม​ร้อย​หมู่​เติบโต​อย่างดี​ ​มี​ใคร​บ้าง​ที่​ฟัง​แล้ว​จะ​ไม่​อยากได้​ ​ข้า​จะ​ไปรู​้​ได้​อย่างไรเล่า​ว่า​ไอ้​หมอนั​่น​ไม่ใช่​เจ้าของที่ดิน​!​”

​“​เจ้า​ยัง​กล้า​แก้ตัว​อีก​!​”​ ​ตัวเอง​เลี้ยง​มากั​บมือ​ย่อม​รู้ดี​ ​“​เจ้า​ดื่ม​สุรา​แล้วไป​ลงนาม​สัญญา​ที่ดิน​ใช่​หรือไม่​”

​เถา​เฉิง​ไหน​เลย​จะ​กล้า​ยอมรับ​ ​กัด​ฟัด​พูดว่า​ ​“​ไม่ใช่​ ​ไม่มีทาง​”

​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ตี​ไป​ด่า​ไป​ก็​เปล่าประโยชน์

​เมื่อ​ป้า​เถา​ระบาย​ความโกรธ​แล้ว​ ​ก็​เดิน​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน​พลาง​ถาม​เถา​เฉิง​ว่า​ ​“​ขาดเงิน​อีก​เท่าไร​”​ ​คิด​จะ​ช่วย​บุตรชาย​ชดใช้​ความผิด

​เถา​เฉิง​พูด​อย่าง​อ้ำ​ๆ​ ​อึ้ง​ๆ​ ​ว่า​ ​“​สอง​…​สอง​พัน​ตำลึง​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท