ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 541 สอบบัญฑิต (ปลาย)

ตอนที่ 541 สอบบัญฑิต (ปลาย)

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็ได้​รับ​ข่าว​แล้ว​เช่นกัน

​“​ได้​อันดับ​ต่ำ​เกินไป​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่าง​มีนัย​ยะ​ว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​ครั้งนี้​รับ​เพียง​สาม​ร้อย​สี่​สิบ​คน​เท่านั้น​”

​ทันใดนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​นึกถึง​บทกวี​คู่​ที่​แพร่หลาย​ประโยค​นั้น​ ​‘​การ​สอบ​ได้​บัญฑิต​ระดับ​สาม​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​ล้าง​เท้า​ให้​อนุ​’​ ​เป็นการ​เปรียบเทียบ​ระหว่าง​การ​ล้าง​เท้า​ให้​อนุภรรยา​กับ​บัณฑิต​ระดับ​สาม​ ​สามารถ​นึกถึง​ความลำบาก​ใจ​และ​ความ​ไร้​หนทาง​ของ​ผู้​ที่เกิด​มา​เป็น​บัณฑิต​ระดับ​สาม​ ​แต่​ที่​แย่​ก็​คือ​มัน​ไม่​เหมือนกับ​การ​สอบ​เข้า​มหาลัย​ ​การ​สอบ​เข้า​มหาลัย​หาก​สอบ​ได้​ไม่ดี​ก็​สามารถ​สอบ​ใหม่​ได้​ ​แต่ว่า​ตำแหน่ง​บัณฑิต​ระดับ​จะ​ติดตัว​ไป​ตลอดชีวิต

​“​บางที​พี่เขย​หา​อาจจะ​ตอบคำถาม​การ​สอบ​เตี่ยน​ซื่อ​ได้ดี​”​ ​นาง​พูด​อย่าง​มีความหวัง

ต่อให้​ตอบ​ได้ดี​มาก​แค่ไหน​ก็​ยาก​ที่จะ​เลื่อน​ขึ้น​มา​เป็น​บัณฑิต​ระดับ​สอง​!​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​

แต่ว่า​ผล​ก็​ยัง​ไม่ได้​ปรากฏ​ออกมา​ ​แล้ว​เหตุใด​ต้อง​ให้​สิ่ง​ไม่ดี​เหล่านี้​มาทำ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ไม่มี​ความสุข​ด้วย​เล่า

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก็​จริง​ ​อย่างมาก​ก็​หนึ่ง​เดือน​ ​ผลสอบ​เตี้ยน​ซื่อ​ก็​จะ​ออกมา​แล้ว​ ​อีก​อย่าง​ฮ่องเต้​เป็น​คน​ตั้งคำถาม​ ​ส่วนมาก​จะ​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่องใหญ่​ใน​ราชสำนัก​ ​เฉียน​หมิง​อยู่​ที่​เมืองหลวง​มา​หลาย​ปี​และ​มีประสบการณ์​ ​ไม่แน่​อาจจะ​ได้​เลื่อน​ขึ้น​มา​เป็น​บัณฑิต​ระดับ​สอง​ก็ได้​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​ปลอบใจ​นาง​ ​จึง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​ถาม​ว่า​ต้อง​ไป​แสดงความยินดี​ที่​ตรอก​ซื่อ​เซี่ยง​หรือไม่

​“​เจ้า​ส่ง​ผู้ดูแล​หญิง​คนสนิท​ไป​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​รอ​ให้​รายชื่อ​ออกมา​แล้ว​ข้า​ค่อย​ไป​แสดงความยินดี​กับ​เขา​”

​สือ​อี​เหนียง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เฉียน​หมิง​จะ​ให้รางวัล​เมื่อ​สอบ​ติด​ ​แล้วยัง​ต้อง​ไป​เยี่ยม​อาจารย์​ ​สหาย​ร่วม​ชั้นเรียน​ ​และ​เชิญ​มางาน​เลี้ยง​ ​มีเรื่อง​ต้อง​ใช้​เงิน​เยอะ​ ​จึง​ให้​ป้า​ซ่ง​นำ​ซอง​แดง​ที่​ใส่​เงิน​สอง​ร้อย​ตำลึง​ไป​มอบให้

​ป้า​ซ่ง​กลับมา​กระซิบ​กับ​นาง​ว่า​ ​“​คุณหนู​ห้า​โกรธจั​๋ว​เถา​จึง​คว้า​ถ้วย​ชา​ขว้าง​จน​แตก​ ​แล้วยัง​บอกอี​กว่า​จะ​ไป​เรียก​คนซื้อ​ทาส​มา​ ​นายท่าน​เฉียน​รำคาญ​จึง​หลบ​ไป​ดื่ม​สุรา​อยู่​ใน​ห้องครัว​เจ้าค่ะ​!​”

เกรง​ว่า​เป็น​เพราะ​เฉียน​หมิง​ทำ​ข้อสอบ​ได้​ไม่ดี​จึง​ใช้​เรื่อง​นี้​มาระ​บาย​ความโกรธ​กระมัง​!

​สือ​อี​เหนียง​อด​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้

อู่​เหนียง​เริ่ม​ควบคุม​อารมณ์​ได้​ยาก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​แล้ว

แม้ว่า​สุดท้าย​แล้ว​เฉียน​หมิง​จะ​ได้รับ​ตำแหน่ง​บัณฑิต​ระดับ​สาม​ ​ถึงกระนั้น​การ​ทำ​เช่นนี้​จะ​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​ความจริง​ได้​อย่างนั้น​หรือ​!

​นาง​ยิ่ง​ให้ความสนใจ​กับ​เวลา​ประกาศ​ผลสอบ​เตี่ยน​ซื่อ​และ​ผล​การ​สอบ​มากขึ้น​กว่า​เดิม

​และ​ในเวลานี้​ก็​มี​ข่าว​ออกมา​จาก​วัง​ว่า​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้​ให้กำเนิด​องค์​ชาย​อย่างราบรื่น

​โจวฮู​หยิน​มีความสุข​จน​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​แม้ว่า​ในเวลานี้​จะ​ห้าม​สัญจร​บน​ถนน​ ​แต่​นาง​ก็​รีบ​ไป​ที่​เหอฮ​วาห​ลี่​เพื่อ​บอกข่าว​ดี​กับ​สือ​อี​เหนียง

​“​ข้า​สวดมนต์​ขอพร​อยู่​ทุกวัน​ ​ถึงขั้น​ยอม​ลด​อายุ​ไข​ตัวเอง​ไป​สิบ​ปี​”​ ​นาง​พูด​พลาง​น้ำตาไหล​ออกมา​ ​“​นับว่า​ไท่​จื่อ​เฟ​ยสม​ความปรารถนา​แล้ว​ ​ทั้งหมด​ล้วน​เป็นความ​ดี​ความชอบ​ของ​องค์​ไท่​จื่อ​ ​มิเช่นนั้น​ไท่​จื่อ​เฟย​จะ​ตั้งครรภ์​บุตร​ถึง​สาม​คน​ติดต่อกัน​ได้​อย่างไร​”

​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​นาง​บอกว่า​ยก​ความดี​ความชอบ​ให้​ไท่​จื่อ​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​หยิบ​ตุ๊กตาล้มลุก​ที่​จิ​่น​เกอ​วาง​ทิ้ง​ไว้​บน​เตียง​เตา​มา​ใส่​ลง​ใน​ตะกร้า​หวาย​ที่​วาง​อยู่​ใต้โต๊ะ​บน​เตียง​เตา

​โจวฮู​หยิน​อุทาน​ขึ้น​มา​ ​“​เอ๊ะ​!​ ​แล้ว​จิ​่น​เกอ​ไป​ไหน​เล่า​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​จิ​่น​เกอ​เลย​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​การ​ที่​ไท่​จื่อ​เฟย​ให้กำเนิด​หวง​จั่ง​ซุน​[1]​ได้​นั้น​ ​ก็​ต้อง​ขอบคุณ​จิ​่น​เกอ​เป็นอย่างมาก​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​กำชับ​ชิว​อวี​่​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ ​“​เร็ว​ ​รีบ​ไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มา​ ​ข้ามีอั​่ง​เปา​ซอง​ใหญ่​จะ​มอบให้​เขา​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบายใจ​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​นี่​เป็น​วาสนา​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​เกี่ยว​อะไร​กับ​จิ​่น​เกอ​เล่า​เจ้า​คะ​”

​โจวฮู​หยิน​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​เอาแต่​เร่ง​ชิว​อวี​่​ให้​ไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มา

​ชิว​อวี​่​มอง​สือ​อี​เหนียง​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​โจวฮู​หยิน​มีความสุข​ ​คิด​ว่า​อย่างไร​เสีย​ก็​เป็นเรื่อง​ดี​จึง​พยักหน้า​ให้​ชิว​อวี​่

​ชิว​อวี​่​ย่อเข่า​รับคำ​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

​โจวฮู​หยิน​หยิบ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ไม่ใช่​พวก​กุนซือ​ที่ปรึกษา​ของ​ฮ่องเต้​เหล่านั้น​ที่​เอาแต่​เอา​ดี​เข้าตัว​แล้ว​โยน​ความ​ชั่ว​ให้​กับ​หัวหน้า​ทั้ง​หก​กรม​ ​หาก​ไม่ได้ความ​โชคดี​ของ​จิ​่น​เกอ​แล้ว​จะ​ดึงดูด​เซิน​เกอ​กับ​หวง​จั่ง​ซุน​มา​ได้​อย่างไร​…​”​ ​ขณะที่​กำลัง​พูด​ชิว​อวี​่​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​เข้ามา​ ​โจวฮู​หยิน​ลง​จาก​เตียง​เตา​แล้ว​เดิน​เข้าไป​รับ​จิ​่น​เกอ​มา

​“​จิ​่น​เกอ​”​ ​นาง​เอ่ย​เรียก​จิ​่น​เกอ​พลาง​หอม​แก้ม​เขา​หนึ่ง​ที​ ​“​เจ้า​ช่าง​มี​วาสนา​เสีย​จริง​ ​เจ้า​ได้​เป็น​ท่าน​อา​แล้ว​รู้​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​ไม่ใช่​เด็ก​ขี้อาย​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​มี​คน​ชอบ​ตน​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​หน้าบาน

​โจวฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ่ง​ถูกอกถูกใจ​เข้าไป​ใหญ่​ ​อุ้ม​เขา​แล้ว​นั่งลง​บน​เตียง​นั่ง​ ​หยิบ​ถุงเงิน​สีแดง​ปัก​ลาย​กวาง​ชมด​อก​เหมย​ยัด​ใส่​มือ​จิ​่น​เกอ​ ​“​นี่​คืออั​่ง​เปา​ที่​ข้าม​อบ​ให้​ ​เจ้า​เก็บ​เอาไว้​ใช้​”

​“​พี่​หญิง​ใจกว้าง​เกินไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​เมื่อมี​ความสุข​ก็​จะ​ให้เงิน​เป็น​รางวัล​ ​ให้​คน​รอบข้าง​ได้​มีความสุข​ไป​ด้วย​ ​สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​โจวฮู​หยิน​ดี​ ​ยิ้ม​พลาง​ขอบคุณ​แทน​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​นั่ง​แกะ​ถุงเงิน​อยู่​ข้างๆ​ ​หยิบ​ตาข่าย​แดง​ที่​ห่อทอง​ก้อน​เล็ก​ๆ​ ​ไว้​ออกมา​จาก​ถุงเงิน​ ​มีทั​้ง​หมด​แปด​ก้อน​ ​และ​ละ​ก้อน​มี​ขนาดใหญ่​เท่า​เม็ด​ถั่วลิสง

​เขา​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ยิ้ม​พลาง​ยกขึ้น​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู

​แม้ว่า​สิ่ง​นี้​จะ​มีราคา​แพง​แต่​ก็​ไม่ใช่​ของ​หายาก

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ผูก​ไว้​ที่​เอว​ของ​จิ​่น​เกอ

​จิ​่น​เกอ​หยิบ​ก้อนทอง​ขึ้น​มานั​่ง​เล่น​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​ไม่​แม้แต่​จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มา

​เมื่อ​โจวฮู​หยิน​เห็น​ว่า​เขา​ชอบ​ก็​รู้สึก​ปิติยินดี​ ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มา​หอม​สอง​สาม​ที​ ​“​ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​พอ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​เจอ​จิ​่น​เกอ​หนึ่ง​วัน​ใน​ใจ​ก็​กระวนกระวาย​ ​แม้แต่​ข้า​เอง​ก็​แทบจะ​อยาก​อุ้ม​กลับ​เรือน​เสียด​้วย​ซ้ำ​”

​สือ​อี​เหนียง​กลั้น​เสียงหัวเราะ​ ​พูดคุย​กับ​โจวฮู​หยิน​เรื่อง​พิธี​สรง​สาม​ ​“​…​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​พวกเรา​ไป​ด้วยกัน​เถิด​!​”

​โจวฮู​หยิน​พยักหน้า​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​จิ​่น​เกอ​กำลัง​ดิ้น​ไปมา​เพื่อ​จะ​ปีน​ไป​บน​เตียง​เตา​ขณะที่​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​ ​นาง​จึง​ปล่อย​เขา​ ​จิ​่น​เกอ​ทั้ง​คลาน​ทั้ง​เดิน​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​โจวฮู​หยิน​ลูบ​ผม​สีดำ​ขลับ​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​“​แล้วก็​ยัง​มี​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ที่​ต้อง​ไป​ด้วยกัน​”

เข้า​วัง​…

​สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​แตก​พลั่ก​ทันที​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เขา​อยู่​ใน​วัย​กำลัง​ซุกซน​ ​ข้าว​่า​อย่า​ไป​เลย​จะ​ดีกว่า​ ​หาก​ไป​ชน​ของ​ใน​วัง​เข้า​จะ​ไม่ดี​!​”

​“​ต้อง​ไป​ ​ไม่​ไป​ได้​อย่างไร​กัน​!​”​ ​โจวฮู​หยิน​ยืนกราน​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ช่วย​ดู​เอง​ ​จะ​ไม่​ให้​เขา​ทำลาย​ของ​ใน​วัง​เด็ดขาด​”

นาง​กลัว​ว่า​บุตรชาย​จะ​ไป​ซุกซน​ต่างหาก

​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​ตกลง​อย่าง​คลุมเครือ​ ​เมื่อถึง​วันนั้น​กลับ​มอบ​จิ​่น​เกอ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คนดู​แล​ ​โจวฮู​หยิน​บ่น​อยู่​สอง​สาม​ประโยค​ ​จะ​ส่ง​คน​ให้​ไปรับ​จิ​่น​เกอ​มา​แล้ว​ค่อย​เข้า​วัง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​อ้างว่า​หาก​ไม่​เข้า​วัง​ตอนนี้​ก็​จะ​สาย​เพื่อ​หยุด​ความคิด​ของ​โจวฮู​หยิน​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​พอ​เข้ามา​ใน​วัง​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ถามถึง​จิ​่น​เกอ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​บอกว่า​กลัว​จิ​่น​เกอ​จะ​ทำลาย​ข้าวของ​ใน​วัง​ก็​ปิดปาก​หัวเราะ​ ​“​จะ​บอกว่า​สิ่งของ​เหล่านี้​มีค่า​มากกว่า​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​อย่างนั้น​หรือ​”​ ​แล้ว​กำชับ​ให้​ขันที​ไป​ยัง​เหอฮ​วาห​ลี่​เพื่อ​รับ​ตัว​จิ​่น​เกอ​มา

​องค์​หญิง​ใหญ่​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ตะโกน​ขึ้น​มา​ ​“​อย่า​ให้​จิ​่น​เกอ​เข้า​วัง​ ​เขา​ทำ​ข้า​ปวดหู​จะ​ตาย​อยู่​แล้ว​”

​สตรี​ใน​ห้อง​ที่​สวม​ชุด​ตี๋​อีสี​แดง​ ​ปักปิ่น​บุปผา​เก้า​ยอด​ต่าง​มองหน้า​กัน​ ​ก่อน​จะ​ก้มหน้า​ดื่ม​ชาต​่อ

​เสียงอ่อน​โยน​และ​นุ่มนวล​ของ​ฮองเฮา​ดัง​ขึ้น​ใน​ห้อง​ ​“​จิ​่น​เกอ​ยัง​เล็ก​ ​เขา​ไม่ได้ตั้งใจ​ ​เจ้า​เป็น​พี่​หญิง​ก็​ต้อง​ยอมให้​เขา​บ้าง​…​”

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ดีใจ​ ​ส่งสายตา​ให้​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์

​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้าใจ​จึง​ส่งสายตา​ให้​โจวฮู​หยิน​ต่อ

​โจวฮู​หยิน​รอ​ให้​ฮองเฮา​พูด​จบ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​สำนัก​ดาราศาสตร์​กำหนด​ฤกษ์​มงคล​ไว้​ยาม​ไหน​ ​ต้อง​เริ่ม​อาบน้ำ​ให้​หวง​จั่ง​ซุน​เลย​หรือไม่​เพ​คะ​”

​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​รับบท​ต่อ​ ​กำชับ​นางใน​ว่า​ ​“​ไปดู​สิว​่า​ยาม​ไหน​แล้ว​”

​นางใน​ย่อเข่า​รับคำ​ ​“​เพ​คะ​”​ ​แล้ว​รีบ​เดิน​ออก​ไป

​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​พูดถึง​พิธี​สรง​สาม​ของ​เริ​่​นคุน​ ​“​…​ตอนนั้น​เป็น​ฤดูหนาว​ ​ข้า​เห็น​แล้วก็​ปวดใจ​ ​นับว่า​หวง​จั่ง​ซุน​มี​วาสนา​ ​เกิด​ใน​เดือน​สี่​ซึ่ง​เป็น​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​อากาศ​อบอุ่น​…​”

​ทุกคน​คุย​ไป​หัวเราะ​ไป​เพื่อ​กลบเกลื่อน​ความ​อึดอัด​เมื่อ​ครู่​ ​และ​เริ่มต้น​บรรยากาศ​ของ​การเฉลิมฉลอง

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​มี​คน​กำลัง​จ้องมอง​ตัวเอง​อยู่​เป็นเวลา​นาน​

​นาง​แสดง​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​ก่อน​จะ​เหลือบมอง​ด้วย​หาง​ตา​อย่างรวดเร็ว

​เป็น​เจียง​จิ​่​นขุย​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ของ​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง

​สีหน้า​ของ​นาง​ดู​ไม่มีชีวิตชีวา​ ​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​ ​ดู​ต่ำต้อย​ยิ่งกว่า​นางใน​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​เสียอีก

​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

​นาง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เจียง​จิ​่​นขุย​เป็น​คน​เริ่ม​เข้ามา​ทักทาย​นาง​ก่อน​ ​แล้ว​นึกถึง​วิธีการ​ฆ่า​หวัง​หลัง​ของ​เริ​่​นคุน​ ​สุดท้าย​ก็​เลย​ตัดสินใจ​แกล้งทำ​เป็น​มองไม่เห็น​ ​ยิ้ม​พลาง​ฟัง​บรรดา​สตรี​ใน​ตำหนัก​พูดคุย​กัน

​มีนาง​ใน​วิ่ง​เข้ามา​กระซิบ​กับ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​สอง​สาม​ประโยค

​สายตา​ของ​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​ตอบกลับ​นางใน​ผู้​นั้น​สอง​สาม​ประโยค​ ​นางใน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ย่อเข่า​คำนับ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

​ฮองเฮา​แอบ​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง

​ไม่รู้​ว่า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ ​มอง​ไป​ทาง​โจวฮู​หยิน

​โจวฮู​หยิน​พยักหน้า​ให้​นาง​เบา​ๆ​ ​เป็น​สัญญาณ​ให้​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​นาง

​สือ​อี​เหนียง​ไม่กล้า​ประมาท​ ​แม้ว่า​บรรยากาศ​พิธี​สรง​สาม​จะ​ครึกครื้น​ ​แต่​นาง​ทำ​เพียง​ยืน​อยู่​ข้าง​ไท่ฮู​หยิน​ตาม​กฏ​ระเบียบ​ ​ถ่อมตน​ได้​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​ดี​ ​กว่า​จะ​อดทน​อยู่​จนถึง​ตอนที่​ขันที​มา​เชิญ​ทุกคน​ไป​ทาน​บะหมี่​อายุ​ยืน​ของ​หวง​จั่ง​ซุน​นั้น​ไม่​ง่าย​เลย​ ​นาง​เห็น​ว่า​โจวฮู​หยิน​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน​ ​พวก​นาง​ออกมา​จาก​พระตำหนัก​หน​่​วน​เก๋อ​แล้วแต่​โจวฮู​หยิน​ก็​ยัง​ไม่​ออกมา​ ​จึง​ได้​ตัดสินใจ​พยุง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ห้องโถง​ข้าง​พระตำหนัก

​พอทุ​กค​นนั​่ง​ลง​กับ​ที่​กัน​หมด​แล้ว​โจวฮู​หยิน​ก็​เดิน​เข้ามา​ ​ขยิบตา​ให้​สือ​อี​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย

​เมื่อ​ทาน​บะหมี่​อายุ​ยืน​เสร็จ​ทุกคน​ก็​ไป​กล่าว​ลาฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์

​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไป​เดิน​อยู่​กับ​โจวฮู​หยิน

​“​ไม่มี​อะไร​”​ ​โจวฮู​หยิน​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​องค์​ไท่​จื่อ​ส่ง​คน​มาถาม​ว่า​จิ​่น​เกอ​ได้มา​ด้วย​หรือไม่​ ​อยาก​จะ​ให้​คน​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​ให้​ดู​สักหน่อย​”​ ​แล้ว​บ่น​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​บอก​ให้​เจ้า​พา​จิ​่น​เกอ​เข้า​วัง​มาด​้วย​เจ้า​ก็​ไม่​ฟัง​ ​เสียโอกาส​ไป​พบ​ไท่​จื่อ​เลย​”

​“​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​จะ​มีโอกาส​เช่นนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​แล้ว​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ต่อให้​ข้า​เสียใจ​ตอนนี้​ก็​สาย​เกินไป​แล้ว​”

​ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​ก็​มีเสียง​คน​ตะโกนเรียก​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​!​”

​สือ​อี​เหนียง​หันกลับ​ไป​ด้วย​ความสงสัย

​เจียง​จิ​่​นขุย​ยืน​อยู่​ข้าง​เสา​สีแดง​ ​จ้องมอง​นาง​อย่าง​กล้า​ๆ​ ​กลัว​ๆ​

​สือ​อี​เหนียง​อด​มองหา​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​ไม่ได้​ ​ก็​เห็น​ว่า​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​กำลัง​เดิน​อยู่​ข้างหลัง​ฮองเฮา​ ​กำลัง​ฟัง​ฮองเฮา​พูด​อย่างตั้งใจ

เจียง​จิ​่​นขุ​ยมา​หา​ตน​ทำไม​กัน

​“​เริ​่นฮู​หยิน​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​สงสัย​อยู่​ใน​ใจ​ ​ลังเล​ว่า​จะ​ทักทาย​นาง​ดี​หรือไม่

​“​ข้า​ ​ข้ามี​เรื่องสำคัญ​จะ​บอก​เจ้า​”​ ​นาง​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ราวกับ​กลัว​ว่า​จะ​มี​คน​มา​พบ​เข้า

​โจวฮู​หยิน​ยิ้ม​ให้​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​รีบ​เดินตาม​องค์​หญิง​หย่ง​อาน​ที่อยู่​ข้างหน้า​ไป​ ​“​องค์​หญิง​ ​เหตุใด​วันนี้​ถึง​มาคน​เดียว​เล่า​เพ​คะ​…​”​ ​พูด​พลาง​สาวเท้า​เดิน​ไป​ข้างหน้า

​สือ​อี​เหนียง​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เริ​่นฮู​หยิน​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

​เจียง​จิ​่​นขุ​ยกั​ดริม​ฝีปาก​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​สะใภ้​ฟัง​ของ​พวก​เจ้า​ ​นาง​…​นาง​มีด​วง​พิฆาต​สามี​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่​สามารถ​ซ่อน​ความประหลาดใจ​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​ได้​ ​มองดู​เจียง​จิ​่​นขุ​ยอย​่าง​ละเอียดถี่ถ้วน

​สายตา​ของ​เจียง​จิ​่​นขุ​ยมี​เพียง​ความกังวล​ ​ท่าทาง​ที่​แสดงออก​มา​เต็มไปด้วย​ความเป็นห่วง​เป็น​ใย

​“​จริงๆ​ ​นะ​ ​ข้า​ไม่ได้​หลอก​เจ้า​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​แหลมคม​ราวกับ​มีด​ ​ก็​สะดุ้ง​เล็กน้อย​ ​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​สกุล​ข้า​กับ​สกุล​พวกเขา​มี​ความสัมพันธ์​จาก​การ​แต่งงาน​ ​เจ้า​เอง​ก็​เป็น​คน​เจียง​หนาน​ ​อีก​อย่าง​อวี​๋​หัง​ก็​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​หู​โจว​ ​หาก​เจ้า​ไม่เชื่อ​ก็​ส่ง​คน​ไป​ถาม​ที่​หู​โจว​ก็ได้​ ​คนที​่​เคย​หมั้น​หมาย​กับ​นาง​ก่อนหน้านี้​แซ่​หู​จาก​ตระกูล​ผู้สูงศักดิ์​ใน​หนิง​ไห่​ ​เป็น​หลาย​ชาย​สกุล​เดิม​ของ​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​สกุล​ฟัง​ ​ต่อมา​ก็ได้​หมั้น​หมาย​กับ​คน​แซ่​ฮั่ว​จาก​หู​โจว​ ​แต่​คุณชาย​ทั้งสอง​คน​เสียชีวิต​ตั้งแต่​อายุ​ยังน้อย​ทั้งคู่​ ​เจ้า​ก็​ควรระวัง​ไว้​ ​ประเดี๋ยว​จะ​ไป​ติด​ความ​โชคร้าย​จาก​นาง​ได้​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​จริงใจ​เป็นอย่างมาก

[1]​หวง​จั่ง​ซุน ​หลานชาย​คนโต​ของ​ฮ่องเต้

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท