ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 655 หนอนจำศีล (กลาง)

ตอนที่ 655 หนอนจำศีล (กลาง)

“​ข้า​เข้าใจ​เจตนา​ของ​เจ้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ย้าย​โต๊ะ​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​ก่อน​จะ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ข้าง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​แม้ว่า​ข้า​กับ​ท่าน​พ่อ​ของ​เจ้า​จะ​ไม่ได้​ขาดแคลน​เสื้อผ้า​อาหาร​ ​ทั้ง​ยัง​มีพี​่​ชาย​ของ​เจ้า​คอย​ดูแล​ ​แต่​เจ้า​ก็​อยาก​จะ​ทำให้​ดีที​่​สุด​”

“​ใช่​แล้ว​ ​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​พยักหน้า​ ​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​“​ข้า​หมายความ​เช่นนี้​ขอรับ​!​”

“​เช่นนั้น​เจ้า​เคย​คิด​หรือไม่​ว่า​เจ้า​จะ​เอา​อะไร​มา​แสดง​ความกตัญญู​ต่อ​ข้า​และ​ท่าน​พ่อ​ของ​เจ้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​อบอุ่น

“​ดังนั้น​ข้า​จึง​คิด​อยาก​สอบคัดเลือก​ขุนนาง​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​เสียง​เบา​ ​ท่าทาง​เขินอาย​เล็กน้อย​ ​“​เช่นนี้​ข้า​ก็​จะ​ได้​มี​งาน​ทำ​ ​พอ​มีเงิน​เดือน​ก็​จะ​ซื้อของ​ให้ท่าน​แม่​ได้​”

ถ้าหาก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตั้งใจ​เรียนหนังสือ​เพราะเหตุนี้​ ​เขา​ก็​จะ​สามารถ​สอบผ่าน​จู่​เห​ริน​ ​หรือไม่ก็​ระดับ​จิ้น​ซื่อ​ ​ต่อให้​เขา​จะ​ไม่ได้​รับราชการ​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​คน​ทั่วไป​เขา​ก็​นับว่า​เป็น​คนที​่​ประสบความสำเร็จ​ ​สามารถ​นั่ง​อยู่​ใน​ระดับ​เดียวกัน​กับ​ข้าราชการ​ ​ได้รับ​การยกเว้น​ภาษี​ ​ก็​นับว่า​ไม่ใช่​เรื่อง​เลวร้าย

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​“​หาก​ต้องการ​สอบ​ขุนนาง​เพื่อ​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​ ​ก็​ต้อง​สอบผ่าน​ระดับ​จิ้น​ซื่อ​ ​ซึ่ง​หาก​ต้องการ​เข้า​สอบ​จิ้น​ซื่อ​ ​ก็​ต้อง​สอบ​จู่​เห​ริน​ก่อน​ ​หาก​จะ​สอบ​จู่​เห​ริน​ ​ก็​ต้อง​สอบผ่าน​ซิ่ว​ไฉ​ก่อน​ ​การ​สอบ​ซิ่ว​ไฉ​ต้อง​สอบ​ทั้งหมด​สาม​รอบ​ ​รอบ​แรก​เป็นการ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ ​รอบ​สอง​เป็นการ​สอบ​ระดับ​เมืองหลวง​ ​รอบ​สาม​เป็นการ​สอบ​ระดับ​ราชสำนัก​ ​การ​สอบ​ระดับ​มณฑล​จะ​แบ่ง​สอบ​เป็น​สี่​รอบ​ ​รอบ​แรก​กับ​รอบ​สอง​เป็นการ​สอบ​หนึ่ง​เรียงความ​และ​หนึ่ง​บทกวี​ ​รอบ​สาม​จะ​เป็นการ​สอบ​หนึ่ง​บทเพลง​กับ​หนึ่ง​บทกวี​ ​บางครั้ง​ก็​อาจ​เป็นการ​สอบ​หนึ่ง​นโยบาย​กับ​หนึ่ง​ทฤษฎี​ ​รอบ​สี่​เป็นการ​สอบ​รอบ​สุดท้าย​ซึ่ง​เป็นการ​สอบ​ศิลปะ​สาม​หรือ​สี่​แขนง​…​”​ ​นาง​เล่า​ขั้นตอน​การ​สอบ​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ฟัง

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ตื่นเต้น​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ถ้าอย่างนั้น​ตราบใดที่​ข้า​ตั้งใจ​เรียน​บทกวี​ ​บทประพันธ์​ ​และ​บทเพลง​ ​ก็​จะ​สามารถ​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​ได้​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​”

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พูดว่า​ ​“​จะ​ปลูกเรือน​ก็​ต้อง​เริ่ม​จาก​การ​วางรากฐาน​แล้ว​ค่อยๆ​ ​ก่ออิฐ​ขึ้น​มา​ ​การ​สอบ​ขุนนาง​ก็​เช่นกัน​ ​จะ​ต้อง​ตั้งใจ​เรียน​เพื่อ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ให้​ดี​ก่อน​ ​หาก​สอบผ่าน​แล้ว​พวกเรา​ค่อย​ไป​สอบ​ระดับ​เมืองหลวง​และ​ระดับ​ราชสำนัก​”

“​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยืน​ขึ้น​ด้วย​ความตื่นเต้น​เล็กน้อย​ ​เดินไปเดินมา​อยู่​ตรงหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เช่นนี้​ ​ตราบใดที่​ข้า​ตั้งใจ​เรียน​ตามคำแนะนำ​ของ​ท่าน​อาจารย์​ ​ก็​จะ​สามารถ​เข้าร่วม​การ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ได้​แล้ว​!​”

“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พูดว่า​ ​“​แต่ว่า​การ​ที่จะ​สอบผ่าน​ระดับ​มณฑล​ได้​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​…​”

นาง​ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​หันมา​ดึง​แขน​เสื้อ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​วางใจ​ได้​ ​ข้า​จะเข้​มงว​ดกับ​ตัวเอง​ ​จะ​ตั้งใจ​ศึกษา​เล่าเรียน​…​”

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ

แม้​ไม่รู้​ว่า​ผลลัพธ์​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​แต่​การ​ที่​สวี​ซื่อ​เจี้ยมี​ความมุ่งมั่น​ ​จะ​เป็นการ​ดีกว่า​ที่จะ​ไม่​ทำลาย​ความมั่นใจ​ของ​เขา​ใน​ตอนนี้

“​เจ้า​ควร​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​อาจารย์​จ้าว​ด้วย​”​ ​นาง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​กำชับ​ว่า​ ​“​อาจารย์​จ้าว​เคย​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​ ​เป็น​คน​มีประสบการณ์​ ​หาก​เขา​รู้​แผน​ของ​เจ้า​ ​ใน​เวลาเรียน​ก็​จะ​สามารถ​ให้​คำแนะนำ​ที่​สำคัญ​แก่​เจ้า​ได้​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​เจ้า​ก็​จะ​มีโอกาส​ที่จะ​ได้​เข้าร่วม​การ​สอบ​ระดับ​มณฑล​มากขึ้น​…​”

ขณะที่​สอง​แม่​ลูก​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​คัดตัว​อักษร​ตาม​เส้น​สีแดง​เสร็จ​แล้ว​ ​นั่ง​อ่าน​บันทึก​การ​เดินทาง​ที่​สือ​อี​เหนียง​วาง​ทิ้ง​ไว้​บน​โต๊ะ​ด้วย​ความเบื่อหน่าย​ ​มองหา​ตัวอักษร​ที่​ตัวเอง​รู้จัก​อยู่​เงียบๆ​

อาจิน​ยก​ผล​อิง​เถา​เข้ามา​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ ​มัน​เขียน​เกี่ยวกับ​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​อ้อ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูด​อย่าง​ไม่แน่ใจ​ว่า​ ​“​เล่าเรื่อง​ที่​มี​คน​ผู้​หนึ่ง​ไป​จุด​ธูปบูชา​ที่ผู​่​ถัว​”

เมื่อ​อาจิน​เห็น​ว่า​เขา​ดูท่าทาง​เบื่อหน่าย​ ​จึง​อยาก​จะ​แกล้ง​ให้​เขา​มีความสุข​ ​เมื่อ​เห็น​เขา​นั่ง​พลิก​หน้า​หนังสือ​ไปมา​จึง​เข้าไป​หา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เรื่อง​แสวงบุญ​อย่างนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​ ​บ่าว​ได้ยิน​ป้า​หวง​ที่อยู่​เรือน​นอก​บอกว่า​ ​ทุกวัน​ที่หนึ่ง​และ​วันที่​สิบห้า​ของ​เดือน​แรก​จะ​มี​งานวัด​ ​บรรดา​สตรีที​่​เป็น​คนธรรมดา​ทั่วไป​จะ​สวม​เสื้อผ้า​สีสัน​สวยงาม​ ​เดิน​เคียง​ไหล่​กัน​ไป​จุด​ธูปบูชา​ ​บรรยากาศ​ครึกครื้น​เป็นอย่างมาก​ ​ในเมื่อ​คน​ผู้​นี้​เล่าเรื่อง​การ​ไป​งานวัด​ของ​เขา​ ​จะ​ต้อง​เป็นเรื่อง​ที่​น่าสนใจ​อย่างแน่นอน​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​ท่าน​เล่า​ให้​ข้า​ฟัง​หน่อย​เถิด​ว่า​คน​ผู้​นี้​พูด​เกี่ยวกับ​อะไร​บ้าง​เจ้า​คะ​”

ความรู้​เรื่อง​ตัวอักษร​ของ​จิ​่น​เกอ​ไม่​เพียงพอ​ที่จะ​ทำให้​เขา​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​เขียน​ใน​หนังสือ​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​อาจิน​มอง​เขา​ด้วย​ความ​สนอกสนใจ​ ​เขา​จึง​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย​ ​แต่​ก็​ไม่​อยาก​แสดง​ให้​อาจิน​รู้​ว่า​ตัวเอง​ไม่มีความรู้​ ​“​ก็​แค่​เล่า​ว่า​เขา​ไป​ยังผู​่​ถัว​ที่​เป็น​สำนัก​ของ​พระโพธิสัตว์กวนอิม​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​กลัว​ว่า​อาจิน​จะ​ไม่เชื่อ​ ​เขา​รีบ​เปิด​หนังสือ​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​ตัวอักษร​ใน​นั้น​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​มัน​เขียน​ว่า​ ​‘​ตำหนัก​ต้าส​ยง​เป่า​’​ ​ตรงนี้​เขียน​ว่า​ ​‘​สวด​บท​บูชา​พระโพธิสัตว์กวนอิม​’​ ​ส่วน​ตรงนี้​เขียน​ไว้​ว่า​ ​‘​สีเขียว​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​’​ ​…​กล่าวคือ​ใน​ฤดูร้อน​เขา​ได้​ไป​จุด​ธูปบูชา​พระโพธิสัตว์กวนอิม​ที่ผู​่​ถัว​!​”

“​ใช่​แล้ว​ ​ใช่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่าความ​รู้เรื่อง​ตัวอักษร​ของ​จิ​่น​เกอ​มีพอ​ที่จะ​สามารถ​อ่าน​ได้​ต่อเนื่อง​ ​อาจิน​จึง​จ้องมอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ ​“​ในที่สุด​คุณชาย​น้อย​หก​ก็ได้​แตกฉาน​ความรู้​ที่​ได้รับ​จาก​อาจารย์​แล้ว​ ​หนังสือ​หนา​ถึง​เพียงนี้​ก็​ยัง​รู้​ว่า​เขียน​เกี่ยวกับ​อะไร​”

จิ​่น​เกอ​หลบหลีก​สายตา​ของ​นาง​ด้วย​ความไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ ​แล้ว​หันมา​หยิบ​ผล​อิง​เถา​ใส่​ปาก

อาจิน​จ้องมอง​หนังสือ​เล่ม​นั้นแล​้ว​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​ ผู​่​ถัว​อยู่​ที่ไหน​หรือ​ ​เหตุใด​บ่าว​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก​่อน​ ​หรือว่า​อยู่​ไกล​กว่า​ซี​ซาน​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ทำงาน​อยู่​ใน​จวน​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​ได้​ออกจาก​จวน​ไป​ไกล​ที่สุด​ก็​แค่​ซี​ซาน

จิ​่น​เกอ​เอง​ก็​ไม่เคย​ได้ยิน​เช่นเดียวกัน

“​ก็​ไม่แน่​!​”​ ​สมอง​ของ​จิ​่น​เกอ​แล่น​อย่างรวดเร็ว​ ​“​ชาย​ผู้​นี้​บอกว่า​เขา​ขี่​ลา​ไป​ ​ถ้าหาก​อยู่​ไกล​ก็​ควรจะ​นั่ง​รถม้า​ ​หรือไม่ก็​ไป​นั่ง​เรือ​ที่​ทง​โจว​ ​ดังนั้น​แสดงว่า​ไม่ได้​ไกล​มาก​”​ ​เขา​พูด​อย่าง​คาดเดา​ว่า​ ​“​บางที​อาจจะ​ไม่มี​ชื่อเสียง​มาก​นัก​ ​ดังนั้น​เรา​เลย​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก​่อน​”

“​คุณชาย​น้อย​พูด​ได้​สมเหตุสมผล​เจ้าค่ะ​”​ ​อาจิน​พยักหน้า​อย่างจริงจัง​ ​“​บ่าว​ได้ยิน​ป้า​ตู้​บอกว่า​ไท่ฮู​หยิน​ของ​พวกเรา​เคยะ​ไป​จุด​ธูปบูชา​ที่​หวา​ซาน​ ​อีกทั้ง​ท่าน​ก็​มักจะ​ออก​ไป​เปิดหูเปิดตา​กับ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​อยู่​บ่อยๆ​ ​ ​แม้แต่​ท่าน​ก็​ยัง​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก​่อน​ ​เห็นได้ชัด​ว่าผู​่​ถัว​แห่ง​นี้​นั้น​ไม่​เป็นที่รู้จัก​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​มีธุระ​มาหา​สือ​อี​เหนียง​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ ​ทน​ฟัง​ต่อไป​ไม่ได้

นี่​มัน​เรื่องไร้สาระ​อะไร​กัน

เหตุใด​ถึง​ได้​พูดจา​เหมือน​สตรี​โง่เขลา​ข้าง​ถนน​แบบ​นั้น​!

เขา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​กระแอม​เบา​ๆ

คนใน​ห้อง​หนังสือ​ได้ยิน​เสียง​ความเคลื่อนไหว​ทันที

“​ท่าน​พ่อ​!​”

“​ท่าน​โหว​!​”

คน​หนึ่ง​วิ่ง​ไป​อย่าง​ตื่นเต้น​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ย่อ​เขา​คำนับ

“​ท่าน​มา​ได้​อย่างไร​กัน​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ดึง​มือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​ชี้​ไป​ที่​ผ้าไหม​สู่​จิ​่​นบน​ผนัง​ ​“​ดูดี​หรือไม่​ ​เป็น​ของขวัญ​วันเกิด​ที่​พี่​สี่​มอบให้​ท่าน​แม่​ขอรับ​”

“​ดูดี​มาก​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​ ​ถาม​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ว่า​ ​“​เจ้า​มอบ​ของขวัญ​อะไร​ให้ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​แล้ว​ท่าน​แม่เจ้า​เล่า​ ​เหตุใด​ถึง​ทิ้ง​เจ้า​ไว้​ที่นี่​คนเดียว​ ​ไม่ได้​บอกว่า​ตอนบ่าย​จะ​คัดตัว​อักษร​หรอก​หรือ​”

“​ข้าม​อบ​พัด​งาช้าง​ให้ท่าน​แม่​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ ​“​ท่าน​แม่​ชื่นชอบ​มาก​เลย​เอา​ไป​วาง​ไว้​ข้าง​หมอน​”​ ​จากนั้น​ก็​วิ่ง​ไป​หยิบ​ตัวอักษร​ที่​ตัวเอง​คัด​เสร็จ​แล้ว​มา​ให้​บิดา​ดู​ ​“​ข้า​คัดตัว​อักษร​เสร็จ​ตั้ง​นาน​แล้ว​”​ ​เขา​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่าง​โหยหา​ ​“​ท่าน​แม่​กับ​พี่​ห้า​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ที่​ห้อง​ข้างๆ​!​”

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​จิ​่น​เกอ​เขียน​ตัวอักษร​ได้​อย่างประณีต​และ​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ ​ก็​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​“​หนังสือ​ที่​อาจารย์​ให้​ท่อง​ ​ท่อง​แล้ว​หรือยัง​”

“​ท่อง​เสร็จ​ตั้ง​นาน​แล้ว​ขอรับ​”​ ​จิ​่น​เกอ​โยก​ศีรษะ​พลาง​ท่อง​เนื้อหา​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

พูดคล่อง​แคล่ว​เป็นอย่างมาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ทดสอบ​สอง​สาม​ประโยค

ตอบ​ได้​อย่าง​ฉะฉาน​ ​ซ้ำ​ยัง​พูด​อธิบาย​ได้​อีก​มากมาย

เห็นได้ชัด​ว่า​สิ่ง​ที่​อาจารย์​จ้าว​สอน​เขา​ ​เขา​สามารถ​เรียนรู้​ได้​อย่างง่ายดาย

“​ในเมื่อ​ทำการบ้าน​เสร็จ​หมด​แล้ว​ ​เหตุใด​ยัง​ไม่​ออก​ไป​เล่น​อีก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จิบ​ชา​ที่​อาจิน​ยก​มา​ให้​ด้วย​ความพึงพอใจ

“​ท่าน​แม่​บอกว่า​ไม่​ให้​ข้าวิ​่ง​ซน​ไป​ไหน​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูด​ด้วย​ความเบื่อหน่าย​ ​“​ท่าน​แม่​กำลัง​พูดคุย​อยู่​กับ​พี่​ห้า​ ​ข้า​ต้อง​รอ​ให้​พวกเขา​คุย​กัน​เสร็จ​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไปรา​ยงาน​ท่าน​แม่​ขอรับ​”​ ​พูด​พลาง​ทำท่า​ทาง​ดีใจ​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ข้า​จะ​บอก​ท่าน​ให้​ว่า​สุนัข​ของ​ข้า​ใกล้​จะ​คลอดลูก​แล้ว​ ​รอ​ให้​มัน​คลอดลูก​ออกมา​ ​ข้า​จะ​ส่ง​ให้​พี่​สาม​สกุล​อวี​๋​หนึ่ง​ตัว​ ​ให้​จี้​ถิง​หนึ่ง​ตัว​ ​แล้วก็​ให้​กาน​ไท่ฮู​หยิน​หนึ่ง​ตัว​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​บุตรชาย​มี​ใบหน้า​สดใส​เมื่อ​ได้​พูดถึง​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​ชอบ​ ​พลัน​นึกถึง​ท่าทาง​เบื่อหน่าย​เมื่อครู่นี้​…

ตั้งแต่​ที่​สือ​อี​เหนียง​สั่งสอน​จิ​่น​เกอ​อย่างรุนแรง​ใน​ตอนนั้น​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เชื่อฟัง​มากขึ้น​ ​อารมณ์ดี​มากขึ้น​ ​แล้วก็​รู้​ประสา​มากขึ้น​ ​ไม่​มุทะลุ​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​แต่​ความกล้าหาญ​ที่​ทำให้​ตน​รู้สึก​ชื่นชม​กลับ​น้อยลง​เล็กน้อย

ใน​หัว​ของ​เขา​มี​ภาพ​ใบหน้า​ที่​เชื่อง​ฟัง​ราวกับ​เด็กสาว​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยป​รากฏ​ขึ้น​มา

“​จิ​่น​เกอ​”​ ​เขา​อุ้ม​บุตรชาย​ขึ้น​มา​ ​“​เจ้า​อยาก​ไป​ขี่ม้า​กับ​พ่อ​หรือไม่​!​”

จิ​่น​เกอ​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​แต่​ก็​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความลังเล​ในทันที

“​ท่าน​พ่อ​”​ ​ใช้​หาง​ตา​เหลือบมอง​อาจิน​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​เข้าไป​กระซิบ​ข้าง​หู​สวี​ลิ่ง​อี๋​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ข้า​ไม่​อยาก​ขี่ม้า​ ​ท่าน​บอก​ข้า​ได้​หรือไม่​ว่าผู​่​ถัว​อยู่​ที่ใด​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

จากนั้น​ก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ลั่น

“​ได้​!​”​ ​เขา​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​เดิน​ออก​ไป​ด้านนอก​พลาง​กำชับ​อาจิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ไม่ต้อง​ตามมา​ ​ถ้าหากฮู​หยิน​ถาม​ ​ก็​บอกว่า​ข้า​กับ​คุณชาย​น้อย​หก​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​”

******

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยิบ​กล่อง​ไม้​สีแดง​มาจาก​ห้อง​หน​่​วน​เก๋อ​ที่อยู่​หลัง​ห้อง​หนังสือ​ ​เปิด​แผนที่​จิ​่ว​โจว​ที่​ซ้อน​อยู่​ใน​กล่อง​อย่างระมัดระวัง​ ​แล้ว​กาง​ลง​บน​โต๊ะ​ไม้​หวง​ลี่​ขนาดใหญ่

“​เห็น​หรือไม่​ ​เส้น​สีดำ​หนา​คือ​แม่น้ำ​ ​เส้น​ที่​บาง​กว่า​คือ​ถนน​ ​เส้น​ที่​เป็น​ขีด​แหลม​ๆ​ ​คือ​ภูเขา​ ​เส้น​ที่​ดูเหมือน​เมฆ​คือ​ทะเลสาบ​ ​และ​เส้น​ที่​ดูเหมือน​เกล็ดปลา​คือ​มหาสมุทร​…​เจ้า​เห็น​หรือไม่​ว่า​มี​กลุ่ม​เกาะเล็ก​ๆ​ ​ตาม​แนว​ชายฝั่ง​ ​และผู​่​ถัว​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ ​รวม​อยู่​กับ​อู่​ไถ​ ​เอ๋อ​เหมย​ ​จิ​่ว​หวา​ ​สถานที่​เหล่านี้​เรียกว่า​สี่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​ชาวพุทธ​…​”

สีหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​เปลี่ยนไป​ในทันที

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ขบขัน​ ​ชี้​ไป​ที่​ภูเขา​อีก​สอง​สาม​ลูก​ให้​จิ​่น​เกอ​ดู

“ผู​่​ถัว​อยู่​ที่​โจว​ซาน​ใน​เจ้อ​เจียง​…​”​ ​เขา​ชี้​ไป​ที่​จุด​เล็ก​ๆ​ ​ไม่​ไกล​จาก​โจว​ซาน​ ​“​นั่น​คือ​อวี​๋​หัง​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​มุม​ปากของ​เขา​ก็​ยกขึ้น​เล็กน้อย​ ​“​บ้านเกิด​ท่าน​ตา​เจ้า​อยู่​ที่นี่​ ​ท่าน​แม่​ของ​เจ้า​เติบโต​ที่นี่​ ​พึ่ง​เข้า​เมืองหลวง​มาต​อนนา​งอา​ยุ​สิบ​สาม​ปี​…​”

จิ​่น​เกอ​เห็น​ดังนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความตกใจ​ว่า​ ​“​เหตุใด​ถึง​เล็ก​ขนาด​นี้​!​”

“​นี่​เป็นการ​วาด​ตาม​อัตราส่วน​หนึ่ง​ต่อ​แสน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ใช้​นิ้ว​เปรียบเทียบ​ให้​ดู​ ​“​นี่​คือ​เยี​่​ยน​จิง​ ​นี่​คือ​อวี​๋​หัง​ ​แต่​จาก​เยี​่​ยน​จิง​ไป​อวี​๋​หัง​ต้อง​ให้​เวลา​เดินทาง​หนึ่ง​เดือน​กว่า​”

จิ​่น​เกอ​รู้สึก​ตื่นเต้น​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​พ่อ​ ​ทง​โจว​อยู่​ที่ไหน​หรือ​ขอรับ​”

“​เจ้า​หา​เอง​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เมื่อ​ครู่​ข้า​บอก​ให้​เจ้า​รู้​วิธี​ดู​แผนที่​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​”

จิ​่น​เกอ​หมอบ​หาบน​โต๊ะ​หนังสือ​ขนาดใหญ่

ใน​ยุค​นี้​แผนที่​เป็น​สมบัติ​ที่​เงิน​ไม่​สามารถ​ซื้อ​ได้​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​แผนที่​ใน​มือ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​เป็น​แผนที่​ทางทหาร​ ​ซึ่ง​มี​ความแม่นยำ​และ​ชัดเจน​มากกว่า​แผนที่​ทั่วไป​ ​เขา​ชอบ​มัน​มาต​ลอด​ ​ตอน​ออกจาก​ราชการ​ก็​แกล้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ว่า​ต้อง​ส่งคืน​ ​บรรดา​รอง​แม่ทัพ​เหล่านั้น​ก็​ย่อม​แสร้งทำ​เป็น​หูหนวก​ตาบอด​ ​ขุนนาง​กรม​กลาโหม​ก็​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ต่อหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ไป​บ่น​ให้​บรรดา​รอง​แม่ทัพ​เหล่านั้น​ฟัง​ก็​ไม่มีใคร​สนใจ​ ​เรื่อง​นี้​จึง​ได้​จบ​ลง​อย่างไร​้​เหตุผล​เช่นนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ซ่อน​แผนที่​นี้​ไว้​ใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​เขา​มาโดยตลอด

“​ท่าน​พ่อ​”​ ​ไม่นาน​จิ​่น​เกอ​ก็​ชี้​ไป​ที่​จุด​เล็ก​ๆ​ ​จุด​หนึ่ง​ ​“​ทง​โจว​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

“​จาก​ทง​โจว​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​ใช้เวลา​เพียงแค่​สอง​วัน​”​ ​จิ​่น​เกอ​รู้สึก​ภูมิใจ​เล็กน้อย​ ​“​แค่​หาร​อบ​ๆ​ ​เยี​่​ยน​จิง​ก็​เจอ​แล้ว​!​”

“​ไม่เลว​ ​ไม่เลว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ชื่นชม​เป็นอย่างมาก

จิ​่น​เกอ​ลอง​เปรียบเทียบ​บน​แผนที่​ ​“​หาก​ไป​อวี​๋​หัง​จะ​ต้อง​ใช้เวลา​หนึ่ง​เดือน​กว่า​ ​ระยะทาง​จาก​อวี​๋​หัง​ไป​โจว​ซาน​ก็​ไกล​ขนาด​นี้​…​เช่นนั้น​จาก​เยี​่​ยน​จิง​ไปผู​่​ถัว​จะ​ไม่ต้อง​ใช้เวลา​ถึง​สอง​เดือน​เลย​หรือ​ขอรับ​”

ไม่ใช่​ว่า​ทุกคน​จะ​สามารถ​เข้าใจ​แผนที่​ได้

สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​เลิก​คิ้ว​ไม่ได้​ ​มอง​บุตรชาย​ด้วย​สายตา​เคร่งขรึม​ยิ่งกว่า​เดิม

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท