ร้อยรักปักดวงใจ – ตอน 227 กระสับกระส่าย(กลาง)

ตอน 227 กระสับกระส่าย(กลาง)

วัด​ไท่ผู​รับ​ราชโองการ​ให้​ดูแล​ม้า​และ​อยู่​ภายใต้​อำนาจ​ของ​กรม​ทหาร​ ​เลี้ยง​ปศุสัตว์​และ​ม้า​อุปถัมภ์​ใน​กรม​หก​ที่​มณฑล​ซาน​ตง​และ​เหอ​หนาน​ ​หาก​มีทุ​่ง​หญ้า​ถูก​ถม​พื้นที่​กลายเป็น​พื้นที่เพาะปลูก​ด้วย​เหตุผล​ใดๆ​ ​ก็ตาม​ ​ก็​จะ​มี​กรม​ทหาร​รับผิดชอบ​ใน​การ​เก็บ​ค่าเช่า​ทุกปี​ ​ในกรณีที่​เกิด​ภัยพิบัติ​ก็​ให้​นำ​เงิน​ออกมา​เพื่อ​อุดหนุน​การ​ขาย​ม้า

ปีนี​้​หิมะ​ตกหนัก​ ​จี่​หนาน​ ​ตง​ชัง​ ​ไค​เฟิง​ ​เว​่ย​ฮุย​และ​มณฑล​อื่นๆ​ ​ได้รับ​ผลกระทบ​อย่างหนัก​ ​วัด​สี่​แห่ง​พากัน​ไป​ขอความช่วยเหลือ​ที่​เมืองหลวง​ ​บุตรชาย​คนเดียว​ของ​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​นาม​ว่า​เริ​่​นคุน​เป็น​อธิบดี​กรม​ขับเคลื่อน​ทางทหาร​ ​รับผิดชอบ​พิธีการ​ทางทหาร​ ​การประสานงาน​และ​การ​เลี้ยงสัตว์​ ​บรรดา​ขุนนาง​ต้อง​ไปมาหาสู่​กับ​เขา​ ​เป็น​ชายหนุ่ม​หน้าตา​ดีที​่​มีชื่อเสียง​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ ​ชื่นชอบ​บุรุษ​ด้วยกัน​ ​ไม่​เข้าใกล้​สตรี​ ​สถานที่​ต้อนรับ​เขา​ถูก​ย้าย​จาก​หอ​คณิกา​ไป​ยัง​หอ​เล็ก​ๆ​ ​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​ก็ได้​รู้จัก​กับ​หวัง​หลัง​แขกประจำ​โรง​เตี​๊​ยม​เล็ก​ๆ​…

“​ตั้งแต่​วันที่​สิบ​เดือน​สิบสอง​ตาม​ปฏิทิน​จันทรคติ​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​ทั้งสอง​คน​พากัน​ไป​ไหน​แล้ว​!​”​ ​โจวฮู​หยิน​พูด​พลาง​สังเกต​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง

“​ดังนั้น​หวัง​หลัง​จึง​ไม่ได้​อยู่​ที่​จวน​…​วันที่​สอง​ ​สือ​เหนียง​ย่อม​ไม่​สามารถ​กลับ​สกุล​เดิม​ได้​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​เมื่อ​นึกถึงฮู​หยิน​เจียง​กุ้ย​ที่​กลับ​เยี​่​ยน​จิง​กระ​ทัน​หัน​ ​“​…​หรือว่า​นี่​จะ​เป็น​เหตุผล​ที่นา​งก​ลับ​มายัง​เยี​่​ยน​จิง​”

โจวฮู​หยิน​ไม่ได้​ยิน​เสียงพูด​พึมพำ​ของ​นาง​ ​พูด​เตือน​นาง​ว่า​ ​“​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​อายุ​มากกว่า​ฝ่า​บาท​สิบ​ปี​ ​เมื่อ​ฮ่องเต้​ยัง​ทรงพระ​เยาว์​ ​พระองค์​เคย​ได้รับ​การ​ดูแล​จาก​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​ ​มี​เพียง​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​เท่านั้น​ที่​กล้า​ใช้​เหตุผล​ว่า​ไม่สบาย​เพื่อที่จะ​ได้​ไม่ต้อง​ไป​ถวายพระพร​ที่​พระตำหนัก​ฉือ​หนิง​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​

ต่อให้​คนรัก​ของ​หวัง​หลัง​จะ​ไม่ใช่​เริ​่​นคุน​ ​แต่​นอกจาก​คนใน​สกุล​หวัง​กับ​สือ​เหนียง​แล้ว​ ​ยัง​จะ​มี​ใคร​กล้า​ไป​ยุ่ง​กับ​เขา​อีก​…

เช่นนี้​ก็ดี​ ​ในเมื่อ​หวัง​หลัง​มี​คนรัก​แล้ว​ ​ความสนใจ​ที่​มีต​่อ​คนใน​จวน​ก็​จะ​น้อยลง​ ​สือ​เหนียง​ก็​จะ​ได้​อยู่​อย่างสงบ​สุข​ไป​อีก​หลาย​วัน

นาง​ถอนหายใจ​ยาว​ ​กว่า​จะ​ทานอาหาร​เย็น​จน​กลับมา​ถึง​จวน​ได้​ก็​รู้สึก​ว่า​เวลา​ช่าง​เนิ่นนาน​เหลือเกิน​ ​เมื่อมา​ถึง​เรือน​ก็​พบ​ว่าที่​ลาน​ยัง​มีแสง​ไฟ​สว่างไสว​และ​เสียงหัวเราะ

มีสาว​ใช้​น้อย​มารา​ยงา​นว​่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​กำลัง​สอน​คุณชาย​น้อย​ห้า​เตะ​ลูกขนไก่​อยู่​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​มอง​ดาว​ที่​เต็ม​ท้องฟ้า​ ​“​ในเวลานี้​น่ะ​หรือ​”

สาวใช้​น้อย​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​มาตั​้ง​แต่​ช่วง​บ่าย​แล้วก็​อยู่​ทานข้าว​เย็น​ที่นี่​เจ้าค่ะ​”

“​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​ไม่​กลับมา​อีก​หรือ​”​ ​นาง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ ​“​แล้ว​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​หรือยัง​”

สาวใช้​น้อย​ตอบ​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ยัง​ไม่​กลับมา​เจ้าค่ะ​ ​ส่วน​ท่าน​โหว​ออก​ไป​พร้อมกับ​ท่าน​จนถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่​กลับมา​เจ้าค่ะ​”

ขณะที่​พูด​สือ​อี​เหนียง​ก็​เข้าไป​ใน​ห้อง​แล้ว

“​เห็น​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​ง่ายๆ​ ​แค่นี้​เอง​…​”​ ​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ต่าง​ก็​อยู่​กัน​เต็ม​ห้อง​กำลัง​ห้อมล้อม​จุน​เกอ​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​จุน​เกอ​กำลัง​ถือ​ลูกขนไก่​ที่​สว่าง​สดใส​แล้ว​สาธิต​วิธีการ​เตะ​ลูกขนไก่​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่อยู่​ตรงหน้า​เขา​กลับ​ดู​เหม่อลอย​เล็กน้อย​ ​สายตา​มอง​ไปร​อบ​ๆ​

ทันใดนั้น​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เป็นประกาย​ ​“​ท่าน​แม่​!​”

เขา​ตะโกน​เสียงดัง​พลาง​วิ่ง​ไปหา​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​กอด​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​ถาม​แม่นม​ของ​จุน​เกอ​ว่า​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​รู้​หรือไม่​ว่า​คุณชาย​น้อย​สี่​อยู่​ที่นี่​”

แม่นม​รีบ​ย่อเข่า​คำนับ​แล้ว​พูด​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ว่า​ ​“​รู้​เจ้าค่ะ​ ​แม่นาง​เว​่ย​จื่อ​รู้เรื่อง​นี้​เจ้าค่ะ​”

จุน​เกอ​เดิน​เข้าไป​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​!​”

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​หน้าผาก​ของ​เขา​มี​เหงื่อ​จึง​เปลี่ยนไป​ลูบ​หลัง​เขา​แทน​ ​“​เหงื่อ​ออก​แล้ว​”

จุน​เกอ​ทำท่า​ทาง​กระฟัดกระเฟียด​ก่อน​จะ​สงบ​ลง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่ใช่​นะ​ขอรับ​!​”

สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไป​ที่​ห้อง​ด้านใน​ ​“​ดู​เจ้า​สิ​ ​เหงื่อ​ท่วม​ตัว​หมด​แล้ว​ ​เข้ามา​ดื่ม​ชาก​่อน​เถิด​”

จุน​เกอ​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​เดินตาม​สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน

มีสาว​ใช้​มาคอ​ยป​รน​นิ​บัติ​ชงชา​ ​และ​ยัง​มีบร​รดา​อี๋​เหนียง​เข้ามา​คารวะ​ ​บรรยากาศ​กำลัง​ครึกครื้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา​พอดี

เห็น​ว่า​ใน​ห้อง​ครึกครื้น​ ​จุน​เกอ​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ ​อีก​คน​หนึ่ง​นอน​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​มุม​ปาก​พลัน​ยกขึ้น​โดยไม่รู้ตัว

“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​กลับมา​เร็ว​นัก​!​”

ทุกคน​รีบ​ลุกขึ้น​ย่อเข่า​คำนับ

“​องค์​หญิง​อาน​เฉิง​ไม่​ชอบเสียง​ดัง​เอะอะโวยวาย​ ​พอ​เล่นไพ่​เสร็จ​ทุกคน​จึง​แยกย้าย​กัน​เจ้าค่ะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​แล้วไป​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ที่​ห้อง​ชำระ​ ​มี​เฉียว​เหลียน​ฝัง​เดินตาม​เข้าไป

ฉิน​อี๋​เหนียง​หลุบ​ตาลง​ ​ทำเป็น​มองไม่เห็น​ ​แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง

อนุ​ก็​เป็น​เพียง​สาวใช้​ที่​มี​ฐานะ​สูง​กว่า​สาวใช้​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ​ไม่มี​สิ่งใด​ให้​ต้อง​สนใจ

สือ​อี​เหนียง​สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ ​กำชับ​สาวใช้​ว่า​ ​“​เจ้า​ไปดู​สิว​่า​ไท่ฮู​หยิน​กลับมา​แล้ว​หรือยัง​”

สาวใช้​น้อย​ตอบรับ​แล้ว​รีบ​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​พูดคุย​กับ​จุน​เกอ​ ​“​พี่ชาย​ทั้ง​สาม​ไม่ได้​อยู่​กับ​เจ้า​หรือ​ ​พวกเขา​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​”

จุน​เกอ​ยู่​ปาก​ ​“​พวกเขา​ไม่ยอม​ให้​ข้า​ตาม​ไป​ ​ทำตัว​ลับ​ๆ​ ​ล่อ​ๆ​ ​ปิดประตู​แล้ว​คุย​กัน​อยู่​ใน​ห้อง​”

เด็กน้อย​มักจะ​ชอบ​เล่น​กับ​เด็ก​ที่​อายุ​มากกว่า​ตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ดังนั้น​เจ้า​จึง​มา​เล่น​กับ​เจี​้ย​เกอ​?​”

เขา​พยักหน้า​แล้ว​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​ว่า​ ​“​ข้า​บอก​ให้​น้อง​ห้า​เตะ​ลูกขนไก่​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่ยอม​ตั้งใจ​เรียน​”

บางที​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอาจ​จะ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​นี้

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​ได้ยิน​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ของ​ชายหนุ่ม​ ​“​เรียน​เตะ​ลูกขนไก่​ไป​ทำไม​ ​ทำไม​ไม่​ตั้งใจ​ท่อง​บทเรียน​ปฐม​ศึกษา​ ​รอ​เดือน​หนึ่ง​ผ่าน​ไป​เจ้า​ก็​ต้อง​ไป​เล่าเรียน​ที่​ห้องเรียน​ประจำ​สกุล​แล้ว​”

นาง​เงยหน้า​ ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​สวม​ชุด​ผ้าแพร​สีเขียว​เข้ม​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ชำระ​ ​ด้านหลัง​ยัง​มี​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ที่​ท่าทาง​นอบน้อม​ถ่อมตน

เด็ก​ก็​มีศักดิ์ศรี​ของ​ตัวเอง

สือ​อี​เหนียง​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​นี่​ก็​ดึก​มาก​แล้ว​ ​ทุกคน​แยกย้าย​กัน​ไป​ได้​แล้ว​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​มีเรื่อง​อยาก​จะ​พูด​กับ​จุน​เกอ​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​พูด​เช่นนี้​จึง​ได้​แต่​กลืน​คำพูด​ลง​ไป

สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ลาก​จุน​เกอ​มาตำ​หนิ​ ​จึง​ได้มา​ส่ง​จุน​เกอ​ที่​หน้า​ประตู​ด้วยตัวเอง

เมื่อ​กลับมา​ก็​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​เป็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

“​ก็ดี​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอน​ตัว​ผิง​หมอนอิง​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​“​ต่อให้​เป็น​คำฟ้อง​ร้องของ​ตุลาการ​ก็​ไม่ได้​มีผล​อะไร​มาก​ ​พรุ่งนี้​ข้า​ได้​เตรียมการ​ให้​คนเขียน​ฎีกา​ถวาย​ ​ยิ่ง​มี​คน​ฟ้องร้อง​ข้ามาก​เท่าไร​ ​ฮ่องเต้​ก็​จะ​ยิ่ง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​มากขึ้น​เท่านั้น​”

ประโยค​นี้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​เข้าใจ

ไม่มี​ฮ่องเต้​องค์​ไหน​ชอบ​ให้​ขุนนาง​ใหญ่​มารวม​ตัว​กัน​แบ่ง​พรรค​แบ่ง​พวก​ ​เรื่อง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​เล็ก​ไม่​ใหญ่​ ​ถ้า​มี​คน​มากมาย​เอาแต่​จับจ้อง​เรื่อง​นี้​ไม่ยอม​ปล่อย​ ​ฮ่องเต้​ก็​จะ​พิจารณา​ถึง​ความไม่ชอบมาพากล​ใน​เรื่อง​นี้

“​หรือว่า​สกุล​โอว​ไม่มี​การเคลื่อนไหว​อะไร​เลย​”​ ​นาง​พูด​พึมพำ​ ​“​โอกาสดี​ๆ​ ​เช่นนี้​ ​สกุล​โอว​จะ​ปล่อยไป​ได้​อย่างไร​ ​ถ้าหาก​ปล่อยไป​จริงๆ​…​เช่นนั้น​ก็​คงจะ​ดูถูก​สกุล​โอว​ไม่ได้​แล้ว​”

“​ไม่ใช่​ว่า​พวกเขา​ยอมแพ้​หรอก​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดเสี​ยง​เรียบ​ว่า​ ​“​เพียงแต่ว่า​ใน​เยี​่​ยน​จิง​เขา​ไม่ได้​มีอำนาจ​ชี้นิ้ว​สั่ง​ได้​เหมือน​ตอนที่​อยู่​ที่ฝู​เจี​้​ยน​”​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​อารมณ์​ไม่​ค่อย​ดี​จึง​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็น​อะไร​ ​เหนื่อย​หรือ​”

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​สือ​อี​เหนียง​ถึง​มี​การ​ตอบสนอง​ ​ที่แท้​เขา​กำลัง​ถาม​ตน​อยู่​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่เป็นอะไร​เจ้าค่ะ​ ​เพียงแต่ว่า​พวก​องค์​หญิง​มี​กฎ​มากมาย​ ​ไม่ได้​สบาย​เหมือน​ตอน​ไป​จวน​หย่ง​ชัง​โหว​”​ ​แล้ว​เล่าเรื่อง​ของ​หวัง​หลัง​ให้​เขา​ฟัง​ ​“​…​ไม่รู้​ว่า​ดี​หรือไม่​ดี​ ​มัน​จะ​เป็น​โชคดี​หรือ​โชคร้าย​กัน​แน่​”

“​เริ​่​นคุ​นกับ​หวัง​หลัง​อยู่​ด้วยกัน​แล้ว​?​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​แปลกใจ​มาก​ ​“​ทำไม​เริ​่​นคุน​ถึง​ได้​ชอบ​หวัง​หลัง​”

ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ ​ดูเหมือนว่า​เขา​จะ​ประเมินค่า​เริ​่​นคุน​สูง​กว่า​หวัง​หลัง​ ​เมื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​หวัง​หลัง​เคย​ไปมาหาสู่​กับ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​ก็​เข้าใจ​ดีที​่​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่​ชอบ​เขา

วันรุ่งขึ้น​นาง​พา​หู่​พั่ว​กลับ​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ ​ประการ​แรก​เพื่อนำ​เรื่องราว​มาบ​อก​แก่​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​สกุล​หลัว​จะ​ได้​ไม่เข้าใจ​สือ​เหนียง​ผิด​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​ประการ​ที่สอง​ก็​เพื่อ​ใช้​โอกาส​นี้​ไป​เยี่ยม​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​ดู​ว่านาง​เป็น​อย่างไรบ้าง

ทาง​ด้าน​อี๋​เหนียง​ห้า​เรียบร้อย​ดีทุ​กอย​่าง​ ​อี๋​เหนียง​หก​ดูแล​นาง​เป็น​อย่างดี​ ​ส่วน​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เมื่อ​รู้​ข่าว​แล้ว​กลับ​โกรธ​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่สน​ว่า​ตอนนี้​เป็น​เทศกาล​ตรุษจีน​ ​ให้​คุณนาย​ใหญ่​ไป​สกุล​หวัง​ทันที​ ​เรื่องราว​ไม่​สามารถ​ปกปิด​ได้​ ​สกุล​หวัง​รู้สึก​อับอาย​เป็นอย่างมาก​ ฮู​หยิน​เจียง​กุ้ย​ไม่เพียงแต่​มา​ขอโทษ​ด้วยตัวเอง​เท่านั้น​ ​สกุล​หวัง​ยัง​ส่ง​ผู้ดูแล​มาม​อบ​ของขวัญ​มูลค่า​หลาย​พัน​ตำลึง​อีกด้วย​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​ยัง​ไม่​หายโกรธ​ ​คุณนาย​ใหญ่​เกลี่ย​กล่อม​เขา​ ​“​แล้ว​จะ​ทำ​อย่างไร​ได้​เล่า​ ​หรือว่า​ท่าน​จะ​ไปรั​บสือ​เหนียง​กลับมา​?​”​ ​คำพูด​เพียง​ประโยค​เดียว​ทำให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​รู้สึก​ท้อแท้​ ​ทำได้​เพียง​เร่งเร้า​ให้​สกุล​หวัง​นำ​หวัง​หลัง​กับ​มา

เรื่อง​ที่​ควร​ถูก​วิพากษ์วิจารณ์​ไป​ทั่วทุก​ที่​อย่าง​เรื่อง​นี้​กลับ​ถูก​เรื่อง​บุตรนอกสมรส​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำให้​เงียบ​ไป​ ​ดั่ง​หิน​ก้อน​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ถูก​โยน​ลง​ใน​ทะเลสาบ​ ​แม้ว่า​จะ​มี​ระลอกคลื่น​ ​แต่​มัน​ก็​เป็น​เพียง​ระลอกคลื่น​ ​ไม่นาน​ก็​จะ​หาย​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​แต่​เรื่อง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ทวี​ความรุนแรง​มากขึ้น​ ​จาก​เรื่อง​เสื่อมเสีย​ศีลธรรม​ถูก​ลาก​ไป​จนถึง​เรื่อง​แอบ​ติดต่อ​กับ​ศัตรู​ ​จาก​การฟ้องร้อง​ของ​ตุลาการ​ใหญ่โต​ไป​จนถึง​การ​ตำหนิ​ของ​ขุนนาง​ด้วยกัน​เอง​ ​ส่วน​สกุล​สวีที​่​เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​พายุ​กลับ​มี​การ​ตอบสนอง​อย่าง​เนิ​่​บนาบ​ ​ตอบโต้​อย่าง​คลุมเครือ​ ​ทำ​อะไร​ซับซ้อน​วุ่นวาย​ ​สิ่ง​เดียว​ที่​น่าชื่นชม​ก็​คือ​บรรดา​พี่น้อง​ยัง​ปรองดอง​กัน​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ทะเลาะ​กับ​คนอื่นๆ​ ​มานับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน

ใน​ช่วง​ขณะนั้น​ทั้ง​ภายใน​และ​ภายนอก​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ต่าง​วิพากษ์วิจารณ์​กัน​อย่าง​ดุเดือด

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​รับ​ผลกระทบ​มาก​นัก​ ​นอกจาก​จะ​ไป​งานเลี้ยง​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​นาง​ก็​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ของ​ตัวเอง​กับ​ตง​ชิง​และ​ปินจ​วี​๋​ ​เย็บ​ปัก​เสื้อผ้า​ให้​กับ​เด็ก​ๆ​

ทุกวัน​ตอนบ่าย​จุน​เกอ​จะ​มา​เล่น​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​แต่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​เอาแต่​นั่ง​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ดู​นาง​ทำงาน​ปัก​ ​ไม่ยอม​ไป​เล่น​กับ​จุน​เกอ​ ​จุน​เกอ​อด​บ่น​กระเง้ากระงอด​ไม่ได้​ ​“​…​พี่ใหญ่​กระซิบ​กับ​พี่​สอง​ ​พวกเขา​ให้​พี่​สาม​ฟัง​แต่​ไม่​ให้​ข้า​ฟัง​”

สือ​อี​เหนียง​เห็น​เขา​เบะ​ปาก​ ​ท่าทาง​น้อยเนื้อต่ำใจ​เป็นอย่างมาก​ ​มองดู​สาวใช้​และ​ท่าน​ป้า​ท่าทาง​นอบน้อม​ถ่อมตน​ของ​เขา​ ​แล้ว​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่นั่ง​เล่น​นิ้ว​อยู่​ข้างๆ​ ​ตัวเอง​ไม่ยอม​ออกห่าง​แม้แต่​ก้าว​เดียว​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​เก็บ​เข็ม​กับ​ด้าย​ ​“​จุน​เกอ​สอน​ข้า​หน่อย​เถิด​ว่า​ลูกขนไก่​เตะ​อย่างไร​”

“​จริง​หรือ​ ​จริง​หรือ​ ​ท่าน​แม่​จะ​เรียน​เตะ​ลูกขนไก่​กับ​ข้า​หรือ​”​ ​จุน​เกอ​ดีใจ​มาก​ที่​ได้ยิน​เช่นนี้

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​กลัว​ว่า​คนอื่น​จะ​เห็น​ว่า​ไม่เหมาะสม​ ​จึง​เหลือ​ไว้​เพียง​ลี่ว​์​อวิ​๋​นกับ​หง​ซิ่ว​ ​แล้ว​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​เฝ้า​หน้า​ประตู​ ​เมื่อ​เปลี่ยน​ชุด​แล้วก็​ไป​เรียน​เตะ​ลูกขนไก่​กับ​จุน​เกอ

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ไม่มี​พรสวรรค์​ใน​เรื่อง​นี้​หรือว่า​เป็น​เพราะ​ไม่มี​กระ​จิตกระ​ใจ​จะ​เล่น​กับ​เด็ก​ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​เรียน​ไป​เรียน​มา​แต่​ก็​ไม่ได้​อะไร​ ​หาก​ไม่​เตะ​ลูกขนไก่​จน​กระเด็น​ ​ก็​เตะ​จน​หาย​ไป​ใน​อากาศ​ ​จุน​เกอ​ใจร้อน​จน​เหงื่อ​ท่วม​ตัว​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ขอ​เพียงแค่​ได้​อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ ​จะ​ทำ​อะไร​ก็ได้​ทั้งนั้น​ ​ยิ้ม​ตาหยี​ช่วย​นาง​เก็บ​ลูกขนไก่​ ​ท่าทาง​มีความสุข​เป็นอย่างมาก

“​ข้าว​่า​พวกเรา​มา​เล่น​กระโดด​ร้อย​เชือก​กัน​เถิด​!​”

กระโดด​ร้อย​เชือก​ก็​คือ​การกระโดดเชือก

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​มัน​ได้​ออกกำลังกาย​มากกว่า​การ​เตะ​ลูกขนไก่​ ​โดยเฉพาะ​เด็ก​ถั่วงอก​อย่าง​จุน​เกอ​ ​สามารถ​ใช้​วิธี​นี้​ค่อยๆ​ ​เพิ่ม​การเคลื่อนไหว​เพื่อที่จะ​ออกกำลังกาย​ได้​ตาม​เป้าหมาย​ ​อีก​อย่าง​การกระโดดเชือก​ไม่มี​เสียงดัง​เอะอะโวยวาย​ ​ไม่​เป็น​ที่​สะดุดตา​คน

นาง​พูด​พลาง​มอง​จุน​เกอ​ด้วย​ความคาดหวัง

จุน​เกอ​รีบ​ยืด​อก​ตอบรับ​ทันที​ ​“​ได้​สิ​ ​พวกเรา​มาก​ระ​โดด​ร้อย​เชือก​กัน​เถอะ​”

ในความเป็นจริง​เขา​รู้สึก​ว่าการ​กระโดด​เชือก​นั้น​เหนื่อย​มาก​ ​แต่​ท่าน​แม่​เงอะงะ​ ​เรียน​เตะ​ขนไก่​ไม่ได้​สักที​ ​จึง​อยาก​เปลี่ยน​มา​เล่น​กระโดด​เชือก​แทน​ ​เขา​ย่อม​ต้อง​เห็นแก่หน้า​นาง

สำหรับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​เล่น​อะไร​ก็ได้​ทั้งนั้น​ ​หาก​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่า​ดี​เขา​ก็​ว่า​ดี​ ​ปรบมือ​พลาง​พูดว่า​ ​“​กระโดด​ร้อย​เชือก​ ​กระโดด​ร้อย​เชือก​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​หัว​เขา​ ​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​เอา​เชือก​สีขาว​มาสาม​เส้น​ตาม​ความสูง​ของ​พวกเขา​ ​จากนั้น​ก็​ย้าย​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ใน​ห้องโถง​ออก​ไป​ให้​เหลือ​ที่ว่าง​ตรงกลาง​ ​ถือ​เชือก​คนละ​เส้น​กับ​จุน​เกอ​แล้ว​ลอง​กระโดด

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ถือ​เชือก​แล้ว​วิ่ง​ไป​วิ่ง​มา​อยู่​ข้างๆ​

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เรียก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​มาสิ​ ​ข้า​จะ​สอน​เจ้า​กระโดด​เชือก​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​แล้ว​รีบ​วิ่ง​เข้าไป​หา

สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​เขา​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ตัวเอง​ ​นับ​เลข​ ​“​หนึ่ง​ ​สอง​ ​สาม​”​ ​จากนั้น​ก็​แกว่ง​เชือก​กระโดด​ ​นับ​อีกครั้ง​ ​“​หนึ่ง​ ​สอง​ ​สาม​”​ ​แล้ว​แกว่ง​เชือก​กระโดด

ตอนแรก​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​ ​เมื่อ​กระโดด​ไป​สอง​สาม​ครั้ง​ก็​เริ่ม​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​รู้​ว่า​พอสื​ออี​เหนียง​นับ​สาม​ก็​ให้​กระโดด​ทันที​ ​เพราะ​อายุ​ยังน้อย​จึง​ทรงตัว​ไม่​ค่อย​ได้​ ​เซ​ไป​เซมา​เหมือน​ตุ๊กตาล้มลุก​ ​จุน​เกอ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​เห็น​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หันไป​มอง​จุน​เกอ​ ​ไม่ทัน​ได้​ระวัง​จึง​ไป​เหยียบ​เท้า​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ทัน​ตั้งตัว​จึง​ร้อง​ออกมา​ ​“​โอ๊ย​”​ ​เชือก​ไป​สะดุด​ที่​เท้า​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ทั้งสอง​จึง​ล้ม​ไป​กอง​ที่​พื้น​ด้วยกัน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท