ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 480 พี่น้อง(ต้น)

ตอนที่ 480 พี่น้อง(ต้น)

​“​จิ​่น​เกอ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ทั้ง​ประหลาดใจ​ทั้ง​ดีใจ​ ​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​ได้ยิน​บุตรชาย​พูด​ ​รีบ​ชี้​ไป​ที่​ของเล่น​ใน​มือ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​สนุก​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​กำหมัด​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เขา​ ​จ้อง​ของเล่น​อย่างตั้งใจ​ด้วย​ดวงตา​สีดำ​ขลับ

​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เอง​ก็ดี​ใจ​เช่นกัน​ ​“​น้อง​หก​ชอบ​ไก่​จิก​ข้าว​!​”

​“​อืม​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า

​สวี​ซื่อ​จุน​ดึง​ด้าย​เชิด​ไก่​ด้วย​ความตื่นเต้น​เล็กน้อย

​หัว​ไก่​น้อย​เอาแต่​จิก​เมล็ดข้าว​ไม่​หยุด

​แต่​ไม่นาน​ความสนใจ​ของ​จิ​่น​เกอ​ก็​เปลี่ยนไป​ ​สายตา​ของ​เขา​จับจ้อง​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้

​สือ​อี​เหนียง​ชี้​ไป​ยัง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​นั่น​คือ​พี่​สอง​ของ​เจ้า​!​”​ ​น้ำเสียง​นุ่มนวล​ผสม​ความ​เอ็นดู

​สวี​ซื่อ​อวี​้​เดิน​เข้าไป​หา

​เขามอง​ใบหน้า​เล็ก​ๆ​ ​สี​อม​ชมพู​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​ยื่นมือ​ออก​ไป​อยาก​จะ​จับมือ​อัน​อวบอ้วน​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​แต่​ก็​หยุดชะงัก​แล้ว​ดึง​มือ​กลับคืน​มา

​เรื่อง​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ถึง​ยัง​ต้อง​กังวล

หรือว่า​เคย​เกิด​อะไร​บางอย่าง​ขึ้นกับ​เขา​!

​สือ​อี​เหนียง​ไม่เคย​คิด​ที่จะ​แบกรับ​ความขมขื่น​ใน​อดีต​ ​นาง​หวัง​ว่า​เด็ก​ๆ​ ​จะ​มี​จิตใจ​ที่หวัง​ดี​ต่อกัน​และ​กัน

​นาง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ยื่น​จิ​่น​เกอ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​อยาก​อุ้ม​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​จากนั้น​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​จ้องมอง​ไป​ที่​จิ​่น​เกอ​ ​“​ให้​ข้า​อุ้ม​หรือ​”​ ​เขา​เบิกตา​กว้าง​ ​น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่แน่ใจ​ ​ท่าทาง​เหมือน​เด็กน้อย

หรือว่า​ตน​ถาม​คำถาม​ซับซ้อน​เกินไป​?

​ถึงอย่างไร​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​เป็น​เพียง​เด็กหนุ่ม​อายุ​แค่​สิบ​สาม​ปี​ ​สังคม​นี้​สนับสนุน​ให้​สุภาพบุรุษ​อยู่​ห่าง​จาก​ห้องครัว​ ​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อุ้ม​เด็ก

​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​คาด​ว่า​เจ้า​คงจะ​อุ้ม​ไม่​เป็น​!​”​ ​พูด​พลาง​ประคอง​ศีรษะ​จิ​่น​เกอ​มาซ​บบน​ไหล่​ของ​ตัวเอง​ ​การกระทำ​ของ​นาง​อ่อนโยน​และ​สงบนิ่ง​ราวกับ​สายลม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ใจสั่น​ไหว​เล็กน้อย​ ​ใน​ส่วนลึก​ของ​ความทรงจำ​ของ​เขา​มีเสียง​ที่​เคร่งขรึม​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​น่ารำคาญ​ก้อง​อยู่​ใน​หู​ ​‘​อย่า​ให้​อวี​้​เกอ​เข้าใกล้​จุน​เกอ​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​เขา​จะ​นอกคอก​มาก​แค่ไหน​ ​ระวัง​จะ​ไป​เอา​สิ่ง​ไม่ดี​เข้ามา​ทำให้​แปดเปื้อน​ ​จุน​เกอ​เป็น​ถึง​บุตรชาย​ภรรยา​เอก​ ​ร่างกาย​เปรียบ​ดั่ง​ทองคำ​ ​ไม่ใช่​พวก​หมา​พวก​แมว​ที่​พอ​ไม่มี​แล้ว​จะ​ไปหา​มา​เลี้ยง​ใหม่​ได้​…​’

​เมื่อ​ความคิด​นั้น​ดัง​ขึ้น​ใน​หัว​ราวกับ​มี​คน​คอย​บงการ​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​ยื่นมือ​ออก​ไป​ ​“​ต้อง​อุ้ม​อย่างไร​ขอรับ​”

​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็นท่า​ทาง​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​รู้สึก​มึนงง​เล็กน้อย​ ​กลับ​ลังเล​ขึ้น​มา

​แต่​ใน​สายตา​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ท่าทาง​ของ​พี่​สอง​ดู​อึดอัด​เล็กน้อย

เป็น​เพราะ​ท่าน​แม่​อยาก​ให้​เขา​อุ้ม​น้อง​หก​ ​แต่​พี่​สอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควร​อุ้ม​อย่างไร​กระมัง​!

​นาง​ครุ่นคิด​พลาง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ ​“​พี่​สอง​ ​ข้า​จะ​บอก​ท่าน​เอง​ว่า​จะ​ต้อง​อุ้ม​น้อง​หก​อย่างไร​!​”​ ​พูด​พลาง​เดิน​ไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ

ตัวเอง​ก็​อยู่​ข้างๆ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​สวม​เสื้อแขนยาว​และ​กางเกงขายาว​ที่​ค่อนข้าง​หนา

​คิด​เช่นนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ้ม​พลาง​ส่ง​บุตรชาย​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทำท่า​ทาง​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ดู​ ​“​พี่​สอง​ ​ท่าน​ดู​ ​ต้อง​อุ้ม​แบบนี้​ ​โดยเฉพาะ​ศีรษะ​ ​ท่าน​จะ​ต้อง​ประคอง​เอาไว้​ ​คอ​ของ​น้อง​หก​ยัง​ไม่​แข็งแรง​!​”

​“​อ้อ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​รับ​จิ​่น​เกอ​มาด​้วย​ท่าทาง​เงอะงะ​เล็กน้อย

​น้องชาย​ตัว​น้อย​ผิวขาว​อม​ชมพู​สวม​เสื้อแขนยาว​ผ้าไหม​หังโจว​สีแดง​นอน​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ ​ศีรษะ​หนัก​เล็กน้อย​ ​ร่างกาย​อ่อนนุ่ม​ ​เปลี่ยน​ท่าทาง​ไป​ตาม​ท่าที​่​เขา​อุ้ม​…​นอน​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ ​โบกมือ​น้อย​ๆ​ ​ไปมา​อย่าง​มีความสุข​…​อย่าง​ไม่​กังวล​และ​ไม่​หวาดกลัว​…​ท่าทาง​เชื่อ​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​ไม่​ทำร้าย​เขา​…​ทันใดนั้น​ใน​ใจ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​รู้สึก​เศร้า​ ​มี​หยดน้ำ​ตา​คลอ​อยู่​ใน​เบ้าตา​…

​เขา​ก้มหน้า​แล้ว​กระพริบตา​ ​อยาก​จะ​ทำให้​โลก​ของ​ตัวเอง​ชัด​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​แต่​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​กลับ​ส่งเสียง​ร้อง​ขึ้น​มา​ ​“​อุแว้​”

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่สน​ใจ​อะไร​อีกต่อไป​ ​มอง​สือ​อี​เหนียง​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ​ ​สีหน้า​ดูกระ​วน​กระ​วาย​เล็กน้อย

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​ท่าทาง​ลำบากใจ​ ​จึง​นึกถึง​ภาพ​ครั้งแรก​ที่​ตัวเอง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​…​นาง​กำลังจะ​ก้าว​เข้าไป​ช่วย​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​!​”​ ​พูด​พลาง​เดิน​เข้าไป​รับ​ลูก​น้อย​ ​“​เขา​ไม่​ชอบ​ให้​คน​อุ้ม​แนวนอน​เช่นนี้​ ​เขา​ชอบ​ให้​อุ้ม​แนวตั้ง​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​ส่ง​เด็กน้อย​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่กลับ​ทำตาม​วิธี​ที่​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​เด็กน้อย​เมื่อครู่นี้​ ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ตั้งขึ้น​ ​“​อุ้ม​แบบนี้​ใช่​หรือไม่​”

​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​เหลือบมอง​สำรวจ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​เห็น​ว่า​เขา​มีท​่า​ทาง​อ่อนโยน​ ​สีหน้า​สงบนิ่ง​ ​ใจ​ก็​เริ่ม​สงบ​ลง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อืม​ ​ใช่​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​ตบหลัง​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​

​จิ​่น​เกอ​หยุด​ร้องไห้​ทันที

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ถอนหายใจ​ยาว​ ​ร่างกาย​ผ่อนคลาย​ลง

​สือ​อี​เหนียง​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​นำ​ผ้า​ชุบ​น้ำอุ่น​บิด​หมาดๆ​ ​มา​เช็ดหน้า​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​ทาน​้ำ​มัน​มะกอก​ให้​เขา​พลาง​พูด​อย่าง​ทอดถอนใจ​ว่า​ ​“​ทำไม​อารมณ์ร้าย​เช่นนี้​ ​หาก​โต​ขึ้น​จะ​เป็น​อย่างไร​!​”

​“​น้อง​หก​ยัง​เล็ก​อยู่​เลย​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ประคอง​ศีรษะ​จิ​่น​เกอ​อย่างระมัดระวัง​ ​พูด​แย้ง​ขึ้น​ว่า​ ​“​พอ​เขา​โตสั​กหน​่อย​ ​ได้​เรียนหนังสือ​ ​เข้าใจ​เหตุผล​ ​เขา​ก็​จะ​รู้ความ​เอง​”

​“​หาก​รอ​ถึง​ตอนที่​เขา​ได้​เรียนหนังสือ​ ​เกรง​ว่า​จะ​สาย​เกินไป​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เพียงแต่​ยิ้ม​ ​ไม่​อยาก​คุย​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เกี่ยวกับ​ความสำคัญ​ของ​การศึกษา​ปฐมวัย​ของ​เด็ก​ ​เพราะว่า​ต่อให้​นาง​พูด​ไป​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​อาจจะ​ไม่เข้าใจ​ ​ไม่แน่​อาจจะ​คิด​ว่านา​งมี​ความคิด​ที่​แปลกประหลาด

​แต่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​เห็น​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ยื่น​นิ่ง​อยู่กับที่​ ​จึง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ชี้แนะ​เขา​ว่า​ ​“​ท่าน​ต้อง​อุ้ม​เขา​เดิน​ไปร​อบ​ๆ​…​ยืน​นิ่ง​อยู่กับที่​เช่นนี้​เดี๋ยว​เขา​จะ​ร้องไห้​ขึ้น​มา​อีก​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ตอบ​เพียงแค่​ ​“​อ้อ​”​ ​แล้ว​อุ้ม​เจิ่น​เกอ​เดิน​ไป​ทั่ว​ห้อง

​จิ​่น​เกอ​ซบ​ไหล่​ของ​เขา​อย่างว่า​ง่าย

​สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ดังนั้น​ก็​ดึง​แขน​เสื้อ​สือ​อี​เหนียง​ ​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ก็​อยาก​อุ้ม​น้อง​หก​!​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ดังนั้น​ก็​ทำตาม​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ก็​อยาก​อุ้ม​น้อง​หก​เหมือนกัน​!​”

​สือ​อี​เหนียง​มอง​เด็กน้อย​ทั้งสอง​คน​ ​คน​หนึ่ง​ร่างกาย​ผอมบาง​คล้าย​ถั่วงอก​ ​อีก​คน​หนึ่ง​แขน​เล็ก​ขา​เล็ก​ ​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​รอ​ให้​พวก​เจ้า​โต​เท่า​พี่​สอง​ก่อน​แล้ว​ถึง​จะ​อุ้ม​น้อง​หก​ได้​!​”

​เด็ก​ทั้งสอง​คน​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ความผิดหวัง

​มีสาว​ใช้​น้อย​รายงาน​ผ่าน​ม่าน​ว่า​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​คนใน​ห้อง​พากัน​ตกตะลึง​ ​ม่าน​ถูก​เปิด​ออก​ ​จากนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ก้าว​เข้ามา​ใน​ห้อง

​สือ​อี​เหนียง​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ย่อเข่า​คำนับ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​้​มห​น้า​โค้ง​คำนับ​ ​มี​เพียง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​กำลัง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​อยู่​ ​เหตุการณ์​เกิดขึ้น​อย่างกะทันหัน​ ​จะ​คำนับ​ก็​ไม่ได้​ ​ไม่​คำนับ​ก็​ไม่ได้​ ​ทุกอย่าง​ดูกะ​ทัน​หันไป​หมด​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​เห็น​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับมา​แล้ว​ซ้ำ​ยัง​กำลัง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​แต่​ไม่นาน​เขา​ก็​เก็บ​สีหน้า​ของ​ตัวเอง​อย่างรวดเร็ว​ ​พูด​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​กลับมา​แล้ว​หรือ​!​”

​แม่นม​กู้​รีบ​เข้ามา​อุ้ม​จิ​่น​เกอ

​สวี​ซื่อ​อวี​้​คำนับ​บิดา​อย่างนอบน้อม

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​มีสาว​ใช้​น้อย​มาป​รน​นิ​บัติ​เขา​ล้างหน้า​ ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​แล้วไป​นั่ง​ที่​เตียง​นั่ง​ริม​หน้าต่าง

​สือ​อี​เหนียง​รับ​ถ้วยชามา​จาก​สาวใช้​ไป​วาง​ไว้​ข้างหน้า​เขา​แล้ว​ยืน​หลบ​อยู่​ข้างๆ​

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​ยืน​ข้างๆ​ ​ท่าน​แม่​ ​บรรดา​บุตรชาย​ยืน​เรียง​กัน​อยู่​หน้า​เตียง​นั่ง​ ​ส่วน​แม่นม​กู้​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มายื​นอยู​่​ข้างๆ​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​สวี​ลิ่ง​อี๋​จิบ​ชา​ช้าๆ​ ​แล้ว​ถาม​อย่างใจ​เย็น​ว่า​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​ที่ลั​่ว​เย​่ว​์​ ​เจ้า​เรียนหนังสือ​เล่ม​ใด​ไป​บ้าง​”​ ​สีหน้า​เคร่งขรึม

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ตอบ​อย่างนอบน้อม​ ​“​ตามคำสั่ง​ของ​อาจารย์​เจียง​ ​ข้า​ได้​เริ่ม​เรียน​คัมภีร์​วิจารณ์​พจน์​และ​คัมภีร์​มหาบุรุษ​อีกครั้ง​ ​ตอนนี้​เรียน​ถึง​คัมภีร์​ทางสายกลาง​แล้ว​ขอรับ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​หันไป​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​การบ้าน​ที่​อาจารย์​จ้าว​ให้​ไว้​ทำ​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​”

​เมื่อ​เทียบ​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ดูป​ระ​หม่า​เล็กน้อย​ ​“​ส่วนใหญ่​ทำ​เสร็จ​หมด​แล้ว​ ​เหลือ​เพียง​ตัวอักษร​หนึ่งร้อย​แผ่น​ที่​ยัง​ไม่ได้​เขียน​ขอรับ​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​มีท​่า​ทาง​เหมือน​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ตำหนิ​ ​จึง​รีบ​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​แต่ว่า​อาจารย์​จ้าว​จะ​กลับมา​หลังจาก​ผ่าน​เทศกาล​โคมไฟ​ไป​แล้ว​ ​ยัง​มี​เวลา​อีก​กว่า​ครึ่ง​เดือน​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ต้อง​ทำ​เสร็จ​อย่างแน่นอน​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​แล้วยัง​มี​กฎ​ของ​อาจารย์​ที่​ต้อง​ฝึก​เป่าขลุ่ย​เป็นเวลา​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ทุกวัน​ ​ข้า​กับ​น้อง​ห้า​ฝึก​อยู่​ทุกวัน​ไม่เคย​ขี้เกียจ​ขอรับ​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​ว่า​พี่ชาย​พูดถึง​ตัวเอง​ก็​รีบ​พยักหน้า

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พอใจ​กับ​คำตอบ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน

ทำ​เสร็จ​แล้วก็​บอกว่า​ทำ​เสร็จ​แล้ว​ ​ยัง​ทำไม​่​เสร็จ​ก็​บอกว่า​ยัง​ทำไม​่​เสร็จ​ ​การหาเหตุ​ผล​ให้​กับ​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​ยัง​ทำไม​่​เสร็จ​นั้น​ไม่​ถูกต้อง

​เขา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​ที่​คอย​สังเกต​ท่าทาง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ดังนั้น​ก็​กระแอม​เบา​ๆ​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​นึกถึง​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​พูดถึง​สวี​ซื่อ​จุน​ ​‘​บางคน​พอสอ​นก​็​ทำเป็น​เลย​ ​บางคน​ต้อง​สอน​หลาย​รอบ​จึง​จะ​ทำได้​ ​หาก​คน​เป็น​พ่อ​เป็น​แม่​อย่าง​เรา​ไม่มี​ความอดทน​มาก​พอที่​จะ​ให้​เวลา​ลูก​ ​แล้ว​จะ​มี​ใคร​เต็มใจ​ที่จะ​ให้​เวลา​เขา​’​ ​คิ้ว​จึง​ค่อยๆ​ ​คลาย​ออก

​“​การ​ที่​เจ้า​ตั้งใจฟัง​สิ่ง​ที่​อาจารย์​จ้าว​พูด​นั้น​ถูกต้อง​แล้ว​ ​ต่อไป​เมื่อ​เป็น​ผู้นำ​น้องชาย​ ​จะ​เอาแต่​ห่วง​เล่น​ไม่ได้​ ​จะ​ต้อง​ทำการบ้าน​ให้​เสร็จ​ก่อนที่​อาจารย์​จ้าว​จะ​กลับมา​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ผ่อนคลาย​ลง​ ​ท่าทาง​ไม่ได้​แข็งทื่อ​เหมือน​เมื่อ​ครู่

​เขา​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​น้ำเสียง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​ร่าเริง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยายาม​อดทน​จึง​ไม่ได้​ขมวดคิ้ว​อีกครั้ง

ก็​ไม่ได้​เป็น​คำชม​อะไร​ ​เหตุใด​เขา​จึง​ได้​มีท​่า​ทาง​ดีใจ​เช่นนี้

​เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ไม่เข้าใจ​ ​จากนั้น​สายตา​ก็​จ้องมอง​ไป​ยัง​บุตรชาย​คนเล​็ก

​จิ​่น​เกอ​กำลัง​จ้องมอง​เขา

​ดวงตา​โตสด​ใส​ราวกับ​สายน้ำ​บน​ภูเขา

​ท่าทาง​ของ​เขา​ผ่อนคลาย​ลง​ ​ถาม​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​วันนี้​จิ​่น​เกอ​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หลับ​ตั้งแต่​เช้า​จนถึง​กลางวัน​ ​แม่นม​กู้​กลัว​ว่า​เขา​จะ​หย่านม​จึง​อุ้ม​เขา​แล้ว​เดิน​อยู่​ใน​ห้อง​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​เขา​จะ​ไม่​หลับ​แล้ว​เล่น​มา​จนถึง​ตอนนี้​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​มีท​่า​ที​ผ่อนคลาย​มากขึ้น​กว่า​เดิม

​แม่นม​กู้​รีบ​อุ้ม​เด็ก​เดิน​เข้าไป

​สวี​ซื่อ​อวี​้​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ว่า​บิดา​ที่​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​เวลา​มอง​ตัวเอง​กลับ​อุ้ม​น้องชาย​ตัว​น้อย​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ด้วย​ท่าทาง​อ่อนโยน​ ​ยื่น​นิ้วชี้​ออกมา​แตะ​ที่​กำปั้น​เล็ก​ๆ​ ​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​แบมือ​ทันที​แล้ว​กำ​นิ้วชี้​ของ​บิดา​เอาไว้​แน่น​ใน​ฝ่ามือ​ของ​เขา

​มี​รอยยิ้ม​ปรากฏ​บน​ใบหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋

​“​มีชีวิตชีวา​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​”​ ​เขา​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เล่น​ตั้งแต่​ตอนกลางวัน​มา​จึง​ถึง​ตอนนี้​ ​เล่น​อะไร​ไป​บ้าง​ถึง​ได้​ไม่ยอม​หลับ​ยอม​นอน​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่ชาย​ ​พี่​หญิง​ต่าง​ก็​มากัน​หมด​ ​เขา​ก็​เลย​มาร​่วม​สนุก​ด้วย​!​”

​รอยยิ้ม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลึกซึ้ง​กว่า​เดิม​ ​ก้มหน้า​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​รู้จัก​มาร​่วม​สนุก​ด้วย​หรือ​!​”

​ทันใดนั้น​จิ​่น​เกอ​ก็​อ้า​ปาก​หาว

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ส่ง​เด็กน้อย​ให้​แม่นม​กู้​ ​“​ดูเหมือนว่า​จะ​ง่วง​แล้ว​”

​แม่นม​กู้​รีบ​ไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แล้วไป​ที่​ห้อง​หน​่​วน​เก๋อ

​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป

​“​ใกล้​จะ​ตรุษจีน​แล้ว​ ​ใน​จวน​มี​คน​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​จะ​ทิ้ง​การบ้าน​ไว้​ทีหลัง​ไม่ได้​”​ ​พูด​พลาง​เหลือบมอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สายตา​หยุด​ที่​รองเท้า​ที่​เต็มไปด้วย​ฝุ่น​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​กลับมา​แล้วก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​รีบร้อน​ ​เจ้า​กลับ​ไป​ล้างหน้า​เปลี่ยน​ชุด​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​คารวะ​ท่าน​ย่า​”​ ​พูด​จบ​ก็​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​นี่​ก็​เลยเวลา​มามาก​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​แยกย้าย​กัน​กลับ​เรือน​เถิด​ ​วันนี้​พี่​สอง​ของ​เจ้า​กลับมา​ ​อีกสักครู่​พวกเรา​จะ​ไป​ทานอาหาร​เย็น​ที่​เรือน​ท่าน​ย่า​กัน​”

​บุตรชาย​ทั้ง​สาม​คน​โค้ง​คำนับ​แล้ว​เอ่ย​ตอบ​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​พากัน​ถอย​ออก​ไป

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท