ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 677 ท้อใจ (ปลาย)

ตอนที่ 677 ท้อใจ (ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​ท่าน​หา​ภรรยา​ให้​เจี​้ย​เกอ​หรือว่า​หา​เพื่อน​ให้​ข้า​กัน​แน่​เจ้า​คะ​ ​หาก​ท่าน​หา​ภรรยา​ให้​เจี​้ย​เกอ​ ​ข้า​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ต้อง​รอดู​ไป​ก่อน​ ​แต่​หาก​ท่าน​หา​เพื่อน​ให้​ข้า​คง​ไม่จำเป็น​กระมัง​ ​ภรรยา​ของ​อวี​้​เกอ​และ​จุน​เกอ​ล้วนแต่​เป็น​เด็ก​กตัญญู​เจ้าค่ะ​…​”​ ​นาง​พูด​พลาง​กุมมือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​จาก​เรา​ไป​ก่อน​ ​เวลา​ของ​ลูก​ๆ​ ​ยัง​อีก​แสน​ไกล​ ​เรา​ก็​แค่​หวัง​ว่า​แก่​ไป​แล้ว​จะ​มี​คน​อยู่​ด้วย​…​”​ ​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​สดใส​ขึ้น​มารา​วกับ​พระอาทิตย์​ยาม​ฤดูร้อน​ ​สือ​อี​เหนียง​หัวใจ​เต้น​แรง​ ​นาง​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

“​ข้า​รู้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กุมมือ​นาง​กลับ​ ​“​แล้วแต่​เจ้า​เถิด​”​ ​เขา​คิด​ว่า​ตัวเอง​พูด​ไม่ชัด​เจน​ ​“​ต่อไป​ข้า​จะ​อยู่​กับ​เจ้า​บ่อยๆ​”​ ​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่จริง​จัง​

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ต้องการ​คำสัญญา​จาก​เขา

นาง​แค่​อยาก​บอก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​คนที​่​สามารถ​อยู่​ด้วยกัน​ไป​จนถึง​ช่วงเวลา​สุดท้าย​ของ​ชีวิต​คือ​คู่ชีวิต​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​สู่ขอ​อิง​เหนียง​ให้​เจี​้ย​เกอ​เพียง​เพราะ​นาง​ ​และ​แน่นอน​ ​หาก​อิง​เหนียง​กับ​เจี​้ย​เกอ​มีความรู้สึก​ที่​ดี​ต่อกัน​ ​เช่นนั้น​มัน​ก็​อีก​เรื่อง​หนึ่ง

แต่​มือ​ที่จับ​มือ​นาง​อย่าง​แนบแน่น​กำลัง​บอก​นาง​ว่า​ ​เขา​อยาก​จะ​แสดง​ความรู้สึก​อะไร​บางอย่าง​…

สือ​อี​เหนียง​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สายตา​ที่​มี​ความลังเล

มือ​ของ​เขา​นั้น​อบอุ่น​ ​เต็มไปด้วย​พละกำลัง​ ​และ​มั่นคง​ราวกับ​ก้อนหิน​ ​พลอย​ทำให้​นาง​รู้สึก​ปลอดภัย​และ​สบายใจ

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​อุ่นใจ

ข้างนอก​มีเสียง​ผู้ดูแล​หญิง​พูด​ขอร้อง​ให้​หู่​พั่ว​เข้ามา​รายงาน​ ​นอก​หน้าต่าง​ ​แสงอาทิตย์​ฤดูใบไม้ร่วง​สาดส่อง​เข้ามา​ใน​ลาน​ ​สาวใช้​น้อย​สอง​สาม​คน​ยืน​ยิ้ม​เก็บ​ดอก​แมงมุม​แดง​อยู่​ใน​ลาน

โลก​ใบ​นี้​ช่าง​วุ่นวาย​ ​แต่​หัวใจ​ของ​นาง​กลับ​สงบ​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน

*****

หลังจากนั้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่พูดถึง​เรื่อง​นี้​อีก​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​เริ่ม​คิด​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​เจี​้ย​เกอ​อย่างจริงจัง

ปีนี​้​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอา​ยุ​สิบ​สี่​ปี​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​เขา​ควรจะ​แต่งงาน​ได้​แล้ว​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​อยาก​ให้​เขา​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ก่อน​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ได้​สู่ขอ​ภรรยา​ง่าย​หน่อย​

สู่ขอ​อิง​เหนียง​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ให้​ลูกหลาน​ของ​สกุล​หลัว​แต่งงาน​กับ​ลูกหลาน​สกุล​สวี​…​ยุค​โบราณ​ไม่​เหมือน​ยุคปัจจุบัน​ ​สมัยก่อน​ไม่ว่า​ความสัมพันธ์​ของ​สามีภรรยา​จะ​ดี​แค่ไหน​ ​แต่​หาก​แม่​สามี​ไม่​ชื่นชอบ​ ​บอก​ให้​ทั้งสอง​หย่า​กัน​ก็​ต้อง​หย่า​กัน​ ​ในทางตรงกันข้าม​ ​ความสัมพันธ์​ของ​สามีภรรยา​ไม่ดี​แค่ไหน​ ​แต่​หาก​แม่​สามี​โปรดปราน​ ​อยาก​หย่า​ก็​ไม่มีทาง​ได้​หย่า​ ​ตราบใดที่​เป็น​ลูกสะใภ้​ของ​สกุล​นี้​ ​สกุล​นี้​ก็​จะ​ปกป้อง​ ​ดังนั้น​ ​เลือก​แม่​สามี​สำคัญ​กว่า​การ​เลือก​สามี​เสียอีก​ ​นาง​เป็น​อา​หญิง​ของ​อิง​เหนียง​ ​หาก​สกุล​สวี​ไป​สู่ขอ​ ​ทาง​ฝั่ง​สกุล​หลัว​ไม่มีปัญหา​อะไร​แน่นอน​ ​แต่​นาง​นึกถึง​สวี​ซื่อ​เจี​้​ย.​..​ใน​บรรดา​พี่น้อง​ ​เขา​เป็น​คนที​่​โดดเดี่ยวเดียวดาย​ที่สุด​ ​หาก​สู่ขอ​อิง​เหนียง​…​สกุล​หลัว​มีลูก​หลาน​มากมาย​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เป็น​คน​อ่อนไหว​ ​อิง​เหนียง​เป็น​คน​ร่าเริง​…​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่ใช่​ผู้ใหญ่​แล้วก็​ไม่ใช่​เด็ก​ ​ยิ่ง​ได้รับ​ความสนใจ​จาก​ญาติผู้ใหญ่​น้อย​เท่าไร​ ​แรงกดดัน​ก็​ยิ่ง​น้อย​เท่านั้น​ ​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ​เขา​มีนิ​สัย​ซื่อสัตย์​และ​มี​ความพยายาม​ ​อิง​เหนียง​เป็น​บุตรสาว​คนโต​ของ​ภรรยา​เอก​ ​เป็น​บุตร​คน​แรก​ของ​บิดา​มารดา​ ​เป็น​แบบอย่าง​ของ​พี่น้อง​ ​ไม่เพียงแต่​ต้อง​ให้ความสำคัญ​กับ​นาง​ ​แล้วยัง​ต้อง​ตั้งใจ​สั่งสอน​นาง​ ​เด็ก​เช่นนี้​มักจะ​มี​ความรับผิดชอบ​ ​รู้จัก​ดูแล​ผู้อื่น​…​มอง​จาก​แง่มุม​นี้​ ​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​เหมาะสม​กัน​ ​บวก​กับ​ความ​สนิทสนม​ของ​สกุล​หลัว​และ​สกุล​สวี​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​หรือว่า​สวี​ซื่อ​จุน​ ​พวกเขา​ล้วนแต่​สนิทสนม​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​

สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่าการ​แต่งงาน​ครั้งนี้​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​

ยาม​ที่​สวี​ซื่อ​เจี้ยมา​คารวะ​นาง​ ​นาง​สำรวจ​มอง​เขา​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​

“​ท่าน​แม่​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แปลกใจ​ ​ก้มหน้า​ลง​มองดู​เสื้อผ้า​และ​รองเท้า​ของ​ตัวเอง​ ​ไม่เห็น​ว่า​มี​อะไร​ผิดปกติ​ก็​ยิ่ง​สับสน​เข้าไป​ใหญ่​ ​“​ท่าน​มี​อะไร​หรือ​”

“​ไม่มี​ ​ไม่มี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เรียก​เขา​เข้าไป​หา​ ​“​นั่งลง​คุย​กัน​เถิด​…​ ​ช่วงนี้​การเรียน​ของ​เจ้า​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​ถาม​การเรียน​ของ​เขา​ตรงไปตรงมา​เช่นนี้​ ​นาง​มักจะ​ถาม​ว่าวั​นนี​้​เขา​เรียน​อะไร​ ​เข้าใจ​เรื่อง​ที่​อาจารย์​สอน​หรือไม่​ ​อยาก​ไป​ถาม​ท่าน​ลุง​ที่​ตรอก​กง​เสียน​หรือไม่​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จึง​ตื่นตระหนก​ ​“​เรื่อง​อื่น​ไม่มีปัญหา​ ​แต่​อาจารย์​ไม่​ค่อย​พอใจ​กับ​บทความ​ที่​ข้า​เขียน​”

“​หาก​ไม่ไหว​จริงๆ​ ​ก็​นำ​บทความ​ที่​คนอื่น​เขียน​มาท​่​อง​สัก​สอง​สาม​บท​ ​จำไว้​ว่า​พวกเขา​เริ่มต้น​อย่างไร​ ​จบ​อย่างไร​ ​จากนั้น​ก็​ฝึก​เขียน​เลียนแบบ​ ​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​เข้า​ ​เจ้า​ต้อง​พัฒนา​ขึ้น​แน่นอน​”

“​สอนอะ​ไร​กัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​เสียงหัวเราะ​ ​“​ตั้งใจฟัง​อาจารย์​สอน​ ​อาจารย์​สอน​เช่นไร​เจ้า​ก็​ฝึก​เช่นนั้น​!​”

ยาม​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​แม่​พูดคุย​กัน​ ​มักจะ​มี​ความอ่อนโยน​ที่​คนอื่น​ไม่มี​เสมอ​ ​ทุกคน​ใน​ครอบครัว​ยัง​สัมผัส​ได้​ ​นับประสา​อะไร​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

เขา​ยิ้ม​แล้ว​เหลือบมอง​มารดา​ ​จากนั้น​ก็​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​อย่างนอบน้อม​ ​ตอบคำถาม​เรื่อง​เรียน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​กลับ​เรือน

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​นั่ง​ข้าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ข้า​คิด​ว่า​เรื่อง​ที่​ท่าน​พูด​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​แต่ว่า​ข้า​ยัง​ต้อง​ดู​นาง​ก่อน​ ​ท่าน​คิด​ว่า​ ​หา​ข้ออ้าง​อะไร​ให้​นาง​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ดีเจ​้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​ได้สติ​กลับมา​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่ใช่​เรื่อง​ยาก​ ​เจ้า​ก็​บอกว่า​ประเดี๋ยว​จิ​่น​เกอ​ต้อง​ย้ายออก​ไป​ลาน​นอก​แล้ว​ ​เจ้า​อยู่​คนเดียว​ ​จึง​อยาก​ให้​อิง​เหนียง​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​หาก​ส่งจดหมาย​ไป​อวี​๋​หัง​ตอนนี้​ ​หลัง​ปีใหม่​ก็​ถึง​เดือน​สาม​พอดี​ ​พวก​เจ้า​จะ​ได้​ไป​เดินเล่น​ที่​วัด​ ​ไปเที่ยว​กัน​”

เหตุผล​ง่ายๆ​ ​เช่นนี้​ ​แต่​นาง​กลับ​คิดไม่ออก

เพราะ​รู้สึก​ผิด​อย่างนั้น​หรือ

สือ​อี​เหนียง​เหงื่อ​ตก

“​เป็นความ​คิด​ที่​ดี​!​ ​ข้า​จะ​เขียนจดหมาย​ส่ง​ไป​อวี​๋​หัง​ประเดี๋ยวนี้​”​ ​นาง​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​อย่างรวดเร็ว​ ​“​เงิน​ของ​ยง​อ๋อง​รวบรวม​ครบ​แล้ว​หรือยัง​เจ้า​คะ​”

“​ครบ​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​ ​“​เถ้าแก่​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​ ​เงิน​สอง​แสน​ตำลึง​ ​ไม่​รับ​ดอกเบี้ย​แม้แต่​ตำลึง​เดียว​ ​แล้วยัง​มอบ​ซอง​แดง​ห้า​หมื่น​ตำลึง​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​อีก​ ​มีเงิน​จำนวนมาก​ขนาด​นี้​ ​เหตุใด​เขา​ถึง​กังวล​ว่า​จะ​ทำ​กิจการ​ไม่สำเร็จ​”

“​เงิน​จำนวนมาก​ขนาด​นี้​ ​ก็​ต้อง​มีเงิน​ทุน​จำนวนมาก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​“​ท่าน​โหว​รู้จัก​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ดี​หรือไม่​”

“​ไม่ต้อง​ห่วง​!​ ​ข้า​รู้ดี​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ให้ยืม​เงิน​สอง​แสน​ห้า​หมื่น​ตำลึง​ ​ดอกเบี้ย​รายปี​ไม่​มาก​ ​ถึงแม้ว่า​ดอกเบี้ย​จะ​ค่อนข้าง​ต่ำ​ ​แต่​ตาม​บน​หนังสือสัญญา​แล้ว​ไม่มี​อะไร​ผิด​แน่นอน​ ​สำหรับ​พวกเขา​ ​ไม่ว่า​เขา​จะ​มี​เบื้องหลัง​เช่นไร​ก็​คง​ไม่กล้า​ทำ​อะไร​ต่อหน้า​ข้า​”​ ​พูด​จบ​ก็​ขมวดคิ้ว​ก็​ด้วย​ท่าที​เย่อหยิ่ง

เห็น​เขา​เดินเล่น​อยู่​จวน​ทุกวัน​ ​จน​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​เขา​คือ​ราชครู

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

ราษฎร​ไม่​สู้รบ​ปรบมือ​กับ​ขุนนาง​ ​ไม่ว่า​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​เป็น​ใคร​มาจาก​ไหน​ ​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​โลภมาก​คิด​แต่​จะ​เอา​เงิน​ของ​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ ​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ไม่มีทาง​ทำ​อะไร​เขา​ได้​จริงๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​คือ​วันเกิด​ของ​ยง​อ๋อง​เฟย​ไม่ใช่​หรือ​ ​เจ้า​ช่วย​ข้า​นำ​กล่อง​ทองคำ​แท่ง​ไป​ให้​ยง​อ๋อง​เฟย​ ​ ​บอก​ยง​อ๋อง​เฟย​ว่า​ให้​นาง​นำ​ไป​แลก​ที่​ร้าน​เงิน​เก่าแก่​ ​ยอม​เสียเปรียบ​นิดหน่อย​ ​ดีกว่า​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​ร้าน​เงิน​เฉกเช่น​ร้าน​ต้า​เฟิง​เฮ่า​ ​หาก​เงิน​ไม่พอ​ก็​จัดงาน​เลี้ยง​ครบ​เดือน​ของ​บุตร​ ​งาน​วันเกิด​ของ​บุตร​นั้น​อย่า​ไป​ยืม​เงิน​อีก​เด็ดขาด​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เขา​มีสี​หน้า​เคร่งขรึม​ ​นาง​จึง​ลังเล​ ​“​ท่าน​โหว​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่ผ่านมา​ ​ยง​อ๋อง​แนะนำ​ศาล​พลเรือน​กรมโยธาธิการ​ให้​เลื่อนตำแหน่ง​นายอำเภอ​เขต​เกา​ฉุน​ ​กระทรวง​ขุนนาง​เขียน​ฎีกา​อย่างรวดเร็ว​ ​ซื่อ​เจิง​เล่า​ให้​ข้า​ฟัง​ข้า​ถึง​ได้​รู้​ว่าที่​แท้​แล้ว​ไท่​จื่อ​แนะนำ​ลูกศิษย์​แซ่หลี​่​ของ​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​ผ่าน​ทาง​เขา​…​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​ส่ายหน้า​ ​“​ต่อมา​ปีนี​้​ไท่​จื่อ​อยาก​แนะนำ​ลูกศิษย์​ของ​อาจารย์​ตัวเอง​เข้าไป​รับ​ตำแหน่ง​นายอำเภอจ​ยา​ซิ่ง​ ​จึง​มี​คน​ไป​ขอ​ตำแหน่ง​นายอำเภอ​เขต​เกา​ฉุน​ที่​ยง​อ๋อง​”

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ท่าน​โหว​สงสัย​ ​…​ ​“

“​ไม่ได้​สงสัย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ไม่เช่นนั้น​ ​ซื่อ​เจิง​คง​ไม่มีทาง​มาหา​ข้า​เพราะ​เรื่อง​นี้​”

“​เช่นนั้น​ไท่​จื่อ​ว่า​อย่างไร​เจ้า​คะ​ ​ทาง​ฝั่ง​ของ​ยง​อ๋อง​ ​ท่าน​ไป​เตือน​เขา​แล้ว​หรือยัง​”

หาก​ไท่​จื่อ​และ​ยง​อ๋อง​ขัดแย้ง​กัน​ ​ไม่ว่า​ฝ่าย​ใด​ชนะ​ก็​ล้วนแต่​เป็น​ภัยอันตราย​ต่อสกุล​สวี​ ​เรื่อง​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​ก็​คือ​ ​ฮ่องเต้​จะ​คิด​ว่า​พวกเขา​สอง​คน​ไม่มี​ความสัมพันธ์​อัน​ดี​ต่อกัน​แล้ว​พิโรธ​พวกเขา​ทั้งสอง​คน​ ​เช่นนั้น​สกุล​สวี​ก็​คงจะ​เดือนร้อน

เห็นท่า​ที​เป็นกังวล​ของ​ภรรยา​ตัวเอง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​รู้สึก​เสียใจ​ที่​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​นาง​ฟัง​

“​เจ้า​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ยง​อ๋อง​เป็น​คนฉลาด​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​ข้า​ก็​บอก​เขา​แล้ว​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ก็​แค่​อยาก​จะ​เตือน​เขา​”

ตลอดเวลา​ที่ผ่านมา​ ​ฮ่องเต้​มักจะ​ให้​ไท่​จื่อ​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รักษา​ระยะห่าง​กัน​ ​ดังนั้น​ความสัมพันธ์​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ไท่​จื่อ​จึง​ห่าง​เกิน​กัน​ ​ไม่​ค่อย​มี​ความสัมพันธ์​แบบ​น้า​กับ​หลาน​ ​แต่กลับ​มี​ความสัมพันธ์​แบบ​กษัตริย์​กับ​ขุนนาง​มากกว่า​ ​แต่​ยง​อ๋อง​ ​ปกติ​ไม่ได้​ไปมาหาสู่​กับ​เขา​บ่อย​นัก​ ​แต่​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ยง​อ๋อง​มักจะ​นึกถึง​น้าชาย​อย่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คน​แรก​เสมอ

“​ข้า​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​โล่งใจ​ ​แต่​นาง​ยิ่ง​กังวล​มากกว่า​เดิม​ ​นาง​คิดในใจ​ว่า​เมื่อ​เจอ​กับ​ยง​อ๋อง​เฟย​ ​ควรจะ​พูด​เช่นไร​ดี

มีสาว​ใช้​รายงาน​ผ่าน​ผ้าม่าน​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​สี่​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

ตั้งแต่​วันที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​สะบัด​แขน​เสื้อ​ใส่​เขา​ใน​ห้อง​หนังสือ​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ไม่​ไป​ห้อง​หนังสือ​ลาน​นอก​อีก​เลย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​สวี​ซื่อ​จุน​รับหน้าที่​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​มาดู​แล​อย่างที่​ควรจะเป็น​ ​สำหรับ​สายตา​คนนอก​นั้น​สวี​ซื่อ​จุน​แค่​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดูแล​เรื่อง​ใน​จวน​ใน​ช่วง​ที่​เขา​ไม่อยู่​ ​ตอนนี้​เขา​กลับมา​แล้ว​ ​เรื่อง​ทุกอย่าง​เลย​ถูก​ส่งต่อ​มา​ให้​เขา​อีกครั้ง​ ​เขา​จึง​ออก​จวน​ตั้งแต่​เช้า​กลับมา​อีกที​ก็​เย็น​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​เจียง​ซื่อ​มาคา​รวะ​ก็​ไม่​เจอ​เขา​ ​มี​แค่​จิ​่น​เกอ​ที่​บ่นว่า​ ​‘​ตอนนี้​ท่าน​พ่อ​ก็​ไม่​สอน​ข้า​ฝึก​เขียน​ตัวอักษร​แล้ว​ขอรับ​’

วันนี้​เป็นครั้งแรก​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​เช้า​เช่นนี้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​จึง​รีบ​มาคา​รวะ​เขา​ ​ดูเหมือน​เขา​จะ​หา​โอกาส​มาหา​สวี​ลิ่ง​อี๋

ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​เดิน​เข้ามา​พอดี

เขา​โค้ง​คำนับ​ ​จากนั้น​ก็​ยืน​กุมมือ​อยู่​หน้า​เตียง​เตา​ ​“​ท่าน​พ่อ​ขอรับ​ ​ข้า​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ไม่สบายใจ​

สวี​ลิ่ง​อี๋​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ​ ​ชี้​ไป​ที่​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ข้างๆ​ ​“​นั่งลง​คุย​กัน​เถิด​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​บิดา​ยอม​เปิดปาก​พูด​กับ​ตัวเอง​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​ ​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​

“​ท่าน​พ่อ​ ​ตอนที่​ท่าน​ไม่อยู่​ ​ท่าน​ให้​ข้า​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​ใน​จวน​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​ดัง​ ​แต่กลับ​ก้มหน้า​มอง​นิ้วเท้า​ ​ไม่​เงยหน้า​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​แต่​ข้า​กลับ​ไป​ทำ​โคมไฟ​ ​เรื่อง​นี้​ข้า​ผิด​ไป​แล้ว​ ​ท่าน​พ่อ​โปรด​ให้อภัย​ข้า​ครั้งนี้​ ​ต่อไป​ข้า​ไม่มีทาง​ทำ​เช่นนี้​อีก​แน่นอน​ขอรับ​”

ถึงแม้​จะ​รู้​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​มี​อะไร​จะ​พูด​ ​แต่​ไม่มีใคร​คิด​ว่า​เขา​จะ​ขอโทษ​ตรงไปตรงมา​แบบนี้

สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ

เด็ก​คน​นี้​ ​ในที่สุด​ก็​ยอม​เผชิญหน้า​กับ​ความผิดพลาด​ของ​ตัวเอง​เสียที

“​เจ้า​บอกว่า​เจ้า​ผิด​ไป​แล้ว​ ​เจ้า​ทำ​อะไร​ผิด​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​เขา​ด้วย​สายตา​ที่​เยือกเย็น​ ​ไม่​กะพริบตา​เลย​แม้แต่น้อย​ ​เขา​ทำท่า​ที​เย็นชา​ต่อ​คำขอโทษ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน

แต่​บิดา​ยัง​รับฟัง​เขา​…​สวี​ซื่อ​จุน​โล่งใจ​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​“​ข้า​ควร​เรียงลำดับ​ความสำคัญ​ ​ทำ​โคมไฟ​แต่กลับ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ใน​จวน​ ​ข้า​ควร​จัดการ​เรื่อง​ใน​จวน​ให้​เรียบร้อย​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​ทำ​โคมไฟ​”​ ​เขา​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สายตา​ที่จริง​ใจ​ ​“​ต่อไป​ข้า​จะ​ไม่​ทำ​เช่นนี้​อีก​ขอรับ​!​”

ดวงตา​ของ​เขา​สุกใส​ ​พลอย​ทำให้​ผู้คน​สัมผัส​ได้​ถึง​ความจริงใจ​ของ​เขา

“​รู้​ว่า​ผิด​ตรงไหน​ก็ดี​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เยือกเย็น​เหมือนเดิม​ ​แต่​สีหน้า​กลับ​ผ่อนคลาย​ลง​ไม่น้อย​ ​“​สิ่ง​สำคัญ​ที่สุด​คือ​บทเรียน​ ​ต่อไป​อย่า​ทำผิด​พลาด​อีก​ ​เจ้า​ต้อง​รู้​ว่า​พี่​สอง​ของ​เจ้า​ไม่อยู่​ที่​จวน​ ​เจ้า​เลย​กลายเป็น​พี่ใหญ่​ของ​ครอบครัว​ ​ต้อง​เป็น​แบบอย่าง​ที่​ดี​ให้​กับ​น้องๆ​ ​ของ​เจ้า​…​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท