ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 522 ขาดทุน (กลาง)

ตอนที่ 522 ขาดทุน (กลาง)

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ออกมา​อย่างสบายใจ​ ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อย่างไร​ดี

อะไร​คือ​คำ​ว่า​เชื่อฟัง​ ​และ​อะไร​คือ​คำ​ว่า​ไม่เชื่อฟัง​ ​โชคชะตา​ของ​คน​คน​หนึ่ง​อาจจะ​เปลี่ยนแปลง​ไป​ตลอดกาล

ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​สังเกตเห็น​ว่านาง​ไม่​พูด​อะไร​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​จึง​นึก​ว่านาง​เลือก​ไม่​ถูก​ว่า​จะ​เอา​คน​ไหน​ดี​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่ได้​รีบร้อน​เท่าไร​นัก​ ​ค่อยเป็นค่อยไป​ก็แล้วกัน​”

สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​นาง​กลับ​ครุ่นคิด​มา​หลาย​วัน​ ​จึง​ตัดสินใจ​ไป​ถาม​ความเห็น​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​จาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก่อน

สวี​ซื่อ​อวี​้​นึกไม่ถึง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​มาถาม​เรื่อง​นี้​กับ​เขา​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​สุขุม​และ​หนักแน่น​แค่ไหน​ ​แต่​อย่างไร​เสีย​เขา​ก็​เป็น​เพียง​เด็กหนุ่ม​ที่​อายุ​เพียง​สิบห้า​ปี​เท่านั้น​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​จึง​แดงก่ำ​ ​พูด​อะไร​ไม่​ออก​แม้แต่​คำ​เดียว

สือ​อี​เหนียง​เห็น​แล้วก็​ยิ้ม​ขึ้น​บาง​ๆ​ ​พูด​ขึ้น​เป็นนัย​ว่า​ ​“​วัยเยาว์​เป็นช่วง​เวลา​ที่สามี​และ​ภรรยา​รักใคร่​กลมเกลียว​ที่สุด​ ​ส่วนใหญ่​เป็น​เพราะ​ความรู้สึก​ประทับใจ​ใน​ครั้งแรก​ ​บิดา​ของ​เจ้า​บอก​แล้ว​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่รีบร้อน​ ​ค่อยเป็นค่อยไป​ ​เจ้า​กลับ​ไป​คิด​พิจารณา​ดี​ๆ​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ก็​แค่​ให้​คน​มาบ​อก​ข้า​สัก​คำ​ก็​พอ​”​ ​จากนั้น​ก็​ยก​ถ้วย​น้ำชา​ขึ้น​มา​จิบ​เพื่อ​เป็นการ​ส่ง​แขก

สวี​ซื่อ​อวี​้​เดิน​ออกจาก​ประตู​ลาน​สวน​ด้วย​ความรู้สึก​ที่​สับสน​และ​วุ่นวายใจ​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มา​อีกที​ก็​เห็น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​คุย​กับ​เสี่ยว​หลี​สาวใช้​น้อย​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​เดิน​มาทาง​นี้​พอดี​ ​เขา​จึง​รีบ​ดึง​สติ​ให้​กลับคืน​มา​ ​จากนั้น​ก็​กล่าว​ทักทาย​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ค่อนข้าง​เขินอาย​ว่า​ ​“​ได้ยิน​ท่าน​แม่​บอกว่า​หลัง​ตรุษจีน​พี่​สอง​จึง​ค่อย​กลับ​ไป​ที่​เล่อ​อาน​ใช่​หรือไม่​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ทำไม​หรือ​ ​หรือว่า​มี​ของ​จะ​ฝาก​ข้า​ไป​ที่​เล่อ​อาน​”

หลังจากที่​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​มา​เป็น​แขก​ที่​เรือน​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มักจะ​ส่ง​เสื้อผ้า​และ​ของกิน​ไป​ให้​นาง​เสมอ​ ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​ก็​จะ​ส่ง​รองเท้า​ถุงเท้า​ที่นาง​ทำ​เอง​กับ​มือ​กลับมา​ ​เวลา​ที่​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ของ​ตอบแทน​กลับ​ไป​ ​ก็​มักจะ​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คน​จัดการ​ตลอด​ ​ทั้งสอง​ส่ง​ของ​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​แถม​ยัง​อายุ​ไล่เลี่ยกัน​ ​ก็​เลย​มี​การเขียน​จดหมาย​ส่ง​หากัน

ใบหน้า​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พลัน​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เสี่ยว​หลี​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​วัน​สิบ​ค่ำ​เดือน​สิบ​ที่จะ​ถึง​นี้​เป็น​วัน​ครบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​วันที่​ยี่สิบ​ห้า​ก็​เป็น​วันเกิด​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​พอ​ถึง​เดือน​สิบเอ็ด​ ​คุณหนู​ของ​บ่าว​ก็​ถึง​เวลา​อัน​ควร​ที่จะ​ต้อง​จัดงาน​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​แล้ว​ ​หาก​คุณชาย​น้อย​สอง​ยังอยู่​ที่​จวน​ ​คุณหนู​บอกว่า​คง​ครึกครื้น​กว่า​เทศกาล​ไหว้พระ​จันทร์​อีก​เจ้าค่ะ​”

หลัง​งานพิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​จะ​ต้อง​แต่งงาน​ออกเรือน​แล้ว​ ​นี่​คง​เป็นการ​จัดงาน​วันเกิด​ใน​จวน​เป็น​ครั้งสุดท้าย​แล้ว​ ​เพราะ​ต้อง​ไว้ทุกข์​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​จึง​ต้อง​อยู่​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ต่อ​ ​บวก​กับ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​กลับมา​จาก​ซาน​หยาง​ ​สำหรับ​พี่น้อง​แล้ว​ ​นี่​นับเป็น​การ​รวมตัว​อย่าง​พร้อมหน้าพร้อมตา​ที่แท้​จริง

สวี​ซื่อ​อวี​้​ค่อนข้าง​ผิดหวัง​ ​แต่​เขา​กลับ​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ต้อง​มอบ​ของขวัญ​ชิ้น​โต​ให้​น้อง​หญิง​อย่างแน่นอน​!​”

“​ใคร​อยากได้​ของขวัญ​ชิ้น​โต​จาก​พี่​สอง​กัน​เล่า​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จ้องมอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ด้วย​สีหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความจริงจัง​ ​“​ข้า​ขอ​เพียง​พี่​สอง​อย่า​ลืม​น้อง​หญิง​คน​นี้​ ​เวลา​ที่​มีโอกาส​ก็​มา​เยี่ยม​น้อง​บ้าง​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​รีบ​พยักหน้า​รับปาก​ทันที

เวลานี้​เอง​ก็​มี​ป้า​รับใช้​ที่​กำลัง​พูดคุย​หัวเราะ​เดิน​มาทาง​นี้​พอดี​ ​มีบา​งค​นพูด​ขึ้น​ด้วย​เสียง​ที่​ค่อนข้าง​ดัง​ ​ก็​เลย​ได้ยิน​พวก​นาง​กำลัง​พูดว่า​ ​“​พิธี​สรง​สาม​ ​พิธี​ครบ​เดือน​และ​พิธี​ครบ​ร้อย​วัน​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​เชิญ​เพียงแค่​ญาติ​ที่​สนิท​เท่านั้น​ ​พิธี​ครบรอบ​หนึ่ง​ขวบ​ใน​ครั้งนี้​ก็​คง​ไม่​จัด​ใหญ่โต​หรอก​กระมัง​!​”

“ฮู​หยิน​สี่​เป็น​คน​เรียบง่าย​ ​ไม่ได้​สนใจ​ลาภ​ยศ​ ​กลัว​การร้อง​รำ​ทำ​เพลง​จัดงาน​ใหญ่โต​เป็น​ที่สุด​ ​ย่อม​ไม่​อยาก​จัดงาน​ใหญ่​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ต้อง​ให้ท่าน​โหว​เห็นด้วย​ถึง​จะ​ถูก​!​”

“​ที่ผ่านมา​ท่าน​โหว​ไม่​ยุ่งเกี่ยว​กับ​ธุระ​ใน​จวน​เลย​ ​ย่อม​ต้อง​ฟังฮู​หยิน​สี่​อย่างแน่นอน​!​”

จากนั้น​ก็​มี​คนพูด​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​บอก​แล้ว​ว่า​คุณชาย​น้อย​หก​ยัง​เด็ก​มาก​ ​สวมใส่​เสื้อผ้า​ที่​สะอาด​และ​เรียบร้อย​ ​อบอุ่น​และ​ถ่ายเทอากาศ​ได้ดี​ก็​พอแล้ว​ ​แต่​วันที่​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​แต่งงาน​ ​ท่าน​โหว​บอกว่า​อย่า​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​แต่งตัว​ซอมซ่อ​จน​เกินไป​ ​ก็​เลย​สั่งทำ​ชุด​คลุม​นก​กระ​เรียน​ผ้าไหม​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​ทีเดียว​ถึง​สี่​ชุด​ ​แต่ละ​ชุด​นั้น​สี​ไม่​ซ้ำ​กัน​เลย​ ​ถึงแม้ว่าฮู​หยิน​สี่​จะ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​แต่​การ​ที่​บิดา​สงสาร​และ​เอ็นดู​บุตรชาย​ ​คน​เป็นมา​รดา​จะ​ไม่ดี​ใจ​ได้​อย่างไร​กัน​ ​เจ้า​ไม่เห็น​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ที่​คุณชาย​น้อย​หก​เอาแต่​ดื่ม​นม​แล้ว​ไม่ยอม​ทานข้าว​ต้ม​ผัก​หรือ​ ​แม่นม​กู้​เอง​ก็​ไม่กล้า​ที่จะ​บังคับ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันมา​สบตา​กัน

เมื่อ​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​เห็น​ทั้งสอง​ ​ก็​รีบ​เข้าไป​ทำความเคารพ​ทันที

สอง​ปี​มานี​้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​คนดู​แล​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​แทน​สือ​อี​เหนียง​ ​ป้า​รับใช้​เหล่านั้น​จึง​เคารพ​นาง​มากขึ้น​กว่า​เดิม

“​คุณหนู​ใหญ่​กำลังจะ​ไป​พบฮู​หยิน​สี่​ ​หรือว่า​พึ่ง​ออกมา​จาก​เรือน​ของฮู​หยิน​สี่​เจ้า​คะ​”

“​ข้า​กำลังจะ​ไป​พบ​ท่าน​แม่​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​แต่​ยังคง​แฝง​ไว้​ซึ่ง​ความสุขุม​และ​ความสำรวม​ ​เป็น​สีหน้า​ท่าที​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่​ค่อย​คุ้นเคย

แววตา​ของ​เขา​หมอง​ลง​เล็กน้อย​ ​พูดคุย​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​มองตาม​หลัง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​ถูก​รายล้อม​ไป​ด้วย​ป้า​รับใช้​ที่​กำลัง​ประคอง​นาง​เข้าไป​ใน​เรือน​หลัก​ด้วย​ความ​ประจบประแจง

“​คุณชาย​น้อย​สอง​”​ ​เซียง​จู๋​สาวใช้​ของ​เขา​เห็น​ว่า​เขา​กำลัง​ยืน​ลังเล​อยู่​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เมื่อครู่นี้​บ่าว​เห็น​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สาม​เจ้าค่ะ​”

สวี​ซื่อ​ฉิน​อาศัย​เรือน​ที่อยู่​ด้านหลัง​ของ​เรือน​หลัก​ ​ความหมาย​ของ​นาง​ก็​คือ​หาก​เขา​ไม่มี​ที่​ไป​ ​ก็​สามารถ​ไป​นั่งเล่น​ที่​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ได้

สวี​ซื่อ​อวี​้​นึกถึง​สายตา​ที่​ฟัง​ซื่อ​ใช้​มอง​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความรัก​อย่างลึกซึ้ง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ว่าที่​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​คง​ไม่​เหมาะ​ที่จะ​ไปเที่ยว​เล่น​แล้ว​ ​แต่​เขา​เอง​ก็​ยัง​ไม่​อยาก​จะ​กลับ​เรือน

กักขัง​…​หาก​ภรรยา​ของ​เขา​เข้า​จวน​มา​ ​แล้ว​เขา​จะ​ต้อง​จัดการ​อย่างไร​ ​ทำ​เหมือน​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​เขา​ ​หรือ​เหมือน​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​ของ​ท่าน​อา​ห้า​ที่​ถูก​ขับไล่​และ​ต้อง​ไป​แต่งงาน​กับ​ชาย​คนอื่น​ที่​ชนบท

ใน​ใจ​ของ​เขา​สับสนวุ่นวาย​ไป​หมด

แต่​ก็​ไม่​สามารถ​ยืน​อยู่​ที่นี่​ทั้ง​อย่างนี้​ได้

เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​เยี่ยม​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สอง​สักหน่อย​”

เซียง​จู๋​ขานรับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​จากนั้น​ก็​นำทาง​เขา​ไป​ทันที

เมื่อ​ไป​ถึง​เรือน​ของฮู​หยิน​สอง​ ​กลับ​ถูก​เจี​๋ย​เซียง​ขวาง​ไว้​ที่​ด้านนอก​ ​“​เมื่อคืนนี้ฮู​หยิน​สอง​ไม่ได้​นอน​ทั้งคืน​ ​อีก​วัน​สอง​วัน​คุณชาย​น้อย​สอง​ค่อย​มา​ใหม่​เถิด​นะ​เจ้า​คะ​!​”

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

“​หลาย​วัน​มานี​้ฮู​หยิน​สอง​กำลัง​จดจ่อ​อยู่​กับ​การ​ดูดาว​”​ ​เจี​๋ย​เซียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​สอง​วันก่อน​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​มา​ขอ​พบ​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​ไม่ได้​ให้​เข้าพบ​เจ้าค่ะ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​จึง​ค่อย​รู้สึก​โล่งอก​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สอง​ไม่ได้​ป่วย​ ​ข้า​เอง​ก็​สบายใจ​แล้ว​”​ ​แต่​เขา​ยัง​ไม่​อยาก​กลับ​ ​ก็​เลย​ให้​เจี​๋ย​เซียง​ไป​ชงชา​มา​ให้​เขา​หนึ่ง​กา​ ​นั่ง​พักผ่อนหย่อนใจ​ใน​สวน​ไม้​ไผ่

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ก็​เห็น​สตรี​นาง​หนึ่ง​ที่​สวม​เสื้อกั๊ก​สีแดง​และ​กระโปรง​สีม่วง​น้ำเงิน​เดินผ่าน​ทางเดิน​ข้างๆ​ ​สวน​ไม้​ไผ่

เซียง​จู๋​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​คน​ผู้​นั้น​คือ​พี่​ซิ่ว​หยวน​ ​สาวใช้​คนสนิท​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​เจ้าค่ะ​”

“​อ้อ​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ตอบกลับ​ไป​ตามเนื้อผ้า

เซียง​จู๋​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​พี่​ซิ่ว​หยวน​เหมือน​พี่​เจี​๋ย​เซียง​ ​อยาก​เป็น​อุบาสิกา​ใน​เรือน​ ​ก็​เลย​ไป​ขอกับฮู​หยิน​สี่​ ​ใน​ตอนแรกฮู​หยิน​สี่​ไม่ได้​อนุญาต​ ​พี่​ซิ่ว​หยวน​จึง​เกล้าผม​เพื่อ​แสดงถึง​เจตนารมณ์​และ​ความตั้งใจ​ของ​นาง​ ฮู​หยิน​สี่​ก็​เลย​ให้​นาง​ไป​ขอ​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ ​ตอนนี้​นาง​จึง​ค่อนข้าง​สนิท​กับ​พี่​เจี​๋ย​เซียง​เจ้าค่ะ​”

หญิงสาว​คน​นั้น​หน้าตา​จิ้มลิ้ม​และ​งดงาม​เป็นอย่างมาก​ ​หาก​อยู่​นอก​จวน​ถือว่า​หา​ได้​ยาก​ยิ่ง​ ​แต่​สำหรับ​ใน​จวน​แล้ว​ ​ก็​ไม่ได้​ถือว่า​เลิศเลอ​เท่าไร​นัก

สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​ต้น​ไผ่​ที่​กำลัง​ร่ายรำ​ด้วย​อาการ​เหม่อลอย

*****

ทาง​ฝั่ง​จู๋​เซียง​ก็​กำลัง​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​ป้า​รับใช้​ที่​ประตู

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน

“​ท่าน​แม่​…​งานพิธี​ครบรอบ​หนึ่ง​ขวบ​ของ​น้อง​หก​…​”

“​จัด​เหมือน​ตอน​วัน​ครบรอบ​ร้อย​วัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ด้วย​รอยยิ้ม

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นึกถึง​คำพูด​ของ​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​ที่​ต่าง​ก็​พากัน​สนับสนุน​ให้​สือ​อี​เหนียง​จัดงาน​ใหญ่โต​ ​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เม้มปาก​แน่น

ถึงแม้​สือ​อี​เหนียง​จะ​พูด​ออกมา​อย่างนี้​ ​แต่​ใน​ใจ​ก็​ยัง​เป็นกังวล​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่เห็นด้วย​ ​ก็​เลย​ไม่​อยาก​จะ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ต่อ​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เปลี่ยนไป​คุย​เรื่อง​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แทน​ ​“​ข้า​ขอให้​อาจารย์​เจี่ยน​เป็น​คน​ช่วย​เจ้า​ทำ​เสื้อผ้า​ที่​ใช้​ใส่​ใน​วัน​งาน​ ​ประมาณ​ปลายเดือน​สิบ​ถึง​จะ​เสร็จ​ ​ถึง​เวลา​นั้น​เจ้า​ก็​ลองดู​ว่า​มีต​รง​ไหน​จะ​แก้ไข​หรือไม่​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​เตรียม​ทุกอย่าง​ให้​นาง​อยู่​ ​ได้ยิน​แม้​การ​ทั้ง​เรื่อง​ที่​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ยื่น​ป้าย​จะเข้า​วัง​เพื่อที่จะ​ขอพระราชทาน​จาก​ฮองเฮา​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ด้วย​ ​เมื่อ​ได้ยิน​แล้ว​นาง​ก็​รู้สึก​ทำตัว​ไม่​ค่อย​ถูก​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​แม่​ตัดสินใจ​เอง​ก็​พอ​เจ้าค่ะ​”

“​ข้า​ตัดสินใจ​เอง​ ​แต่​ก็​ต้อง​ให้​เจ้า​ชอบ​ด้วย​ถึง​จะ​ถูก​”

ทั้งสอง​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​มาหา​เจ้าค่ะ​!​”

หลังจากที่​ฟัง​ซื่อ​แต่งงาน​แล้ว​ ​นาง​ก็​อยู่​ปรนนิบัติ​รับใช้ฮู​หยิน​สาม​เสีย​ส่วนใหญ่​ ​เวลา​ที่​เจอกัน​โดยบังเอิญ​ก็​จะ​เป็น​ตอนที่​นาง​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นา​งมา​หา​คนเดียว​อย่างนี้

สือ​อี​เหนียง​รีบ​เชิญ​นาง​ไป​ที่​ห้องรับแขก​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​จากนั้น​ก็​ให้​สาวใช้​ริน​น้ำชา​มาต​้อ​นรั​บนาง

ฟัง​ซื่อ​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ต่าง​ก็​ทำความเคารพ​ซึ่งกันและกัน​ ​จากนั้น​ก็​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ที่อยู่​ตรงข้าม​กับ​เตียง​เตา

“​ท่าน​แม่​มีเรื่อง​ปรึกษาหารือ​กับ​ท่า​ย่า​ ​เหลือ​ข้า​คนเดียว​ ​ก็​เลย​มาหา​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​!​”​ ​นาง​เหลือบมอง​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ด้วย​สีหน้า​ที่​เอียงอาย​ ​“​ข้า​ไม่ได้​มาร​บก​วน​ท่าน​อาสะใภ้​และ​น้อง​หญิง​ใหญ่​หรอก​กระมัง​”

“​พวก​ข้า​เอง​ก็​แค่​คุย​เล่น​เรื่อยเปื่อย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เจ้า​มาร​่วม​คุย​ด้วย​ ​ก็​จะ​คุย​กัน​สนุก​มากยิ่งขึ้น​ ​รบกวน​อะไร​กัน​เล่า​”​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​นาง​ด้วย​ความ​สนิทสนม​ว่า​ตอนนี้​ปรับตัว​ได้​แล้ว​หรือยัง​ ​เวลาว่าง​ส่วนใหญ่​นาง​ทำ​อะไร​บ้าง

ฟัง​ซื่อ​ตอบกลับ​คำถาม​แรก​ ​“​ปรับตัว​ได้​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เริ่ม​ตอบกลับ​คำถาม​ที่สอง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ตอน​อยู่​ใน​เรือน​ข้า​เย็บปักถักร้อย​เสีย​ส่วนใหญ่​ ​อ่าน​เขียนหนังสือ​ตำรา​ ​ปลูก​ต้นไม้​ดอกไม้​ ​เพียงแต่ว่า​ข้า​เป็น​คน​นิสัย​ใจร้อน​ไม่​ละเอียดอ่อน​ ​เลย​ทำได้​ไม่ดี​เท่าไร​นัก​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​ฝีมือ​การ​เย็บปักถักร้อย​ของ​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​เป็น​ที่​เลื่องชื่อ​ที่สุด​ ​การ​เพาะปลูก​ดอกไม้​ก็ดี​เยี่ยม​ ​ก็​เลย​อยาก​หา​โอกาส​มา​ให้ท่า​นอา​สะใภ้​สี่​ช่วย​ชี้แนะ​ ​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​จะ​รังเกียจ​ว่า​ข้า​โง่เขลา​หรือไม่​”

แสดง​ด้วย​ท่าที​และ​ทัศนคติ​ของ​ความเป็นมิตร

ทุกคน​ต่าง​ก็​เป็น​ญาติ​กัน​ทั้งนั้น​ ​ก็​ควรจะ​ไปมาหาสู่​กัน​อย่างสนิทสนม​ถึง​จะ​ถูก

“​สะใภ้​ฉิน​เกอ​ถ่อมตัว​เกินไป​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​หากว่า​เจ้า​ชอบ​ ​ก็​แค่​มาก​็​พอ​ ​กลัว​ก็​แต่ว่า​หลังจากที่​เจ้า​เห็นผล​งานการ​เย็บปักถักร้อย​ของ​อาสะใภ้​สี่​คน​นี้​แล้ว​ ​จะ​รู้สึก​ธรรมดา​ทั่วไป​ ​การ​เพาะปลูก​ดอกไม้​ก็​ไม่ได้​เลิศเลอ​เท่าไร​นัก​ ​จะ​ผิดหวัง​เป็นอย่างมาก​เอา​ได้​!​”

“​เป็น​ท่าน​อาสะใภ้​ที่​ถ่อมตัว​เกินไป​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ฟัง​ซื่อ​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ที่​เรือน​ของ​ท่าน​แม่​มี​ว่าน​สิบ​แสน​อยู่​สอง​กระถาง​ประดับ​อยู่​ด้วย​ ​ได้ยิน​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​บอกว่า​ได้มา​จาก​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​ ​จึง​ได้​รู้​ว่า​ท่าน​อาสะใภ้​เป็น​คนที​่​ชื่นชอบ​ต้นไม้​ดอกไม้​ ​ข้า​เอง​ก็​ชอบ​เลี้ยง​ดอก​กล้วยไม้​ ​ท่าน​อาสะใภ้​พูด​มา​เช่นนี้​ ​พลอย​จะ​ทำให้​ข้า​ไม่กล้า​เอ่ยปาก​ขอ​เสียมา​กก​ว่า​”

ใน​สมัยโบราณ​การ​เลี้ยง​ดอก​กล้วยไม้​นั้น​ไม่ใช่​เพียง​เพื่อ​ความสูง​ส่ง​และสง่า​งาม​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ต้อง​ลงทุนลงแรง​ ​ทั้ง​แรงกาย​และ​ความตั้งใจ​อีกด้วย​ ​แต่​เด็กสาว​ผู้​นี้​กลับ​มี​…​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​แปลกใจ​ ​จ้องมอง​ฟัง​ซื่อ​อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ฟัง​ซื่อ​สังเกต​มอง​สือ​อี​เหนียง​อย่างเปิดเผย​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เสียดาย​ที่​ครั้งนี้​ข้ามา​ค่อนข้าง​เร่งรีบ​ ​ไม่ทัน​ได้​นำ​ดอกไม้​มา​ให้ท่า​นอา​สะใภ้​สี่​เชยชม​ ​จึง​ทำได้​เพียงแค่​รอค​นมา​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​เท่านั้น​ ​ไว้​ข้า​จะ​ให้​คน​นำ​ดอกไม้​มา​ให้ท่า​นอา​สะใภ้​สี่​ชม​นะ​เจ้า​คะ​”

เคย​เห็น​เรือน​ดอกไม้​ของ​นาง​แล้วแต่​กลับ​กล้า​พูดจา​เช่นนี้​ ​แสดงว่า​มี​ของดี​อยู่​ใน​ย่าม​อย่างแน่นอน

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​กล่าว​ขอบคุณ​ ​จากนั้น​ก็​พูดคุย​กับ​ฟัง​ซื่อ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​ที่​ไม่​คุ้นหน้า​คุ้นตา​เปิดม่าน​ชะเง้อ​หน้า​เข้ามา​ดู​ ​ฟัง​ซื่อ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลาก​ลับ

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ออก​ไป​ส่ง​แขก​แทน​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​ก็​ถาม​ชิว​อวี​่​ขึ้น​มา​ ​“​สาวใช้​น้อย​ของ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​อยู่​ด้านนอก​นั่น​หรือ​”

“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ชิว​อวี​่​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เห็น​ว่า​กลัวฮู​หยิน​สาม​กลับมา​แล้ว​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​จะ​ไม่รู้​ ​จะ​เป็นการ​ละเลย​ไม่ได้​ต้อนรับฮู​หยิน​สาม​เท่าที่ควร​ ​ก็​เลย​ให้​นาง​คอย​ดู​อยู่​ข้างนอก​ ​หากฮู​หยิน​สาม​กลับมา​ก็​ให้​รีบ​ไปรา​ยงา​นกับ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ทันที​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​ว่าวั​นข​้าง​หน้า​หาก​สาวใช้​น้อย​ของ​ฟัง​ซื่อ​จะเข้า​มาแจ้ง​ข่าว​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ขวาง​ไว้

ตก​กลางคืน​ ​หลังจากที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ถึง​ ​เขา​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​ครอบครัว​ของ​คุณชาย​สาม​กับ​นาง

“​พี่​สาม​เขียนจดหมาย​มาหา​ข้า​”​ ​เขา​พิง​กาย​อยู่​บน​หัว​เตียง​ ​ลูบ​ผม​ของ​สือ​อี​เหนียง​อย่างสบายใจ​ ​“​เขา​บอกว่า​ที่โน่น​ไม่มี​คนดู​แล​เขา​ ​รอ​จิ​่น​เกอ​จัด​พิธี​ครบ​หนึ่ง​ขวบ​ปี​เสร็จ​แล้ว​ ​ก็​ให้​ข้า​หา​คน​ส่ง​พี่สะใภ้​สาม​กลับ​ไป​ที่​ซาน​หยาง​ ​ส่วน​ฉิน​เกอ​และ​เจี่ยน​เกอ​ ​เขา​ได้​เชิญ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ที่​ประจำการ​อยู่​ที่​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลินย​่​วน​มา​เป็น​อาจารย์ผู้สอน​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​ให้​พวกเขา​สอง​พี่น้อง​ย้าย​ไป​ที่นั่น​ ​ส่วน​เรื่อง​ธุระ​ภายใน​จวน​ก็​ให้​ฟัง​ซื่อ​เป็น​คนดู​แล​จัดการ​ ​สอง​พี่น้อง​ก็​จะ​ได้​มี​คนดู​แล​”

นี่​ไม่​เท่ากับ​เป็นการ​แยก​สกุล​หรอก​หรือ

เรื่อง​เกิดขึ้น​เร็ว​จน​เกินไป​ ​พลอย​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่​เรื่องจริง​อย่างไร​อย่างนั้น

“​แล้ว​พี่สะใภ้​สาม​รู้เรื่อง​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท