ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 474 สัญลักษ์แห่งความสุข(ต้น)

ตอนที่ 474 สัญลักษ์แห่งความสุข(ต้น)

​หลี​่​จี้​บุตรชาย​คน​รอง​ของ​ผู้บัญชาการ​หลี​่​แห่งฝู​เจี​้​ยน​แต่งงาน​ ​ว่า​กัน​ว่า​จัด​พิธี​ยิ่งใหญ่​อลังการ​อย่างมาก​ ​ตอนที่​สินสอดทองหมั้น​ชุด​แรก​ของ​ฝ่าย​หญิง​ถูก​ยก​เข้าไป​ไว้​ใน​จวน​ใหม่​ของ​สกุล​หลี​่​ที่​ตรอก​กุ้ย​ซู่​ ​สินสอด​ชุด​สุดท้าย​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ออกจาก​จวน​องค์​หญิง​อาน​เฉิง​เลย​ ​สกุล​หลี​่​ตั้งโต๊ะ​เฉลิมฉลอง​ติดต่อกัน​ห้าวัน​ ​มี​เนื้อ​วาง​เต็มโต๊ะ​แปด​จาน​ใหญ่​ ​บะหมี่​ชาม​ใหญ่​สอง​ชุด​ ​อีกทั้ง​ยัง​เชิญ​คณะ​งิ้ว​สาม​คณะ​ใหญ่​ใน​เยี​่​ยน​จิง​มา​ผลัดกัน​ร้องเพลง​งิ้ว​ ​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ไป​จวน​องค์​หญิง​อาน​เฉิง​ ​ส่วน​ครอบครัว​ขุนนาง​ชั้นผู้น้อย​ไป​ที่​ตรอก​กุ้ย​ซู่​ ​ทั้ง​เยี​่​ยน​จิง​พากั​นพูด​ถึง​พิธีสมรส​อัน​ยิ่งใหญ่​นี้​อยู่​ระยะ​หนึ่ง

​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ​พิธี​สรง​สาม​ของ​จิ​่น​เกอ​ดู​เล็ก​ไป​เลย

​สือ​อี​เหนียง​เชิญ​เพียงแค่​สหาย​สนิท​ ​จัด​โต๊ะอาหาร​ที่​เรือน​นอก​สิบ​โต๊ะ​ ​โต๊ะอาหาร​ที่​ห้องโถง​บุปผา​เรือน​ใน​สิบ​กว่า​โต๊ะ​ ​ใน​ช่วง​บ่าย​มีหัว​หน้า​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​นาม​ว่า​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​ ​และ​หัวหน้า​คณะ​ฉัง​เซิง​ปาน​นาม​ว่า​เกิง​ฉัง​เซิง​ร่วม​ร้อง​งิ้ว​กันที่​ห้องโถง

​ไท่ฮู​หยิน​ ​เจิ​้ง​ไท่จ​วิ​๋น​และ​คนอื่นๆ​ ​ชม​ละคร​งิ้ว​อยู่​ที่​โถง​เตี่ยน​ชุน​ ​โจวฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับมา​รวมตัว​พูดคุย​กัน​อยู่​ที่​ห้อง​ของ​สือ​อี​เหนียง

​“​ตอน​พิธี​สรง​สาม​ข้า​รู้สึก​ว่า​เจ้า​มีบา​งอย​่าง​ผิดปกติ​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​สำรวจ​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เห็น​ว่า​เจ้า​พึ่ง​จะ​คลอด​บุตร​ ​จึง​มีบา​งคำ​ที่​ไม่ได้​พูด​ออก​ไป​ ​แล้ว​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ตอนนี้​ดีขึ้น​หรือยัง​”​ ​ท่าทาง​ดูกัง​วล​เป็นอย่างมาก

​“​ดีขึ้น​มาก​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ช่วงแรก​หมอ​หลวง​หลิว​มาถา​มอา​การ​ทุกวัน​ ​ตอนนี้​ห้าวั​นมา​หนึ่ง​ครั้ง​”

​“​เช่นนั้น​ก็ดี​!​”​ ​โจวฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หมอ​หลวง​หลิว​ดูแล​สำนัก​หมอ​หลวง​มายี​่​สิบ​ปี​ ​มีทั​กษะ​วิชาแพทย์​ยอดเยี่ยม​ ​เจ้า​อย่า​ได้​กังวล​ ​ค่อยๆ​ ​เป็น​ ​ค่อยๆ​ ​ไป​”

​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กลับ​พูด​ติดตลก​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​ข้า​กลับ​เอาแต่ใจ​จด​ใจ​จ่อ​รอที​่​จะ​แต่ง​สะใภ้​เข้า​เรือน​เร็ว​ๆ​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​อยาก​ให้​เจ้า​มา​เป็น​ผู้ดำเนินการ​ใน​พิธี​ใหญ่​ ​เจ้า​จะ​ละเลย​การรักษา​ไม่ได้​เด็ดขาด​”

​“​วางใจ​เถิด​ ​วางใจ​เถิด​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​หยอกล้อ​นาง​ ​“​ไม่ว่า​อย่างไร​ข้า​ก็​จะ​ไม่​ทำให้​เรื่อง​มงคล​ของ​เด็ก​ๆ​ ​ต้อง​ล่าช้า​ไป​”

​ขณะที่​กำลัง​สนทนา​กัน​อย่าง​ออกรส​ออก​ชาติ​ ​แม่นม​กู้​ก็​อุ้ม​เด็กน้อย​เข้ามา​ ​ด้านหลัง​ยัง​มีลูก​สะใภ้​ของ​ป้าวั​่น​ตามมา​ด้วย​ ​นาง​ถือ​ถาด​ไห่​ถัง​สีแดง​ ​ใน​ถาด​เต็มไปด้วย​สร้อยคอ​จี้​เงิน​และ​ทอง​ ​สดใส​แพรวพราว​ระยิบระยับ

​“​ไอ​๊​หยา​!​ ​เจ้าของ​วันเกิด​ตัว​น้อย​ของ​พวกเรา​มา​แล้ว​”​ ​โจวฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​เข้าไป​ต้อนรับ​ ​“​ไหน​ข้า​ดู​หน่อย​ต่าง​จาก​ตอนที่​พึ่ง​คลอด​หรือไม่​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็ตาม​ไป​ด้วย​ ​“​เริ่ม​มี​คิ้ว​ขึ้น​แล้ว​ ​เนื้อตัว​ดู​ขาวผ่อง​ ​ยิ่ง​เหมือน​ท่าน​โหว​มากขึ้น​เรื่อยๆ​!​”

​สะใภ้วั​่น​ถือ​ถาด​อย่างระมัดระวัง​ ​“ฮู​หยิน​ ​ของ​เหล่านี้​เป็น​สิ่ง​ที่​บรรดา​ใต้เท้า​และ​นายท่าน​ให้​เป็น​รางวัล​เจ้าค่ะ​”

​สหาย​สนิท​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต่าง​พากัน​โห่ร้อง​อยาก​จะ​เห็น​เด็กน้อย​ ​เมื่อ​ครู่​แม่นม​กู้​จึง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​ให้​คนที​่​เรือน​นอก​ดู​เป็นพิเศษ

​สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​ใน​ถาด​ชายั​งมี​หยก​สีขาว​แวววาว​ชั้นดี​ ​ทองคำ​ก้อน​ ​กำไล​เงิน​และ​อื่นๆ​ ​ปะปน​มาด​้วย​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​นำ​สิ่งของ​เหล่านี้​ไป​เก็บ​ ​อีกสักครู่​จะ​ให้​จู๋​เซียง​บอก​เจ้า​ว่า​ต้อง​เขียน​ลงบัญชี​อย่างไร​ ​ในเมื่อ​เจ้า​ปรนนิบัติ​รับใช้​อยู่​ใน​เรือน​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​แล้ว​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​เจ้า​ก็​ต้อง​เป็น​คน​จัดการ​จึง​จะ​เหมาะสม​”

​สะใภ้วั​่น​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ย่อเข่า​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

​มีสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​เหลียง​มา​จ้า​ค่ะ​”

หลาน​ถิง​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​รีบ​เชิญ​เข้ามา​”​ ​ทันทีที่​พูด​จบ​ ​หลาน​ถิง​ที่​สวม​เสื้อแขนยาว​สีแดง​ปัก​ลวดลาย​ดอกไม้​ก็​เดิน​เข้ามา

​ผิว​ของ​นาง​ขาวสว่าง​เหมือน​หิมะ​ ​ใบหน้า​ดู​สดใส​ ​ราวกับ​คุณหนู​ผู้​สูงส่ง​ไร้เดียงสา​ที่​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน

​“​เจ้า​มาสาย​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​หลาน​ถิง​ทักทาย​นาง​ ​ท่าทาง​ดู​สง่า​ ​“​พี่​หญิง​ทั้งหลาย​อย่า​ได้​โกรธ​ไป​ ​อีกสักครู่​ข้า​จะ​ดื่ม​สุรา​สาม​จอก​ชดเชย​ความผิด​ให้​”​ ​ทันทีที่​เข้ามา​ก็​พูด​ดัก​ทาง​คนอื่นๆ​ ​ไว้​หมด​แล้ว

​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ไม่​อยาก​ปล่อย​นาง​ไป​เช่นนี้​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​คนพูด​เอง​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ห้าม​หา​ข้ออ้าง​มาป​ฏิ​เสธ​เด็ดขาด​”

​“​พี่​หญิง​เห็น​ว่า​ข้า​เป็น​คนพูด​ไม่​เป็น​คำพูด​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​”​ ​หลาน​ถิง​ยิ้ม​พลาง​จับมือ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​“​พี่​หญิง​วางใจ​ได้​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​นั่ง​ข้างๆ​ ​ที่​หญิง​อย่างแน่นอน​ ​ให้​พี่​หญิง​คอย​จับตาดู​ข้า​ได้​เลย​”​ ​ทำเอา​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​หันไป​พูด​กับ​โจวฮู​หยิน​ว่า​ ​“​ฝีปาก​หลาน​ถิง​เริ่ม​เก่ง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​”

​หลาน​ถิง​ยิ้ม​กว้าง​ ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มา​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ช่าง​ตัว​หนัก​เสีย​จริง​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​แต่​อายุ​น้อยกว่าถง​เกอ​ของ​พวกเรา​ตั้ง​หนึ่ง​ปี​ห้า​เดือน​”

​สือ​อี​เหนียง​กำลังจะ​ตอบกลับ​ ​สาวใช้​น้อย​ก็​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ ​“​กานฮู​หยิน​มา​เจ้าค่ะ​!​”

​หลาน​ถิง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว

​กานฮู​หยิน​เดิน​เข้ามา​ ​สายตา​มอง​ไป​ที่​หลาน​ถิง​ ​สีหน้า​ผ่อนคลาย​ลง​เล็กน้อย​ ​ส่ง​ยิ้ม​ทักทาย​ทุกคน​ ​แล้ว​เข้าไป​หา​จิ​่น​เกอ​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​หน้าตา​ดูดี​เสีย​จริง​”

​หลาน​ถิง​ที่​อุ้ม​เด็กน้อย​อยู่​ยิ้ม​พลาง​ส่ง​เด็กน้อย​ให้​สือ​อี​เหนียง

​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ละคร​งิ้ว​ทาง​ด้าน​นั้น​จบ​แล้ว​หรือ​”

​“​ยัง​ไม่​จบ​!​”​ ​กานฮู​หยิน​เหลือบมอง​หลาน​ถิ​งอี​กค​รั้ง​ ​“​เกิง​ฉัง​เซิง​ขึ้น​แสดง​แล้ว​ ​ข้า​ไม่​ชอบ​ฟัง​ทำนอง​คุน​ซาน​”

​“​ข้า​คิด​ว่า​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​ร้อง​ดีกว่า​!​”​ ​พอ​พูดถึง​เรื่อง​ละคร​งิ้ว​ ​ทุกคน​ก็​เริ่ม​แสดงความคิดเห็น​ของ​ตัวเอง​ ​เหมือนกับ​กำลัง​พูดคุย​เกี่ยวกับ​นักร้อง​ที่​ตัวเอง​ชื่นชอบ​ ​ดู​เชี่ยวชาญ​เกี่ยวกับ​บทเพลง​ต่างๆ​ ​เป็นอย่างมาก​ ​มี​เพียง​หลาน​ถิง​ที่​ดู​เงียบ​ไป​ ​และ​กานฮู​หยิน​ที่​ดูท่าทาง​อึดอัด​เล็กน้อย​

​ทุกคน​พูดคุย​กัน​อยู่นาน​ ​ป้า​ซ่ง​ก็​เข้ามา​เชิญ​พวก​นาง​ไป​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ ​ได้เวลา​ทานอาหาร​เย็น​แล้ว

​ทุกคน​ยิ้ม​พลาง​กล่าว​ลาสื​ออี​เหนียง

​หลาน​ถิ​งก​ลับ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้ามา​สาย​จะ​อยู่​เป็นเพื่อน​สือ​อี​เหนียง​ต่อ​อีกสักครู่​หนึ่ง​ ​พวก​ท่าน​ไป​ก่อน​เถิด​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​ตาม​ไป​เจ้าค่ะ​!​”

​กานฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ชะงัก​ฝีเท้า

​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ไม่ได้​สนใจ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เห็น​หรือไม่​ ​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​พอ​ถึง​เวลา​ก็​จะ​หา​ข้ออ้าง​ปลีกตัว​ออก​ไป​!​”

​สีหน้า​ของ​หลาน​ถิง​เผย​ให้​เห็น​ความหงุดหงิด​อยู่​แวบ​หนึ่ง​ ​เพียง​ไม่นาน​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่​หญิง​หวง​วางใจ​ได้​ ​หาก​อีกสักครู่​ข้า​ไม่​ไป​ ​ท่าน​ค่อย​ส่ง​คน​มา​พาตัว​ข้า​ไป​เถิด​!​”​ ​รอยยิ้ม​ดู​ไม่เต็มใจ​อยู่เล็ก​น้อย

​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กำลังจะ​พูด​ต่อ​ ​แต่​โจวฮู​หยิน​กลับ​ดึง​แขน​เสื้อ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​เป็น​พี่​ ​มีที​่​ไหน​มาถื​อสา​เอา​ความ​น้อง​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​คนอื่น​ ​“​พวกเรา​รีบ​หน่อย​เถิด​!​ ​มา​หลบ​อยู่​ที่นี่​นาน​แล้ว​ ​ถ้าหาก​ไป​ทานอาหาร​เย็น​สาย​ ​เกรง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​จะ​ให้​พวกเรา​ดื่ม​สุรา​เป็นการ​ทำโทษ​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​เป็น​คน​มีไหวพริบ​ ​มี​หรือ​จะ​ฟัง​ไม่​ออก​จึง​ปิดปาก​หัวเราะ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​กับ​โจวฮู​หยิน

​กานฮู​หยิน​เดิน​อยู่​ด้านหลัง​สุด​ ​เหลือบมอง​หลาน​ถิง​ที่​กำลัง​พูดคุย​อยู่​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​หันหลัง​แล้ว​เดิน​จากไป

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​หลาน​ถิ​งด​้วย​ความเป็นห่วง

​หลาน​ถิ​งก​็​ไม่ได้​ปิดบัง​นาง​ ​“​พี่ใหญ่​ทำ​กิจการ​กับ​คนใน​สกุล​ของ​ปั้น​ถัง​กง​แห่ง​หยาง​โจว​ ​อยาก​ให้​พ่อ​สามี​ของ​ข้า​ไป​พูดคุย​กับ​กรมท่า​เมือง​เฉวียน​โจว​ให้​ ​ข้า​ลอง​ถาม​ความคิด​ของ​พ่อ​สามี​ดูแล​้ว​ ​พ่อ​สามี​ไม่เพียงแต่​ลำบากใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ซ้ำ​ยัง​ตักเตือน​ข้า​อย่าง​อ้อมค้อม​ว่า​อย่า​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​กับ​กิจการ​ที่ฝู​เจี​้​ยน​”​ ​นาง​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​“​ข้า​บอก​กับ​พี่ใหญ่​ไป​แล้ว​ ​แต่​พี่ใหญ่​ไม่เพียงแต่​ไม่​ฟัง​ซ้ำ​ยัง​บอกว่า​ข้า​ไม่ได้​ทำ​อย่างเต็มที่​ ​เมื่อ​ครู่​พอ​ข้า​ลง​จาก​เกี้ยว​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ก็​มาหา​ข้า​เพื่อ​พูด​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​จะ​อธิบาย​อย่างไร​ก็​อธิบาย​ได้​ไม่ชัด​เจน​ ​จึง​ทำได้​เพียง​มา​หลบ​อยู่​กับ​เจ้าที่​นี่​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​อด​ถอนหายใจ​ไม่ได้​ ​พูดถึง​ตอนนั้น​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคย​ช่วย​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ตักเตือน​จง​ฉินปั​๋ว​ ​“​…​ไม่รู้​ว่า​ตอนนี้ฝู​เจี​้​ยน​อยู่​ใน​สถานการณ์​แบบ​ไหน​ ​บางคน​ก็​กลัว​ที่จะ​แปดเปื้อน​ไป​ด้วย​ ​บางคน​กลับ​กระตือรือร้น​ที่จะ​เข้าไป​ข้องเกี่ยว​ ​ช่าง​หน้าเป็น​ห่วง​เสีย​จริง​”​ ​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ประโยค​นี้​ก็​นึกถึง​สกุล​โอว​ขึ้น​มา

​หลาน​ถิ​งก​ระ​ซิบ​ข้าง​หู​นาง​ว่า​ ​“​ครั้ง​ที่แล้ว​พี่​หญิง​เขียนจดหมาย​มาบ​อก​ว่า​คน​สกุล​โอว​ต่อสู้​กัน​อย่างหนัก​ ​สกุล​ที่​มีชื่อเสียง​บาง​สกุล​ในฝู​เจี​้​ยน​ก็​ถูก​ลาก​เข้าไป​เกี่ยวข้อง​ด้วย​ ​แต่​ก็​มีบา​งค​นที​่​หลบ​ไป​อยู่​ที่​เจียง​หนาน​ ​แม้แต่​สกุล​เจียง​ก็​ยัง​เตือน​ลูกหลาน​ให้​อยู่​ใน​กฏ​ระเบียบ​ ​ห้าม​ทำตัว​หยิ่งยโส​เป็นอันขาด​ ​หาก​ไป​ทำ​สิ่ง​ที่​ผิด​เข้า​ก็​จะ​ถูก​ไล่ออก​จาก​จวน​ทันที​”

​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย

ราชวงศ์​เปลี่ยนแปลง​ไป​ตาม​กาลเวลา​ ​มี​เพียง​คนใน​สกุล​เท่านั้น​ที่จะ​ผูกพัน​กัน​ชั่วนิรันดร์​ ​แต่​หาก​ถูก​ไล่ออก​จาก​จวน​ก็​เท่ากับ​ถูก​สังคม​ทอดทิ้ง

แต่​การ​ที่​คนใน​สกุล​โอว​ทะเลาะ​กันเอง​กลับ​ถือเป็น​ข่าวดี​สำหรับ​สกุล​สวี

​“​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​เรื่องราว​จะ​ร้ายแรง​ขนาด​นี้​”​ ​นาง​พูด​พึมพำ​ ​“​เฉา​เอ๋อร​์​อยู่​ที่นั่น​สบายดี​หรือไม่​”

​“​จะ​สบายดี​ได้​อย่างไรเล่า​!​”​ ​หลาน​ถิง​พูด​อย่าง​จนปัญญา​ว่า​ ​“​พี่เขย​สาม​มีบุ​ตร​ชาย​อนุ​สอง​คน​และ​บุตรสาว​อนุ​หนึ่ง​คน​แล้ว​”

​“​เหตุใด​สกุล​เจียง​ถึง​ได้​เป็น​เช่นนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ภรรยา​เอก​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เข้า​จวน​ก็​อนุญาต​ให้​อนุภรรยา​คลอด​บุตรสาว​บุตรชาย​แล้ว

​“​ตอนที่​พี่​หญิง​สาม​แต่ง​เข้าไป​ ​พี่เขย​สาม​ก็​อายุ​ปา​ไป​ยี่สิบ​กว่า​ปี​แล้ว​ ​ใน​เรือน​จะ​ไม่มี​คน​ได้​อย่างไร​กัน​”​ ​หลาน​ถิง​พูด​อย่าง​ขมขื่น​ว่า​ ​“​ใน​บรรดา​บุตรสาว​บุตรชาย​อนุ​เหล่านั้น​ ​โตสุ​ดก​็​อายุ​เพียง​หนึ่ง​ปีก​ว่า​เท่านั้น​”

​หนึ่ง​ปีก​ว่า​…​นับวัน​ดูแล​้ว​ ​เป็นช่วง​เวลา​หลังจากที่​สกุล​กาน​ทะเลาะ​กัน​เรื่อง​แบ่ง​ทรัพย์สิน​ ​และ​สกุล​เจียง​ส่ง​ผู้ดูแล​หญิง​มาดู​แล

​ขณะที่​ทั้งสอง​คน​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​กานฮู​หยิน​ก็​กลับมา​ ​“​หลาน​ถิง​ ​ทาง​ฝั่ง​ไท่ฮู​หยิน​ถามหา​เจ้า​”​ ​สุดท้าย​ก็​มา​เร่ง​จนได้

​หลาน​ถิ​งม​อง​สือ​อี​เหนียง​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​บังเอิญ​ว่า​ข้ามี​เรื่อง​จะ​ขอให้​หลาน​ถิง​ช่วย​พอดี​ ​กานฮู​หยิน​ไป​ก่อน​เถิด​ ​พอ​พวกเรา​พูด​เรื่อง​นี้​กัน​เสร็จ​ก็​จะ​แยกย้าย​กัน​แล้ว​”

​กานฮู​หยิน​หมดปัญญา​จึง​เดิน​ออก​ไป​ด้วย​ความผิดหวัง

​หลาน​ถิง​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ทำให้​เจ้า​ต้อง​ลำบาก​แล้ว​!​”

​“​มี​อะไร​ต้อง​ลำบาก​กัน​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ก็​ไม่​ค่อย​ชอบ​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​ผู้​นี้​เท่าไร​”

​หลาน​ถิง​ได้​ฟัง​แล้วก็​หัวเราะ

​สือ​อี​เหนียง​ให้​นาง​อยู่​ทานข้าว​เย็น​ ​ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​อยู่นาน​ ​เมื่อถึง​เวลา​จุด​โคมไฟ​ ​ก็​ส่ง​สาวใช้​น้อย​ไป​สืบ​ดูกานฮู​หยิน​ที่​ห้องโถง​บุปผา

​“​ยัง​ไม่​ไป​เจ้าค่ะ​”​ ​สาวใช้​น้อย​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​กำลัง​พูดคุย​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​และ​หวงฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​”

​“​ดูท่าทาง​แล้ว​นาง​ต้องการ​จะ​พบ​เจ้า​ให้​ได้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​หลบ​กัน​อยู่​อย่างนี้​ไม่ใช่​วิธี​ที่​ดี​ ​ข้าว​่า​เจ้า​กลับ​ไป​ทาง​ประตู​หลัง​ดีกว่า​ ถง​เกอ​ยัง​รอ​อยู่​ที่​เรือน​!​”

​หลาน​ถิง​สีหน้า​หม่นหมอง​เล็กน้อย​ ​พยักหน้า​เบา​ๆ

​******

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ตอนกลางคืน​ ​สือ​อี​เหนียง​เล่า​คำพูด​ของ​หลาน​ถิง​ให้​เขา​ฟัง​ ​“​…​สถานการณ์​ในฝู​เจี​้​ยน​ซับซ้อน​ขนาด​นี้​จริงๆ​ ​หรือ​เจ้า​คะ​”

​เห็นได้ชัด​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้เรื่อง​นี้​เป็น​อย่างดี​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ก็​ไม่​ถึงขั้น​ซับซ้อน​ ​ข้า​แค่​ไม่ต้องการ​เข้าไปมีส่วนร่วม​ ​ต่าง​คน​ต่าง​ก็​เก็บกวาด​หิมะ​หน้า​ประตู​ของ​ตัวเอง​ก็​พอ​”​ ​พูด​พลาง​นั่งลง​ข้าง​เตียง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​วันนี้​ข้า​ได้ยิน​ข่าวดี​มา​หนึ่ง​เรื่อง​ ​เซ่าจ​้ง​หราน​สอบผ่าน​ศิลปะ​การต่อสู้​อู่จ​วี่​แล้ว​”

​“​จริง​หรือ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ดีใจ​อย่างมาก​ ​“​เมื่อ​ครู่​ตอนที่​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​มาก​็​ไม่เห็น​พูดถึง​”

​“​ข้า​เอง​ก็​พึ่ง​ได้ข่าว​มา​”​ ​หมายความว่า​ข่าว​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ไม่​เร็ว​เท่า​เขา​อย่างแน่นอน

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​สดใส

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​มีความสุข​มาก​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​”

​“​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อว่า​ ​“​หาก​เป็น​เช่นนี้​พอ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แต่ง​เข้าไป​ก็​จะ​มีหน้ามีตา​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​หา​ตำแหน่ง​ให้​เขา​เลย​ไม่ดี​กว่า​หรือ​…​เวลา​แต่งงาน​ก็​จะ​ได้​มีหน้ามีตา​มากกว่า​เดิม​”

​“​อย่า​นะ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อว่า​ ​“​พอคน​เรา​โต​แล้ว​ ​สิ่ง​ที่​ส่งเสริม​ให้​ต้นกล้า​เติบโต​ก็​ไร้ประโยชน์​ ​ข้าว​่า​เซ่าจ​้ง​หราน​เป็น​เช่นนี้​ก็ดี​มาก​แล้ว​ ​สอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​ซิ่ว​ไฉ​แล้ว​ค่อย​สอบ​ศิลปะ​การต่อสู้​อู่จ​วี่​ ​พอส​อบ​ผ่าน​ศิลปะ​การต่อสู้​อู่จ​วี่​แล้วก็​ค่อย​สอบ​เป็น​บัณฑิต​สาย​ต่อสู้​ ​พอส​อบ​ผ่าน​บัณฑิต​สาย​ต่อสู้​แล้วก็​ค่อย​หา​ตำแหน่ง​ ​ค่อยๆ​ ​ก้าว​ไป​ทีละ​ก้าว​ ​เมื่อถึง​เวลา​ที่​ต้อง​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​อันนั้น​ ​จิตใจ​จะ​ได้​สงบ​มากขึ้น​ ​อีก​อย่าง​ชีวิต​คน​ก็​เป็น​เพียง​กระบวนการ​เติบโต​ ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​คือ​การ​ชื่นชม​ทิวทัศน์​รอบตัว​ขณะที่​กำลัง​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ต่างหาก​”

​“​เจ้า​ช่าง​สรรหา​ถ้อยคำ​ใหม่​ๆ​ ​มา​พูด​ยิ่งนัก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​จิ​่น​เกอ​ ​“​…​เขา​ไป​ไหน​แล้ว​ ​แม่นม​อุ้ม​ไป​ป้อน​นม​แล้ว​หรือ​”

​ทันทีที่​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ตระหนัก​ได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มี​ความ​แปลก​อยู่​มากมาย​ ​นาง​ไม่​ชอบ​เห็น​ตอนที่​แม่นม​ป้อน​นม​จิ​่น​เกอ​ ​ดังนั้น​ตอนที่​แม่นม​ป้อน​นม​จึง​ต้อง​หลบ​ไป​อยู่​ที่อื่น

​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​เพียง​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​แม่นม​กู้​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​เดิน​เข้ามา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท