ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 705 ทิศทาง (ต้น)

ตอนที่ 705 ทิศทาง (ต้น)

หลังจากที่​จิ​่น​เกอ​ออกเดินทาง​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​หดหู่ใจ​และ​เศร้าหมอง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เปลี่ยนไป​เป็น​คนที​่​ท่าที​เหม่อลอย​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ได้​เชิญ​ช่างทอง​เข้า​จวน​มาทำ​เครื่องประดับ​ ​สือ​อี​เหนียง​สั่งทำ​แค่​กำไลทอง​คำ​ที่​สลักลาย​หรู​อี้​เพียง​หนึ่ง​คู่​เท่านั้น​ ​อิง​เหนียง​เป็น​เจ้าสาว​ใหม่​ ​เครื่องประดับ​ที่​เป็น​สินเดิม​ไม่ใช่​แค่​ทองคำ​ใหม่​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​เป็น​ลวดลาย​แบบ​ใหม่​อีกด้วย​ ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​เลือก​ที่จะ​ใช้​เงิน​ส่วนตัว​ทำ​แหวนทอง​สอง​วง​และ​ต่างหู​ทอง​สอง​คู่​ให้​อิง​เหนียง​แทน​ ​เมื่อถึง​วัน​มงคลสมรส​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พา​เจียง​ซื่อ​และ​อิง​เหนียง​ไปร​่ว​มงาน​ด้วยกัน

เจียง​ซื่อ​ค่อนข้าง​คุ้นเคย​กับ​แขก​คนอื่นๆ​ ​พอสมควร​ ​จึง​สามารถ​พูดคุย​ได้​อย่างสนิทสนม​ ​แต่​อิง​เหนียง​ออกงาน​เป็นครั้งแรก​ ​จึง​เอาแต่​เกาะ​แขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ไม่ยอม​ห่าง​ ​ตอนแรก​ก็​ยัง​ตื่นเต้น​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​แต่​หลังจากที่​ได้​เจอะ​เจอ​ผู้คน​แล้ว​ ​นาง​ก็​ดู​นิ่ง​มากขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ถูก​อดีต​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​และ​เวย​เป่ย​โหวฮู​หยิน​คน​ปัจจุบัน​เชื้อเชิญ​ให้​ไป​นั่ง​ที่​ห้อง​ปีก​ของ​เรือน​หลัก​ ​อิง​เหนียง​ก็ตาม​ไป​คอย​ช่วย​ริน​น้ำชา​อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ทอดสายตา​มอง​ไป​ยังฮู​หยิน​ของ​จง​ฉินปั​๋ว​ซื่อ​จื่อ​และ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​จง​ซาน​โหว​สกุล​ถัง​ที่​กำลัง​พูดคุย​กับ​เจียง​ซื่อ​นอก​หน้าต่าง​นั่น​ ​ก็​ยิ้ม​พลาง​ชี้​ให้​สือ​อี​เหนียง​ดู​ ​“​เหมือน​พวกเรา​ตอน​สมัยก่อน​โน้น​หรือไม่​”

คนที​่​อยู่​ใน​เรือน​ต่าง​ก็​พากั​นม​อง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ชี้

ฮู​หยิน​ของ​จง​ฉินปั​๋ว​ซื่อ​จื่อ​สวม​ชุด​เป้ย​จื่อ​ลาย​ดอกไม้​สีเขียว​ ​ประดับ​ผม​ด้วย​เครื่องประดับ​ไข่มุก​ ​ดู​เรียบง่าย​และสง่า​งาม​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

“​ข้า​ไม่เห็น​ว่า​จะ​เหมือน​ท่าน​ตรงไหน​เลย​”​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​มี​แต่ฮู​หยิน​ของ​จง​ฉินปั​๋ว​ซื่อ​จื่อ​ที่​ดูแล​้ว​คล้าย​กับฮู​หยิน​สี่​สกุล​สวี​ใน​สมัย​นั้น​อยู่​บ้าง​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียง​เบา

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​เอ่ย​อย่าง​ทอดถอนใจ​ว่า​ ​“​เวลา​ล่วงเลย​ผ่าน​ไป​เร็ว​เสีย​จริง​ ​ตอนนั้น​เรา​ยัง​พากัน​ยืน​พูดคุย​ที่​ใต้​ชายคา​อยู่​เลย​ ​ตอนนี้​ต้อง​พากั​นมา​นั่ง​อยู่​ใน​เรือน​แทน​เสีย​แล้ว​!​”

กาน​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​ไม่เคย​ไป​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​เลย​สักครั้ง​ ​อย่า​เหมา​รวม​ข้า​เข้าไป​ใน​เรื่อง​ของ​เจ้า​ด้วย​”

ทุกคน​ที่อยู่​ใน​เรือน​ต่าง​ก็​พากัน​หัวเราะ​ด้วย​ความตลกขบขัน

หลังจากที่​กลับ​ไป​ถึง​จวน​แล้วก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​นั่ง​พิง​ที่​หัว​เตียง​พร้อมกับ​อ่าน​จดหมาย​ใน​มือ​อยู่

“​ของ​จิ​่น​เกอ​”​ ​เขา​ชู​จดหมาย​ใน​มือขึ้น​เล็กน้อย​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​ปรี่​เข้าไป​นั่งลง​ที่​ข้าง​เตียง​ด้วย​ความตื่นเต้น​ทันที​ ​“​เขา​ว่า​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แล้วก็​ผุด​ยิ้ม​ขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​แทบจะ​ไม่ได้​สนใจ​เขา​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ก้มหน้าก้มตา​อ่าน​จดหมาย​อย่างใจจดใจจ่อ

จดหมาย​ถูก​ส่ง​มาจาก​เขต​เซ​วี​ยนถง​ ​แม้ว่า​เนื้อหา​ใน​จดหมาย​นั้น​จะ​ค่อนข้าง​สั้น​ ​แต่ทว่า​เรื่อง​เครื่องนุ่งห่ม​ ​อาหารการกิน​ ​ที่อยู่อาศัย​ ​รวมไปถึง​การ​เดินทาง​ ​ปัจจัย​ทั้ง​สี่​ประการ​นี้​กลับ​ถูก​อธิบาย​อย่างชัดเจน

เมื่อ​รู้​ว่า​จิ​่น​เกอ​เดินทาง​ปลอดภัย​ดี​ ​จิตใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​รู้สึก​สงบ​ลง​ไม่น้อย​ ​แต่​ก็​ยังคง​อ่าน​แล้ว​อ่าน​อีก​ ​ถึง​จะ​ยอม​วาง​จดหมาย​ลง

“​อย่า​กังวลใจ​ไป​เลย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลุกขึ้น​มา​โอบกอด​สือ​อี​เหนียง​ ​“​จิ​่น​เกอ​สบายดี​ ​อีก​สิบ​กว่า​วัน​เขา​ก็​จะ​เดินทาง​ถึง​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​แล้ว​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ

เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไปราว​สิบ​กว่า​วัน​ ​จิ​่น​เกอ​ก็ได้​ส่งจดหมาย​กลับมา​อีกครั้ง​ ​เขา​บอกเล่า​ถึง​เรื่องราว​ว่า​หลังจาก​ไป​ถึง​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​แล้ว​ ​เขา​เข้าไป​เยี่ยมเยียน​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​อย่างไร​ ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​พูด​อะไร​กับ​เขา​บ้าง​ ​ส่ง​เขา​ไป​ที่​เขต​การทหาร​ไหน​ ​พัก​อยู่​ตรงไหน​ ​สถานที่​พัก​กว้างใหญ่​แค่ไหน​ ​เขา​บรรจง​เขียน​ทุกราย​ละเอียด​อย่างชัดเจน

เพราะว่า​หยุดพัก​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เลย​ได้​เขียนจดหมาย​ส่ง​ไป​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​และ​ยัง​ได้​ส่ง​คน​ไปรา​ยงา​นค​วาม​ปลอดภัย​ให้​กับ​ปินจ​วี​๋​อีกด้วย

ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​วัน​ ​จิ​่น​เกอ​ไม่เพียงแต่​ส่งจดหมาย​กลับมา​เท่านั้น​ ​แต่​เขา​ยัง​ได้​ให้​คน​นำ​เสื้อผ้า​ชาว​หู​และ​องุ่น​อบ​แห้ง​กลับมา​ด้วย​ ​บอกว่า​เสื้อผ้า​ชาว​หู​ที่​ส่งกลับ​มานั​้​นม​อบ​เป็น​ของขวัญ​วันเกิด​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ส่วน​องุ่น​อบ​แห้ง​และ​ลูก​เหมย​นั้น​เอาไว้​ให้​ทุกคน​ฉลอง​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง

สือ​อี​เหนียง​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ยัง​ได้​ลอง​สวมใส่​ชุด​ชาว​หู​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​อิง​เหนียง​ดู​เป็นการ​ส่วนตัว​อีกด้วย​ ​จากนั้น​ก็​เอา​องุ่น​อบ​แห้ง​ใส่​ลง​ไป​ใน​กล่อง​ไม้​ที่​สีสัน​สวยงาม​ ​แจกจ่าย​ให้​ทุก​จวน​อย่าง​ทั่วถึง​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​มอบ​รองเท้า​ถุงเท้า​ให้​เป็น​ของ​ตอบแทน​น้ำใจ​ ​ส่วน​เฉา​เอ๋อร​์​ก็ได้​ทำ​เสื้อผ้า​มา​ให้​หนึ่ง​ชุด​ ​“​…​หาก​มี​คน​ไป​ที่​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ ​ก็​จะ​เอา​ไป​พร้อมกัน​ทีเดียว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เขียนจดหมาย​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ​ก่อน​ถึง​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ก็ได้​เขียนจดหมาย​ไป​เล่า​ให้​จิ​่น​เกอ​ฟัง​ว่าที่​จวน​ได้​จัดเตรียม​งานเลี้ยง​ฉลอง​แบบ​ไหน​ ​หลัง​ผ่าน​เทศกาล​วัน​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ไป​แล้ว​ ​ก็ได้​เขียนจดหมาย​ไป​เล่า​ให้​เขา​ฟัง​ว่างาน​เลี้ยง​ฉลอง​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ทุก​ห้าวัน​จะ​เขียนจดหมาย​ส่ง​ไป​หนึ่ง​ฉบับ​ ​ไม่ว่า​จิ​่น​เกอ​จะ​ตอบ​จดหมาย​กลับมา​หรือไม่​ ​นาง​ก็​ยังคง​สั่ง​ให้​คน​คอย​ส่งจดหมาย​ไป​ยัง​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​โดยที่​ไม่​ลดละ​แม้แต่​นิดเดียว

สิบ​วัน​จิ​่น​เกอ​จะ​ตอบ​จดหมาย​กลับมา​หนึ่ง​ฉบับ​ ​เริ่มแรก​ก็​เป็น​แค่​การ​รายงาน​ความปลอดภัย​ทั่วไป​เท่านั้น​ ​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​ ​เขา​ก็​เริ่ม​เล่า​เกี่ยวกับ​เรื่อง​การฝึกฝน​หรือ​เรื่อง​ที่​เขต​การทหาร​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​บ้าง

เมื่อถึง​กลางเดือน​หก​ ​อิง​เหนียง​ก็ได้​รับ​การ​ตรวจ​วินิจฉัย​ว่า​ตั้งครรภ์

ทุกคน​ใน​ครอบครัว​ต่าง​ก็​พากัน​ดีใจ​กับ​ข่าวดี​ที่​คาดไม่ถึง​นี้​ ​เวลานี้​ ​เพราะ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ปกครอง​อำเภอ​ได้ดี​ ​จึง​ได้​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ผู้ว่าการ​เขต​เหมี​่​ยน​หยาง​โจว

“​…​ถึงแม้ว่า​ที่นั่น​จะ​มี​ภัยพิบัติ​ทางน้ำ​และ​มีคุณ​ภาพ​ดิน​ที่​ย่ำแย่​ ​แต่​โชคดี​ที่มา​จาก​ผู้ว่าการ​เขต​ระดับ​ห้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​หาก​ไม่มี​อะไร​ผิดพลาด​ ​อีก​ไม่​กี่​ปีก​็​จะ​สามารถ​ย้าย​ไป​ประจำการ​ใน​เขต​ที่​อุดมสมบูรณ์​กว่า​ ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ฝ่ายปกครอง​มณฑลถง​จือ​หรือ​ตำแหน่ง​ผู้ว่าการ​มณฑล​ไม่ช้าก็เร็ว​”

แน่นอน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ย่อม​ต้อง​ดีใจ​แทน​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​อยู่​แล้ว

คนใน​จวน​ปฏิบัติ​ต่อ​อิง​เหนียง​แตกต่าง​ไป​จาก​เดิม​อย่างเห็นได้ชัด​ ​แต่​อิง​เหนียง​กลับ​ไม่ได้​เก็บ​มา​ใส่ใจ​แต่อย่างใด​ ​ใน​ทุกๆ​ ​เช้า​หลังจากที่​นาง​ไป​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​เสร็จ​แล้ว​ ​นาง​ก็​จะ​ไปดู​แล​และ​ตัดแต่ง​ดอกไม้​ที่​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​หลัง​สวนดอกไม้​กับ​สะใภ้​จี้​ถิง​ ​หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​ตื่น​จาก​นอน​กลางวัน​แล้ว​ ​จึง​ค่อย​ไป​คุย​เล่น​ ​เย็บปักถักร้อย​หรือ​เดินเล่น​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ตกค่ำ​ก็​อยู่​ทานอาหาร​ค่ำ​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน​ ​หลังจากที่​เดิน​ไป​ส่ง​สือ​อี​เหนียง​ที่​เรือน​แล้ว​ ​นาง​จึง​ค่อย​กลับ​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​ตนเอง

เดิมที​สือ​อี​เหนียง​อยาก​จะ​ให้​อิง​เหนียง​หยุด​ปรนนิบัติ​เช้า​เย็น​ได้​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดิน​มา​เป็นเพื่อน​นางใน​ทุกๆ​ ​เช้า​ ​ตกค่ำ​ก็​เดิน​กลับเป็น​เพื่อน​อิง​เหนียง​ ​ก็​เลย​กลืน​คำพูด​ลงคอ​ไป

หลังจากที่​จิ​่น​เกอ​รู้​ว่า​ตัวเอง​ใกล้​จะ​ได้​เป็น​อา​แล้ว​ ​ก็ได้​ส่ง​หยก​เหอ​เถี​ยน​ที่​สลัก​ด้วย​คำ​ว่า​ ​‘​สม​ดังใจ​ปรารถนา​’​ ​กลับ​ไป​ที่​จวน​ ​ใน​จดหมาย​ยัง​ทาย​ด้วยว่า​จะ​ได้​หลาย​ชาย​หรือว่า​หลานสาว​ ​หาก​ได้​หลานสาว​จะ​ตั้งชื่อ​ว่า​อะไร​ ​และ​หากว่า​ได้​หลานชาย​จะ​ตั้งชื่อ​ว่า​อะไร

สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​จดหมาย​ที่​เขา​เขียน​มานั​้น​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ​ ​จึง​รับรู้​ได้​ว่า​เขา​ผ่าน​ช่วง​ปรับตัว​ใน​ระยะแรก​ได้​แล้ว​ ​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​มีความสุข​เป็นอย่างมาก​ ​พูดคุย​หัวเราะ​กับ​อิง​เหนียง​ถึง​ความ​ตลก​ของ​เขา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ส่ง​เสื้อกันหนาว​ไป​ให้​เขา

แต่​บรรยากาศ​ความสุข​เช่นนี้​ไม่ได้​ยืดยาว​สัก​เท่าไร​นัก​ ​ช่วงเดือน​สิบ​ ​ทาง​ฝั่ง​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ก็ได้​เกิด​สงคราม​ขนาดย่อม​ขึ้น​อย่างต่อเนื่อง​อยู่​หลายครั้ง​ ​ทว่า​จดหมาย​ที่​จิ​่น​เกอ​ส่ง​มานั​้​นก​ลับ​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​เลย​ ​แต่​จิ​่น​เกอ​อยู่​ที่​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ ​แน่นอน​ว่า​ทุกคน​จะ​ต้อง​ติดตาม​ข่าวคราว​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​เป็นการ​พิเศษ​อยู่​แล้ว​ ​หาก​ฝ่าย​รายงาน​ได้รับ​ข่าวสาร​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​จะ​รู้เรื่อง​ทันที

นาง​ร้อนใจ​ราวกับว่า​ไฟ​กำลัง​สุม​อยู่​ใน​อก​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​ถึงแม้​จะ​บอกว่า​สงคราม​มี​แพ้​มี​ชนะ​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ก็​พ่ายแพ้​เสีย​ส่วนมาก​ ​ชนะ​เป็น​ส่วนน้อย​!​”

“​ไม่เป็นไร​หรอก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปลอบใจ​นาง​ ​“​ไม่ว่า​จะ​แพ้​หรือ​ชนะ​ ​เขต​การทหาร​ที่​จิ​่น​เกอ​อยู่​นั้น​คือ​ส่วนหลัง​สุด​ ​ค่อนข้าง​ห่างไกล​และ​ทุรกันดาร​ ​หาก​ไม่ใช่​การ​โจมตี​ครั้ง​ใหญ่​ ​ไม่มีทาง​ที่จะ​รุกราน​ไป​ถึงที่​นั่น​ ​และ​ข้า​เอง​ก็ได้​ส่ง​คน​ไป​ถาม​กับ​ทาง​กรม​กลาโหม​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เขต​พื้นที่​ที่​เขา​อยู่​นั้น​ไม่ได้​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​”​ ​เขา​ยัง​รับประกัน​อีกว่า​ ​“​หาก​ทาง​นั้น​มีเรื่อง​อัน​ใด​เกิดขึ้น​ก็​จะ​มี​คน​มารา​ยงา​นข​่า​วกับ​ข้า​ทันที​”

สือ​อี​เหนียง​ยังคง​รู้สึก​เป็นกังวล​ใจอยู่​ดี

จดหมาย​ของ​จิ​่น​เกอ​ถูก​ส่ง​มาถึง​แล้ว

จดหมาย​ที่​ส่ง​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ก็​ยัง​เป็น​จดหมาย​ที่​คอย​รายงาน​ความปลอดภัย​เหมือนเช่น​เดิม​ ​แต่​จดหมาย​ที่​เขียน​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั้น​กลับเป็น​การ​พูดคุย​เกี่ยวกับ​สงคราม​ใน​ครั้งนี้​ ​เขา​พูดถึง​สาเหตุ​ของ​การ​พ่ายแพ้​สงคราม​ใน​ครั้งนี้​ด้วย​ความไม่พอใจ​ ​และ​โยนความผิด​ทั้งหมด​ให้​กับ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้

สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​“​จิ​่น​เกอ​กลายเป็น​คน​หัวรุนแรง​แบบนี้​ตั้งแต่​เมื่อไร​กัน​ ​โชคดี​ที่​ท่าน​ว่างงาน​อยู่​จวน​ ​หาก​ท่าน​ยัง​ดำรงตำแหน่ง​อยู่​ที่​กองทัพ​ทหาร​แห่ง​เหล่าทัพ​ทั้ง​ห้า​ ​แล้ว​ได้​ฟัง​คำพูด​เช่นนี้​ล่ะ​ก็​ ​เกรง​ว่า​ตำแหน่ง​ของ​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​คงจะ​ต้อง​สั่นคลอน​เป็นแน่แท้​”

“​เด็กหนุ่ม​ที่​กำลัง​ฮึกเหิม​และ​เปี่ยมล้น​ไป​ด้วย​พลัง​ ​การ​ที่​เขา​มี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​เช่นนี้​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ปกติ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ ​“​หาก​เขา​รู้จัก​แต่​การ​ยกยอปอปั้น​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​คงจะ​ต้อง​เป็นกังวล​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​แต่​คำพูด​ของ​เขา​ก็​ไม่ได้​ไร้​ซึ่ง​เหตุผล​ไป​เสีย​หมด​ ​ตอน​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​เดินทัพ​ออก​สำรวจ​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​ดูแล​เสบียงอาหาร​และ​หญ้า​เลี้ยง​ม้า​ ​เพราะ​เป็น​คน​นิสัย​สุขุม​ ​ดังนั้น​จึง​ได้​ดำรงตำแหน่ง​ผู้บัญชาการ​กองทัพ​ทหาร​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ ​จิ​่น​เกอ​บอกว่า​เขา​เป็น​คนขี้ขลาด​อ่อนแอ​ไม่​เด็ดขาด​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่เหมาะสม​ ​แต่​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มีเหตุผล​เลย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ที่​ภาคภูมิใจ​ ​เขา​ไม่ได้​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ตำรา​แต่​เลือก​ที่จะ​ใช้​ห้อง​ปลาย​สุด​ทิศตะวันออก​ ​สถานที่​ที่​สือ​อี​เหนียง​ใช้​อ่านหนังสือ​ตำรา​มา​เขียนจดหมาย​ตอบกลับ​จิ​่น​เกอ​แทน

สือ​อี​เหนียง​ช่วย​ฝน​หมึก​อยู่​ข้างๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​บอก​มุมมอง​ความคิด​ทาง​ด้าน​สงคราม​ของ​ตนเอง​ให้​จิ​่น​เกอ​ฟัง​ ​และ​ยัง​แนะนำ​ให้​จิ​่น​เกอ​ทำความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​สงคราม​ร้อย​ปี​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​อีกด้วย​ ​จากนั้น​ก็​พูดคุย​เกี่ยวกับ​เรื่อง​สงคราม​ ​ว่า​เหตุใด​บางครั้ง​ถึง​แพ้​สงคราม​ ​และ​เหตุใด​บางครั้ง​ถึง​ได้​ชนะสงคราม

แม้ว่า​จิ​่น​เกอ​ยังคง​เป็น​เหมือนเช่น​เมื่อก่อน​ ​ทุกๆ​ ​สิบ​วัน​ก็​จะ​เขียนจดหมาย​มาหา​สือ​อี​เหนียง​หนึ่ง​ฉบับ​ ​แต่​เวลา​ผ่าน​ไปราว​ยี่สิบ​กว่า​วัน​ ​เขา​ถึง​พึ่ง​จะ​ตอบกลับ​จดหมาย​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จิ​่น​เกอ​ได้​เขียน​แจกแจง​เกี่ยวกับ​สงคราม​ร้อย​ปี​ของ​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​หนึ่ง​รอบ​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​มุมมอง​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ ​จดหมาย​มีทั​้ง​หมด​สี่​สิบ​กว่า​หน้า​เห็นจะ​ได้​ ​ต้อง​แบ่ง​ใส่​ซองจดหมาย​อยู่​หลาย​ซอง

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็ได้​เขียนจดหมาย​บอก​มุมมอง​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​เช่นกัน

สอง​พ่อ​ลูก​เขียนจดหมาย​ส่ง​กัน​ไปมา​ ​พูดคุย​ถึง​เรื่อง​การ​ใช้​กองกำลัง​ทหาร​ ​เมื่อวันก่อน​เพิ่งจะ​ได้รับ​จดหมาย​หนึ่ง​ฉบับ​จาก​จิ​่น​เกอ​ ​วัน​ต่อมา​ก็ได้​รับ​อีก​หนึ่ง​ฉบับ​ ​เป็น​แบบนี้​อยู่​เป็นประจำ

คนใน​จวน​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​คุย​อะไร​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​รู้​เพียงแต่ว่า​จดหมาย​แต่ละ​ฉบับ​ที่​ส่ง​ไป​กลับ​นั้น​ห่าง​กัน​เพียง​สอง​ถึง​สาม​วัน​เท่านั้น​ ​จน​มี​คนพูด​ถึง​เรื่อง​นี้​ว่า​ ​“​ใช้​ม้าเร็ว​หกร้อย​ลี้​ส่ง​ไป​กลับ​เช่นนี้​ ​หมด​เงิน​ไป​เท่าไร​แล้ว​!​”

“​ไม่ได้​จ่าย​ด้วย​เงิน​ของ​เจ้า​เสียหน่อย​!​”​ ​มี​คนพูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หยอกล้อ​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่ได้​รู้สึก​เสียดาย​ ​แล้ว​เจ้า​จะ​ปวดใจ​แทน​ไป​ทำไม​กัน​ ​นี่แหละ​หนา​ที่​เขา​ว่า​กัน​ว่า​ ​‘​ฮ่องเต้​ไม่ได้​ร้อน​พระทัย​ ​แต่​ขันที​อกแตก​ตาย​ไป​เสียก่อน​’​”

ผู้คน​มากมาย​ต่าง​ก็​พากัน​หัวเราะ​เสียงดัง​ด้วย​ความตลกขบขัน

ผู้ดูแล​จ้าว​ของ​ฝ่าย​รายงาน​ได้​ตรง​เข้าไป​ขอ​เข้าพบ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​โดยที่​ไม่​ลังเล​แม้แต่​นิดเดียว

สือ​อี​เหนียง​พลัน​นึกถึง​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มาทัน​ที​…

นาง​จึง​รีบ​ตรง​ไป​ยัง​ห้อง​ตำรา​ด้วย​ความเร่ง​รีบ

ผู้ดูแล​จ้าว​คารวะ​นาง​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ถอย​ออกจาก​ห้อง​ตำรา​ทันที

“​เจ้า​อย่า​เป็นกังวล​ใจ​จน​เกินไป​!​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​ที่​สือ​อี​เหนียง​จะ​ได้​พูด​อะไร​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูดตัดบท​นาง​ก่อน​ ​“​ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​จิ​่น​เกอ​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​เดิน​เข้าใกล้​สือ​อี​เหนียง​พลาง​กระซิบ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เป็นเรื่อง​ของ​ฉัง​ซุ่น​”

“​ฉัง​ซุ่น​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หน้าซีด​ขึ้น​มาทัน​ใด​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ฉัง​ซุ่น​หรือ​เจ้า​คะ​”

ตอนที่​หลี​่​จี้​ได้รับ​หนังสือ​แจ้ง​การ​เลื่อนขั้น​เป็น​ผู้บัญชาการ​ที่​มณฑลฝู​เจี​้​ยน​ ​ได้​มี​คน​เอ่ยถึง​หลี​่​จง​บิดา​ของ​เขา​ว่า​หลี​่​จง​ได้รับ​โทษหนัก​หนา​สาหัส​จน​เกินไป​ ​ฮ่องเต้​ได้ยิน​แล้วก็​ทรง​พิโรธ​เป็นอย่างมาก​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​ช่วย​ออกหน้า​พูด​ ​เกรง​ว่า​ป่านนี้​หลี​่​จี้​ก็​ยัง​ไม่ได้​สวม​หมวก​ขุนนาง​เสียด​้วย​ซ้ำ

สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​สือ​อี​เหนียง​ไป​คุย​กันที่​ห้อง​หน​่​วน​เก๋อ​หลัง​ห้อง​ตำรา​ ​“​สกุล​หวัง​ส่ง​คน​มา​ ​ทาง​นั้น​อยาก​จะ​รับ​ตัว​ฉัง​ซุ่น​ไป​ที่​เขต​เหลียว​ตง​”

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ​ ​“​ตระกูล​ของ​เขา​ยัง​มี​คน​หลงเหลือ​อยู่​อีก​หรือ​ ​ซ้ำ​จะ​พาตัว​ฉัง​ซุ่น​กลับ​อีก​ ​เป็นการ​แอบอ้าง​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​ไม่ใช่​การแอบ​อ้าง​แต่อย่างใด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ ​“​เรื่อง​นี้​มี​เพียง​ข้า​กับ​คน​สกุล​หวัง​เท่านั้น​ที่​รู้​ ​คนที​่​จะ​มารับ​ตัว​ฉัง​ซุ่น​นั้น​ข้า​เอง​ก็​รู้จัก​ ​อีกทั้ง​ยัง​ได้​เอา​หลักฐาน​ของ​ปีนั​้​นมา​ยืนยัน​อีกด้วย​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ถึงแม้ว่า​หลาย​ปี​มานี​้​ข้า​จะ​ไม่ได้​ติดต่อ​กับ​คน​สกุล​หวัง​เลย​ ​แต่​ก็​ยัง​คอย​ติดตาม​ข่าวสาร​ของ​สกุล​หวัง​อยู่​เสมอ​ ​พวกเขา​ถูก​เนรเทศ​ไป​ยัง​เขต​เหลียว​ตง​ ​ท่าน​อา​ของ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ก็​เป็น​คนที​่​มี​ความสามารถ​คน​หนึ่ง​ ​อยู่​ที่นั่น​ยัง​ไม่​ถึง​สอง​ปีก​็​สามารถ​ตีสนิท​กับ​ทาง​เขต​การทหาร​ได้​แล้ว​ ​เข้าไป​ทำ​เหมือง​ไข่มุก​ที่​เขต​เหลียว​ตง​ ​ช่วย​คน​ของ​เขต​การทหาร​ขนย้าย​สินค้า​เถื่อน​ ​ไม่เพียงแต่​สามารถ​หาเงิน​ก้อน​ใหญ่​ได้​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​สามารถ​บุกเบิก​สังคม​แวดวง​ได้​อีกด้วย​ ​เพียงแต่​พวกเขา​รีบ​อพยพ​จาก​มณฑลฝู​เจี​้​ยน​ไป​ยัง​เขต​เหลียว​ตง​อย่างกะทันหัน​ ​จึง​ลำบาก​ตลอด​เส้นทาง​ ​หลังจากที่​ไป​ถึง​เขต​เหลียว​ตง​แล้วก็​เกิด​การ​ไม่​คุ้นชิน​กับ​สภาพ​ดินฟ้าอากาศ​ของ​ที่นั่น​ ​เด็ก​ๆ​ ​ก็​พากั​นล​้ม​ป่วย​จน​เสียชีวิต​ไป​หมด​ ​ตอนนี้​ฉัง​ซุ่น​เป็น​เพียง​ทายาท​เพียง​หนึ่งเดียว​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​เมื่อ​สกุล​หวัง​สามารถ​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​ได้​อย่างมั่นคง​แล้ว​ ​พวกเขา​อยาก​ที่จะ​รับ​ตัว​ฉัง​ซุ่น​หวนคืน​สู่​ต้นตระกูล​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ปกติ​”

“​หาก​สามารถ​กลับ​ไป​ได้​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​อยู่​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ ​“​ข้า​ก็​แค่​เป็นห่วง​ว่า​สกุล​หวัง​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​ที่​เขต​เหลียว​ตง​ได้​มั่นคง​แล้ว​หรือยัง​ ​ผู้คน​จะ​ยัง​หยิบยก​เรื่อง​ของ​สกุล​หวัง​ขึ้น​มา​พูดถึง​อีก​หรือไม่​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ควรจะ​ต้อง​รับประกัน​ความปลอดภัย​ของ​เขา​ให้​ได้​”

เด็กน้อย​ค่อยๆ​ ​เติบโต​ภายใต้​การ​เลี้ยงดู​ของ​นาง​ ​แล้ว​นาง​จะ​ไม่มีความรู้​สึก​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​!

“​เรื่อง​นี้​ข้า​เอง​ก็​ไม่​สามารถ​มั่นใจ​ได้​อย่างเต็มที่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ ​“​แต่​ข้า​คิด​ว่า​ในเมื่อ​ตอนนี้​สกุล​หวัง​ต้องการ​ที่จะ​รับ​ตัว​ฉัง​ซุ่น​กลับ​ไป​ ​ทาง​นั้น​ก็​คงจะ​ต้อง​สามารถ​รักษา​ความปลอดภัย​ของ​ฉัง​ซุ่น​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​มิเช่นนั้น​ ​หาก​ฉัง​ซุ่น​เป็น​อะไร​ขึ้น​มา​ ​สกุล​หวัง​ก็​คงจะ​สิ้น​สายเลือด​สืบสกุล​เป็นแน่แท้​”

สิ้น​สายเลือด​สืบสกุล​ถือเป็น​เรื่องใหญ่​มหันต์

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​จำเป็นต้อง​สร้าง​หลักฐาน​ขึ้น​มา​ใหม่​ ​จึง​อาศัย​ตอนที่​จะ​ส่ง​ของ​ให้​กับ​จิ​่น​เกอ​ ​แล้ว​ให้​คน​ของ​สกุล​หวัง​ที่จะ​รับ​ตัว​เด็ก​ติดตาม​ไป​ที่​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ด้วย​…

ตอน​เทศกาล​ฤดูหนาว​ก็​มี​ข่าว​ส่ง​มาจาก​ด่าน​หุบเขาจ​ยา​อวี​้​ ​ว่า​ฉัง​ซุ่น​ไม่​ชิน​กับ​สภาพ​ฟ้า​อากาศ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ล้ม​ป่วย​จน​เสียชีวิต​ลง​อย่างกะทันหัน

ถึงแม้ว่า​ปินจ​วี​๋​จะ​รู้​ต้นสายปลายเหตุ​ที่แท้​จริง​แล้ว​ ​แต่​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​เศร้า​เสียใจ

“​ไม่รู้​ว่า​โต​ขึ้น​แล้ว​จะ​จำ​บ่าว​ได้​อยู่​หรือไม่​”

“​จำได้​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กุมมือ​ของ​นาง​ไว้​ ​“​เจ้า​ดี​กับ​เขา​ขนาด​นั้น​ ​เขา​จะ​ต้อง​จำเจ​้า​ได้​อย่างแน่นอน​”

“​บ่าว​เอง​ก็​ไม่ได้​อยาก​จะ​ให้​เขา​จำ​บ่าว​ได้​เจ้าค่ะ​”​ ​ปินจ​วี​๋​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำตา​ที่​คลอ​เบ้า​ ​“​บ่าว​เพียงแต่​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ลำบาก​ ​ยากจน​ก็​มี​ข้อดี​ใน​ตัว​ของ​มัน​เอง​ ​ร่ำรวย​ก็​มี​ความเสี่ยง​ใน​ตัว​ของ​มัน​เอง​เช่นกัน​”

คำพูด​นี้​มีเหตุผล

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พยักหน้า​เบา​ๆ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท