ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 511 อยู่จวน (ปลาย)

ตอนที่ 511 อยู่จวน (ปลาย)

เรื่อง​นี้​มัน​ไม่ได้​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​มีพื​้น​หลัง​ตระกูล​ที่​ขาวสะอาด​หรือไม่​สะอาด​ ​ไม่ได้​เกี่ยวข้อง​ว่า​เป็น​บุตรสาว​ที่​ดี​ของ​ตระกูล​หรือไม่

ลึก​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​พอใจ​เท่าไร​นัก​ ​นาง​ค่อนข้าง​รู้สึก​หดหู่ใจ​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่น​ขึ้น​พึมพำ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​หญิงสาว​ส่องกระจก​กล่าวโทษ​ตัวเอง​ด้วย​ความ​โศกเศร้า​ ​เสียใจ​ที่​สนับสนุน​สามี​ไป​ออกรบ​แสวงหา​เกียรติยศ​ใน​สงคราม​”

หากว่า​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​สอบ​ราชบัณฑิต​จิ้น​ซื่อ​ไม่ได้​ ​ตาม​นิสัยใจคอ​ของ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​นาย​หญิง​ใหญ่​ใจ​จะ​ยัง​มีชีวิต​อยู่​หรือไม่​ ​คงจะ​ไม่​รับ​อนุภรรยา​อย่างแน่นอน​!

ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​พูด​ด้วย​เสียง​ที่​แผ่วเบา​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​คอย​สังเกต​นาง​อยู่​ตลอด​นั้น​สามารถ​ได้ยิน​ทุก​คำพูด​ของ​นาง​ได้​อย่างชัดเจน

เขา​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

นึกถึง​คำพูด​ที่นาง​พยายาม​โน้มน้าว​และ​เกลี้ยกล่อม​เขา​ตอนที่​นาง​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​เข้า​จวน​มา​ ​นึกถึง​ตอนที่​นาง​ได้ยิน​จู​อาน​ผิง​และ​ชี​เหนียง​คุย​กัน​ทั้ง​น้ำตา​ใน​ครั้งนั้น​ ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ขึ้น​มา

ดูเหมือนว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​คอย​อิจฉา​คู่สามีภรรยา​ที่รัก​ใคร่​กัน​และ​ได้​อยู่​เคียงข้าง​กัน​อย่าง​มีความสุข​ ​แม้กระทั่ง​เขา​ที่​ลาออก​จาก​งาน​ใน​ราชสำนัก​แล้ว​ว่างงาน​อยู่​ที่​บ้าน​ ​นาง​ก็​ดูจะ​ดีใจ​ไม่น้อย

เมื่อ​นึกถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มาม​อง​ภรรยา​ของ​เขา​อย่างละเอียดถี่ถ้วน

นาง​กำลัง​ก้มหน้าก้มตา​จัดระเบียบ​ของ​ที่อยู่​ใน​ตะกร้า​หวาย​ ​นิ้วมือ​ที่​เรียว​ยาว​ ​เล็บมือ​ที่​ถูก​ตัด​อย่างเป็นระเบียบ​เรียบร้อย​ ​นาง​กำลัง​พับ​ถุงเท้า​ใน​ตะกร้า​หวาย​ด้วย​ความตั้งใจ​ ​นำ​เข็ม​และ​ด้าย​วาง​เรียง​กัน​อย่างเป็นระเบียบ​ ​ท่าทาง​สุขุม​และสง่า​งาม​ ​สีหน้า​สงบ​และ​อ่อนโยน​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​หวนนึก​ถึง​ตอนที่​เขา​ยัง​เด็ก​ ​ตอนนั้น​เขา​กำลัง​สะลึมสะลือ​ ​แม่นม​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​เตียง​ ​กำลัง​ก้มหน้าก้มตา​ปัก​ผ้า​อย่างใจ​เย็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​รอยยิ้ม​ที่​อ่อนโยน​ ​นาง​ยก​น้ำชา​ร้อน​ๆ​ ​มา​ให้​เขา​ ​จากนั้น​ก็​กล่อม​เขา​เข้านอน​ ​เวลา​ที่​เขา​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​แม่นม​ก็​ยังคง​อยู่​ที่​เดิม​ ​ถือ​เสื้อ​ที่พึ่ง​เย็บ​เสร็จ​ ​รอ​เขา​ตื่นนอน​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​…​ชีวิตประจำวัน​ที่​ผ่านพ้น​อย่างสงบ​ ​แต่กลับ​รู้สึก​มั่นคง​และ​ปลอดภัย​…​ความรู้สึก​เหมือนกับ​เวลานี้​ไม่มี​ผิด​!

หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ​เขา​ไม่เคย​มีความรู้สึก​เช่นนี้​เลย

จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กุมมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไว้

จ้องมอง​ดวงตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ ​เงียบงัน​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ ​คำพูด​พรั่งพรู​เข้ามา​ใน​หัว​มากมาย​ ​แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​เริ่ม​พูด​คำ​ไหน​ดี

สือ​อี​เหนียง​กลับ​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​วางใจ​เถิด​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​เตรียม​ของขวัญ​เจอ​หน้า​ให้​กับ​อี๋​เหนียง​คน​ใหม่​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ​แล้ว​ให้​พี่ใหญ่​เอา​ไป​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

เรื่อง​ที่​ไม่​อาจ​เปลี่ยนแปลง​ได้​ ​เมื่อ​ได้​บ่น​ออกมา​แล้ว​ ​ก็​ควร​เรียนรู้​ที่จะ​ปล่อยวาง​ ​จะ​ได้​ไม่​กอง​ทับถม​อยู่​ใน​ใจ​จน​เน่าเปื่อย​กลายเป็น​หนอน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ฝั่ง​หนึ่ง​อาจ​เห็น​ว่า​เป็น​ยาพิษ​ ​แต่​อีก​ฝั่ง​อาจ​เห็น​เป็นน้ำ​ผึ้ง​ก็​ว่า​ได้

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​หยุด​คำพูด​ที่จะ​พูด​ไป

ยัง​มีเรื่อง​ไหน​ที่​ตน​ยัง​ไม่รู้​อีก​นะ

สือ​อี​เหนียง​อยาก​จะ​ถาม​เรื่องราว​ให้​ละเอียด​ ​แต่​เจี​้ย​เกอ​ที่​ก้มหน้าก้มตา​คัดตัว​อักษร​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มา​พอดี​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​เขียน​เสร็จ​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ยก​กระดาษ​เซ​วี​ยน​จื่อ​ขึ้น​มา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ดู

ทั้งสอง​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​มา​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึงขั้น​ออกปาก​ชม​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอี​กด​้วย​ ​“​เขียน​ได้​ไม่เลว​ ​ต่อไป​หาก​ฝึก​เขียน​มากขึ้น​ ​วันข้างหน้า​จะ​เขียน​ได้ดี​กว่านี​้​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​ยิ้ม​กว้าง​ด้วย​รอยยิ้ม​ที่​สดใส​ ​ราวกับ​แสงแดด​ของ​ฤดูร้อน​ก็​ไม่​ปาน

สะใภ้​หนาน​หย่ง​ก็ได้​เข้ามา​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพร​้​อม​กับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​ก็​รีบ​พักผ่อน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​รอส​วี​ซื่อ​เจี​้ย​คารวะ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​ให้​ชิว​อวี​่​ออก​ไป​ส่ง​เขา​ที่​หน้า​ประตู

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​เข้านอน​ที่​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​อาบน้ำอาบท่า​แล้วจึง​เข้านอน

กลางดึก​ ​จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​หายใจ​ไม่​ค่อย​สะดวก​ ​นาง​จึง​ค่อยๆ​ ​ตื่นขึ้น​มาด​้ว​ยอา​การ​สะลึมสะลือ

เมื่อ​ลืมตา​ขึ้น​ก็​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​กอด​นาง​ไว้​ใน​อ้อมกอด​อย่าง​แนบแน่น​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​กำลัง​แนบ​อยู่​บน​เนิน​อก​ของ​นาง

มิน่าเล่า​นาง​ถึง​ได้​หายใจไม่ออก

“​ท่าน​โหว​!​”​ ​นาง​ขยับตัว​เล็กน้อย​ด้วย​ความรู้สึก​ที่​ไม่​ค่อย​สบาย​ตัว​เท่าไร​่​นัก​ ​ความ​ซาบซ่าน​ค่อยๆ​ ​แผ่​ไป​ทั่วทั้ง​ร่างกาย

สือ​อี​เหนียง​คราง​เสียง​เบา​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ออดอ้อน​ ​ค่อยๆ​ ​หลับตา​ลง​พลาง​ยื่น​แขน​ทั้งสอง​กอด​คอ​ของ​เขา​ไว้​ ​ปล่อยตัวปล่อยใจ​ไป​กับ​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ไม่ยอม​ให้​สือ​อี​เหนียง​ซุก​หน้า​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ ​เขา​เชย​คาง​ของ​นาง​ขึ้น​มา​พลาง​พินิจ​ใบหน้า​นั้น​อย่างละเอียด

สุขภาพ​ของ​นาง​ไม่​ค่อย​ดี​ ​แต่​สำหรับ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​สามี​และ​ภรรยา​แล้ว​ ​ถือว่า​ไม่มีเงื่อนไข​ใดๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​สังเกต​สีหน้า​ของ​นาง​ด้วย​ความตั้งใจ

ครั้งนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​หลบหน้า​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ไม่ยอม​เงยหน้า​ขึ้น​มาสบ​ตากับ​เขา

“​เป็น​อะไร​ไป​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำได้​เพียง​จูบ​ผม​ของ​นาง​พร้อมกับ​ปลอบ​นาง​ด้วย​เสียง​ที่​แผ่วเบา

ทัศนคติ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​มีต​่อ​เรื่อง​การ​รับ​อนุภรรยา​ของ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​พลอย​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ใจสั่น​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

นาง​เข้าใจ​ดี​ว่า​ ​‘​แม่น้ำ​และ​ขุนเขา​นั้น​เปลี่ยน​ง่าย​ ​แต่​นิสัย​ดั้งเดิม​นั้น​เปลี่ยน​ยาก​’​ ​โดยเฉพาะ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ชาย​หญิง​ ​ใช้​ความรัก​เป็น​เหตุผล​ให้​อีก​ฝ่าย​ยอม​ประนีประนอม​และ​อะลุ่มอล่วย​ ​โดยส่วนมาก​แล้วก็​มักจะ​พ่ายแพ้​และ​ล้มเหลว​ ​นับประสา​อะไร​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ได้รับ​การศึกษา​จาก​ผู้มีความรู้​ระดับสูง​เกี่ยวกับ​ระบบ​ศักดินา​ตั้งแต่​วัยเด็ก​ ​หาก​คิด​อยาก​จะ​ไป​โน้มน้าว​และ​คัดค้าน​สิ่ง​ที่​เขา​เรียนรู้​มาทั​้ง​ชีวิต​ ​ก็​ดูจะ​เป็น​แค่​ความเพ้อฝัน​ของ​คนโง่​เขลา​ก็​เท่านั้น​ ​นาง​เอง​ก็​เข้าใจ​ดี​ ​เมื่อใด​ที่​อารมณ์​อยู่​เหนือกว่า​เหตุผล​ ​คนเรา​ก็​จะ​สามารถ​ประนีประนอม​และ​ยอม​ที่จะ​ถอย​ ​ยอม​แม้กระทั่ง​ให้​ตัวเอง​ไป​อยู่​ใน​จุด​ที่​ต้อยต่ำ​ที่สุด​ ​มิเช่นนั้น​ ​จะ​มี​คน​มากมาย​ที่​เวลา​ได้​เจอ​กับ​คนที​่​ถูกใจ​แล้ว​จะ​สามารถ​สรรหา​เงื่อนไข​ที่​ไร้สาระ​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​กัน

ก็​แค่​ดู​ว่า​เรา​ทุ่มเท​ความรู้สึก​ให้​กับ​คน​คน​นั้น​ลึกซึ้ง​แค่ไหน​เท่านั้นเอง

สือ​อี​เหนียง​อยาก​จะ​ลอง​รักษา​คนที​่​อยู่​ตรงหน้า​เอาไว้

ใช้​ความเอาใจใส่​และ​หัวใจ​ที่​โอบอ้อมอารี​ ​ก็​เหมือนกับ​เขา​ที่​ทิ้ง​ความแตกต่าง​ที่​แบ่งแยก​ระหว่าง​ชาย​หญิง​ ​ยอมให้​หมอ​หลิว​ฝังเข็ม​ให้​นาง​ ​เหมือนกับ​ตอนที่​นาง​กำลัง​อยู่​บน​ความ​เป็นความ​ตาย​ตอน​ให้กำเนิด​จิ​่น​เกอ​ ​เขา​ยอม​ที่จะ​ละทิ้ง​หน้าที่​และ​ความรับผิดชอบ​ของ​วงศ์ตระกูล​ให้​หมอตำแย​ช่วยชีวิต​ของ​นาง​ก่อน​…

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​เริ่ม​รู้สึก​แสบ​จมูก​ขึ้น​มา​ ​เหมือน​กำลังจะ​ร้องไห้​อย่างไร​อย่างนั้น

นาง​ซุก​หน้า​เข้าไป​ใย​อ้อมกอด​ของ​เขา​ลึก​เข้าไป​กว่า​เดิม

เวลา​อย่างนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​ให้​เขามอง​เห็น​สีหน้า​ของ​นาง

“​ท่าน​…​ท่าน​ชอบ​รังแก​ข้า​ตลอด​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชอบ​ที่​สือ​อี​เหนียง​ที่​ไม่ว่า​จะ​เจอ​กับ​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​มักจะ​มีสติปัญญา​เสมอ​ ​ชอบ​เวลา​ที่นาง​พูดจา​ติดตลก​ ​นาง​ไม่ได้​ว่านอนสอนง่าย​และ​เชื่อฟัง​เสีย​ทุก​เรื่อง​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ก้าวร้าว​และ​โต้แย้ง​อยู่​ตลอดเวลา​ ​แม้กระทั่ง​กิริยา​ท่าที​และ​เล่ห์เหลี่ยม​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ที่นาง​แสดง​ให้​เขา​เพื่อ​ที่​พยายาม​จะ​ยืนกราน​ความคิด​ของ​นาง​เอง​…​ยาม​ว่าง​เขา​มักจะ​ชอบ​นัวเนีย​อยู่​กับ​แต่​นาง​ ​ชอบ​ท่าที​ที่นาง​โกรธเคือง​ ​เขินอาย​หรือ​เสีย​อาการ​จน​ทำตัว​ไม่​ถูก

เมื่อ​ได้ยิน​แล้ว​เขา​ก็​หัวเราะ​พร้อมกับ​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​ข้า​ไปรัง​แก​เจ้า​ตอน​ไหน​ ​เจ้า​จะ​ใส่ร้าย​ป้ายสี​ข้า​ไม่ได้​นะ​!​”

******

ท้องฟ้า​พึ่ง​จะ​เริ่ม​สว่าง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ตื่นนอน​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ซุก​ตัว​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ ​รู้สึก​ว่า​มี​อะไร​เคลื่อนไหว​ ​เปลือกตา​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​ขยับ​เบา​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ลืมตา​ขึ้น​มา​ ​นาง​เรียกชื่อ​ของ​เขา​ด้วย​เสียง​ที่​แผ่วเบา​ ​“​สวี​ลิ่ง​อี๋​”

น้ำเสียง​ที่​เบาหวิว​ ​ราวกับ​เสียงร้อง​ของ​ลูก​แมว​น้อย​ก็​ไม่​ปาน

มุม​ปากของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​โค้ง​ขึ้น​มา​ได้​องศา​พอดี​ ​เขา​ตอบกลับ​นาง​ด้วย​เสียง​กระซิบ​ข้าง​หู​ที่​แผ่วเบา

สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ขยับตัว​เอง​เข้าหา​อ้อมแขน​ของ​เขา​ ​และ​ค่อยๆ​ ​เข้าสู่​ห้วง​นิทรา​อีกครั้ง​อย่างสบายใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​หยัด​กาย​ขึ้น​มา​พิง​กับ​หัว​เตียง​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​ลูบ​เส้น​ผม​ที่​กระจัดกระจาย​อยู่​บน​หมอน​สีแดง​สด​ลาย​ปลา​หลี​ฮื้อ​และ​ดอก​เบญจมาศ​อย่างเบามือ

ถึงแม้​เขา​จะ​ลูบ​ผม​ของ​นาง​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่รู้สึกตัว​อยู่ดี

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​โน้มตัว​ลง​ไป​หอม​หน้าผาก​ของ​นาง​เบา​ๆ

ทุกครั้งที่​สือ​อี​เหนียง​เหนื่อยล้า​จน​เกินไป​หรือ​ถูก​ทำให้​สะดุ้งตื่น​ ​นาง​ก็​มักจะ​เรียกชื่อ​ของ​เขา​เสมอ​ ​หาก​ได้รับ​การ​ตอบกลับ​ของ​เขา​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​จะ​สามารถ​นอน​ต่อ​ได้​อย่างสบายใจ​ ​ราวกับว่า​ขอ​แค่​เขา​อยู่​ตรงนั้น​ ​นาง​ก็​จะ​สามารถ​หลับ​ต่อ​ได้​อย่างสบายใจ​ ​สามารถ​วาง​ทุกๆ​ ​เรื่อง​ใน​มือ​ของ​นาง​ลง​และ​ฝากฝัง​ไว้​กับ​เขา​ได้

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันไป​จ้องมอง​ใบหน้า​ที่​กำลัง​หลับ​ลึก​ของ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​อาการ​เหม่อลอย

เหมือนว่า​เมื่อนานมาแล้ว​ ​นาง​ก็​เป็น​เช่นนี้​อยู่​แล้ว​…​เมื่อ​ลอง​คิด​ใคร่ครวญ​ดี​ๆ​ ​…​วันที่​นาง​พึ่ง​แต่งงาน​เข้า​จวน​วัน​แรก​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​กำลัง​ไม่สบาย​ ​แต่​นาง​ไม่เคย​กลัว​เขา​เลย​แม้แต่น้อย​…​และ​หาก​จะ​กลัว​…​ก็​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ทำ​เรื่อง​อย่างนั้น​กับ​นาง​เท่านั้น​ ​แต่​ไม่ได้​กลัว​เขา​เพราะ​อย่าง​อื่น​เลย​…

ในขณะที่​เขา​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย

สือ​อี​เหนียง​ไม่ใช่​สตรีที​่​หัวอ่อน​และ​ว่านอนสอนง่าย​เสมอมา​ ​แต่​นาง​กลับ​ไม่เคย​สงสัย​ใน​ตัว​เขา​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ตอนที่​เขา​และ​นาง​เจอกัน​ครั้งแรก​ ​คือ​ที่​เรือน​เล็ก​ ​คือ​ตอนที่​เขา​ถูก​หยวน​เหนียง​จับ​ชู้​…

ใน​สายตา​ของ​นาง​…​เขา​เป็น​คน​แบบ​ไหน​กัน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​สัมผัส​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​อย่างเบามือ

นอนหลับ​แล้ว​ถูก​รบกวน​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​เอียง​หน้า​หนี

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​หยุด​มือ​ที่​กำลัง​สัมผัส​ใบหน้า​ของ​นาง​ไป

คิ้ว​ที่​ขมวด​แน่น​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ค่อยๆ​ ​คลายตัว​ลง​ ​จากนั้น​มุม​ปากของ​นาง​ค่อยๆ​ ​เผย​รอยยิ้ม​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​งดงาม​และ​น่าหลงใหล​ราวกับ​ดอกไม้​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ก็​ไม่​ปาน

พลอย​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ตามอย่าง​ไม่รู้​ตัว

เขา​ชอบ​สือ​อี​เหนียง​คน​เมื่อวาน

ความคิด​ค่อยๆ​ ​แล่น​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัว​ของ​เขา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ค่อยๆ​ ​ดึง​ชายผ้า​นวม​ของ​นาง​ให้​เรียบ

แก้ม​ที่​แดง​ระเรื่อ​ ​คิ้ว​ที่​ขมวด​แน่น​และ​สีหน้า​ท่าที​ที่​จนใจ​ของ​นาง​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ของ​เขา

เขา​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​เชื่อมั่น​ใน​ความรู้สึก​ของ​เขา​ยิ่งกว่า​เดิม

******

ตอนที่​สวี​ซื่อ​จุน​มาคา​รวะ​มารดา​ของ​เขา​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​บรรยากาศ​ใน​เรือน​แปลก​ๆ

ถึงแม้ว่า​ใบหน้า​ของ​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​แม่​ของ​เขา​จะ​มี​รอยยิ้ม​อยู่​ ​แต่​รอยยิ้ม​ของ​ท่าน​แม่​กลับ​ดู​ค่อนข้าง​ฝืน​ ​ไม่​เหมือน​รอยยิ้ม​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​ที่​ปรากฏ​ให้​เห็น​ตรง​หว่าง​คิ้ว​อย่างชัดเจน​ ​อ่อนโยน​และ​อบอุ่น​ราวกับ​แสงแดด​เดือน​สาม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ก็​ไม่​ปาน

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยดึง​ชาย​แขน​เสื้อ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​เบา​ๆ

สวี​ซื่อ​จุน​ฉลาด​เป็นอย่างมาก​ ​เขา​ไม่ได้​ถาม​คำถาม​อะไร​ออก​ไป​ ​เพียงแต่​ตอบคำถาม​ของ​บิดา​เท่านั้น​ ​จากนั้น​ก็​พากั​นอ​อก​มาจาก​เรือน​พร้อมกับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

“​ท่าน​แม่​ป่วย​แล้ว​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​บอก​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​เมื่อเช้านี้​ตอนที่​ข้า​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ก็​ไม่​ตื่น​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​ป่วยหนัก​หรือไม่​ ​เชิญ​หมอ​มาดู​อาการ​แล้ว​หรือยัง​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แสดง​สีหน้า​สลด​ออกมา​ ​“​ป้า​ซ่ง​บอกว่า​ไม่ต้อง​เชิญ​หมอ​ ​พักผ่อน​สัก​ครึ่ง​วัน​ก็​หาย​!​”​ ​แล้วก็​ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ท่าน​ว่า​ ​เพราะเหตุใด​ถึง​ไม่ยอม​เชิญ​หมอ​มาตร​วจ​อาการ​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​มี​คนป่วย​อยู่​แท้ๆ​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ครุ่นคิด​อยู่​พักใหญ่​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนี้​ดี​หรือไม่​ ​ตอน​พวกเรา​เลิกเรียน​ค่อย​ไป​บอก​ท่าน​ย่า​กัน​ ​ท่าน​แม่​ไม่กล้า​เชิญ​หมอ​มา​ ​หาก​ท่าน​ย่า​เห็นด้วย​แล้ว​ ​ย่อม​ไม่มี​อะไร​ให้​ต้อง​กังวล​อีก​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​รู้สึก​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ดี​เลย​ ​พวกเรา​ไป​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​ย่า​กัน​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท