ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 634 กล่าวขอโทษ (กลาง)

ตอนที่ 634 กล่าวขอโทษ (กลาง)

“​เปล่า​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​รีบ​ตอบกลับ​ทันที​ ​“​พวก​ข้า​สบายดี​ขอรับ​”

อาจารย์​ผัง​จ้องมอง​ทั้งสอง​ด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ทั้งคู่​ได้​ฝึก​ย่อเข่า​ตามคำสั่ง​เขา​อย่างเป็นระเบียบ​เรียบร้อย​ ​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ด้วย​ความพึงพอใจ

ยาม​เหม่า​สาม​เค​่อ​ตรง​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เดิน​ออกมา​จาก​เรือน​ซิ่ว​มู่​ ​จากนั้น​ก็​ตรง​ไปหา​พ่อบ้าน​ไป๋​ทันที

“​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​ท่าน​กลัว​อะไร​ที่สุด​”

ดวงตา​ของ​เขา​แวววาว​เป็นประกาย​ ​ดู​น่ารักน่าชัง​เป็นอย่างมาก​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​ขึ้น​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​มีธุระ​อัน​ใด​หรือ​ขอรับ​”

“​ไม่มี​อะไร​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​พร้อมกับ​รีบ​โบกมือ​ปฏิเสธ​ ​“​ข้า​กลัว​ห่าน​ที่สุด​ ​ก็​เลย​อยากรู้​ว่า​พ่อบ้าน​ไป๋​กลัว​อะไร​ที่สุด​”

คำพูดคำจา​ของ​เด็กน้อย​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียงดัง

พ่อบ้าน​ไป๋​กำลัง​ปรึกษาหารือ​กับ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​ของ​ฝ่าย​บันทึก​ข้อมูล​และ​ฝ่าย​รายงาน​ ​เดือน​เจ็ด​ของ​ทุกปี​ ​ผู้ดูแล​ร้าน​แต่ละ​ที่​ของ​จวน​สกุล​สวี​จะ​ต้อง​กลับมา​ตรวจทาน​เปรียบเทียบ​บัญชี​ ​นอกจาก​จะ​ต้อง​เร่ง​ให้​ทาง​ฝ่าย​บันทึก​ข้อมูล​รีบ​ตรวจทาน​บัญชี​ของ​ครึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​ให้​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ยัง​ต้อง​จัดการ​วางแผน​ดูแล​เกี่ยวกับ​ที่พักอาศัย​รวมไปถึง​อาหารการกิน​ของ​ผู้ดูแล​ร้าน​เหล่านั้น​อีกด้วย

เมื่อ​เขา​ถาม​มา​เช่นนี้​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ตอน​เด็ก​บ่าว​กลัว​แมงมุม​มาก​ที่สุด​ ​กลัว​ว่า​มัน​จะ​ปล่อย​ใยแมงมุม​ออกมา​ ​แล้ว​เรา​ก็​จะ​ติด​และ​ออกมา​ไม่ได้​เหมือนกับ​แมลง​พวก​นั้น​!​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​กล่าว​ขอบคุณ​พ่อบ้าน​ไป๋​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ชั้นใน

พ่อบ้าน​ไป๋​เอง​ก็​มองตาม​เงา​แผ่น​หลัง​ที่​กำลังดี​ใจ​ของ​จิ​่น​เกอ​ค่อยๆ​ ​ไกล​ออก​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​จากนั้น​ก็​หมุนตัว​เดิน​กลับ​เข้าไป​ใน​เรือน

*****

จิ​่น​เกอ​เพิ่งจะ​ก้าว​เข้าไป​ใน​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​จู่ๆ​ ​เซิน​เกอ​ก็​โผล่​ออกมา​จาก​ด้านหลัง​ของ​ต้น​ทับทิม​ที่อยู่​ข้างๆ

“​ถาม​ได้ความ​หรือไม่​”​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความร้อน​ใจ​ ​“​พ่อบ้าน​ไป๋​กลัว​อะไร​ขอรับ​”

“​กลัว​แมงมุม​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ภูมิใจ

เซิน​เกอ​จึง​ค่อย​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​มี​แมงมุม​เยอะ​มาก​”

จิ​่น​เกอ​ได้​กำชับ​กับ​เขา​ว่า​ ​“​ช่วง​บ่าย​ตอนที่​ข้า​ไป​ฝึก​คัด​อักษร​ ​เจ้า​อย่า​ลืม​พา​หวง​เสี่ยว​เหมา​ไป​จับ​แมงมุม​มาสั​กห​ลาย​ๆ​ ​ตัว​”

“​ท่าน​วางใจ​เถิด​!​”​ ​เซิน​เกอ​ยืด​อก​รับปาก​ ​“​ข้า​จะ​เอา​กล่อง​เครื่องเคลือบ​เขียน​สี​ฟ่า​หลัง​ของ​ข้า​ไป​ด้วย​ ​ใส่​เต็ม​หนึ่ง​กล่อง​ ​ข้า​ไม่เชื่อ​ว่า​เขา​จะ​ไม่​กลัว​!​”

วัน​ถัดมา​ ​อาจารย์​ผัง​ก็​ยังคง​ทำ​เหมือนเช่น​เคย​ ​เดิน​ดู​เหล่า​บรรดา​ลูกศิษย์​ฝึก​ย่อเข่า

ไม่ว่า​จะ​เป็น​หวง​เสี่ยว​เหมา​ที่​อายุ​มากกว่า​หรือ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ที่​อายุ​น้อยกว่า​ ​ทั้งคู่​ต่าง​ก็​ดู​เป็น​คนจริง​จัง​และ​สุขุม​หนักแน่น

เขา​จึง​แอบ​พยักหน้า​เบา​ๆ

หันไป​รับ​ถ้วย​น้ำชา​จาก​บ่าว​รับใช้​ชาย​ ​จากนั้น​ก็​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ด้วย​ความสบายใจ

จู่ๆ​ ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​อุทาน​เสียงดัง​ด้วย​ความตกใจ

อาจารย์​ผัง​หมุนตัว​กลับ​ไปดู​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​ราวกับ​ฟ้าแลบ​ก็​ไม่​ปาน

บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​สีดำ​เงา​ ​มี​แมงมุม​ขนาด​เท่ากับ​เล็บมือ​คลาน​ยั้วเยี้ย​ไปมา​เต็มไปหมด

เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​มี​แมงมุม​เยอะ​ขนาด​นี้

อาจารย์​ผัง​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​จากนั้น​ก็​ใช้​แขน​เสื้อ​กวาด​แมงมุม​เหล่านั้น​ลง​ไป​บน​พื้น​ ​แล้วจึง​นั่งลง​อย่าง​สุขุม​ ​หยิบ​ฝาน​้ำ​ชา​เกลี่ย​ใบชา​ที่​ลอย​อยู่​บน​ผิวน้ำ​ใน​ถ้วย​น้ำชา​เบา​ๆ​ ​จิบ​ชา​ไป​หนึ่ง​คำ​ด้วย​ความ​ใจเย็น

สีสัน​เขียวสด​ ​กลิ่นหอม​เข้มข้น​ ​หวาน​ลิ้น​ชุ่ม​คอ

ไม่​เสียที​ที่​ขึ้นชื่อว่า​ชา​หลง​จิ​่ง​ ​เครื่องบรรณาการ​ชั้นเลิศ​จาก​ซี​หู

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​ท่าน​โหว​จะ​ดู​สุขุม​เยือกเย็น​ ​แต่กลับ​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​และ​กล้าได้กล้าเสีย​ ​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ด้วย​ความเคารพ​ ​มิเช่นนั้น​ ​สามัญชน​ธรรมดา​เช่น​เขา​ที่​ไร้​ซึ่ง​ชื่อเสียงเรียงนาม​จะ​ได้มา​สอน​วิชา​หมัด​มวย​ให้​กับ​คุณชาย​น้อย​ของ​จวน​ได้​อย่างไร​ ​และ​เขา​จะ​ได้รับ​ใบชา​ที่​ใน​วัง​พระราชทาน​ให้​กับ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า

เขา​จะ​ต้อง​ตั้งใจ​ฝึก​คุณชาย​น้อย​หก​ให้​เก่งกาจ​ ​เพื่อ​เป็นการ​ตอบแทน​บุญคุณ​คุณชาย​ใหญ่​สกุล​เซ่า​กับ​ท่าน​โหว

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​ดวงตา​ของ​อาจารย์​ผัง​ก็​ค่อยๆ​ ​หรี่​ลง​เล็กน้อย

สำหรับ​คนที​่​กำลัง​มีแผน​การ​ใน​ใจ​ ​ถือเป็น​สีหน้าท่าทาง​ที่​ดู​มีความสุข​เป็นอย่างมาก

จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​ต่าง​ก็​หันมา​สบตา​กัน​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​พยักหน้า​ให้​กับ​เซิน​เกอ​เบา​ๆ

ตก​กลางคืน​ ​อาจารย์​ผัง​ก็ได้​ร่วม​ดื่ม​สุรา​กับ​ผู้ดูแล​จวน​ที่​มี​ความชำนาญ​ใน​ด้าน​ศิลปะ​การต่อสู้​ภายใน​ที่​เพิ่ง​รู้จัก​กันได​้​เพียง​ไม่นาน​จน​เมามาย​ ​หลังจากนั้น​ก็​เดิน​กลับ​ไป​ยัง​เรือน​ซิ่ว​มู่

แสงจันทร์​สว่างจ้า​ ​ลม​เย็น​พัด​โชย​ ​เขา​ทิ้งตัว​ลงนอน​บน​เตียง

เวลา​นั้น​เอง​ ​ก็​มีตั​วอะ​ไร​บางอย่าง​ปีน​ขึ้น​บน​ขา​ของ​เขา

เขา​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​รีบ​ลุกขึ้น​นั่ง​ทันที​ ​ก็​เห็น​หนู​จำนวน​หนึ่ง​วิ่ง​ออกมา​จาก​ผ้านวม

“​นี่​มัน​อะไร​กัน​!​”​ ​อาจารย์​ผัง​ตะโกนเรียก​บ่าว​รับใช้​ชาย​เสียงดัง

บ่าว​รับใช้​ชาย​ที่​กำลัง​หิ้ว​ถังน้ำ​อยู่​ก็​วิ่ง​เข้ามา​ทันที​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​หนู​กำลัง​วิ่ง​มายัง​ทิศทาง​ที่​เขา​ยืน​อยู่​ ​ก็​ตะโกน​ร้อง​ลั่น​ด้วย​ความตกใจ​ ​น้ำ​ใน​ถัง​ที่​เขา​หิ้ว​อยู่​หก​กระจัดกระจาย​เต็ม​พื้น​ไป​หมด

ทั้งสอง​พากัน​ไล่​ตี​หนู​ไป​ครึ่ง​ค่อนคืน​ ​นอกจาก​หนู​วิ่งหนี​เตลิดเปิดเปิง​เหล่านั้น​แล้ว​ ​โชคดี​ที่​ไม่​เจอ​รัง​หนู​ใน​เรือน

เรือน​เพิ่งจะ​สร้าง​เสร็จ​ใหม่​ๆ​ ​จึง​ค่อนข้าง​ร้าง​ ​แถม​ใน​เรือน​ยัง​มี​ของหวาน​อีกด้วย​ ​หนูคง​ได้กลิ่น​เข้า​ ​ก็​เลย​แอบ​มา​ขโมย​ของกิน

อาจารย์​ผัง​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​ล้างหน้าล้างตา​เสร็จ​แล้วก็​รีบ​เข้านอน​ ​เช้า​วันรุ่งขึ้น​ก็​ตื่นนอน​ตั้งแต่​ฟ้า​ยัง​ไม่ทัน​จะ​สว่าง​ ​เขา​ล้างหน้าล้างตา​ด้วย​น้ำเย็น​ ​สีหน้า​ท่าที​กลับมา​กระฉับกระเฉง​เหมือนเช่น​เดิม

หลังจาก​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ ​ก็​เจอ​กับ​แมลงสาบ​ฝูง​ใหญ่

เดือน​หก​เป็นช่วง​ที่​แมลง​ต่างๆ​ ​ออกมา​เคลื่อนไหว​หรือ​ย้าย​แหล่งที่อยู่​อาศัย

อาจารย์​ผัง​จึง​ให้​บ่าว​รับใช้​ชาย​ไป​ขอ​ผงซ​ยง​หวง​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​โรย​รอบ​ๆ​ ​เรือน

*****

“​เรา​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​”​ ​สอง​พี่น้อง​นั่ง​เท้าคาง​อยู่​บน​ขั้นบันได​หิน​กรวด​ ​เซิน​เกอ​จ้องมอง​จิ​่น​เกอ​ตา​ปริบๆ​ ​“​อาจารย์​ผัง​ไม่เห็น​จะ​กลัว​อะไร​เลย​แม้แต่​อย่าง​เดียว​!​”

จิ​่น​เกอ​เอง​ก็​คาดไม่ถึง​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งเครียด​ว่า​ ​“​ขอ​ข้า​คิด​ก่อน​!​”

เซิน​เกอ​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ต่อ​ ​เขา​ทอดสายตา​มอง​ไป​ยัง​ต้น​การบูร​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ด้วย​ความเบื่อหน่าย

เวลา​นั้น​เอง​ ​ทั้งคู่​ก็ได้​ยิน​เสียง​ที่​ไพเราะ​และ​อ่อนโยน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ดัง​ขึ้น​ ​“​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​ไม่​ไป​นอน​พัก​ช่วง​บ่าย​ที่​เรือน​?​ ​ออกมา​ทำ​อะไร​ที่นี่​”

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​อุทาน​ขึ้น​มาด​้วย​ความตกใจ​ ​ราวกับว่า​กำลัง​ปิดบัง​อะไร​อยู่​ ​เขา​โผ​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​อากาศ​ใน​เรือน​ร้อน​อบอ้าว​ ​พวก​ข้า​ก็​เลย​นอนไม่หลับ​ขอรับ​!​”

เซิน​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​สะดุ้งโหยง​ ​วิ่ง​เข้าไป​กอด​แขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สี่​ ​อากาศ​ร้อน​มาก​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​โอบกอด​เด็ก​ทั้งสอง​ไว้​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ให้​บ่าว​รับใช้​ชาย​ไป​ขน​น้ำแข็ง​มา​ไว้​ที่​ห้อง​ของ​จิ​่น​เกอ​สัก​ก้อน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​จูงมือ​ของ​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​ไป​ที่​เรือน​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​“​รีบ​ไป​นอน​พักผ่อน​เถิด​ ​มิฉะนั้น​ตอน​ฝึก​คัด​อักษร​จะ​ไม่มี​สมาธิ​เอา​ได้​!​”

ทั้งคู่​รีบ​พยักหน้า​ทันควัน

เวลา​นั้น​เอง​ ​เติงฮ​วาก​็​วิ่ง​มาหา​นาง​ด้วย​ความรีบร้อน​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​เวย​เป่ย​โหว​จู่ๆ​ ​ก็​เสียชีวิต​ลง​อย่างกะทันหัน​ ​ท่าน​โหว​เลย​สั่ง​ให้​บ่าว​มาแจ้ง​ข่าว​กับฮู​หยิน​ ​ให้ฮู​หยิน​เปลี่ยน​ชุด​แล้ว​รีบ​ไปดู​หน่อย​ ​ตอนนี้​ท่าน​โหว​รุดหน้า​ไป​ก่อน​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​เรื่อง​เกิดขึ้น​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​ ​เสียชีวิต​ด้วย​สาเหตุ​อัน​ใด​”

ทั้งสอง​จวน​อยู่​ติดกัน​ ​เวย​เป่ย​โหว​เสียชีวิต​ ​หาก​มี​การ​สร้าง​เพิง​งานศพ​ ​แขวน​ผ้าแพร​ขาว​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ต้อง​ได้ยิน​ความเคลื่อนไหว​บ้าง​ถึง​จะ​ถูก​ ​แต่​ทุกอย่าง​กลับ​เงียบเชียบ​ ​จู่ๆ​ ​ก็ได้​รับ​ข่าว​การ​เสียชีวิต​เช่นนี้​ ​ตอน​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​เวย​เป่ย​โหว​เอง​ก็ได้​เชื้อเชิญ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไปร​่ว​มดื​่ม​สุรา​ด้วย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ยัง​พูด​อยู่​หยกๆ​ ​ว่า​ ​‘​ขิง​แก่​ยังคง​เผ็ด​กว่า​เสมอ​’​…

“​ทาง​ฝ่าย​รายงาน​ยัง​ไม่ได้​รับ​แจ้ง​ข่าว​การ​เสียชีวิต​เจ้าค่ะ​”​ ​เติงฮ​วา​เป็น​คนฉลาด​หลักแหลม​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ฉะฉาน​และ​ชัดเจน​ ​“​ท่าน​เวย​เป่ย​โหว​ซื่อ​จื่อ​ให้​บ่าว​รับใช้​ชาย​คนสนิท​เป็น​คน​มาแจ้ง​ข่าว​ ​ฟัง​จาก​ที่​พูด​มา​ ​ดูเหมือนว่า​ท่าน​เวย​เป่ย​โหวกำ​ลัง​ทานอาหาร​เที่ยง​กับ​ท่าน​เวย​เป่ย​โหว​ซื่อ​จื่อ​อยู่​ ​แต่​จู่ๆ​ ​ท่าน​เวย​เป่ย​โหวก​็​ล้ม​ลง​บน​โต๊ะอาหาร​ ​กว่า​หมอ​หลวง​จะ​มาถึง​ ​ท่าน​เวย​เป่ย​โหวก​็​หมดลม​หายใจ​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

เช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​พึ่ง​จะ​เสียชีวิต​เมื่อ​ครู่​ที่ผ่านมา

ตาม​หลัก​แล้ว​ ​เมื่อมี​คนใน​ตระกูล​เสียชีวิต​ ​ก็​ควรจะ​รีบ​แจ้ง​ข่าว​มรณะ​กรรม​ก่อน​เป็นอัน​ดับ​แรก​ ​แต่ทว่า​ ​จวน​สกุล​สวี​กับ​จวน​สกุล​หลิน​นั้น​เป็นเพื่อน​บ้าน​ที่อยู่​ใกล้​กัน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​ญาติ​ที่มา​จาก​การ​เกี่ยวดอง​ ​จวน​สกุล​หลิน​มาแจ้ง​เรื่อง​กับ​ทาง​จวน​สกุล​สวี​ก่อน​ก็​ไม่ได้​ถือว่า​เป็นเรื่อง​แปลก​แต่อย่างใด

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​ให้​หง​เหวิ​นกั​บอา​จิน​ดูแล​จิ​่น​เกอ​และ​เซิน​เกอ​ต่อ​ ​ส่วน​นาง​ก็​กลับ​เรือน​ไป​เปลี่ยนเป็น​ชุด​เป้ย​จื่อ​สีน้ำเงิน​อม​เขียว​ลาย​ก้อน​เมฆ​ ​ประดับ​ผม​ด้วย​ปิ่น​มุก​ ​แล้วจึง​เข้าไป​เรียน​เรื่อง​นี้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​ตรง​ไป​ที่​จวน​เวย​เป่ย​โหว​พร้อมกับ​หู่​พั่ว​ทันที

จวน​สกุล​หลิน​เพิ่งจะ​เริ่ม​กาง​เพิง​งานศพ​และ​แขวน​ม่าน​ผ้าฝ้าย​ขาว

ป้า​รับใช้​คนสนิท​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​กำลัง​ยืน​รอนา​งอยู​่​ที่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา​ ​รถม้า​ของ​นาง​เพิ่งจะ​หยุด​ลง​ ​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ก็​รีบ​เข้ามา​รับ​สือ​อี​เหนียง​ลง​จาก​รถม้า​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​ของ​บ่าว​ให้ฮู​หยิน​รอที​่​ห้องโถง​เล็ก​ประเดี๋ยว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ไม่ได้​เปลี่ยน​ชุด​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​แปลกใจ​ ​เมื่อ​ไป​ถึงที่​ห้องโถง​เล็ก​ ​หลังจาก​สาวใช้​ริน​น้ำชา​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็​เดิน​เข้ามา​หานาง​ทันที

“​เจ้า​มา​แล้ว​หรือ​ ​พอดี​เลย​ ​มาช​่วย​หนุนหลัง​ข้า​ที​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ค่อนข้าง​แย่​เป็นอย่างมาก​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่ได้​เปลี่ยน​ชุด​ ​นาง​เข้ามา​จูงมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ของ​หลินฮู​หยิน​ ​“​บรรดา​ญาติ​ๆ​ ​ต่าง​ก็​เล่า​ว่า​ท่าน​พ่อ​ถูก​ซื่อ​จื่อ​ทำให้​โมโห​จน​เสียชีวิต​ในขณะที่​กำลัง​ทานอาหาร​เที่ยง​ด้วยกัน​”​ ​พูด​จบ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ตอนนี้​ทุกคน​ก็​กำลัง​ทะเลาะ​กัน​อยู่​ด้านนอก​!​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​เหตุใด​ถึง​เป็น​เช่นนี้​ไป​ได้​”

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​โกรธแค้น​ว่า​ ​“​สามารถ​ดึง​ซื่อ​จื่อ​ลง​จาก​ตำแหน่ง​ได้​ก็​จะ​ดี​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​หากว่า​ไม่​สามารถ​ทำได้​ ​พวก​ข้า​ก็​คงจะ​ถูก​สาดโคลน​อย่างแน่นอน​!​”

นี่​เป็นปัญหา​ภายใน​ของ​จวน​สกุล​หลิน​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​สั่ง​ให้​บ่าว​รับใช้​มาแจ้ง​ข่าว​กับ​นาง​ ​แสดงว่า​เขา​จะ​ต้อง​มีเหตุผล​อย่างแน่นอน

สือ​อี​เหนียง​จึง​สงบ​จิตใจ​ลง​ ​จากนั้น​ก็​เดินตาม​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เข้าไป​ใน​เรือน​ชั้นใน​ของ​หลินฮู​หยิน

*****

ต้น​ยาม​ไฮ​่​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ค่อย​กลับ​จาก​จวน​เวย​เป่ย​โหว

“​ข้า​รู้ดี​ว่า​อะไร​คือ​การ​บิดเบือน​ข้อเท็จจริง​ ​เปลี่ยน​ดำ​ให้​เป็น​ขาว​ ​เถียง​ข้างๆ​ ​คู​ๆ​ ​พูดจา​เหลวไหล​และ​หยาบคาย​ไร้​ซึ่ง​เหตุผล​!​”​ ​ภพ​ชาติ​ที่ผ่านมา​สือ​อี​เหนียง​เป็น​ทนายความ​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​และ​เหล่า​บรรดา​ญาติ​ที่​เป็น​สตรี​แล้ว​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ทอดถอนใจ​ออกมา​เบา​ๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่รู้​ได้​อย่างไร​กัน

“​ระหว่าง​ข้า​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​ก็​ยัง​มีบุ​ตร​เขย​ใหญ่​อีกทั้ง​คน​”​ ​เขา​ยิ้ม​เจื่อน​ ​“​นับประสา​อะไร​กับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ที่​ล้วน​เจรจา​ด้วย​เหตุผล​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​จะ​ต้อง​ยื่นมือ​เข้าไป​ให้​ความช่วยเหลือ​อย่างแน่นอน​”

เช่นนี้​ก็​จะ​เป็นผลดี​ทั้ง​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​จวน​สกุล​สวี​เอง

สือ​อี​เหนียง​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​เรา​ยัง​ต้อง​ไป​อีก​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไว้​ดู​สถานการณ์​อีกที​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ ​“​เรา​ได้​แสดงเจตนา​รมณ์​ออก​ไป​อย่างชัดเจน​แล้ว​ ​จวน​สกุล​หลิน​ยัง​มี​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ด้วย​!​ ​อย่างไร​เสีย​หลิน​ไท่ฮู​หยิน​ก็​คงจะ​ไม่​ปล่อย​ให้​เรื่อง​บานปลาย​จน​กลายเป็น​เรื่องตลก​ขำขัน​ของ​ผู้คน​ได้​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไปหา​จิ​่น​เกอ

จิ​่น​เกอ​หลับ​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​ข้างๆ​ ​จะ​มี​อาจิน​คอย​พัด​ให้​เขา​อยู่​ตลอดเวลา​ ​แต่​หน้าผาก​ของ​เขา​ก็​ยังคง​เต็มไปด้วย​เม็ด​เหงื่อ​อยู่ดี

สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​ช่วย​จิ​่น​เกอ​เช็ด​เหงื่อ​บน​หน้าผาก​ ​จากนั้น​ก็​หอม​แก้ม​เขา​เบา​ๆ​ ​ไป​หนึ่ง​ที​ ​แล้วจึง​ค่อย​กลับ​เรือน​ไป

“​จิ​่น​เกอ​หลับ​แล้ว​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ชำระ​พอดี​ ​เขา​เปลี่ยนไป​สวม​ชุด​คลุม​ผ้า​ถัก​ซง​เจียง​แทน​ ​“​ช่วงนี้​การเรียน​ของ​เขา​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

“​นี่​เพิ่งจะ​สามสี​่​เดือน​เอง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ท่าน​โหว​ใจร้อน​ไป​กระมัง​เจ้า​คะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​หยิบ​พัด​ขึ้น​มา​ ​“​รีบ​เข้านอน​เถิด​!​ ​อากาศ​ค่อนข้าง​ร้อน​อบอ้าว​ ​ข้า​ช่วย​เจ้า​พัด​เอง​!​”

“​ท่าน​โหว​เอง​ก็​เหนื่อย​มาทั​้ง​วัน​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​แย่ง​พัด​ใน​มือ​ของ​เขา​ ​“​ข้า​ช่วย​พัด​ให้ท่าน​โหว​แทน​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ห้าม​สือ​อี​เหนียง​เอาไว้​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ได้​จู้จี้จุกจิก​เช่นนี้​!​”

ลม​อ่อน​ๆ​ ​พัด​โชย​ความ​เย็น​จาก​ก้อน​น้ำแข็ง​กระทบ​ลง​บน​ร่างกาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​เย็นยะเยือก​ไป​ถึง​ขั้ว​หัวใจ​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​พลิกตัว​หันมา​กุมมือ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไว้​ ​จากนั้น​ก็​หลับตา​ลง​อย่าง​ช้าๆ​ ​ครุ่นคิด​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​พรุ่งนี้​ควรจะ​ไป​ถาม​เรื่อง​การเรียน​ของ​จิ​่น​เกอ​กับ​อาจารย์​จ้าว​ดี​หรือไม่​ ​เพียง​ไม่นาน​สือ​อี​เหนียง​ก็​หลับ​ไป​อย่าง​ไม่รู้​ตัว

น่าเสียดาย​ที่​แผนการ​ตาม​ไม่ทันการ​เปลี่ยนแปลง

หลาย​วันหลัง​จากนั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต่าง​ก็​วุ่นอยู่กับ​เรื่อง​ของ​จวน​สกุล​หลิน​ทั้งคู่​ ​สาม​วัน​ถัดมา​ ​จวน​สกุล​หลิน​ก็ได้​ประกาศ​แจ้ง​ข่าว​มรณกรรม​ ​หลินฮู​หยิน​ยังคง​ไม่​สามารถ​ยับยั้ง​เหล่า​บรรดา​บุตรชาย​ของ​นาง​ได้​ ​บุตรชาย​แต่ละคน​แบ่งแยก​ทาง​ใคร​ทาง​มัน​ ​ใน​จวน​ชุลมุน​วุ่นวาย​ไป​หมด​ ​สาวใช้​ที่​ทำหน้าที่​ริน​น้ำชา​ถูก​สั่ง​ให้​ไป​กวาด​พื้น​ ​คน​เคาะ​กังสดาล​ถูก​ใช้​ให้​ไป​ต้อนรับ​แขก​…​คนที​่​มาร​่ว​มงาน​ศพ​เห็น​ว่า​สถานการณ์​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไร​นัก​ ​บางคน​จุด​ธูป​เสร็จ​ก็​ขอตัว​กลับ​เลย​ ​ส่วน​บางคน​ที่​ค่อนข้าง​สนิท​กับ​สกุล​สวี​ ​ก็​หา​ข้ออ้าง​ไป​เยี่ยม​จวน​สกุล​สวี​แทน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​พาส​วี​ซื่อ​จุน​ออกมา​คอย​ต้อนรับ​แขก​ที่​ด้านนอก​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ก็​คอย​ดูแล​เหล่า​บรรดา​แขก​ที่​เป็น​สตรี​อยู่​ใน​เรือน​ชั้นใน​ ​ฟัง​พวก​นาง​ซุบซิบนินทา​เรื่อง​ของ​จวน​สกุล​หลิน​ ​เวลา​นั้น​เอง​ก็​มี​คน​จาก​สกุล​เซ่า​เดินทาง​เข้า​เมืองหลวง​เพื่อมา​ร่วมงาน​ศพ​และ​มา​เยี่ยม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ก็​กำลัง​รอ​ให้​นาง​นำ​ถุงเท้า​รองเท้า​ที่นาง​ทำ​เอง​กับ​มือ​มาน​้​อม​ทักทาย​ตน​ ​เมื่อ​ครบ​เจ็ด​วัน​แรก​ของ​งานศพ​ของ​เวย​เป่ย​โหว​ ​สอง​สามีภรรยา​จึง​ค่อย​มี​เวลา​หยุดพัก

คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ได้​นำ​ของขวัญ​มาก​ล่าว​ขอบคุณ​ด้วยตัวเอง​ ​“​เคราะห์ดี​ที่​ได้​ท่าน​โหว​ช่วย​ไว้​!​ ​เดิมที​ก็​ควรจะ​ต้อง​มาก​ล่าว​ขอบคุณ​พวก​เจ้า​อยู่​แล้ว​ ​เพียงแต่ว่า​ตอนนี้​ที่​จวน​ของ​ข้า​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​ไว้ทุกข์​ ​ก็​คง​ต้อง​รอ​ให้​ออกทุกข์​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

“​ล้วนแล้วแต่​เป็น​ญาติพี่น้อง​กัน​ทั้งนั้น​ ​พี่​หญิง​ไม่จำเป็น​ต้อง​เกรงใจ​ขนาด​นี้​เจ้าค่ะ​”​ ​ทั้งสอง​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​นาง​ที่​หน้า​ประตู​ฉุยฮ​วา

เวลา​นั้น​เอง​ ​ฉั​งอา​นก​็​วิ่ง​เข้ามา​ด้วย​อาการ​หอบ​ ​เขา​ไม่มีเวลา​ไป​สนใจ​ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั้น​กำลัง​ส่ง​แขก​อยู่​ ​รีบ​เรียน​นาง​ทันที​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​รีบ​ไปดู​เถิด​ขอรับ​!​ ​อาจารย์​ผัง​กำลังจะ​เฆี่ยน​คุณชาย​น้อย​หก​กับ​คุณชาย​น้อย​เจ็ด​ขอรับ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท