ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 632 อารมณ์ (ปลาย)

ตอนที่ 632 อารมณ์ (ปลาย)

กลางคืน​ขณะที่​กำลัง​เช็ดหน้า​อยู่​นั้น​ ​ก็​มี​กลีบดอก​เถาฮ​วาที​่​งดงาม​สอง​กลีบ​ร่วงหล่น​มาตาม​เส้น​ผม​ที่​ดำขลับ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ทิ้งตัว​ลง​สู่​พื้นผิว​หิน​กรวด​ที่​มันเงา​ดุจ​กระจก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​นั่ง​อ่านหนังสือ​ตรง​หัว​เตียง​จ้องมอง​ไป​ยัง​กลีบดอกไม้​ที่​ตก​อยู่​ข้างๆ​ ​กระโปรง​ผ้า​ทอ​สีเขียว​เข้ม​ของ​ภรรยา​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​พร้อมกับ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​วันนี้​สนุก​หรือไม่​”

“​สนุก​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​แสงแดด​อ่อน​ๆ​ ​ส่อง​กระทบ​ลงมา​บน​ร่างกาย​ ​ดอก​เถาฮ​วา​และ​ดอก​ลี่ฮ​วา​ใน​สวน​เบ่งบาน​สะพรั่ง​ ​ดึงดูด​ฝูง​ผึ้ง​และ​ผีเสื้อ​บิน​ว่อน​เต็มไปหมด​ ​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​พา​เหล่า​สุนัข​ของ​พวกเขา​ไป​วิ่งไล่​จับ​ผีเสื้อ​ใน​สวน​ดอก​เถาฮ​วา​ ​ส่วน​พวก​ข้า​ก็​นั่ง​ฟัง​เจี​้ย​เกอ​เป่าขลุ่ย​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กับ​สาวใช้​น้อย​ไป​เด็ด​ดอกไม้​ป่า​มาถัก​เป็น​สร้อยข้อมือ​…​ข้า​เอง​ก็​กำลัง​คิด​อยู่​เลย​ว่า​ตอน​เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​จะ​จัด​เหมือน​วันนี้​ดี​หรือไม่​ ​จัดงาน​เลี้ยง​อยู่​ใน​สวน​ดอก​เถาฮ​วา​ ​แต่​พอล​องคิด​ดูดี​ๆ​ ​ใน​สวน​มี​แมลง​เยอะแยะ​ไป​หมด​ ​หาก​ใคร​ถูก​แมลง​กัด​เข้า​คง​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​อย่างแน่นอน​”

“​ไป​ที่​เรือนฉ​ยง​หลิง​ก็ได้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​หนังสือ​ใน​มือ​ลง​ ​“​ที่นั่น​เป็นพื้น​ที่สูง​ ​ลม​พัด​โชย​รอบ​ทิศ​ ​น่าสนใจ​ไม่น้อย​”

“​ข้า​เอง​ก็​คิด​เหมือนกัน​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ม้วน​ผม​ที่​ยาว​สลวย​ของ​นาง​ด้วย​ทรง​ที่​เรียบง่าย​ ​“​กลัว​ก็​แต่​หวงฮู​หยิน​และ​เจิ​้ง​ไท่จ​วิน​จะ​เหนื่อย​เกินไป​น่ะ​สิ​เจ้า​คะ​ ​พวก​นาง​ก็​ถือว่า​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​ก็​เดิน​มานั​่ง​ลง​ที่​ขอบ​เตียง​ ​“​ข้าว​่า​ควรจะ​จัด​ที่​โถง​บุปผา​เหมือน​ปี​ที่แล้ว​ดีกว่า​กระมัง​!​ ​หากว่า​ฟัง​ซื่อ​หรือ​คนอื่นๆ​ ​อยาก​จะ​ไป​เดิน​ดูร​อบ​ๆ​ ​ก็​ให้​สะใภ้​อวี​้​เกอ​เป็น​คน​พา​ไป​ก็​พอ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​การเรียน​ของ​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​ ​“​ได้ยิน​อาจารย์​จ้าว​บอกว่า​เขา​รู้จัก​ตัวอักษร​ใน​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​กว่า​ครึ่ง​เล่ม​ ​แต่กลับ​เขียน​ได้​แค่​ตัวอักษร​ง่ายๆ​ ​เพียง​ไม่​กี่​ตัว​เท่านั้น​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความกังวลใจ

“​ตอนแรก​บอก​เขา​ให้​จำ​ตัวอักษร​เท่านั้น​ ​ไม่ได้​ให้​เขา​ฝึก​เขียน​เสียหน่อย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​หนึ่ง​คือ​เพราะ​เขา​ยัง​เด็ก​เกินไป​ ​ยัง​ไม่มีแรง​จับ​พู่กัน​ ​จึง​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ฝึก​เขียนแบบ​ผิด​ๆ​ ​จน​กลายเป็น​ความเคยชิน​ที่​ไม่ดี​ ​สอง​คือ​เขา​ไม่​สามารถ​สงบ​จิตใจ​ลง​ได้​ ​เขียน​ได้​เพียง​ไม่​กี่​ตัว​ก็​เริ่ม​เปลี่ยนไป​วาด​อย่าง​อื่น​แทน​ ​ข้า​กลัว​ว่า​ถ้าหาก​ไป​บังคับ​เขา​เขียนหนังสือ​ ​ถึง​เวลา​เขา​ก็​จะ​รู้สึก​เบื่อหน่าย​ ​ไม่​ยินดี​ที่จะ​ฝึกฝน​ด้วย​ตนเอง​ ​ก็​เลย​ตามใจเขา​ก่อน​ ​ตอนนี้​เขา​ได้​เริ่ม​เรียน​กับ​อาจารย์​ที่​ให้ความรู้​ใน​ระดับสูง​ ​ตัวอักษร​ที่​เคย​รู้จัก​มาก​่อน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นการ​เขียน​ตัวอักษร​หรือ​อ่านหนังสือ​ตำรา​ ​ก็​จะ​ส่งผล​ให้​เขา​สามารถ​เรียนรู้​ได้​เร็ว​กว่า​เด็ก​คนอื่นๆ​ ​เมื่อ​เรียนรู้​ไป​เรื่อยๆ​ ​เขา​ก็​จะ​เริ่ม​รู้สึก​สนุก​ขึ้น​มา​เอง​”

เดี๋ยว​ก็​สนใจ​โน่น​ ​เดี๋ยว​ก็​สนใจ​นั่น​ ​ไม่มี​ความตั้งใจ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ตามใจ​จิ​่น​เกอ​จน​เกินไป

ตอน​เด็ก​เขา​เอง​ก็​ไม่​ค่อย​ชอบ​เขียนหนังสือ​ ​แต่​ถูก​บิดา​ใช้​ไม้​ตี​ที่​ฝ่ามือ​ไป​หลายครั้ง​ ​จน​มือ​ของ​เขา​บวม​เป่ง​ไป​หมด​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่กล้า​ร้องไห้​สัก​แอะ​ ​นั่ง​คัด​อักษร​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​หลังจากที่​เขา​เติบโต​แล้ว​ ​ก็​ไม่เคย​พูดว่า​ไม่​อยาก​เขียน​หรือไม่​อยาก​เรียนหนังสือ​อีก

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​แอบ​รู้สึก​เป็นห่วง​การเรียน​ของ​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา

เวลา​ผ่าน​ไป​เก้า​วัน​ ​การเรียน​ของ​จิ​่น​เกอ​ก็​เริ่ม​มี​กฎเกณฑ์​มากขึ้น​ ​เขา​ตื่นนอน​ตอน​ยาม​อิ​๋น​สาม​เค​่อ​ของ​ทุกๆ​ ​วัน​ ​และ​เขา​มักจะ​ทาน​นม​แพะ​กับ​หมั่น​โถ​วอ​ย่าง​ละ​ลูก​หรือ​เสี่ยว​หลง​เปา​สอง​ลูก​อยู่​เป็นประจำ​ ​จากนั้น​ก็​ทาน​ผลไม้​จำพวก​ผิง​กั่ว​รองท้อง​ราว​ครึ่ง​ลูก​ ​เมื่อ​ใกล้​จะ​ถึง​ต้น​ยาม​เหม่า​ก็​เริ่ม​เตรียมตัว​ไป​ที่​เรือน​ซิ่ว​มู่​ ​เมื่อถึง​ยาม​เหม่า​ก็​เริ่ม​ฝึก​ย่อเข่า​ ​ยาม​เหม่า​สาม​เค​่อ​ตรง​ก็​กลับ​จวน​ไป​ชำระ​ตัว​เปลี่ยน​ชุด​ใหม่​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ทานอาหาร​เช้า​ด้วยกัน​ ​แล้วจึง​ค่อย​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ต้น​ยาม​เฉิน​ราว​สาม​เค​่อ​จึง​ค่อย​ไป​ที่​เรือน​ซวงฝู

นอกจาก​จิ​่น​เกอ​ ​อาจารย์​จ้าว​ก็​ยัง​สอน​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยด​้วย​ ​อายุ​ต่างกัน​ ​เนื้อหา​การสอน​และ​การวางแผน​จัดการ​ก็​ไม่​เหมือนกัน​ ​ช่วง​เช้า​เขา​สอน​เกี่ยวกับ​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​ให้​จิ​่น​เกอ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​จากนั้น​ก็​สอน​ ​‘​คัมภีร์​วิจารณ์​พจน์​’​ ​ให้​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอี​กห​นึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ในขณะที่​กำลัง​สอน​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​อยู่​นั้น​ก็​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ฝึก​เขียนหนังสือ​ ​และ​ตอนที่​กำลัง​สอน​ ​‘​คัมภีร์​วิจารณ์​พจน์​’​ ​ให้​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอยู​่​นั้น​ ​ก็​ให้​จิ​่น​เกอ​ท่อง​ตำรา​ ​ฝึก​คัดตัว​อักษร​หรือ​นั่ง​แต่ง​บทความ​อยู่​ข้างๆ

ตอนเที่ยง​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​แยกย้าย​กลับ​ไป​ทานข้าว​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​ ​บางครั้ง​ก็​อาจจะ​อยู่​ทานข้าว​ด้วยกัน​ ​จิ​่น​เกอ​แยกตัว​กลับ​ไป​ทานอาหาร​เที่ยง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ที่​เรือน​ชั้นใน​ ​จากนั้น​ก็​นอน​พัก​ช่วง​บ่าย​ ​เมื่อ​เวลาพักผ่อน​หมด​ลง​ ​จึง​ค่อย​ให้​สาวใช้​พา​ไป​ที่​เรือน​ซวงฝู

ช่วง​บ่าย​ ​เป็น​คาบ​เรียน​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ทั้งหมด​ ​จิ​่น​เกอ​ฝึก​คัดตัว​อักษร​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​บางที​ก็​ฝึก​เขียนหนังสือ​หรือ​บางที​ก็​ทำการบ้าน​ที่​อาจารย์​จ้าว​สั่ง​ไว้

เป็น​เหมือน​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​ไว้​ไม่มี​ผิด​ ​สำหรับ​ตัวอักษร​ที่​จิ​่น​เกอ​รู้จัก​แล้ว​ ​เขา​ใช้เวลา​เพียง​ไม่นาน​ก็​เริ่ม​เขียน​เป็น​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เขียน​ได้​ไม่ดี​เท่าไร​นัก​ ​แต่​สำหรับ​ความเร็ว​ใน​การจด​จำ​และ​เรียนรู้​ตัวอักษร​ของ​จิ​่น​เกอ​นั้น​ยังคง​เป็น​ที่​น่าแปลกใจ​ของ​อาจารย์​จ้าว​เป็นอย่างมาก

อาจารย์​จ้าว​สอน​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​หลาย​ปี​ ​ก็​เลย​เคยชิน​กับ​การ​หา​จุดเด่น​ใน​ตัว​ของ​เด็ก​ ​แม้แต่​เด็ก​ที่​ไม่มี​ข้อดี​ก็​ยัง​สามารถ​ค้นหา​จน​เจอ​ ​นับประสา​อะไร​กับ​จิ​่น​เกอ​ที่​ฉลาด​หลักแหลม​ ​ทั้ง​ร่าเริง​และ​ชอบ​พูดคุย​ ​ย่อม​กล่าว​ชม​ไม่ขาดปาก​อย่างแน่นอน

เมื่อ​ถูก​อาจารย์​จ้าว​ชมเชย​ ​จิ​่น​เกอ​ที่นั่ง​ไม่​ค่อย​ติด​ใน​ตอนแรก​ก็​รู้สึก​ภูมิใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​บวก​กับ​ความรู้สึก​แปลกใหม่​ตอน​พึ่ง​เริ่ม​เรียน​ก็​หาย​ไป​หมด​แล้ว​ ​ตอน​เรียน​คัด​อักษร​จึง​ไม่​ค่อย​ตั้งใจ​เท่าไร​นัก​ ​เวลา​ที่​ฝึก​คัด​อยู่​นั้น​ก็​มักจะ​ชวน​พี่ชาย​ที่​กำลัง​เรียน​กับ​อาจารย์​จ้าว​คุย​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​การสอน​ของ​อาจารย์​จ้าว​เป็นอย่างมาก​ ​อาจารย์​จ้าว​ครุ่นคิด​อยู่นาน​ ​สุดท้าย​จึง​ตัดสินใจ​ฝาก​มาบ​อก​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ให้​จิ​่น​เกอ​ฝึก​คัด​อักษร​ที่​เรือน​ใน​ช่วง​บ่าย​ของ​ทุกวัน​แทน

หลังจาก​จัดงาน​เลี้ยง​เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​เหลือ​แค่​วันที่​แปด​เดือน​สี่​ซึ่ง​เป็น​วันพระ​ใหญ่​ ​วันที่​ยี่สิบ​หก​เดือน​สี่​วันเกิด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​และ​วันที่​ห้า​เดือน​ห้า​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ที่​ค่อนข้าง​สำคัญ​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​ว่าง​จาก​งาน​ ​และ​อาจารย์​จ้าว​ก็​เอ่ย​มา​เช่นนี้​ ​นาง​จึง​รีบ​ตอบรับ​ทันที​ ​จากนั้น​ก็​เริ่ม​เฝ้า​จิ​่น​เกอ​ฝึก​คัด​อักษร​ใน​ช่วง​บ่าย​ของ​ทุกวัน

เมื่อ​เห็น​จิ​่น​เกอ​ไม่​สามารถ​สงบ​จิตใจ​ลง​ได้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ให้สัญญา​กับ​บุตรชาย​ว่า​ ​“​หาก​เจ้า​สามารถ​ตั้งใจ​ฝึก​ได้​สอง​เค​่อ​ ​ก็​จะ​ปล่อย​ให้​เจ้า​ไป​เล่น​หนึ่ง​เค​่อ​”

ช่วงเวลา​นี้​คือ​ช่วงเวลา​ที่​ดอกไม้งาม​สะพรั่ง​ต้อนรับ​ฤดูกาล​แห่ง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ปี​ที่ผ่านมา​เขา​เอง​ก็ได้​ไป​ชม​นกชม​ไม้​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​ด้วย​ ​จิตใจ​ของ​เขา​ไม่รู้​ว่า​ล่องลอย​ไป​ถึง​ไหน​ต่อ​ไหน​แล้ว​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ก็​ยิ้ม​จน​คิ้ว​โค้ง​มน​ ​รีบ​ตอบกลับ​ทันที​ว่า​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็​ก้มหน้า​ลง​ ​ตั้งหน้าตั้งตา​ฝึก​คัด​อักษร​ต่อ​ ​เวลา​ผ่าน​ไปราว​หนึ่ง​เดือน​ ​ถือว่า​ก้าวหน้า​ไม่น้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แล้วก็​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​เขา​ก็​สนใจ​แต่​เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​เท่านั้น

หลาย​วันก่อน​ ​มี​โจรสลัด​ญี่ปุ่น​จำนวน​หนึ่ง​หนี​ไป​ยัง​เขต​โจว​ซาน​ ​หลาย​หมู่บ้าน​ถูก​ไฟ​เผา​ ​คน​ถูก​สังหาร​และ​ถูก​ปล้นสะดม​ ​ฮ่องเต้​ทรง​พิโรธ​เป็นอย่างมาก​ ​จิ้ง​ไห่​โหว​ถูก​ซักถาม​ถึง​ความรับผิดชอบ​ ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​มณฑลฝู​เจี​้​ยน​และ​เหล่า​พลทหาร​ ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​มณฑล​เจ้อ​เจียง​และ​เหล่า​บรรดา​พลทหาร​รวมไปถึง​เหล่า​ขุนนาง​เล็ก​ใหญ่​กว่า​สามสิบ​คน​ถูก​ปลดออก​จาก​ตำแหน่ง​ ​ผู้บัญชาการ​ทหาร​มณฑลฝู​เจี​้​ยน​และ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​มณฑล​เจ้อ​เจียง​ที่​ถูก​ปลด​ประจำการ​ถูก​ส่งตัว​กลับมา​สอบสวน​ที่​เมือง​เยี​่​ยน​จิง

เมื่อมี​คนพูด​ถึง​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​ ​ก็​จะ​มี​คนพูด​ถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปราบปราม​แคว้น​ซี​เป่ย​ขึ้น​มา

ใน​ตอนแรก​หลังจากที่​เขา​ได้ยิน​แล้วก็​เพียงแค่​ยิ้ม​เท่านั้น

หลาย​วัน​มานี​้​ ฝู​เจี​้​ยน​ไม่​ค่อย​สงบ​เท่าไร​นัก​ ​ทุกครั้งที่​มีเรื่อง​อัน​ใด​เกิดขึ้น​ ​ก็​มักจะ​มี​คนพูด​เช่นนี้​อยู่​เสมอ​ ​แต่​นึกไม่ถึง​เลย​ว่างาน​ฉลอง​วันเกิด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ครั้งนี้​ ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​และ​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​จะ​มาร​่ว​มอว​ยพร​วันเกิด​ให้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ตามหลัง​กัน​มาติด​ๆ​ ​เข้ามา​ถาม​ความคิดเห็น​จาก​เขา​เป็นการ​ส่วนตัว​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​ว่า​เขา​ยินยอม​จะ​ไป​ปราบปราม​ที่ฝู​เจี​้​ยน​หรือไม่​ ​เขา​อยู่​บ้าน​เฉยๆ​ ​ก็​ว่าง​จน​จิตใจ​ไม่​สงบ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ก็​รู้สึก​ใจเต้น​ขึ้น​มา​ ​แต่​เมื่อ​พิจารณา​และ​ไตร่ตรอง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​แล้ว​ ​ก็​ละทิ้ง​ความคิด​นี้​ไป​ ​ตัดสินใจ​ปฏิเสธ​ใน​ไป​ที่สุด​ ​แต่​เขา​กลับ​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​เป็น​สมุห​ราช​เลขาธิการ​ ​ส่วน​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​หลาย​ปี​มานี​้​ก็​สูงส่ง​ดุจ​สายรุ้ง​ ​นำหน้า​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​และ​เหล่า​บรรดา​ขุนนาง​ที่​อายุ​มากกว่า​เขา​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ทัศนคติ​ของ​เหล่า​บรรดา​เก๋อ​เหล่า​ผู้อาวุโส​หรือ​เหล่า​ขุนนาง​ที่อยู่​ภายใต้​อานัส​ของ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ ​หากว่า​สอง​คน​นี้​ร่วมมือ​กัน​ผลักดัน​เขา​ไป​ที่ฝู​เจี​้​ยน​…​ผล​ที่​ตามมา​นั้น​ก็​จะ​ร้ายแรง​เป็นอย่างมาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​เจียด​หา​เวลาว่าง​ไปหา​เหลียง​เก๋อ​เหล่า​ ​จากนั้น​ก็ได้​ไป​คุย​กับ​หวัง​ลี่​เป็นการ​ส่วนตัว​อยู่​พักใหญ่​ ​แล้วจึง​ค่อย​กลับ​ไปรอ​ฟัง​ข่าว​ที่​จวน

หลังจาก​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหารฝู​เจี​้​ยน​และ​ผู้บัญชาการ​กองทัพเรือ​ชุด​ใหม่​ก็ได้​เข้า​ดำรงตำแหน่ง​ ​เมื่อ​เขา​กลับ​ถึง​จวน​ก็ได้​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​…​ปล่อย​ไว้​เช่นนี้​ไม่ได้​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​จะ​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ผลักดัน​แม่ทัพ​สัก​สอง​สาม​คนที​่​มี​ความสามารถ​ใน​การสู้​รบ​ทางน้ำ​ให้​กับ​กรม​กลาโหม​ให้​ได้​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใต้เท้า​หม่า​ ​หม่า​จั่ว​เหวิน​ถูก​ย้าย​ไป​ที่ฝู​เจี​้​ยน​มิใช่​หรือ​ ​ให้​เขา​ช่วย​ท่าน​สืบถาม​ดี​หรือไม่​”

“​หาก​มี​คนเลื​อก​เขา​จริงๆ​ ​ก็​คงจะ​แนะนำ​เขา​ให้​กับ​กรม​กลาโหม​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​เหตุใด​ยัง​ต้อง​ลำบาก​เช่นนี้​ด้วย​เล่า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจื่อน​ ​เขา​เอง​ไม่​สะดวก​จะ​เดินทางออก​จาก​เมืองหลวง​ ​จึง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​เป็นกังวล​ใจ​ขึ้น​มา​ ​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​และ​แววตา​ที่​สงบ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​จึง​ไม่​อยาก​ให้​นาง​รู้สึก​เป็นกังวล​ใจ​ไป​ด้วย​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เปลี่ยน​เรื่อง​คุย​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​พี่สะใภ้​สาม​ป่วย​ ​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​”

วันนี้​สือ​อี​เหนียง​พา​เซี่ยง​ซื่อ​กับฮู​หยิน​ห้า​ไป​ที่​ตรอก​สือ​จี​ด้วยกัน

“​เพียงแค่​แน่นหน้าอก​หายใจ​ไม่​ค่อย​สะดวก​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ผ่อนคลาย​ ​“​ข้า​เชิญ​หมอ​หลิว​มาดู​อาการ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​บอกว่า​ทาน​ยา​ไม่​กี่​ชุด​ก็​หาย​ ​ข้า​เห็น​ว่า​พี่สะใภ้​สาม​ร่างกาย​ผ่ายผอม​ ​สีหน้า​ก็​ดู​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​เลย​ไม่ได้​อยู่นาน​ ​ดื่ม​ชา​หมด​ถ้วย​ก็​ขอตัว​กลับ​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​มา​ ​“​ยังดี​ที่​ข้า​ไป​เยี่ยมไข้​ ​มิเช่นนั้น​ก็​คงจะ​ไม่รู้​ว่า​จิน​ซื่อ​ตั้งครรภ์​ได้​สาม​เดือน​แล้ว​!​ ​เพียงแต่ว่า​ลำบาก​ฟัง​ซื่อ​แล้ว​ ​ไหน​จะ​ต้อง​ดูแล​พี่สะใภ้​สาม​ที่นอน​ป่วย​อยู่​ ​และ​ยัง​ต้อง​ดูแล​จิน​ซื่อ​ที่​กำลัง​ตั้งครรภ์​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​ตอนที่​แม่ยาย​ของ​เจี่ยน​เกอ​ได้​เจอ​กับ​ฟัง​ซื่อ​ ​ก็​พากัน​ชื่นชม​ใหญ่​เลย​ว่า​ฟัง​ซื่อ​นั้น​จิตใจ​ดีมี​คุณธรรม​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ไท่​จื่อ​ทรง​ตั้งใจ​ป่าวประกาศ​เรื่อง​ที่​เรียก​จิ​่น​เกอ​เข้า​วัง​ไป​เพื่อให้​ฟัง​เจี่ย​เอ๋อร​์​อุ้ม​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ทาง​นั้น​ไม่ได้​ขอ​เสื้อ​ของ​จิ​่น​เกอ​กับ​เจ้า​แล้ว​หรือ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​หาก​ครั้งนี้​ไท่​จื่อ​เฟย​ยังคง​ให้กำเนิด​ธิดา​เหมือนเดิม​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​ก็​คงจะ​ได้​พักผ่อน​จริงๆ​ ​เสียที​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ตาม

เวลา​นั้น​เอง​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ให้​สาวใช้​น้อย​เชิญ​พ่อบ้าน​ไป๋​เข้ามา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​“​เจ้า​หา​พ่อบ้าน​ไป๋​ทำไม​กัน​”

“​งานแต่ง​ของ​จู๋​เซียง​กำหนด​เป็น​เดือน​เก้า​ ​ซิ่ว​เหลียน​เอง​ก็​จะ​ต้อง​แต่งงาน​ออกเรือน​ด้วย​เช่นกัน​ ​ใน​เรือน​ของ​ข้า​จึง​ต้อง​เพิ่ม​บ่าว​รับใช้​ใหม่​ ​เลย​อยาก​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ช่วย​คัดเลือก​บ่าว​รับใช้​สัก​จำนวน​หนึ่ง​ ​มา​ให้​หู่​พั่ว​สอน​งาน​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เลือก​มาสัก​พักใหญ่​ ​แต่​ก็​ไม่มี​คน​ไหน​ที่​พอ​จะ​ใช้ได้​เหมือน​คน​ของ​ป้า​ซ่ง​เลย​ ​จึง​เขียนจดหมาย​ส่งกลับ​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​ ​ปรึกษาหารือ​เรื่อง​นี้​กับ​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​สุดท้าย​ก็ได้​ตอบรับ​การสู่ขอ​ครั้งนี้​ ​เพียงแต่ว่า​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​จู๋​เซียง​ก็​จะ​ต้อง​แต่ง​ไป​ที่​ซาน​ซี

ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​นั้น​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​เข้ามา​ ​เมื่อ​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ต้องการ​สาวใช้​ ​ก็​รีบ​ขานรับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​พอ​ถึง​ตอนนั้น​ก็​ให้​นาง​ติดตาม​พ่อบ้าน​ไป๋​ไป​เลือก​สาวใช้​ด้วย

จิ​่น​เกอ​เม้มปาก​แน่น​พร้อมกับ​เดิน​เข้ามา

“​ท่าน​พ่อ​!​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​ที่​เรือน​ด้วย​ก็​รู้สึก​แปลกใจ​เล็กน้อย​ ​หลังจากที่​เขา​คารวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็​ปรี่​เข้าไป​หา​สือ​อี​เหนียง​ทันที​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​อยากได้​อาจารย์​สอน​ยิง​ธนู​ขอรับ​!​”

“​อาจารย์​สอน​ยิง​ธนู​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​ ​“​อาจารย์​ผัง​บอก​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​ว่า​รอ​ให้​พวก​เจ้า​ฝึก​เดิน​เสา​ดอก​เหมย​คล่อง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​สอน​วิชา​มวย​ให้​กับ​พวก​เจ้า​ ​หลังจากที่​ฝึก​วิชา​มวย​คล่อง​แล้วจึง​ค่อย​เริ่ม​สอน​พวก​เจ้า​ควบ​ม้า​และ​ยิง​ธนู​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ไปหา​อาจารย์​สอน​ยิง​ธนู​มาต​่าง​หาก​ด้วย​เล่า​”

“​ท่าน​แม่​”​ ​น้ำเสียง​ของ​จิ​่น​เกอ​ฟัง​ดู​ไม่​ค่อย​พอใจ​เท่าไร​นัก​ ​“​ท่าน​ตาของ​น้อง​เจ็ด​ไม่เพียงแต่​มอบ​ธนู​ให้​กับ​น้อง​เจ็ด​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ให้​คน​ติดตาม​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​น้อง​เจ็ด​อีกด้วย​ ​ฝีมือ​วิชา​มวย​ของ​คน​ผู้​นั้น​เก่งกาจ​เป็นอย่างมาก​ ​แม่นยำ​เหมือน​จับ​วาง​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ตอน​ข้า​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ซวงฝู​ ​น้อง​เจ็ด​ก็​ไป​เรียน​ยิง​ธนู​กับ​คน​ผู้​นั้น​ ​เมื่อครู่นี้​น้อง​หก​ก็​ยิง​โดน​เป้า​แจกัน​ใน​เรือน​ของ​ข้า​ด้วย​ธนู​เพียง​ดอก​เดียว​เท่านั้น​ ​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ช่วย​หา​อาจารย์​มาสอ​นข​้า​ยิง​ธนู​สัก​คน​ได้​หรือไม่​ขอรับ​!​ ​หลัง​เลิกเรียน​ข้า​จะ​ไป​เรียน​ฝึก​ยิง​ธนู​กับ​อาจารย์​ทุกวัน​ ​จะ​ต้อง​ยิง​เก่ง​กว่า​เซิน​เกอ​อย่างแน่นอน​!​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

หลาย​วันก่อนฮู​หยิน​ห้า​ยัง​บ่น​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​อยู่​เลย​ว่า​เซิน​เกอ​อายุ​ยังน้อย​ ​แต่กลับ​ต้อง​ตื่น​มา​ฝึก​ศิลปะ​การต่อสู้​ตั้งแต่​เช้ามืด​ทุกวัน​ ​ถือว่า​เหนื่อย​เกินไป​ ​แต่​ตอน​กลับ​ไป​ที่​ตรอก​หง​เติง​วัน​งานเทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ยัง​ให้​ผู้​ที่​มี​วรยุทธ์​ติดตาม​เซิน​เกอ​กลับ​ไป​ด้วย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ให้​สอน​เซิน​เกอ​ยิง​ธนู​เป็นการ​ส่วนตัว​อีกด้วย​…

นาง​จึง​หันไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เต็มไปด้วย​งุนงง​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ไม่เข้าใจ​ใน​เรื่อง​นี้​เลย

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​เซิน​เกอ​ยิง​ลูกธนู​มาที​่​เป้า​แจกัน​ของ​เจ้า​แค่นั้น​หรือ​ ​ลูก​ทะลุเป้า​แจกัน​ของ​เจ้า​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ผิดหวัง​ ​“​ยิง​ถึง​แค่​เป้า​แจกัน​เท่านั้น​ ​แต่​เป้า​แจกัน​ไม่​ทะลุ​ขอรับ​!​”

“​เช่นนั้น​ก็​ถูกต้อง​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เจ้า​เคย​เห็น​การ​สร้างบ้าน​หรือไม่​ ​อันดับ​แรก​จะ​ต้อง​ทำ​ฐาน​โครงสร้าง​ให้​แข็งแรง​และ​มั่นคง​ก่อน​ ​จากนั้น​จึง​ค่อย​มาก​่​ออิฐ​ ​การ​ยิง​ธนู​ก็​เช่นกัน​ ​หาก​เรา​ไม่​ฝึก​แรง​ให้​มั่นคง​ก่อน​ ​ลูกธนู​ที่​ยิง​ออก​ไป​ก็​จะ​ไร้​ซึ่ง​พลัง​ ​ไม่​สามารถ​ยิง​ทะลุเป้า​แจกัน​ได้​…​”

ยัง​ไม่ทัน​ที่นาง​จะ​พูด​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เหมือน​จะ​นึก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​ ​เขา​รีบ​วิ่ง​พรวด​ออก​ไปนอก​เรือน​ทันที​ ​“​ข้า​จะ​ไป​พูด​กับ​น้อง​เจ็ด​ก่อน​…​”

“​เด็ก​คน​นี้​นี่​ ​นิสัย​ไม่ยอม​คนจน​เกินไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​ไป​ยัง​แผ่น​หลัง​ของ​บุตรชาย​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ส่ายหน้า​อย่าง​เอือมระอา​ ​“​ไม่ว่า​เรื่อง​อัน​ใด​ก็​จะ​เอาชนะ​ให้​ได้​”

“​นิสัย​ไม่ยอม​คน​ก็​มี​ข้อดี​ใน​ตัว​ของ​มัน​เอง​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​มิเช่นนั้น​ ​หากว่า​เป็น​คนที​่​อยู่​ไป​วัน​ๆ​ ​ปล่อยวาง​เสีย​ทุก​เรื่อง​ ​ไม่​พยายาม​พัฒนา​ก้าวหน้า​ ​ตามน้ำ​เสีย​ทุก​สถานการณ์​ ​แล้ว​ชีวิต​จะ​มี​อะไร​ให้​น่าตื่นเต้น​กัน​เล่า​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท