ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 651 ร่วงหล่น (ต้น)

ตอนที่ 651 ร่วงหล่น (ต้น)

สือ​อี​เหนียง​มองดู​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​ที่​มีสาย​ตา​เป็นมิตร​ ​นาง​ไม่รู้​ว่า​ควร​หัวเราะ​หรือ​โมโห​ดี​

คิดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​ช่วย​หวัง​เฉิง​จู่​ช่วงชิง​สิทธิ์​ใน​การ​ดูแล​เรื่อง​ใน​ครอบครัว​จาก​สือ​เหนียง​

หวัง​เฉิง​จู่​คน​นี้​ช่างกล​้า​คิด​จริงๆ​ ​ใช้​ท่าน​ลุง​ของ​ตัวเอง​มากด​ขี่​ท่าน​แม่​ของ​ตัวเอง

ทันใดนั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ขน​แขน​ตั้งชัน

ตอนแรก​เขา​นำ​เทียบ​เชิญ​งานแต่ง​มา​ให้​คนใน​สกุล​หลัว​ด้วยตัวเอง​ ​ถือโอกาส​ปรับ​ความสัมพันธ์​ของ​เขา​กับ​คน​สกุล​หลัว​ ​จากนั้น​ก็​ถือโอกาส​ใช้งาน​แต่ง​ของ​ตัวเอง​ ​ต้อนรับ​คน​สกุล​เดิม​ของ​สือ​เหนียง​อย่าง​ขยันขันแข็ง​ ​ตีสนิท​กับ​คน​สกุล​หลัว​สำเร็จ​ ​ตอนนี้​เจตนา​ที่แท้​จริง​ถูก​เปิดเผย​ออกมา​แล้ว

หาก​เขา​ไม่​ใจร้อน​แบบนี้​ ​หาก​เขา​ไม่​เลือก​คุณชาย​สาม​ที่​ไม่มี​ปาก​มีเสียง​ใน​ตระกูล​ ​จะ​เป็น​อย่างไร​กัน

สือ​เหนียง​…​เลี้ยง​หมาป่า​เข้าให้​แล้ว

แล้ว​การ​ที่​คุณชาย​สาม​กับ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​ช่วย​หวัง​เฉิง​จู่​ทำ​แบบนี้​ ​ยิ่ง​ทำให้​ผู้คน​ดูถูก​เหยียดหยาม

“​น่าแปลก​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ ​“​พี่​หญิง​สิบ​เป็น​ม่าย​ ​ทำ​อะไร​สะดวก​หรือไม่​สะดวก​ ​คน​สกุล​หวัง​ยัง​ไม่ว่า​อะไร​ ​เหตุใด​พี่​สาม​ถึง​ต้อง​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​ของ​จวน​เม่ากั​๋​วก​งด​้วย​เล่า​!​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​ตกตะลึง

นาง​อาศัย​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​ความสัมพันธ์​ของ​สือ​เหนียง​และ​สือ​อี​เหนียง​เป็น​เช่นไร​ ​คนอื่น​ไม่รู้​ ​แต่​ตน​นั้น​รู้ดี​ ​การ​ที่​เม่ากั​๋​วกง​เชิญ​คุณชาย​สาม​ไป​ดื่ม​สุรา​ ​แล้วยัง​พูดเป็นนัย​ว่า​หาก​คุณชาย​สาม​ช่วย​พูด​เรื่อง​นี้​ต่อหน้า​คุณชาย​หรือ​คุณหนู​สอง​สาม​คน​ของ​สกุล​หลัว​ ​เขา​จะ​นำ​เงิน​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​มอบให้​เป็น​ค่าตอบแทน​ ​ตน​จึง​มาหา​สือ​อี​เหนียง​…​ตน​ไม่​หวัง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ช่วยเหลือ​ ​แค่​สือ​อี​เหนียง​ไม่​พูด​อะไร​ก็​พอแล้ว​…​ใน​บรรดา​ญาติ​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​มีตำ​แหน่ง​สูง​ที่สุด​ ​ตราบใดที่​นาง​ไม่​คัดค้าน​ ​ตน​ก็​จะ​มี​ความมั่นใจ​ใน​การ​เกลี้ยกล่อม​คนอื่น​ใน​สกุล​หลัว​ ​ต้อง​รู้​ว่า​ ​การ​เสียชีวิต​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ตอนนั้น​เกี่ยวข้อง​กับ​สือ​เหนียง

แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​พูด​เช่นนี้

“​คุณหนู​สิบเอ็ด​คงจะ​ไม่รู้​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​รีบ​พูด​ ​“​สอง​วันก่อน​เม่ากั​๋​วก​งบัง​เอิญ​เจอ​คุณชาย​สาม​ ​จึง​พูดคุย​กัน​เรื่อง​ใน​ครอบครัว​…​”

“​เม่ากั​๋​วกง​เป็น​หลานชาย​ ​แล้วยัง​อายุ​น้อย​ ​ไม่มี​ประสบการณ์​อะไร​ ​เล่าเรื่อง​ใน​ครอบครัว​ให้ท่า​นลุง​ท่าน​ป้า​ท่าน​น้า​ฟัง​ก็เพราะว่า​เขา​ให้ความสำคัญ​กับ​พวก​เจ้า​ ​แล้วก็​ให้ความสำคัญ​กับ​คน​เป็นมา​รดา​อย่าง​สือ​เหนียง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เกียจคร้าน​ที่จะ​พูดคุย​กับ​คน​เช่นนี้​ ​ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ขัดจังหวะ​คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​ ​“​พี่​สาม​และ​พี่สะใภ้​สาม​เป็นผู้ใหญ่​ ​ควรจะ​เกลี้ยกล่อม​พวกเขา​ ​เหตุใด​ถึง​บอก​ให้​พี่​หญิง​สิบ​มอบ​สิทธิ์​ใน​การ​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​ให้​เม่ากั​๋​วกง​เช่นนี้​เล่า​ ​เม่ากั​๋​วกง​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​ ​คนที​่​รู้​คง​คิด​ว่า​ใน​ฐานะ​ท่าน​ลุง​อย่าง​พี่​สาม​ ​ไม่​อยาก​ให้​น้องสาว​ตัวเอง​ลำบาก​ ​อยาก​ให้​เม่ากั​๋​วก​งดู​แลต​ระ​กูล​เร็ว​ๆ​ ​ที่​ทำ​เช่นนี้​ก็​เพื่อ​สกุล​หวัง​ ​แต่​คนที​่​ไม่รู้​คง​คิด​ว่า​พี่​หญิง​สิบ​ทำ​เรื่อง​เลวร้าย​อะไร​ ​แม้แต่​พี่น้อง​สกุล​เดิม​ของ​ตัวเอง​ก็​ไม่​ไว้หน้า​ ​จึง​ไม่​ให้​พี่​หญิง​สิบ​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​ของ​จวนกั​๋​วก​ง.​..​”

พูด​แรง​เกินไป​แล้ว

คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​แอบ​เสียใจ​ใน​ใจ

หาก​รู้​ว่า​จะ​เป็น​แบบนี้​ ​ควร​ไป​ปรึกษา​กับ​คุณหนู​สี่​ก่อน​จะ​ดีกว่า​ ​เพราะ​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​คุณหนู​สี่​และ​คุณชาย​สาม​คือ​พี่น้อง​มารดา​เดียวกัน​ ​นาง​ไม่มีทาง​ยอมให้​คุณชาย​สาม​เสียเปรียบ​อย่างแน่นอน​

“​คุณชาย​สาม​ไม่ได้​หมายความว่า​อย่างนั้น​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​เม่ากั​๋​วก​งบ​อก​ว่า​คุณหนู​สิบ​ลำบาก​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​คุณชาย​สาม​จึง​มี​ความคิด​แบบ​นั้น​…​”

“​ถ้าอย่างนั้น​ ​พี่​สาม​กับ​พี่สะใภ้​สาม​ทำไม​่​ถูก​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​ไม่​ไว้หน้า​นาง​ ​พูด​ต่อไป​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ ​“​ข้า​เป็น​แค่น​้า​หญิง​ ​ไม่มี​สิทธิ์​พูด​อะไร​ ​แต่​หาก​สกุล​หวัง​เชิญ​ข้า​ไป​ปรึกษา​ ​เพราะ​เห็น​ว่า​ข้า​เป็น​สกุล​ญาติ​ ​ข้า​ก็​ต้อง​ถาม​ความคิดเห็น​ของ​พี่ใหญ่​ก่อน​ ​คน​เป็น​ท่าน​ลุง​จะ​ช่วย​ออกหน้า​พูด​ให้​โดยที่​ไม่​ถาม​เหตุผล​อะไร​เลย​ได้​อย่างไร​กัน​ ​ข้า​คิด​ว่า​เม่ากั​๋​วกง​ยัง​เด็ก​ ​พี่​หญิง​สิบ​ดูแล​จวน​สกุล​เม่ากั​๋​วก​งอย​่าง​เหมาะสม​มาตั​้ง​หลาย​ปี​ ​ข้า​ไม่เคย​ได้ยิน​ว่า​พี่​หญิง​สิบ​ทำ​อะไร​ผิดพลาด​เพราะ​เป็น​ม่าย​ ​จะ​ให้​เม่ากั​๋​วกง​ที่​อายุ​ยัง​ไม่​ถึง​ยี่สิบ​ปี​มาดู​แล​เรื่อง​ใน​จวน​แทน​นาง​ ​เกรง​ว่า​จะ​ดูใจ​ร้อน​เกินไป​กระมัง​”

ท่าที​ของ​สือ​อี​เหนียง​ชัดเจน

จากนั้น​นาง​ก็​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ

คุณนาย​สาม​สกุล​หลัว​หน้าแดง​ก่ำ​ ​นาง​นั่ง​ไม่​ติด​ ​รีบ​ลุกขึ้น​แล้ว​ขอตัว​ลา​ทันที

สือ​อี​เหนียง​ส่ายหน้า​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​เจ้า​ไปหา​พี่​หญิง​สี่​ ​เล่าเรื่อง​ที่​พี่สะใภ้​สาม​มา​พูด​กับ​ข้า​ให้​พี่​หญิง​สี่​ฟัง​ ​พวกเขา​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​ให้​นาง​เป็น​คน​จัดการ​ดีกว่า​”​ ​จากนั้น​ก็​เขียนจดหมาย​บอก​ให้​หู่​พั่ว​นำ​ไป​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ที่​ตรอก​กง​เสียน

หู่​พั่ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​อย่างนอบน้อม​ ​จากนั้น​ก็​ปรากฏ​ท่าทาง​ลังเลใจ​ ​“​เช่นนั้น​เรื่อง​ของ​คุณหนู​สิบ​?​”

“​เจ้า​ไป​บอก​นาง​ด้วย​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​เรียบ​เฉย​ ​“​ความสัมพันธ์​ของ​เรา​ก็​คือ​ความสัมพันธ์​ ​แต่​เมื่อ​เจอ​เรื่อง​แบบนี้​ก็​ต้องเตื​อนนาง​ ​ไม่ว่า​นาง​จะ​เชื่อ​หรือไม่​ ​ยอม​ฟัง​หรือไม่​ ​ก็​ขึ้นอยู่กับ​นาง​แล้ว​!​”

หู่​พั่ว​ขานรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

ซื่อ​เหนียง​เขียนจดหมาย​ขอบคุณ​พร้อมกับ​นำ​ผ้าไหม​ชั้นดี​สอง​สาม​ผืน​ให้​หู่​พั่ว​นำ​กลับมา​ ​ถือว่า​เป็น​ของ​ขอบคุณ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​เมื่อ​สือ​เหนียง​ได้ยิน​ว่า​หู่​พั่ว​มาหา​นาง​ตามคำสั่ง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​กลับ​ไม่ยอม​พบ​หน้า​หู่​พั่ว​

หู่​พั่ว​ไม่มีทาง​เลือก​ ​จึง​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​อิ​๋น​ผิง​ฟัง​

อิ​๋น​ผิง​ตกใจ​ ​บอก​ให้​จิน​เหลียน​นั่ง​อยู่​กับ​หู่​พั่ว​ ​ตัวเอง​ไปรา​ยงาน​สือ​เหนียง​อีกครั้ง​ ​แต่​สุดท้าย​สือ​เหนียง​ก็​ไม่ยอม​พบ​หู่​พั่ว​อยู่ดี​

“​ช่างมัน​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​สือ​เหนียง​ใน​ตอนนี้​ไม่เพียงแต่​แปลกประหลาด​ ​แต่​ยัง​ไร้เหตุผล​ ​นาง​ถอนหายใจ​ ​“​เรื่อง​ที่​ข้า​ควร​ทำ​ก็​ทำ​หมด​แล้ว​ ​ข้า​ไม่มี​อะไร​ต้อง​กลัว​!​”

หู่​พั่ว​ยิ้ม​ขึ้น​อย่าง​ขมขื่น

สือ​อี​เหนียง​ทิ้ง​เรื่อง​นี้​ไว้​ชั่วคราว​ ​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​เก็บของ​ตกแต่ง​ฤดูหนาว​ของ​แต่ละ​เรือน​ ​แจกจ่าย​เสื้อผ้า​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ซื้อ​เสื้อผ้า​ฤดูร้อน​…​กว่า​จะ​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ ​เสร็จ​ก็​ถึง​ปลายเดือน​สอง​ ​จากนั้น​ก็​เริ่ม​เตรียมงาน​เลี้ยง​เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​ที่จะ​มี​ขึ้น​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม

“​เรา​จัดงาน​ฉลอง​เทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​ที่​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​กัน​ดีกว่า​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ต่อไป​ ​“​หาก​อากาศ​ดี​ ​เรา​ก็​ไป​พาย​เรือ​ ​หาก​อากาศ​ไม่ดี​ ​ก็​นั่ง​ฟัง​เสียง​เม็ดฝน​ใน​ศาลา​ ​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​”

ตั้งแต่​ที่​สือ​อี​เหนียง​พา​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ ​โจวฮู​หยิน​และ​บรรดาฮู​หยิน​ที่​ค่อนข้าง​มีอายุ​ไป​พักผ่อน​ที่​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​มักจะ​นึกถึง​เรื่อง​นี้​อยู่​ตลอด

“​ได้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​คิด​ว่านั​่ง​ฟัง​งิ้ว​ที่​โถง​เตี่ยน​ชุน​ทุกปี​ ​ผ่าน​ไป​นาน​วัน​เข้า​ ​ถึงแม้​จะ​ดี​แค่ไหน​ก็​ไม่มี​ความ​แปลกใหม่​ ​“​เช่นนั้น​เรา​จัดงาน​เลี้ยง​ที่​ท่าเรือ​หลิว​ฟัง​กัน​เถิด​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​ถาม​ความคิดเห็น​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​เรา​เชิญ​นัก​เล่าเรื่อง​มา​เล่าเรื่อง​ที่​จวน​ดี​หรือไม่​ ​ถือว่า​แสดงความยินดี​ ​แต่​ข้า​ไม่รู้​ว่านัก​เล่าเรื่อง​ที่​ดีที​่​สุด​ใน​เยี​่​ยน​จิง​คือ​ใคร​ ​จะ​เชิญ​มา​ใน​วันนั้น​ได้​หรือไม่​”

ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​หู่​พั่ว​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​พูดคุย​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นาง​จึง​ไม่กล้า​ขัดจังหวะ​ ​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​สีหน้า​เป็นกังวล​ ​ท่าที​ดูกระ​วน​กระ​วาย

ไท่ฮู​หยิน​รู้​ว่านา​งคือ​คนที​่​มี​ความสามารถ​ที่สุด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​รู้​ว่านาง​เป็น​คน​สุขุม​ ​เห็น​เช่นนี้​ไท่ฮู​หยิน​จึง​เรียก​นาง​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​เจ้า​ก็​รายงาน​มา​เถิด​”

หู่​พั่ว​เดิน​เข้าไป​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​นาย​หญิง​ของ​จวน​เม่ากั​๋​วกง​เสียชีวิต​กะทันหัน​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​โหว​บอก​ให้​บ่าว​มารา​ยงานฮู​หยิน​”

นาย​หญิง​ของ​จวน​เม่ากั​๋​วก​ง.​..

สือ​อี​เหนียง​พลัน​ได้สติ​กลับมา​

“​เมื่อไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​ของ​ตัวเอง​ดังก้อง​อยู่​ใน​หู​อย่างชัดเจน​ ​“​ใคร​เป็น​คน​มารา​ยงา​นการ​เสียชีวิต​ ​คนที​่​มารา​ยงา​นอยู​่​ที่ไหน​”

“​เข้าใจผิด​ตรงไหน​หรือไม่​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ท่าที​ราวกับ​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​“​นาง​ยัง​เด็ก​ ​เหตุใด​ถึง​เสียชีวิต​เร็ว​เช่นนี้​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​นึกถึง​งานเทศกาล​ซาน​เย​่ว​์​ซาน​ของ​ปีนั​้น​ ​สือ​เหนียง​ที่​หน้าตา​งดงาม​และ​มี​รอยยิ้ม​ที่​สดใส​ ​ท่ามกลาง​บรรดา​เด็กผู้หญิง​มากมาย​ ​นาง​สว่างไสว​ราวกับ​ดวงอาทิตย์​ยาม​ฤดูร้อน​ก็​ไม่​ปาน​…​ไท่ฮู​หยิน​รู้สึก​เศร้าใจ​ ​“​เสียชีวิต​เช่นไร​ ​นาง​ฝาก​คำพูด​อะไร​ไว้​หรือไม่​”

“​บ่าว​เอง​ก็​ไม่​ค่อย​รู้​เจ้าค่ะ​”​ ​หู่​พั่ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คนที​่​มารา​ยงา​นการ​เสียชีวิต​คือ​ผู้ดูแล​หญิง​ของ​จวน​เม่ากั​๋​วกง​ ​บ่าว​พามา​ด้วย​แล้ว​เจ้าค่ะ​…​”

สือ​อี​เหนียง​และ​สือ​เหนียง​เป็น​พี่น้อง​ตระกูล​เดียวกัน​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ต้อง​ไปร​่วม​พิธี​สวม​เสื้อผ้า​ให้​ศพ​ของ​นาง​ ​การ​รายงาน​การ​เสียชีวิต​อย่างเป็นทางการ​ ​ต้อง​รายงาน​หลัง​พิธี​สวม​เสื้อผ้า​ให้​ผู้ตาย​ ​ดัง​นั้ง​สกุล​หวัง​จึง​ส่ง​ผู้ดูแล​หญิง​มารา​ยงาน​สือ​อี​เหนียง​

ทันทีที่​หู่​พั่ว​พูด​จบ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​รีบ​ให้​นาง​เข้ามา​!​!​”

หู่​พั่ว​เดิน​ออก​ไป​พา​ผู้ดูแล​หญิง​คน​นั้น​เข้ามา​

“​นาย​หญิง​เสียชีวิต​เมื่อยาม​โฉ่ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ผู้ดูแล​หญิง​คน​นั้น​พูด​ด้วย​ดวงตา​ที่​ช้ำ​บวม​ ​“​เช้า​วันนี้​ท่านกั​๋​วก​งบ​อก​ให้​บ่าว​มารา​ยงา​นการ​เสียชีวิต​ ​นาย​หญิง​ป่วย​ติด​เตียง​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​ก่อน​ท่านกั​๋​วกง​จะ​แต่งงาน​ ​นาย​หญิง​ก็​บอกว่า​ตัวเอง​ไม่ไหว​มาต​ลอด​ ​แต่​ก็​ผ่านพ้น​มา​ได้​ทุกครั้ง​ ​ท่านกั​๋​วก​งคิด​ว่า​ครั้งนี้​นาย​หญิง​คง​ไม่เป็นอะไร​ ​ท่านกั​๋​วก​งกำ​ลัง​รับใช้​นาย​หญิง​อยู่​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​ ​แต่​ที่จริง​แล้ว​นาย​หญิง​นั้น​…​”​ ​ผู้ดูแล​หญิง​คน​นั้น​สะอื้น​ไห้​ ​“​ท่านกั​๋​วกง​ร้องไห้​ราวกับ​จะ​เป็น​จะ​ตาย​ก็​ไม่​ปาน​ ​ต้อง​ใช้​เครื่อง​หอม​ช่วย​ผ่อนคลาย​จิตใจ​ถึง​จะ​นอนหลับ​ได้​…​ ​“

“​เด็ก​คน​นี้​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถอนหายใจ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​รีบ​ไปดู​เถิด​!​ ​หาก​เย็น​นี้​ไม่​สะดวก​ ​เจ้า​ก็​พัก​อยู่​ที่นั่น​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ดูแล​จิ​่น​เกอ​เอง​!​”

สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ขอบคุณ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​พา​หู่​พั่ว​ไป​ยัง​จวน​เม่ากั​๋​วกง

จวน​เม่ากั​๋​วกง​ห้อย​ผ้าม่าน​สีขาว​เรียบร้อย​แล้ว​ ​บรรดา​บ่าว​รับใช้​ล้วน​ผูก​ผ้า​สีขาว​ไว้​ที่​เอว​ ​ถึงแม้​ยัง​จะ​ไม่ได้​จัด​โถง​ไว้ทุกข์​ ​แต่​จัด​โต๊ะ​ใน​โถง​ไว้ทุกข์​ ​เบาะ​สีขาว​ ​กระถางดอกไม้​ล้วนแต่​เตรียมพร้อม​หมด​แล้ว

“​ช่าง​เตรียมการ​เร็ว​เสีย​จริง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​หู่​พั่ว​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​ลงมา​จาก​รถม้า

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับใจ​สั่นระรัว

เพิ่ง​เสียชีวิต​ไป​เมื่อยาม​โฉ่ว​ของ​วันนี้​ ​นาง​ได้รับ​ข่าว​เมื่อยาม​เฉิน​ ​ตอนนี้​พึ่ง​จะ​ยาม​ซื่อ​…​แต่​ดูเหมือน​สกุล​หวัง​จะ​เตรียม​ทุกอย่าง​เอาไว้​หมด​แล้ว​ ​ราวกับ​แค่​รอ​ให้​สือ​เหนียง​หมดลม​หายใจ​…

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​ส่ายหน้า​อย่างแรง​ ​นาง​เตือน​ตัวเอง​ว่า​อย่า​คิด​อะไร​ฟุ้งซ่าน

หวัง​เฉิง​จู่​ออกมา​ต้อนรับ

เขา​ตาแดง​ก่ำ​ ​สีหน้า​ซีดเซียว​ ​สวม​เสื้อ​ไว้ทุกข์​สีขาว​ที่​ยับยู่ยี่​ ​พลอย​ทำให้​เขา​ดู​ห่อเหี่ยว​ราวกับ​ผัก​ที่​ถูก​ทิ้ง​ไว้​ข้ามคืน​ก็​ไม่​ปาน

“​ท่าน​น้า​หญิง​สิบเอ็ด​ ​ท่าน​มา​แล้ว​หรือ​!​”​ ​เขา​นั่งยองๆ​ ​ลง​ตรงหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​น้ำตา​ก็​ริน​ไหล​อาบ​หน้า​ ​“​ข้า​กลายเป็น​เด็ก​ไม่มี​แม่​แล้ว​ ​ต่อไป​ท่าน​น้า​หญิง​โปรด​เห็น​ข้า​เป็น​เหมือน​ลูก​แท้ๆ​…​ให้​ข้า​ได้​มี​แม่​ให้​ตอบแทน​พระคุณ​ด้วย​เถิด​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​เหลือบมอง​เขา​ ​ก่อน​จะ​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​พา​ข้า​ไปหา​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​!​”

“​ขอรับ​!​”​ ​หวัง​เฉิง​จู่​ท่าที​ดู​อ่อนแรง​ ​ต้อง​ให้​คนที​่​อยู่​ข้างๆ​ ​ช่วย​ประคอง​ลุกขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​พาสื​ออี​เหนียง​ไป​ยัง​ห้อง​หลัก

ภรรยา​ของ​หวัง​เฉิง​จู่​สวม​ชุด​ไว้ทุกข์​นั่ง​อยู่​กับ​สตรี​คน​หนึ่ง​ด้วย​ดวงตา​ที่​แดงก่ำ

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​ทุกคน​ก็​ลุกขึ้น​ยืน

สือ​อี​เหนียง​เห็น​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​ของ​หวัง​เฉิง​จู่

มารดา​ผู้ให้กำเนิด​หวัง​เฉิง​จู่​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​มอง​มาที​่​ตัวเอง​ ​ก็​ก้มหน้า​ลง

สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​

ตรงกลาง​ห้อง​มี​เตียง​ไท่​ผิง​วาง​อยู่​ ​ปูด​้วย​ผ้าไหม​สีฟ้า​ ​มี​ร่าง​ของ​สตรีที​่​สวม​ชุด​สีแดง​อยู่​บน​นั้น

นาง​คิ้ว​เรียว​ยาว​ ​หน้าผาก​กว้าง​ ​จมูกโด่ง​…​นาง​คือ​สือ​เหนียง

สือ​เหนียง​ม้วน​ผม​สีดำ​เป็น​มวย​ดอก​โบตั๋น​อย่างเรียบร้อย​ ​สวม​เครื่องประดับ​บน​หัว​ ​แต่งหน้า​อ่อน​ๆ​ ​ถึงแม้ว่า​นาง​จะ​ผ่ายผอม​ ​แต่​สีหน้า​กลับ​ดู​สดชื่น​และ​สงบ​ ​ราวกับ​กำลัง​นอนหลับ​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ตกตะลึง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท