ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 452

ตอนที่ 452

บทที่ 452 บัตรเชิญของคุณฉู่ล่ะ

“ไอ้คนนี้มันกินตะกละตะกลามมูมมามมาก สถานที่คฤหาสน์ฉู่แบบนี้ ยังกล้าปีนหน้าต่างแอบเข้ามาได้อีก”

สายตาทุกคนต่างจับจ้องไปทางหลี่เล่อและหลี่สื้อผิง

สีหน้าของหลี่เล่อไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังคงทำหน้าทำตาปกติเช่นเดิม

ส่วนทางหลี่สื้อผิงนั้นทำหน้าพอใจมาก ก่อนที่จะเข้ามาในงานนั้น เขายังคิดหาหนทางว่าจะทำยังไงดีที่จะกลายเป็นจุดเด่นในงานได้ ไม่คิดเลยว่าแค่เผลอประเดี๋ยว หลี่เล่อก็เป็นคนหยิบยื่นโอกาสครั้งนี้ให้ตรงหน้าเขาเอง

“เฉินเฟิงเป็นคนพาแกเข้ามาใช่ไหม?” สายตาหลี่สื้อผิงฉายแววตาร้ายกาจออกมา เขาไม่ได้มีความเคียดแค้นมากมายใหญ่หลวงกับหลี่เล่อ แต่สำหรับเฉินเฟิงแล้ว เขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่

“ฉันเป็นคนพาเข้ามาเอง”

เวลานั้นเอง เฉิงเฟิงได้แต่ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหา เพื่อมายืนขนาบด้านข้างหลี่เล่อ

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงกล้ายอมรับ สีหน้าของหลี่สื้อผิงยิ่งดีใจยกใหญ่ แต่ว่าต่อหน้าคนตั้งมากมายขนาดนี้ เขาก็ไม่สามารถแสดงสีหน้าที่ดีใจขนาดนี้ออกมาได้ ได้แต่ตอบกลับอย่างนิ่งเฉย “พวกแกรู้ไหมว่าที่นี่คือสถานที่อะไร?”

“รู้สิ ที่นี่ก็คือคฤหาสน์ฉู่” เฉินเฟิงอ้าปากตอบอย่างเรียบเฉย

“รู้ว่าที่นี่คือคฤหาสน์ฉู่แล้วพวกแกยังกล้าแอบปีนหน้าต่างเข้ามาอีกเหรอ พวกแกนี่มันบ้าเลือดมาก แต่มันกล้าเกินไปหน่อยแล้ว” หลี่สื้อผิงหัวเราะเย็นชาให้ครั้งหนึ่ง ในเวลานั้นเอง เขาก็พอจะรู้ว่าเพราะเหตุใดเฉินเฟิงถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ ก็คงเป็นเพราะว่าเมื่อเช้าได้ยินที่เขาพูดที่บริษัทว่าที่ไปงานเลี้ยงวันเกิดของฉู่ชีงฉือ จากนั้นก็เกิดอาการอิจฉาตาร้อน ดังนั้นเลยหาวิธีการในการเข้ามาในงานให้เห็นกับตา

แต่ว่าช่างน่าเสียดาย ที่นี่มันคือคฤหาสน์ฉู่!

คนที่จัดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ คือตระกูลฉู่!

แอบเข้ามาในงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลฉู่ มันก็เหมือนรนหาที่ตายทั้งนั้น!

“ใครบอกว่าพวกเราแอบปีนหน้าต่างเข้ามาล่ะ?” เฉินเฟิงได้แค่ยิ้มให้เล็กน้อย “พวกเราก็เดินเข้ามาในงานอย่างเปิดเผยนี่แหละ”

“มาอย่างเปิดเผย?” หลี่สื้อผิงหัวเราะกลบ “เฉินเฟิง แกคิดว่าทุกคนโง่เหรอ?”

“คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณฉู่ คนที่มีบัตรเชิญของตระกูลฉู่เท่านั้นถึงจะมีสิทธิเข้ามาในงานได้ ส่วนแกกับหลี่เล่อ ดันไม่มีบัตรเชิญของตระกูลฉู่!”

“ไม่ทราบว่า พวกคุณสองคน เดินเข้ามาในงานอย่างเปิดเผยได้อย่างไร?!” หลี่สื้อผิงทำหน้าเหมือนเอ่ยตอนปากถามราวกับเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ตนเองเป็นตัวเอกของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้

ภาพนั้น หวางซือหยวนที่ยืนอยู่ข้างตัวดวงตาประกายระยิบระยับ ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน ในใจรู้สึกไม่เสียดายผู้ชายที่เธอเป็นคนเลือกเอง ถึงแม้ว่าจะเกิดในครอบครัวธรรมดา แต่ว่าในงานเลี้ยงเช่นนี้ กลับกลายเป็นตัวหลักให้ใครๆ ได้พบเห็น

“ใครบอกแก ว่างานเลี้ยงวันเกิดของคุณฉู่ ต้องเป็นคนที่มีบัตรเชิญของตระกูลฉู่เพียงเท่านั้นถึงมีสิทธิเข้ามาในงานได้?” มุมปากเฉินเฟิงแสยะยิ้มอย่างหยอกล้อ เขาเองก็ไม่อยากจะคาดโทษอะไรกับหลี่สื้อผิงมากนัก แต่ทุกครั้งหลี่สื้อผิงชอบสร้างเรื่องทุเรศๆ ออกมาตอกใส่หน้าเขา เพื่อให้เขาอับอาย เขาก็ยากลำบากใจอยู่เหมือนกัน…

“แกหมายความว่ายังไง?” หลี่สื้อผิงขมวดคิ้วเข้าหากัน ฟังคำพูดของเฉินเฟิงแล้ว ว่างานเลี้ยงวันเกิดของฉู่ชีงฉือ นอกจากบัตรเชิญของตระกูลฉู่แล้ว ยังมีวิธีอื่นที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ได้อีกเหรอ?

“ไม่มีความหมายอื่นนี่ ฉันจะบอกแกให้นะ งานเลี้ยงวันเกิดของคุณฉู่ นอกจากบัตรเชิญของตระกูลฉู่แล้ว คือการที่คุณฉู่เป็นคนเชื้อเชิญด้วยตนเอง”

การที่คุณฉู่เป็นคนเชื้อเชิญด้วยตนเอง?!

สีหน้าหลี่สื้อผิงประหลาดใจทันที ไอ้ไร้ประโยชน์คนนี้ น้ำเข้าสมองหรือไงกัน?

การที่คุณฉู่เป็นคนเชื้อเชิญด้วยตนเอง คำพูดนี้ มันก็พูดออกมาจากปากได้อีกนะ?

ไม่เพียงแต่หลี่สื้อผิง แขกเหรื่อที่อยู่ในงาน ต่างทำหน้าสงสัยกันเป็นแถว

“คุณฉู่เป็นคนเชื้อเชิญด้วยตนเองเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย?”

“ฉันก็ไม่เคยได้ยิน ฉันรู้สึกว่าเขากำลังพูดโม้ไปเรื่อย”

“เขาต้องพูดโม้ไปเรื่อย ทุกคนในเวลานั้น ต่างเป็นคนที่ได้รับบัตรเชิญจากทางตระกูลฉู่เข้ามาในงานทั้งนั้น ไม่มีใครสักคนที่คุณฉู่เป็นคนเชิญเข้ามาในงานเอง”

“พวกเขาต้องแอบปีนหน้าต่างเข้ามาแน่”

“นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าคุณฉู่จะเชิญมางานเองก็ตาม ทุกคนต่างรู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรใช่ไหม?” เริ่มมีน้ำเสียงดูถูกขึ้นมา

การแต่งกายของเฉินเฟิงกับหลี่เล่อนั้น ก็เหมือนกับเสื้อผ้าตามตลาดนัด พูดให้เสียหายหน่อยก็คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของทั้งสองคนเมื่อเอามารวมกัน ยังเทียบไม่ได้กับกางเกงชั้นในของใครสักคนในที่นี้เลย คนพรรค์นี้ จะมีคุณสมบัติอะไรที่ให้ฉู่ชีงฉือไปเชิญเข้ามา?

“ไม่คู่ควรแน่ๆ!”

“สองคนนี้มันก็ไอ้ขี้แพ้ทั้งคู่ ไม่รู้ว่าไปได้ยินข่าวมาจากไหนว่าคุณฉู่จะจัดงานเลี้ยง เลยแอบอาศัยจังหวะเข้ามาในงานเพื่อให้เห็นกับตา”

“ฉันรู้สึกว่าเขาสองคนคงไม่ได้เข้ามาในงานเพื่อจะดูงานให้เห็นกับตาหรอก เขาสองคนคงเข้ามาหาอะไรกิน ฮ่าๆๆ เมื่อครู่พวกคุณคงมองไม่ทัน ว่าพวกเขาหิวแล้วกินอาหารแบบนั้น”

บรรดาชนชั้นไฮโซหลายคนที่กำลังยืนอยู่ต่างหัวเราะถากถางกันยกใหญ่ ความจริงแล้วก่อนที่หลี่สื้อผิงจะเริ่มหาเรื่องนั้น พวกเธอก็ได้มองมาที่เฉินเฟิงกับหลี่เล่อแล้ว สำหรับคนอื่นๆ อยู่ในงานนั้น พฤติกรรมของสองคนนั้นมันช่างโดดเด่นเหลือเกิน จนทำให้ผู้คนไม่สนใจนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากแล้ว

คนอื่นๆ เข้ามาที่นี่เพื่อคุยธุรกิจ เพื่อหาเส้นสายในธุรกิจ ส่วนเฉินเฟิงกับหลี่เล่อนั้น มาหาของหิน เหมือนว่าเมื่อเห็นอะไรสักอย่างก็ยัดใส่ปากไปหมด

เมื่อเห็นว่าตนเองทำให้เฉินเฟิงและหลี่เล่อกลายเป็นจุดสนใจในงานได้ หลี่สื้อผิงรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

ยามเมื่อเขาย่างเท้าเข้ามาในงาน ก็ตกเป็นเป้าสายตาให้แก่ผู้คนที่ยืนอยู่ “ไม่ปิดบังทุกคนเลยแล้วกัน สองคนนี้ ความจริงแล้วฉันรู้จัก เขา ชื่อว่าเฉินเฟิง ฐานะเขาก่อนหน้านี้ ก็คือลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน ส่วนเขา ชื่อหลี่เล่อ ตอนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป แต่ว่าเป็นแค่พนักงานต๊อกต๋อยธรรมดา”

“ที่พูดมาตั้งนานขนาดนี้ ก็แค่อยากจะบอกให้ทุกคนรู้ว่า สองคนนี้ ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องคุณฉู่ได้ พวกเขาก็ไม่มีบัตรเชิญของตระกูลฉู่อีกด้วย!”

“พวกมัน ก็แค่แอบอาศัยจังหวะปะปนเข้ามา!” หลี่สื้อผิงชี้ไปที่เฉินเฟิง ท่าทางคาดโทษ

หลังจากที่หลี่สื้อผิงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเฉินเฟิงและหลี่เล่อแล้ว แขกเหรื่อที่นั่งมองในงานอยู่ไม่น้อยต่างลุกขึ้นยืนมองทันที

“ที่แท้ก็เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเหรอเนี่ย?!”

“ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงยังกล้าหน้าด้านเข้ามาที่แบบนี้อีก! ใครช่างให้ความกล้าแบบนี้กับแกได้นะ?

“รีบไล่เขาออกไปซะ”

“ใช่ ไสหัวเขาออกไป!’ งานเลี้ยงวันเกิดของคุณฉู่ ให้ไอ้ผู้ชายที่แต่งเข้าบ้านเข้ามาในงาน มันทำให้คุณฉู่เสียชื่อเสียง!”

“ฮ่าๆๆ ไอ้ไร้ประโยชน์ ได้ยินยัง? มีหลายสถานที่ ที่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเข้ามาไม่ได้ พอมีคนรู้เรื่องเข้าแล้ว ก็ถูกไล่ตะเพิดออกไป” หลี่สื้อผิงในเวลานี้ทำหน้าพอใจมาก ทำหน้าเหมือนตัวร้ายที่ได้ใจเช่นนั้น

ในเวลานั้นเอง เฉินเฟิงกับหลี่เล่อได้แต่หัวเราะเยาะเย้ยแทน ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ไม่นานนัก ความอึกทึกครึกโครมทางนี้ก็เรียกความสนใจให้กับพนักงานที่กำลังบริการในห้องโถงอยู่ จากนั้นก็มีบรรดาบอดี้การ์ดตีหน้าตายเดินเข้ามาหา มาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินเฟิงและหลี่เล่อ

“คุณครับ กรุณาโชว์บัตรเชิญของพวกคุณด้วย”

“พวกเขาไม่มีบัตรเชิญ” เฉินเฟิงกับหลี่เล่อไม่ทันได้ตอบ หลี่สื้อผิงก็ตอบอย่างสนุกปากให้แทน

ส่วนหัวหน้าบอดี้การ์ดนั้นไม่ได้สนใจหลี่สื้อผิง แต่เบนสายตาไปที่เฉินเฟิงแทน

“เราไม่มีบัตรเชิญ” เฉินเฟิงเอ่ยปากพูดอย่างนิ่งๆ

“ไม่มีบัตรเชิญเหรอ?” หัวหน้าบอดี้การ์ดหน้าเย็นเฉียบทันที “งั้นพวกคุณเข้ามาในงานได้อย่างไรกัน?”

“พ่อบ้านโจว” เฉินเฟิงพูดชื่อออกไป หัวหน้าบอดี้การ์ดตกตะลึงทันที

“พ่อบ้านโจวเป็นคนพาพวกเราเข้ามา” เมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดทำเหมือนว่าไม่เข้าใจความหมายของเฉินเฟิง หลี่เล่อเลยพูดเพิ่มให้

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท