ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 449 จมปลัก (ต้น)

ตอนที่ 449 จมปลัก (ต้น)

​สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ที่​กำลัง​หัวเราะ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ​ตอนนี้​เขา​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ของ​หัวใจ​ที่​กำลัง​เต้น​อย่างรุนแรง​เท่านั้น

ตอนที่​เขา​ยัง​เด็ก​ก็​เคย​ได้ยิน​ผู้อื่น​เล่า​ถึง​เหตุการณ์​เรื่อง​นี้​ ​หากว่า​ตอนนั้น​บุตร​ของถ​งอี​๋​เหนียง​ไม่​เสียชีวิต​ ​หลังจาก​คลอด​ออกมา​แล้วก็​จะ​กลายเป็น​บุตรชายคนโต​…​แต่​เขา​ไม่เคย​สงสัย​เลย​แม้แต่​นิด​ ​เพราะ​ฉิน​อี๋​เหนียง​มักจะ​คอย​จุด​ตะเกียง​อายุ​ยืน​ให้ถ​งอี​๋​เหนียง​อยู่​เสมอ​ ​ใน​ทุกๆ​ ​ปีก​็​มักจะ​ทำพิธี​ให้​นาง​อีกด้วย​ ​เขา​เอง​ก็​เคย​ถาม​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​ว่าถ​งอี​๋​เหนียง​เป็น​ใคร​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็ได้​ตอบ​เขา​ว่าถ​งอี​๋​เหนียง​เป็น​สหาย​ที่​ดีที​่​สุด​ของ​นาง​ ​อีกทั้ง​ยัง​บอกว่าถ​งอี​๋​เหนียง​นั้น​งดงาม​เป็นอย่างมาก​ ​ฝีไม้ลายมือ​การ​เย็บปักถักร้อย​ก็​ไม่​เป็นรอง​ใคร​ ​นิสัยใจคอ​อ่อนโยน​แค่ไหน​ ​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​จิตใจ​ที่​กว้าง​เพียงใด​…​จนถึง​ทุกวันนี้​ ​เขา​ยัง​จำ​สีหน้า​และ​แววตา​ตอนที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​หวน​รำลึกถึง​ความหลัง​ได้​เป็น​อย่างดี

​หัวใจ​ของ​เขา​พลัน​เย็นวาบ​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​คว้า​แขน​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ขึ้น​มา​พร้อมกับ​ตะโกนเรียก​นาง​ ​“​อี๋​เหนียง​”​ ​เขา​อยาก​จะ​ถาม​อะไร​บางอย่าง​ ​แต่​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​เริ่ม​ถาม​อย่างไร​ดี

​ฉิน​อี๋​เหนียง​กลับ​ทำ​เหมือนว่า​เป็น​คน​หูหนวก

​นาง​หัวเราะ​คนเดียว​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​เปลี่ยนเป็น​สีหน้า​เคร่งขรึม​ขึ้น​มา​ ​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​ข้า​อิจฉา​พี่​หญิง​ปี้​อวี​้​เป็น​ที่สุด​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ ​นาง​ดู​เพียง​ครู่เดียว​ก็​ทำเป็น​เสีย​ทุกอย่าง​ ​ไม่ว่า​จะ​พูด​อะไร​ ​ขอ​เพียงแค่​ออกจาก​ปาก​นาง​ ​ก็​ฟัง​ดู​นุ่มนวล​กว่า​ข้า​เป็น​ไหน​ๆ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นไท​่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​หรือ​แม้แต่​ท่าน​โหว​เอง​ต่าง​ก็​ชอบ​นาง​ทั้งนั้น​ ​ตอนที่​ข้า​ได้ยินฮู​หยิน​บอกว่า​ครรภ์​ของ​นาง​ค่อนข้าง​แหลม​ ​คงจะ​ตั้งครรภ์​เด็กผู้ชาย​ ​ข้า​ก็​แอบ​นึกในใจ​ ​เหตุใด​คน​คน​หนึ่ง​ถึง​ได้​มีชีวิต​ที่​ดี​เช่นนี้​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ก็​ดูเหมือน​จะ​ได้เปรียบ​กว่า​เสมอ

​พอก​ลับ​ถึง​เรือน​ ​นาง​ก็​บอกว่า​ไม่​ค่อย​สบาย​ ​จึง​ให้​สาวใช้​ไป​ตัก​น้ำ​มา​ให้​นาง​แช่​เท้า​เสียหน่อย​ ​แต่​สาวใช้​เหล่านั้น​เป็นสาว​ใช้​ใหม่​ที่พึ่ง​เข้า​จวน​มา​ไม่นาน​ ​จึง​ค่อนข้าง​อ่อน​ประสบการณ์​ ​ทุกครั้งที่​ตัก​น้ำ​มา​ให้​นาง​ ​หาก​น้ำ​ไม่​ร้อน​เกินไป​ก็​เย็น​จน​เกินไป​ ​ต้อง​ให้​ข้า​คอย​บอก​คอย​สอน​เสมอ​ ​ข้า​สอน​ไป​ตั้ง​หลายครั้ง​ ​แต่​ก็​ยัง​ทำได้​ไม่ดี​เหมือนเดิม​ ​วันนั้น​ข้า​เอง​ก็​เหนื่อย​มาก​ ​ไม่​อยาก​จะ​ไป​ช่วย​นาง​ตัก​น้ำร้อน​ ​ราวกับว่า​ตัวเอง​เป็นสาว​ใช้​น้อย​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ที่​วัน​ๆ​ ​ต้อง​คอย​ตัก​แต่​น้ำร้อน​มา​ให้​นาง​แช่​เท้า​ ​ก็​เลย​ไปหา​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ที่​เรือน​”

นาง​เอน​ตัว​ไป​ข้างหลัง​เล็กน้อย​ ​พิง​หลัง​ไป​ยัง​ราว​กั้น​เตียง​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​คลำหา​ผ้าห่ม​แล้ว​ดึง​ขึ้น​มา​ห่ม​บน​ตัว​ของ​นาง

​“​แต่​แล้ว​…​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​หลังจากที่​ข้า​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​ท่อน​ล่าง​ของ​นาง​ก็​เต็มไปด้วย​เลือด​…​ป้า​รับใช้​ที่ฮู​หยิน​ส่ง​ให้​มาป​รน​นิ​บัติ​ดูแล​นั้น​ไม่​ใช้​ป้า​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​เรื่อง​การ​ทำคลอด​ ​แต่​เป็น​ป้า​รับใช้​ที่​ดูแล​งาน​ทั่วไป​โดยเฉพาะ​ ​นาง​ไม่รู้​แม้แต่​นิดเดียว​ว่า​จะ​ต้อง​ช่วยชีวิต​คน​อย่างไร​ ​เพียงแต่​เรียก​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​มารวม​ตัว​ปรึกษาหารือ​กัน​ว่า​จะ​เรียน​เรื่อง​นี้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​อย่างไร​จะ​ได้​ไม่ต้อง​โดน​หางเลข​ไป​ด้วย​…​ข้า​จึง​จำเป็นต้อง​แบก​ท้องที่​โต​ไป​ยัง​เรือน​หลัก​…

ฮู​หยิน​ไม่ได้​สนใจ​ข้า​แม้แต่​นิดเดียว​ ​สาวใช้​ก็​เอาแต่​ให้​ข้า​ไปหา​ป้า​เถา​ ​คืน​นั้น​…​ไม่มี​พระจันทร์​ ​บน​ท้องฟ้า​มีด​วง​ดาว​เพียง​ไม่​กี่​ดวง​เท่านั้น​ ​บริเวณ​รอบด้าน​มืดสนิท​ ​ข้า​เอง​ก็​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​กลัว​ว่า​จะ​เกิดเรื่อง​ร้าย​กับ​ตัว​ข้า​เหมือนกัน​ ​ก็​เลย​ขอร้อง​ให้​สาวใช้​คน​นั้น​ไป​ช่วย​เรียน​เรื่อง​นี้​กับฮู​หยิน​หน่อย​ ​แต่​นาง​กลับ​เหน็บแนม​และ​เย้ยหยัน​ข้า​ ​ว่า​เพราะ​ข้า​อาศัย​เรือน​เดียวกัน​กับ​อี๋​เหนียง​ทั้งสอง​นาน​เข้า​หน่อย​ก็​เลย​คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​อี๋​เหนียง​ไป​ด้วย​ ​ให้​ไป​ช่วย​เรียก​หน่อย​ก็​ไม่ยอม​ไป​ ​ข้า​โมโห​จน​ร้องไห้​ออกมา​ ​จากนั้น​ข้า​ก็​ร้องไห้​พลาง​เดิน​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​ป้า​เถา​ ​ใน​ใจ​ข้า​ตอนนั้น​รู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​นั้น​ข้า​อาจ​เทียบ​ไม่ได้​ ​แต่​ข้า​กลับ​เทียบ​ไม่ได้​แม้กระทั่งถ​งอี​๋​เหนียง​ ​แต่​อย่างไร​เสีย​ ​ข้า​เอง​ก็​ตั้งท้อง​ลูกหลาน​ของ​ท่าน​โหว​อยู่​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เวลา​ที่อยู่​ด้วยกัน​สาม​คน​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ก็​เป็น​ข้า​ที่​เป็น​คน​ไป​ทำ​ทั้งนั้น​ ​แล้ว​ข้า​ไป​ลืมตัว​อยาก​จะ​เป็น​อี๋​เหนียง​ตั้งแต่​ตอน​ไหน​กัน​…

​ตอนนั้น​ข้า​เอาแต่​คิด​ว่า​ข้า​ต้อง​ให้กำเนิด​บุตรชาย​เท่านั้น​ ​หาก​สามารถ​ให้กำเนิด​บุตรชาย​ได้​ ​เพื่อ​หลาน​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​จะ​ต้อง​ยก​ข้า​ขึ้น​เป็น​อี๋​เหนียง​อย่างแน่นอน​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ทุกคน​ก็​จะ​ได้​เห็น​ว่า​ข้า​เอง​ก็​เป็น​อี๋​เหนียง​โดยชอบธรรม​ ​ไม่ใช่​แค่​อาศัย​ว่า​ตั้งครรภ์​ก็​เลย​ทำท่า​ทำที​ขึ้น​มา​ ​หยิ่งผยอง​โอ้อวด​ไป​ทั่ว​ ​และ​จะ​ดีที​่​สุดหา​กว่า​เป็น​บุตรชายคนโต​…​”

​เมื่อ​พูด​จนถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​หยุดชะงัก​ไป

​สวี​ซื่อ​อวี​้​รู้สึก​คอ​และ​ดวงตา​ของ​เขา​แห้งผาก​ไป​หมด​ ​ราวกับว่า​กำลัง​มี​ควัน​ระเหย​ออกมา​ ​เสียง​ของ​เขา​ติด​อยู่​ใน​ลำคอ​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​แล้ว​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​พูด​อะไร​ไม่​ออก​แม้แต่​คำ​เดียว

​“​ทางเดิน​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​ป้า​เถา​ทั้ง​มืด​และ​ไกล​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​ข้า​คอย​ประคอง​ท้อง​ไว้​ ​ส่วน​มือ​อีก​ข้าง​ก็​คลำ​ไป​ตาม​ผนัง​กำแพง​อิฐ​ดินเหนียว​ของ​ทางเดิน​ ​ข้า​เดิน​ไป​ข้างหน้า​อย่างระมัดระวัง​ ​รอบด้าน​เงียบสนิท​ไป​หมด​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ฝีเท้า​ของ​ข้า​เท่านั้น​”​ ​อารมณ์​ของ​นาง​เริ่ม​ไม่​คงที่​ ​“​ข้า​ยิ่ง​เดิน​ก็​ยิ่ง​กลัว​ ​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​เป็นกังวล​ใจ​ ถ​งอี​๋​เหนียง​ตกเลือด​ ​ข้า​ไม่เพียงแต่​จะ​โดน​หาก​เลข​ไป​ด้วย​เท่านั้น​ ​ข้ามา​แจ้ง​ข่าว​ด้วย​เจตนา​ที่​ดี​ ​กลับ​ถูก​สาวใช้​หัวแถว​ปฏิบัติ​ต่อ​ข้า​เช่นนี้​ ​รู้​ทั้ง​รู้​ว่า​ข้า​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​แต่กลับ​ยัง​ให้​ข้า​ไปหา​ป้า​เถา​ ​หาก​คนที​่​ไป​แจ้ง​เรื่อง​เป็น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ฮู​หยิน​จะ​ไม่สน​ใจ​อย่างนั้น​หรือ​ ​สาวใช้​น้อย​คน​นั้น​สั่งสอน​ข้า​เช่นนี้​ ​ก็​เพราะ​ต้องการ​จะ​รังแก​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​อย่าง​ข้า​ก็​เท่านั้น​…​อีก​อย่าง​ ​หากถ​งอี​๋​เหนียง​เกิด​เป็น​อะไร​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​ก็​ไม่ใช่​ความผิด​ของ​ข้า​คนเดียว​เสียหน่อย​ ​เป็น​ถึง​นาย​หญิง​ใหญ่​แห่ง​จวน​ ฮู​หยิน​ไม่ได้​ทำผิด​จริงๆ​ ​หรือ​ ​สาวใช้​ที่​เข้าเวร​ไม่มี​ความผิด​เลย​หรือ​อย่างไร​กัน​ ​พวก​นาง​ไม่​ร้อนใจ​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​แล้ว​ข้า​จะ​ร้อนใจ​ไป​ทำไม​ ​ในเมื่อ​ต้องการ​ให้​ข้า​ไปหา​ป้า​เถา​ ​ข้า​ก็​ไปหา​ป้า​เถา​อย่างไรเล่า​…​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​จบ​ ​ก็​หยุดชะงัก​ไป​ครู่ใหญ่

​ครั้งนี้​ ​นาง​หยุด​พูด​ไป​ค่อนข้าง​นาน​ ​จากนั้น​ก็​เม้มปาก​เป็น​เส้นตรง​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความดื้อ​รั้น

​ใน​ใจ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​สั่นสะท้าน​ไป​หมด​ ​ลางสังหรณ์​บอก​กับ​เขา​ ​ว่า​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ต่อจากนี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ดี​อย่างแน่นอน​ ​เขา​ควรจะ​หยุด​มัน​ไว้​แค่นี้​ ​ไม่ต้อง​ฟัง​ต่อ​ ​แต่กลับ​มี​ความสงสัย​และ​ความประหลาดใจ​ราวกับ​คลื่น​ทะเล​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ผุด​ขึ้น​มาจาก​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​ ​บดบัง​ลางสังหรณ์​นั้น​ไป​จน​หมด

​เขา​ได้ยิน​แล้วก็​ถาม​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แหบแห้ง​ว่า​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​…​แล้ว​ต่อมา​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

​“​ต่อมา​…​”​ ​มุม​ปากของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​โค้ง​งอ​ขึ้น​มา​ ​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​ที่​กำลัง​ครุ่นคิด​อะไร​บางอย่าง​ ​“​ข้า​เป็น​สตรีที​่​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​ยามวิกาล​ที่​ไร้​ซึ่ง​ผู้คน​ ​ย่อม​ทำได้​เพียง​เดิน​คลำ​ตาม​ผนัง​กำแพง​อย่าง​ช้าๆ​ ​ทีละ​ก้าว​เท่านั้น​…​”

​รอยยิ้ม​นั้น​ ​บาดตา​ถึง​เพียงนี้​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​รู้สึก​เพียง​ว่า​ดวงตา​ของ​เขา​เริ่ม​เจ็บ​ขึ้น​มา​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เด็ดขาด​ว่า​ ​“​ท่าน​ทำ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน​”

​น้ำเสียง​ที่​หนักแน่น​และ​เด็ดขาด​ ​พลอย​ทำให้​สีหน้า​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เปลี่ยนไป​ในทันที​ ​นาง​ไม่ได้​ตอบคำถาม​แต่กลับ​รีบ​โต้แย้ง​กลับ​ไป​ว่า​ ​“​ข้า​เปล่า​นะ​ ​ข้า​ไม่ได้​ทำให้​พี่​หญิง​ปี้​อวี​้​ตาย​!​ ฮู​หยิน​เป็น​คน​ทำให้​พี่​หญิง​ปี้​อวี​้​ตาย​ต่างหาก​ ​ข้า​ก็​แค่​ไม่​อยาก​ให้​นาง​คลอด​บุตรชาย​ก็​เท่านั้น​”​ ​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​ปรากฏ​ความดื้อ​ดึง​ขึ้น​มา​ ​“​อีก​อย่างฮู​หยิน​ก็ได้​พูด​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เชิญ​หมอ​มา​ได้​ ​เด็ก​ก็​ไม่รอด​อยู่ดี​ ​คนที​่​ทำให้​ปี้​อวี​้​เสียชีวิต​ก็​คือฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​เห็น​พี่​หญิง​ปี้​อวี​้​ตกเลือด​ท่วม​ทั้ง​เตียง​ ​แต่กลับ​ไม่​เชิญ​หมอ​มา​แม้แต่​คนเดียว​ ​หลังจากที่​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​มาถึง​แล้ว​ ​จึง​ได้​สั่ง​ให้​เด็ก​ไป​เชิญ​หมอ​มา​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​สตรีที​่​กำลัง​ตื่นตระหนก​อยู่​เบื้องหน้า​เขา​ด้วย​ความ​สับสนวุ่นวาย​ ​เขา​ค่อยๆ​ ​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ

​เวลา​นั้น​เอง​ ​ใน​เรือน​ก็​เงียบสนิท​ขึ้น​มา​ ​เหลือ​เพียง​เสียง​ลมหายใจ​ที่​ถี่​และ​หอบ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เท่านั้น

​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​และ​เหลียน​เจียว​หลบ​อยู่​หลัง​ม่าน​ดอกไม้​ด้วย​เนื้อตัว​ที่​สั่นเทา​ ​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​หายใจ​แรง

บรรยากาศ​ที่​เงียบสงบ​พลอย​ทำให้​จิตใจ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​กระวนกระวายใจ​ขึ้น​มา

​“​นี่​ก็​คือ​โชคชะตา​!​”​ ​นาง​ตะโกน​ออก​ไป​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความอ่อนแอ​แต่​พยายาม​แสร้ง​ว่า​เข้มแข็ง​ ​“​เวลา​ที่นาง​ไม่สบาย​ก็​เอาแต่​ทน​ไว้​ ​ข้า​เห็น​ว่า​ใบหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​แดงก่ำ​ไป​หมด​ ​ก็​เลย​แกล้ง​ไม่สบาย​ ​เป็นลม​ล้ม​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​สามารถ​คลอด​บุตรชายคนโต​ออกมา​ได้​อย่างปลอดภัย​ ​ส่วน​นาง​กลับ​เสียชีวิต​…​ไม่มี​แม้แต่​โอกาส​ที่จะ​ร้องขอ​ความเป็นธรรม​เสียด​้วย​ซ้ำ​!​”

​มือ​ทั้งสอง​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ไขว่คว้า​อยู่​กลางอากาศ​ ​แล้วจึง​ได้​จับ​คอเสื้อ​ของ​เขา​ไว้

​นาง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​นี่​ก็​คือ​ชะตา​ชีวิต​!​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​วิงวอน​เล็กน้อย​ ​ราวกับว่า​กำลัง​ร้องขอ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ผู้​ซึ่ง​ไม่เคย​เห็นด้วย​กับ​นาง​มาโดยตลอด​ให้​เข้าใจ​นาง​บ้าง​ ​“​ข้า​หลบ​อยู่​ใน​เรือน​ของฮู​หยิน​สอง​ ​ไม่กล้า​ก้าว​เท้า​ออกจาก​ประตู​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ​กว่า​จะ​คลอด​เจ้า​ออกมา​ได้​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ให้ฮู​หยิน​สอง​ไป​แจ้ง​กับฮู​หยิน​ ​ให้ฮู​หยิน​รับ​พวกเรา​สอง​แม่​ลูก​กลับ​ไป​ ​ข้า​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​กลัว​ว่านาง​จะ​มาคิ​ดบัญ​ชี​ข้า​กับ​ชิว​หลัว​ ​และ​กลัว​ว่านาง​จะ​มีแผน​ร้าย​กับ​เจ้า​ ​ดังนั้น​ข้า​จึง​นอนไม่หลับ​ทั้งวันทั้งคืน​ ​เอาแต่​กราบไหว้​บูชา​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ทุกวัน​ ​ขอพระ​โพธิสัตว์​ช่วย​ปกป้อง​ดูแล​ ​อย่า​ให้​เรา​ต้อง​กลับ​เข้าไป​อีก​ ​แต่​แล้ว​…​”​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​“ฮู​หยิน​กลับ​บอกว่า​ ​สุขภาพ​ร่างกาย​ของ​นาง​ไม่​ค่อย​ดี​ ​จึง​จำเป็นต้อง​ได้รับ​การ​บำรุงรักษา​ ​ใน​จวน​ก็​มี​งานการ​มากมาย​ที่​ต้อง​จัดการ​ ​นาง​จึง​ยุ่ง​เกินไป​ ​ก็​เลย​ขอให้ฮู​หยิน​สอง​ช่วยดูแล​เรา​สอง​แม่​ลูก​ต่อ​อีก​สัก​ระยะ​หนึ่ง​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หันมา​หา​สวี​ซื่อ​อวี​้​ด้วย​แววตา​ที่​ไร้​ซึ่ง​จุดมุ่งหมาย​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​นี่​ก็​คือ​โชคชะตา​ของ​ชีวิต​!​”​ ​นาง​ไม่ได้​ต้องการ​คำตอบ​แต่อย่างใด​ ​นาง​พูด​พึมพำ​คนเดียว​ต่อไป​ว่า​ ​“​จากนั้น​ท่าน​โหวก​็​กลับมา​ ​ทะเลาะ​กับฮู​หยิน​เสีย​ยกใหญ่​ ​อีกทั้ง​ยัง​จับได้​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แอบ​ไป​ทำ​ธุรกิจ​การค้า​ข้างนอก​ลับหลัง​สกุล​สวี​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จึง​พลอย​โดน​ดุด่า​ไป​ด้วย​ ​แล้วจึง​ย้าย​ไป​พัก​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​ตอนนั้น​ข้า​ทาน​เจ​ทุกๆ​ ​วันที่​หนึ่ง​และ​วันที่​สิบห้า​ ​ขอร้อง​วิงวอน​พระโพธิสัตว์​ให้​คุ้มครอง​และ​ปกปักรักษา​ท่าน​โหวกับฮู​หยิน​ให้​อยู่​อย่าง​ร่มเย็น​เป็นสุข​ไป​จน​แก่เฒ่า​…​”

เขา​ยัง​จำได้​ ​ตอนนั้น​ตน​เป็น​บุตรชาย​เพียง​คนเดียว​ของ​บิดา​ของ​เขา​ ​แม่​ใหญ่​มักจะ​เย็นชา​ต่อ​เขา​ ​ทุกครั้งที่​เขา​ไป​คารวะ​ ​แม่​ใหญ่​ก็​เพียง​พยักหน้า​หน้า​ตอบ​เท่านั้น​ ​จากนั้น​ก็​ให้​แม่นม​พา​เขา​ออก​ไป​ ​ต่อมา​ ​ภายใต้​ความคิดเห็น​ของ​ป้า​สะใภ้​สอง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​ให้​เรือน​หนึ่ง​หลัง​แก่​เขา​ตามคำแนะนำ​ของ​ป้า​สะใภ้​สอง​ ​อี๋​เหนียง​ยังคง​อาศัย​ที่​เรือน​ของ​ป้า​สะใภ้​สอง​ดังเดิม​ ​เวลา​ที่จะ​มา​เยี่ยม​เขา​ก็​ยัง​ต้อง​แอบ​มา​แบบ​หลบ​ๆ​ ​ซ่อน​ๆ​ ​แต่​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​ทุกครั้งที่​อี๋​เหนียง​เจอ​กับ​เขา​ ​ก็​จะ​ตื่นเต้น​และ​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่​เหมือนกับ​ตอนหลัง​ๆ​ ​เพราะ​หลังจากที่​แม่​ใหญ่​ให้กำเนิด​สวี​ซื่อ​จุน​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​อี๋​เหนียง​จะ​ย้าย​ไป​พัก​ที่​เรือน​ด้านหน้า​ของ​เขา​ ​แต่​นาง​กลับ​หน้านิ่วคิ้วขมวด​เสีย​ส่วนใหญ่​ ​ส่วนน้อย​นัก​ที่จะ​อารมณ์ดี​ ​นับตั้งแต่​นั้น​เป็นต้นมา​ ​อี๋​เหนียง​มักจะ​ถูก​ป้า​สะใภ้​สอง​ติว​่า​ ​‘​เกินงาม​’​ ​อยู่​เสมอ​ ​และ​ตั้งแต่​นั้น​เป็นต้นมา​ ​ป้า​สะใภ้​สอง​ก็​เริ่ม​อบรม​สอนสั่ง​เรื่อง​ ​‘​มารยาท​และ​ขนบธรรมเนียม​’​ ​ให้​กับ​เขา​ ​ให้​เขา​พึง​ระลึก​ไว้​เสมอ​ว่า​เขา​นั้น​ห่างไกล​จาก​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​ผู้สืบทอด​ของ​ตระกูล​แค่ไหน​…

​ขณะที่​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่พอใจ​ว่า​ ​“​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จู่ๆ​ ​จะ​มี​ชิว​หลัว​โผล่​มา​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ใจสั่น​ขึ้น​มาทัน​ที

ชิว​หลัว​ไม่ได้​ต่าง​จากถ​งอี​๋​เหนียง​มากมาย​เท่าไร​นัก​ ​นาง​เสียชีวิต​ลง​และ​บุตร​ของ​นาง​ก็​เสีย​ไป​ด้วย​!

​เขา​จ้องมอง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​มา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ร้อนใจ​จน​แทบจะ​เป็นบ้า​ ​แต่​ก็​ไม่มี​วิธี​อื่นใด​ ​อีก​อย่าง​ครั้งนี้ฮู​หยิน​ก็​ไม่ได้​เป็น​เหมือนเช่น​เคย​ ​ไม่เพียงแต่​ดูแล​ชิว​หลัว​อย่างดี​ ​ยัง​ให้​ป้า​เถา​มาติด​ตาม​คอย​ดูแล​นาง​อีกด้วย​ ​แต่​ไม่ว่า​ข้า​หรือ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​ไม่ได้​พูดคุย​กับ​นาง​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ​ชิว​หลัว​ก็​ตั้งครรภ์​”

​น้ำเสียง​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความผิดหวัง

​“​ข้า​นับ​นิ้ว​คำนวณ​วัน​คลอด​ ​กราบไหว้​บูชา​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ทุกวัน​ ​ขอให้​เด็ก​ที่นา​งค​ลอด​ออกมา​เป็น​เด็กผู้หญิง​…​รอ​จน​หมอตำแย​เข้า​จวน​มา​แล้ว​ ​ข้า​ก็​รีบ​เข้าไป​ตีสนิท​ทันที​ ​ฉวยโอกาส​นี้​คิด​หาวิ​ธี​เจอ​หน้า​ชิว​หลัว​สักครั้ง​”

​“​เช่นนั้น​…​ท่าน​ได้​เจอ​หรือไม่​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​ถาม​ขึ้น​มาทัน​ที

​“​หมอตำแย​บอกว่า​หาก​เด็ก​คลอด​ออกมา​แล้ว​เป็น​เด็กผู้หญิง​ ฮู​หยิน​คงจะ​ผิดหวัง​ไม่น้อย​ ​ถ้าหาก​เป็น​เด็กผู้ชาย​ ฮู​หยิน​คงจะ​รีบ​อุ้ม​ไป​ให้ท่าน​โหว​และ​ไท่ฮู​หยิน​ดู​ทันที​ ​ไม่ว่า​สถานการณ์​จะ​เป็น​แบบ​ไหน​ ​บ่าว​รับใช้​ของฮู​หยิน​ก็​จะ​ยัง​ติดตาม​ไป​ทุกที่​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​ข้า​ก็​จะ​ถือโอกาส​นี้​ไป​เจอ​กับ​ชิว​หลัว​”​ ​จากนั้น​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​พูด​ต่อ​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ ​“​ข้า​ให้เงิน​หมอตำแย​คน​นั้น​ไป​ห้าสิบ​ตำลึง​ ​แต่​พอ​ถึง​วันที่​ทำคลอด​ ​ข้า​กลับ​ถูกฮู​หยิน​สอง​ใช้​ให้​ไป​ช่วย​นาง​ฝน​หมึก​ที่​เรือน​ของ​นาง​ ​ตั้งแต่​วันที่​ชิว​หลัว​เริ่ม​ปวดท้อง​จนถึง​วันที่​นาง​คลอด​บุตรชาย​ ​ใช้เวลา​ทั้งหมด​ร่วม​สอง​วัน​สอง​คืน​เต็ม​ ​ส่วน​ข้า​ก็​ฝน​หมึก​ให้​กับฮู​หยิน​สอง​ตลอด​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ถึง​เพิ่งจะ​นึก​ขึ้น​ได้​ ​“​สอง​วัน​สอง​คืน​หรือ​”

​ฉาก​เหตุการณ์​ที่เกิด​ขึ้น​ตอนนั้น​ดูเหมือน​จะ​ยัง​หลงเหลือ​อยู่​ใน​ความทรงจำ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​นาง​รีบ​สะบัด​แขน​ออก​ทันที​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สอง​ส่ง​เจี​๋ย​เซียง​มาคอย​จับตาดู​ข้า​ไว้​ ​ข้า​จะ​แอบ​งีบ​หรือ​จะ​อู้งาน​ก็ได้​ ​แต่​ต้องห้าม​ออกจาก​ห้อง​หนังสือ​เป็นอันขาด​ ​แม้แต่​จะ​ไป​เข้า​ห้องน้ำ​ ​ก็​ต้อง​ให้​เจี​๋ย​เซียง​ตาม​ไป​เฝ้า​ด้วย​”
เพิ่มขนาดช่อง ดึงมุมขวามือลง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท