ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 487 รวมตัวกัน(ปลาย)

ตอนที่ 487 รวมตัวกัน(ปลาย)

หก​ปี​เจ็ด​ล้าน​ตำลึง​ ​แต่​เรือน​นอก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยังคง​ขาดแคลน​เงิน​ ​ใน​ยามฉุกเฉินฮู​หยิน​สอง​ถึงขั้น​ต้อง​ขาย​ทรัพย์สิน​ที่​เป็น​สินสอดทองหมั้น​ของ​ตัวเอง​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ตอนที่ฮู​หยิน​สอง​ขาย​ทรัพย์สิน​นั้น​เป็นช่วง​ก่อน​หรือ​หลัง​ทำ​กิจการ

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​พูด​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​ฟัง​จาก​ที่​เจ้า​พูด​ ​หลังจากที่​ฮ่องเต้​ขึ้น​ครองราชย์​แล้ว​ ​ท่าน​โหวก​็​ให้​เจ้า​ล้มเลิก​กิจการ​ ​เช่นนั้น​บิดา​ของ​เจ้า​ไม่ได้​พูด​อะไร​เลย​หรือ​”

​ความ​สับสน​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​แววตา​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​นึก​ไป​พลาง​ ​พูด​ไป​พลาง​ ​“​ตอนนั้น​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ยัง​คิด​อยาก​จะ​ทำ​กิจการ​กับ​ท่าน​โหวต​่​ออีก​สัก​สอง​ปี​ ​แต่​ท่าน​โหวตัด​สิน​ใจ​อย่างหนัก​แน่น​ ​แล้วยัง​ไป​ทำสงคราม​ที่​เหมียว​เจียง​ ​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​จึง​ไม่ได้​ขอร้อง​เรื่อง​นี้​อีก​”

เงิน​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​ต่อปี​ ​พอ​บอกว่า​ไม่เอา​ก็​ไม่เอา​แล้ว​หรือ​…

​การคาด​เดา​อัน​เลือนลาง​ก่อนหน้านี้​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​อย่างชัดเจน​ขึ้น

​“​หลังจากนั้น​สกุล​เหวิ​นก​็​ได้​กิจการ​ทอผ้า​ที่​เจียง​หนาน​ใช่​หรือไม่​”​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไม่ได้​ตอบ​ในทันที​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​เงียบ​อยู่นาน​ก่อน​จะ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ใช่​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ช่วย​นาง​วิเคราะห์​เรื่องราว​อย่างละเอียด​ ​“​เมื่อก่อน​สกุล​เหวิน​เป็น​เพียง​สกุล​ที่​ทำ​กิจการ​ธรรมดา​ทั่วไป​ ​ทุกปี​ท่าน​โหว​จะ​ได้รับ​เงิน​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​ ​แต่​หลังจากที่​ท่าน​โหว​เลิก​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​เหวิน​ ​สกุล​เหวิ​นก​ลับ​ได้รับ​กิจการ​ทอผ้า​ใน​เจียง​หนาน​ ​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ท่าน​โหว​โชคร้าย​ ​หรือว่า​เป็น​เพราะ​สกุล​เหวิน​โชคดี​เกินไป​กัน​แน่​ ​ถ้าหาก​ท่าน​โหว​ทำ​ธุรกิจ​กับ​สกุล​เหวิน​ต่อไป​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ได้​กำไร​มากกว่า​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​ต่อปี​กระมัง​”

​ใน​ใจ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ร้อนรน

นาง​คิด​มา​เสมอ​ว่า​เป็นเพราะว่า​ท่าน​พ่อ​ได้รับ​กิจการ​ทอผ้า​ที่​เจียง​หนาน​ ​ท่าน​โหว​จึง​ได้​เลิก​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​เหวิน​ ​และ​เพื่อ​ปกป้อง​ผลประโยชน์​ส่วนมาก​ของ​ครอบครัว​จึง​อาศัย​โอกาส​นี้​เลิก​ทำ​กิจการ​กับ​ท่าน​โหว​ ​ถ้าหาก​ไม่ใช่​ ​แล้ว​ทำไม​…

​เมื่อ​คิดถึง​ตรงนี้​ ​แววตา​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความหวาดกลัว​!

หรือว่า​ตัวเอง​คิดผิด​ไป

​นาง​เงยหน้า​มอง​สือ​อี​เหนียง

​แววตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​สงบนิ่ง​ ​ราวกับว่า​ต่อให้​ภูเขา​ไท่​ซาน​ถล่ม​ลงมา​นาง​ก็​ไม่​สะทกสะท้าน​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ตอนที่​ข้า​อยู่สกุล​เดิม​ ​สิ่ง​ที่​ท่าน​พ่อ​คิดถึง​อยู่​เสมอ​ไม่เคย​ลืม​คือ​กิจการ​ทอผ้า​ใน​เจียง​หนาน​ ​เขา​เลิก​ทำ​กิจการ​กับ​ท่าน​โหว​ใน​เดือน​สิบเอ็ด​ ​ใน​เดือน​สอง​ของ​ปี​ถัดมา​เขา​ก็ได้​รับ​กิจการ​ทอผ้า​ใน​เจียง​หนาน​ ​คนอื่น​ไม่รู้​แต่​ข้า​รู้​ ​อย่า​ว่าแต่​หนึ่ง​ปี​ทำ​รายได้​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​ ​ต่อให้​ทำ​รายได้​สอง​ถึง​สาม​ล้าน​ตำลึง​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​แปลก​ ​ท่าน​พ่อ​เป็น​คนฉลาด​ ​หลังจากที่​เลิก​ทำ​กิจการ​กับ​ท่าน​โหวก​็​เคย​ส่ง​คน​มา​เกลี้ยกล่อม​ท่าน​โหว​ ​ตอนนั้น​ท่าน​โหว​บอก​เพียง​ว่า​ ​‘​ข้า​ไม่​เหมาะ​จะ​ทำ​กิจการ​อีกต่อไป​แล้ว​’​ ​ท่าน​พ่อ​จึง​ได้​ยอมแพ้​ ​ซึ่ง​ต่าง​จาก​นิสัย​ของ​ท่าน​พ่อ​เป็นอย่างมาก​ ​ต่อมา​ข้า​ได้​รู้​ว่า​ท่าน​พ่อ​ได้​กิจการ​ทอผ้า​ใน​เจียง​หนาน​ ​คิด​ว่า​ท่าน​พ่อ​ทำ​เพื่อ​พยายาม​ครอบครอง​กิจการ​นี้​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​ท่าน​พ่อ​ทำ​เช่นนี้​นั้น​อันตราย​เกินไป​ ​อย่า​ลืม​ว่า​สกุล​อย่าง​พวกเรา​ ​เพียงแค่​ตำแหน่ง​นายอำเภอ​ก็​สามารถ​ล้ม​สกุล​เรา​ได้​แล้ว​ ​ท่าน​พ่อ​มีต​้น​ไม้​ใหญ่​อย่าง​ท่าน​โหว​แต่กลับ​ไม่​พึ่งพา​ ​ซ้ำ​ยัง​เลิก​ทำ​กิจการ​กับ​ท่าน​โหว​ ​ข้า​เคย​เตือน​ท่าน​พ่อ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ ​ตอนนั้น​ท่าน​พ่อ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​จะ​ไม่ผิด​ต่อ​ท่าน​โหว​อย่างแน่นอน​ ​พอ​ถึง​เดือน​หก​ก็​ให้​คน​นำ​ตั๋วเงิน​มูลค่า​สอง​แสน​ตำลึง​มาส​่ง​ให้​…​”

​เมื่อ​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ ​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เปลี่ยนไป​ ​เป็น​นาง​ที่จับ​มือ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​ท่าน​โหว​รับเอา​ไว้​หรือไม่​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความกลัว​เล็กน้อย​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ไม่​ ​ไม่ได้​รับเอา​ไว้​ ​เป็น​ข้า​ ​เป็น​ข้า​ที่​รับเอา​ไว้​”​ ​ทำเอา​สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก

​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​จึง​ได้​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ทำไม​เจ้า​โง่เง่า​เช่นนี้​!​”

​“​ที่​ข้า​ทำ​ไป​ก็​เพื่อ​ทวง​ความยุติธรรม​ให้ท่าน​โหว​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แย้ง​กลับ​ด้วย​น้ำเสียง​แผ่วเบา​ ​นาง​พลัน​รู้สึก​ผิด​ ​เลย​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​แต่​ก็​ไม่ได้​รับ​มามาก​ ​เพียงแค่​สอง​แสน​ตำลึง​ต่อปี​เท่านั้น​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​ปี​ที่ผ่านมา​ ​ก็​เพียงแค่​เงินก้อน​เล็ก​ๆ​ ​เท่านั้น​…​”

​ในเมื่อ​เรื่อง​มาถึง​ขั้น​นี้​ ​พูดมาก​ไป​ก็​เปล่าประโยชน์​ ​สิ่ง​ที่​สือ​อี​เหนียง​เป็นกังวล​คือ​เรื่อง​อื่น

​“​เรื่อง​ที่​เจ้า​เก็บเงิน​ไว้​ ​ท่าน​โหว​รู้​หรือไม่​”

​“​ช่วง​สอง​สาม​ปี​แรก​ที่​ไม่ได้​อยู่​เรือน​ยัง​ไม่รู้​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ต่อมา​ก็​รู้​แล้ว​ ​บอก​กับข้าว​่า​ถ้าหาก​ชอบ​ทำ​กิจการ​จริงๆ​ ​ให้​เปิดร้าน​เอง​จะ​ดีกว่า​ ​รับเงิน​ปันผล​มา​เปล่าๆ​ ​เช่นนี้​ ​หาก​สกุล​เหวิน​เกิดเรื่อง​ขึ้น​แล้ว​มา​ขอร้อง​ให้​เขา​ช่วย​ ​ก็​ใช่​ว่า​เขา​จะ​สามารถ​ทำให้​ได้​ทุกอย่าง​ ​ข้า​ ​ข้า​ก็​เลย​เปิดร้าน​ของ​ตัวเอง​…​”​ ​สมอง​ของ​สือ​อี​เหนียง​หมุน​แล่น​อย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​บอกว่า​ฮ่องเต้​ต้องการ​จะ​กำจัด​สกุล​หยาง​ ​ต่อมา​ก็​ต้อง​เข้า​วัง​โดย​ไม่​คาดคิด​ ​แล้วยัง​มีเรื่อง​ที่ฮู​หยิน​สอง​ไป​เยี่ยม​หย่ง​ชัง​โหว​เป็นการ​ส่วนตัว​ในนามของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แล้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มา​พบ​เป็นการ​ส่วนตัว​เพื่อ​ขอให้​นาง​ยุติ​การ​ทำ​กิจการ​ทั้งหมด​…​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ทำ​กิจการ​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​คงจะ​รู้​อย่างชัดเจน​เกี่ยวกับ​วิธีการ​ฟอกเงิน​ของ​ขุนนาง​ใน​เยี​่​ยน​จิง​กระมัง

​นาง​ถาม​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​หย่ง​ชัง​โหว​สกุล​หวง​ทำ​กิจการ​อะไร​หรือ​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เรื่อง​นี้​ในเวลานี้​เพราะ​จุดประสงค์​อะไร​ ​พูด​อย่าง​ไม่เข้าใจ​ว่า​ ​“​ครอบครัว​ของ​พวกเขา​มี​เหมือง​และ​ทำ​กิจการ​กับ​กรมโยธาธิการ​ ​สามารถ​สร้าง​รายได้​ห้า​แสน​กว่า​ตำลึง​ต่อปี​”

​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​เดิมที​นาง​คิด​ว่า​สกุล​หวง​ทำ​กิจการ​ใน​กองทัพ

​“​ไม่ใช่​ว่า​กิจการ​ส่วนใหญ่​ของ​กรมโยธาธิการ​ถูก​ครอบครอง​โดย​สกุล​หยาง​หรอก​หรือ​ ​เป็น​ของ​สกุล​หวง​ได้​อย่างไร​”

​เมื่อ​พูดถึง​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​เชี่ยวชาญ​ ​สีหน้า​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เผย​ให้​เห็น​ความ​กระตือรือร้น​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​“​สกุล​หยาง​ก็​มีทั​้​งมือ​ที่​สะอาด​และ​มือ​ที่​สกปรก​ ​เขา​อาศัย​ชื่อเสียง​ของ​ตัวเอง​ซื้อขาย​สินค้า​กับ​สกุล​อื่น​พลาง​รับ​กิจการ​ของ​กรมโยธาธิการ​ด้วย​ ​ใน​ความจริง​แล้ว​ไม่ต้อง​ใช้​เงินลงทุน​เลย​แม้แต่​แดง​เดียว​ ​นอกจากนี้​เงิน​ที่​กรมโยธาธิการ​จัดสรร​มา​ไม่จำเป็น​ต้อง​จ่าย​เงิน​ให้​พ่อค้า​เหล่านั้น​ได้​เป็นการชั่วคราว​ ​สามารถ​เก็บ​ไว้​ใน​มือ​ได้​ช่วง​ระยะเวลา​หนึ่ง​ ​ด้วยเหตุนี้​สกุล​พวกเขา​จึง​ได้​เปิด​ให้​กู้เงิน​ ​และ​เป็น​กิจการ​ที่​มีชื่อเสียง​และ​ใหญ่​ที่สุด​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ ​ไม่​เพียง​ดอกเบี้ย​ต่ำ​ ​ซ้ำ​ยัง​ไม่ว่า​จะ​ยืม​เท่าไร​ก็ได้​ทั้งนั้น​ ​ท่าน​หวง​โหว​ผู้เฒ่า​ได้​มอบ​กิจการ​ของ​สกุล​ให้​ซื่อ​จื่อ​ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​ที่ผ่านมา​ ​แต่​อย่างไร​เสีย​สกุล​หวง​ก็​มีชื่อเสียง​ที่​ไม่ดี​ใน​พื้นที่​นั้น​ ​กิจการ​ของ​ซื่อ​จื่อ​เป็นไป​อย่าง​ยากลำบาก​ใน​ชั่ว​สอง​สาม​ปี​แรก​ ​ซ้ำ​ยัง​เคย​มายืม​เงิน​ท่าน​โหว​ไป​หมุน​กิจการ​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​จู่ๆ​ ​ก็ได้​ร่วมมือ​กับ​สกุล​หยาง​และ​เริ่ม​จัดหา​วัสดุ​หิน​ให้​สกุล​หยาง​ ​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​ที่ผ่านมา​จึง​ได้​เจริญรุ่งเรือง​มากขึ้น​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​วิเคราะห์​คำพูด​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​ใน​วัน​แรก​ของ​วัน​ตรุษจีน​หลังจากที่​ท่าน​โหว​ออกมา​จาก​วัง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ให้ฮู​หยิน​สอง​นำ​ของกิน​ไป​ส่ง​ให้​สกุล​หวง​ทันที​ ​จากนั้น​ท่าน​โหวก​็​เรียก​เจ้า​ไป​พูดคุย​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เป็น​คนฉลาด​ ​ช่วย​ข้า​คิด​ที​ว่า​เรื่อง​นี้​มี​อะไร​เกี่ยวโยง​กัน​หรือไม่​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​ที่ผ่านมา​สกุล​เหวิน​แก่งแย่งชิงดี​ชิง​เด่น​กับ​สกุล​หยาง​เพื่อ​กิจการ​ของ​กรมพระราชวัง​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​เป็น​อย่างไร​ต่อ​…​แล้วก็​เรื่อง​ที่​สกุล​เหวิน​ให้เงิน​สอง​แสน​ตำลึง​ใน​ทุกปี​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ท่าน​โหว​คงจะ​ช่วย​สกุล​เหวิน​จัดการ​เรื่องราว​ต่างๆ​ ​มา​ไม่น้อย​กระมัง​ ​ไม่รู้​ว่า​ใน​ช่วง​สอง​ปี​มานี​้​สกุล​เหวิน​ยังคง​เหมือนเดิม​หรือไม่​ ​เมื่อมี​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​จะ​มา​ขอร้อง​ท่าน​โหว​…​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​เหงื่อ​แตก​พลั่ก

​นาง​ตอบ​เสียง​เบา​ราวกับ​ยุง​ ​“​ข้า​ก็​ว่า​อยู่​…​ตั้งแต่​ที่​ท่าน​พ่อ​เสีย​ไป​ ​เหตุใด​ท่าน​ลุง​สาม​ถึง​ติดเงิน​ข้า​อยู่​ซ้ำๆ​ ​บางครั้ง​ก็​ให้​ข้า​ไป​ขอร้อง​ให้ท่าน​โหว​ทำ​เรื่อง​โน่น​เรื่อง​นี้​จึง​จะ​ส่ง​เงิน​มา​ให้​…​สอง​ปี​มานี​้​ก็​ไม่​ค่อย​มาที​่​จวน​แล้ว​ ​ท่าทาง​ของ​ป้า​สะใภ้​สาม​ก็​ดู​เหิมเกริม​มากขึ้น​ทุกวัน​ ​บางครั้ง​ก็​ถึงขั้น​ใช้​เงิน​แก้ปัญหา​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​ลุกขึ้น​ทันที​ ​“​ไม่ได้​ ​เรื่อง​นี้​ข้า​ต้อง​ให้​ชิว​หง​ไป​สืบ​ดูแล​้ว​ ​ดู​ว่า​สกุล​เหวิ​นรั​บกิ​จกา​รอะ​ไร​จาก​กรมพระราชวัง​กัน​แน่​…​”

​สือ​อี​เหนียง​กลับ​คิดถึง​เหตุ​และ​ผล​ของ​เรื่อง​นี้

ก่อนหน้านี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รู้อยู่​แล้ว​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​กำจัด​สกุล​หยาง​แล้ว​ ​หลังจากที่​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้​ใน​วัน​แรก​ของ​ปีก​็​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ล้มเลิก​กิจการ​ ​ซ้ำ​ยัง​กำหนด​เวลา​อีกด้วย​ ​เป็น​เพราะ​ฮ่องเต้​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​หรือว่า​ฮ่องเต้​ตักเตือน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​มิเช่นนั้น​เหตุใด​ถึง​ได้​รีบร้อน​เช่นนี้​ ​อีก​อย่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รังเกียจ​ที่​คน​สกุล​เหวิน​ทำ​กิจการ​กับ​กรมพระราชวัง​ ​หาก​สกุล​เหวิน​สมรู้ร่วมคิด​อะไร​กัน​กับ​สกุล​หยาง​ก็​เป็นไปไม่ได้​ที่​คน​อย่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่รู้​ ​ในเมื่อ​รู้​แล้วก็​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​ไม่​ตักเตือน​ ​แต่ว่า​หลังจากที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้​ถึง​ความรุนแรง​ของ​เรื่อง​นี้​ ​นาง​กลับ​ไม่​สงสัย​ว่า​สกุล​เหวิน​ได้รับ​กิจการ​ของ​กรมพระราชวัง​หรือไม่​ ​แต่กลับ​ให้​ชิว​หง​ไป​สืบ​ดู​ว่า​สกุล​เหวิ​นรั​บกิ​จกา​รอะ​ไร​จาก​กรมพระราชวัง​ ​สรุป​ก็​คือ​สกุล​เหวิ​นกำ​ลัง​ทำ​กิจการ​ของ​กรมพระราชวัง​ ​ซ้ำ​ยัง​ไม่สน​การ​คัดค้าน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​มีต​่​อกิ​จการ​ของ​กรมพระราชวัง​อีกด้วย

​นาง​คว้า​แขน​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​หลังจากที่​พ่อ​ของ​เจ้า​เสีย​ไป​ ​ท่าน​ลุง​สาม​ของ​เจ้า​ก็​เป็น​คนรับ​ผิด​ชอบ​ใน​เรือน​ใช่​หรือไม่​ ​เขา​กับ​ท่าน​โหว​ไปมาหาสู่​กัน​บ่อย​หรือไม่​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​สีหน้า​ก็​เริ่ม​ซีด​ลง​เล็กน้อย​ ​“​ไม่ใช่​ว่า​ท่าน​ลุง​สาม​ไม่​อยาก​ไปมาหาสู่​กับ​ท่าน​โหว​ ​แต่​เป็น​ท่าน​โหว​ที่​ไม่​อยาก​พบ​คน​สกุล​เหวิ​น.​..​ท่าน​ลุง​สาม​มา​ขอ​พบ​ท่าน​โหว​อยู่​หลายครั้ง​ ​ท่าน​โหวก​็​ปล่อย​ให้ท่า​นลุง​สาม​ยืน​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ทุกครั้ง​…​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ถ้าหาก​กิจการ​ของ​สกุล​เหวิน​ไม่ได้​ใหญ่โต​นัก​ ​การ​ที่​ท่าน​ลุง​ของ​เจ้า​ถูก​ท่าน​โหว​ปล่อย​ให้​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ ​เกรง​ว่า​ก็​คงจะ​ไม่ได้​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ต่ำต้อย​กระมัง​”

​สีหน้า​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ่ง​ซีดเซียว​ลง​กว่า​เดิม

​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​เรื่อง​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​แม้แต่​ท่าน​โหวก​็​ยัง​ควบคุม​ไม่ได้​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เจ้า​ ​เจ้า​ฟัง​คำ​ท่าน​โหว​ ​รีบ​ขาย​ร้าน​ไป​เสียเถิด​!​ ​ทาง​ฝั่ง​สกุล​เหวิน​ ​เจ้า​ก็​ทำหน้าที่​บุตรสาว​ให้​ดีที​่​สุด​โดย​การ​ส่งข่าว​บอก​สกุล​เหวิน​ ​บาง​เรื่อง​เจ้า​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ฝืน​แล้ว​ ​ส่วน​จะ​จัดการ​กับ​ผู้​ร่วม​กิจการ​อย่างไร​นั้น​ ​ไม่​สู้​เชิญ​ท่าน​โหว​มาป​รึก​ษา​…​”

​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​พูด​จบ​ ​น้ำตา​เม็ด​ใหญ่​เท่า​เมล็ด​ถั่วเหลือง​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​หยด​ลงมา​ ​“​ท่าน​แม่​ข้า​…​ยัง​ต้อง​ให้​บรรดา​พี่ชาย​เป็น​คนดู​แล​…​แล้วยัง​มี​แม่นม​ ​ข้า​ให้​นาง​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่ยอม​ ​อยาก​จะ​กลับ​ไป​ปรนนิบัติ​ท่าน​แม่​ของ​ข้า​ให้​ได้​…​พี่ชาย​ข้า​ยัง​ตาม​กลับ​ไป​หยาง​โจว​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​เจ็บปวด​ใจ​ ​ในที่สุด​ก็​ร้องไห้​ออกมา​อย่าง​ขมขื่น

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​อย่าง​หมดปัญญา​จึง​ให้​เวลา​นางร้องไห้​ราว​หนึ่ง​ถ้วย​ชา​ ​จากนั้น​ก็​ตบ​บ่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​เรื่อง​นี้​จะ​รอช​้า​ไม่ได้​ ​เจ้า​ต้อง​รีบ​วางแผน​รับมือ​ล่วงหน้า​!​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​ใบหน้า​ที่​แต่งเติม​ด้วย​เครื่อง​ประทิน​โฉม​เปรอะเปื้อน​ไป​ด้วย​คราบ​น้ำตา

​นางร้องไห้​อย่าง​หมดหนทาง​ ​“​เช่นนั้น​ ​เช่นนั้น​ข้า​ควร​ทำ​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​”​ ​ท่าทาง​กระวนกระวายใจ

​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​สถานการณ์​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​ ​และ​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีแผน​อย่างไร​ ​ย่อม​ไม่​สามารถ​ตัดสินใจ​ได้​ ​ทำได้​เพียง​บอกว่า​ ​“​พวกเรา​เชิญ​ท่าน​โหว​มาดี​หรือไม่​ ​บาง​เรื่อง​ก็​ต้อง​พูด​ต่อหน้า​ให้​ชัดเจน​ ​พอ​เจ้า​รู้เรื่องราว​แล้ว​รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ ​ก็​จะ​มีแผน​รับมือ​…​”

​เมื่อ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​พยักหน้า​เหมือน​ไก่​จิก​ข้าว​ ​คว้า​มือ​สือ​อี​เหนียง​เหมือน​คว้า​ขอนไม้​ที่​ลอย​อยู่​ใน​ทะเล​ก็​ไม่​ปาน​ ​“ฮู​หยิน​ ​ทุกอย่าง​ให้ท่าน​เป็น​คน​ตัดสินใจ​”​ ​ขณะที่​พูด​น้ำตา​ก็​ไหล​ออกมา​ราวกับ​สายฝน​ ​“​บุญคุณ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของฮู​หยิน​ ​ชาติ​นี้​ข้า​จะ​ไม่มีวัน​ลืม​…​”

​สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​แตก​พลั่ก​ ​อด​หัวเราะเยาะ​ตัวเอง​ไม่ได้​

การถูก​จดจำ​ไป​ตลอดชีวิต​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​น่ายินดี​…

​นาง​หันไป​เรียก​ปินจ​วี​๋​ ​ให้​ปินจ​วี​๋​บอก​ฟัง​ซี​ให้​ไป​เชิญ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มา

​******

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มา​เร็ว​กว่า​ที่นา​งคิด​ ​เมื่อ​เห็น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​แต่​ก็​กลับมา​มีสี​หน้า​สงบนิ่ง​อย่างรวดเร็ว

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท