ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 616 โมโห (กลาง)

ตอนที่ 616 โมโห (กลาง)

​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​เคร่งขรึม​ขึ้น​ ​“​คุณชาย​น้อย​ห้า​อยู่​กับ​คุณชาย​น้อย​สี่​ไม่ใช่​หรือ​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​เห็น​สี่​เอ๋อร​์​หอบ​หายใจ​ ​นาง​ก็​บอกว่า​ ​“​พูด​ช้าๆ​”

​สี่​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ ​ไม่สน​ใจ​ลมหายใจ​หอบ​ถี่​ของ​ตัวเอง​ ​นาง​รีบ​พูด​ ​“​หลังจากที่​คุณชาย​น้อย​ห้ามา​คารวะ​ท่าน​แล้ว​ ​เขา​ก็​ไป​ที่​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​กับ​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​อยาก​ฝึก​เขียนหนังสือ​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​อยาก​ท่องหนังสือ​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​จึง​ให้​คุณชาย​น้อย​ห้า​ไป​ฝึก​เขียน​ที่​ห้อง​หนังสือ​ ​ส่วนตัว​เอง​ท่องหนังสือ​อยู่​ที่​ห้องโถง​ ​ยาม​เที่ยง​ ​พวกเขา​ทานข้าว​ด้วยกัน​ ​แล้วก็​ไป​นอน​กลางวัน​ที่​ห้อง​ข้างใน​ด้วยกัน​เหมือน​วัน​ธรรมดา​ ​ปู​เตียง​เสร็จ​แล้ว​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​ก็​บอก​ให้​พวก​บ่าว​ออกมา​ข้างนอก​ ​ให้​สาวใช้​น้อย​เฝ้า​อยู่​หน้า​ประตู​ ​บ่าว​และ​ปี้​หลัว​ไป​เย็บปักถักร้อย​ที่​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​ของ​ปี้​หลัว​ ​ใกล้​จะ​ถึง​ยาม​เซิน​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​และ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ยัง​ไม่​เรียก​พวก​บ่าว​เข้าไป​รับใช้​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​บ่าว​รู้สึก​ว่า​มัน​แปลก​ๆ​ ​จึง​แอบ​เดิน​ไป​ห้อง​หลัก​เงียบๆ​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​เจอ​พี่​เก๋อ​จิน​ที่​หน้า​ประตู​เจ้าค่ะ​”

​“​เก๋อ​จิน​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ

​นาง​คือ​คน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เคารพ​นาง​เป็นอย่างมาก​ ​ปี้​หลัว​และ​คนอื่นๆ​ ​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​ทั่วไป​ ​นาง​ไม่​ควร​มาดู​แล​เรื่อง​ตื่นนอน​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​

​สี่​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ ​“​ข้า​คำนับ​พี่​เก๋อ​จิน​ ​พี่​เก๋อ​จิน​บอกว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​และ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ยัง​ไม่​ตื่น​ ​นาง​จะ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​ห้อง​ของ​ตัวเอง​ก่อน​ ​บอกว่า​ประเดี๋ยว​ค่อย​มาดู​ ​หาก​คุณชาย​น้อย​สี่​และ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ตื่น​แล้ว​ ​ก็​ให้​บ่าว​ส่ง​สาวใช้​น้อย​ไป​เรียก​นาง​ ​บ่าว​ไม่กล้า​รอช​้า​ ​จึง​รีบ​ตอบรับ​ไป​เจ้าค่ะ​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​เย็บปักถักร้อย​ที่​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​ได้​ประเดี๋ยว​ ​ก็ได้​ยิน​เสียงดัง​ออกมา​จาก​ห้อง​หลัก​ ​บ่าว​เป็นห่วง​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​จึง​รีบ​วาง​สะดึง​ใน​มือ​ลง​แล้ว​ออกมา​จาก​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​มี​ความหวาดกลัว​ ​“​จากนั้น​ก็​เห็น​ป้า​ตู้​เฝ้า​อยู่​หน้า​ประตู​ ​อวี​้​ป่าน​และ​คน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​ ​สาวใช้​น้อย​ที่​เฝ้า​ประตู​คุกเข่า​อยู่​ใน​ลาน​ ​แล้วก็​ได้ยิน​เสียง​ตำหนิ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ดัง​ออกมา​จาก​ห้อง​หลัก​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ตัวตรง​ ​นาง​ขยิบตา​ให้​จู๋​เซียง​ ​บอก​ให้​นาง​ออก​ไปดู​นอก​ประตู​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​สี่​เอ๋อร​์​เบา​ๆ​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​พูดว่า​อะไร​”

​“​บ่าว​พึ่ง​จะ​เดิน​เข้าไป​ก็​ถูก​อวี​้​ป่าน​ห้าม​เอาไว้​ ​บ่าว​เลย​ได้ยิน​แค่​ไม่​กี่​ประโยค​เจ้าค่ะ​”​ ​สี่​เอ๋อร​์​ขยับ​ปาก​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สั่นเทา​ ​“​‘​พวก​เจ้า​เป็นคุณ​ชาย​สกุล​สูงส่ง​ ​ไม่ใช่​นักแสดง​งิ้ว​’​ ​แล้วยัง​บอกอี​กว่า​ ​‘​ท่าน​พ่อ​ของ​พวก​เจ้า​เชิญ​อาจารย์​มาสอน​หนังสือ​พวก​เจ้า​ ​หรือว่า​เขา​อยาก​ให้​พวก​เจ้า​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​อย่างนั้น​หรือ​ ​เรื่อง​นี้​ ​ข้า​จะ​ฟ้อง​ท่าน​พ่อ​ของ​พวก​เจ้า​…​’​”

​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​หลังจากนั้น​เล่า​”​ ​นาง​ได้ยิน​เสียง​ของ​ตัวเอง​แหบ​ลง​

​“​หลังจากนั้น​ ​ป้า​ตู้​ก็​บอก​ให้​บ่าว​กลับมา​เจ้าค่ะ​”​ ​สี่​เอ๋อร​์​พูด​ ​“​บ่าว​ไม่กล้า​อยู่​ต่อ​ ​จึง​กลับมา​ที่​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​ ​ปี้​หลัว​และ​บ่าว​แอบดู​ตรงหน้า​ต่าง​ ​ก็​เห็น​เก๋อ​จิน​และ​คน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​นำ​ถาด​ไฟ​เข้าไป​ข้างใน​ ​ต่อมา​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​เดิน​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ที่​มืดมน​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แหบแห้ง​ ​“​บ่าว​และ​ปี้​หลัว​รีบ​ไป​ที่​ห้อง​หลัก​ ​ใน​ห้อง​มีกลิ่น​ควัน​ ​ถาด​ไฟ​ที่​เก๋อ​จิน​ยก​เข้าไป​วาง​อยู่​กลาง​ห้อง​ ​ข้างใน​เต็มไปด้วย​ขี้เถ้า​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​คุกเข่า​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​รู้สึก​ผิด​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​จะ​ลาก​คุณชาย​น้อย​ห้า​ลุกขึ้น​ ​แต่​คุณชาย​น้อย​ห้า​กลับ​ไม่ยอม​ลุกขึ้น​ ​บอกว่า​ ​เขา​ทำให้​คุณชาย​น้อย​สี่​เดือดร้อน​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​หาก​ไท่ฮู​หยิน​เล่าเรื่อง​นี้​ให้ท่าน​โหว​ฟัง​ ​ท่าน​โหวต​้​อง​ตำหนิ​คุณชาย​น้อย​สี่​แน่นอน​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​น้ำตา​คลอ​เบ้า​เจ้าค่ะ

​คุณชาย​น้อย​สี่​รีบ​ปลอบใจ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​บอกว่า​ไม่เป็นไร​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​เรื่อง​นี้​เดิมที​เป็นความ​ผิด​ของ​เขา​ ​สมควร​ถูก​ท่าน​โหวตำ​หนิ​อยู่​แล้ว​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​จึง​จับ​แขน​เสื้อ​คุณชาย​น้อย​สี่​แล้ว​บอกว่า​ ​‘​ข้า​ขอโทษ​พี่​สี่​’​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​ก็​บอกว่า​ตัวเอง​เป็น​คน​ผิด​ ​ไม่​ควร​หยิบ​บันทึก​บทเพลง​ ​‘​ตำนาน​หั่น​เหยา​’​ ​เข้ามา​เจ้าค่ะ​…​”

​“​เจ้า​ว่า​อะไร​นะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​หยิบ​บันทึก​บทเพลง​ ​‘​ตำนาน​หั่น​เหยา​’​ ​เข้ามา​?​”

​สี่​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ ​“​บ่าว​ได้ยิน​คุณชาย​น้อย​สี่​พูด​เช่นนี้​เจ้าค่ะ​”

​“​แล้ว​หลังจากนั้น​?​”​ ​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ซีดเซียว

​“​เพราะ​พื้น​เย็น​ ​บ่าว​เลย​กลัว​ว่า​คุณชาย​น้อย​ห้า​จะ​คุกเข่า​จน​ไม่สบาย​ ​จึง​ช่วย​คุณชาย​น้อย​สี่​จับ​เขา​ลุกขึ้น​มา​ ​ตอนแรก​คุณชาย​น้อย​ห้า​ไม่ยอม​ลุก​ ​ปี้​หลัว​เกลี้ยกล่อม​ว่า​ ​‘​ท่าน​อย่า​ให้​คุณชาย​น้อย​สี่​เป็นห่วง​เลย​เจ้าค่ะ​’​ ​ ​ทันใดนั้น​คุณชาย​น้อย​ห้า​ก็​เปลี่ยนใจ​ทันที​ ​ไม่เพียงแต่​ยอม​ลุกขึ้น​ยืน​ ​แล้วยัง​จะ​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ ​บอกว่า​ในเมื่อ​เรื่อง​นี้​เขา​เป็น​คน​ผิด​ ​เขา​ไม่ยอม​ให้​คุณชาย​น้อย​สี่​เดือดร้อน​ไป​ด้วย​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​รีบ​ห้าม​คุณชาย​น้อย​ห้า​ ​บอกว่า​ ​ตอนนี้​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​โมโห​ ​ท่าน​ย่า​จึง​พูด​อะไร​ด้วย​ความโมโห​ ​ประเดี๋ยว​ท่าน​ย่า​หาย​โมโห​แล้ว​ ​เขา​ค่อย​ไป​ขอโทษ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​ ​ไท่ฮู​หยิน​คงจะ​ไม่ว่า​อะไร​ ​คุณชาย​น้อย​ห้า​ลังเล​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​จึง​บอกว่า​ ​‘​ท่าน​ย่า​รัก​และ​เอ็นดู​ข้ามา​ตลอด​ ​เจ้า​เคย​เห็นท่าน​ย่า​ตำหนิ​ข้า​เช่นนั้น​หรือ​’​ ​สีหน้า​ของ​คุณชาย​น้อย​ห้า​จึง​ผ่อนคลาย​ขึ้น​เจ้าค่ะ​ ​ปี้​หลัว​และ​คนอื่นๆ​ ​รีบ​ตัก​น้ำ​เข้ามา​รับใช้​คุณชาย​น้อย​ทั้งสอง​ท่าน​ล้างหน้าล้างตา​ ​ล้างมือ​และ​เก็บ​ข้าวของ​”

​“​คุณชาย​น้อย​สี่​คือ​ซื่อ​จื่อ​ ​แต่​คุณชาย​น้อย​ห้า​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​สี่​เอ๋อร​์​ก็​หยุดชะงัก​แล้ว​พูด​เบา​ลง​ ​“​บ่าว​กลัว​ว่า​ถึง​ตอนนั้น​คุณชาย​น้อย​ห้า​จะ​เสียเปรียบ​ ​จึง​บอก​ให้​มั่ว​อวี​้​คอย​ดูแล​เขา​อยู่​ที่นั่น​ ​ส่วน​บ่าว​มารา​ยงานฮู​หยิน​ก่อน​เจ้าค่ะ​…​”​ ​นาง​พูด​พลาง​มองดู​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

บันทึก​บทเพลง​ ​คือ​บันทึก​บทเพลง​ของ​นักแสดง​งิ้ว​ที่สามา​รถ​ร้อง​ตาม​ได้

หาก​เป็นเรื่อง​อื่น​ ​นาง​คงจะ​กังวล​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จะ​โทษ​สวี​ซื่อ​จุน​เหมือน​ที่สี่​เอ๋อร​์​กังวล​ ​แต่​มัน​คือ​เรื่อง​ของ​บันทึก​บทเพลง​…​ถึงแม้ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​จะ​เป็น​คน​นำมา​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เอง​ก็​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​เหมือนกัน

​จิ​่น​เกอ​แอบ​ฟัง​ตั้งแต่​สี่​เอ๋อร​์​เข้ามา​แล้ว​ ​เขา​เงยหน้า​ขึ้น​มา​อยาก​จะ​พูดแทรก​ตั้ง​หลายครั้ง​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​หน้า​มารดา​ก็​พลัน​นึกถึง​คำพูด​ของ​นาง​ ​เขา​จึง​พยายาม​วาดภาพ​ไก่​สาม​ตัว​ให้​เสร็จ​ ​จากนั้น​ก็​โยน​พู่กัน​ลง​ใน​กระบอก​แล้ว​พุ่งตัว​เข้ามา​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​พี่​สี่​และ​พี่​ห้า​ก่อเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​ขอรับ​”​ ​เขา​ถาม​ด้วย​ท่าที​อยากรู้อยากเห็น

​มองดู​บุตรชาย​ที่​ไม่รู้​อีโหน่อีเหน่​ของ​ตัวเอง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​

​นาง​ยิ้ม​แล้ว​แตะ​หน้าผาก​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​“​วาดภาพ​ไก่​ของ​เจ้า​ให้​ดี​”

​จิ​่น​เกอ​รีบ​หยิบ​กระดาษ​เฉิง​ซิน​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้าวาด​เสร็จ​แล้ว​ขอรับ​”

​ไก่​สาม​ตัว​กำลัง​จิก​ข้าว​อยู่​ ​ไม่เพียงแต่​วาด​ไก่​ทั้งตัว​สมบูรณ์แบบ​ ​แถม​ยัง​วาด​จุด​ใต้เท้า​ไก่​อีกด้วย

​จิ​่น​เกอ​ชี้​ไป​ที่​จุด​สอง​สาม​จุด​นั้น​ ​“​นี่​คือ​เมล็ดข้าว​ที่​ไก่​ทาน​”

พยายาม​วาดภาพ​นี้​ให้​เสร็จ​แล้ว​ค่อย​พูด​…

บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​พึ่ง​จะ​อายุ​แค่​ห้า​ขวบ​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​

​นาง​กอด​เขา​ ​“​จิ​่น​เกอ​เก่ง​จริง​เชียว​!​”

​จิ​่น​เกอ​ดิ้น​ออกมา​จาก​อ้อมแขน​ของ​นาง​ ​ก่อน​จะ​ยิ้ม​อย่าง​ภาคภูมิใจ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​เรา​ไปหา​พี่​สี่​กับ​พี่​ห้า​กัน​เถิด​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​พวกเขา​จะ​ถูก​ท่าน​พ่อ​เฆี่ยนตี​!​”

​เกิดเรื่อง​ขึ้น​แล้วก็​ต้อง​แก้ไข​ ​เดิมที​นาง​ก็​อยาก​ไป​ถาม​สถานการณ์​พวกเขา​อยู่​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ได้​เลย​”​ ​จากนั้น​ก็​ลงมา​จาก​เตียง​เตา​

​สี่​เอ๋อร​์​รีบ​หมอบ​ตัว​ลง​สวม​รองเท้า​ให้​สือ​อี​เหนียง

​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หยิบ​รองเท้า​แล้ว​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ที่​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ

​บรรยากาศ​ใน​ลาด​เงียบสงัด​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตกใจ​กับ​การ​มา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สี่​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ข้างหลัง​สือ​อี​เหนียง​ ​พวกเขา​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​

​สือ​อี​เหนียง​ไล่​สาวใช้​ใน​ห้อง​ออก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอย​่าง​ตรงไปตรงมา​ ​“​เหตุใด​ท่าน​ย่า​ถึง​ได้​โมโห​ขนาด​นี้​”

​สวี​ซื่อ​จุน​นึกถึง​ความเป็นห่วง​ที่​ท่าน​แม่​มีต​่อ​ตัวเอง​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เขา​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ชอบ​ให้​เขา​ร้อง​งิ้ว​ ​จึง​ไม่สบายใจ​เลย​ก้มหน้า​ลง​ ​สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พูดว่า​ ​“​สอง​สาม​วันก่อน​ข้า​เห็น​น้อง​ห้า​ตั้งใจ​เรียน​ทุกวัน​ ​ขยันขันแข็ง​เป็นอย่างมาก​ ​แม้แต่​ขลุ่ย​ก็​ไม่​เป่า​แล้ว​ ​คิด​ว่าน​้​อง​ห้า​ชอบ​ร้องเพลง​ ​วันนั้น​ไป​จวน​ของ​หวัง​อวิ​่น​ ​เห็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​เขา​นำ​บันทึก​บทเพลง​ ​‘​ตำนาน​หั่น​เหยา​’​ ​มาคืน​เขา​ ​บอกว่า​ชอบ​ฟัง​บทเพลง​นี้​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​นำ​ไป​คัดลอก​เอาไว้​ ​ข้า​นึกถึง​น้อง​ห้า​ ​จึง​ขอยืม​กลับมา​ ​คิด​ว่า​สอง​สาม​วันนี้​มี​เวลา​จะ​คัดลอก​เอาไว้​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ลง​ ​“​แต่กลับ​ถูก​ท่าน​ย่า​จับได้​…​ ​บอกว่า​พวก​ข้า​ไม่​ตั้งใจ​เรียน​ ​แล้ว​เผา​บันทึก​บทเพลง​ทิ้ง​…​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ทำ​สีหน้า​ลำบากใจ​

เพราะว่า​ไม่รู้​จะ​อธิบาย​ให้​หวัง​อวิ​่น​ฟัง​เช่นไร​ใช่​หรือไม่

​สือ​อี​เหนียง​สีหน้า​มืดมน​ลง​ ​“​เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​ท่าน​ย่า​ไม่​ควร​เผา​บันทึก​บทเพลง​เช่นนั้น​หรือ​!​”

​“​ไม่ใช่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พูด​ ​“​มัน​คือ​ความผิด​ของ​ข้า​ ​ข้า​ไม่​ควร​ยืม​บันทึก​บทเพลง​มาจาก​หวัง​อวิ​่น​”​ ​ปาก​ยอมรับผิด​ ​แต่​สีหน้า​กลับ​สับสน​ ​ทำให้​เขา​ดู​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​

​สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​เขา​

หาก​ไม่มี​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​คนที​่​คัดลอก​บันทึก​บทเพลง​คือ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​คนอื่น​คงจะ​คิด​ว่า​เขา​มี​อารมณ์​ศิลป์​ ​รวมถึง​เขา​เอง​ก็​คงจะ​คิด​เช่นนี้

ถึงแม้ว่า​จะ​ยอมรับผิด​ ​แต่​เขา​ไม่รู้​จริงๆ​ ​ว่า​ตัวเอง​ทำ​อะไร​ผิด

​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​หน้าแดง​ก่ำ​ ​รีบ​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ขอรับ​ ​มัน​เป็นความ​ผิด​ของ​ข้า​ ​ข้า​ไม่​ควร​บอก​พี่​สี่​ว่า​หาก​มีบัน​ทึก​บทเพลง​ก็​คงจะ​ดี.​..​”

​“​ที่จริง​แล้ว​ ​การทำผิด​พลาด​ก็​ถือเป็น​บทเรียน​อย่างหนึ่ง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​แต่​พวก​เจ้า​สอง​คน​ล้วนแต่​มีความผิด​!​”

​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยืน​ตัวตรง​อย่าง​ไม่สบายใจ

​“​ท่าน​ย่า​ของ​พวก​เจ้า​พูด​ถูก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​ท่าน​พ่อ​ของ​พวก​เจ้า​เชิญ​อาจารย์​ที่​เก่งกาจ​เช่นนี้​มาสอน​หนังสือ​พวก​เจ้า​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​ต้อง​ใช้​ความตั้งใจ​มาก​แค่ไหน​ ​แต่​พวก​เจ้า​กลับ​ไม่รู้​จัก​หวงแหน​ ​แล้วยัง​ไป​สนใจ​เรื่อง​อื่น​ ​ใน​จวน​ไม่มี​บันทึก​บทเพลง​ ​ก็​ยัง​ไป​ยืม​มาจาก​หวัง​อวิ​่น​ ​ไม่​แปลกที่​ท่าน​ย่า​ของ​พวก​เจ้า​โมโห​จน​เผา​บันทึก​บทเพลง​ทิ้ง​ ​หาก​เป็น​ข้า​ ​ข้า​คงจะ​ลาก​พวก​เจ้า​ไป​คุกเข่า​ที่​ศาล​บรรพชน​ตั้ง​นาน​แล้ว​”​

​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​้​มห​น้า​ลง

​“​ใครๆ​ ​ต่าง​ก็​ชอบ​ฟังเพลง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ลง​ ​“​ร้อง​เป็น​สอง​สาม​ท่อน​คือ​เรื่อง​ที่​ดี​ ​แต่​เรื่อง​เช่นนี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​เด็ก​อย่าง​พวก​เจ้า​ควร​ทำ​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​พวก​เจ้า​เป็น​เหมือนกับ​ต้นกล้า​ที่​กำลัง​เติบโต​ ​การเรียน​เป็น​เหมือน​ลำต้น​ ​การร้อง​เพลง​เป็น​เหมือน​กิ่ง​และ​ใบ​ ​หาก​ไม่​ทำให้​ลำต้น​เจริญเติบโต​อย่างเต็มที่​ ​เช่นนั้น​กิ่ง​และ​ใบ​จะ​งอกงาม​ได้​เช่นไร​ ​แล้ว​พวก​เจ้า​จะเข้า​ใจ​เสน่ห์​ที่แท้​จริง​ของ​บทเพลง​ได้​เช่นไร​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ชอบ​มาก​แค่ไหน​ ​แต่​มัน​ก็​แค่​ผิวเผิน​ ​เป็น​แค่​อารมณ์​ศิลป์​ก็​แค่นั้น​!​”

​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​มีท​่า​ที​เหมือน​ไท่ฮู​หยิน​ ​สีหน้า​ของ​พวกเขา​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​

​“​เมื่อ​ครู่​พวก​เจ้า​เขียน​บันทึก​บทเพลง​ใช่​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เขียน​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตกใจ​ ​ถึงแม้​จะ​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​แม่​หมายความว่า​อะไร​ ​แต่​เขา​ก็​พูด​อย่าง​รู้ความ​ ​“​เขียน​ได้​สองหน้า​ขอรับ​”

​“​เหตุใด​ถึง​เขียน​แค่​สองหน้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ ​“​ยาม​เที่ยง​พวก​เจ้า​ไม่ได้​นอน​กลางวัน​ไม่ใช่​หรือ​ ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​กว่า​ๆ​ ​เหตุใด​ถึง​เขียน​ได้​แค่​สองหน้า​”

​“​เป็น​เพราะ​ไม่รู้​จัก​ตัวอักษร​บาง​ตัว​ขอรับ​ ​ข้า​เลย​ต้อง​ไปหา​ใน​หนังสือ​ ​‘​ตีความ​อักษร​’​…​”​ ​พอส​วี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​จบ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ทำ​สีหน้า​ครุ่นคิด

​สือ​อี​เหนียง​ถือโอกาส​ตี​เหล็ก​ตอนที่​กำลัง​ร้อน​ ​“​แม้แต่​ตัวอักษร​ก็​ยัง​รู้จัก​ไม่​หมด​แล้วยัง​คัดลอก​บันทึก​บทเพลง​ ​ก็​คงจะ​มี​แค่​พวก​เจ้า​สอง​คนที​่​กล้า​ทำ​เช่นนี้​!​”

​พวกเขา​สอง​คนมีสี​หน้า​ลำบากใจ​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท