ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 603 ทำอย่างไรดี (ต้น)

ตอนที่ 603 ทำอย่างไรดี (ต้น)

​จิ​่น​เกอ​อยู่​ใน​ห้องเก็บของ​กับ​ไท่ฮู​หยิน

​“​อันนี้​งดงาม​มาก​ขอรับ​!​”​ ​เขา​ชี้​ไป​ที่​ทับทิม​จาก​กล่อง​ผ้า​ที่​วาง​เรียง​เป็นแถว​ยาว

​ทับทิม​เม็ด​นั้น​ขนาด​เท่า​กำปั้น​ ​ผิว​แกะสลัก​จาก​หยก​ ​เนื้อ​เป็น​ทับทิม​ ​ด้านบน​มี​ผีเสื้อ​ตัว​น้อย​สีขาว​ที่​แกะสลัก​จาก​งาช้าง​ ​ดู​สวยงาม​อยู่​ไม่น้อย

​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​กำชับ​อวี​้​ป่าน​ ​“​เอา​อันนี้​ไป​ห่อ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​ถาม​จิ​่น​เกอ​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​มี​อัน​ไหน​ดูดี​อีก​”

​จิ​่น​เกอ​มองดู​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​พระ​สัง​กัจ​จายน์​สูง​สาม​นิ้ว

​พระ​สัง​กัจ​จายน์​รูป​นั้น​สีดำ​สนิท​ ​ดู​ไม่​ออก​ว่า​เป็น​วัสดุ​ชนิด​ใด​ ​เปลือย​ช่วง​อก​ ​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ดูเบิ​กบาน

​ไท่ฮู​หยิน​กำชับ​อวี​้​ป่าน​ ​“​เอา​อันนั้น​ไป​ห่อ​ด้วย​!​”

​อวี​้​ป่าน​ยิ้ม​พลาง​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​สอง​อด​พูด​ไม่ได้​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​จิ​่น​เกอ​อายุ​ยังน้อย​ ​ของ​สิ่ง​นี้​มีค่า​มาก​ ​หาก​ท่าน​มี​เจตนา​เช่นนี้​ ​ก็​รอ​ให้​เขา​โต​อีก​สักหน่อย​แล้ว​ค่อย​มอบให้​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​โบกมือ​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ไม่ใช่​คนที​่​จะ​ไม่รู้​ขอบเขต​!​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​โอบ​จิ​่น​เกอ​พลาง​หอม​แก้ม​หนึ่ง​ที​ ​ยิ้ม​พลาง​มอง​จิ​่น​เกอ​ ​“​ใช่​หรือไม่​ ​จิ​่น​เกอ​!​”

​จิ​่น​เกอ​รีบ​พยักหน้า

​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​เขา​อย่าง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​เจ้า​ดู​สิว​่า​ยัง​มี​อะไร​ที่​ชอบ​อีก​”

​สายตา​ของ​จิ​่น​เกอ​มอง​ไปมา​ระหว่าง​กล่อง​ผ้า​เหล่านั้น

ฮู​หยิน​สอง​มอง​ไป​ที่​ย่า​หลาน​คู่​นั้น​ด้วย​ความสนใจ​ ​ยิ้ม​อย่าง​หมดปัญญา​พลาง​ส่ายหน้า

​******

​ตอนที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ถึง​ ​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​เอนหลัง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ทิศตะวันออก​ใน​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันตก​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​นั่ง​อยู่​ข้าง​ไท่ฮู​หยิน​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​ส่วนฮู​หยิน​สอง​ก็​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้าง​เตียง​เตา​ ​โต๊ะ​ไม้​สีดำ​ลาย​วิหค​ชม​บุปผา​ที่​เดิมที​วาง​อยู่​กลาง​เตียง​เตา​ได้​ถูก​ย้ายออก​แล้ว​ ​เฉิง​เกอ​ที่​อายุ​เกือบ​แปด​เดือน​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ ​จิ​่น​เกอ​กับ​เซิน​เกอ​ ​คน​หนึ่ง​กำลัง​เล่นกล​อง​ป๋อง​แป​๋ง​ยืน​อยู่​ที่​มุม​ตะวันตก​ของ​เตียง​เตา​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ยืน​ปรบมือ​น้อย​ๆ​ ​อยู่​ข้างๆ

​“​เจ้า​มาหา​ข้า​สิ​ ​เจ้า​มาหา​ข้า​สิ​”​ ​ทั้งสอง​คน​ผลัดกัน​พูด​หยอกล้อ​เฉิง​เกอ

​เฉิง​เกอ​เบิกตา​กว้าง​ ​ดวงตา​สีดำ​ขลับ​มอง​พี่ชาย​ที่​หน้าตา​คุ้นเคย​ ​แล้ว​มอง​กลอง​ป๋อง​แป​๋ง​ที่อยู่​ใน​มือ​จิ​่น​เกอ​ ​ท่าทาง​เหมือน​ไม่รู้​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​ ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ

ฮู​หยิน​ห้า​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เตียง​เตา​ลูบ​ผม​สีดำ​ขลับ​ของ​บุตรชาย​คน​รอง​ด้วย​ความเห็นใจ​ ​“​เจ้า​เด็ก​โง่​!​”

​เฉิง​เกอ​อาศัย​โอกาส​นี้​ปีน​เข้าไป​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​มารดา​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​จิ​่น​เกอ​ก่อน​จะ​ร้อง​ ​“​อา​ ​อา​ ​อา​”​ ​อยู่นาน​ ​ราวกับว่า​จะ​ให้ฮู​หยิน​ห้า​ช่วย​แย่ง​กลอง​ป๋อง​แป​๋​งมา​ให้​เขา​

​สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​พลาง​ทักทาย​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พี่​สี่​ ​พี่สะใภ้​สี่​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​น้องชาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​วันนี้​ไม่ต้อง​เข้าเวร​หรือ​!​”

​“​ใช่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ฝ่า​บาท​เสด็จ​ไป​พักผ่อน​ช่วง​ฤดูร้อน​ที่​ตำหนัก​ซี​ซาน​ยัง​ไม่​กลับมา​ ​พวกเรา​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​อากาศ​ก็​ร้อน​ ​ผู้บัญชาการ​หลิว​จึง​ได้​เปลี่ยน​ลำดับ​เวร​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็ดี​ใจ​กัน​ทั้งนั้น​”

​ฮ่องเต้​ทรง​พา​ฮองเฮา​ ​ไท่​จื่อ​และ​คนอื่นๆ​ ​ไป​ที่​ตำหนัก​ซี​ซาน​ใน​ช่วง​กลางเดือน​หก​ ​ขุนนาง​หลวง​และ​ขุนนาง​หก​กรม​ต่าง​ก็​ติดตาม​ไป​ด้วย​ ​ซี​ซาน​ที่​เดิมที​เงียบสงัด​และ​ไม่​แออัด​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เต็มไปด้วย​ขบวนรถ​ม้า​ ​ผู้คน​ขวักไขว่​ไปมา​จน​เดิน​ชน​ไหล่​กัน

​ขณะที่​พวกเขา​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​ผู้ใหญ่​และ​เด็ก​ๆ​ ​ที่อยู่​บน​เตียง​เตา​ก็​จ้องมอง​มาทาง​นี้​กัน​หมด​ ​พอส​วีลิ​่​งค​วน​พูด​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​ตะโกน​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​แม่​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​มอง​พวกเขา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​พวก​เจ้า​มากัน​แล้ว​หรือ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​อย่างนอบน้อม​ ​“​ขอรับ​/​เจ้าค่ะ​”​ ​เข้าไป​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​และ​ทักทาย​บรรดา​สะใภ้​ ​จื่อ​หง​พาสาว​ใช้​น้อย​มา​เทน​้ำ​ชา​ ​จิ​่น​เกอ​จะ​ลง​จาก​เตียง​เตา​ ​อวี​้​ป่าน​เลย​รีบ​มาช​่วย​ใส่​รองเท้า​ ​พอ​เซิน​เกอ​เห็น​ดังนั้น​ก็​งอแง​จะ​ลง​จาก​เตียง​เตา​ด้วย​เช่นกัน​ ​อวี​้​ป่าน​จึง​ช่วย​เซิน​เกอ​ใส่​รองเท้า​ด้วย​ ​มีทั​้ง​ผู้ใหญ่​และ​เด็กน้อย​ ​ทำให้​ใน​ห้อง​วุ่นวาย​แต่กลับ​เต็มไปด้วย​ความอบอุ่น​และ​มีชีวิตชีวา

​ไท่ฮู​หยิน​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​พลาง​ยิ้ม​ตาหยี

​วุ่นวาย​อยู่​พัก​หนึ่ง​กว่า​ทุกคน​จะ​นั่งลง​ตามลำดับ

​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​สวี​ลิ่ง​ควน​เรื่อง​การ​เปลี่ยน​เวร​ ​“​ฮ่องเต้​ไม่ได้​ให้​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​อยู่​ที่​เมืองหลวง​หรือ​ ​ทำไม​ ​พวก​เจ้า​สับเปลี่ยน​เวร​กัน​แล้ว​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​ไม่ว่า​อะไร​หรือ​”

​“​ผู้บัญชาการ​หลิว​ถาม​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​แล้ว​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​บอกว่า​เรื่อง​ของกอง​ทัพ​อวี​้​หลิน​เขา​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​ ​เขา​รู้​เพียงแต่ว่า​ไม่​ควร​ปล่อย​ให้​ตำแหน่งว่าง​ ​และ​ไม่​ควร​ให้​เกิดเรื่อง​”

ฮู​หยิน​สอง​หัวเราะ​ ​“​มิน่าเล่า​ ​คนอื่น​ถึง​ได้​บอกว่า​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​เข้า​ได้​กับ​ทุกฝ่าย​ ​ไม่ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ก็​ย่อม​ได้เปรียบ​ ​เพียงแต่​เกรง​ว่า​จะ​ถูก​ผู้อื่น​จับจุด​อ่อน​ได้​ ​”

​เพราะ​มัน​เกี่ยวข้อง​กับ​ตัว​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​เอง​ ​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​ควน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​มีสี​หน้า​กังวล​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​จับจุด​อ่อน​อะไร​กัน​ ​ข้า​ก็​เพียงแค่​ไหล​ไป​ตาม​คลื่น​ ​ทั้ง​ไม่ได้​ออกหน้า​ ​แล้วก็​ไม่ได้​ไป​ขัดขวาง​คนอื่น​”

​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​เป็นกังวล​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​หัวเราะ​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ว่า​เจ้า​ ​ข้า​หมายถึง​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เมื่อก่อน​บรรดา​เก๋อ​เหล่า​ที่​อายุ​มาก​แล้ว​ ​พอ​ถึงกำหนด​ที่​ต้อง​เกษียณอายุ​ ​หาก​อยาก​จะ​รักษา​ความสัมพันธ์​ไว้​ ​ก็​ต้อง​เอา​หู​ไป​นา​เอา​ตา​ไป​ไร่​ ​แต่​ตอนนี้​คนที​่​พึ่ง​เข้ามา​ใหม่​อย่าง​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​กับ​เว​่ย​เก๋อ​เหล่า​กำลัง​อยู่​ใน​วัย​ที่​แข็งแกร่ง​ ​เป็นช่วง​เวลา​ที่​เหมาะ​จะ​วางแผน​พัฒนา​ ​หาก​ไม่มี​อะไร​ก็ดี​ไป​ ​แต่​หาก​มีเรื่อง​เกิดขึ้น​ ​เกรง​ว่า​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​จะ​ไม่​สามารถ​อธิบาย​ได้​”​

​สวี​ลิ่ง​ควน​เข้าใจ​ในทันที​ ​อด​ขมวดคิ้ว​ไม่ได้​ ​“​ตอนนี้​แว่นแคว้น​สงบสุข​แล้ว​พวกเขา​จะ​สร้างเรื่อง​ให้​มัน​น้อยลง​ไม่ได้​หรือ​อย่างไร​”

​“​แว่นแคว้น​สงบสุข​?​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​ตั้งแต่​เข้า​เดือน​หก​มาก​็​มี​เหตุการณ์​ที่​โจรสลัด​ญี่ปุ่น​ขึ้นฝั่ง​เพื่อ​เผา​ ​ฆ่า​ ​และ​ปล้น​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​พวกเรา​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​ภายใต้​บารมี​ของ​ฮ่องเต้​ ​ย่อม​ไม่ได้​รับ​ผลกระทบ​ ​แต่​ราษฎร​ใน​เขต​เจียง​หนา​นกำ​ลัง​ประสบปัญหา​อย่างหนัก​ ​เพียงแค่​ได้ยิน​ภาษา​ญี่ปุ่น​ก็​ตกใจกลัว​แล้ว​…​”

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​ว่ายิ​่งฮู​หยิน​สอง​พูด​ก็​ยิ่ง​จริงจัง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​หัวข้อ​นั้น​ยิ่ง​ถูก​ลาก​ออก​ไป​ไกล​ ​และ​ก็​เกิดขึ้น​เพราะ​สามี​ของ​นาง​ ​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​เรื่อง​เหล่านี้​ย่อม​มี​ฝ่า​บาท​และ​บรรดา​ใต้เท้า​คอย​กังวล​อยู่​แล้ว​ ​คน​อย่าง​พวกเรา​เพียงแค่​ดูแลตัวเอง​ไม่​ให้​เกิดเรื่อง​ก็​พอแล้ว​กระมัง​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​อวี​้​เกอ​กับ​จุน​เกอ​เล่า​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ตั้งใจ​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา

ฮู​หยิน​สองสี​หน้า​ขรึม​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​จิบ​ชา​เหมือน​จะ​ปิดบัง​อะไร​บางอย่าง​ ​พอ​เงยหน้า​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​สีหน้า​ก็​สดใส​ขึ้น

​ทุกคน​ไม่ได้​สังเกตเห็น​ความโดดเดี่ยว​ของ​นาง

​สายตา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก็​ไป​หยุด​อยู่​ที่​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ก้มหน้า​จัด​ชาย​เสื้อ​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​“​ข้า​ให้​พวกเขา​ทานอาหาร​เย็น​ก่อน​แล้ว​ค่อย​มา​ ​ดู​เวลา​คาด​ว่า​คง​ใกล้​จะ​ถึง​แล้ว​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​ถามถึง​การ​สอบ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​…​เกรง​ว่า​คงจะ​ต้อง​เลือก​วัน​มงคล​ที่จะ​จุด​ธูปบูชา​เทพ​เหวิน​ฉวี​่​ซิงจ​วิน​[1]​!​”​ ​พูด​พลาง​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

​“​ข้า​ดูป​ฏิ​ทิน​มา​แล้ว​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เตรียมการ​ไว้​นาน​แล้ว​ ​“​อีก​สอง​วัน​จะ​เป็น​วัน​มงคล​ ​กำลัง​เตรียมพร้อม​ว่า​จะ​พา​อวี​้​เกอ​ไป​สักการะ​สักหน่อย​”

​“​ข้าว​่า​งอยู​่​ที่​เรือน​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​ก็​จะ​ไปเป็นเพื่อน​อวี​้​เกอ​ด้วย​!​”

​“​เอา​สิ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทิวทัศน์​ที่นั่น​ไม่เลว​เลย​”

​ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​มาถึง

ฮู​หยิน​ห้า​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​มาด​้ว​ยกัน​ได้​อย่างไร​”

​ปกติ​แล้ว​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​มาคน​เดียว​เสมอ​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​เหมือน​เงา​ที่​แยกจาก​กัน​ไม่ได้

​สวี​ซื่อ​จุน​เหลือบมอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่​สอง​เป็น​คน​ชวน​พวกเรา​มา​ขอรับ​”

​“​ทุกคน​ต่าง​ก็​อาศัย​อยู่​เรือน​นอก​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ก็​แค่​เดิน​อ้อม​ไป​เล็กน้อย​ขอรับ​”​ ​ยอมรับ​คำพูด​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​อย่างนอบน้อม

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย​

​ไท่ฮู​หยิน​เรียก​สาม​พี่น้อง​มานั​่ง​ ​ซักถาม​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​เรียน​หนัก​หรือไม่​ ​น้ำแข็ง​พอใช้​หรือไม่​ ​คุณชาย​สกุล​โต้ว​ผู้​นั้น​ได้มา​หา​เจ้า​อีก​หรือไม่​”

​“​เรียน​ไม่​หนัก​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ตอบ​ทีละ​คำถาม​ ​“​น้ำแข็ง​มีพอ​ใช้​ ​เมื่อวาน​ท่าน​แม่​ก็​ส่ง​พี่​จู๋​เซียง​มาถาม​ ​คุณชาย​สกุล​โต้ว​ตาม​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ไป​ที่​ซี​ซาน​แล้ว​ ​ช่วงนี้​จึง​ไม่ได้​มาหา​ขอรับ​”

​ไท่ฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ ​หันไป​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่า​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ไป​ซี​ซาน​ยัง​พาบุ​ตร​ชาย​ไป​ด้วย​!​”

​ใน​คำพูด​แฝง​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​ราวกับ​จะ​บอกว่า​ ​‘​เจ้า​ดู​วิธี​ที่​ผู้อื่น​เลี้ยงลูก​สิ​’

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​ยืน​อยู่​เงียบๆ​ ​ตั้งแต่​เข้า​ประตู​มา​ ​จ้องมอง​สวี​ซื่อ​จุน​ด้วย​ท่าทาง​ประหลาดใจ

​นาง​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​สีหน้า​สงบนิ่ง​พลาง​ครุ่นคิด

​ทุกคน​นั่ง​คุย​กัน​มานา​นก​ว่า​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ฮู​หยิน​สอง​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา​ ​ทุกคน​เลย​แยกย้าย​กัน​ไป​เช่นกัน

​ระหว่างทาง​สือ​อี​เหนียง​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความสงสัย​ว่า​ ​“​เหตุใด​พี่สะใภ้​สอง​ถึง​รู้​เหตุการณ์​ต่างๆ​ ​ใน​ราชสำนัก​เจ้า​คะ​”

​“​ตอน​ข้า​อยู่​ที่​บ้านเกิด​ ​มี​ข่าว​ไม่ดี​ส่ง​ตรง​ไป​ถึง​ไท่​จื่อ​องค์​ก่อน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​โดยที่​เซียง​อี้​ใช้​ข้ออ้าง​ว่า​มา​เอา​เสื้อผ้า​ให้​ข้า​นำ​ข่าว​มาบ​อก​พี่สะใภ้​สอง​ ​แล้ว​พี่สะใภ้​สอง​ก็​ใช้​ข้ออ้าง​ว่า​จะ​ไป​คารวะ​ฮองเฮา​เพื่อ​ส่งข่าว​ไป​ที่​ไท่​จื่อ​องค์​ก่อน​ ​ต่อมา​มีเรื่อง​ราว​เกิดขึ้น​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ใน​บาง​สถานการณ์​พี่สะใภ้​สอง​ก็​ไม่​สามารถ​ออกหน้า​ได้​ ​พี่สะใภ้​สอง​จึง​ให้​ผู้ติดตาม​ที่​ซื่อสัตย์​ต่อตัว​เอง​คอย​อยู่​ช่วย​ที่​แผนก​รายงาน​ ​แม้ว่า​ตอนนี้​ผู้ติดตาม​ผู้​นี้​จะ​ไม่ได้​อยู่​ที่​แผนก​รายงาน​แล้ว​ ​แต่กลับ​เป็น​คนที​่​รู้​ข่าวสาร​กว้างขวาง​มากกว่า​คน​ทั่วไป​ ​บางครั้ง​เวลา​นำ​กำไร​ของ​กิจการ​มาส​่ง​ให้​พี่สะใภ้​สอง​ ​ก็​จะ​พูด​เรื่อง​ภายนอก​ให้​พี่สะใภ้​สอง​ฟัง​”

​“​มิน่าเล่า​ ​พี่สะใภ้​สอง​ถึง​ได้​รู้​ไป​เสีย​ทุกอย่าง​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​แต่​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​เรียก​เบา​ๆ​ ​อย่าง​เหนื่อยหอบ​ของ​สตรี​ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​สี่​!​”

​ทั้งสอง​คน​หันกลับ​ไป​ ​เห็น​อวี​้​ป่าน​กำลัง​เดิน​มา​อย่างรวดเร็ว

​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​สี่​!​”​ ​นาง​ควบคุม​ลมหายใจ​พลาง​ย่อเข่า​คำนับ​ ​ส่ง​ถุง​สีม่วง​อม​แดง​ปัก​ลาย​ดอก​โบตั๋น​ด้วย​ด้าย​สีทอง​ให้​ ​“​นี่​คือ​ของ​ที่​คุณชาย​น้อย​หก​ลืม​ไว้​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ให้​บ่าว​นำมา​ส่ง​โดยเฉพาะ​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

ตอน​ไป​จิ​่น​เกอ​ไม่ได้​เอา​อะไร​ติดตัว​ไป​ด้วย​…

​อวี​้​ป่าน​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​รอ​ให้​บ่าว​กลับ​ไป​ปรนนิบัติ​ท่าน​ล้างหน้า​…​”

หมายความว่า​ต้อง​รับ​ของ​ไป​ก่อน​นาง​ถึง​จะ​ไป​ได้

​สือ​อี​เหนียง​ให้​จู๋​เซียง​รับ​ถุง​มาด​้วย​ความสงสัย

​ถุง​ใบ​นั้น​ดูเหมือนว่า​จะ​หนัก​กว่า​ที่​จู๋​เซียง​คาด​ไว้​ ​ตอนที่​นาง​รับ​มาก​็​เกือบจะ​ทำ​มัน​ร่วง

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​กลับ​ไป​จึง​เปิด​ถุง​ดู

​แสง​แวววับ​เปล่งประกาย​พุ่ง​กระทบ​หน้า​ ​ทำให้​ห้อง​สว่าง​ขึ้น​เล็กน้อย​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกตะลึง​ ​“​นี่​คือ​…​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​“​ท่าน​แม่​บอกว่า​นี่​คือ​ของ​ที่​จิ​่น​เกอ​ลืม​ไว้​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ท่าน​แม่​ถึง​ได้​ให้​ของ​จิ​่น​เกอ​มากมาย​ขนาด​นี้​ ​ซ้ำ​แต่ละ​อัน​ก็​มีมูล​ค่า​มาก​!​ ​หรือว่า​ร่างกาย​ของ​ท่าน​แม่​…​”​ ​ขณะที่​พูด​น้ำเสียง​ของ​เขา​ก็​สั่นเครือ

​“​ตอน​เข้าสู่​ฤดูใบไม้ผลิ​ข้า​ได้​เชิญ​หมอ​หลวง​หลิว​มาตร​วจ​ชีพจร​ทุกคน​ใน​จวน​เป็นพิเศษ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ถ้าหาก​ท่าน​แม่​ไม่สบาย​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​หมอ​หลวง​หลิว​แล้ว​ ​หาก​ไม่​บอก​ข้า​ก็​ต้อง​บอก​ท่าน​โหว​สิ​เจ้า​คะ​!​”​ ​ทันใดนั้น​นาง​ก็​นึกถึง​ตอนที่​อู่​เหนียง​มา​เยี่ยม​ ​เล่า​เหตุการณ์​ใน​ตอนนั้น​ให้​ฟัง​ ​“​…​จะ​เป็น​เพราะ​เหตุผล​นี้​กระมัง​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตกตะลึง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ไตร่ตรอง​อย่าง​ถี่ถ้วน​ ​“​ก็​เป็นไปได้​!​”​ ​เขา​หัวเราะ​ขึ้นเสียง​ดัง​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​ ​ปกติ​ตระหนี่ถี่เหนียว​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ใน​เวลา​สำคัญ​จะ​ยัง​รู้จัก​กตัญญู​ต่อ​ผู้อาวุโส​!​ ​ไม่เลว​ ​ไม่เลว​”​ ​พอ​พูด​จบ​รอยยิ้ม​ก็​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป​ ​“​สือ​อี​เหนียง​”​ ​เขา​โอบ​ไหล่​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เป็น​เจ้าที่​สอน​ได้ดี​!​”​ ​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​ลึกซึ้ง​ ​ดู​จริงจัง​และ​จริงใจ​อย่างเห็นได้ชัด​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เขินอาย​เล็กน้อย

​นาง​กระแอม​เบา​ๆ​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ยัง​จะ​มา​พูด​อีก​ ​ข้า​กำลัง​ปวดหัว​อยู่​เลย​ว่า​จะ​ให้​ใคร​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เก็บ​ส้ม​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​พลัน​ปรากฏ​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ ​“​มีตัว​เลือก​ที่​ดียื​นอยู​่​ตรงหน้า​เจ้า​ ​เจ้า​ก็​ไม่รู้​จัก​ลอง​พิจารณา​ดู​!​”

[1]​เทพ​เหวิน​ฉวี​่​ซิงจ​วิน ​หรือ​ ​ดาว​เหวิน​ฉวี​่​ ​เป็น​ดาว​มงคล​ส่งผล​ใน​เรื่อง​การศึกษา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท