ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 513 ร้อนระอุ (กลาง)

ตอนที่ 513 ร้อนระอุ (กลาง)

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​คุณชาย​ห้า​ ​ท่าน​ตั้งชื่อ​ให้​ลูก​ที​เถิด​!​”

คุณชาย​ห้า​แสดง​สีหน้า​ครุ่นคิด​ขึ้น​มา

ฮู​หยิน​สาม​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เด็ก​พึ่ง​จะ​คลอด​ออกมา​ ​จะ​รีบร้อน​ไป​ทำไม​เล่า​ ​รอ​ให้​ฉิน​เกอ​ของ​ข้า​แต่งงาน​เป็นฝั่งเป็นฝา​แล้ว​ค่อย​มาตั​้ง​ชื่อ​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”

เด็ก​ที่พึ่ง​เกิด​ปกติ​แล้ว​จะ​ตั้งชื่อ​เล่น​ให้​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​รอ​ให้​เด็กโต​ขึ้น​อีกหน่อย​ค่อย​ตั้งชื่อ​จริง​ให้​ ​เพราะ​กลัว​ว่า​จะ​โชคดี​จน​เกินไป​แล้ว​เด็ก​จะ​รับ​ไม่ไหว​ ​แต่​เมื่อ​ถูกฮู​หยิน​สาม​พูด​เช่นนี้​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​พลอย​รู้สึก​ไม่​ค่อย​พอใจ​เท่าไร​นัก

บุตร​ของ​ตน​เป็น​ทายาท​สูงศักดิ์​และ​มี​ชาติตระกูล​ ​จะ​รับ​ความโชคดี​ไม่ไหว​ได้​อย่างไร​กัน

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​จิ​่น​เกอ​บุตร​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่พึ่ง​คลอด​ออกมา​ก็​ยัง​ตั้งชื่อ​ให้​ทันที​เลย

สวี​ลิ่ง​ควน​เอง​ได้ยิน​แล้วก็​ไม่​ค่อย​สบายใจ​เท่าไร​นัก​ ​แต่​เมื่อ​พิจารณา​ดี​ๆ​ ​แล้วก็​มีเหตุผล​ ​เขา​กำลังจะ​หันไป​โน้มน้าว​ภรรยา​สัก​คำ​สอง​คำ​ ​แต่กลับ​เห็น​สีหน้า​ของ​ภรรยา​เต็มไปด้วย​ความน้อย​อก​น้อยใจ​ ​เขา​จึง​เปลี่ยนความคิด​ทันที​ ​“​ข้าว​่า​ใช้​นาม​ว่า​ ​‘​เซิน​’​ ​ดีกว่า​ ​อักษร​ตัว​นี้​ประกอบไปด้วย​คำ​ว่า​ ​‘​วาจา​’​ ​และ​คำ​ว่า​ ​‘​ก่อน​’​ ​เขา​เป็นหนึ่ง​ใน​สมาชิก​ของ​พี่น้อง​ ​วันข้างหน้า​จะ​นำมาซึ่ง​พี่น้อง​ที่มา​กมา​ยก​ว่า​เดิม​…​”

‘​เซิน​’​ ​มีความหมาย​แฝง​มากมาย

ไท่ฮู​หยิน​ก็​หันไป​มองฮู​หยิน​สาม​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ชื่อ​นี้​ความหมาย​ดีที​เดียว​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​ถามฮู​หยิน​ห้าว​่า​ ​“​เจ้า​คิด​อย่างไรบ้าง​”

เขา​คือ​ลำดับ​ที่​เจ็ด​ของ​พี่น้อง​ใน​ตระกูล​ ​แต่​สำหรับ​ครอบครัว​ของ​เขา​แล้ว​ถือว่า​เป็น​บุตรชายคนโต​ ฮู​หยิน​ห้า​รู้สึก​ว่า​สวี​ลิ่ง​ควน​ควรจะ​ตั้งชื่อ​ที่​ยิ่งใหญ่​กว่านี​้​สักหน่อย​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​ได้​เห็นด้วย​แล้ว​ ​ความหมาย​ของ​คุณชาย​ห้า​ก็​คือ​ให้​นาง​เพิ่มพูน​ลูกหลาน​มากมาย​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​หันไป​รับ​บุตรชาย​แล้ว​หอม​แก้ม​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​เซิน​เกอ​ของ​เรา​มีชื่อ​แล้ว​”

ป้า​สือ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​รีบ​แสดงความยินดี​ทันที​ ​“​ยินดี​กับ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ด้วย​ที่​มีชื่อ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​ก็​ยิ้ม​ขึ้น

เหล่า​บรรดา​บ่าว​รับใช้​ต่าง​ก็​พากัน​เรียกชื่อ​พร้อม​ๆ​ ​กัน​ ​“​เซิน​เกอ​”

ฮู​หยิน​สาม​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​สูง​ทันที

นาง​คลอด​บุตรชาย​ถึง​สอง​คน​ ​ไม่เห็น​ว่า​จะ​ไร้สาระ​เช่นนี้

ไท่ฮู​หยิน​ที่​ได้​หลาน​คน​ใหม่​ไม่รู้​สึก​ไร้สาระ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​นาง​กำชับฮู​หยิน​ห้า​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​บำรุงรักษา​ร่างกาย​ให้​ดี​ ​ธุระ​ใน​จวน​ยัง​มี​ป้า​สือ​อีกทั้ง​คน​ ​ถึงแม้ว่า​อากาศ​ร้อน​ ​แต่​ก็​ห้าม​เปิด​หน้าต่าง​รับลม​โดย​เด็ดขาด​…​”

ไท่ฮู​หยิน​เอ่ย​หนึ่ง​คำ​ ฮู​หยิน​ห้า​ขานตอบ​หนึ่ง​คำ​ ​จน​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​สีหน้า​ของฮู​หยิน​ห้า​เริ่ม​มี​อาการ​อ่อนเพลีย​ ​จึง​หยุด​พูด​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ค่อย​มา​เยี่ยม​เจ้า​ใหม่​”​ ​แล้วจึง​ให้​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​สาม​ประคอง​กลับ​เรือน

เมื่อถึง​วันที่​จัด​พิธี​สรง​สาม​ ​ก็​มี​คน​จาก​ตรอก​หง​เติ​งมา​เป็น​จำนวนมาก​ ​แต่​ล้วน​เป็น​ญาติห่างๆ​ ​ทั้งนั้น​ ฮู​หยิน​ห้า​จึง​แนะนำ​เพียง​ซุนฮู​หยิน​ ​ภรรยา​เอก​ของ​ติ้ง​หนาน​โหว​ซื่อ​จื่อ​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​เท่านั้น

ซุนฮู​หยิน​อายุ​ราว​ยี่สิบ​เจ็ด​ ​ยี่สิบ​แปด​ปี​เห็นจะ​ได้​ ​รูปร่าง​ปานกลาง​ ​ผิวขาว​หมดจด​ ​ใบหน้า​งดงาม​ ​เพียงแต่ว่า​เป็น​คน​ขี้อาย​ ​แค่​เอ่ยปาก​ใบหน้า​ก็​แดง​ไป​หมด

“​พวก​เจ้า​ดู​สิ​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พูด​หยอกล้อ​ขึ้น​มา​ ​“​พอ​เทียบ​กับ​ซุนฮู​หยิน​แล้ว​ ​พวก​ข้า​ก็​กลายเป็น​คน​ไม่มี​ยางอาย​ไป​โดยปริยาย​เชียว​”

ซุนฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​มาทัน​ที​ว่า​ ​“​เป็น​ข้า​ที่​ไม่​ค่อย​ออกมา​เปิดหูเปิดตา​ ​จึง​ด้อย​ประสบการณ์​ ​พอได้​เจอฮู​หยิน​มากมาย​ขนาด​นี้​ ​ก็​วางตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา​ ฮู​หยิน​จะ​ไม่มี​ยางอาย​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​”

“​พี่สะใภ้​อย่า​ไป​ฟัง​ที่​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พูด​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​ทำท่า​ที​เข้ามา​ปกป้อง​พี่สะใภ้​ของ​ตัวเอง​ ​“​นาง​แค่​ล้อเล่น​กับ​ท่าน​เท่านั้น​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​ยัง​ไม่เคย​เจอ​หน้า​องค์​หญิงฝู​เฉิง​ใช่​หรือไม่​ ​นาง​กำลัง​คุย​อยู่​กับ​แม่​สามี​ของ​ข้า​ใน​เรือน​!​”

ฮู​หยิน​ ​นาย​หญิง​และ​คุณนาย​ทุกคน​ต่าง​ก็​คุ้นเคย​และ​สนิทสนม​กัน​ ​บทสนทนา​ที่​คุย​กันต​นก​็​ฟัง​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​ ​จะเข้า​ไป​พูดคุย​ด้วย​ก็ตาม​ไม่ทัน

ซุนฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​คารวะ​องค์​หญิงฝู​เฉิง​ประเดี๋ยวนี้​เลย​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​รีบ​เอ่ย​ขอตัว​ลากับ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​และ​คนอื่นๆ​ ​แล้วไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​โดย​มี​ป้า​สือ​ช่วย​นำทาง

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็​หัวเราะ​พร้อมกับ​หยอกล้อฮู​หยิน​ห้าว​่า​ ​“​ตาน​หยาง​ ​เจ้า​พูด​ปกป้อง​พี่สะใภ้​ของ​เจ้า​เกินไป​แล้ว​”

ฮู​หยิน​ห้า​ไม่ได้​คล้อยตาม​ ​นาง​พูด​ขึ้น​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ว่า​ ​“​คำพูด​ของ​ข้า​ไม่​ถือว่า​มาก​ไป​กระมัง​!​”

เวลานี้​เอง​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​จับจ้อง​ไป​ยัง​โจวฮู​หยิน​ที่​เข้า​เรือน​มาก​็​เอาแต่​เงียบ​ ​ไม่ยอม​พูด​อะไร​จนถึง​ตอนนี้

ตั้งแต่​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ให้กำเนิด​บุตรสาว​ ​โจวฮู​หยิน​ก็​พูดจา​ค่อนข้าง​น้อยลง

เมื่อ​นาง​สังเกตเห็น​สายตา​ของ​ทุกคน​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เวลา​ข้า​พูด​ ​ทุกคน​ก็​หาว่า​ข้า​พูดมาก​ ​เวลา​ข้า​เงียบ​ ​ทุกคน​ก็​หาว่า​ข้า​พูดน้อย​”​ ​นาง​พูด​พลาง​แสดง​สีหน้า​เศร้า​ ​พร้อมกับ​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ผู้​น่าสงสาร​ ​จะ​ยืน​ฝั่ง​ขวาก​็​ไม่​ถูก​ ​ยืน​ฝั่ง​ซ้าย​ก็​ไม่ใช่​…​จะ​ยืน​อยู่​ตรงไหน​ก็​ต้อง​คอย​รับสาย​ตา​ที่​ติติง​ข้า​ของ​พวก​เจ้า​อยู่​ตลอดเวลา​”

เมื่อ​คำพูด​ถูก​พูด​ออก​ไป​ ​ก็​ทำให้​คนใน​เรือน​พากัน​หัวเราะ​เสียงดัง​ออกมา​ด้วย​ความตลกขบขัน

คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ก็​เข้าไป​กุมมือ​ของ​โจวฮู​หยิน​ ​“​อย่า​ไป​สนใจ​คน​เหล่านี้​เลย​ ​พวกเรา​ไป​คุย​กันเอง​ดีกว่า​”​ ​จากนั้น​ทั้งสอง​ก็​พากัน​ไป​นั่ง​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ชวน​คุย​เรื่อง​สินเดิม​ของ​บุตรสาว​ขึ้น​มา​ ​“​…​ไท่ฮู​หยิน​คน​ก่อน​ได้​เก็บ​สร้อยข้อมือ​ไข่มุก​ให้​สอง​เส้น​ ​เม็ด​กลม​โต​ทั้งนั้น​ ​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ ​ข้อมือ​บุตรสาว​ของ​ข้า​ค่อนข้าง​เล็ก​ ​เวลา​สวม​ก็​จะ​หลวม​ไป​หน่อย​ ​ครั้น​จะ​เอา​ไป​ใส่​เป็น​สร้อยคอ​ก็​สั้น​ไป​ ​แต่​พอ​จะ​เอา​ไป​ทำ​เครื่องประดับ​ผม​ก็​เสียดาย​ ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ดี​!​”

โจวฮู​หยิน​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​หา​ผิดคน​แล้ว​ ​เรื่อง​เช่นนี้​เจ้า​ควรจะ​ไปหาฮู​หยิน​สี่​สกุล​สวี​ถึง​จะ​ถูก​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​ไม่​ค่อย​สนใจ​เท่าไร​นัก

“​เจ้า​สายตา​กว้างไกล​ ​เห็น​อะไร​มาก​็​มาก​ ​ส่วนฮู​หยิน​สี่​สกุล​สวี​นั้น​มี​ฝีไม้ลายมือ​ที่​ดี​”​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​พูดจา​น่าฟัง​ ​“​สามารถ​เชิญ​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​มาช​่วย​ชี้แนะ​ออก​ความคิดเห็น​ให้​กับ​บุตรสาว​ของ​ข้า​ ​ข้า​ยัง​มี​อะไร​ต้อง​กลุ้มใจ​อีก​ ​เพียงแต่ว่า​ฐานะ​บรรดาศักดิ์​ของ​ทั้งสอง​สูงส่ง​ ​บางครั้ง​ก็​ไม่กล้า​จะ​ใฝ่สูง​ ​แต่​ในเมื่อ​วันนี้​ท่าน​พูด​ออกมา​ถึงขนาด​นี้​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ไม่​เกรงใจ​แล้ว​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หันไป​จับมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ ​“​ท่าน​ทั้งสอง​ช่วย​ข้า​ออก​ความคิด​ที​ ​จะ​ได้​ให้​บุตรสาว​ของ​ข้า​แต่งงาน​ออกเรือน​อย่าง​สมศักดิ์ศรี​!​”

ตั้งแต่​รู้​ว่า​อาจารย์​จ้าว​ไม่พอใจ​ใน​ทัศนคติ​ของ​สกุล​ถัง​จึง​ลาออก​จาก​สำนัก​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ค่อนข้าง​ระมัดระวัง​ตัว​จาก​คน​สกุล​ถัง​ ​ไม่​อยาก​ที่จะ​สนิทสนม​กับ​คน​สกุล​ถัง​มาก​จน​เกินไป​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ทำ​ของ​ตระกูล​ของ​ข้า​เอง​ก็​พอ​จะ​ไหว​ ​แต่​ไม่มี​ฝีมือ​ถึงขั้น​ช่วย​บุตรสาว​ของ​ท่าน​ออกแบบ​กระมัง​ ​ควรจะ​ให้​พี่​หญิง​โจว​ช่วย​ออก​ความคิดเห็น​จะ​ดีกว่า​!​”

คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ไม่ได้​คล้อยตาม​ ​นาง​ยืนยัน​ที่จะ​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​นั่ง​ข้าง​โจวฮู​หยิน​ให้​ได้

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เห็น​แล้วก็​หันไป​พูด​กับ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​สกุล​ถัง​จะ​ให้​คุณชาย​สาม​สกุล​ถัง​หย่าร้าง​กับ​ภรรยา​ ​ดูท่า​แล้ว​ ​สกุล​ถัง​คงจะ​ตั้งใจ​ทุ่ม​ให้​กับ​สกุล​โจว​อย่าง​เดียว​กระมัง​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​เม้มปาก​เบา​ๆ​ ​ไม่ได้​ออก​ความคิดเห็น​แต่อย่างใด

หลาย​วัน​มานี​้​นาง​มักจะ​ไปมาหาสู่​กับ​จวน​สกุล​สวี​อยู่​เสมอ​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​เคย​ใช้​เหตุผล​ว่า​สุขภาพ​ร่างกาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​ดี​ ​ก็​เลย​ส่ง​โสม​อายุ​ร้อย​ปี​มา​ให้​สี่​ราก​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ของฝาก​มีค่า​มากเกินไป​ ​นาง​ก็​เลย​มอบให้​ฮองเฮา​แทน​ ​ต่อมา​ก็​คอย​ส่ง​ผ้า​ที่​ใช้​ทำ​เสื้อผ้า​จำนวน​หลาย​พับ​มา​ให้​อยู่​หลายครั้ง​ ​สือ​อี​เหนียง​จด​เข้า​หนังสือ​บัญชี​ทุกราย​การ​ ​และ​ได้​ส่ง​ของ​ที่​มีราคา​เท่ากัน​กลับ​ไป​ให้​นาง​ ​สอง​วัน​มานี​้​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​จึง​พึ่ง​จะ​หยุด​ไป

สาวใช้​น้อย​ก็ได้​เปิดม่าน​ออก​ ฮู​หยิน​สาม​ก็ได้​พา​ขบวน​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​เดิน​เข้ามา​ ​“​โต๊ะอาหาร​จัดเตรียม​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เชิญ​ทุกท่าน​ไป​นั่ง​ได้​ตามอัธยาศัย​!​”

เมื่อวาน​นี้​จู่ๆ​ ฮู​หยิน​สาม​ก็​ออกตัว​ขอ​ช่วย​จัดงาน​เลี้ยง​พิธี​สรง​สาม​ของ​เซิน​เกอ​กับ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ห้า

คนที​่​สนิท​กับ​นาง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ทักทาย​นาง​ว่า​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​เจ้า​กลับมา​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​”

“​กลับมา​ตั้งแต่​ปีใหม่​แล้ว​”​ ฮู​หยิน​สาม​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ฉิน​เกอ​ของ​เรา​จะ​แต่งงาน​เป็นฝั่งเป็นฝา​แล้ว​ ​กำหนด​เป็น​วันที่​สิบ​หก​ของ​เดือน​เก้า​ ​จัดงาน​แต่ง​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ค่อย​เดินทาง​ไป​ที่​ซาน​หยาง​ ​ถึง​เวลา​นั้น​พวก​ท่าน​ต้อง​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​มงคลสมรส​ด้วย​ถึง​จะ​ถูก​”

“​ต้อง​มา​อยู่​แล้ว​”

จากนั้น​นาง​ก็ได้​เชิญ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​และ​คนอื่นๆ​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​พวก​ท่าน​ต้อง​มาร​่ว​มงาน​ให้​ได้​เชียว​”​ ​และ​ก็ได้​หันไป​กำชับ​กับ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ว่า​ ​“​หาก​พี่​หญิง​ได้​เจอ​กับ​คุณนาย​เก้า​สกุล​ถัง​ก็​ช่วย​ข้า​เชิญ​นาง​ด้วย​ ​อีก​สักวัน​สอง​วัน​ข้า​ค่อย​ไป​เชิญ​นาง​ที่​จวน​ด้วยตัวเอง​อีกที​”

คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ได้ยิน​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ต้อง​บอก​นาง​อย่างแน่นอน​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​หันมา​ถาม​สือ​อี​เหนียง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​จวน​ของ​เจ้า​ได้​ไปมาหาสู่​กับ​จวน​ทาง​ซีย​่​วน​ของ​สกุล​ถัง​ด้วย​หรือ​”

จวน​ที่​ซีย​่​วน​ของ​สกุล​ถัง​ ​เป็น​ญาติห่างๆ​ ​ที่​แยก​มา​ห้า​ชั่วอายุคน​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สาม​คงจะ​รู้จัก​กัน​เป็นการ​ส่วนตัว​กระมัง​!​”

หลังจากที่​เขียน​เทียบ​เชิญ​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้วจึง​ค่อย​รู้​ว่าที่​แท้​แล้วฮู​หยิน​สาม​เคย​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ที่​จวน​สกุล​ถัง​ ​นาง​เคย​มอบ​ผ้า​ต่วน​ให้​ทาง​นั้น​ไป​สอง​พับ​เป็น​ของขวัญ

ฮู​หยิน​ห้า​โกรธ​จน​หน้าดำหน้าแดง​ไป​หมด​ ​“​ข้า​กะ​ไว้​แล้ว​เชียว​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​มีน้ำใจ​ขึ้น​มาดื​้อ​ๆ​ ​ช่วย​ทั้ง​พิธี​สรง​สาม​ของ​เซิน​เกอ​และ​งานเลี้ยง​วัน​ครบ​เดือน​ของ​เซิน​เกอ​ ​ที่แท้​แล้วก็​ต้องการ​จะ​ช่วย​ฉิน​เกอ​ของ​นาง​เชิญ​แขก​นี่เอง​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​คงจะ​ยัง​ไม่รู้​เรื่อง​ใช่​หรือไม่​ ​นาง​ยัง​ได้​เชิญ​พี่สะใภ้​ที่​เป็น​ญาติห่างๆ​ ​ทาง​ฝั่ง​มารดา​ของ​ข้ามา​อีก​สอง​คน​ด้วย​…​ถึง​เวลา​นั้น​นาง​ก็​จะ​ทิ้ง​เด็ก​ทั้งสอง​ไว้​ ​แล้ว​ตัวนาง​เอง​ก็​จะ​เดินทาง​ไป​ที่​ซาน​หยาง​คนเดียว​ ​พี่สะใภ้​ของ​ข้า​ทั้งสอง​คน​นั้น​ไม่ว่า​จะ​เป็น​งานมงคล​หรือ​งาน​อะไร​ ​จะ​ให้​ข้า​บีบบังคับ​ให้​พี่สะใภ้​เป็น​คน​ควัก​เงิน​ออกมา​ตอบแทน​น้ำใจ​หรือ​อย่างไร​กัน​!​ ​ทำ​เรื่อง​ที่​น่าอับอาย​เช่นนี้​ออกมา​ได้​ ​จะ​ให้​ข้า​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​!​”

เซิน​เกอ​ท้องเสีย​อ่อน​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เลย​มาดู​อาการ​ ​แต่​นึกไม่ถึง​เลย​ว่าฮู​หยิน​ห้า​จะ​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​นาง

เรื่อง​แบบนี้ฮู​หยิน​ห้า​ทำไม​่​ได้​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ทำไม​่​ได้​เช่นกัน

สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ตบหลัง​เซิน​เกอ​อย่างเบามือ​ ​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​บางที​ก็​อิจฉา​เหล่า​บรรดา​สตรีที​่​ตลาด​ ​ที่​ไม่พอใจ​อะไร​ก็​เข้า​ปะทะ​ทันที​ ​ถึงอกถึงใจ​กว่า​เรา​เป็น​ไหน​ๆ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ออกมา​ด้วย​ความตลกขบขัน

นาง​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​สนิทสนม​กว่า​เดิม

“​เดือน​เก้า​บรรยากาศ​ของ​ฤดูใบไม้ร่วง​เย็นสบาย​กำลังดี​ ​เป็น​เทศกาล​ทาน​ปู​ ​เชยชม​ดอก​เบญจมาศ​พอดี​ ​เดิมที​ข้า​ตั้งใจ​อาศัย​งานเลี้ยง​ครบ​ร้อย​วัน​ของ​เซิน​เกอ​เชิญ​ชี​เหนียง​มา​พัก​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​สัก​ระยะ​หนึ่ง​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​ ​“​ตอนนี้​ดูท่า​แล้ว​ ​คง​ต้อง​รอ​ฉิน​เกอ​แต่งงาน​เป็นฝั่งเป็นฝา​เสร็จ​เรียบร้อย​เสียก่อน​จะ​ดีกว่า​!​ ​ถึง​เวลา​นั้น​นาง​จะ​ได้​ไม่ต้อง​รีบ​เข้า​เมือง​จน​เกินไป​ ​จะ​ชนกัน​เอา​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​เขียนจดหมาย​ไป​เถิด​ ​พี่สะใภ้​สาม​ไม่ได้​เชิญ​พี่​หญิง​สี่​กับ​น้อง​สิบสอง​ของ​ข้า​เสียหน่อย​ ​นาง​จะ​ไป​เชิญ​พี่​หญิง​เจ็ด​ได้​อย่างไร​กัน​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​แล้วก็​อ้า​ปาก​เหวอ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​นาง​จึง​ค่อย​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรา​ประเมินค่า​นาง​ต่ำ​ไป​เสีย​แล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ไป​ยกใหญ่

เซิน​เกอ​ที่​ถูก​ห่อ​ตัว​ใน​ผ้าอ้อม​ก็​เริ่ม​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​ก็​รีบ​หยุด​หัวเราะ​ลง​ทันที​ ​“​เกือบ​ทำ​เซิน​เกอ​ของ​เรา​ตื่น​เสีย​แล้ว​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​ว่า​สายตา​ที่​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​เซิน​เกอ​ด้วย​ความอ่อนโยน​นั้น​เต็มไปด้วย​แววตา​ที่รัก​และ​เอ็นดู​ ​เหมือน​สายตา​ที่​ใช้​มอง​จิ​่น​เกอ​ไม่มี​ผิด​ ​มุม​ปากของ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​ยิ้ม​ขึ้น​มา

“​สุขภาพ​ของ​พี่สะใภ้​สี่​ไม่​ค่อย​ดี​ ​ท่าน​ส่ง​เขา​ให้​แม่นม​ดีกว่า​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​เป็น​คนที​่​ให้ความสำคัญ​กับ​บุตร​มาก​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​แต่อย่างใด​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อม​ยื่น​เด็ก​ให้​กับ​แม่นม​ไป​ ​จากนั้นฮู​หยิน​ห้า​ก็ได้​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​ขึ้น​มา

“​ไม่มี​อะไร​คืบหน้า​เลย​ ​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​สกุล​จู​ก็​เอาแต่​ใช้​วาจา​ประชดประชัน​ ​คุณชาย​จู​เอง​ก็​จนปัญญา​ ​ช่วง​หลาย​วันก่อน​ ​ชี​เหนียง​กลับมา​อยู่​ที่​จวน​สกุล​เดิม​ตั้ง​ครึ่ง​เดือน​กว่า​ ​นี่​ก็​พึ่ง​จะ​กลับ​ไป​”

เรื่อง​เหล่านี้​ ​สำหรับ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ ​ชี​เหนียง​ไม่เคย​พูดถึง​เลย

“​ตอนนี้​นาง​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​!​”

“​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ไม่​พูด​ออกมา​ ​แต่​ข้า​คิด​ว่านา​งคง​จะ​ใช้ชีวิต​ลำบาก​ไม่น้อย​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ดังนั้น​ข้า​ก็​เลย​จะ​รับ​นาง​มา​อยู่​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​สัก​ระยะเวลา​หนึ่ง​ ​ดู​ว่า​จะ​สามารถ​หา​หมอ​มาตร​วจ​ดู​อาการ​ของ​นาง​อย่างละเอียด​ได้​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​ซึม​ทั่วทั้ง​ตัว

ตน​เป็น​พี่น้อง​กับ​ชี​เหนียง​แท้ๆ​ ​แต่กลับ​สนิท​สู้ฮู​หยิน​ห้า​ไม่ได้​เสียด​้วย​ซ้ำ

“​ข้า​เอง​ก็ได้​โน้มน้าว​นาง​ไป​ตั้ง​หลายครั้ง​ ​ว่า​ให้​นาง​รับ​อนุภรรยา​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ขึ้น​ ​“​แต่​นาง​ไม่​ฟัง​ข้า​เลย​ ​นาง​บอกว่า​นาง​ยอม​หย่าร้าง​เสีย​ยังดี​กว่า​ ​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ดี​ ​หาก​นาง​มา​แล้ว​ ​พี่สะใภ้​สี่​ก็​ลอง​เกลี้ยกล่อม​นาง​ดูเถิด​!​”

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​เข้าใจ​ใน​ความรู้สึก​ของ​ชี​เหนียง

สำหรับ​ชี​เหนียง​แล้ว​ ​จู​อาน​ผิง​ไม่ใช่​แค่​สามี​ของ​นาง​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​เป็น​คนรัก​ที่นาง​รัก​มาก​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​ไม่​สามารถ​ที่จะ​ทำใจ​ยอมรับ​ได้​ ​นาง​ยินยอม​ที่จะ​หย่าร้าง​มากกว่า​ยอม​ประนีประนอม​เพื่อ​รักษา​ไว้​ซึ่ง​ส่วนรวม​กระมัง

หลังจากที่​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​นาง​ก็ได้​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​ช่วย​สืบ​ได้​หรือไม่​ ​ว่า​ก่อนหน้านี้​จู​อาน​ผิง​เคย​มีบุ​ตร​นอกสมรส​หรือเปล่า​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​สู้​รับ​อนุ​ใหม่​ไม่ดี​กว่า​หรือ​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ชีวิต​ก็​จะ​ไร้​ซึ่ง​มลทิน​”

“​ข้า​ไม่ได้​มี​เจตนา​เช่นนั้น​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​ชี​เหนียง​ตามหา​หมอ​และ​ตามหา​ยา​ไป​ทั่ว​ ​แต่กลับ​ไม่​เจอ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​หากว่า​เป็นเรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​จริงๆ​ ​นาง​รู้​แล้วก็​จะ​ได้​ตัดสินใจ​ว่า​ควรจะ​จัดการ​อย่างไร​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​รับปาก​นาง​อย่างง่ายดาย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท