ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 699 มานะ (ต้น)

ตอนที่ 699 มานะ (ต้น)

เสื้อผ้า​ถัก​ซง​เจียง​สีขาว​ผืน​บาง​เปียกชุ่ม​ไป​ด้วย​เหงื่อ​แนบ​เข้ากับ​ผิวกาย​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​ราวกับ​พึ่ง​หยิบ​ขึ้น​มาจาก​แม่น้ำ​อย่างไร​อย่างนั้น

สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​ทอดสายตา​มองออก​ไป​ยัง​นอก​หน้าต่าง​ก็​รีบ​เบือนหน้า​หนี​ด้วย​ความปวด​ใจ​ ​คอย​ย้ำ​เตือนสติ​ตัวเอง​อยู่​ตลอดเวลา​ว่า​หาก​ไม่เห็น​ก็​จะ​ไม่​พะวง​ ​แต่กลับ​สบตา​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​ถือ​ด้าม​ไม้​ไผ่​ยืน​คุม​อยู่​หลัง​จิ​่น​เกอ​เข้า​พอดี

สวี​ลิ่ง​อี๋​ดึง​สายตา​กลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​เรียบ​เฉย​ ​ด้าม​ไม้​ไผ่​ก็​ถูก​หวด​ไป​ยัง​น่อง​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​“​ยืน​ให้​ดี​!​”​ ​น้ำเสียง​เข้มงวด​และ​จริงจัง​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หลับตา​ลง​แน่น

“​ขอรับ​!​”​ ​ร่างกาย​ของ​จิ​่น​เกอ​ก็​ยกขึ้น​สูง​อีก​หนึ่ง​ระดับ​ ​ภายใต้​น้ำเสียง​ที่​เรียบ​เฉย​แฝง​ไป​ด้วย​ความเหนื่อย​ล้า

น้ำตา​ค่อยๆ​ ​ซึม​ออกมา​จาก​ขอบตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ยก​ชายกระโปรง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​หมุนตัว​เดิน​ออกมา​จาก​เรือน​ซวงฝู​อย่างเงียบเชียบ

“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​…​ท่าน​อย่า​กังวลใจ​ไป​เลย​”​ ​หู่​พั่ว​ปลอบโยน​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​โหว​เป็น​คน​มี​หลักการ​และ​รู้​หนัก​เบา​เป็น​อย่างดี​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ไม่เป็นอะไร​อย่างแน่นอน​เจ้าค่ะ​!​”

“​ข้า​รู้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ขึ้น​มาซั​บน​้ำ​ตา​ ​“​ในเมื่อ​จิ​่น​เกอ​ตัดสินใจ​ที่จะ​เดินเส้น​ทาง​นี้​ ​ยิ่ง​ท่าน​โหว​เคร่งครัด​และ​เข้มงวด​กับ​เขา​มาก​เท่าไร​ ​โอกาส​ที่จะ​มีชีวิต​อยู่รอด​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​เพิ่มมากขึ้น​เท่านั้น​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​น้ำตา​ก็​เอ่อล้น​ออกมา​อย่าง​ไม่​อาจ​สะกด​กลั้น​เอาไว้​ได้

หู่​พั่ว​จึง​ปลอบโยน​นาง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​หก​อายุ​ยังน้อย​ ​ไม่แน่​บางที​เขา​ฝึกฝน​การต่อสู้​กับ​ท่าน​โหว​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ก็​อาจจะ​รู้สึก​เหนื่อย​เกิน​จน​ละทิ้ง​ความตั้งใจ​นี้​ไป​ก็​เป็นได้​ ​หรือ​บางที​ ​หลังจากที่​เขา​โต​ขึ้น​ ​อาจมี​ความชอบ​อย่าง​อื่น​มาทด​แทน​แล้ว​ไม่​อยาก​ไป​ซี​เป่ย​ก็ได้​เจ้าค่ะ​!​”

“​หวัง​ว่า​จะ​เป็น​เช่นนั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​“​เรา​กลับ​เรือน​กัน​เถิด​!​ ​วันนี้​จิ​่น​เกอ​บอกว่า​อยาก​ทาน​หมูสับ​ทอด​ตุ๋น​ผักกาด​ขาว​”​ ​พูด​จบ​ก็​บ่นพึมพำ​ ​“​ไหน​บอกว่า​ไม่​ชอบ​เจียง​หนาน​ไม่ใช่​หรือ​ ​แล้ว​เหตุใด​ยัง​อยาก​จะ​ทาน​หมูสับ​ทอด​ตุ๋น​ผักกาด​ขาว​ทำไม​กัน​ ​หมูสับ​ทอด​ตุ๋น​ผักกาด​ขาว​เป็น​อาหาร​ของ​เจียง​หนา​นนะ​…​”

เหล่า​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​เดินตาม​หลัง​นาง​ไม่กล้า​ส่งเสียง​อะไร​ออกมา​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​ต่าง​ก็​พากั​นพ​ยายา​มกลั​้น​เสียงหัวเราะ​อย่าง​สุดแรงเกิด

บรรยากาศ​ดู​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มาทัน​ใด

พอ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เจอ​เข้ากับ​จื่อ​หง

“ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​เชิญ​ท่าน​ไป​คุย​เจ้าค่ะ​”

หลังจากที่​ไท่ฮู​หยิน​ล้ม​ป่วย​เมื่อ​ต้นปี​ที่ผ่านมา​ ​ร่างกาย​ก็​อ่อนแอ​ลง​ไปมาก​ ​เอาแต่​นอน​อยู่​บน​เตียง​เสีย​ส่วนใหญ่​ ​เหล่า​บรรดา​ญาติ​และ​สหาย​ที่มา​คารวะ​หรือ​เยี่ยมเยียน​ ​นาง​ก็​ไม่ยอม​ออก​ไป​เจอ​หน้า​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​ ​เรื่อง​ใน​จวน​ก็​ไม่​ถามไถ่​ ​วัน​ๆ​ ​เอาแต่​พูดคุย​หรือ​เล่นไพ่​กับ​ป้า​ตู้​ ​จื่อ​หง​และ​อวี​้​ป่าน​เท่านั้น​ ​ยาม​ว่าง​ก็​ไม่ยอม​ออก​ไปเที่ยว​นอก​จวน​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ชีวิต​ความเป็นอยู่​เช่นนี้​จืดชืด​และ​น่าเบื่อ​จน​เกินไป​ ​จึง​หา​สาวใช้​ที่​มีความรู้​มา​อ่านหนังสือ​ตำรา​ต่างๆ​ ​รวมไปถึง​คัมภีร์​ทาง​พุทธศาสนา​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​โดยเฉพาะ

เมื่อเช้า​สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​จะ​คารวะ​ไป​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่ทัน​จะ​พ้น​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มาเรียก​นาง​ไป​คุย​ ​ไม่รู้​ว่า​มีเรื่อง​อัน​ใด​กัน​แน่

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​พลาง​เดิน​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​พร้อมกับ​จื่อ​หง

สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ค่อนข้าง​ดี​ ​นาง​กำลัง​นั่ง​พิง​หมอนอิง​สีแดง​สด​อยู่​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​ ​ข้างๆ​ ​มี​อวี​้​ป่าน​คอย​พัด​ให้​ ​ส่วน​สาวใช้​ที่​สือ​อี​เหนียง​คัดเลือก​ให้​มา​อ่านหนังสือ​ก็​กำลัง​อ่าน​คัมภีร์​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้ามา​ ​จู่ๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ขมวดคิ้ว​แน่น

“​ท่าน​แม่​ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ริม​เตียง​เตา​ใหญ่​พลาง​ถามไถ่​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน

“​เปล่า​หรอก​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ขมวดคิ้ว​แน่น​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​“​ข้า​แค่นึก​ไม่​ออก​…​ว่า​จะ​พูด​อะไร​กับ​เจ้า​!​”

“​นึกไม่ออก​ก็​ไม่เป็นไร​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​รอ​ให้​นึกออก​แล้ว​ ​ท่าน​แม่​ค่อย​บอก​ข้า​อีกที​”

“​เมื่อครู่นี้​ข้า​ยัง​จำได้​อยู่​เลย​…​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​บ่นพึมพำ​ ​“​เจ้า​รอ​ข้า​นึก​ประเดี๋ยว​!​”

ให้เกียรติ​ผู้อาวุโส​ท่าน​อื่น​เสมือน​ว่า​เป็นผู้ใหญ่​ของ​ตน​ ​อบรม​สอนสั่ง​ลูกหลาน​นอก​สายเลือด​ประหนึ่งว่า​เป็น​ลูกหลาน​ของ​ตน

สือ​อี​เหนียง​ลอบ​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​รับ​พัด​จาก​อวี​้​ป่าน​มาช​่ว​ยพัด​ให้​ไท่ฮู​หยิน

“​เหตุใด​วันนี้​ท่าน​แม่​ถึง​ไม่​เล่นไพ่​กับ​ป้า​ตู้​เล่า​”

ไท่ฮู​หยิน​ตอบกลับ​ด้วย​อาการ​เหม่อลอย​ใจ​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​ ​“​ข้า​ให้​นาง​ไปหา​กำไล​ลูกปัด​ ​ข้า​จำได้​ว่า​เคย​มี​กำไล​ลูกปัด​หิน​โมรา​สีแดง​ ​แต่​หลาย​วัน​มานี​้​ข้า​ไม่เห็น​เลย​…​”​ ​พูด​จบ​ก็​เบิกตา​กว้าง​ราวกับว่า​นึก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ข้า​นึกออก​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​รีบ​หันไป​กุมมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ ​“​ข้า​จะ​ถาม​เจ้า​พอดี​ ​ว่า​เจ้า​จะ​จัดการ​เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​เจี​้ย​เกอ​อย่างไร​ ​ตาน​หยาง​บอกว่า​งานแต่ง​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำหนด​เป็น​เดือน​สาม​ของ​ปีหน้า​ ​เจี​้ย​เกอ​เป็น​พี่ชาย​ ​หาก​เขา​ยัง​ไม่​แต่งงาน​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ชิง​แต่งงาน​ก่อน​ได้​อย่างไร​กัน​ ​ข้าว​่า​เจ้า​รีบ​ตกลง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เจี​้ย​เกอ​ให้​เสร็จ​ก่อน​ดีกว่า​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​ตกใจ​จน​เหงื่อ​ตก

ไม่ใช่​พี่น้อง​ครอบครัว​เดียวกัน​เสียหน่อย​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​เคร่งครัด​ขนาด​นี้​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มีมา​รดา​เป็น​คนเดียว​กัน​ ​พี่น้อง​ท้อง​เดียวกัน​ ​แต่​ก็​มี​กรณีที่​น้องสาว​แต่งงาน​ก่อน​พี่ชาย​ ​สำคัญ​คือ​คำพูด​และ​ท่าที​ที่​ไท่ฮู​หยิน​แสดง​ ​ทำ​เหมือนกับ​ว่า​เจี​้ย​เกอ​กัน​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​พี่น้อง​มารดา​เดียวกัน​อย่างไร​อย่างนั้น

ไท่ฮู​หยิน​เป็น​อะไร​ไป

“​อิง​เหนียง​ยัง​ไม่ทัน​จะ​จัด​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ ​อีกทั้ง​ยัง​แต่งงาน​ไป​ไกล​จาก​บ้านเกิด​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อธิบาย​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ตอน​ยัง​เด็ก​ได้​ตกปากรับคำ​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​รอ​ให้​อิง​เหนียง​จัด​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​เสร็จ​แล้ว​ ​เรา​ค่อย​มากำ​หนด​วัน​แต่งงาน​อีกที​เจ้าค่ะ​”

“​อย่างนั้น​เอง​หรือ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ราวกับว่า​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มาทัน​ที​ทันใด​ ​“​ว่า​แล้ว​เชียว​ ​ข้า​ยัง​แปลกใจ​อยู่​เลย​ว่า​เหตุใด​เจี​้ย​เกอ​ถึง​ไม่ยอม​สู่ขอ​ภรรยา​เสียที​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ไม่มี​อะไร​แล้ว​ ​เจ้า​ไป​ทำ​ธุระ​ของ​เจ้า​เถิด​!​ ​ข้า​จะ​เรียก​ป้า​ตู้​มา​เล่นไพ่​เป็นเพื่อน​ข้า​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​หลังจากนั้น​ก็​เริ่ม​ติดตาม​และ​คอย​สังเกต​อาการ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อย่างใกล้ชิด​ ​จึง​พึ่ง​สังเกตเห็น​ว่าน​อก​จาก​ไท่ฮู​หยิน​จะ​หลง​ๆ​ ​ลืม​ๆ​ ​แล้วยัง​ชอบ​พูดจา​ซ้ำไปซ้ำมา​ ​พูด​ท่อน​หน้า​เสร็จ​ก็​ลืม​ท่อน​หลัง​เสีย​แล้ว

“​ท่าน​โหว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความ​อ้ำอึ้ง​ ​“​เกรง​ว่าความ​จำ​ของ​ท่าน​แม่​คง​ไม่​เหมือนเช่น​เมื่อก่อน​อีกแล้ว​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เข้าใจ​ใน​สิ่ง​ที่นาง​พูด

สือ​อี​เหนียง​จึง​เล่า​เหตุการณ์​ที่นาง​สังเกตเห็น​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​ ​ขณะที่​กำลัง​เล่า​อยู่​นั้น​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สอง​มา​เจ้าค่ะ​!​”

ทั้งสอง​จึง​หยุด​บทสนทนา​นั้น​ไป

“​ข้า​รู้สึก​ว่า​ตอนนี้​ท่าน​แม่​…​จำ​เรื่องราว​ไม่​ค่อย​ได้​แล้ว​…​บางครั้ง​ก็​พูดจา​…​”​ ฮู​หยิน​สอง​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​แล้วจึง​สลับ​ไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​เป็นกังวล​ใจ​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​พูด​อย่างไร​ดี

สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ต่าง​ก็​พากัน​หันมา​สบตา​กัน

ฮู​หยิน​สอง​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​แค่​บางครั้งบางคราว​เท่านั้น​ ​แต่​นึกไม่ถึง​เลย​ว่านาง​เอง​ก็​สังเกตเห็น​เรื่อง​นี้

“​เมื่อครู่นี้​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​กำลัง​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ข้า​อยู่​พอดี​!​”​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูด​ขึ้น​อย่าง​สุภาพ​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​เชื้อเชิญ​ท่าน​หมอ​หลิว​มาตร​วจ​ดู​อาการ​ของ​ท่าน​แม่​เสียหน่อย​…​หาก​ไม่ได้​จริงๆ​ ​ก็​จะ​ให้ท่าน​แม่​ย้าย​มา​พัก​ที่​เรือน​หลัก​ ​พวกเรา​เอง​ก็​จะ​ได้​ดูแล​ได้​อย่าง​ทั่วถึง​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​เป็น​เพราะ​ร่างกาย​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ชรา​แล้ว​ ​จึง​คิด​ว่า​เป็นโรค​ของ​คนแก่​เสียมา​กก​ว่า​ ​โรค​แบบนี้​ใช้​ยา​ไป​ก็​ไม่​เป็นผล​ ​อาการ​ยัง​ค่อยๆ​ ​หนัก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ตาม​อายุ​อีกด้วย​…​ไท่ฮู​หยิน​พัก​อยู่​ใน​เรือน​ของ​ตนเอง​เพียงลำพัง​ ​รอบข้าง​มี​เพียง​บ่าว​รับใช้​เท่านั้น​ ​การ​ย้าย​มา​อยู่​กับ​นาง​ย่อม​เป็น​ทางเลือก​ที่​ดีกว่า​อยู่​แล้ว

“​จิ​่น​เกอ​ย้ายออก​ไป​แล้ว​ ​ข้า​จะ​จัดระเบียบ​ข้าวของ​ทั้งหมด​แล้ว​ขนย้าย​ไป​ไว้​ที่​เรือน​ปีก​ทิศตะวันออก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไตร่ตรอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​น่าจะ​อยู่​ได้​เจ้าค่ะ​!​”

“​งาน​ของ​เจ้า​ล้นมือ​ ​อีกทั้ง​จะ​ต้อง​คอย​ต้อนรับ​แขก​ที่มา​เยี่ยมเยียน​ ​ท่าน​แม่​ย้าย​มา​อยู่​กับ​เจ้า​คงจะ​ไม่​ค่อย​สะดวก​เท่าไร​นัก​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​เรือน​ของ​ข้า​จะ​ดีกว่า​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​รีบ​ปฏิเสธ​ขึ้น​มาทัน​ควัน​ ​“​ไม่ได้​ ​ขั้นบันได​ที่​เรือน​ของ​ข้า​สูง​เกินไป​ ​เข้าออก​ไม่​สะดวก​”​ ​นาง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ย้าย​เข้าไป​ที่​เรือน​ของ​ท่าน​แม่​จะ​ดีกว่า​!​”

“​จะ​ทำ​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​กัน​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​ยัง​ต้อง​เขียนหนังสือ​อีก​…​”

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​โบกมือ​ทันควัน​ ​“​เรื่องเล็ก​น้อย​ทั้งนั้น​ ​เรื่อง​ดูแล​ท่าน​แม่​สำคัญ​กว่า​”​ ​พูด​จบ​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​เรื่อง​นี้​ก็​เป็นอัน​ตกลง​ตาม​นี้​เลย​ก็แล้วกัน​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​สี่​ ​พรุ่งนี้​เจ้า​ช่วย​จัดการ​หาบ​่า​วรับ​ใช้​ชาย​สัก​จำนวน​หนึ่ง​ไป​ช่วย​ข้า​ขน​หีบ​ข้าวของ​ด้วย​ ​ส่วน​เรื่อง​ท่าน​แม่​ ​ก็​บอก​ไป​แค่​ว่า​ช่วงนี้​ข้า​ไม่มี​งาน​อะไร​ ​ก็​เลย​อยาก​จะ​ไป​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​แม่​สักพัก​”​ ​นาง​จัดแจง​ทุกอย่าง​เสร็จสรรพ​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​ซ้ำ​น้ำเสียง​ยัง​ฟัง​ดู​หนักแน่น​เป็นอย่างมาก

“​เรื่อง​นี้​เรา​ควร​รอ​ให้ท่าน​หมอ​หลิว​ตรวจดู​อาการ​เสร็จ​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​มาคุ​ยกั​นอีก​ที​ดีกว่า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​หาก​เป็น​เพราะ​ท่าน​แม่​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ความจำ​ก็​เลย​ถดถอย​ ​ทาง​ฝั่ง​น้อง​ห้า​และ​น้อง​สะใภ้​ห้า​เรา​ก็​ควร​ต้อง​บอกกล่าว​สัก​คำ​ถึง​จะ​ถูก​ ​วันข้างหน้า​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​ ​จะ​ปล่อย​ให้​พี่สะใภ้​สอง​ดูแล​คนเดียว​เช่นนี้​ไม่ได้​ ​รอ​ให้​ข้า​และ​น้อง​สะใภ้​ห้า​ปรึกษาหารือ​กัน​ก่อน​ ​เรา​ค่อย​ร่าง​กฎ​และ​รายละเอียด​ขึ้น​มา​ใหม่​อีกที​ ​พี่สะใภ้​สอง​คิดเห็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

“​ไม่ต้อง​ยุ่งยาก​ขนาด​นั้น​”​ ฮู​หยิน​สอง​พูด​ขึ้น​ ​“​พวก​เจ้า​สอง​คน​ ​คน​หนึ่ง​ต้อง​ดูแล​เรื่อง​การหุงต้ม​อาหารการกิน​ ​อีก​คน​ก็​ต้อง​ดูแล​บุตร​ที่​ยัง​เล็ก​ ​ไหน​จะ​ต้องเต​รี​ยม​สินเดิม​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อีก​…​”

แต่​ยัง​ไม่ทัน​จะ​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​ทำตาม​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​จะ​ดีกว่า​ ​เรา​เชิญ​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ดู​อาการ​ก่อน​ ​หากว่า​สุขภาพ​ของ​ท่าน​แม่​ไม่ดี​จริงๆ​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​เรา​ค่อย​มาป​รึก​ษา​หารือ​กัน​อีกที​!​”

เขา​พูด​ออกมา​เช่นนี้​ ฮู​หยิน​สอง​ก็​ไม่​สะดวก​ที่จะ​พูด​อะไร​อีก​ ​ทั้ง​สาม​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​อาการ​ผิดปกติ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​ขอตัว​ลาก​ลับ

วัน​ถัดมา​ ​ท่าน​หมอ​หลิว​ก็ได้​มาตร​วจ​ดู​อาการ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ยาก​ที่จะ​หลีกเลี่ยง​อาการ​หูตึง​และ​ตาพร่า​มัว​ได้​ ​ให้​คน​มาคอ​ยป​รน​นิ​บัติ​ดูแล​เพิ่มขึ้น​ก็​พอแล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​เขียน​ใบสั่งยา​บำรุง​ฤทธิ์​ร้อน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​แล้วจึง​ค่อย​ขอตัว​ลาก​ลับ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​เรียก​สวี​ลิ่ง​หนิง​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​มาป​รึก​ษา​หารือ​เรื่อง​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่ฮู​หยิน​สอง​กลับ​ย้าย​เข้าไป​พัก​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เลย

สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​ที่​กำลัง​รอฟัง​ผลสรุป​อยู่​ด้านนอก​หันมา​สบตา​กัน​ ​จากนั้น​ก็​พากัน​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ทันที

ระหว่างทาง​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็ได้​บ่น​ขึ้น​ว่า​ ​“​นาง​เป็น​หญิง​หม้าย​แล้ว​ ​ตอนนี้​ยัง​จะ​มา​เป็น​หญิง​กตัญญู​อีก​…​หรือ​พวกเรา​เหล่า​บรรดา​สะใภ้​ไม่มีใคร​กตัญญู​เลย​หรือ​อย่างไร​กัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เจื่อน

หลังจากที่​เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​ก็​เห็น​เจี​๋ย​เซียง​กำลัง​คุม​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​งาน​หยาบ​ขนย้าย​กล่อง​หีบ​อยู่

นาง​รีบ​เข้ามา​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​ทันที

เวลา​ที่​ฉุนเฉียว​โมโห​ก็​ไม่​ควร​ไป​ลง​กับ​เหล่า​บรรดา​สาวใช้

ฮู​หยิน​ห้า​ข่ม​ความไม่พอใจ​เอาไว้​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​ฝืนยิ้ม​ให้​กับ​เจี​๋ย​เซียง​เหมือนเช่น​สือ​อี​เหนียง​ ​แล้วจึง​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน

ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​ส่วนฮู​หยิน​สอง​กำลัง​นั่งคุกเข่า​ช่วย​ไท่ฮู​หยิน​หวี​ผม​อยู่​ด้านหลัง​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง

แสงแดด​สีทอง​อร่าม​ของ​ยามเช้า​สาดส่อง​เข้ามา​ผ่าน​ทาง​หน้าต่าง​ ​ราวกับ​ทองคำเปลว​ที่​กำลัง​ห่อหุ้ม​ร่างกาย​ของฮู​หยิน​สอง​เอาไว้​ก็​ไม่​ปาน

สีหน้า​ท่าที​ของ​นาง​สงบสุขุม​ ​น้ำเสียง​สนิทสนม​ ​กิริยาท่าทาง​นุ่มนวล​และ​อ่อนโยน​ ​ปฏิบัติ​ราวกับว่า​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​เครื่องเคลือบ​กระเบื้อง​ที่​แตกหัก​ได้​ง่าย​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​“​…​ไม่รู้​ว่า​หนังสือ​จะ​เขียน​ออกมา​ตอน​ไหน​…​เรือน​เสา​หวา​เงียบเหงา​ยิ่งนัก​ ​ข้า​ก็​เลย​ย้าย​มา​อยู่​เป็นเพื่อน​ท่าน​แม่​ดีกว่า​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้ว​สีหน้า​ก็​ยิ้มแย้ม​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​แค่​เจ้า​ชอบ​ก็​พอ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​สั่ง​ป้า​ตู้​เสียง​สูง​ว่า​ ​“​เร็ว​เข้า​ ​รีบ​ไป​จัดแจง​เตรียม​ห้อง​หน​่​วน​เก๋อ​เร็ว​ ฮู​หยิน​สอง​จะ​ย้าย​เข้ามา​พัก​ที่นี่​”​ ​ขณะที่​พูด​อยู่​นั้น​ก็​เหลือบ​ไป​เห็น​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​พอดี​ ​“​พวก​เจ้า​มา​ได้​อย่างไร​กัน​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​นวด​มือ​ของฮู​หยิน​สอง​เบา​ๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​เบิกบานใจ​ ​“​พี่สะใภ้​สอง​ของ​พวก​เจ้า​รู้สึก​เหงา​ ​ก็​เลย​อยาก​ย้าย​มา​อยู่​กับ​ข้า​ให้​ครึกครื้น​เสียหน่อย​!​”​ ​สีหน้า​ดู​มีความสุข​เป็นอย่างมาก

เวลา​นั้น​เอง​ ​ดวงตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มีน​้ำ​ตา​ซึม​ออกมา

“​ดีจริง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ฝืนยิ้ม​พลาง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ที่นี่​คงจะ​ครึกครื้น​ไม่น้อย​”

“​นั่น​น่ะ​สิ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​ความชอบ​ใจ

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เหลือบ​ไป​มองฮู​หยิน​ห้า​ที่​ก่อนหน้านี้​ยังคง​โมโห​ฉุนเฉียว​อยู่

ฮู​หยิน​ห้า​ยืน​อึ้ง​อยู่​ที่​เดิม​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความลำบาก​ใจ​ ​เห็นได้ชัด​ว่าความ​สัมพันธ์​ที่​แน่นแฟ้น​ระหว่างฮู​หยิน​สอง​และ​ไท่ฮู​หยิน​นั้น​ทำให้ฮู​หยิน​ห้า​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก

เรื่อง​นี้​ก็​ผ่าน​ไป​ในที่สุด​ ​แต่​เรื่องราว​ยัง​ไม่​จบ​เท่านั้น​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​ได้​เรียก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​คุย​อีกด้วย​ ​ออกปาก​พูด​กับ​เขา​อย่างชัดเจน​ว่า​ให้​รีบ​จัดการ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เจี​้ย​เกอ​ให้​เรียบร้อย​ ​“​รีบ​แต่ง​ให้​เสร็จ​ก่อนที่จะ​ถึง​วัน​งาน​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หรือว่า​เรา​จะ​ไป​คุย​เรื่อง​นี้​กับ​คุณนาย​สี่​ดี​ ​ว่า​สามารถ​จัดงาน​แต่ง​ล่วงหน้า​ได้​หรือไม่​ ​ท่าน​แม่​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เอาแต่​พะวง​เช่นนี้​ทุกวัน​ ​แต่ง​อิง​เหนียง​เข้า​จวน​ก่อน​ ​รอ​โตก​ว่านี​้​สักหน่อย​ก็​ค่อย​ร่วม​เรือน​”

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ดี​ ​จึง​รีบ​เขียนจดหมาย​ส่ง​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​ทันที​ ​กลางเดือน​เจ็ด​ ​ทาง​ฝั่ง​อวี​๋​หัง​ก็ได้​เขียนจดหมาย​ตอบกลับ​มาถาม​ถึง​รายละเอียด​ของ​งานแต่งงาน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท