ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 467 แตกกิ่งก้านสาขา(ปลาย)

ตอนที่ 467 แตกกิ่งก้านสาขา(ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​ ​แต่​เห็นท่า​ที​ของ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ถาม​อะไร​ไม่ได้​ ​นาง​จึง​ไม่​ซักถาม​แล้ว​พูดคุย​เรื่อง​ทั่วไป​ ​“​อี๋​เหนียง​ห้า​สบายดี​หรือไม่​”

หลัว​เจิ​้น​เซิง​ไม่​ค่อย​ได้รับ​ความสำคัญ​จาก​ตระกูล​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​รอ​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​มาบ​อก​สือ​อี​เหนียง​เอง​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ดีกว่า

คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ก็​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​อี๋​เหนียง​สบายดี​ ​อยู่​ดูแล​น้อง​เจ็ด​ ​เย็บปักถักร้อย​ที่​เรือน​ทุกวัน​ ​บางครั้ง​ก็​ออก​ไป​ไหว้พระ​โพธิสัตว์​ที่​วัด​กับ​อี๋​เหนียง​หก​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​อุทาน​ ​“​ไอ​๊​หยา​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เห็น​จิ​่น​เกอ​แล้ว​มัว​แต่​ดีใจ​ ​ลืม​เรื่อง​หนึ่ง​ไป​”​ ​นาง​ส่ง​จิ​่น​เกอ​ให้​แม่นม​กู้​ที่​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​ควัก​ถุง​ผ้า​ดอก​ไห่​ถัง​สีแดง​ยื่น​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ยันต์เ​เคล​้ว​คลาด​ที่​อี๋​เหนียง​ห้า​บูชา​มาจาก​วัด​ฉือ​หยวน​ ​นาง​บอก​ให้​ข้า​นำมา​ให้​เจ้า​ ​ปกป้อง​เจ้า​และ​ลูก​ให้​ปลอดภัย​”​ ​นาง​ยิ้ม​ ​“​ถึงแม้ว่า​ยันต์เ​เคล​้ว​คลาด​นี้​จะ​มาช​้า​หน่อย​ ​แต่​ก็​ยัง​มาถึง​ ​มัน​คือ​น้ำใจ​ของ​นาง​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​เอ่ย​ขอบคุณ​แล้ว​รับ​มัน​มา

กลีบดอก​ไห่​ถัง​สี​ทับ​ซ้อน​กัน​ทีละ​กลีบ​ ​ลวดลาย​ชัดเจน​ ​ราวกับ​ดอก​จริง​ก็​มิ​ปาน

นาง​วาง​ถุง​ผ้า​ไว้​ใต้​หมอน​ ​จากนั้น​ก็​ไถ่ถาม​ถึง​สถานการณ์​ที่​จวน

“​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีนี​้​ท่าน​พ่อ​รู้จัก​กับ​นักบวช​ลัทธิ​เต๋า​คน​หนึ่ง​ ​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ถึง​ไป​เชื่อ​ใน​วิชา​ของ​หวง​เหล่า​ ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​เรือน​นอก​ตอน​ฤดูร้อน​ ​แล้วยัง​ทำ​เตา​ปรุงยา​อยู่​ที่นั่น​ ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ของ​ตระกูล​เลย​แม้แต่น้อย​ ​พี่ใหญ่​เกลี้ยกล่อม​เขา​ตั้ง​หลายครั้ง​ก็​ไม่ได้ผล​ ​จึง​ต้องตาม​ใจ​ท่าน​พ่อ​ ​อี๋​เหนียง​สาม​กลัว​ว่า​ท่าน​พ่อ​จะ​ไม่มีใคร​ดูแล​ ​จึง​ตาม​ไปดู​แล​เขา​ที่​เรือน​นอก​ ​อี๋​เหนียง​หก​อยู่​ที่​จวน​ ​ช่วย​อี๋​เหนียง​ห้า​ดูแล​น้อง​เจ็ด​ ​เชิญ​อาจารย์​เย็บปักถักร้อย​มา​เฝ้า​เอ้อร​์​สือ​เหนียง​เย็บปักถักร้อย​ ​เรื่อง​ดูแล​จวน​จึง​ตก​อยู่​ที่​พี่สะใภ้​ใหญ่​”

สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ที่นั่ง​เงียบ​อยู่​ข้างๆ​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หน้าแดง​ ​นาง​ก้มหน้า​จิบ​ชาด​้วย​ความ​เขินอาย

สือ​อี​เหนียง​เห็นท่า​ที​เด็กผู้หญิง​ขี้อาย​ของ​นาง​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ขึ้น​มา

“​พี่​สี่​ของ​เจ้า​เรียนหนังสือ​ไม่เก่ง​ ​พี่ใหญ่​จึง​ให้​เขา​คอย​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​กับ​ผู้ดูแล​อู๋​”​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ ​“​เจ้า​ก็​รู้​นิสัย​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ดี​ ​เขา​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​และ​จงรักภักดี​ ​เรื่อง​ที่​พี่ใหญ่​มอบหมาย​ให้​เขา​เป็น​คน​จัดการ​ ​เขา​ไม่เคย​ประมาท​เลินเล่อ​ ​สอง​ปี​ที่ผ่านมา​ก็​ไม่เคย​มีเรื่อง​ผิดพลาด​อะไร​ ​ข้า​ก็​อยู่​ดูแล​อิง​เหนียง​ที่​เรือน​อย่างสบายใจ​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​มอง​ไป​ที่​อิง​เหนียง​ที่นั่ง​ทาน​ขนม​ซู​ปิ​่​งบน​เก้าอี้​ด้วย​สายตา​ที่​อ่อนโยน​ ​

อิง​เหนียง​หน้าตา​เหมือน​คน​สกุล​หลัว​ ​ผิวขาว​ ​ดวงตา​กลม​โต​ ​หน้าตา​ละม้ายคล้ายคลึง​กับ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​นาง​ ​“​ขนม​ซู​ปิ​่​งอ​ร่อย​หรือไม่​”

อิง​เหนียง​พยักหน้า​ ​“​อร่อย​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​เสียง​ที่​ดัง​ฟัง​ชัด​ ​แอบ​มี​ความเหมือน​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​กลับ​มีท​่า​ที​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​อยู่​ที่​จวน​จน​เคยชิน​ ​บอก​ให้​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​นาง​ก็​ไม่ยอม​พูด​”

สือ​อี​เหนียง​ชอบ​นาง​ ​“​เด็กผู้หญิง​นิสัย​ร่าเริง​เป็นเรื่อง​ที่​ดีเจ​้า​ค่ะ​”​ ​บุตรสาว​สกุล​หลัว​ล้วนแต่​ขี้อาย​ไม่กล้า​แสดงออก

“​เจ้า​เป็น​คนกันเอง​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​พูด​เช่นนี้​”​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​บ่นพึมพำ​ ​“​ต่อไป​นาง​ต้อง​แต่งงาน​ออกเรือน​ ​แม่​สามี​ที่ไหน​จะ​ชอบ​ลูกสะใภ้​นิสัย​เช่นนี้​”

“​นาง​ยัง​เด็ก​ ​ค่อยๆ​ ​สอน​กัน​ไป​ก็ได้​”

ขณะที่​พวก​นาง​สอง​คน​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​คุณหนู​ใหญ่​มา​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​สายตา​เป็นประกาย

ช่วงเวลา​ที่อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​นั้น​แต่ง​แต้มสี​สัน​ให้​กับ​ชีวิต​ที่​หม่นหมอง​ของ​นาง​ ​ตั้งแต่นั้นมา​ชีวิต​และ​โชคชะตา​ของ​นาง​ก็​เปลี่ยนไป​…​ผู้คน​และ​เรื่องราว​เหล่านั้น​ ​นาง​จะ​ไม่มีวัน​ลืม

นาง​ลุกขึ้น​ยืน

ก็​เห็น​ผ้าม่าน​เปิด​ออก​พอดี​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้ามา

“​พอได้​ยิน​ว่า​ท่าน​ป้า​สี่​และ​ท่าน​น้า​สิบสอง​มา​ ​ข้า​ก็​รีบ​มาทัน​ที​เจ้าค่ะ​”

คำนับ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​และ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​เรียบร้อย​ ​นาง​ก็​รีบ​จับมือ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ ​“​เจ้า​กับ​ท่าน​ป้า​สี่​มาตั​้ง​แต่​เมื่อไร​ ​ระหว่างทาง​ราบรื่น​ดี​หรือไม่​ ​ท่าน​ตา​ ​ท่าน​ลุง​ใหญ่​ ​ท่าน​ป้า​ใหญ่​และ​ท่าน​ลุง​เล็ก​สบายดี​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​ก็​สังเกตเห็น​อิง​เหนียง​ ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​นี่​คือ​น้อง​หญิง​ใหญ่​เช่นนั้น​หรือ​ ​หน้าตา​งดงาม​ยิ่งนัก​!​”

นาง​ถาม​อะไร​ตั้ง​เยอะแยะ​ ​ทำให้​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​จะ​เริ่ม​ตอบ​จาก​ตรงไหน​ก่อน​ ​นี่​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความเป็นมิตร​ของ​นาง​

รอยยิ้ม​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​สดใส​และ​จริงใจ​ ​“​ข้ามา​ถึง​เมื่อวาน​ ​มาถึง​ก็​มาหา​พี่​หญิง​สิบเอ็ด​ทันที​ ​ทุกคน​สบายดี​”​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​อิง​เหนียง​ ​“​มาหา​พี่​หญิง​ใหญ่​ของ​เจ้า​เร็ว​เข้า​”

อิง​เหนียง​เอียง​หัว​มอง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​พูด​ด้วย​ความตกใจ​ ​“​สูง​มาก​เลย​!​”

ทุกคน​ใน​ห้อง​พากัน​หัวเราะ​ท่าที​ที่​น่าขบขัน​ของ​นาง

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หน้าแดง​ ​นาง​ปลด​จี้​หยก​ที่​เอว​ยื่น​ให้​อิง​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​ของขวัญ​ของ​เจ้า​”

อิง​เหนียง​ไม่กล้า​รับ​มา​ ​นาง​หันไป​มอง​คุณนาย​สี่​ ​เมื่อ​คุณนาย​สี่​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​ ​รับ​จี้​หยก​มา​แล้ว​พูด​ขอบคุณ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

อวี​้​ป่าน​ ​สาวใช้​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เดิน​เข้ามา​ ​“ฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​ ​ไท่ฮู​หยิน​รู้​ว่า​คุณนาย​สกุล​ญาติ​มา​ ​จึง​ชวน​คุณนาย​และ​พวกคุณ​หนู​ไป​พูดคุย​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​สะดวก​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​บอก​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เจ้า​ไป​กับ​ท่าน​ป้า​สี่​และ​อิง​เหนียง​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หันไป​พูด​กับ​คุณนาย​สี่​ ​“​ประเดี๋ยว​ค่อย​กลับมา​ทานข้าว​เที่ยง​!​”

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

มอบ​ของขวัญ​ให้​เด็ก​ๆ​ ​พูดถึง​เรื่อง​ใน​อดีต​ ​พูดคุย​กัน​จนถึง​ยาม​เที่ยง​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​เลิกเรียน​พอดี

ไท่ฮู​หยิน​เรียก​พวกเขา​สอง​คน​ไปหา​ ​“​มาหา​ท่าน​ป้า​สี่​ ​ท่าน​น้า​สิบสอง​และ​น้อง​หญิง​ใหญ่​ของ​พวก​เจ้า​สิ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​อิง​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​พี่​สี่​และ​พี่​ห้า​ของ​เจ้า​”

สวี​ซื่อ​จุน​จำ​คุณนาย​สี่​และ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ได้​ ​แต่​เจอ​กับ​อิง​เหนียง​ครั้งแรก​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​จำ​ใคร​ไม่ได้​เลย​ ​แต่​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ​อิง​เหนียง​ที่​อายุ​น้อยกว่า​พวกเขา​กลายเป็น​จุดสนใจ​ของ​เขา​ ​พวกเขา​สอง​คน​มอง​ไป​ที่​อิง​เหนียง​พร้อมกัน

เห็น​นาง​มวยผม​ ​สวม​เสื้อ​อ่าว​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ที่​ปัก​ลาย​ดอก​โบตั๋น​สีแดง​ ​ที่​คอมี​สร้อยทอง​ ​ที่​ข้อมือ​มี​กำไล​ ​ใบหน้า​ที่​กลม​และ​ขาว​ของ​นาง​ละเอียดอ่อน​ราวกับ​กลีบดอก​ปิ่น​หยก​ ​ดวงตา​ที่​กลม​โตสุก​ใส​ราวกับ​สายน้ำ​ ​น่ารักน่าชัง​เป็นอย่างมาก

อิง​เหนียง​ไม่​กลัว​คนแปลกหน้า​ ​เมื่อ​เห็น​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี้ยม​อง​มาที​่​ตัวเอง​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​เรียก​ ​“​พี่​สี่​ ​พี่​ห้า​”​ ​ด้วย​เสียง​ที่​ดัง​ฟัง​ชัด​ ​ทำเอา​สอง​พี่น้อง​เขินอาย​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ยิ้ม​กว้าง​อย่างดี​ใจ

ไท่ฮู​หยิน​เชิญ​คุณนาย​สี่​และ​คนอื่นๆ​ ​อยู่​ทานข้าว​ที่​เรือน​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​คงจะ​บอก​ให้​พวก​เจ้า​กลับ​ไป​ทานข้าว​กับ​นาง​ ​ข้า​ส่ง​คน​ไป​บอก​นาง​ก็ได้​ ​พวก​เจ้า​ก็​ท่าน​ข้าว​เที่ยง​ที่นี่​เถิด​ ​ยาม​เย็น​ค่อย​ไปหา​นาง​”

ผู้ใหญ่​พูด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ไม่กล้า​ปฏิเสธ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​ให้เกียรติ​คน​สกุล​หลัว

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​อยู่​ทานข้าว​เที่ยง​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​

อิง​เหนียง​หยิบ​ช้อน​เอง​ ​ทานข้าว​ไม่​หก​เลย​สัก​เม็ด​ ​ผัก​ก็​ทาน​ ​เนื้อ​ก็​ทาน​ ​ไม่​เหมือน​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​มีนิ​สัย​เลือก​ทาน​เลย​แม้แต่น้อย​

สวี​ซื่อ​จุน​มองดู​นาง​ด้วย​ความสนใจ

เมื่อ​ทานข้าว​เสร็จ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยนอ​นก​ลาง​วันที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​คุณนาย​สี่​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง

อิง​เหนียง​กำลัง​ทะเลาะ​กับ​เปลือกตา​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​หลังจากนั้น​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​แม่นม

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​แม่นม​กู้​พา​อิง​เหนียง​ไป​นอน​ที่​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ ​แล้วก็​บอก​ให้​คุณนาย​สี่​ไป​พักผ่อน​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันตก

“​ไม่ใช่​ฤดูร้อน​เสียหน่อย​ ​แล้ว​ข้า​ก็​ไม่ใช่​เด็ก​ด้วย​”​ ​คุณนาย​สี่​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เรา​ไม่​ค่อย​ได้​เจอกัน​ ​ข้า​อยู่​คุย​กับ​เจ้า​ดีกว่า​!​”

คุณนาย​สี่​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ครั้งนี้​ ​ก็​เพราะ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​ขอร้อง​ให้​นาง​ช่วยดูแล​ ​คุณนาย​สี่​ต้อง​มีเรื่อง​ปรึกษา​นาง​แน่นอน

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยาก​พาสือ​เอ้อร​์​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​ ​“​ข้า​ปัก​ม่าน​กัน​ลม​ลาย​ดอก​โบตั๋น​ ​อยาก​ให้ท่า​นน​้า​สิบสอง​ไปดู​เจ้าค่ะ​!​”

อยาก​คุย​เล่น​กัน​กระมัง​!

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​อย่า​ลืม​มาทา​นข​้าว​เย็น​!​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​จูงมือ​กัน​เดิน​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​รอ​ให้​สาวใช้​ยก​ของว่าง​เข้ามา​ ​จากนั้น​ก็​ไล่​สาวใช้​ใน​ห้อง​ออก​ไป

คุณนาย​สี่​พูด​เรื่อง​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​กับ​นาง​ ​“​…​พี่ใหญ่​นำ​ตั๋วเงิน​ห้า​พัน​ตำลึง​ให้​ข้า​ ​บอก​ให้​เรา​จัดการ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ ​ถึงแม้ว่า​สกุล​ของ​ท่าน​เขย​สิบสอง​จะ​ยากจน​ไป​หน่อย​ ​แต่​เขา​ก็​เป็น​สกุล​ใหญ่​สกุล​โต​ ​เรา​ก็​ไม่เคย​มีประสบการณ์​ ​มีเงิน​ไม่​มาก​ ​ควรจะ​ใช้​เงิน​เช่นไร​ ​ใช้กับ​อะไร​ ​ควร​ซื้อ​อะไร​ ​ไม่​ควร​ซื้อ​อะไร​ ​ข้า​อยาก​ถาม​ความคิดเห็น​ของ​เจ้า​ ​ถึง​ตอนนั้น​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ก็​จะ​ได้​ช่วย​จัดการ​ ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​จะ​ได้​ไม่​อับอาย​ขาย​ขี้​หน้า​”

ใจกว้าง​เสีย​จริง​!

สือ​อี​เหนียง​แอบ​ถอนหายใจ​

นึกถึง​ตอนนั้น​ ​ตอนที่​นาย​หญิง​ใหญ่​จัดการ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​พวก​นาง​…​เทียบ​กัน​ไม่ได้​เลย​จริงๆ​ ​แต่ว่า​ ​เงิน​ห้า​พัน​ตำลึง​ ​สำหรับ​งานแต่งงาน​บุตรสาว​มณฑล​เจียง​หนา​นก​็​ถือว่า​เยอะ​แล้ว​…​แต่​ใน​สายตา​ของ​สกุล​หวัง​ ​มี​การเปรียบ​เทียบ​กัน​ของ​บรรดา​ลูกสะใภ้​ ​ก็​คง​ถือว่า​ไม่​เยอะ​จริงๆ​…​แต่​ก็​ไม่​ถือว่า​น้อย​เกินไป

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​ก็​ไม่มี​ประสบการณ์​เช่นกัน​ ​ข้า​ยัง​บอกอะ​ไร​ไม่ได้​ตอนนี้​ ​ไม่​สู้​ให้​ข้า​ไป​เรียนรู้​มาก​่อน​ ​อีก​สอง​วัน​ค่อย​ว่า​กัน​ใหม่​ ​ถึง​ตอนนั้น​เรา​ค่อย​ปรึกษา​กัน​ว่า​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​พี่สะใภ้​สี่​คิด​ว่า​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

คุณนาย​สี่​พูด​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​รอฟัง​เจ้า​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​ยัง​มี​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​…​”​ ​ดูเหมือน​ไม่รู้​ว่า​จะ​พูด​อย่างไร

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”

คุณนาย​สี่​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​แล้ว​เอ่ยปาก​ในที่สุด​ ​“​มีเรื่อง​ลำบากใจ​เรื่อง​หนึ่ง​จริงๆ​…​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​อธิบาย​ ​“​…​ตาม​เจตนา​ของ​พี่ใหญ่​ก็​คือ​ ​สินเดิม​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ต้อง​จัด​ตาม​สินเดิม​ของ​คุณหนู​ห้า​และ​คุณหนู​สิบ​ ​แต่​เพราะ​เป็น​น้องสาว​ ​จึง​ต้อง​เยอะ​กว่านิด​หน่อย​ ​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​อย่าง​เรา​ควรจะ​เพิ่ม​ให้​หน่อย​ ​แต่​อี๋​เหนียง​หก​ไม่เห็นด้วย​ ​นำ​เจ้า​มา​เปรียบเทียบ​ ​บอกว่า​แต่งงาน​เหมือนกัน​ ​แต่​สินเดิม​ของ​เจ้า​เยอะ​กว่า​ ​ถึงแม้ว่า​น้อง​หญิง​สิบสอง​จะ​ไม่กล้า​เทียบ​กับ​เจ้า​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​เทียบ​กับ​คุณหนู​ห้า​”​ ​นาง​พูด​ ​จากนั้น​ก็​หน้าแดง​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ลง​ ​“​นาง​พูด​เช่นนี้​ต่อหน้า​ท่าน​พ่อ​…​ใน​เช้า​วัน​ต่อมา​ท่าน​พ่อ​ก็​เรียก​พี่ใหญ่​ไปหา​ ​กำหนด​เงิน​สินเดิม​ห้า​พัน​ตำลึง​”

สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​เหงื่อ​ตก

“​พี่ใหญ่​ก็​ไม่กล้า​คัดค้าน​”​ ​คุณนาย​สี่​พูด​ ​“​อี๋​เหนียง​หก​ยัง​บอกอี​กว่า​ ​น้อง​หญิง​สิบสอง​แต่งงาน​ออก​ไป​อยู่​ไกล​บ้าน​ ​ที่ดิน​ใน​มณฑล​เจียง​หนา​นก​็​ไม่ได้​ใช้​ ​แล้วยัง​ส่ง​คน​ไปดู​แล​ ​หรือว่า​จะ​ให้ท่าน​เขย​สิบสอง​ส่ง​คน​มา​เก็บเงิน​ค่าเช่า​ที่ดิน​ที่​มณฑล​เจียง​หนาน​ทุกปี​เช่นนั้น​หรือ​ ​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​ถึงแม้​จะ​เป็น​ฤดู​เก็บเกี่ยว​ก็​คง​ไม่มีผล​ผลิต​ ​หาก​เจอ​กับ​ปี​หายนะ​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ขาดทุน​ยับเยิน​ ​จะ​ให้​พี่ใหญ่​นำ​ตั๋วเงิน​ห้า​พัน​ตำลึง​ออกมา​ให้​ได้​!​ ​แล้ว​ท่าน​พ่อ​ก็​ยัง​ตามใจ​อี๋​เหนียง​หก​…​นำ​ตั๋วเงิน​ห้า​พัน​ตำลึง​ออกมา​ ​สุดท้าย​อี๋​เหนียง​หก​ก็​บอกอี​กว่า​ ​สกุล​ท่าน​เขย​ค่อนข้าง​ยากจน​ ​จัด​โต๊ะ​เก้าอี้​เยอะแยะ​ขนาด​นั้น​จะ​มีประโยชน์​อะไร​ ​นำ​เงิน​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​ออกมา​ซื้อของ​ ​เงิน​ที่​เหลือก​็​นำ​ไป​ให้​น้อง​หญิง​สิบสอง​เป็น​เงินก้นถุง​”

เงินก้นถุง​ ​ไม่ได้​อยู่​ใน​รายการ​ของขวัญ

หาก​ทำตาม​ที่​อี๋​เหนียง​หก​บอก​ ​ใน​สายตา​ของ​คนอื่น​ ​ก็​หมายความว่า​สกุล​หลัว​ใช้​เงิน​แค่​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​แต่ง​บุตรสาว​

“​พี่ใหญ่​ไม่เห็นด้วย​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​เข้าใจ​เรื่องราว

คุณนาย​สี่​พยักหน้า​ ​“​ไม่เพียงแต่​ไม่เห็นด้วย​ ​แล้วยัง​ตำหนิ​อี๋​เหนียง​หก​ด้วย​ความโมโห​”

แต่​อี๋​เหนียง​หก​ก็​ยัง​มา​เมืองหลวง​ ​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​สุดท้าย​แล้ว​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​ทำ​อะไร​อี๋​เหนียง​หก​ไม่ได้

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท