ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 627 เติบโต (ต้น)

ตอนที่ 627 เติบโต (ต้น)

“​เช่นนั้น​ตอนนี้​จิ​่น​เกอ​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เพิ่ม​อีก​สอง​คน​?​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​วาง​หนังสือ​ใน​มือ​ลง​ ​ยิ้ม​แล้ว​รับ​ถ้วยชามา​จาก​เซี่ยง​ซื่อ​ ​“​แล้ว​อีก​คน​หนึ่ง​อายุ​แค่​สาม​ขวบ​?​”

เซี่ยง​ซื่อ​พยักหน้า​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอนที่​ข้า​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​ ​คนที​่​ชื่อ​ฉัง​ซุ่น​กำลัง​นั่ง​ทาน​ลูกกวาด​อยู่​ใต้​ชายคา​ ​สาวใช้​น้อย​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​เฝ้า​เขา​อยู่​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​ท่าน​แม่​แล้ว​ ​ฉั​งอาน​ยัง​ได้​เรียน​ศิลปะ​การต่อสู้​กับ​อาจารย์​ผัง​กับ​คุณชาย​น้อย​หก​อีกด้วย​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​จิบ​ชา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​บิดา​มารดา​ของ​ฉั​งอา​นคือ​ผู้ติดตาม​ของ​ท่าน​แม่​ ​ฉั​งอาน​ติดตาม​จิ​่น​เกอ​ไม่ใช่​เรื่อง​แปลก​ ​แต่ว่า​ฉัง​ซุ่น​ ​เด็ก​ขนาด​นี้​ก็ตาม​มาด​้ว​ย.​..​”​ ​เขา​ยิ้ม​ ​“​เกรง​ว่า​คงจะ​เป็น​เจตนา​ของ​ท่าน​แม่​ ​ตอนที่​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยัง​เด็ก​ท่าน​แม่​ก็​ทำ​เช่นนี้​ ​มักจะ​คิด​หาวิ​ธี​พา​พวกเขา​ไป​เล่น​ ​ฉัง​ซุ่น​น่าจะเป็น​เพื่อน​ที่​ท่าน​แม่​หามา​ให้​จิ​่น​เกอ​”

เซี่ยง​ซื่อ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​ฉัง​ซุ่น​น่ารักน่าเอ็นดู​ ​ไม่เพียงแต่​สะอาดสะอ้าน​ ​เเล้ว​ยัง​ไม่​กลัว​คนแปลกหน้า​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​คิดถึง​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​ขึ้น​มา​…​แต่งงาน​มาสี​่​เดือน​แล้ว​ ​แต่​นาง​ยัง​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​ถึงแม้ว่า​แม่​สามี​จะ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​แต่​มารดา​และ​คน​สกุล​เดิม​ของ​ตน​กลับเป็น​กังวล​แทน​ ​อีก​สอง​วัน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​จะ​กลับ​เล่อ​อาน​แล้ว​ ​นาง​ยิ่ง​ไม่มี​โอกาส​แล้ว​!

คิด​เช่นนี้​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​หม่นหมอง​ลง​ ​น้ำเสียง​ดู​ไร้​เรี่ยวแรง​

ยิ่ง​ใกล้​วันที่​เขา​จะ​กลับ​เล่อ​อาน​ ​ความผิดหวัง​ของ​เซี่ยง​ซื่อ​ก็​ยิ่ง​มีมาก​ขึ้น​ ​ถึงแม้​ปากของ​นาง​จะ​บอกว่า​อยาก​ให้​เขา​กลับ​ไป​ตั้งใจ​เรียน​ ​นาง​จะ​รับใช้​พ่อ​สามี​และ​แม่​สามี​เป็น​อย่างดี​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​สัมผัส​ได้​ถึง​ความอาลัย​อาวรณ์​ของ​ภรรยา

เห็น​ภรรยา​ตัวเอง​ท่าทาง​เปลี่ยนไป​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ครุ่นคิด​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​จะ​เขียนจดหมาย​กลับมา​บ่อยๆ​!​”

เซี่ยง​ซื่อ​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หน้าแดง

สามี​ตัดสินใจ​จะ​กลับ​ไป​ตั้งใจ​เรียนหนังสือ​ที่​เล่อ​อาน​ ​ขึ้นปีใหม่​เขา​ก็​คงจะ​ไม่​กลับมา​…​สิ่ง​ที่นาง​ชื่นชม​สามี​ตัวเอง​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ความแน่วแน่​ของ​เขา​!

“​ท่าน​พี่​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ไม่เป็นอะไร​แน่นอน​!​”​ ​นาง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​ต่อ​อีก​

ทันใดนั้น​ ​พวกเขา​สอง​คน​ก็​พลัน​พูดไม่ออก​ ​แต่​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​กลับ​ตลบอบอวล​ไป​ด้วย​ความอบอุ่น

*****

สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดิน​ออกมา​ ​พวกเขา​สอง​คน​กำลัง​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​โคมไฟ​ที่​ทำ​ล้มเหลว​ใน​เทศกาล​โคมไฟ​ ​“​…​หาก​รู้​ว่า​เป็น​เช่นนี้​ ​เรา​ไม่​ควร​ใช้​ไพฑูรย์​แต่​ควร​ใช้​ผ้า​ทอ​ใย​ไหม​แทน​”

“​ยิ่งไปกว่านั้น​เรา​ต้องการ​ใช้​จำนวนมาก​ ​ไพฑูรย์​ต้อง​ให้​ผู้ดูแล​ไป​ช่วย​สั่ง​ที่​ร้านค้า​คง​ลำบาก​เกินไป​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ใช้​ผ้า​ทอ​ใย​ไหม​ดีกว่า​ ​ข้า​ทำ​เพิ่ม​อีก​สัก​สอง​สาม​อัน​ก็ได้​ ​หาวิ​ธี​แก้ไข​ได้​แล้ว​ขอรับ​!​”

ตั้งแต่​วันที่​เขา​ฟุบ​หัว​ร้องไห้​บน​ตัก​สือ​อี​เหนียง​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​พยายาม​ที่จะ​ไม่​รบกวน​ผู้อื่น​

สวี​ซื่อ​จุน​ไม่เห็นด้วย​ ​“​มัน​จะ​ไป​ยาก​อะไร​ ​บอก​ให้ฮั​่่​วชิง​ไป​เอา​ที่​ห้องเก็บของ​ก็ได้​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​เห็น​สี่​เอ๋อร​์​กำลัง​ยืน​คุย​กับ​สาวใช้​น้อย​อยู่​ตรง​ทางเดิน​ ​สาวใช้​น้อย​คน​นั้น​เขา​ก็​รู้จัก​ ​นาง​ทำงาน​อยู่​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​พวก​นาง​สอง​คน​ไม่สน​ใจ​ว่า​ตรง​ทางเดิน​มี​ลม​ ​ถูก​ลม​พัด​จน​หน้าแดง​ ​แต่​ก็​ยัง​พูดคุย​กัน​อย่าง​มีความสุข

“​เหตุใด​ถึง​ไม่​ไป​พูดคุย​ที่อื่น​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​อย่า​คิด​ว่า​ถึง​ฤดูใบไม้ผลิ​แล้ว​ ​แต่​ลม​สอง​วันนี้​ยัง​แรง​อยู่​”

สี่​เอ๋อร​์​และ​สาวใช้​น้อย​คน​นั้น​เดิน​เข้าไป​ย่อเข่า​คำนับ​พวกเขา​สอง​คน

สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ใบหน้า​ของ​สี่​เอ๋อร​์​มี​ความดีใจ​ที่เก็บ​เอาไว้​ไม่อยู่​ ​ไม่มี​สีหน้า​เคร่งขรึม​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​แล้วก็​เพราะว่า​สี่​เอ๋อร​์​คือ​คนที​่​สือ​อี​เหนียง​มอบให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​สวี​ซื่อ​จุน​หรือว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​พวกเขา​ล้วนแต่​ปฏิบัติ​กับ​นาง​ไม่​เหมือน​สาวใช้​ทั่วไป​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​แล้ว​หยอกล้อ​นาง​ ​“​พี่​สี่​เอ๋อร​์​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​ ​ไหน​ลอง​เล่า​ให้​พวก​ข้า​ฟัง​ ​พวก​ข้า​จะ​ได้​ร่วม​ยินดี​ด้วย​”

สี่​เอ๋อร​์​ได้ยิน​ข่าวดี​จาก​สาวใช้​น้อย​ที่​ตัวเอง​สนิทสนม​ ​รู้​ว่า​หลานชาย​ทั้งสอง​คน​ของ​ตัวเอง​กำลังจะ​เข้ามา​เป็น​บ่าว​รับใช้​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ใน​จวน​ ​นาง​จึง​ดีใจ​เป็นอย่างมาก

ไม่รู้​ว่า​มีตั​้​งกี​่​คนที​่​อยาก​เป็น​บ่าว​รับใช้​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​สอง​สาม​วันก่อน​ยัง​มี​คน​ถูก​เฆี่ยน​เพราะ​รีบร้อน​เกินไป​ ​แต่​หลานชาย​ของ​ตัวเอง​กลับ​สามารถ​เข้ามา​เป็น​บ่าว​รับใช้​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​โดยที่​ไม่ต้อง​ออกแรง​อะไร​…​เห็นได้ชัด​ว่าฮู​หยิน​สนิทสนม​กับ​ครอบครัว​ของ​ตัวเอง​มาก​แค่ไหน​

นาง​เข้ามา​ทำงาน​ใน​จวน​นาน​แล้ว​ ​แล้วยัง​ทำงาน​อยู่​ที่​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​การช่วงชิง​กัน​ของ​บรรดา​ผู้ดูแล​หญิง​ ​ป้า​รับใช้​และ​สาวใช้​ ​แล้วยัง​มี​ความคาดหวัง​ที่​ทุกคน​มีต​่อ​คุณชาย​น้อย​สี่​และ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​นาง​เห็น​มัน​เอง​กับ​ตา​ ​เห็น​ว่า​คนที​่​ถาม​คือ​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​นาง​พยายาม​เก็บความ​ดีใจ​ใน​ใจ​เอาไว้​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​เปิดม่าน​ให้​พวกเขา​สอง​คน​ ​รับใช้​พวกเขา​เข้าไป​ข้างใน​ห้อง

แต่​สาวใช้​ที่​รับใช้​อยู่​ใน​ห้อง​ของ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ไม่สน​ใจ

ฮู​หยิน​ยกย่อง​พวกเขา​เช่นนี้​ ​ไม่ว่า​เป็น​ใคร​ก็​คงจะ​ยิ้ม​ไม่​หุบ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เมื่อ​ครู่​สี่​เอ๋อร​์​เอาแต่​ยิ้ม​ ​นาง​คิด​ว่า​สี่​เอ๋อร​์​ไม่กล้า​พูด​ ​จึง​หยอกล้อ​ว่า​ ​“​หลานชาย​ของ​พี่​สี่​เอ๋อร​์​กำลังจะ​เข้ามา​ทำงาน​ใน​จวน​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แปลกใจ

สี่​เอ๋อร​์​คิด​ว่า​สาวใช้​น้อย​คน​นี้​วุ่นวาย​ ​จึง​เบิกตา​กว้าง​ใส่​สาวใช้​น้อย​คน​นั้น​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​อธิบาย​ว่า​ ​“​วันนี้​พี่สะใภ้​ของ​บ่าว​พา​หลานชาย​สอง​คน​เข้ามา​คารวะฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​หลานชาย​ของ​บ่าว​น่าสนใจ​ ​จึง​ถาม​พวกเขา​ว่า​อยาก​เข้ามา​เป็น​บ่าว​รับใช้​คุณชาย​น้อย​หก​หรือไม่​ ​หลานชาย​ของ​บ่าว​ยัง​เด็ก​ ​ฉั​งอาน​ปีนี​้​อายุ​เจ็ด​ขวบ​ ​ฉัง​ซุ่น​พึ่ง​จะ​อายุ​สาม​ขวบ​ ​พวกเขา​ยัง​ไม่รู้​ความ​ ​ทุกครั้งที่​เข้ามา​ใน​จวน​กับ​พี่สะใภ้​พวกเขา​มักจะ​ได้​ทาน​ลูกกวาด​และ​ได้รับ​เงินราง​วัล​ ​ได้ยิน​ว่า​จะ​ได้​เข้ามา​ใน​จวน​ ​พวก​ขา​จึง​รีบ​ตอบ​ตกลง​เจ้าค่ะ​”​ ​ตอนที่​คุณชาย​น้อย​สี่​อยู่​ที่​ลาน​ข้างใน​ ​เขา​มีบ​่า​วรับ​ใช้​แค่​สาม​คน​ ​ออกมา​อยู่​ลาน​ข้างนอกฮู​หยิน​จึง​เพิ่ม​บ่าว​รับใช้​ให้​เขา​อีก​สอง​คน​ ​ตอนนี้​คุณชาย​น้อย​หก​มีบ​่า​วรับ​ใช้​สอง​คน​แล้ว​ ​แต่ฮู​หยิน​กลับ​เพิ่ม​ให้​เขา​อีก​สอง​คน​…​นาง​จึง​พยายาม​เล่าเรื่อง​นี้​อย่าง​่า​ยดาย​ ​“​แต่ว่า​พวกเขา​ยัง​เด็ก​ ฮู​หยิน​ก็​แค่​ลอง​ถาม​ ​สรุป​แล้ว​จะ​เป็น​เช่นไร​ก็​ยัง​ไม่รู้​เจ้าค่ะ​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รู้สึก​ว่า​สือ​อี​เหนียง​โปรดปราน​ลูก​ๆ​ ​ของ​ปินจ​วี​๋​ ​หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​ที่​เคย​รับใช้​นาง​ ​เขา​คิด​ว่า​มัน​เป็นไปได้​ที่​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​พวกเขา​น่าสนใจ​จึง​พูด​เช่นนั้น​ออกมา​ ​จึง​ไม่ได้​คิด​อะไร​ ​“​ฉั​งอาน​เข้ามา​ทำงาน​ใน​จวน​ยัง​พอ​ไหว​ ​แต่​หาก​ฉัง​ซุ่น​เข้ามา​ ​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​มี​คน​คอย​ดูแล​เขา​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​นึกถึง​ท่าทาง​ที่​ขี้ขลาด​ตาขาว​ของ​ฉัง​ซุ่น​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ปินจ​วี​๋​ขึ้น​มา​ ​อด​หัวเราะ​ออกมา​ไม่ได้

แต่​สวี​ซื่อ​จุน​กลับ​นึกถึง​ตอนที่​ตัวเอง​ยัง​เด็ก​ ​สือ​อี​เหนียง​ชอบ​ให้​บ่าว​รับใช้​ของ​เขา​พา​เขา​ไป​เล่น​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​ผู้ชาย​ต้อง​เล่น​กับ​ผู้ชาย​ ​มัว​แต่​ไป​ขว้าง​ถุง​ทราย​กับ​สาวใช้​ ​ต่อไป​คงจะ​จับเป็น​แค่​เข็ม​กับ​ด้าย​ ​แล้วยัง​มักจะ​สนับสนุน​ให้​เขา​ไป​เดินเล่น​ไป​วิ่ง​ให้​บ่อยๆ​ ​แอบ​กระโดด​เชือก​กับ​เขา​ ​เห็น​ว่า​บ่าว​รับใช้​สอง​คน​นั้น​น่าสนใจ​ ​จึง​บอก​ให้​พวกเขา​เข้ามา​เล่น​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​นับว่า​เป็นเรื่อง​ที่​คน​อย่าง​สือ​อี​เหนียง​จะ​ทำ

เขา​เอง​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​เช่นกัน

สาวใช้​น้อย​คน​นั้น​คิด​ว่า​สี่​เอ๋อร​์​ถ่อมตัว​เกินไป​ ​คุณชาย​น้อย​ทั้งสอง​คน​ก็​หัวเราะ​ ​นาง​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ในเมื่อฮู​หยิน​สัญญา​แล้ว​ ​เช่นนั้น​ท่าน​โหวก​็​ต้อง​ตอบ​ตกลง​แน่นอน​ ​ถึง​ตอนนั้น​หลานชาย​ทั้งสอง​คน​ของ​พี่​สี่​เอ๋อร​์​ต้อง​ได้​เข้ามา​ทำงาน​ใน​จวน​แน่นอน​เจ้าค่ะ​!​”

สี่​เอ๋อร​์​ขมวดคิ้ว​พลาง​มอง​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน

สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​เห็นด้วย​กับ​คำพูด​ของ​สาวใช้​น้อย​คน​นั้น

“​น้อง​หก​ดื้อดึง​ ​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​เหล่านั้น​ล้วน​ทำ​อะไร​เขา​ไม่ได้​ ​ควร​เพิ่ม​บ่าว​รับใช้​ให้​เขา​สัก​สอง​คน​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เจ้า​ไม่รู้​ ​สอง​วันก่อน​ข้า​ไป​เก็บ​ดอก​กล้วยไม้​ที่​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​ ​บังเอิญ​เจอ​พี่​เจี​๋ย​เซียง​ ​นาง​กำลัง​ย้าย​ดอก​กล้วยไม้​อยู่​ที่นั่น​ ​ได้ยิน​ว่า​คุณชาย​น้อย​หก​กำลัง​วาดภาพ​ต้น​ไผ่​อยู่​ที่​เรือน​เสา​หวา​ ​ข้า​จึง​ตาม​ไป​คารวะ​ท่าน​ป้า​สอง​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​พอ​เข้าไป​ใน​ลาน​ ​ท่าน​ป้า​สอง​ ​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ต่าง​ก็​เหงื่อ​ออก​เต็ม​หน้า​ ​กำลัง​ช่วยกัน​ตามหา​น้อง​หก​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตกใจ

ท่าน​ป้า​สอง​เป็น​ม่าย​ ​ดังนั้น​หาก​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​พวกเขา​ก็​ไม่กล้า​ไปร​บก​วน

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​ขอรับ​”​ ​เขา​ถาม​ ​“​ท่าน​แม่​รู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​”​ ​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​เป็นกังวล

“​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อะไร​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดินตาม​เขา​เข้าไป​ ​“​ท่าน​ป้า​สอง​ได้ยิน​ว่าน​้​อง​หก​จะ​วาดภาพ​ต้น​ไผ่​ ​จึง​ปู​กระดาษ​ไว้​บน​โต๊ะ​หิน​ใน​ลาน​ ​น้อง​หก​วิ่ง​ไปดู​ต้น​ไผ่​ใน​ป่าไผ่​อยู่นาน​ ​จากนั้น​ก็​วิ่ง​กลับมา​วาดภาพ​ที่​โต๊ะ​หิน​ ​ท่าน​ป้า​สอง​นั่ง​ดู​อยู่​ข้างๆ​ ​เห็น​ว่า​เขา​วาด​ต้น​ไผ่​จะ​เสร็จ​แล้ว​ ​ท่าน​ป้า​สอง​จึง​บอก​ให้​สาวใช้​นำ​น้ำ​หิมะ​ออกมา​ชงชา​ ​น้อง​หก​ได้ยิน​แล้วก็​จะ​ตาม​ไป​ ​ท่าน​ป้า​สอง​บอก​ให้​เขา​ตั้งใจ​วาดภาพ​ ​ตอนนั้น​เขา​ตอบ​ตกลง​ ​แต่​สุดท้าย​แอบ​กลับ​เข้าไป​ใน​ป่า​ ​วิ่ง​ไป​ช่วย​สาวใช้​หาน​้ำ​หิมะ​ที่​หลัง​ลาน​ ​ท่าน​ป้า​สอง​เห็น​ว่า​เขา​เข้าไป​ใน​ป่า​ตั้ง​นาน​แล้วยัง​ไม่​ออกมา​ ​จึง​บอก​ให้​คน​ไป​ตามหา​เขา​”

ในขณะที่​เขา​กำลัง​พูด​ ​พวกเขา​สอง​คน​ก็​เดิน​เข้าไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​

สี่​เอ๋อร​์​ให้ความสำคัญ​กับ​เรื่อง​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​นาง​ยก​ชามา​ให้​พวกเขา​สอง​คน​ด้วยตัวเอง​

“​เขา​วิ่ง​ไป​หลัง​ลาน​ ​จะ​หา​เขา​เจอ​ได้​เช่นไร​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​นึกถึง​เหตุการณ์​ตอนนั้น​ก็​ขบขัน​ ​แต่​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​มัน​เกี่ยวข้อง​กับ​ท่าน​ป้า​สอง​ ​เขา​ไม่​ควร​หัวเราะ​เรื่อง​นี้​ ​“​เรือน​เสา​หวา​อยู่​สูง​กว่า​ลาน​อื่น​ ​ตอนนั้น​สีหน้า​ของ​ท่าน​ป้า​สอง​ซีดเซียว​ไป​หมด​ ​เรียก​สาวใช้​ที่​ติดตาม​น้อง​หก​มาส​อบ​ถาม​ ​แต่​ถาม​อะไร​ไม่ได้ความ​สัก​อย่าง​ ​นาง​จึง​เป็นกังวล​ ​ตามหา​เขา​ทั่ว​ลาน​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ไม่สบายใจ​ ​เขา​เอน​ตัว​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​แล้ว​หลังจากนั้น​เล่า​?​”

“​หลังจากนั้น​ท่าน​ป้า​สอง​จึง​เรียก​หวง​เสี่ยว​เหมา​และ​หลิว​เอ้อร​์​อู่​เข้าไป​ตามหา​ ​จึง​หาน​้​อง​หก​ที่​ตัว​เต็มไปด้วย​โคลน​เจอ​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​หัวเราะ​ ​“​ท่าน​ป้า​สอง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​ตำหนิ​สาวใช้​น้อย​เหล่านั้น​ ​แล้วก็​อ้างว่า​น้อง​หก​วาดภาพ​ทำ​หมึก​เลอะ​ ​บอก​ให้​อาจิน​กลับ​ไป​นำ​เสื้อผ้า​สะอาด​ของ​น้อง​หก​มา​เปลี่ยน​ ​ล้างหน้าล้างตา​ให้​น้อง​หก​ด้วยตัวเอง​ ​จากนั้น​เรื่อง​นี้​ก็​จบ​ลง​เช่นนี้​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

“​หาก​ท่าน​แม่​รู้​เข้า​ ​เกรง​ว่า​จิ​่น​เกอ​คงจะ​ถูก​ตำหนิ​อีก​แน่นอน​!​”

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​หัวเราะ​ ​“​ดังนั้น​ท่าน​ป้า​สอง​จึง​ไม่​ให้​ทุกคน​บอก​ท่าน​แม่​ ​ประเดี๋ยว​ท่าน​แม่​จะ​เป็นห่วง​ ​แล้ว​จิ​่น​เกอ​อาจ​ถูก​ตำหนิ​เอา​ได้​”

พวกเขา​สอง​คนพูด​คุย​หัวเราะ​กัน​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​อย่างรวดเร็ว​ ​พูดถึง​เรื่อง​ส่ง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ออกเดินทาง​ ​“​…​พี่​สาม​บอกว่า​ ​พรุ่งนี้​จะ​ไป​ทานข้าว​ที่​ร้าน​หลี​่​จี้​ที่​เปิด​ใหม่​ตรง​เฉิง​หนาน​ ​ถือว่า​เลี้ยงส่ง​พี่​สอง​ ​เขา​บอกว่า​หอ​ชุน​ซี​และ​หอ​แสดง​มี​แต่​อาหาร​เดิม​ๆ​ ​น่าเบื่อ​!​”

“​ไป​เฉิง​หนาน​?​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยลัง​เล​ ​“​มัน​ไกล​เกินไป​หรือไม่​ขอรับ​ ​แล้วก็​ไม่รู้​ว่า​ร้าน​หลี​่​จี้​จะ​เป็น​อย่างไร​”

“​ไป​ไกล​หน่อย​ดีกว่า​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อ​อีก​ ​“​ได้ยิน​พี่​สาม​บอกว่า​ ​ที่นั่น​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​สหาย​ร่วมงาน​ของ​เขา​มักจะ​ไป​ทานข้าว​ที่นั่น​บ่อยๆ​”

หลังจาก​ขึ้นปีใหม่​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เริ่ม​ปล่อย​พวกเขา​ ​จะ​ไป​ที่ไหน​ก็​แค่​บอก​ฝ่าย​รักษาการณ์​ก็​พอ​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ใจอ่อน

“​แล้ว​พี่​สอง​ว่า​อย่างไรบ้าง​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เป็น​คน​สุขุม​ ​แล้วยัง​เป็น​คน​มีความรู้​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​คิด​ว่า​หาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​เห็นด้วย​ก็​น่าจะ​ไม่มีปัญหา​อะไร

“​พี่​สอง​เอง​ก็​คิด​ว่า​ไม่เลว​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​พี่​สาม​บอก​ให้​เรา​ออกเดินทาง​พรุ่งนี้​ยาม​ซื่อ​ ​ไป​ทานอาหาร​เที่ยง​ที่​ร้าน​หลี​่​จี้​!​”

“​ได้​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เริ่ม​รู้สึก​ว่าน​่า​สนใจ​ ​พวกเขา​สอง​คน​ปรึกษา​กัน​ว่า​พรุ่งนี้​จะ​ไป​เฉิง​หนาน​ด้วย​วิธี​ใด

สี่​เอ๋อร​์​ออกจาก​ห้อง​ไป​อย่างเบามือ​เบา​เท้า

คุณชาย​น้อย​สี่​ไม่ได้​คิดมาก​อะไร​กับ​เรื่อง​นั้น​!

นาง​ยืน​อยู่​บน​บันได​แล้ว​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท