ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 633 กล่าวขอโทษ (ต้น)

ตอนที่ 633 กล่าวขอโทษ (ต้น)

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ตน​ก็​ถือเป็น​คนที​่​ดึงดัน​ชอบ​เอาชนะ​มาก​คน​หนึ่ง​ ​มิเช่นนั้น​ ​ภพ​ชาติ​ที่ผ่านมา​ของ​นาง​ก็​คงจะ​ไม่​เลือก​ที่จะ​เป็น​ทนายความ​ ​และ​ภพ​ชาติ​นี้​นาง​ก็​คงจะ​ไม่​ตัดสินใจ​แต่ง​เข้า​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ไม่ว่า​เรื่องเล็ก​หรือ​เรื่องใหญ่​ ​นาง​ก็​ไม่เคย​ยอม​ถอย​แม้แต่​ก้าว​เดียว

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ขึ้น

เวลา​ไหน​ควร​แข็งกร้าว​ ​เวลา​ไหน​ควร​ประนีประนอม​ ​ล้วนแล้วแต่​เก็บเกี่ยว​มาจาก​ประสบการณ์​ความล้มเหลว​ทั้งสิ้น​ ​ผิวเผิน​อาจ​ดู​เป็น​คน​ใจเย็น​ ​เรียบง่าย​ไม่​เรื่องมาก​ ​แต่กลับ​เปลี่ยน​ผัน​ได้​ตลอดเวลา​ ​ไม่​เหมือน​จิ​่น​เกอ​ ​ที่​ยังคง​ดื้อ​และ​ไร้เดียงสา​ตามประสา​เด็ก​ ​ยัง​ไม่รู้​จัก​อดทน​และ​คล้อยตาม​ ​ทำ​ทุกอย่าง​ตามใจ​ต้องการ​ ​แต่กลับ​ดู​มั่นใจ​และ​เต็มเปี่ยม​ไป​ด้วย​ชีวิตชีวา

ไม่แน่​บางที​ตอนที่​นาง​ยัง​เด็ก​ก็​เป็น​แบบนี้​ ​เพียงแต่ว่า​ทุกอย่าง​ผ่าน​มานาน​แล้ว​ ​เลย​จำ​ไม่ได้​ก็​เท่านั้น

สือ​อี​เหนียง​ยืน​ถอนหายใจ​อยู่​ตรงนั้น​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ยัง​โถง​บุปผา

นาง​ได้​ขอให้​อาจารย์​เจี่ย​นพา​ช่าง​ตัดเย็บ​ที่​ฝีมือ​ค่อนข้าง​ดี​จาก​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​มาช​่วย​จู๋​เซียง​ปัก​เย็บ​งาน​ปัก​ที่จะ​ต้อง​ใช้​ตอน​แต่งงาน​มา​จำนวน​หนึ่ง

นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ชิวจ​วี​๋​ก็​มาด​้วย

“ฮู​หยิน​”​ ​นาง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เมื่อก่อน​ตอน​อยู่​ที่​อวี​๋​หัง​ ​บ่าว​กับ​น้อง​หญิง​จู๋​เซียง​นอน​เตียง​เดียวกัน​”​ ​ขณะที่​พูด​อยู่​นั้น​ ​น้ำตา​ของ​นาง​ก็​คลอ​เบ้า​ขึ้น​มา​ ​“​วันนี้​นาง​จะ​แต่งงาน​ออกเรือน​แล้ว​บ่าว​เลย​อยาก​มาช​่ว​ยนาง​ปัก​เย็บ​ด้วยตัวเอง​เจ้าค่ะ​”

ที่​อวี​๋​หัง​ ​พวก​นาง​ผ่าน​ความลำบาก​ยากเข็ญ​ด้วยกัน​มามาก​ ​ความสัมพันธ์​จึง​ค่อนข้าง​แน่นแฟ้น​กว่า​ผู้อื่น

“​เช่นนั้น​ก็​ลำบาก​เจ้า​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​หลาย​ปี​มานี​้​นาง​ติดตาม​ข้าง​กาย​ข้า​ ​คอย​ดูแล​ทุก​เรื่อง​ ​จึง​ทำให้​ข้า​เบาแรง​ไป​ไม่น้อย​ ​แต่​ข้า​กลับ​ทำให้​เรื่อง​ของ​นาง​ล่าช้า​”​ ​น้ำเสียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​ผิด

“​คำพูด​ของฮู​หยิน​ ​บ่าว​ไม่เห็นด้วย​เป็น​อย่างยิ่ง​เจ้าค่ะ​”​ ​ชิวจ​วี​๋​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พูด​ค้าน​ทันที​ ​“​เหมือน​ตอนแรก​ ​ตอนที่​พวก​บ่าว​ทำ​อะไร​ไม่​เป็น​สัก​อย่าง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​พวก​บ่าว​ได้​ปรนนิบัติ​รับใช้​อยู่​ข้าง​กายฮู​หยิน​ ​พลอย​ได้​ฝึก​โน่น​ฝึก​นี่​ตาม​ ​พวก​บ่าว​จะ​มี​วันนี้​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​ ​เมื่อวาน​บ่าว​ก็​เพิ่งจะ​พูด​กับ​สามี​ของ​บ่าว​ไป​ว่า​หู่​พั่ว​นั้น​วาสนา​ดี​ ​ที่​ยัง​ได้​อยู่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้าง​กายฮู​หยิน​”

“​เป็น​เพราะ​เจ้า​ไปดู​แล​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​ ​ประสบการณ์​และ​ความคิด​ก็​เลย​ไม่​เหมือนเดิม​แล้ว​หรือ​อย่างไร​กัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่านา​งกำ​ลัง​ปลอบใจ​ตน​ให้​คลายกังวล​ใจ​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​หันไป​พูด​กับ​อาจารย์​เจี่ย​นว​่า​ ​“​ตอนนี้​หัด​พูดจา​ปลอบใจ​คนอื่น​เป็น​แล้ว​!​”

อาจารย์​เจี่ยน​หัวเราะ​เสียงดัง​ขึ้น​มา​ ​รอยยิ้ม​เต็มไปด้วย​ความปลื้ม​ใจ​อย่าง​ไม่​อาจ​ปกปิด​ได้

สือ​อี​เหนียง​ให้​ชิวจ​วี​๋​นำ​แบบ​ลาย​ผ้า​ปัก​ออกมา​ ​จากนั้น​ทุกคน​ก็​พากั​นนั​่ง​ลง​ล้อมวง​ปรึกษาหารือ​ว่า​จะ​ตระเตรียม​สินเดิม​ให้​จู๋​เซียง​อย่างไรบ้าง

จู่ๆ​ ​นอก​เรือน​ก็​มีเสียง​ดัง​ขึ้น

ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​เงยหน้า​ขึ้น​มา

ก็​เห็น​เซิน​เกอ​ที่​กำลัง​ถือ​คันธนู​คัน​เล็ก​อยู่​ใน​มือ​วิ่ง​เข้ามา​ด้วย​อาการ​หอบ​ ​ด้านหลัง​ตามมา​ด้วย​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​โมโห​เป็นอย่างมาก

“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สี่​ ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สี่​”​ ​เซิน​เกอ​โผ​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พี่​หก​จะ​ตี​ข้า​ขอรับ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​โอบกอด​เซิน​เกอ​เอาไว้

เมื่อ​ได้​โล่​กำบัง​แล้ว​ ​เซิน​เกอ​ก็​เปลี่ยนเป็น​สบายใจ​ไร้​ซึ่ง​ความกังวล​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​เบะ​ปาก​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความ​ลำพองใจ

“​เจ้า​พูดปด​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​จ้องมอง​เซิน​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​พลาง​กระทืบเท้า​ด้วย​ความโมโห​ ​“​ข้า​ก็​แค่​อยาก​จะ​ยืม​คันธนู​ของ​เจ้า​มา​ใช้​ก็​เท่านั้น​…​”

“​ข้า​เปล่า​พูดปด​!​”​ ​ไม่​รอ​ให้​จิ​่น​เกอ​ได้​ทัน​พูด​จบ​ ​เซิน​เกอ​ก็​รีบ​ตะโกน​เถียง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ท่าน​เห็น​ข้า​ยิง​โดน​ถ้วย​เครื่องเคลือบ​ปา​เป่า​ของ​ท่าน​ ​ท่าน​จึง​ไม่พอใจ​ข้า​ ​ก็​เลย​อยาก​จะ​แย่ง​คันธนู​ของ​ข้า​…​”

“​ข้า​ไม่เห็น​อยาก​จะ​ได้​คันธนู​ของ​เจ้า​เลย​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​แดงก่ำ​ ​“​ข้า​ก็​แค่​เห็น​ว่า​เจ้า​ยืน​อยู่​ตั้ง​ไกล​แต่กลับ​ยิง​โดน​ถ้วย​เครื่องเคลือบ​ปา​เป่า​ของ​ข้า​ได้​ ​ก็​เลย​อยาก​ดู​ว่า​คันธนู​ของ​เจ้า​กับ​ข้า​ไม่​เหมือนกัน​ตรงไหน​…​”

“​ถ้วย​เครื่องเคลือบ​ปา​เป่า​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​แปลกใจ​ ​“​เจ้า​เอา​ถ้วย​เครื่องเคลือบ​ปา​เป่า​ออกมา​ได้​อย่างไร​”

ถ้วย​เครื่องเคลือบ​ปา​เป่า​กว้าง​ราว​ห้า​นิ้ว​ ​แต่ง​แต้ม​ด้วย​สีแดง​ ​สีส้ม​ ​สีเหลือง​ ​สีเขียว​เข้ม​ ​สีเขียว​อ่อน​ ​สีฟ้า​ ​สีม่วง​และ​สีขาว​ ​แปด​สีแพรว​พราว​ราวกับว่า​มัน​ถูก​ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​เมฆหมอก​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​งดงาม​อย่าง​น่าอัศจรรย์​ ​เป็น​ของ​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เก็บ​สะสม​ ​จิ​่น​เกอ​เห็น​แล้วก็​ชื่นชอบ​เป็นอย่างมาก​ ​อ้อน​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​หลาย​วัน​กว่า​จะ​ได้มา​ ​ถ้วย​ใบ​นี้​ถูก​นำ​ไป​วาง​จัด​แต่ง​อยู่​ที่​ห้องโถง​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​ปกติ​แล้วก็​จะ​เป็น​หง​เหวิ​นกั​บอา​จิน​ที่​ทำความสะอาด​ ​สาวใช้​น้อย​คนอื่นๆ​ ​ไม่กล้า​ที่จะ​แตะต้อง

ทั้งสอง​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ก็​จ้อง​กันตา​เขม็ง​ ​เถียง​กัน​คอเป็นเอ็น​ ​ทั้งคู่​ทะเลาะ​กัน​จน​ใบหน้า​และ​ใบ​หู​แดงก่ำ​ไป​หมด

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​จะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ ​ตั้งใจฟัง​อยู่​ตั้ง​นาน​ ​กว่า​จะ​จับใจ​ความ​ได้

ที่แท้​แล้ว​เป็น​เพราะ​จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​เลย​รีบ​วิ่ง​ไปหา​เซิน​เกอ​ด้วย​ความ​ลำพองใจ​ ​ว่า​ถึง​เซิน​เกอ​จะ​ยิง​ธนู​เป็น​ ​แต่​ลูกธนู​ที่​ยิง​ออก​ไป​นั้น​ไม่มีแรง​ ​ไม่​สามารถ​ยิง​ทะลุ​สิ่งของ​ได้​ ​จึง​ไม่มี​ประโยชน์​เลย​ ​เซิน​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​หยิบ​ซอง​ลูกธนู​ออกมา​เพื่อ​จะ​พิสูจน์​กับ​จิ​่น​เกอ​ให้​รู้แล้วรู้รอด​ ​จิ​่น​เกอ​ชี้​ไป​ยัง​กระถางธูป​หอม​เพื่อให้​เซิน​เกอ​ยิง​ ​เซิน​เกอ​ยิง​ไป​ห้า​หก​ดอก​ ​แต่กลับ​ไม่​โดน​สักครั้ง​ ​เซิน​เกอ​ก็​เลย​บอกว่า​กระถางธูป​หอม​นั้น​เล็ก​เกินไป​ ​จะ​ต้อง​เปลี่ยนเป็น​เป้า​ยิง​ที่​ใหญ่​ขึ้น​ ​จิ​่น​เกอ​ตอบ​ตกลง​ทันที​ ​ยัง​ให้​เซิน​เกอ​เป็น​คนเลื​อก​เป้า​เอง​ได้​ตามใจชอบ​ ​เซิน​เกอ​ถูกใจ​ถ้วย​เครื่องเคลือบ​ปา​เป่า​ที่​มี​ขนาดเล็ก​กว่า​ใบหน้า​ของ​เขา​เพียง​เล็กน้อย

จิ​่น​เกอ​เลย​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ลังเลใจ

เซิน​เกอ​หัวเราะเยาะ​ว่า​จิ​่น​เกอ​นั้น​ใจแคบ​ไม่แน่​จริง

จิ​่น​เกอ​ยอม​ฟัง​คำพูด​เช่นนี้​เสียที​่​ไหน​กัน​ ​เขา​จึง​รีบ​รับปาก​ใน​ทันใด

สุดท้าย​เซิน​เกอ​ยิง​ธนู​ออก​ไป​เพียงแค่​ดอก​เดียว​ก็​สามารถ​ยิง​โดน​ถ้วย​เครื่องเคลือบ​ปา​เป่า

จิ​่น​เกอ​ตกตะลึง​จน​ตาค้าง

เซิน​เกอ​ก็​รีบ​ชูคัน​ธนู​ใน​มือขึ้น​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ

เมื่อ​จิ​่น​เกอ​ตั้งสติ​ได้​ก็​จะ​ขอดู​คันธนู​ของ​เซิน​เกอ​ให้​ได้​ ​ยัง​พูด​อีกว่า​ ​‘​คันธนู​นี้​คงจะ​เป็น​คันธนู​ล้ำค่า​อย่างแน่นอน​’

เซิน​เกอ​ไม่ยอม​ให้​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เลย​จะ​แย่ง

คน​หนึ่ง​วิ่งหนี​คน​หนึ่ง​วิ่ง​ตาม​ ​พากั​นวิ​่ง​รอบ​เรือน​…​เซิน​เกอ​เห็น​ว่า​คันธนู​ของ​เขา​จะ​ถูก​จิ​่น​เกอ​แย่ง​แล้ว​ ​ก็​เลย​ตัดสินใจ​วิ่ง​ไปหา​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​งุนงง​ไป​หมด

ตั้งแต่​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​มา​จนถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่ทัน​จะ​พ้น​เดือน​ ​ฝีมือ​ของ​เซิน​เกอ​พัฒนา​ขนาด​นี้​แล้ว​เชียว​หรือ​ ​หรือว่า​เซิน​เกอ​จะ​มีพรสวรรค์​ทาง​ด้าน​นี้​กระมัง

ขณะที่​นาง​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​ก็ได้​เข้าไป​แยก​ทั้งสอง​ให้​ออกจาก​กัน​ ​“​พอได้​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​พูดคุย​กัน​ดี​ๆ​ ​ทะเลาะ​กัน​เช่นนี้​ใช้ได้​เสียที​่​ไหน​กัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ดู​สิ​ ​ทุกคน​ต่าง​จับจ้อง​พวก​เจ้า​กัน​หมด​แล้ว​!​”

ทั้งสอง​จึง​หยุด​ทะเลาะ​กัน​ ​แต่​ก็​ยัง​จ้อง​ตากัน​เขม็ง​ด้วย​ความไม่พอใจ

สือ​อี​เหนียง​เกลี้ยกล่อม​ไป​พักใหญ่​ ​จิ​่น​เกอ​จึง​พูด​ขึ้น​ว่า​เขา​ไม่ได้​จะ​แย่ง​คันธนู​ของ​เซิน​เกอ​มา​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​เซิน​เกอ​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​จิ​่น​เกอ​ไม่ได้​ตี​เขา​ ​ทั้งสอง​จึง​เข้ามา​จับมือ​กัน​ด้วย​ท่าที​เก้​ๆ​ ​กัง​ๆ​ ​ถือเป็น​การคืน​ดี

เซิน​เกอ​จึง​ค่อย​สะพาย​คันธนู​แล้ว​เดิน​ออกจาก​เรือน​ไป​อย่าง​อกผาย​ไหล่​ผึ่ง​ ​ส่วน​จิ​่น​เกอ​ก็​หันหน้า​เดิน​กลับ​เรือน​ด้วย​สีหน้า​ที่​เศร้าสร้อย

หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​อาจารย์​เจี่ยน​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับ​ไป​จน​หมด​แล้ว​ ​ก็​กลับ​ไปหา​จิ​่น​เกอ​ทันที​ ​ทั้งคู่​กำลัง​นั่ง​พิง​หัว​เตียง​ของ​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​ ​สือ​อี​เหนียง​ยกตัวอย่าง​สุภาษิต​มากมาย​มา​อธิบาย​ให้​แก่​บุตรชาย​ของ​นาง​ ​“​เหนือ​คนยัง​มี​คน​ ​นอก​ขุนเขา​ยัง​มี​ขุนเขา​”​ ​“​พี่น้อง​พร้อมใจ​ ​จะ​เกิด​เป็น​พลัง​อัน​ยิ่งใหญ่​”​ ​สีหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​จึง​ค่อยดีขึ้น

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​โล่งใจ

นึกไม่ถึง​ว่าวัน​ถัดมา​ตอน​ฝึก​ย่อเข่า​ที่​เรือน​ซิ่ว​มู่​ ​ทั้งสอง​จะ​ชวน​กัน​ทะเลาะ​เรื่อง​ฝึก​ย่อเข่า​หรือ​ฝึก​ยิง​ธนู​ขึ้น​มา​อีก

อาจารย์​ผัง​ห้ามปราม​ไป​หลายครั้ง​ ​ทั้งสอง​เอาแต่​รับปาก​แต่กลับ​ไม่ยอม​ทำตาม​ ​อาจารย์​ผัง​ก็​เลย​จูงมือ​ข้าง​ละ​คน​ ​พาทั​้​งคู​่​ไป​ที่​กลาง​ลาน​สวน​ ​“​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​ย่อเข่า​ประเดี๋ยวนี้​!​”​ ​อาจารย์​ผัง​สั่ง​ให้​ทั้งคู่​ฝึก​ย่อเข่า​กลางแดด

“​หึ​!​”​ ​ทั้งสอง​สบถ​เสียงใส​่​กัน​ ​จากนั้น​ก็​ย่อเข่า

ช่วง​กลาง​ฤดูร้อน​ ​พระอาทิตย์​ขึ้น​ตั้งแต่​เช้า​แล้ว​ ​แดด​แรง​เจิดจ้า​ ​สาดส่อง​ทำให้​น่า​หงุดหงิด​ใจ

จิ​่น​เกอ​ฝึก​ย่อเข่า​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก็​เห็น​ว่า​อาจารย์​ผัง​กำลัง​นั่ง​จิบ​ชา​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​อยู่​ใต้​ชายคา​ของ​เรือน​ ​ก็​แอบ​ขยับ​ไป​ยัง​ทิศทาง​เงา​ร่มไม้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ไป​สอง​สาม​ก้าว

อาจารย์​ผัง​กำลัง​วุ่นอยู่กับ​ท่า​ย่อเข่า​ของ​หวง​เสี่ยว​เหมา​ ​จึง​ไม่ทัน​ได้​สังเกตเห็น

จิ​่น​เกอ​เห็น​แล้วก็​รู้สึก​ใจกล้า​มา​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​จึง​ขยับ​เพิ่ม​อีก​หลาย​ก้าว​ ​จากนั้น​ก็​ฝึก​ย่อเข่า​ใต้​ร่มเงา​ของ​ต้นไม้

เซิน​เกอ​หันกลับ​ไป​มอง​พอดี​ ​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​เหนือศีรษะ​ของ​จิ​่น​เกอ​ที่​ถูก​ลงโทษ​พร้อมกับ​เขา​นั้น​มี​ร่มเงา​ของ​ต้นไม้​ ​จึง​เข้าใจ​ได้​ในทันที​ ​ฉวยโอกาส​ตอนที่​อาจารย์​ผัง​กำลัง​สอน​ฉั​งอา​นรีบ​ขยับ​ไป​ข้างๆ​ ​สอง​สาม​ก้าว​ ​รอจังหวะ​ตอนที่​อาจารย์​ผัง​กำลัง​พยักหน้า​ด้วย​ความพอใจ​อยู่​นั้น​ ​เขา​ก็​รีบ​ขยับ​เพิ่ม​ไป​อีก​สอง​สาม​ก้าว​ ​และ​ตอนที่​อาจารย์​ผัง​หมุนตัว​กลับ​ไป​นั่ง​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ ​เซิน​เกอ​ก็​ขยับ​เพิ่ม​อีกครั้ง

เช่นนี้​ ​เขา​ก็​สามารถ​ฝึก​ย่อเข่า​อยู่​ใต้​เงา​ร่มไม้​เหมือนเช่น​จิ​่น​เกอ​แล้ว

แสงแดด​สาดส่อง​ทะลุ​ผ่าน​กิ่งไม้​กระทบ​ลง​บน​เสื้อ​ของ​เซิน​เกอ​ ​เซิน​เกอ​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​สีหน้า​ได้ใจ​ ​ราวกับ​กำลัง​พูด​ใน​ใจ​ว่า​ ​‘​ท่าน​ทำได้​ ​ข้า​ก็​ทำได้​เช่นกัน​!​’

จิ​่น​เกอ​ที่​คอย​สังเกต​เซิน​เกอ​อยู่​แล้ว​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เซิน​เกอ​ขยับ​ไป​อยู่​ใต้​ร่มเงา​ของ​ต้นไม้​ ​ก็​หัวเราะ​เสียง​เบา​ ​ถือว่า​ฉลาด​ไม่น้อย​ ​ไม่​ไป​ยืน​ตากแดด​ด้วย​ความ​โง่เขลา

ทั้งสอง​สบตา​กัน​โดยบังเอิญ

คน​หนึ่ง​แววตา​ยั่วยุ​ ​ส่วน​อีก​คน​แววตา​ไม่พอใจ​…​ขณะที่​ทั้งสอง​กำลัง​หันหน้า​กลับ​ไป​นั้น​ ​อาจารย์​ผัง​ก็​พูด​ขึ้น​ด้วย​เสียง​ที่​ดังลั่น​ราวกับ​เสียง​ฟ้าผ่า​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​กำลัง​ทำ​อะไร​…​”​ ​อาจารย์​ผัง​เดิน​ตรง​มาด​้ว​ยสี​หน้าที่​เคร่งขรึม​ ​จากนั้น​ก็​ดึง​ทั้งสอง​ไป​ยืน​อยู่​กลาง​ลาน​สวน​ท่ามกลาง​แสงแดด​ที่​แรงกล้า​เหมือนเดิม​ ​“​ย่อ​ดี​ๆ​!​ ​หาก​ยัง​กล้า​ลุกขึ้น​ยืน​อีก​ ​ข้า​จะ​ไป​บอก​ท่าน​โหว​ประเดี๋ยวนี้​ ​ใช้​กฎ​ของ​จวน​สกุล​สวี​ลงโทษ​พวก​เจ้า​!​”

ทั้งสอง​ไม่กล้า​เถียง​ต่อ​ ​จึง​ทำได้​เพียง​ฝึก​ย่อเข่า​กลาง​ลาน​สวน​ท่ามกลาง​แสงแดด​ดังเดิม

“​น่า​โมโห​ชะมัด​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​จ้องมอง​ไป​ยัง​เงา​แผ่น​หลัง​อาจารย์​ผัง​ที่​เดิน​เป๋​เล็กน้อย​ ​ใบหน้า​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที

“​ฝึก​ย่อเข่า​ใต้​ร่มเงา​ไม่ได้​หรือ​อย่างไร​กัน​”​ ​เซิน​เกอ​ขบ​กราม​แน่น

ทั้งสอง​หันมา​สบตา​กัน​ ​ต่าง​ก็​มองเห็น​แววตา​ที่​ไม่ยอม​แพ้​ของ​กันและกัน

ความโกรธแค้น​ศัตรู​คนเดียว​กัน​พลอย​ทำให้​ทั้งสอง​ลืม​ความขัดแย้ง​เมื่อครู่นี้​ไป​เสีย​สนิท

คน​หนึ่ง​เปิดปาก​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่​หก​ ​เรา​จะ​ปล่อย​ให้​เป็น​เช่นนี้​หรือ​อย่างไร​กัน​”

“​จะ​ยอม​ได้ที่​ไหน​กัน​เล่า​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ตอบกลับ​ ​“​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ให้​ได้​ถึง​จะ​ถูก​!​”

“​พี่​หก​มี​วิธี​อะไร​หรือ​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​พี่ชาย​มี​ความคิด​ไป​ใน​ทิศทาง​เดียว​กับ​ตน​ ​น้ำเสียง​ของ​เซิน​เกอ​ก็ดี​ใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​อย่างเห็นได้ชัด​ ​“​ท่าน​รีบ​คิด​เร็ว​ๆ​ ​หน่อย​ ​ธูป​ใกล้​จะ​หมด​ก้าน​อยู่​แล้ว​!​”

จิ​่น​เกอ​ยังคง​เอ้อระเหย​ลอยชาย​เหมือนเดิม​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​จึง​ค่อย​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ธูป​หมด​ก้าน​ถึง​จะ​ดี​ ​มิเช่นนั้น​เรา​ก็​ขยับ​ไป​ไหน​ไม่ได้​ ​วิธี​จะ​ดี​แค่ไหน​ก็​ไร้​ซึ่ง​ประโยชน์​!​”

“​ก็​จริง​”​ ​เซิน​เกอ​ตอบกลับ​เสียง​เบา​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก

*****

“​สุริยัน​แห่ง​หยาง​ดุจดั่ง​ต้นกำเนิด​ของ​ทุก​สรรพสิ่ง​ ​จันทรา​แห่ง​หยิน​เป็น​ดั่ง​สัญลักษณ์​ของ​แก่นแท้​”​ ​จิ​่น​เกอ​กำลัง​ท่อง​ ​‘​ตำรา​ปฐมวัย​’​ ​ที่พึ่ง​เรียน​ไป​เมื่อวาน​นี้​เสร็จ

อาจารย์​จ้าว​พยักหน้า​ไม่​หยุด​ ​“​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​ไม่เลว​ทีเดียว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​วาง​หนังสือ​ใน​มือ​ลง​ ​หยิบ​เอา​ตัวอักษร​ใหญ่​ที่​ได้​เตรียม​ไว้​ตั้งแต่แรก​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​“​วันนี้​เจ้า​ฝึก​ตัวเขียน​อักษร​เหล่านี้​”

จิ​่น​เกอ​ขานรับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​“​ขอรับ​”​ ​เขา​รับ​กระดาษ​เซ​วี​ยน​จื่อ​มาด​้วย​ความดี​อก​ดีใจ​ ​แววตา​เต็มไปด้วย​ความ​เจ้าเล่ห์​ ​จากนั้น​ก็​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​อาจารย์​จ้าว​เบา​ๆ​ ​ด้วย​ความ​สนิทสนม​ ​“​ท่าน​อาจารย์​ ​ท่าน​กลัว​อะไร​เป็น​ที่สุด​ขอรับ​”

อาจารย์​จ้าว​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ข้า​กลัว​คน​ไม่​รักษา​สัจจะ​เป็น​ที่สุด​!​”

“​ข้า​ไม่ได้​หมายถึง​สิ่ง​นี้​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​กว้าง​ ​“​ข้า​หมายถึง​ท่าน​อาจารย์​กลัว​สิ่งใด​ต่างหาก​ ​อย่างเช่น​เสือ​หรือว่า​หมาป่า​!​”

“​อ้อ​!​”​ ​อาจารย์​จ้าว​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​ข้า​กลัว​คางคก​ที่สุด​ ​เพราะ​รู้สึก​ว่า​มัน​น่าขยะแขยง​”

“​ที่แท้​แล้ว​ท่าน​อาจารย์​กลัว​คางคก​ที่สุด​นี่เอง​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​ร่า​ราวกับ​แสงแดด​ใน​ฤดูร้อน​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ขอตัว​กลับ​ไป​ฝึก​คัด​อักษร​ก่อน​ขอรับ​!​”

ถึงแม้​จะ​ไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​ลูกศิษย์​ถึง​ได้​ถาม​คำถาม​เช่นนี้​ ​แต่​สำหรับ​ความเฉลียวฉลาด​และ​ความน่ารัก​น่าชัง​ของ​จิ​่น​เกอ​แล้ว​ ​อาจารย์​จ้าว​ก็ได้แต่​พยักหน้า​ด้วย​ความปลาบปลื้ม​ใจ

วัน​ถัดมา​ ​อาจารย์​ผัง​ที่​กำลัง​ยืน​มือ​ไพล่หลัง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ ​จู่ๆ​ ​พุ่ม​หญ้า​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​มี​คางคก​กระโดด​ออกมา​เจ็ด​ถึง​แปด​ตัว​ ​บาง​ตัว​ก็​กระโดด​ไป​อยู่​ข้างๆ​ ​เท้า​ของ​อาจารย์​ผัง

เรือน​ซิ่ว​มู่​ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​ต้นไม้​ใหญ่​ ​เดือน​หก​เช่นนี้​จะ​มี​คางคก​กระโดด​ออกมา​ก็​ไม่​แปลก

อาจารย์​ผัง​มองดู​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เตะ​คางคก​เหล่านั้น​ออกจาก​ขั้นบันได​เบา​ๆ​ ​แล้วจึง​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ​ ​เซิน​เกอ​และ​คนอื่นๆ​ ​ด้วย​สายตา​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​เริ่ม​ฝึก​ย่อเข่า​ประเดี๋ยวนี้​!​”

ทุกคน​ขานรับ​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ ​จากนั้น​ก็​พากัน​ย่อ​ตัว​เริ่ม​ฝึก​ย่อเข่า

สายตา​ของ​อาจารย์​ผัง​ยังคง​จ้องมอง​ไป​ยัง​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ

ไม่รู้​เป็น​เพราะอะไร​ ​เขา​เอาแต่​รู้สึก​ว่า​ท่าที​ของ​เด็ก​สอง​คน​นี้​แปลก​ๆ​ ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

“​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​อาจารย์​ผัง​ถาม​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สุขุม​ ​“​ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือ​”

ตั้งแต่​จิ​่น​เกอ​เจ็บ​ขา​เมื่อ​ครั้ง​ที่แล้ว​ ​อาจารย์​ผัง​ก็​ใส่ใจ​กับ​เด็ก​สอง​คน​นี้​เป็นพิเศษ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท