ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 592 พิธีครบเดือน (กลาง)

ตอนที่ 592 พิธีครบเดือน (กลาง)

​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​คมชัด​ ​แต่​แฝง​เอาไว้​ด้วย​ความไม่สบายใจ​ ​“​…​เดิมที​่​รับปาก​ใต้เท้า​หลี​่​เอาไว้​ ​แต่กลับ​ได้รับ​เทียบ​เชิญ​ของ​คุณชาย​ห้า​ ​เถ้าแก่​น้อย​ของ​คณะ​เรา​เลย​พาลู​กศิษย​์​สอง​สาม​คนที​่​ไป​จวน​ของ​ใต้เท้า​หลี​่​ ​ส่วน​ข้า​พาลู​กศิษย​์​สอง​สาม​คน​มาที​่​นี่​ขอรับ​ ​แต่​เพราะว่า​คน​ไม่พอ​ ​จึง​ยืม​คน​คณะ​อื่น​มาช​่ว​ยงาน​สอง​คน​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​บังเอิญ​เจอ​กับ​ท่าน​ซื่อ​จื่อ​และ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​ข้า​น้อย​สมควร​ตาย​จริงๆ​ ​ขอรับ​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​โขก​ศรีษะ​ให้​สือ​อี​เหนียง​เสียงดัง​สาม​ครั้ง​ ​“​ข้า​จับ​พวกเขา​มัด​ไว้​แล้ว​ ​คุกเข่า​อยู่​หน้า​ประตู​ ​รอฟังฮู​หยิน​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ตอบกลับ​เขา​ในทันที​ ​นาง​ถือ​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​ ​ใช้​ฝา​ถ้วย​ชา​ปัด​ใบชา​ที่​ลอย​อยู่​ข้างบน​เบา​ๆ​

​เสียง​ถ้วย​ชากระ​ทบ​กัน​ทำให้เกิด​เสียงดัง​ก้อง​กังวาล​ใน​ห้อง​ที่​เงียบสงัด​ ​พลอย​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ว่า​หาก​หายใจเข้า​ ​ถ้วย​ชานั​้​นก​็​จะ​แตกสลาย​ ​ราวกับ​สถานการณ์​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้​ ​หาก​คนที​่​ถือ​ถ้วย​ชา​โมโห​ ​ร่าง​ของ​เขา​ก็​จะ​แตกสลาย​เป็น​ชิ้นๆ​…

​ราวกับ​มี​ก้อนหิน​ก้อน​ใหญ่​กด​ทับ​อยู่​ใน​ใจ​ ​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​ยิ่ง​ก้มหน้า​ลง​ต่ำกว่า​เดิม

​“​ที่จริง​แล้ว​ ​สอน​คุณชาย​น้อย​ห้า​ร้องเพลง​งิ้ว​สอง​สาม​ท่อน​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​ ​คุณชาย​ห้า​ของ​เรา​ก็​ชอบ​เรื่อง​พวก​นี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​ตัวสั่น​เทา​ ​นาง​จึง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​ ​“​แต่​การ​ที่​ให้​คุณชาย​น้อย​ห้า​ของ​เรา​ไป​เทียบ​กับ​นักแสดง​งิ้ว​พวก​นั้น​ ​แล้วยัง​หัวเราะเยาะ​เขา​ ​ช่าง​ไร้มารยาท​เสีย​จริง​”​ บน​โลก​ใบ​นี้​นิสัย​คนเรา​มัก​ชอบ​สอดรู้สอดเห็น​ ​หาก​จงใจ​หลีกเลี่ยง​ปัญหา​นี้​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ยิ่ง​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​คนอื่น​มากขึ้น​ ​ไม่​สู้​เผชิญหน้า​กับ​มัน​ด้วย​ท่าที​ที่​ปกติ​ยัง​จะ​ดี​เสีย​กว่า​ “​ยิ่งไปกว่านั้น​พวก​เจ้า​เป็น​คนเลี้ยง​ชีพ​ด้วย​ศิลปะ​ ​ฝึกฝน​อะไร​แค่​ผิวเผิน​ ​คุณชาย​น้อย​ออกมา​ร่วมงาน​เลี้ยง​ ​คน​หนึ่ง​สวม​เสื้อผ้า​ไหม​ทอ​ลาย​ ​อีก​คน​หนึ่ง​สวม​เสื้อผ้า​ไหม​สู่​จิ​่น​ ​เขา​ยัง​กล้า​ทำ​เช่นนี้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​เป็น​คน​กล้าหาญ​ไม่น้อย​ ​หาก​วันนี้​ข้า​ไม่​ลงโทษ​เขา​ ​เกรง​ว่า​ต่อไป​เขา​คงจะ​ก่อเรื่อง​ให้​คณะ​งิ้ว​ของ​เจ้า​ ​แต่​หาก​ข้า​ลงโทษ​เขา​ ​หัวหน้า​คณะ​บอกว่า​ ​เขา​คือ​คนที​่​เจ้า​ยืม​มาจาก​คณะ​อื่น​ ​เกรง​ว่า​ข้า​คงจะ​ทำให้​หัวหน้า​คณะ​เสียหน้า​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​พูด​ต่อ​อย่าง​ลังเล​ ​“​ช่าง​น่า​ลำบากใจ​จริงๆ​”

​ก่อนที่​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​จะ​มา​เขา​ได้คิด​จุดจบ​ที่​เลวร้าย​ที่สุด​ไว้​แล้ว​ ​ตอนนี้​ได้ยิน​น้ำเสียง​ที่​ผ่อนคลาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​ของ​สรวงสวรรค์​ ​เขา​รีบ​พูด​ ​“​ล้วนแต่​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​เอง​ขอรับ​ ฮู​หยิน​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ให้​เขา​ทำให้​ท่าน​ซื่อ​จื่อ​ ​คุณชาย​น้อย​และ​หลานชาย​ของ​ท่าน​แปดเปื้อน​แน่นอน​ ​แสดง​งิ้ว​เสร็จ​แล้ว​ ​ข้า​จะ​จัดการ​เขา​ ​ไล่​เขา​ออก​ไป​จาก​เยี​่​ยน​จิง​ทันที​ขอรับ​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​โขก​หัว​ให้​สือ​อี​เหนียง​อย่างแรง​อีกครั้ง​

​“​หัวหน้า​โจว​รีบ​ลุกขึ้น​มา​เถิด​”​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​แต่ง​เข้ามา​อยู่​ใน​สกุล​สวี​นาน​แล้ว​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยัง​ไม่​ค่อย​คุ้นชิน​กับ​การ​ที่​มี​คน​ก้มหัว​ให้​ตัวเอง​ ​“​ข้า​ก็​เป็น​แขก​ ​ไม่​อยาก​ทำให้​คุณชาย​สาม​ไม่สบายใจ​ ​ในเมื่อ​หัวหน้า​โจว​ตัดสินใจ​แล้ว​ ​เช่นนั้น​กลับ​ไป​ ​ข้า​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​เล่าเรื่อง​นี้​ให้ท่าน​โหว​และ​คุณชาย​ห้า​ฟัง​แล้ว​!​”

​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​ขอตัว​ออก​ไป​ด้วย​สีหน้า​ที่​ซาบซึ้ง

​สวี​ซื่อ​จุน​ลังเล​ที่จะ​พูด​บางอย่าง

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​มี​อะไร​หรือ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ตะกุกตะกัก​ ​“​คน​คน​นั้น​ไม่ใช่​คน​ของ​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​ ​เช่นนั้น​หัวหน้า​โจว​จะ​จัดการ​เขา​ได้​เช่นไร​ขอรับ​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ที่​ไม่พอใจ

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ตกใจ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​หัวเราะ​ ​เดิน​เข้าไป​จับ​ไหล่​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​แล้ว​หอม​หน้าผาก​เขา

​สวี​ซื่อ​จุน​หน้าแดง​ ​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​…​ ​“​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก

​ครั้ง​ล่าสุด​ที่​สือ​อี​เหนียง​หอม​เขา​ก็​ผ่าน​มา​หลาย​ปี​แล้ว​

​“​จุน​เกอ​ของ​เรา​โต​ขึ้น​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความพอใจ​ ​“​รู้จัก​ใช้​สมอง​แยกแยะ​เรื่อง​ผิด​ถูก​แล้ว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​จับ​ไหล่เขา​มานั​่​งบน​เตียง​เตา​ ​“​เจ้า​พูด​ถูก​ ​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​คน​นั้น​ ​ตั้งแต่​เดิน​เข้า​ประตู​มาก​็​ไม่ได้​พูดความจริง​ ​เจ้า​ลอง​คิดดู​สิ​ ​ในเมื่อ​ท่าน​อา​ห้า​ของ​เจ้า​เป็น​คน​ส่ง​เทียบ​เชิญ​ไป​ให้​เขา​ ​แล้วยัง​เป็น​งานเลี้ยง​ของ​ท่าน​ลุง​สาม​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เทียบ​กับ​ที่​จวน​เรา​ไม่ได้​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ไม่มีทาง​กล้า​พา​ใคร​เข้ามา​ตามอำเภอใจ​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​งานเลี้ยง​เช่นนี้​มักจะ​วุ่นวาย​ ​ลาน​นอก​และ​ลาน​ใน​ก็​แบ่งแยก​ไม่ชัด​เจน​ ​หาก​คนที​่​ติดตาม​มา​แอบ​ขโมย​ของ​หรือว่า​บังเอิญ​เจอ​และ​ล่วงเกิน​ญาติ​ผู้หญิง​คน​ไหน​ ​เช่นนั้น​คงมี​โทษ​ถึงตาย​ ​ดังนั้น​ ​เขา​ไม่ใช่​คนที​่​ยืม​มาจาก​คณะ​อื่น​ ​แล้ว​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​คนที​่​ยืม​มาจาก​คณะ​อื่น​ ​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​สนิทสนม​กับ​คณะ​ของ​พวกเขา​เป็น​อย่างดี​ ​หัวหน้า​โจว​ไม่เพียงแต่​รู้จัก​พวกเขา​ดี​ ​แล้ว​พวกเขา​ก็​มักจะ​ติดตาม​มา​จัดแสดง​งิ้ว​ให้​หัวหน้า​โจว​ตอนที่​คน​ไม่พอ​ ​เช่นนั้น​ก็​ถือว่า​เป็น​คนใน​คณะ​เดียวกัน​ ​ไม่อย่างนั้น​ ​หัวหน้า​โจว​ไม่มีทาง​บอกว่า​จะ​จัดการ​เขา​ตาม​กฎเกณฑ์​ของ​คณะ​แน่นอน​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า

​“​เขา​มาถึง​ก็​บอกว่า​ท่าน​อา​ห้า​เป็น​คน​เชิญ​ ​แล้วก็​บอกว่า​รับปาก​คนอื่น​ไป​แล้ว​ ​ความหมาย​ก็​คือ​เห็นแก่หน้า​ท่าน​อา​ห้า​ของ​เจ้า​ ​เขา​จึง​หาวิ​ธีมา​จัดแสดง​ที่​จวน​ท่าน​ลุง​สาม​ของ​เจ้า​ให้​ได้​ ​พอ​เรา​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​ก็​ต้องใจ​อ่อน​เป็นธรรมดา​ ​แล้ว​เขา​ก็​บอกว่า​จับ​คน​คน​นั้น​ไว้​แล้ว​ ​รอ​ให้​ข้า​จัดการ​อยู่​ข้างนอก​ ​เมื่อ​เรา​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​ก็​ต้องหาย​โมโห​ไม่น้อย​ ​แล้วก็​บอกว่า​วันนี้​คือ​พิธี​ครบ​เดือน​ของ​หลานชาย​ข้า​ ​เห็นแก่หน้า​ญาติ​ๆ​ ​ของ​เรา​ ​เรา​คงจะ​ไม่กล้า​ทำให้​มัน​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ ​เช่นนี้​ ​มัน​ก็​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​แล้ว​ ​“

​“​ในเมื่อ​ท่าน​แม่​รู้​…​แล้ว​ทำไม​ยัง​…​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความ​สับสน

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ก็เพราะว่า​ข้า​พอใจ​กับ​การ​จัดการ​ของ​หัวหน้า​โจว​!​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่เข้าใจ

​สือ​อี​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คน​ทำ​กิจการ​มีสั​งคม​ ​มี​กฎเกณฑ์​ของ​คน​ทำ​กิจการ​ ​จัดการ​ตาม​กฎเกณฑ์​ของ​คณะ​ ​คือ​ต้อง​เปิด​ห้องโถง​บรรพชน​ต่อหน้า​บรรพบุรุษ​ ​เชิญ​ญาติผู้ใหญ่​ที่​เป็น​ที่​เคารพนับถือ​มา​ลงโทษ​ลูกศิษย์​ต่อหน้า​ทุกคน​ ​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​คือ​คณะ​งิ้ว​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ ​มีอิทธิพล​ใน​สกุล​หลี​หยวน​ ​เขา​คน​นั้น​หัวเราะเยาะ​พวก​เจ้า​ ​หัวหน้า​โจว​จัดการ​เขา​ตาม​กฎเกณฑ์​ของ​คณะ​ ​ถึงแม้ว่า​สุดท้าย​แล้ว​หัวหน้า​โจว​ไม่ได้​ไล่​เขา​ออก​ไป​จาก​เยี​่​ยน​จิง​ ​แต่​หาก​คณะ​อื่น​รู้เรื่อง​นี้​ ​ก็​ไม่มีทาง​รับ​เขา​เข้าไป​อยู่​ใน​คณะ​ ​ต่อไป​เขา​ก็​ไม่มีทาง​ได้​ร้อง​งิ้ว​อีก​ ​เช่นนี้​ก็​พอแล้ว​ ​คำ​โบราณ​ว่า​เอาไว้​ ​อย่า​รังแก​กัน​เกินไป​ ​คนที​่​ดี​แค่ไหน​ ​หาก​ถูก​รังแก​จน​ทน​ไม่ได้​ ​เขา​ก็​อาจจะ​ทำ​เรื่อง​ที่​คนอื่น​คิดไม่ถึง​ ​พวกเรา​ล้วนแต่​ถูก​บังคับ​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​ร้อง​งิ้ว​ไม่ได้​ ​แต่​ก็​ยัง​สามารถ​ทำ​อย่าง​อื่น​ได้​ ​ยัง​สามารถ​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ ​เขา​ก็​ไม่มีทาง​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​อีก​ ​เหตุใด​เรา​ถึง​ต้องหา​เรื่อง​ให้​ตัวเอง​เล่า​”

​ยัง​มี​อีก​เหตุผล​หนึ่ง​ที่​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​บอก​สวี​ซื่อ​จุน

หาก​นาง​จัดการ​คน​คน​นั้น​เอง​จริงๆ​ ​ก็​จะ​ทำให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​และฮู​หยิน​ห้า​ตกใจ​ ​ทำให้​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลาย​เป็น​จุดสนใจ​อีกครั้ง

เรื่อง​ใน​อดีต​นั้น​เป็น​ภัย​ต่อ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

แต่​กระดาษ​ห่อ​ไฟ​ไม่ได้

นาง​อยาก​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​โตก​ว่านี​้​อีก​สักหน่อย​ ​ค่อย​หา​โอกาส​ที่​เหมาะสม​ ​ให้​นาง​ได้​เล่าเรื่อง​ราว​ที่​เกี่ยวกับ​เขา​ให้​เขา​ฟัง​ด้วยตัวเอง​ ​ไม่​ใช้​ให้​เขา​ไป​ได้ยิน​มาจาก​ปากขอ​งค​นอื​่น​ ​แล้ว​พยายาม​หา​หลักฐาน​พยาน​ให้​ตัวเอง​ด้วย​ความเสียใจ​…​ถึงแม้ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จะ​ไม่ใช่​ลูก​ของ​นาง​ ​แต่​เขา​โตมา​กับ​นาง​ ​นาง​ไม่ยอม​ให้​ลูก​ของ​ตัวเอง​ต้อง​ทำ​อะไร​น่าอนาถ​เช่นนั้น​ ​นี้​คือ​เห็นผล​ที่​ทำไม​ตอนนั้น​นาง​ถึง​ต้อง​เลือก​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอย​่าง​พิถีพิถัน​ ​พิถีพิถัน​มากกว่า​ตอนที่​เลือก​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​ดูแล​จิ​่น​เกอ​เสียอีก​ ​แล้วก็​คือ​เหตุผล​ที่​ทำไม​ไม่ว่า​นาง​จะ​ไป​ที่ไหน​ก็​ต้อง​พา​เขา​ไป​ด้วย​ ​เพราะ​ตราบใดที่​เขา​อยู่​เคียงข้าง​นาง​ ​คน​พวก​นั้น​ก็​จะ​ไม่มีทาง​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​ ​ลด​โอกาส​ที่จะ​ทำให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้ยิน​ข่าวลือ​พวก​นั้น

ดังนั้น​ตอน​สุดท้าย​ที่นาง​พูดถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​ความจริง​แล้ว​นาง​กำลัง​เตือน​โจว​เต​๋อ​ฮุ่ย​ ​ว่า​หาก​ไม่​ไล่​คน​คน​นั้น​ออก​ไป​จาก​เยี​่​ยน​จิง​ตามที่​พูด​ไว้​ ​สกุล​สวี​ไม่มีทาง​ยอม​แน่นอน​

​สวี​ซื่อ​จุน​จะ​รู้ความ​คิดในใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้​เช่นไร​ ​นาง​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​เป็นประกาย​ ​“​ท่าน​แม่​เก่ง​มาก​เลย​ขอรับ​ ​แม้แต่​กฎเกณฑ์​ของ​คณะ​พวกเขา​ท่าน​ก็​รู้​”

​สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​ตก

​นาง​รีบ​พูด​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มาจาก​คนอื่น​ ​ไม่​เหมือน​เจ้า​ ​ที่​ได้​ไป​ไหน​มา​ไหน​กับ​ท่าน​พ่อ​ ​ได้​เห็น​เอง​กับ​ตาว​่า​เรื่อง​พวก​นี้​ถูกต้อง​หรือไม่​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ยิ้ม​ ​“​เข้าใจ​เรื่องราว​เป็นความ​รู้​อย่างหนึ่ง​ ​เข้าใจ​ผู้คน​ก็​เป็นความ​รู้​อย่างหนึ่ง​เช่นกัน​ ​เช่นนั้น​เจ้า​ต้อง​เรียนรู้​เรื่อง​พวก​นั้น​กับ​ท่าน​พ่อ​ให้​ดี​ ​เจอ​กับ​คน​เจ้าเล่ห์​ ​พวกเขา​จะ​ได้​หลอก​เจ้า​ไม่ได้​ ​ต่อไป​หาก​น้องๆ​ ​ตกอยู่ในอันตราย​ ​เจ้า​จะ​ได้​ปกป้อง​พวกเขา​ ​อย่า​ปล่อย​ให้​คนอื่น​รังแก​พวกเขา​!​ ​“

​“​ข้า​รู้​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​รับปาก​เสียงดัง​ ​“​ข้า​จะ​ตั้งใจ​เรียน​ ​ตั้งใจ​เรียนรู้​การ​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​กับ​ท่าน​พ่อ​ ​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​ใคร​มารัง​แกน​้​อง​ๆ​ ​แน่นอน​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ให้​เขา

​สวี​ซื่อ​จุน​เอง​ก็​ยิ้ม​หน้าบาน

​สือ​อี​เหนียง​ถือโอกาส​นี้​สั่งสอน​ ​“​เจ้า​เป็น​พี่ชาย​ ​หาก​ต่อไป​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​อีก​ ​เจ้า​ต้อง​ลาก​เจี​้ย​เกอ​ออกมา​ ​รู้​หรือไม่​”

​ใคร​จะ​รู้​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ละอายใจ​อย่างมาก​ ​เขา​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ

​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​นาง​ครุ่นคิด​แล้ว​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​จุน​เกอ​ของ​เรา​พึ่ง​จะ​เคย​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​เป็นครั้งแรก​ ​ไม่​แปลกที่​เจ้า​จะ​ไม่รู้​ ​ต่อไป​เจ้า​ก็​รู้​แล้ว​!​”

​แต่​สวี​ซื่อ​จุน​กลับ​ส่ายหน้า​ ​เขามอง​หน้า​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​…​ข้า​กลัว​ขอรับ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ

​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ ​“​…​พวกเขา​มี​เยอะ​ขนาด​นั้น​…​หาก​ป้า​หนา​นอ​อก​ไปรา​ยงา​น.​..​ข้า​กลัว​…​ข้า​จึง​จับมือ​ป้า​หนาน​เอาไว้​แน่น​…​”

​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

​สวี​ซื่อ​จุน​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​ความ​งุนงง​

​สายตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​เป็นประกาย​ด้วย​ความ​เจ้าเล่ห์​ ​“​เจ้า​กลัว​พวกเขา​ ​แล้ว​เจ้า​เคย​คิด​หรือไม่​ว่า​พวกเขา​เอง​ก็​กลัว​เจ้า​เช่นกัน​!​”

​“​พวกเขา​กลัว​ข้า​หรือ​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​มอง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความ​ฉงน​ ​“​พวกเขา​มี​กันตั​้ง​เยอะแยะ​ ​จะ​กลัว​ข้า​ได้​เช่นไร​”

​“​บน​ใน​โลก​ใบ​นี้​ ​ใช่​ว่า​ใคร​มี​คน​เยอะ​กว่า​ก็​จะ​น่ากลัว​กว่า​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ช้าๆ​ ​“​เจ้า​ลอง​คิดดู​ ​ถึงแม้ว่า​พวกเขา​จะ​มี​เยอะ​ ​แต่​สถานะ​ของ​เจ้า​สูง​กว่า​พวกเขา​ ​แค่​ไป​ฟ้อง​หัวหน้า​โจว​ ​ก็​สามารถ​ทำให้​พวกเขา​ถูก​ลงโทษ​ได้​ ​แล้ว​ ​ยัง​ถูก​ไล่ออก​ไป​จาก​เยี​่​ยน​จิง​ ​แต่​ทั้งๆ​ ​ที่​พวกเขา​รู้​ ​แล้ว​ทำไม​พวกเขา​ยัง​หัวเราะเยาะ​พวก​เจ้า​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่เข้าใจ

​สือ​อี​เหนียง​ให้กำลังใจ​เขา​ ​“​เจ้า​ลอง​นึกถึง​เหตุการณ์​ตอนนั้น​!​”

​“​เรา​ไป​หลัง​เวที​…​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ระลึก​ความหลัง​ ​“​พวกเขา​เห็น​พวกเรา​ ​พวกเขา​ก็​ยืน​กุมมือ​อยู่​ข้างๆ​…​ได้ยิน​ข้า​ถาม​ว่า​มีดาบ​ใหญ่​หรือไม่​ ​พวกเขา​ก็​เดิน​เข้ามา​ล้อมรอบ​พวกเรา​…​แล้วยัง​มี​คน​ยก​ชามา​ให้​พวกเรา​ ​มี​คน​สอน​ข้า​รำ​ดาบ​…​มี​แค่​คนที​่​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ที่​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน​…​เขา​ร้อง​งิ้ว​ให้​เรา​ฟัง​ ​แล้วยัง​ถาม​ว่า​เรา​ชอบ​ฟัง​หรือไม่​ ​หาก​ชอบ​ฟัง​ ​ต่อไป​ก็​เชิญ​คณะ​พวกเขา​ไปร​้​อง​ ​หาก​อยาก​เรียน​ร้อง​งิ้ว​ ​เขา​ยัง​สามารถ​สอน​เรา​ร้อง​ได้​…​เขา​ทา​แป้ง​ที่​หน้า​ ​แต่กลับ​ไม่​เหมือน​อวี​่ฮ​วา​ ​กลิ่น​มัน​หอม​ๆ​ ​แต่​ก็​แปลก​ๆ​ ​ข้า​ไม่​ค่อย​ชอบ​สัก​เท่าไหร่​…​ข้า​จับมือ​น้อง​ห้า​ออกมา​ ​แต่​เขา​กลับ​ห้าม​ข้า​ ​จะ​สอน​ข้า​ร้อง​งิ้ว​ให้​ได้​ ​ป้า​หนาน​เดิน​เข้ามา​ ​จะ​พา​ข้า​ออก​ไป​ ​แต่​เขา​กลับ​ขอร้อง​…​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​มองหน้า​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​ขี้ขลาด​ ​“​ข้า​จึง​ฟัง​เขา​ร้อง​สอง​สาม​ท่อน​…​น้อง​ห้า​คิด​ว่า​มัน​ไพเราะ​ ​จึง​ร้อง​ตาม​เขา​ขอรับ​…​ ​“

​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ฟัง​ก็​เดา​ออก​ว่า​ต่อมา​เกิด​อะไร​ขึ้น

ราวกับ​คนที​่​พึ่ง​ออกมา​เจอ​สังคม​ภายนอก​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ไม่​อยาก​ทำ​ ​แต่กลับ​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ ​สุดท้าย​พวก​นั้น​ได้​คืบ​จะ​เอา​ศอก​…

​นาง​ถาม​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​ตอนที่​พวก​เจ้า​เดิน​เข้าไป​ ​พวกเขา​ถาม​ว่า​เจ้า​ต้องการ​อะไร​ ​แล้วยัง​ยก​ชามา​ให้​พวก​เจ้า​ดื่ม​ ​เหมือน​บ่าว​รับใช้​ใน​จวน​ของ​เรา​ ​เช่นนั้น​พวกเขา​เริ่ม​หัวเราะเยาะ​พวก​เจ้า​ตั้งแต่​เมื่อไร​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่ได้​ตอบกลับ​มาทัน​ที​ ​เขา​ค่อยๆ​ ​ได้สติ​กลับมา​ ​“​ตอนที่​ป้า​หนาน​ตำหนิ​พวกเขา​ ​ข้า​กอด​แขน​ป้า​หนาน​แน่น​ ​น้อง​ห้า​ร้อง​งิ้ว​ให้​พวกเขา​ฟัง​ขอรับ​…​”

​สือ​อี​เหนียง​พูดเป็นนัย​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​ตอนที่​เจ้า​ไม่​กลัว​พวกเขา​ ​พวกเขา​ล้วนแต่​ต้อง​ทำตาม​ใจ​เจ้า​ ​แต่​เมื่อ​เจ้า​ทำท่า​ที​หวาดกลัว​ ​พวกเขา​ไม่เพียงแต่​ไม่​กลัว​เจ้า​ ​แล้วยัง​หัวเราะเยาะ​เจ้า​ ​ดังนั้น​ ​มัน​ไม่ได้​ขึ้นอยู่กับ​จำนวน​คน​ ​แต่​มัน​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​ใคร​กล้าหาญ​มากกว่า​กัน​!​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ก้มหน้า​ลง​ ​แล้ว​กำหมัด​แน่น

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท